ความคิดเห็นที่ 1 เรื่องแบบนี้มันขึ้นอยู่กับสถานการณ์ค่ะ อย่าเข้าข้างกันเองมากเกินไปค่ะ คนที่อยู่้ในสถานการณ์นั้นเอง เข้าใจดีที่สุดค่ะ กระทู้นู้นเค้าจบไปแ้ล้วนะคะ จากคุณ : แม่นิ เขียนเมื่อ : 28 มิ.ย. 55 22:54:38 A:171.99.248.48 X: TicketID:313907

ความคิดเห็นที่ 2 เห็นด้วยว่างานพยาบาลนั้นหนัก เหนื่อย และต้องใจเย็น ละเอียดละออมากๆ เงินเดือนที่คุณพยาบาลได้รับ (โดยเฉพาะในสังกัดกระทรวงสาธารณสุข) มันไม่ได้เสี้ยวภาระงานที่แบกอยู่เลย เป็นกำลังใจให้ค่ะ จากคุณ : Bubbaloo เขียนเมื่อ : 28 มิ.ย. 55 22:58:38

ความคิดเห็นที่ 3 คห 1ไม่ได้เข้าข้างค่ะ ปกติถ้ามีคนไข้มาตำหนิจะเข้าข้างคนไข้ด้วยซ้ำ ว่าทำไมพยาบาลเราไม่ทำโน่นนี่นั่นให้ แต่ได้อ่านจากกระืทู้โน้น แล้ว จขกท โน้นก็บอกว่้า ติดใจในคำพูดของ เธอตรงที่ว่า นัดหมอไว้หรือเปล่าคะ  และ พบคุณหมอ XX ดีกว่านะคะ จะได้ไม่ต้องรอนาน อันนี้ ได้ชี้แจ้ง ระบบการทำงานของ รพ คร่าวๆไปแล้วว่าทำไมถึงถามแบบนั้น และที่ได้อ่านเรื่องที่เค้าจบกันไปแล้วก็จริง  แต่ดิฉันว่า คนที่เป็นแพะ ความรู้สึกยังไม่จบ คนโดนกระทำไม่ได้ลืมง่ายๆหรอกค่ะ   เลยอยากจะตั้งกระทู้ให้กำลังใจเธอ  แค่นั้นเองค่ะ จากคุณ : สบายดีไหม เขียนเมื่อ : 28 มิ.ย. 55 23:03:53

ความคิดเห็นที่ 4 2  ใช่ค่ะ งานหนักจริง เหนื่อยจริง พ่อ แม่ก็ไม่ใช่เรายังมาดูแล บางทีเรายังคิดนะคะ ว่า ชั้นมาทำอะไร อยู่เนี่ย จากคุณ : สบายดีไหม เขียนเมื่อ : 28 มิ.ย. 55 23:05:08

ความคิดเห็นที่ 5 เป็นกำลังใจพยาบาทท่านนี้ค่ะ จริงๆ เธอไม่ควรต้องตกงานเพราะเรื่องแบบนี้ ยิ่งถ้ากลับไปทำงานไม่ได้ใน หลาย รพ แบบนี้ ขอแนะนำให้ช่วงนี้ ไปบวชล้างซวยซะนะค่ะ อยู่ดีๆ ก็ต้องมาเจอเรื่องแบบนี้ ลูกค้า รพ แพงๆ บางคน นึกว่าตัวเองเป็นพระเจ้า นี่ก็ไม่เอา นั่นก็ไม่เอา แถมบางคนทำตัวรู้ดีกว่าหมอ ทำใจค่ะ ทำงาน รพ เอกชนต้องทำใจค่ะ จากคุณ : DutchEngel เขียนเมื่อ : 28 มิ.ย. 55 23:05:31

ความคิดเห็นที่ 6 ขอให้กำลังใจพยาบาลทุกคนนะคะ เราเคยเจอแต่พยาบาลที่ดีมากๆทุกโรงพยาบาลที่ไป ตอนคลอดยังเคยคุยกะสามีเลยว่าถ้าชั้นทำงานกะละ12ชั่วโมงแบบนั้นแค่ชั่วโมงที่8ชั้นไม่วีนแหลกก็ซอมบี้ไปแล้ว นี่ยังพูดคุยร่าเริง กดเรียกก็รีบมา ไม่มีใครชักสีหน้าใส่เราเลย จากคุณ : earth after rain เขียนเมื่อ : 28 มิ.ย. 55 23:49:04

ความคิดเห็นที่ 7 ผมเป็นกำลังใจให้ด้วยคนครับ บางทีคนไข้บางคนก็ทำตัวเกินไปครับ จากคุณ : จ่าโหดปืนห่าม เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 55 00:17:19

ความคิดเห็นที่ 8 เคยเห็นการทำงานของพยาบาล เข้าใจว่าอาชีพนี้หนักและเหนื่อยเมื่อเทียบกับค่าตอบแทน แต่ก็ขอบคุณที่พวกคุณยังยืนอยู่ได้ เป็นกำลังใจให้ค่ะ ขอให้เจอสิ่งดีๆ จากคุณ : The smiling moon เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 55 00:48:26

ความคิดเห็นที่ 9 เป็นกำลังใจด้วยคนนะคะ...ถึงดิฉันจะไม่ได้ทำงานเป็นพยาบาล แต่ก็ทำงาน"พยาบาล"คนชราค่ะ งานด้านนี้ ทั้งเหนื่อย ทั้งหนัก ทั้งเครียดค่ะ ดิฉันทำงานที่ต่างประเทศ ซึ่งงานที่นี่ทำแค่อาทิตย์ละ 37 ชั่วโมง (งานหลวงพักกลางวันหลวงจ่ายเงินให้ค่ะ) แต่ดิฉันว่ามันหนักเกินเลยขอทำงานแค่อาทิตย์ละ 35 ชั่วโมง วันไหนต้องทำงานยาวถึง 8 ชั่วโมง ดิฉันยังรู้สึกว่าร่างกายมันล้ามากๆเลยค่ะ เพราะงานที่ทำคืองานดูแลคนป่วยพร้อมๆกับงานบริการไปด้วยในตัว ไม่พอใจใครมา อารมณ์ไม่ดีมา ก็ต้องยิ้มแย้มค่ะ งานที่ต้องดูแลสุขภาพจิตคนป่วย สุขภาพจิตเราต้องแข็งแรงพอค่ะ นอกจากเป็นกำลังใจให้ผู้ป่วยแล้ว บางครั้งยังต้องสร้างกำลังใจให้บรรดาญาติๆอีก แต่งานพยาบาลที่ต่างประเทศให้ค่าตอบแทนดีมากๆค่ะ โดยเฉพาะค่าล่วงเวลา แต่ถ้าทำงานควงกะไปหลายๆปี ร่างกายโทรมค่ะ และเสี่ยงต่อโรค โดยเฉพาะมะเร็งเต้านม แก้ไขคำสะกดผิดค่ะ แก้ไขเมื่อ 29 มิ.ย. 55 02:38:41 แก้ไขเมื่อ 29 มิ.ย. 55 02:35:40 จากคุณ : sunisaogkim เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 55 02:02:18

ความคิดเห็นที่ 10 ไม่ใช่เพื่อนร่วมวิชาชีพค่ะ แต่อยากให้กำลังใจด้วยคน คนเราไม่สามารถทำให้ทุกคนรัก และพอใจได้ทุกคนหรอกค่ะ อย่าไปคิดมากกับคนที่ไม่เห็นคุณค่าของเรา เพราะยังมีอีกตั้งหลายคน ที่เค้ารักและเห็นคุณค่าของเราอยู่โดยเฉพาะครอบครัว อยากให้พยาบาลท่านนั้นเข้มแข็ง และผ่านวิกฤตตรงนี้ไปให้ได้นะคะ จากคุณ : Lovely_Win เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 55 02:19:44

ความคิดเห็นที่ 11 สรุปแล้วตอนนี้พยาบาลคนนั้นลาออกจากรพ.ไปแล้วเหรอคะ  น่าเห็นใจจริงๆเลยค่ะ เจ้าตัวมีชีวิตเหมือนตายทั้งเป็นคนที่มาตั้งกระทู้บิดเบือนกล่าวหาสมควรได้รับการถูกฟ้องร้องทางกฏหมายกลับซะจริง  ไม่อยากให้เรื่องปล่อยไปกับสายลม ไม่อยากให้คิดว่าแค่ขอโทษแล้วจบกันไป เวรกรรมก็คือเวรกรรม กรรมเกิดจากการกระทำ  ผลของกรรมก็คือผลของการกระทำ กรรมดีก็ได้รับผลดี กรรมเลวก็ต้องรับผลที่ทำ   จะได้หลาบจำไม่ตั้งกระทู้ใส่ความใส่ร้ายคนอื่นอีก เลวได้โล่ห์จริงๆ ขอให้กำลังใจคุณพยาบาลนะคะ  ใจอยากให้ผู้ที่มีอำนาจตัดสินใจพิจารณาเห็นว่าไม่ควรให้ลาออกค่ะ แก้ไขเมื่อ 29 มิ.ย. 55 06:33:25 จากคุณ : แม่อยู่ไกล (แม่อยู่ไกล) เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 55 06:29:48

ความคิดเห็นที่ 12 เห็นใจคุณพยาบาลที่โดนเอาชื่อมาลงในบอร์ดสาธารณะ ในเคสนี้ ถ้าพูดในแง่การให้บริการอย่างเดียว จะว่าคุณพยาบาลไม่ผิดเลยก็ไม่ได้นะคะ ถึงจะไม่รุนแรงถึงขนาดทำให้ลูกเค้าเกือบตายก็ตาม การประเมินอาการของคนไข้สำคัญมากนะคะ โดยเฉพาะเด็กเล็กๆอาการเปลี่ยนแปลงเร็วมาก คุณแม่ตัดสินใจผิดพลาด ไม่ยอมให้น้องแอดมิทแต่แรก จะรอพบหมอประจำ (ซึ่งเท่าที่อ่านคุณหมอ ER ก็บอกยังพอรอได้) แต่พออาการน้องวิกฤติ ขณะรอที่ OPD ตอนนั้นคุณแม่ก็บอกกับพยาบาลว่าขอพบหมอท่านใดก็ได้ ถึงยุ่งขนาดไหน เมื่อคนไข้บอกพบหมอท่านใดก็ได้แล้ว เป็นเราคงเสียสละเวลาซักนาทีหันไปดูอาการคนไข้สักนิด... แต่คุณพยาบาลบอกว่า "คุณแม่รอเจอหมอสุธีราดีกว่าค่ะ จะได้ไม่ต้องพามา รพ. บ่อยๆ" ณ จุดนั้น เราว่าไม่โอเคอะค่ะ --------------------------- คุณพยาบาลอีกคนมาเห็นอาการน้องแย่ลง เลยให้เข้าพบคุณหมออีกท่าน แล้วแอดมิททันทีนะคะ อันนี้น่าชื่นชมค่ะ -------------------------- เรื่องนี้คุณพยาบาลยังไงก็ควรปรับปรุงตัวเองอยู่ดี แต่ก็ไม่ควรโดนเอาชื่อมาประจานแบบนี้ จากคุณ : BringingHomeABabyBumbleBee เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 55 06:35:42

ความคิดเห็นที่ 13 เป็นกำลังใจให้คุณพยาบาลคนนั้นค่ะ จากคุณ : Ms...plum เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 55 06:39:55

ความคิดเห็นที่ 14 มาให้กำลังใจเพื่อนร่วมวิชาชีพ คะ อดและ ทน ดิฉัน เป็นอีกคนที่ ลาออกจากอาชีพ พยาบาล ก็ด้วยเรื่องแบบนี้แหละ ได้พบเห็นเลยเบื่อ  แต่ยังคิดถึงอยู่เสมอ เคยสอนน้องๆอยุ่เสมอ ว่าให้พูดอธิบายให้คนไข้เข้าใจ อย่าปล่อยให้เข้าใจไปเอง  นึกถึงคนไข้ ก่อนให้เข้าใจ อารมณ์ คนป่วยและญาติ แต่ก็นั่นแหละคะ เหมือนแก้ตัว ลาออกดีกว่า คิดถึงวิชาชีพนี้อยุ่เสมอ จากคุณ : pallavi เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 55 06:41:59

