ความคิดเห็นที่ 1 บอกน้องคนนั้น .. เรื่อง "พรากผู้เยาว์" ติดคุกหัวโต บอกพ่อแม่น้องคนนั้น ... ให้เลิกพาลูกมาเรียนได้แล้ว  ไม่งั้นซักวัน ! . จากคุณ : สวยสะพรึง เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 55 15:40:31

ความคิดเห็นที่ 2 คงไม่่ใช่ความรักค่ะ อาจเป็นเพราะหลงรูปร่างหน้าตา บางทีความเอ็นดูมันก็คล้ายๆกับความรัก ป.5ยังเด็กมากนะคะ อย่าทำให้น้องเค้าเสียการเรียน เสียวัยอันควร ให้เค้าได้มีโลกใสๆไร้เดียงสา ดีกว่าเป็นเด็กแก่แดดก่อนวัย จากคุณ : nating เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 55 15:57:08

ความคิดเห็นที่ 3 คุกนะน้อง จากคุณ : แม่หญิงฟุ้งซ่าน เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 55 15:59:12

ความคิดเห็นที่ 4 ชอบได้ค่ะ แต่ต้องไม่ทำให้เด็กเค้าเสียอนาคต ควรแนะนำให้ ฝ่ายชาย ต้องตั้งอยู่ในกรอบ อยู่ในศีล ดูแลเด็กคนนั้น ให้เป็นเด็กดี อย่าพาเค้าออกนอกลูกนอกทาง ป.5 แล้ว กำลังจะเป็นวัยรุ่น วัยหัวเลี้ยวหัวต่อ ถ้าเด็กมีใจให้ ชักจูงง่ายค่ะ ดังนั้น ต้องคอยระวังอย่าชักจูงไปในทางที่ผิดๆ ดูแลกันไป ถ้ารักจริง ต้องรอได้ จากคุณ : เด็กป.สี่ เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 55 15:59:16

ความคิดเห็นที่ 5 ไม่ใช่รัก เป็นอารมณ์ชั่ววูบแบบว่าเกิดถูกใจ และเป็นความชอบเด็กๆของผู้ใหญ่ อัตรายนะคะ ผู้ชายคนนี้คงไม่รู้ตัวว่า ชอบของแปลกที่เด็กกว่า ควรเลิกติดต่อเด็กได้แล้ว.. ทำให้เด็กคนนั้น "ใจแตก" ครุ่นคิดแต่เรือ่งผู้ชายคนนี้ แล้วจะกู่ไม่กลับค่ะ บอกพ่อแม่เด้กด้วยค่ะ เรือ่งแบบนี้อันตราย จากคุณ : JidNince เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 55 16:08:05

ความคิดเห็นที่ 6 เด็กกำลังเรียนอย่าไปเบี่ยงเบนความสนใจเค้าเลยค่ะ จากคุณ : หมาแม่กลอง เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 55 16:22:33

ความคิดเห็นที่ 7 รักเค้า หวังดีกับเค้า อย่ายุ่งกับเขา รักจริง ให้รอ ไม่นานหรอก สิบปีเอง จากคุณ : My Sea Lion เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 55 16:24:33

ความคิดเห็นที่ 8 อย่าให้พ่อ-แม่เค้าเสียความไว้วางใจ  อยู่ปี 3 แล้วน่าจะคิดได้ว่าอะไรควรไม่ควร จากคุณ : อะไรกันผู้หญิงคนนี้ เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 55 16:30:07

ความคิดเห็นที่ 9 ดิฉันมีลูกสาว รู้สึกว่าเพื่อนคุณอันตราย โทรไปชวนเด็กคุยเป็นชั่วโมง(เเล้วเด็กเอาเวลาไหนดูหนังสือ) พาเด็กไปเที่ยว น่ากลัว โชคดีที่นอนห้องเดียวกับลูกจึงรู้เห็นพฤติกรรมของลูกด้วย อยากให้คุณเตือนรุ่นร้องของคุณนะ เจอข้อหาพรากย์ผู้เยาว์เราว่าธรรมดา เเต่ให้คิดถึงอนาคตของเด็กผู้หญิงคนนั้นว่าเขาจะมีสภาพเป็นอย่างไร จากคุณ : Hana* เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 55 16:35:04