ความคิดเห็นที่ 15 ถ้าคุณพยาบาลท่านนั้นมาอ่าน หรือมีคนรู้จักมาอ่าน ขอแนะนำให้เปลี่ยนชื่อค่ะ (จากใจจริง มิได้ประชด) เพราะเชื่อว่า หลายๆสายตาที่อ่านกระทู้เหล่านี้ คงจำชื่อคุณพยาบาลได้แน่ๆ ถ้าเกิดไป รพ แล้วอ่านเจอชื่อนี้ คงอดคิดสงสัยไม่ได้ว่า ใช่คนในกระทู้หรือไม่ เธอคงอึดอัดใจมาก บางคำพูด เนื้อหาไม่มีอะไร แต่น้ำเสียงกระทบความรู้สึกมากกว่า ยิ่งสำหรับคนร้อนใจ ยิ่งกระทบง่าย เป็นคนหนึ่งที่ใช้บริการ รพ เอกชน แทบทุกเดือน เพราะมีทั้งผู้เฒ่าและเด็กในบ้าน ส่วนใหญ่คุณพยาบาลจะบริการดีมาก มีบ้างที่ล่าช้า อาจจะด้วยระบบ ความเข้าใจผิด หรืออะไรก็ตาม เราจะสอบถามกับพยาบาลโดยตรงเลยเพื่อความชัดเจน ยอมรับว่ามีหงุดหงิดบ้างบางครั้ง แต่พยาบาลก็คน แล้วคนไข้บางคนก็เรื่องเยอะจริงๆ เราเป็นผู้รับบริการเหมือนกันยังรู้สึกว่า จะอะไรขนาดนั้น แต่ด้วยหน้าที่ คงต้องอดทนกว่าปกติหน่อย เป็นกำลังใจให้คุณพยาบาลค่ะ เราเชื่อว่า เธอคงเสียใจกับเหตุการณ์นี้และปรับปรุงวิธีทำงานแน่ ให้โอกาสเธอได้ทำงานในวิชาชีพที่เธอเลือกด้วยความสบายใจด้วย อย่าถึงกับตัดอนาคต ทำลายอาชีพกันเลย จากคุณ : Green Lime เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 55 07:59:32

ความคิดเห็นที่ 16 เป็นกำลังใจให้คุณพยาบาลคนนั้นนะคะ ทุกวิชาชีพ ก็พยายามทำหน้าที่ของตัวเองดีที่สุดแหละ.. เป็นกำลังใจให้นะคะ.. จากคุณ : yamplu เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 55 08:02:32

ความคิดเห็นที่ 17 เป็นกำลังใจให้ค่ะ สู้ๆ นะคะ จากคุณ : oheh_gal เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 55 08:19:46

ความคิดเห็นที่ 18 เข้าใจสถานการณ์ทั้งสองฝ่ายคะ เป็นอีกคนหนึ่งที่อยู่ในวิชาชีพอาจจะไม่ใช่วิชาชีพเดียวกันคะ เคยเจอทั้งพยาบาลที่พูดจาดีและพูดจาไม่ดี บางทีมองในมุมมองคนไข้ เค้าไม่สบาย ร้อนใจ พฤติกรรมบางอย่างอาจดูเหมือนเรื่องเยอะ แต่ถ้ามองกลับกันเป็นตัวเราอาจมีคำถามหรือคำพูดที่งี่เง่ามาบ้างก็ได้ ถ้าณ ตอนนั้นคนที่ไม่สบายคือลูกเรา การประกอบวิชาชีพก็เหมือนงานบริการแหละคะ โอเคไม่ใช่พ่อไม่ใช่แม่แต่ต้องมาดูแล แต่นั่นใช่สิ่งที่คุณปฎิญาณกับตนเองก่อนมาทำอาชีพนี้ไม่ใช่หรอคะ หรือเป็นเพียงเลือกอาชีพนี้เพียงเพราะไม่ตกงานหางานง่าย ลองมองย้อนกลับไปบ้าง เลือกที่จะมาทำก็อาจต้องเสียสละหลายๆอย่าง และเชื่อว่าก่อนมาทำงานคงทราบดีอยู่แล้วว่างานของคุณคือดูแลคนไข้ให้ดีที่สุด (ลองกลับไปดูคำปฎิญาณกันดูนะคะ เชื่อว่าทุกวิชาชีพต้องมี) ส่วนตัวเห็นใจพยาบาลรพ.รัฐบาลคะ คนไข้เยอะ แอร์ไม่มี นั่งหน้ามัน ต้องมาตอบคำถามเดิมๆ แต่เอกชนนี่คงสบายกว่า และเชื่อว่าที่เลือกมาทำเอกชนกันก็คงเป็นเพราะเรื่องเงินด้วย ก็คงต้องแลกมาบ้าง ก็คงไม่แปลก และถึงคุณพยาบาลคนนั้นไม่สามารถทำเอกชนก็ยังมีรพ.รัฐ มากมายที่มีคนไข้รอให้คุณไปช่วยเหลือ ส่วนเรื่องลงข้อความในกระทู้ คุณแม่เค้าคงร้อนใจ หรือเครียด ณ จุด นั้น พวกเราไม่ได้เป็นเค้าคงไม่ทราบหรอกคะ ยังคนไข้ทั้งหลายเวลาเข้ารับบริการก็เห็นใจคุณพยาบาลบ้าง เค้าไม่ได้ดูแลคนไข้เพียงคนเดียวคะ ขอให้กำลังใจทั้งสองฝ่ายคะ มันไม่ได้มีใครถูกผิดชัดเจนหรอกคะ เรื่องจบแล้วให้มันจบไปเถอะคะ พูดกันอีกก็จะนำความแตกแยกมาให้ ในเมื่อต่างก็ยังมองในมุมของตนเอง... จากคุณ : เขียนบน iPhone (basspum) เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 55 08:53:14

ความคิดเห็นที่ 19 ไม่ได้อ่านตั้งแต่แรก แต่สงสัยทำพยาบาลท่านนั้น ลาออกละคะ จากคุณ : @ แม่น้องแก้มใส (jeeranun.jun) เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 55 09:00:31

ความคิดเห็นที่ 20 เห็นด้วยกับ คห 18 เห็นใจทั้งฝ่ายค่ะ -จากคนที่เป็นแม่ ดูลูกตัวเองว่าน้องแย่ อาการไม่ดีแล้ว ก็ยิ่งร้อนใจ ดิฉันก็เป็นค่ะ เชื่อว่า ทุกคน ที่เป็นแม่ก็ต้องเป็นเหมือนกัน ถึงหมอจะนัดหรือไม่นัด ถ้าฉุกเฉิน ก็ต้องรักษา อย่างถ้วนที คะ แต่ถ้าเป็นดิฉัน คงไม่เลือกหมอหรอกคะ คนไหนก็ได้ ขอให้ลูกได้รับ รักษาโดยเร็ว จากคุณ : bell-ban เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 55 09:27:17

ความคิดเห็นที่ 21 ต้องนึกนะว่า กระทู้นั้น พยาบาลทำงานที่รพ.เอกชน ไม่ได้ทำรพ.รัฐ หรืออนามัย เอกชนเน้นสะดวก สบาย บริการประทับใจ คนไข้ยอมจ่ายแพง เงินเดือนก็ต่างกันแล้วเอกชนกับรัฐ จากคุณ : goodi poo เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 55 10:04:59

ความคิดเห็นที่ 22 เราก็ลาออกจากพยาบาลอย่างถาวรเหมือนกัน เพราะเราไม่พร้อมจะเสียสละครอบครัวเราเพื่อคนที่ไม่เห็นคุณค่าของงานเราอีกต่อไป ขนาดคนในครอบครัวเราเส้นเลือดในสมองแตกเรายังไปดูแลไม่ได้เพราะติด "เวร" หน้าที่คือหน้าที่ใจจะเจ็บแค่ไหนหน้าที่ต้องมาก่อน ชีวิตคนอื่นฝากไว้ที่เรา คนที่ตั้งใจมาเรียนพยาบาลนั้นก็มีมากแต่คนที่มาเรียนด้วยเหตุผลอื่นก็มีเยอะ เหรียญมี 2 ด้านอย่างไร พยาบาลก็มนุษย์ฉันนั้นมีทั้งดีและไม่ดีในคนๆเดียวกัน อย่าไปยึดติดที่วิชาชีพเลย จะรพ.รัฐหรือเอกชนเงินเดือนมากน้อย..สุดท้ายพยาบาลก็คือคน เหมือนคนไข้นั่นแหละ มีรัก โลภ โกรธ หลงเหมือนกันอยู่ที่ว่าใครอดทนต่อสถาณการณ์ได้มากกว่ากัน ปล.ถ้าน้องมีโอกาสได้เข้ามาอ่าน..พี่อยากจะบอกว่าพี่เข้าใจ  ยอมรับมันแล้วเก็บไว้เป็นประสบการณ์เถอะนะ อย่าเสียใจไปเลย..เริ่มต้นใหม่ฟ้าหลังฝนย่อมงดงามเสมอ ตราบใดที่น้องยังคงยืนหยัดอยู่ในวิชาชีพนี้..ทางมันขรุขระและไม่เคยโรยด้วยกลีบกุหลาบจงอดทนและปล่อยวาง..พี่ขอให้น้องโชคดีตลอดไปจ้า ^^ แก้ไขเมื่อ 29 มิ.ย. 55 11:06:18 จากคุณ : Z-Cube เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 55 10:16:50

ความคิดเห็นที่ 23 พยาบาลลำบากจริง ๆ นะ ไหนจะต้องทนกับความ "เยอะ" ของคนไข้ ไหนจะต้องมารองรับหมอในบางอารมณ์ เราเคยเจอจัง ๆ เห็นหมอที่คนไข้ติดนักหนา ยอมต่อคิวยาวเพื่อหมอท่านนี้ เวลาคุยกับคนไข้ก็คุยดีมาก ๆ มีอัธยาศัยสุด ๆ ด่าพยาบาลแบบเรื่องไร้สาระมาก ๆ คุณพยาบาลก็ได้แต่ก้มหน้า "ค่ะ ๆ " ไปตลอด อยากเดินเข้าไปให้กำลังใจ ก็กลัวจะโดนหาว่าเผือก เลยได้แต่ซื้อของกินเล็ก ๆ น้อย ๆ มาฝากพยาบาลเหล่านั้นแทน จากคุณ : saturn_eyes เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 55 10:29:46

ความคิดเห็นที่ 24 แม่เกรียน จากคุณ : ลำปางหวานมาก เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 55 10:36:11

ความคิดเห็นที่ 25 ในฐานะที่เราเป็นทั้งแม่ และ พยาบาล เราเข้าใจทั้งสองฝ่ายค่ะ ความรู้สึกของแม่ที่เป็นห่วงลูกเมื่อลูกเจ็บป่วยมันเป็นทุกข์มาก และกับบทบาทพยาบาลที่ต้องเสียสละดูแลคนไข้ บางครั้งบางสถานการณ์ก็มีบ้างที่จะต้องมีเรื่องของอารมณ์มาเกี่ยวข้อง เราเคยถูกญาติคนไข้ชี้หน้าด่า และขู่จะแจ้งตำรวจมาจับ เราร้องไห้ออกมาเลย ไม่ใช่เพราะกลัวจะถูกตำรวจจับ แต่เราน้อยใจในสิ่งที่ได้มาจากความหวังดีของเรา อย่างในกรณีนั้น เราเห็นใจที่แม่เป็นห่วงลูก แต่เราว่า จขกท. นั้นไม่ควรเอ่ยชื่อพยาบาล ถ้าไม่พอใจในการให้การพยาบาลก็แจ้งกับทางโรงพยาบาลให้ทราบให้เค้าไปสอบสวนและลงโทษกันเอง เป็นเราถ้าถูกเอ่ยชื่อในที่สาธารณะขนาดนี้ ทำให้เสียชื่อ อับอาย เราก็คงลาออกเหมือนกัน ไปอยู่ในที่ที่เค้าเห็นคุณค่าดีกว่า...สุดท้ายขอเป็นกำลังใจให้กับเพื่อนร่วมวิชาชีพนะคะ จากคุณ : เป็นทั้งแม่ และพยาบาล (การเดินทางของส่วนที่หายไป) เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 55 11:50:27

ความคิดเห็นที่ 26 ลบดีกว่า แก้ไขเมื่อ 29 มิ.ย. 55 12:45:18 จากคุณ : BigSom เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 55 12:20:59

ความคิดเห็นที่ 27 ขอให้กำลังใจคุณพยาบาลค่ะ อย่าท้อนะคะ จากคุณ : uav เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 55 12:34:56