ความคิดเห็นที่ 10 กรรม ... ความรัก...ห้ามกันไม่ได้ แต่...ความรู้สึกผิด ชอบ ชั่ว ดี ยังพอยับยั้งกันได้ จากคุณ : ชะเอมน้อยกลอยใจ เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 55 16:37:38

ความคิดเห็นที่ 11 ไม่แปลกใจเท่าไหร่ เด็กสมัยนี้โตเร็วเป็นสาวเร็วมาก ป.ห้านี่มีประจำเดือนแล้ว อย่างไรก็ตามถ้ารักจริงก็ต้องรอได้ น่าจะห่างกันซักสิบปีมั่ง 12กับ22 มันไม่เหมาะสม รอก่อนซัก 22กับ32 จากคุณ : Princess Moo เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 55 16:38:57

ความคิดเห็นที่ 12 เด็กป5 อายุคงประมาณ 11 เอง เพื่อนคุณมีอาการทางจิตแบบที่เรียกว่า โลลิต้า คือชอบเด็กที่ยังไม่เป็นสาวค่ะ อาการนี้น่ากลัวมาก น่ากลัวตรงที่จะทำให้เด็กเสียคนและติดคุกได้ง่ายๆ แนะเขาไปว่าเลิกโทรไปซะ ควงเด็กประถมไม่อายคนเหรอ เดี๋ยวคุกถามหานะ พูดให้เสียเซลฟ์ไปเลย อีกอย่างไปยุ่งกะนักเรียนนี่ผิดจรรยาบรรณมาก ไม่ไหวๆ อ่านแล้วคงไม่ส่งลูกเรียนกะนักศึกษาหนุ่มๆแล้ว หลอนนน จากคุณ : Rada Nene เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 55 16:41:42

ความคิดเห็นที่ 13 เราเข้าใจ เพราะอะไรรู้ไหม เพราเด็กเดี๋ยวนี้มันแก่แดดไง อันนี้คือเรื่องจริงที่ต้องยอมรับ ในสายตาพ่อแม่ เด็กก็น่ารักตามประสาเด็ก แต่ตอนที่คุยกับรุ่นน้อง จขกท เธอจะแก่แดดไปแค่ไหน ก็ไม่มีใครรู้นะ บอกก่อนว่าเราไม่ได้เข้าข้าง ผู้ชาย แต่ตามสถิติ การมีเพศสัมพันธ์ของเด็กไทย ช่วงอายุ 10-12 มีจำนวนเยอะจนน่าตกใจ เราเลยบอกว่าเด็กเดี๋ยวนี้มันแก่แดดไง อาจจะเลียนแบบละครหรือสื่อต่างๆ จขกท ต้องไปบอกรุ่นน้องว่า ถ้ารักเด็กคนนั้นจริง ต้องรอจนกว่าน้องเขาจะแต่งงานได้ รักเด็ก ชอบเด็ก ไม่มีใครว่าหรอก แต่การกระทำในช่วงอายุที่ไม่่สมควรแก่น้องเขา มันคือการไม่ให้เกียรติทั้งพ่อแม่ตัวเอง ทั้งตัวน้องเขา และพ่อแม่ของน้อง รักจริงหวังเเต่ง ต้องอด ถ้าใจร้อน ก็รีบทำงานเก็บเงิน ไปขอหมั้นน้องเขาไว้ก่อน รอน้องเขาเรียนจบ ก็แต่งได้เลย แต่ต้องไม่เกินเลยไปกว่านี้นะ หวังว่ารุ่นน้อง จขกท จะไม่ใช่แค่พวกโลลิบ้ากาม จากคุณ : darkheart เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 55 16:51:20

ความคิดเห็นที่ 14 เหมือน ดอกโศก เลย  :) จากคุณ : กิ่งท้อ...บนยอดหญ้า เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 55 17:02:39