ความคิดเห็นที่ 28 ก็เหมือนกับทุกวิชาชีพ มีทั้งคนดี มีจรรยาบรรณในวิชาชีพ และมีทั้งคนไม่ดีใช้อาชีพตนแสวงหาผลประโยชน์อันมิควรใส่ตัว แต่จากที่เราอ่านมาตั้งแต่แรกก็เข้าใจความรู้สึกทั้งคุณพยาบาลและคุณแม่นะคะ คุณพยาบาลก็ไม่ได้แสดงคำพูดน่าเกลียดอะไร แต่คนเป็นแม่ที่กำลังห่วงลูกกลับคิดไปอีกแบบ ซึ่งถ้าเป็นเราตอนนั้นจะยืนยันกับคุณพยาบาลค่ะว่าลูกเราไม่ไหวแล้วขอพบคุณหมอเลย ท่านใดก็ได้ ถ้าคุณพยาบาลยังยืนยันให้รอหมอท่านเดิมเราถึงค่อยวีน  ใจเขาใจเรานะเรื่องแบบนี้ไม่มีใครถูกหรือผิด แต่ที่ผิดมันตรงที่เอาชื่อเขามาลงบอร์ดสาธารณะ ทั้งๆที่น่าจะขอเคลียร์กันเป็นการส่วนตัวก่อน เลยกลายเป็นคนที่ถูกพาดพิงเดือดร้อนซะงั้น ยังไงเป็นกำลังใจให้นางฟ้าในชุดขาวที่ยึดจรรยาบรรณประกอบวิชาชีพทุกท่านนะคะ จากคุณ : DekWidWa เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 55 13:43:36

ความคิดเห็นที่ 29 ใจนึงก็อยากให้กำลังใจ แต่อีกใจก็อยากให้ รู้จักอธิบายให้คนไข้เข้าใจจะดีกว่า ให้เค้าคิดไปเองครับ เพราะคนไข้ไม่ได้รู้เรื่องการพยาบาล หรือวิธีการของโรงพยาบาลดีเท่าผู้ให้บริการ เรื่องที่เกิดขึ้น จึงเกิดจากความไม่เข้าใจครับ ที่บอกแบบนี้เพราะผมยึดถือในลักษณะที่ว่า ผู้ให้บริการต้องอดทนและให้เกียรติต่อผู้รับบริการ อาจมีคนมาค้านว่า ผู้รับบริการก็ต้องให้เกียรติแก่ผู้ให้บริการเช่นกัน อันนี้ผมไม่ค้านครับ ในบางเหตุการณ์ก็จะต้องเป็นแบบนั้นจริงๆ แต่ในเมื่อเหตุการมันบานปลายมาแบบนี้ ดังที่ท่านๆทราบดีแล้วนั้น ในความคิดเห็นส่วนตัวผมจึงเป็นเช่นนี้ครับ จากคุณ : มาละเหวย เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 55 13:57:01

ความคิดเห็นที่ 30 เห็นใจคุณพยาบาลคะ...สู้ต่อไปนะคะ จากคุณ : แม่หมูลูกหมู เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 55 14:25:31 A:110.77.245.201 X: TicketID:364496

ความคิดเห็นที่ 31 เราไม่สามารถเชื่อคุณแม่ท่านนั้นได้จริงๆ ว่าคุณพยาบาลเค้าทำอย่างที่เล่าหรือไม่ เพราะแค่ที่คุณแม่เล่ากับคุณหมอเล่าก็หนังคนละม้วนกันแล้ว ก็ไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ อย่าตัดสินเลยค่ะว่าใครผิด จากคุณ : MOMIJI_99 เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 55 14:44:03

ความคิดเห็นที่ 32 กลอนเพราะดีค่ะ แต่ขอจัดวรรคใหม่นะคะ อันพวกเราเหล่านักเรียนพยาบาล      ปณิธานอนุกูลเพิ่มพูนผล เรียนวิชากรุณาช่วยปวงชน              ผู้เจ็บไข้ได้พ้นทรมาน แม้โรคร้ายจะแพร่พิษถึงปลิดชีพ      จะยึดหลักดวงประทีปคือสงสาร แม้เหนื่อยยากตรากตรำใจสำราญ     อุทิศงานเพื่อคนไข้ทั้งใจกาย จากคุณ : nongmalee เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 55 14:50:32

ความคิดเห็นที่ 33 เอ่ยชื่อแบบนี้มันน่าฟ้องนะ ให้คุ้มกับที่ตกงานหน่อย จากคุณ : piganat เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 55 15:06:04

ความคิดเห็นที่ 34 ตอนลูกไม่สบายนอนรพ. เราเจอกับน้องพยาบาลที่ควงกะทั้งวันทั้งคืน ยังทักเลยว่า หนูไม่ได้พักเหรอคะ น้องพยาบาลบอกว่า ไม่ได้พักค่ะ คนไม่พอแถมคนไข้(เด็กๆ)เยอะเลยต้องอยู่ยาว ยาวที่ว่านี่ตั้งแต่ตี 2 จนเที่ยงคืนของอีกวันนะคะ สงสารน้องมากเลย แอบงีบหลับบ้างก็ได้ไม่ว่ากันค่ะ จากคุณ : แก้วหนึ่งใบกับเบียร์สองขวด เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 55 15:51:13

ความคิดเห็นที่ 35 ถึงขั้นลาออกเลยหรอ แย่จัง สงสารพยาบาลจับใจ เพราะEโก้ของคนๆเดียว คงสมใจคุณแม่เจ้าของเรื่องแล้วนะคะ แก้ไขเมื่อ 29 มิ.ย. 55 16:01:17 จากคุณ : รัศมีแห่งพระอาทิตย์ที่น่ารัก เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 55 15:57:39

ความคิดเห็นที่ 36 เห็นใจทั้งสองฝ่ายค่ะ แต่ในโลกความเป็นจริงเนอะ รพ.BNH เป็นรพ.เอกชนทีมีค่าบริการทางการแพทย์สูงและมีชื่อเสียงติดอันดับทีเดียวโดยเฉพาะโรคเด็ก การคาดหวังจากผู้รับบริการสูงแน่ๆคนไข้ที่ต้องเจอเป็นอีกประเภทกับที่เจอกันในรพ.รัฐแน่นอน สื่งที่เราคิดว่าขาดไปคือการสื่อสารให้ข้อมูลกับคนไข้ที่ชัดเจน และทักษะการพยาบาล นั่นคือ ขาดการประเมินอาการป่วยของคนไข้ (การอ้างว่าถูกส่งตัวมาจากERน่าจะไม่เป็นอะไรมาก มาคิดเองเออเองอะไรอย่างนี้ไม่ได้ค่ะ) พยาบาลเอกชนผลตอบแทนค่อนข้างสูง และไม่โหลดเวรเหมือนในรพ.รัฐบาลแน่นอนค่ะ การเสียสละ อุทิศตนเอง อย่ามาพูดถึงประเด็นนี้เลยค่ะ เพราะทุกคนที่ทำอาชีพอื่นๆก็อุทิศตนและเสียสละ ทำงานหนักไม่น้อยกว่าคุณพยาบาลนะคะ โดยเฉพาะถ้าเปรียบเทียบกับพยาบาลในรพ.เอกชนชั้นนำอย่างที่กล่าวมา เรื่องนี้คุณแม่เจ้าของเรื่องก็เยอะ แต่พยาบาล/รพไม่ได้ถูกต้องไปเสียทุกอย่างหรอกค่ะ เราคิดว่าอย่างนี้นะ ปล.เงินพยาบาลโรงพยาบาลเอกชนมากกว่าพยาบาลโรงพยาบาลรัฐบาลหลายเท่าตัว และงานก็เบากว่าหลายเท่าตัวเช่นเดียวกันนะคะ เรามีเพื่อนเป็นพยาบาลรพ.รัฐ บอกให้ลาออกมาทำเอกชนก็ไม่ยอมทั้งที่ความสามารถระดับนี้น่าจะได้มากกว่าที่เดิม4-5เท่า และงานก็เบากว่าไม่ต้องควงเวร โหลดงานขนาดนี้ เธอกลับบอกว่าอยากทำงานที่เดิมมากว่างานหนักเงินน้อยกว่าก็จริงแต่ทุกอย่างที่ทุ่มเทไปทำให้คนไข้ที่เป็นคนส่วนใหญ่ของประเทศ ที่อาจจะไม่มีฐานะทางการเงินพอที่จะไปรับบริการจากรพ.เอกชนราคาแพงๆได้ ให้อยู่ในมาตรฐานเดียวกันมากที่สุด ถ้าเปรียบเทียบกันมันค่อนข้างต่างกันเหมือนกันเนอะในเรื่องความอุทิศตนระหว่างของเพื่อนเรากับพยาบาลเจ้าของเรื่องตามที่จขกท.พยายามจะสื่อในประเด็นนี้ แก้ไขเมื่อ 29 มิ.ย. 55 17:15:20 แก้ไขเมื่อ 29 มิ.ย. 55 17:14:50 จากคุณ : Whatever love means เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 55 16:58:13

ความคิดเห็นที่ 37 เห็นด้วยกับ คห.36 ค่ะ อีกอย่างคุณเค้าเลือกที่จะทำอาชีพนี้เองค่ะ ถ้ารักงานจริง ต้องการอุทิศตัวจริงๆก็ รพ. รัฐค่ะ ถ้ามาทำรพ. เอกชน ชั้นนำแล้ว คนไข้คาดหวังในคุณภาพและงานบริการมากอยู่แล้วค่ะ เพราะฉะนั้นการประเมินการทำงานของพยาบาล ส่วนหนึ่งต้องมาจากคนไข้ เราเลือกที่จะจ่่ายเพิ่มเพื่อคาดหวังบริการที่ดี แล้วหากเราไม่พอใจ เราไม่มีสิทธิ์วิจารณ์หรือ? ปล. เพื่อนสนิทเรานึงก็เป็พยาบาลค่ะ คุณเธอซิ่วจากคณะวิทยา มหาลัยชั้นนำ เพื่อมาเรียนพยาบาล ตามอุดมการณ์ที่แท้จริงค่ะ และเธอก็เลือกที่จะไม่ทำงานให้กับรพ. เอกชน เธอแม้กระทั่งพร้อมจะไปอาสาในถิ่นทุรกันดารทุกเมื่อ นี่ต่างหากที่น่ายกย่องตามกลอนที่คุณ จขกท. ยกมา ด้วยความเคารพ จากคุณ : Felizabelle เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 55 17:44:26

ความคิดเห็นที่ 38 รับบริการจากพยาบาลรพ.รัฐ ไม่ว่าจะดีรึไม่ดีก็ได้แต่ปลอบใจตัวเองว่า "เขาทำเท่าไหร่ ทำดีแค่ไหน ก็ได้เงินเดือนเท่าเดิม" เลยไม่ซีเรียสมากพูดดีกับเขาไว้ก่อน ยกเว้นจะมาแว้ดใส่เรา จากคุณ : แม่จะซิ่ง เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 55 18:17:37

ความคิดเห็นที่ 39 เห็นหลายๆความคิดเห็นพูดถึงทักษะการประเมินอาการป่วยของคนไข้ ว่า พยาบาลคนนั้นพลาด เอาเฉพาะที่เขียนกันอยู่ในบอร์ดนะครับ นี่ยังไม่ใช่ข้อเท็จจริงทั้งหมดด้วยซ้ำ เริ่มจาก หมอ ER เสนอให้ admit แต่ก็บอกทางเลือกไว้ว่า รอหมอประจำตรวจก็ได้ ตอนนั้นประมาณตี 5 ถึง 6 โมงเช้า เพราะจากที่หมอสุธีราชี้แจง เธอมาถึงรพ.ตอน 6 โมงเช้า แต่คุณแม่บอกว่า ตอนตัดสินใจจะรอหมอ ส่วนหนึ่งก็เพราะเห็นคุณหมอสุธีราเดินเข้ามา แสดงว่า ช่วง ตี 5 ถึง 6 โมงเช้า เกิดอะไรขึ้นก็ไม่รู้ แต่อาการของเด็ก มี sign ว่า admit ได้ แต่ไม่ได้ฉุกเฉิน จากนั้นคุณแม่ก็นั่งรอที่ OPD จนประมาณเจ็ดโมงเช้า คงเข้าไปถามครั้งสุดท้ายก่อนจะออกจาก รพ.ขับรถไปรพ.อื่น จากนั้นกลับมา อาจจะเข้า loop การประเมินอีกรอบ และได้เข้าพบกับหมออีกท่าน ซึ่งก็ admit ระหว่างนั้นไม่รู้ช่วงไหน  หมอสุธีรา ก็บอกว่าเห็นเด็กขยับแขนขาไปมาดูปกติดี (ปกติ เด็กขาดน้ำเพราะท้องเสีย จะเพลียไม่มีแรง) คุณหมอที่ admit ก็ admit เข้า วอร์ดปกตินะครับ ไม่ใช่ ICU ICU นี่ย้ายลงมาทีหลัง หลังจาก 4 ทุ่ม ที่ตัดสินใจจะสวนสายปัสสาวะ คำว่า admit ไ้ด้ ไม่ได้แปลว่า ฉุกเฉินนะครับ ข้อมูลเพียงเท่านี้ ตัดสินได้อย่างไรว่า พยาบาลคนนั้นทำพลาด เรื่องการประเมินสัญญาณชีพ ผมว่าคนในพันทิพบางคนนี่ เก่งกว่าพยาบาลซะอีก นั่งฟังเขาเล่าเรื่องก็ประเมินสัญญาณชีพได้ดีกว่าพยาบาลซะแล้ว จากคุณ : อวิรุืทธ์ เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 55 18:19:51

ความคิดเห็นที่ 40 เราไม่เข้าใจว่าทำไมคุณถึงคิดว่าคุณแม่ท่านนั้นเค๊าจะสะใจที่คุณพยาบาลนลินนารถลาออก ...... ถ้าเป็นลูกคุณเราว่าคุณก็คงโกรธไม่น้อยหรอกค่ะ คุณแม่เค๊าใจเย็นมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกและเชื่อฟังที่คุณพยาบาลบอกกล่าวอย่างดี ถ้าเป็นเราโรงพยาบาลแตกไปแล้วค่ะ ไร้จรรยาบรรณ แล้วยังมาร้องขอความยุติธรรม ถ้าลูกเราเป็นไรไปมากกว่านี้ใครจะรับผิดชอบคะ เราก็ไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์หรอกนะคะ และโชคดีที่โรงพญาบาลพญาไท 2 แผนกเด็กไม่มีพยาบาลใจเย็นแบบนี้ด้วย ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตามโรงพยาบาลมืออาชีพระดับ International ก็ต้องมีความเป็นมืออาชีพเพียงพอกับเงินที่ผู้รับบริการเต็มใจจ่ายดังนั้นถ้าคุณไม่ Professional พอก็ไม่ควรมาทำงานอยู่ที่นี่ค่ะ คนไทยมักจะเกรงใจกันและกันดังนั้นมันจึงมักเกิดเหตุการณ์แบบนี้บ่อยๆ จนคนคิดว่าเป็นเรื่องปกติ ลองไปทำงานที่เมืองนอกซิคะ......................... จากคุณ : only_orange เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 55 18:23:54

ความคิดเห็นที่ 41 40 เราไม่เคยคิดว่า จขกท นั้นสะใจเลย  ลองอ่านดีๆนะคะ  แต่เราแค่ขอแสดงอีกมุมนึงให้รู้ และให้กำลังใจเพื่อนร่วมวิชาชีพ เพื่อนร่วมโลกเท่านั้น  มีคนมาตั้งกระทู้พาดพิงเธอ เราก็แค่ตั้งกระทู้ให้กำลังใจเธอ แค่ให้เธอพอมีพลังได้เดินต่อ เท่านั้นเอง จากคุณ : สบายดีไหม เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 55 18:55:37

ความคิดเห็นที่ 42 อ่านแล้วน้ำตาจะไหลค่ะ เราก็ทำงานบริการประชาชน หากโดนมาประจานสาธารณะชนแบบนี้ก็คงไม่มีที่ให้ยืน ครอบครัวก็คงแย่ มืดมนไปหมด ขอเป็นกำลังใจให้นะคะ ทุกคนผิดพลาดกันได้ทั้งนั้น หากแต่ว่าคนเรามีการ "อภัย" ให้กัน ไม่ว่าใครจะเป็นผู้ได้รับผลกระทบ ขอให้ให้อภัยกันนะคะ จากคุณ : HelloMuay เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 55 18:59:01

ความคิดเห็นที่ 43 "คุณแม่รอเจอหมอสุธีราดีกว่าค่ะ จะได้ไม่ต้องพามา รพ. บ่อยๆ" ขอโทษนะคะ ประโยคนี้ ถ้าเป็นดิฉันฟังเอง ดิฉันก็คิดว่าพยาบาลกวนอ่ะค่ะ   คำที่ว่าจะได้ไม่ต้องพามา รพ.บ่อย ๆ  ฟังยังงัยก็กวนค่ะ คือ คนเราเป็นแม่นะคะ ลูกเกิดวิกฤตใจเราน่ะมันร้อนซะยิ่งกว่าไฟ  คุณพยาบาลควรมีจิตวิทยาในการพูดให้ดีกว่านี้ ไม่ใช่พูดให้เราฟังแล้วคิดว่า เฮ้ย นี่เราผิดเหรอ ที่พาลูกมา รพ. บ่อย ๆ ก็ลูกเราไม่ดีขึ้นนี่หว่า แล้วคุณพยาบาลก็ควรสื่อสารระหว่างคุณหมอกับคุณแม่ด้วย ว่าทำไมถึงยังไม่ได้ตรวจ ทำไมยังต้องรอ ในเมื่อคุณหมอมาแล้ว ดิฉันว่าเป็นหน้าที่ของพยาบาลอย่างหนึ่งนะคะ เรื่องการสื่อสาร ส่วนเรื่องที่คุณพยาบาลลาออกไปแล้ว  เรื่องนี้ดิฉันเห็นใจนะคะ และขอให้ได้งานใหม่ไว ๆ นะคะ  แล้วเอาเรื่องนี้ไว้เป็นบทเรียนด้วยนะคะ จากคุณ : stop teen mom (Momลูกแพร์) เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 55 19:09:00

ความคิดเห็นที่ 44 เข้ามาขอบคุณที่น้องกล้าตั้งกระทู้นี้ขึ้นมาเพื่อเป็นกำลังใจให้น้องร่วมวิชาชีพ  เพราะจะมีทั้งคนที่เข้ามาร่วมให้กำลังใจและเห็นใจ และคนที่คิดว่าตั้งมาเพื่อเขียนเข้าข้างกันเอง   : สำหรับการแสดงความคิดเห็นของเราในกระทู้ที่เกี่ยวข้องกันนั้น ใครเข้าไปอ่านก็คงคิดว่าเข้าข้างน้องเค้าสุดๆ  แต่ความจริงไม่ใช่การเข้าข้างแต่เป็นความ " เข้าใจและเห็นใจ " มากกว่า ทุกครั้งที่อ่านกระทู้ที่ดูว่าจะดราม่า เราจะยังไม่เม้นท์ในทันทีเพราะมักจะคดีพลิกเสมอ  การที่เข้าใจน้องคนนี้เพราะเราเป็นพยาบาลรัฐมาสิบกว่าปี เจออะไรมาเยอะมาก ทั้งการต่อว่าอย่างไม่มีเหตุผลจากคนไข้ ญาติ หรือหมอดุๆบางคน รพ.ก็โดนข้อร้องเรียนหลายครั้ง ทั้งที่พวกเราพยายามทำดีที่สุด แต่ด้วยภาระงานที่มาก ไม่สมดุลกับบุคลากรที่ทำงาน ย่อมมีความล่าช้าในการให้การบริการ  ญาติผู้ป่วยบางคนหมอมาช้าก็มาบ่นๆๆกับเราแต่พอเราตามหมอมาถึง เงียบบบบบ ไม่บ่นซักคำ เจอแบบนี้บ่อยมากๆๆๆ บางครั้งท้อใจมากจนอยากจะลาออก แต่บางครั้งก็มีคนไข้ที่น่ารักมากๆ เข้าใจเราสุดๆ  ทำให้ยิ้มได้และมีกำลังใจขึ้นมากมาย ทำงานรพ.รัฐต่างกับเอกชนตรงที่ ค่าตอบแทน ระบบงานก็จริง แต่เรารู้ว่างานพยาบาลรพ.เอกชนใช่ว่าจะไม่เหนื่อย แม้ว่าจะเหนื่อยน้อยกว่ารพ.รัฐ แต่พยาบาลเอกชนต้องยิ้มแย้มแจ่มใส มีมนุษยสัมพันธ์ดีตลอดเวลา การบริการต้องเยี่ยมและถูกใจ เพราะคนไข้และญาติคิดว่าพวกเขาจ่ายแพงๆต้องได้รับแต่สิ่งดีๆเท่านั้น ห้ามผิดพลาด ล่าช้าหรือพูดผิดหูเด็ดขาด เราคิดว่าทำงานรพ.รัฐอาจจะเหนื่อยกายมากกว่าเพราะคนไข้เยอะมากๆ แต่น่าจะเหนื่อยใจน้อยกว่าอยู่เอกชนแน่นอน และการที่เราเหนื่อยกายนั้น พอได้หยุดพักผ่อนนอนหลับตื่นมาก็ยังมีแรงไปทำงานต่อได้อีก แต่ถ้าเหนื่อยใจนั้น ทำให้กินไม่ได้นอนไม่หลับกันเลยทีเดียว  ถ้าเราเจอเรื่องแบบน้องคนนี้คงเศร้าใจมากและลืมไม่ลงไปตลอดชีวิต ข้างบนเป็นการตอบในฐานะพยาบาลคนนึงที่ " เข้าใจและเห็นใจ " เพื่อนร่วมวิชาชีพ   แต่ในฐานะแม่ของลูกวัยสามขวบครึ่ง เราเข้าใจความรู้สึกของคนเป็นแม่ ว่าเวลาลูกป่วยจะเป็นห่วงมากแค่ไหน ลูกเราเป็นภูมิแพ้ จึงป่วยบ่อย Admit หลายครั้งจนพยาบาลวอร์ดเด็กจำหน้าได้  อาการป่วยก็ไม่ใช่น้อย  ปอดอักเสบ มีไข้ หอบ พ่นยา ฉีดยาแก้อักเสบ  Admit มากกว่าหนึ่งสัปดาห์ก็เคยมาแล้ว  และหลายครั้งที่ไม่ได้ไปหาและเฝ้าลูกเองเพราะติดเวร แลกเวรไม่ได้ (ลูกอยู่กทม.เราทำงานต่างจังหวัดซึ่งไกลกันพอดู)เราเสียใจจนต้องแอบร้องให้ขณะทำงานก็มี  แต่เราพอจะมีความรู้เพราะเป็นพยาบาล จึงเข้าใจการเจ็บป่วย การดำเนินการของโรคดี จึงไม่กังวลมากนัก แต่เสียใจที่ไม่ได้ดูแลลูกเต็มที่เท่านั้นเอง เราไม่ปฏิเสธว่าการทำงานของทีมการพยาบาลไม่เคยผิดพลาด  มีแน่นอน ยิ่งรพ.รัฐที่มีภาระงานมากกว่าเอกชนแต่บุคลากรและเครื่องมือแพทย์ที่น้อยกว่ายิ่งมีความเสี่ยงสูงกว่ามาก  แต่ในการทำงานเราระมัดระวัง เพื่อไม่ให้เกิดความเสี่ยงหรือมีการรายงานความเสี่ยงน้อยที่สุด เพราะเมื่อเกิดความเสี่ยงขึ้น จะทำให้เสี่ยงต่อการเกิดการฟ้องร้องจากผู้ป่วยและญาติ  และความท้อแท้จนแทบหมดแรงทำงานก็จะเกิดกับพวกเรา TT ในกรณีที่เกิดขึ้นกับน้องเค้า ถ้าเป็นรพ.รัฐในต่างจังหวัดที่เราทำงาน ญาติผู้ป่วยอาจจะเดินมาต่อว่าตรงๆ หรือมากสุดก็เขียนข้อร้องเรียนถึงรพ. รู้เรื่องเฉพาะผู้เกี่ยวข้อง แต่คงไม่มีมาโพสต์ในบอร์ดสาธารณะแบบนี้ (แถมด้วยการเล่าเรื่องที่บิดเบือน ไม่ครบถ้วน อย่างตั้งใจหรือไม่ตั้งใจเราไม่ทราบได้) แต่คนต่างจังหวัดที่ลูกไม่มีโรคประจำตัวที่ต้องตรวจกับแพทย์เฉพาะทาง ไม่มีหมอประจำตัวหรอก หมอคนไหนก็ตรวจได้ทั้งนั้น เขียนยาวมากมาย  แค่อยากให้มีคนเข้าใจพวกเราบ้างเท่านั้นเอง  หลายครั้งที่มีคนตอบว่าพวกคุณเป็นหมอเป็นพยาบาลอย่ามาบ่น อย่ามาแก้ตัว ตั้งใจจะมาเป็นแล้ว ต้องเสียสละอดทน ต้องเห็นใจคนเจ็บ คนป่วยที่มาพึ่งนะ บ่นทำไม ว่าเหนื่อย ว่าหนัก งานใครก็หนักทั้งนั้น ถ้าไม่อยากทำก็ลาออกไปเลย  เราจะบอกว่าเราอ่านแล้วเสียความรู้สึกมาก  เรารู้ว่างานใครก็เหนื่อย แต่งานของพวกเรามันกินนอนไม่เป็นเวลาเลย บางเวรที่ยุ่งๆก็ไม่ได้กินข้าว กินน้ำเลยด้วยซ้ำ  ทั้งๆที่เราพร่ำบอกคนไข้ว่า ต้องนอนหลับพักผ่อน กินนอนเป็นเวลา ดื่มน้ำมากๆ ออกกำลังกายสม่ำเสมอ แต่หมอ พยาบาลเอง ลงเวรมาหลับเป็นตาย ไม่เคยออกกำลังกายเลยสักนาทีเดียว เฮ้อออออออออ ....( ยาวๆ ) ส่วนน้องร่วมวิชาชีพพี่ขอเป็นกำลังใจให้นะ ขอให้ทำงานพยาบาลต่อไป  เวลาที่มีคนไข้มาบอกว่า " ขอบคุณมากๆที่ (มีส่วน) ช่วยให้หายป่วย "  ช่างเป็นความรู้สึกที่ดีและมีกำลังใจในการทำงานมากมายเลย  : ) แก้ไขเมื่อ 29 มิ.ย. 55 22:58:30 จากคุณ : random-4 เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 55 19:16:09