ความคิดเห็นที่ 15 ปี3เป็นแฟนกับเด็กม.5ยังแปลกเลย สังคมมันก็คนละสังคมแล้ว แล้วนี่ป.5 ถามจริง ที่มหาลัยมันอาภัพขนาดไม่มีใครมองเลยหรอน้อง จากคุณ : morganite เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 55 17:11:12

ความคิดเห็นที่ 16 สงสารพ่อแม่เด็กจังค่ะ เค้าจะรู้มั้ยคะว่า อาจารย์ของลูกสาวเค้าคิดแบบนี้ ไม่ได้ว่าไม่ดีนะคะ แต่กลัวใจอาจารย์จะเผลอไผล อารมณ์พาไป กู่ไม่กลับ กระเจิดกระเจิงแล้วทำให้... ไม่อยากคิดต่อแล้วค่ะ จากคุณ : กะลาสีรุ้ง เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 55 17:34:43

ความคิดเห็นที่ 17 ป.5 นี่สิบขวบเองนะ ถ้ายังไงให้เลิกติดต่อไปเลยดีกว่าค่ะ บอกว่ามันเป็นไปไม่ได้และสังคมจะประนามเขา ให้สติดีกว่าค่ะ ยังไงพ่อแม่เขา สังคมรอบข้าง รับไม่ได้อยู่แล้วค่ะ จากคุณ : la-la-bell เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 55 18:01:38

ความคิดเห็นที่ 18 ปล่อยให้เด็กคิดเรื่องเรียนก่อนดีกว่านะ จากคุณ : ผักบุ้งฮาเฮ เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 55 18:04:00

ความคิดเห็นที่ 19 ถ้าเค้ามีน้องสาวยุป.5เช่นกัน และผมยืนยันว่าผมรักน้องสาวเค้าด้วยความจริงใจ และขอโทรคุยแล้วขอพาไปเที่ยว...เค้าจะยอมไหม๊ บร้า...ไปแล้ว...อย่าหื่นกันนักเลย อะไรที่จะพิสูจน์ได้ว่ารักจริง..รักแท้..จริงใจ ความเหมาะสม...ควรรึไม่ควรยังคิดไม่ได้เลย จากคุณ : S (santhapapa) เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 55 19:05:42

ความคิดเห็นที่ 20 แต่ก็อย่างว่าแร๊ะคะเด็กสมัยนี้ ทรวดทรงองเอวโตเกินวัย    ถ้าเมียบกับเราสมัยเด็กๆเรายัง ไม่มีทรวดทรงอะไรออกเลย จากคุณ : มุกกิ มุกกิ เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 55 19:27:30

ความคิดเห็นที่ 21 สำหรับเรา เราเข้าใจนะว่าความรักมันห้ามไม่ได้ หรือถึงแม้มันจะไม่ใช่ความรักก็ตามเถอะ แต่อย่างที่หลาย ๆ คนแสดงความเห็นไว้ เราเห็นด้วยนะ ว่ารุ่นน้องคุณควรจะยับยั้งชั่งใจตัวเองก่อน ลองค่อย ๆ หักใจให้โทรน้อยลงก็ได้ กำหนดเวลา limit ให้น้องเขาได้มีเวลาทบทวนบทเรียนมากขึ้น จากคุยเป็นชั่วโมง ก็อาจเหลือครึ่งชม.ก่อน ไม่น่าจะเหนือบ่ากว่าแรงนะ หลังจากนั้นค่อยลดลงเหลือ 10 นาที หรือวันเว้นวันก็ได้ แล้วค่อย ๆ ห่างออกทีละนิด ให้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์ว่า ถึงแม้จะนานหรือไม่ค่อยได้คุยกันแล้วความรู้สึกนี้มันจะยังอยู่รึเปล่า แต่สิ่งหนึ่งที่อยากให้รุ่นน้องคุณเตรียมใจไว้แน่ ๆ คือ น้องเขายังเด็ก หลังจากจบประถม เข้ามัธยม และ มหา'ลัย ยังมีโอกาสพบปะผู้คนอีกมาก มันมีโอกาสสูงอยู่นะ ที่สักวันน้องเขาจะหันไปสนใจคนอื่น ถึงเวลานั้น รุ่นน้องคุณจะรับได้มั้ย? จากคุณ : maimao19 (maimao19) เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 55 19:37:32