ความคิดเห็นที่ 45 ขอเฮ้อออออยาวๆบ้างคะ แปลกดีคะ..คิดว่าทั้งคุณแม่และคุณพยาบาลทั้งสองนั้นคงพยายามกลับมาใช้ชีวิตปกติกันแล้ว แต่ในนี้เหมือนกำลังมาเริ่มประเด็นกันใหม่คะ "ให้อภัย" คะ คุณแม่ก็ได้ลงข้อความขอโทษคุณพยาบาลแล้ว คุณพยาบาลก็จบลงด้วยการลาออก เราจะไม่ให้อภัย และปล่อยให้เรื่องมันจบหรอคะ ป่านนี้คงนั่งสะดุ้งกันหมดแล้ว ^^ อธิบายไปก็เท่านั้นคะ ในเมื่อเรายังมองแต่ในมุมของตัวเองคะ ว่าตนเจออย่างนั้น ตนเป็นอย่างนี้ น้อยคนจะออกมายอมรับในที่สาธารณะว่าตนผิดด้วยใจจริง.. อย่าตัดสินอะไรใครด้วยถ้อยคำบนบอร์ดสาธารณะคะ จากคุณ : เขียนบน iPhone (basspum) เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 55 19:47:16

ความคิดเห็นที่ 46 ถ้าเรื่องที่คุณพยาบาลลาออกเป็นเรื่องไม่จริง แล้วทุกคนมาออกความเห็นกันแบบนี้ ถ้าเป็นเรา เหมือนกับกดดันให้เราลาออกจริงๆ เลยนะเนี่ย เราว่ารอให้ได้รับการยืนยันว่าลาออกจริงก่อนดีมั้ยค่อยเ้ม้นท์ ตอนนี้ก็ให้ๆ กำลังใจเขาไปก่อน จากคุณ : หลับปุ๋ย เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 55 20:31:57 A:58.9.15.58 X: TicketID:357580

ความคิดเห็นที่ 47 อ้อ แล้วกลอนที่จขกท.ยกมา "จะยึดหลักดวงประทีปคือสงสาร" ถ้าตอนนั้นคุณพยาบาลสงสารเด็กน้อยสักนิด พูดจากับแม่เขาดีกว่านี้หน่อย เขาคงไม่เจ็บช้ำ ฝังใจจนถึงทุกวันนี้หรอกนะ เราว่า จากคุณ : หลับปุ๋ย เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 55 20:36:45 A:58.9.15.58 X: TicketID:357580

ความคิดเห็นที่ 48 คิดเหมือน คห ๔๕ เลย พวก คห ที่บอกว่าเนี่ยได้ยินว่าน้องพยาบาลเค้าจะลาออกแล้ว หรือสงสัยน้องเค้าคงต้องลาออกแล้ว เพราะอาย .. ฯลฯ จริงๆ น้องพยาบาลคนนั้นอาจจะยังไม่ได้ลาออกก็ได้นะ แต่เธอคงลาพัก ลางานชั่วคราว ย้ายแผนก หรืออะไรก็แล้วแต่ แต่พวกกองเชียร์ต่างๆ ที่กระพือกระแสข่าวลือเรื่องลาออกของเค้า อาจจะทำให้เค้าต้องลาออกจริงๆ ก็ไ้ด้นะ ทั้งๆ ที่เมื่อเค้าทำใจได้แล้ว เค้าอาจจะกลับมาทำงานตามปกติได้ แค่อยากบอกว่าอย่าเชียร์อะไรแบบไม่คิด โดยเฉพาะเสียงเชียร์ของคุณๆ ที่ไม่ได้รู็้้้จักเค้า เชียร์เอามันส์ ไม่ได้คิด อาจจะยิ่งทำร้ายน้องเค้านะ จากคุณ : จุ๊บๆ ลุ้นๆ เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 55 20:37:58 A:58.9.15.58 X: TicketID:357580

ความคิดเห็นที่ 49 ว้าย ขอโทษที หลับปุ๋ยปัญญาน้อย นึกว่าโพสไม่ติด เลยโพสซ้ำ แหะๆๆ ไว้อาลัย ให้ตัวเอง 3 นาที @___@ จากคุณ : หลับปุ๋ยปัญญาน้อย เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 55 20:54:47 A:58.9.15.58 X: TicketID:357580

ความคิดเห็นที่ 50 ความเห็นที่ 4 พูดจาแย่จังเลย.......(พ่อ แม่ก็ไม่ใช่เรายังมาดูแล บางทีเรายังคิดนะคะ ว่า ชั้นมาทำอะไร อยู่เนี่ย)  ก็พวกคุณเลือกอาชีพนี้เองไม่ใช่เหรอ????????? คุณต้องซื่อสัตย์กับวิชาชีพและมีจรรยาบรรณ ความรักต่อวิชาชีพที่คุณเลือกและปฏิญาณตนสิ จากคุณ : travelmemo เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 55 21:51:26

ความคิดเห็นที่ 51 ในชีวิตการทำงานของคนเรา มันต้องมีอุปสรรค มันต้องมีพลาดพลั้งกันบ้าง การลาออกเป็นการหนีปัญหา ไม่ได้ช่วยให้อะไรดีขึ้น การที่หมอไม่สามารถรักษาคนไข้ให้หายได้ ไม่จำเป็นต้องลาออกเพื่อรับผิดชอบ การที่ดารามีข่าวซุบซิบนินทา ไม่จำเป็นต้องออกจากวงการ เราก็คือเรา เรารู้ดีที่สุดว่าเราเป็นยังไง ทำอะไรอยู่ อยากให้คุณพยาบาลคนนั้นเข้มแข็งไว้ คุณแม่ก็ขอโทษออกสื่อแล้ว ขอโทษผ่านผู้บริหารแล้ว ถ้าทางหน่วยงานกังวลเรื่องฟีกแบคจากคนไข้ที่พาลูกมา ก็ขอย้ายแผนกไปก็ได้ ไม่จำเป็นต้องลาออก เข้มแข็งไว้นะคะ ปล. อยากให้เลิกพาดพิงคุณแม่คนนั้นได้แล้วค่ะ จะให้กำลังใจก็ให้กำลังใจค่ะ ไม่ต้องว่าใครก็ให้กำลังใจได้ค่ะ จากคุณ : แม่น้องอัณณา เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 55 21:52:32 A:101.108.114.121 X: TicketID:258399

ความคิดเห็นที่ 52 กระทู้นี้เป็นกระทู้ให้กำลังใจเพื่อนร่วมวิชาชีพอย่าง " เข้าใจและจริงใจ " ไม่มีอะไร " เคลือบแฝง "   ไม่ได้ " กดดัน "  ไม่ได้ " เชียร์ " : เมื่อก่อนไม่เข้าใจอารมณ์ของคนที่ " เบื่อบัตรผ่าน " เพิ่งมาเข้าใจก็วันนี้ล่ะ  ... เมื่อกี้เพิ่งคุยกะหมอคนนึงถึงกระทู้ต้นเรื่องนั้น เค้าบอกว่า " อย่าอ่านเลย เสียสุขภาพจิตปล่าวๆ " ถ้าจะจริงแฮะ  เริ่มมึนหัวนิดๆล่ะ TT เฮ้อออออ (ยาวววว)  ไปนอนดีกว่า   ...  ZZzzZZ  ... จากคุณ : random-4 เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 55 22:49:29

ความคิดเห็นที่ 53 ตั้งแต่อ่านกระทู้แรกนั่นแล้ว....เห็นใจคุณพยาบาลท่านนั้นมากๆ อยากให้กำลังใจคุณพยาบาลท่านนั้น ถ้าไม่สบายใจที่จะทำงานกับโรงพยาบาลแล้ว...ลองเป็นครุพยาบาลในโรงเรียน ก็ดีนะคะ เพื่อนเราก็เหนื่อยใจ  จึงหลบไปเป็นครูพยาบาลค่ะ  เค้าว่าอยู่กับเด็กๆ สบายใจดีกว่ามาก จากคุณ : บ้านดอกชวนชมสารพัดสี เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 55 22:56:46

ความคิดเห็นที่ 54 เราไม่สงสารนะ เราถือว่าเค้าทำงานเอกชนอ่ะ ไม่ได้สละตนทำโรงพยาบาลของรัฐเพื่ออุดมการ ถ้าทำได้แค่นี้ถือว่าไม่โอเคเลย ที่ รพ. ชั้นนำจะไม่รับเขาก้อน่าจะมาจากการประเมินลักษณะการให้บริการแล้วล่ะ  เราว่าแทนที่จะลาออกสู้มาปรับปรุงลักษณะการพูดจาและทัศนคติในการให้บริการจะดีกว่ามั้ย จากคุณ : mawantha เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 55 23:03:02

ความคิดเห็นที่ 55 คห 22 เราก็เหมือนกันค่ะ ตอนนั้นปั๊มหัวใจคนไข้อยู่ โทรศัพท์เข้ามา พ่อเราเองก็กำลังโดนปั๊ม เราก็ปั๊มไปร้องไห้ไป. วันนั้นเป็นหัวหน้าเวรบ่าย ไปใหนก็ไม่ได้ ได้ไปเจอพ่ออีกที ก็ตอนเค้านิ่งไปแล้ว สะเทือนใจมากๆ ตอนนี้ก็ลาออกมาแล้วค่ะ คงได้แต่ให้กำลังใจคนในวิชาชีพเดียวกันต่อไป ดีใจที่ถึงจะโดนโจมตีกันทางบอร์ด แต่ก็ยังมีพวกพ้องคอยมาให้กำลังใจกัน (รวมทั้งท่านที่เข้าใจและไม่ตัดสินอะไรไปก่อน เพียงเพราะผู้ถูกกล่าวหาคือ "พยาบาล") ขอบคุณแทนเพื่อนพยาบาลคนนั้นจากใจค่ะ จากคุณ : shai339 เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 55 23:53:04

ความคิดเห็นที่ 56 โอ้ ถึงขนาดลาออกเลยเหรอเนี่ย จริงไม่จริงไม่รู็อ่ะนะ แต่นนนี่ขอโทษคุณพยาบาลอย่างสูงนะคะ ออกตัวแรงตั้งแต่ คห.แรก ในกระทู้แรกนั่นเลยค่ะ แอบเคืองๆไปเลยเม้นแรงๆ โดยใช้อารมณ์ในการตัดสินจากภาษาเขียนฝ่ายเดียว แย่จัง หลังจากอ่านทั้งของคุณหมอและแม่เด็ก ถึงได้รู้ว่าคดีพลิก ถล่มทลายยยยยยยย เง้ออ ขอโทษคุณพยาบาลและขอให้กำลังใจนะคะ สู้ต่อปายยยย จากคุณ : นนนี่จ๊ะจ๋า เขียนเมื่อ : 30 มิ.ย. 55 00:46:19

ความคิดเห็นที่ 57 เป็นวิชาชีพที่เสียสละมากมายจริงๆ ค่าตอบแทนก็น้อยนิด จากคุณ : Sheeler เขียนเมื่อ : 30 มิ.ย. 55 01:05:40

ความคิดเห็นที่ 58 อ่านคห.54 แล้วอึ้ง ตรงไหนที่พยาบาลพลาด บริการไม่ดีตรงไหน ที่พูดไปนั้นผิดยังไง สำหรับคนบางคน พูดยังไงก็ไม่ถูกใจ ทำอะไรก็ไม่ดีพอ คุณพูดเหมือนคนเห็นแก่ตัว ที่เห็นว่าตัวเองเป็นพระเจ้า แล้วคนบริการต้องทำทุกสิ่งอย่างให้ถูกใจ จากคุณ : blackbillaz เขียนเมื่อ : 30 มิ.ย. 55 01:14:13