ความคิดเห็นที่ 22 ป 5 O_O /me อ้าปากค้างแล้วจากกระทู้ไปงงๆ จากคุณ : BigSom เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 55 19:47:35

ความคิดเห็นที่ 23 ไม่ผิดแต่ยังไม่ถึงเวลาค่ะ เราว่าอายุรุ่นน้องคุณกับหนู ป. 5 น่าจะห่างกันประมาณ 10 ปี เราก็เห็นหลายคู่ห่างกันประมาณนี้เยอะ แต่ ๆๆๆๆๆ มันไม่ใช่ผู้หญิง 10 ขวบ กับผู้ขาย 20 อันนี้มันเข้าข่ายโรคจิคและผิดกฎหมาย ถ้ารุ่นน้องคุณรักหนู ป.5 จริง ก็"ต้อง"รอให้เค้าบรรลุนิติภาวะก่อนค่ะ และในฐานะที่เรามีลูกสาว รุ่นน้องคุณทำเรากลัวค่ะ จากคุณ : lilly~tree เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 55 20:11:45

ความคิดเห็นที่ 24 ผมลองไปถามรุ่นน้องผมว่าถึงขึ้นไหนกันแล้ว เขาตอบว่าแค่กอดกันเฉย ๆ ผมเลยลองแนะนำพูดประชดว่าคุกนะ เลิกโทรหาเด็กคนนั้นดีกว่า เค้าบอกว่าคนเคยคุยกันทุกวัน พอไม่ได้คุยกันมันเหมือนขาดอะไรไปอย่างไม่รู้ พอดีพ่อเด็กผมพอรู้จักบ้าง บอกว่าลองหาที่กวดวิชาที่อื่นดู พ่อแม่เด็กบอกว่าเคยลองแล้ว เพราะเด็กเกตุวิชาอื่นเริ่มตกลง พ่อแม่เลยอยากให้เด็กไปเรียบเสริมวิชาอื่นบ้าง และงดให้เด็กไปติวกับรุ่นน้องผม เด็กคนนั้นก็เลิกสนใจตั้งใจเรียน พ่อเด็กคิดว่าคงติดเพื่อนที่เรียนพิเศษด้วยกันกับรุ่นน้อง เลยทำให้เกิดอาการน้อยใจที่ไม่ให้เขาไปเรียนพิเศษ พ่อเด็กเลยพาไปบ้างไม่ไปบ้าง และที่เด็กเรียนเกรดตกลง จากที่เคยได้ ไม่ต่ำกว่า3.80 เหลือ 3.00 - 3.20  เพราะเขาคิดว่าวิชาอาจยากขึ้นทำให้เด็กเค้าเรียนตกลง ผมอยากจะบอกความจริงให้พ่อแม่เด็กรุ้ ก็กลัวว่าเขาจะโกรธ และไปต่อว่ารุ่นน้องผม และผมกับรุ่นน้องจะเ้ข้าหน้ากันไม่ติด จุกอกอย่างไรไม่รู้ครับ จากคุณ : ปวดตับเพราะตั้งชื่อ เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 55 20:24:09

ความคิดเห็นที่ 25 อย่าเพิ่งกอดได้ไหม -*- จับมือก็ไม่ควรนะ อายุแค่นี้ ถ้าเตือนรุ่นน้องเเล้วมันไม่ฟัง ขู่จะเเจ้งตำรวจเลยน่าจะดี เด็กมันนึกว่าเล่นรึเปล่า เลยให้กอด แต่เราว่า อย่าโดนตัวกันดีที่สุดนะ เดี๋ยวรุ่นน้อง จขกท ระงับความชั่วไม่อยู่ จะทำบาปทำลายชีวิตตัวเองและเด็กเอาได้ จากคุณ : darkheart เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 55 20:31:37

ความคิดเห็นที่ 26 คิดว่ายิ่งห้ามก็คงเหมือนยิ่งยุ แต่คุณน่าจะขอให้เพื่อนคุณถอยออกมาดูให้ดีก่อนนะคะ ถ้าเพื่อนคุณชอบน้องเขาจริงๆ ก็ควรจะมุ่งมั่นตั้งใจเรียน และพาน้องเค้าเรียน ไม่ใช่ให้เลิกชอบแต่ให้มันเป็นรักข้างเดียวไปก่อน อย่าพึ่งไปสานต่อ เรียนให้จบและรอเวลาที่เหมาะสมที่จะคบหากัน คนรักกันอายุห่างกันเป็นรอบๆ มีถมเถไป   แต่ตอนนี้ยังไม่ใช่เวลาสำหรับน้องผู้หญิงที่จะมุ่งมั่นหรือเรียนรู้เรื่องพวกนี้ในวัยนี้ คุณน่าจะขอให้เพื่อนคุณเก็บความรู้สึกส่วนนี้ไว้และรอเวลาให้น้องเขาเติบโต ให้วัยวุฒิของน้องเขาเหมาะสมก่อน และไม่ควรปล่อยให้ทั้งสองไปไหนมาไหนกันตามลำพัง คุณควรจะไปด้วยทุกครั้งที่ทำได้  หรือถ้าเพื่อนคุณจริงใจกับน้องเขาจริงๆ เวลาไปไหนมาไหนก็ควรจะชวนกันไปเป็นกลุ่ม  ให้เด็กผู้หญิงชวนเพื่อนมาด้วยทุกครั้ง จากคุณ : usdank เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 55 20:32:51

ความคิดเห็นที่ 27 ป.5 พระเจ้าช่วย น้องปี3ไม่มีแฟนหรอคะทำไมถึงไปชอบเด็ก แล้วกอดกันแบบแฟนหรอค่ะ เพื่อนคุณนี่น่ากลัวจริงๆ จากคุณ : kiss*sa น่ารัก เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 55 20:36:09

ความคิดเห็นที่ 28 หลง จากคุณ : rain_gutters เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 55 21:20:28

ความคิดเห็นที่ 29 ถ้ากอดได้แล้ว  ที่เหลือก็คงไม่ยากหรอกค่ะ ไม่อยากจะคิดเลย  : { จากคุณ : Mintnyminnie เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 55 21:25:56

ความคิดเห็นที่ 30 โห ถ้ามีใครมาคิด มากอดลูกสาวเราแบบนี้ บอกตรง ๆ อกจะแตก รบกวน จขกท. ช่วยแจ้งคุณพ่อ คุณแม่เด็ก เพื่อหาทางแก้ไขดีกว่าค่ะ กลัวว่าหากเกิดอะไรไม่งาม มันเรียกเอาคืนไม่ได้ ส่วนตัว เข้าใจเรื่องความรักนะคะ แต่น้องเพิ่งจะ ป.5 ตัวเองอยู่มหาวิทยาลัยปี 3 แล้วมากอดลูกสาวเค้าเนี่ย มันถูกต้องเหรอคะ เจตนาคืออะไรกันแน่ เฮ้อออ ฟังแล้วเครียดแทนพ่อแม่น้อง ป.5 คนนี้จัง แก้ไขเมื่อ 29 มิ.ย. 55 21:40:46 จากคุณ : An ordinary life เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 55 21:39:40

ความคิดเห็นที่ 31 ได้โปรดบอกพ่อแม่น้องเถอะค่ะ ก่อนที่อะไรมันจะสายเกินไป เรากลัวแทนอะ จากคุณ : กุลกวิน เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 55 21:43:53

ความคิดเห็นที่ 32 ควรบอกพ่อแม่เด็กค่ะ แต่บอกท่านว่าอย่าไปดุ หรือกีดกันแบบเปิดเผยให้ค่อยๆ กันเด็กออกมาค่ะ สมัยเพื่อนเราเป็นนักเรีบนหมอก็สอนเด็กแถวบ้านม.5 แล้วพ่อแม่เด็กไว้ใจมาก สอนในบ้านกัน 2คน ไปๆมาๆ ท้อง แล้วไปทำแท้งค่ะ แม้ว่าจะรักกันจริงก็ตามที จากคุณ : MMTaro (MMTaro) เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 55 21:46:03