ความคิดเห็นที่ 59 แค่อยากให้ฟังความ 2 ข้างบ้างน่ะ โลกมันไม่ได้มีมุมเดียวซักหน่อย จากคุณ : เคลิ้มสมาคม เขียนเมื่อ : 30 มิ.ย. 55 02:53:25

ความคิดเห็นที่ 60 บอกก่อนว่าไม่ได้เป็นพยาบาลนะ แต่เรามองว่าผู้ใช้บริการและผู้ให้บริการ ต่างก็เป็นคนเหมือนกัน แค่แค่ละคนทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุดก็พอ เราไม่เคยเชื่อในคำว่า ลูกค้าคือพระเจ้า และเกลียดคำนี้มาก เพราะลูกค้าบางคนทำตัวงี่เง่าแต่คิดว่าตัวเองคือพระเจ้า ส่วนกรณีนี้ ก็เห็นใจทั้งสองฝ่าย แต่ไม่เชื่อใคร เพราะฝ่าย คุณแม่เองก็เล่าออกมาไม่หมด เล่าเรื่องเข้าข้างตัวเองซะส่วนใหญ่ จากคุณ : mari (^o^) เขียนเมื่อ : 30 มิ.ย. 55 09:39:00

ความคิดเห็นที่ 61 เห็นใจคุณพยาบาลเช่นกันค่ะ ส่วนจขกท.นั้นแค่อ้่างความเป็นแม่ก็ลอยเหนือเป็นหาทั้งปวงแล้ว จากคุณ : แพนกวิ้นน้อยหลงทาง เขียนเมื่อ : 30 มิ.ย. 55 10:10:14

ความคิดเห็นที่ 62 เฮ้ออออออออออออออออออออออออ... T_T ไม่ได้ประชด แดกดัน หรืออะไรเลยนะ.. ลองนึกดูเล่นๆว่า  ถ้าคนบนโลกนี้ทุกคน ไม่มีใครอยากเป็นพยาบาลเลย  ก็เพราะเป็นแล้วก็เป็นซะแบบนี้  คุณเลือกมาทำเองนะ มันเป็นอาชีพที่ต้องเสียสละนะ  ก่อนมาเป็นก็ต้องคิดแล้วสิ ตัดสินใจแล้วสิ มันต้องเสียสละนะ งานสำคัญกว่าเพราะเป็นหน้าที่  คนที่บ้านกำลังจะตายก็ห้ามบ่นขอความเห็นใจ ก็คุณอุทิศตัวมาทำแล้วนี่ ถ้าคิดว่าทำไม่ได้ก็ไม่ต้องมาทำแต่ทีแรก เออ...ถ้างั้นไม่ต้องมีคนทำกันเลยดีมั้ย  ถ้ามาทำงานแล้วยังจะไม่มีใครเห็นคุณค่า จะทำไปทำไม  อาชีพมีเป็นร้อยเป็นพัน แต่ก็ยังมีคนเลือกมาทำอาชีพแบบนี้  เราว่าเป็นการทำร้ายจิตใจกันมากเลยนะ ที่เห็นความเสียสละเพื่อคนอื่นเป็นแค่คำว่า ''หน้าที่ที่ต้องทำ ไม่เห็นต้องเรียกว่าเสียสละเลย''   อุตส่าห์มีคนส่วนนึงเสียสละมาทำงานที่พวกคุณๆคนอื่นไม่อยากทำ  แทนที่จะมองว่า เออ เค้าน่าสรรเสริญว่ะ  เราทำไม่ได้อย่างเค้าหรอก   กลับกลายเป็นจ้องที่จะเอาบริการที่ตนพอใจอย่างเดียว โดยไม่คำนึงเลยว่า เค้าก็คนเหมือนคุณนั่นแหละ อ่านแล้วสะเทือนใจน่ะ  ไม่ขอออกความเห็นเกี่ยวกับกระทู้ต้นเรื่องนะ ความเห็นนี้มีต่ออาชีพพยาบาลล้วนๆ เราเองก็เป็นพยาบาล หรือจะเรียกว่าเคยเป็นดี...  สิ่งเดียวเลยนะ  สิ่งเดียวเลยจริงๆที่ทำให้เราคิดถึง โหยหา ที่ได้เป็นพยาบาล และรู้สึกเกิดมาแล้วชิวิตนี้ไม่เสียชาติเกิดที่เกิดมาเป็นคน  ก็คือ   สายตา คำขอบคุณจากคนไข้หรือญาติที่เค้ามีให้เราหลังจากที่เราดูแลเค้า  เป็นสิ่งเดียวจริงๆที่รั้งเราไว้กับอาชีพนี้    ไม่ใช่เงินเดือนที่มากมาย หรืออาชีพนี้ไม่ตกงานง่ายๆเลย ที่กล้าพูดได้อย่างนี้ก็เพราะ เคยลาออกแล้วลาออกอีก ไม่ไหวจริงๆกับการที่ต้อง deal กับหมอบางท่านที่กะจะเอาพยาบาลให้ตายคาที่เลยมั้ย..อันนี้ด้วยความเคารพ ไม่ใช่ทุกคนค่ะ ไม่ไหวกับญาติบางท่านที่กะจะเอาพยาบาลให้ตายคาที่เหมือนที่หมอบางท่านทำ เรานี่แหละ ที่ยอมทื้งอนาคต เงินเดือนแตะสามหมื่นในปีแรกที่เริ่มทำงาน(ควงเวรนะคะ)  แล้วไปเรียนทำเล็บ ทำผมฟรีกับกทม. กะว่าจบมาก็เป็นลูกมือช่างได้เงินแค่ 7000 ก็เอา  และมีโอกาสได้ไปทำงานบริษัทเอกชนได้เงินเดือน 9500 เราก็ทำ...แต่...งานบริการที่เราได้ทำๆนี้  ไม่ได้ทำให้เรามีความสุขหรือมีคุณค่าในตัวเองเท่าพยาบาลเลย   เราคิดถึงสิ่งดีๆที่ได้จากคนไข้มากๆๆๆๆ แต่ที่ไม่อยากกลับไปทำก็เพราะนั่นแหละ...  ทำดีไปพันครั้งก็แค่เท่าตัว ทำชั่วแม้ครั้งเดียวไม่ได้ผุดได้เกิด ไม่ว่าใครจะเห็นยังไง เราเองก็ขอพูดเหมือนค.ห.บนสุดนู้น   ยายเราป่วยเป็นมะเร็งกระเพาะอาหาร กินไม่ได้ อ้วกตลอดเวลา  ไม่มีใครดูแลเลย  ทุกคนในครอบครัวมีหน้าที่ต้องทำกันหมด   แต่ตัวเราเป็นพยาบาลนะ..พยาบาล...  เรามีความสามารถดูแลยายเราได้  แต่เราไปทำหน้าที่นั้นไม่ได้  แล้วเราผิดไหม ถ้าในขณะที่เรากำลังถูกญาติด่า แล้วเราจะคิดในใจว่า  ..กรูมาทำอะไรที่นี่วะ.. ยายเราเสียไปแล้วนะ เราลาออกไปดูยายช่วงเดือนสุดท้าย อยู่กับยายที่รพ.ทุกวัน เช็ดขี้เช็ดเยี่ยวให้  ได้ใช้เทคนิคการเปลี่ยนเตียง  การใส่เสื้อโดยมาสายนู่นนี่คาแขนอยู่  ได้เช็ดอึยายอย่างถูกวิธี  จัดท่ายังไงให้สุขสบาย  ยายพร่ำพูดขอบใจลูก...ขอบใจลูก..ไม่หยุดปาก ยายไม่รู้ว่าเราลาออก   เราบอกยายว่าเราขอพักร้อน  เพราะยายคงเสียใจมากถ้าเราทำอย่างนั้น   เราอยู่รพ.เป็นเดือน  ยายไล่เรากลับไปทำงานเกือบทุกวัน  บอกว่าอย่าทำอย่างนี้ คนอื่นเค้าลำบาก  จนเราต้องทำเป็นกลับไปทำงาน(แอบไปนอนที่บ้าน) เพราะยายอยากให้กลับไปทำงาน ขนยายทรุดเข้า ICU นั่นแหละ เราถึงได้กลับไปหายายอีกที   ..เป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดถึงแม้ว่ายายจะป่วยและเราจะรู้ว่ายายจะอยู่ได้ไม่นาน  แต่เราก็ได้ทำหน้าที่ของหลานและพยาบาลได้ดีที่สุดในชิวิตแล้ว พิมพ์ไปก็ร้องไห้ TT เราน่ะ เคยวีนอาชีพบริการแค่ครั้งเดียวในชิวิต คือโทรไปลูกค้าสัมพันธ์ธนาคารนึง แล้วรอสายนานมาก ประมาณครี่งชั่วโมง  พอมีคนรับเราวีนเลย ทำไมรอนานมาก กระแทกเสียงสุดๆ  เค้าก็อึ้งไปเป๊บนึง ประมาณพูดไม่ถูก แล้วขอโทษเราอย่างสุภาพมาก(อาจเป็นด้วยหน้าที่)  แต่หลังขากวินาทีนั้น เหมือนคนคิดได้อ่ะ  เรารู้สึกผิดมากกกก และเราก็ไม่เคยวีนอาชีพบริการอีกเลย   ขึ้นรถเมล์เค้าฉีกตั๋วให้เราก็ขอบคุณค่ะ  กินข้าวข้างทางก็เขี่ยรวมเศษอาหาร รวมจานให้ ไปกินร้านอาหารไม่ว่าถูกหรือแพง ถ้าช้าก็ไม่เคยบ่น  ไปรพ.เจอผู้ช่วยดุใส่ก็ไม่เถียง ไม่โชว์พาว(กรูพยาบาลนะเนี่ย สั่งกรูจัง^^)   เดินเข้า7-11 เท้าเปียกก็ยืนเช็ดอยู่ตรงพรมนั่นแหละ  เลือกเสื้อในห้างเสร็จก็พับกลับให้ เราว่าหลายคนก็ทำแบบเรานะ  มันไม่ใช่เรื่องยากอ่ะ  แค่เป็นมิตร และเห็นใจคนอื่นบ้าง ไม่ใช่ช้านเป็นพระเจ้าซะตลอดเวลา  เพราะถ้าไปเจอคนที่เค้าเป็นพระเจ้าตลอดเวลา อย่างน้อย เราก็ไม่เป็นน้ำมันที่สาดเข้ากองไฟซ้ำ ยาวเลย ... จากคุณ : Stinky Cat เขียนเมื่อ : 30 มิ.ย. 55 10:14:16

ความคิดเห็นที่ 63 กำลังคิดว่าถ้าไม่ใช่ รพ. BNH ความคาดหวังของผู้รับบริการจะมีมากมายมหาศาลแบบนี้หรือป่าว แต่ถ้าเป็นเราโดนประจานชื่อแบบนี้ต่อให้ผิดหรือไม่ผิดก็ไม่มีกำลังใจทำงานต่อไปหรอกค่ะ อีกอย่างsocial networkมันเร็วนะคะ มีกี่คนที่แชร์แต่กระทู้ต้นเรื่อง แล้วคนอื่นมาอ่าน แต่ไม่ได้ตามถึงกระทู้ขอโทษ กระทู้คำชี้แจงจากหมอ แปลกดีนะคนไข้ ฟ้องบุคคลากรทางการแพทย์ได้ และมีทนายยินดีที่จะเล่นเรื่องพวกนี้ให้ แต่ในขณะเดียวกันบุคคลากรทางการแพทย์ถ้าฟ้องคนไข้กลับ ดันถูกมองว่าไม่มีจรรยาบรรณ คุณแม่จขกทโชคดีนะคะที่พยาบาลที่เค้าเอ่ยชื่อ"ไม่ฟ้อง" เป็นเรานะจะฟ้องร้องความเสียหาย เพราะเล่นใส่ชื่อแบบนี้ ต่อให้ความจริงพยาบาลคนนั้นไม่ผิดแต่ก็ไปตัดอนาคตทางวิชาชีพกันเลยทีเดียวถึงไม่ทางตรงก็ทางอ้อมค่ะ โลกสื่อออนไลน์มีทั้งแง่ดีและไมดี ถ้าต้องการตำหนิ หรือ complain ส่งไปที่หน่วยงานต้นสังกัดโดยตรงจะดีกว่าค่ะ ทั้งหมดเป็นความเห็นส่วนบุคคลนะคะ จากคุณ : Ladygirlgib เขียนเมื่อ : 30 มิ.ย. 55 10:18:55

ความคิดเห็นที่ 64 คำว่า ชั้นมาทำอะไรที่นี่เนี่ย เชื่อว่าเป็นแค่ความคิดนึงที่วูบขึ้นมา ก้อไม่ได้หมายความว่า เค้าไม่รักในงานที่ทำนี่คะ บางคนเขียนยังกับว่า ต้องรักในงานตัวเอง 100% ไม่เคยเบื่องานตัวเองกันบ้างเหรอคะ เฮ้อ.. จากคุณ : aRt's aNgeL เขียนเมื่อ : 30 มิ.ย. 55 10:37:02

ความคิดเห็นที่ 65 นี่ยังดีที่ไปโรงพยาบาลเอกชน ถ้าไปโรงพยาบาลรัฐ โดยเฉพาะระดับอำเภอ ถ้าคุณเจอพยาบาลผู้สูงวัย แทบจะคลานเข่าให้คุณเธอว์ช่วยรักษาคร่าาาาาา แต่ทุกที่ล้วนมีดีปน.... จากคุณ : pantipapa เขียนเมื่อ : 30 มิ.ย. 55 11:34:00

ความคิดเห็นที่ 66 ขอระบายนะคะ  ไม่ได้ว่ากล่าวถึงเคสนี้โดยตรง  แต่อยากให้หลายๆ คนเข้าใจบ้าง เป็น นักศึกษาพยาบาลค่ะ  เห็นเคสอะไรแบบนี้จากพี่พยาบาลบ่อยไป   จนวันนึง  คิดว่าจะลาออก ไม่อยากเรียนแล้ว  เสี่ยงกับการโดนฟ้องมาก อะไรนิดอะไรหน่อย  พยาบาลผิด เหนื่อยนะคะ กับคนไข้ ญาติ หรือผู้รับบริการที่ดื้อ  มีความรู้มาก ลองภูมิ สุดท้าย ก็ต้องทำตามอยู่ดี    คุณช่วยคิดด้วยว่า พยาบาลต้องดูคนไข้อีกเป็นร้อย   มานั่งอยู่กับเคสคุณเป็น ชม ไม่ได้หรอกค่ะ เตียงอื่นตายพอดี เรียนก็เหนื่อย ตำราเต็มหัวไปหมด ถูกหยิก ถูกตี ถูกดุ สารพัดอย่าง กว่าจะผลิตพยาบาลได้ 1คน อาชีพนี้ ไม่ได้น่าทำอย่างที่คิด ไม่ผิดกับคนที่เป็นพยาบาลมาก่อน  เค้าก็บอกเราแล้วว่า ไม่น่าเป็น ไม่ใช่แค่เหนื่อย ไม่ใช่แค่เรียนหนัก  ไม่ใช่แค่อดนอน เสียสละอย่างเดียวไม่พอ อาชีพนี้ต้องอดทนมาก เพราะจะถูกกดดัน จาก คนไข้ ญาติ หรือผู้รับบริการ  บางทีก็โดนหมอดุ ที่คณะพยาบาลต่างๆ วิทยาลัยพยาบาลต่างๆ บูมมาก เพราะพยาบาลขาดแคลน ไม่ใช่แค่เกษียณนะคะ  แต่พยาบาลวิชาชีพลาออกเยอะมาก  เพราะเหตุผลนี้ด้วย ที่สำคัญ  มันเหนื่อยมาก  แต่เหนื่อยก็ไม่เท่ากับความกดดัน  มันเครียดนะคะ เห็นใจพี่พยาบาลผู้นี้ค่ะ ขออภัยกับผู้ที่ไม่เห็นด้วยนะคะ จากคุณ : Cheeksy เขียนเมื่อ : 30 มิ.ย. 55 12:39:25

ความคิดเห็นที่ 67 อ่านบางความเห็นแล้วอยากบอกว่า"ขอแค่ให้เธอได้มาลองทำงานในโรงพยาบาล ไม่ต้องเป็นพยาบาลก็ได้ รับรองว่าเธอจะไม่ปากดีแบบนี้หรอก" ไม่อยู่ในวงการนี้ไม่รู้ซึ้งหรอกค่ะ จากคุณ : เม่าอ้วน เขียนเมื่อ : 30 มิ.ย. 55 13:32:36

ความคิดเห็นที่ 68 จะบอกว่าถ้าไม่เคยรับบริการจากพยาบาลคนนั้นเราคงเห็นใจค่ะ แต่เราเคยเจอกับตัว พยาบาลสาวสวยคนนี้ เราเห็นว่าเค้าพูดจา ทำสีหน้าสีตาแย่จริงๆแหละค่ะ หลายครั้งแล้ว หลังๆนี่เราไม่เข้าไปถามอะไรเค้าเลย เบื่อที่จะต้องอารมณ์เสีย เพราะเธอทำเหมือนเราต้องไปก้มหัวขอร้องให้เธอตอบยังไงยังงั้น ถามพยาบาลคนอื่นที่ใจดีน่ารักกว่านี้ดีกว่า (ไม่รู้จักชื่อ แต่เธอน่ารักมากๆเลย ถึงไม่สวยเท่าก็เถอะ หุหุหุ) จากคุณ : ล่องหนจริงๆนะ เขียนเมื่อ : 30 มิ.ย. 55 13:50:50

ความคิดเห็นที่ 69 ...เข้ามาให้กำลังใจค่ะ จากคุณ : โกโก้เย็นหวานน้อย เขียนเมื่อ : 30 มิ.ย. 55 14:14:12

ความคิดเห็นที่ 70 อ่านกระทู้นั้นแล้ว ก็ยังไม่เห็นว่าคุณพยาบาลพูดผิดตรงไหน จากคุณ : iampkd-bee เขียนเมื่อ : 30 มิ.ย. 55 14:50:41

ความคิดเห็นที่ 71 อันพวกเราเหล่านักเรียนพยาบาลปณิธานอนุกูลเพิ่มพูนผล จากคุณ : sunsis เขียนเมื่อ : 30 มิ.ย. 55 16:08:13

ความคิดเห็นที่ 72 ให้กำลังใจะค่ะ จากคุณ : jackgeo เขียนเมื่อ : 30 มิ.ย. 55 16:44:38

ความคิดเห็นที่ 73 เป็นกำลังใจให้นะคะ สู้ สู้!!! จากคุณ : โลกนี้ไม่มีเหตุบังเอิญ เขียนเมื่อ : 30 มิ.ย. 55 18:22:20

ความคิดเห็นที่ 74 บาปกรรมมันมีจริง หวังว่าตัวซุปเปอร์มัม จะเข้าใจอะไรมากขึ้น รู้จักมองโลกให้ดีๆ หัด ทำตัวเป็นตัวอย่างให้ลูกดูตั้งเเต่วันนี้ ตั้งเเต่เลิกอาฆาต เลิก เข้าข้างตัวเอง  มองคนอื่นให้เหมือตัวเอง ไม่ใช่มองเขาเป็นคนที่รับเงินจากคณ เเล้ว เขาเ ป็น KeeKa พูดจา 2-3คำไม่ถูกใจ ก็ไม่จบไม่สิ้นยิ่งใหญ่มากๆ   รู้จักยอมรับความผิดของตัวเองที่เลี้ยงวลูกไม่เป็น  ทำความสะอาดจิมิ๊ไม่เป็น  ไม่เชื่อหมอตั้งเเต่เเรกว่าเเอทมิต เพราะว่าหมอหน้าเด็ก     ดิฉันก็เป็นเเม่ เเต่ ระลึกตัวเองว่า เราก็เป็นคน ธรรมดา ไม่ได้มีพลัง มารดาพิฆาต ไม่ใช่ว่าเป็นเเม่ เเล้วจะนำมาเป็นข้ออ้างในการประสาทเสีย โวยวาย อาละวาด ลูกค้าโรงบาลทั้งหลาย คุณก็มาขอความช่วยเหลือ ก็ควรมีน้ำใจกับผู็ให้บริการ อย่า หวังเป็นฝ่ายรับฝ่ายเดียวสิ สังคมสมัยนี้ นึกว่ามีเงินก็เป็นพระเจ้ามันถึงเป็นเเบบนี้ไง หัดเอาใจเขามาใส่ใจเรา โลกคงน่าอยู่ขึ้นเนอะคะ จากคุณ : doong เขียนเมื่อ : 30 มิ.ย. 55 20:46:40

ความคิดเห็นที่ 75 50    เรารู้สึกแบบนั้นจริง ๆค่ะ ในบางอารมณ์  เช่นเวลาคนไข้วีน เหวี่ยง หรือ ด่าแบบไม่ให้เกียรติ  แต่ไม่ได้หมายความว่า เราจะไม่ได้ทำตามหน้าที่ของเรา   ที่บอกว่า พ่อ แม่ก็ไม่ใช่ ต้องมาดูแล พยาบาลบางคน  แม่ตัวเอง อาการโคมา ต้องนอน ICU ใส่เครื่องช่วยหายใจ แต่ตัวเองก็ยังต้องมาดูแลคนอื่น บางคนได้แต่ทำงานดูแลคนอื่น ไปๆ มาๆ พ่อ แม่ตัวเองเสีย ไม่ได้กลับไปดูใจซะงั้น เราก็เลยคิดไง ว่าพ่อ แม่ ยังไม่เคยด่า เคยว่าเราขนาดนี้ แล้ว คนไข้มาว่าพวกเราแบบนี้ แถมเรายังต้องดูแลพวกเค้า ไม่ได้กลับไปดูแล พ่อ แม่เราเฮ้อ อย่างตัวเราเองก็เหมือนกัน พ่อ เราเป็นเบาหวาน แม่เราเป็นความดัน ไขมัน เส้นเลือดสมองอุดตัน   บ้านเราเป็พยาบาลหมด แต่ ลูกบ้านนี้ไม่สามารถกลับไปดูแลพ่อ แม่ จากเหตุการณ์หลายๆอย่างที่เจอ ทำให้เริ่มคิดได้ บางทีนะเราท้อๆ เรากอดคอกัน สองพยาบาลพี่น้อง บางทีมันก็อึดอัดจริงๆค่ะ ที่ดูแลคนอื่นได้ไม่สามารถดูแลพ่อ แม่ตัวเองได้ จากคุณ : สบายดีไหม เขียนเมื่อ : 30 มิ.ย. 55 22:18:08

ความคิดเห็นที่ 76 อีก 2 ปีจะออกไปเป็นพยาบาลเต็มตัว รู้สึกหวั่นมิใช่น้อย T^T จากคุณ : tasoshy เขียนเมื่อ : 30 มิ.ย. 55 23:44:17

ความคิดเห็นที่ 77 พยาบาลดีๆ มีเยอะ เหลือบในคราบก็มีค่ะ ...    แล้วถ้าเราต้องเจอประเภทเหลือบ มันลืมไม่ลง จากคุณ : kansakx_aj5 เขียนเมื่อ : 1 ก.ค. 55 00:22:55

ความคิดเห็นที่ 78 ประจานชื่อขนาดนี้ น่าจะฟ้อง..ถ้าเข้าข่าย พรบ.คอมพิวเตอร์ เรื่องไม่จบแค่คดีแพ่งแน่ๆ จากคุณ : อาบน้ำแล้วไม่มีเห็บ เขียนเมื่อ : 1 ก.ค. 55 00:41:16

ความคิดเห็นที่ 79 แหม่ๆ อ่านคคห.บางอันแล้วแสลงลูกตา พยาบาลก็คนนะคู้ณณณณ ไม่ใช่ที่รองมือรองตีน แค่คำว่า เอกชน คุณก็คิดเหรอว่างานเค้าสบายกว่าพยาบาลรพ.รัฐ แล้วไอ้การที่เค้าเลือกที่จะทำงานที่เอกชนที่ได้เงินดีกว่า มันผิดต่อหลักอุดมการณ์ มากเหรอไง ถ้าจะให้เสียสละจริงๆต้องไปอยู่ที่ไกลโพ้นทะเลเท่านั้นเหรอ ถึงจะเรียก ได้ว่าเป็นพยาบาล พยาบาลก็คนนะคร้าบ มีต้องกินต้องใช้ อาจจะมีคนที่ต้องดูแลส่งเสีย มนุษย์ขี้เหม็น ใครๆก็อยากได้ทำงานในที่ดีๆ เงินดีๆทั้งนั้น หรือว่าไอ้คนที่พูดๆมาเนี่ย อยากได้เงินน้อยๆ ทำงานในที่เลวๆครับ?? คุณจะมีอุดมการ์ณบ้าบอโลกสวยอะไร คุณก็มีไปเถิด แต่ไม่ต้องกรุณาไปเหมารวม ผมก็มีลูก และผมก็ใช้บริการที่รพ.นี้อยู่ คุณอาจจะไม่รู้ว่ามันวุ่นวายขนาดไหนในแผนก opd เรื่องกระทู้คุณแม่ท่านั้น แฟนผมมาเล่าให้ผมฟัง แค่ฟังก็รู้แล้วว่ามันน่าจะเป็นแบบไหน เล่ายังเล่าไม่หมดเล้ย อย่าลืมครับ มนุษย์ขี้เหม็นไม่มีคนพูดให้ร้ายตัวเองหรอก ต้องให้ตัวเองดีไว้ก่อนสิ อย่าโลกสวยกันนักเลยคู๊ณณณณ จากคุณ : T@DziLLa-Da-TaDtO เขียนเมื่อ : 1 ก.ค. 55 11:13:52

ความคิดเห็นที่ 80 เวรกรรมจริงๆ. ไม่น่าถึงกับต้องเอาชื่อแซ่มาประจาณเลยนะคะ ส่งให้ รพ นั่นก็ส่วนนึง แต่บอร์ดสาธารณะแบบนี้ไม่สมควรนะคะ จากคุณ : rainswatch เขียนเมื่อ : 1 ก.ค. 55 11:38:01

ความคิดเห็นที่ 81 เป็นแม่คนแล้วยัง "เยอะ" ขนาดนี้ จะเป็นตัวอย่างไม่ดีแก่ลูกนะคะ ลูกสาวด้วยไม่ใช่หรอคะ แย่ค่ะ จากคุณ : แหวะ เขียนเมื่อ : 1 ก.ค. 55 13:22:26 A:115.87.135.28 X: TicketID:360065

ความคิดเห็นที่ 82 ..........ให้กำลังใจเพื่อนร่วมวิชาชีพละกันคะ.... ........ .....เรา เป็นพยาบาลรัฐบาล..ขอบอก เหนื่อยมาก แค่คนไข้น่ารักมาก เอาเป็นว่าเค้าให้ เกียติเรามาก พอมาเป็นพยาบาลเอกชน เหมือนๆจะให้เกียตินะ แต่เค้าก็ดีในบางคน บางคนก็ไม่ให้เกียติเราเลย คิดจะพูดจะว่ายังไงก็ได้ ก็โอเคคุณมาคุณเสียตังค์ พยาบาล ทำได้แค่ยิ้มรับเท่านั้น....บอกตรงๆนะคะ งานหนักพอๆกันนั้นแหละ อยู่รัฐบาลมี พยาบาลเยอะ แต่อยู่เอกชน พยาบาล1คนต้องคุมทั้งแผนก เพราะส่วนใหญ่จะเป็นผู้ ช่วยพยาบาลคอยดูแล เราจึงหนักกว่าเดิมอีกหลายเท่า เฮ้อ อย่าพูดเรื่องเงินเลยคะ คนเรามีความจำเป็นไม่เหมือนกัน......ยังไงๆ พยาบาล ไม่ใช่งานที่สบาย อย่างที่บางคนเข้าใจ นะคะ ...........เหนื่อยทั้งกายและใจ ทำดีเสมอตัวทำชั่วโดนด่าจร้า.... ...........กลอนที่เจ้าของกระทู้ก๊อบมาอะ ไม่ใช่กลอนะคะ ทุกท่านโปรดเข้าใจ คือมาร์ชพยาบาลคะ แค่ได้อ่านตรงมาร์ช รู้สึกขนลุกเหมือนวันจบพยาบาลมายังไงยังงั้น.. .....อันพวกเราเหล่านักเรียนพยาบาล ปณิธานอนุกูลเพิ่มพูนผล เรียนวิชากรุณา ช่วยปวงชน ผู้เจ็บไข้ได้พ้นทรมาน แม้โรคร้ายจะแพร่พิษถึงปลิดชีพ จะยึด หลักดวงประทีปคือสงสาร แม้เหนื่อยยากตรากตรำใจสำราญ อุทิศงานเพื่อคนไข้ทั้งใจกาย จากคุณ : ฟ้าสีคราม เขียนเมื่อ : 1 ก.ค. 55 13:56:20 A:125.27.125.181 X: TicketID:360828

ความคิดเห็นที่ 83 ผม.....นายพยาบาลครับ แวะมาดู เฉยๆๆ เพื่อเป็นกำลังใจให้สู้ๆ จากคุณ : ชิงเยี่ยม (ชิงเยี่ยม) เขียนเมื่อ : 1 ก.ค. 55 19:06:18

ความคิดเห็นที่ 84 แม่เราเป็นพยาบาล เนสเซอรี่ รพ.ดัง แต่อยากบอกว่า ตั้งแต่เล็กจนโต แม่เราไม่เคยว่างเลี้ยงทั้งเราทั้งน้องเลยค่ะ ขึ้นเวรตลอดๆ นมแม่ก็ได้กินแค่ไม่กี่เดือนที่เหลือโตมาด้วยนมตราหมีกระป๋อง แม่เรายังแซวเลยว่า เลี้ยงลูกคนอื่น เช็ดก้น เปลี่ยนผ้าอ้อมลูกคนอื่น แต่ลูกตัวไม่ได้ทำ ฮ่าาา อาชีพนี้เหนื่อยนะคะ บางคนบางครอบครัวสามีไม่เข้าใจทำไมต้องเข้าเวรทำไม หยุดไม่ตรงกะลูก จนถึงขั้นหย่าร้างกันเลยก็มีค่ะ แต่นะทุกอาชีพก็มีดีไม่ดีปะปนกันไป แต่ยังไงพยาบาลก็คนนะจ๊ะ จากคุณ : Ladygirlgib เขียนเมื่อ : 1 ก.ค. 55 19:48:27

ความคิดเห็นที่ 85 วันพุธที่ผ่านมา มีผู้ป่วยAdmit18คน มีพยาบาล4คนคนไข้รวม43คน 1คนฉีดยา แทงน้ำเกลือ เจาะเลือด 1คนตามตรวจกับแพทน์และทำตามแผนการรักษาที่เพิ่มใหม่ ทำจำหน่ายผู้ป่วย 1คนทำแผลวัดไข้ แจกยากิน 1คน รับออเดอร์แพทย์เพื่อเบิกยา คนไข้ห้องพิเศษมาตามไปช่วยล้างก้นครั้งที่1 คนไข้เบอร์2ตามไปปล่อยฉี่ คนไข้ใหม่มาตามบอกปวดมาก คนไข้บางคนไข้สูงมากตามไปเช็ดตัวลดไข้ คนไข้ห้องพิเศษมาตามรอบที่2 ผ่านไปเกือบ1ชั่วโมงช่วยกันทำรับใหม่คนไข้ใหม่เฉพาะวัดไข้ให้น้ำเกลือฉีดยายังไม่ครบทุกคน ญาติพิเศษมาตามอีกรอบ พยาบาลแจ้งว่าตอนนี้ขอให้ญาติทำเองก่อนได้มั้ยเพราะคนไข้ที่เข้ามาตั้งแต่เช้าบางคนยังไม่ได้รับการประเมินเลย ญาติไปฟ้องหัวหน้า และด่าพยาบาลว่าขี้เกียจ ญาติและผู้ป่วยมาใหม่ด่าว่าพยาบาลไม่สนใจคนไข้มันจะปล่อยให้ตายก่อนใช่มั้ยถึงจะมาดู คนไข้จะกลับบ้านก็จะรีบกลับเพราะบ้านนอกรถเข้าออกหมู่บ้านมีจำกัด พยาบาลมันมัวแต่ทำอะไรหมอให้กลับตั้งนานแล้วยังไม่เอายามาให้ หมอด่าพยาบาลว่าทำไมตามตรวจไม่ทันจะถามอะไรที่ต้องเดินมาหา ห้องยาด่าพยาบาลว่าบ่ายแล้วรถยาทำไมยังไม่ส่งออกมาจะจัดยาทันแจกบ่ายมั้ย บอกจริงๆนะเวลาเหนื่อยมันก็มีหน้าบูดกันบ้างเป็นธรรมดา มันยิ้มไม่ออกจริงๆ ยังไงคนไข้ก็ให้อภัยกันบ้างนะคะพวกเราไม่บูดกัน24ชม.หรอกค่ะ พยาบาลไปเป็นลมใส่คนไข้ก็อย่าหาว่าเราสำออยเลยนะคะ เราเหนื่อยกันจริงๆ เราไม่อยากควงเวรเอาโอทีเยอะๆหรอกค่ะ แต่มันไม่มีคนขึ้นเวรจริงๆค่ะโดนบังคับขึ้นค่ะ พยาบาลใส่เสื้อผ้ายับๆก็อย่าหาว่าเราขี้เกียจรีดผ้าเลยนะคะมันรีดไม่ทันจริงๆ555 เป็นกำลังใจให้พี่ๆน้องๆร่วมวิชาชีพค่ะ สู้ๆๆ จากคุณ : เด็กดีของคุณแม่ เขียนเมื่อ : 1 ก.ค. 55 20:18:58

ความคิดเห็นที่ 86 เข้ามาเป็นตัวแทนแจ้งข่าวแทนน้องพยาบาล นะครับ. น้องฝากขอบคุณทุกท่านที่ให้กำลังใจ. เรื่องที่เกิดขึ้นทุกฝ่ายล้วนเสียใจไม่ได้อยากให้เกิดขึ้น. แต่การที่นำชื่อบุคคลอื่นมาโพสต์ในสื่อสาธารณะ. โดยที่เค้าไม่ได้มีโอกาสชี้แจง. นั่นทำให้เกิดความเสียหาย ต่อชื่อเสียง และวิชาชีพ ซึ่งกระทบต่อตัวน้อง. ซึ่งเป็นเรื่องที่จะว่ากันต่อไปตามกฏหมาย. น้องฝากชี้แจงเรื่องการลาออกด้วยว่า น้องได้ตัดสินใจไปเรียนต่อ. ซึ่งเป็นเรื่องที่เตรียมตัวจะเดินทางอยู่แล้ว ไม่ได้เกี่ยวข้องกับกรณีนี้. จากคุณ : จอมยุทธเจ้าสำราญ เขียนเมื่อ : 1 ก.ค. 55 22:39:05

ความคิดเห็นที่ 87 เห็นใจทั้งสองฝ่ายเลยคนหนึ่งตกใจเรื่องลุก...ส่วนอีกฝ่ายคิดว่าไม่เป็นอะไรมาก......เราเคยแท้งคุกคามไปหาหมอ....หมอมาดูพูดสั้นๆ.....ไม่ดีเลยเนอะ........อยากบอกว่ารู้แล้วว่าเลือดออกตอนท้องน่ะมันไม่ดี....แต่พูดให้มากกว่านี้ได้มั้ย..อธิบายให้ละเอียดหน่อยซาวด์ก้อแล้วตรวจก็แล้วบอกได้แค่คำว่า...ไม่ดีเลยนะ....จะมาหาหมอทำไมเพื่อมาฟังคำว่าไม่ดีเลยนะ...แอบเซงทั้งที่เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับต้นเรื่องเลยแค่อยากบอกว่าการสืื่อสารเป็นสิ่งที่จำเป็นมากๆ จากคุณ : แม่อัน เขียนเมื่อ : 1 ก.ค. 55 23:41:53 A:58.9.71.98 X: TicketID:365334

ความคิดเห็นที่ 88 เราก็เป็นพยาบลมาได้ 3 เดือนละคะ บอกตรงๆ แค่ออกจากอ้อมอกอาจารย์มาทำงานเต็มตัวเหมือนคิดผิด อยากย้อนเวลากลับไปตอน ม.6 แล้วไม่เลือกอาชีพนี้ค่ะ แต่ทำไงได้ค่ะ ตอนนั้นไม่รู้ รู้งี้ไม่มา แต่เราก็เป็นแล้ว จบมาแล้ว ได้ใบประกอบวิชาชีพแล้ว  แม้จะบอกว่าไม่ชอบก็ลาออกไป อ้าว ! งั้นขอตัง 1 ล้านค่ะ(พอรึเปล่ายังคิดดูก่อนเลยสมัยนี้) ทุกวันนี้ทำงานด้วยหน้าที่ แต่ใจรักน่ะลดลงไปแล้วต้องยอมรับ กำลังเก็บเงินอยู่ค่ะจะไปลงทุน หรือเล่นหุ้นสักอย่าง เมื่อถึงเวลาคงออกเหมือนกัน บ่นอะไรยาว จากคุณ : ลูกกระปุก เขียนเมื่อ : 26 ก.ค. 55 18:21:55