ความคิดเห็นที่ 33 คุกๆๆ เด็กจะยอมหรือไม่ ก็คุกนะคะ เราไม่คิดว่าเค้าชอบเด้กคนนั้นจริงๆ แบบจริงใจ ถ้าจริงใจ รักแท้ ต้องเข้าใจสิ ว่าน้องแค่ ป.5 เค้ายังเด็ก จะไปกอดเค้าทำไม หื่นชัดๆ ถ้าเป็นลูกเรา ไอ้หมอนี่มาทำอย่างนี้ โดนยิงทิ้งไปแล้ว จากคุณ : แม่น้องอัณณา เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 55 22:13:47 A:101.108.114.121 X: TicketID:258399

ความคิดเห็นที่ 34 คือจริงๆ เราว่ามองได้สองทาง คือหนึ่งเด็กอาจจะไม่ประสีประสาจริงๆ ด้วยความเป็นเด็ก ไม่เข้าใจว่าอีกฝ่ายคิดยังไงกับเค้า โทรมาก็คุย พาไปเที่ยวก็ไป คือเค้าไม่ได้คิดอ่ะ ว่าผู้ชายคิดไปถึงไหนแล้ว กับอีกอย่างคือ เด็กโตแล้ว และอยากรู้อยากเห็น อยากลอง ไม่ได้คิดยับยั้งชั่งใจ หรืออาจจะฟังเพื่อนพูดมา ดูคนที่โตกว่าเค้าทำกัน ก็อยากจะทำตาม ซึ่งเราว่ารุ่นน้องคุณ จขกท นั่นแหละต้องรู้ว่าอะไรควรอะไรไม่ควร เพราะโตแล้ว น่าจะคิดเองได้ เด็กป. 5 เองนะคะ น้องเค้าควรจะโฟกัสเรื่องเรียน และยังไม่ถึงเวลาคิดเรื่องแบบนี้ เราว่าถ้าเป็นเรา เราจะบอกพ่อแม่น้องเค้าอ่ะค่ะ เพราะเราว่ามันไม่ถูกไม่ควร ยิ่งมีการโทรไปคุย มีการถึงเนื้อถึงตัว ตัดไฟแต่ต้นลมดีกว่า ปล. เราแค่มองในมุมของคนที่มีหลานสาวเกือบๆ จะ ป. 5 แล้วเหมือนกัน น้องโตไวมาก สูง ผมยาว ขาวและน่ารักมาก ถ้ามีคนมาคิดอะไรแบบนั้นกับหลานเรา เราคงรู้สึกไม่สบายใจที่จะให้เค้าอยู่ใกล้ๆ ด้วย แก้ไขเมื่อ 29 มิ.ย. 55 22:18:48 จากคุณ : CutieAngel เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 55 22:16:56

ความคิดเห็นที่ 35 ในฐานะ แม่ที่มีลูกสาว บอกได้คำเดียวว่า กลัว จริง ๆ ลูกสาวเรา 5 ขวบ ไปที่ออฟฟิศ แล้วเจ้านายผู้ชายมากอดมาหอมด้วยความเอ็นดู ซึ่งก็เข้าใจว่าเขาเอ็นดูจริง ๆ แต่ก็ไม่ชอบ ไม่อยากให้ลูกรู้สึก ชิน กับการที่ถูกผู้ชายอื่นที่ไม่ใช่ พ่อ กอดหรือ หอม ค่ะ.  แต่นี่ชายอื่น มากอดด้วยความรู้สึกเสน่หา ในขณะที่ลูกเริ่มเป็นสาวแล้ว รับไม่ได้ค่ะ อยากให้บอกรุ่นน้อง ตัดใจ ไปคบคนวัยเดียวกันค่ะ พูดกันตรง ๆ ไปเลย จากคุณ : อยากเป็นนางฟ้าสำหรับเธอ เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 55 22:53:29

ความคิดเห็นที่ 36 เด็ก ป.5 น่าจะอายุราวๆ 11 ปี เด็กมหาวิทยาลัยปี 3 น่าจะอายุราวๆ 20 ปี อายุต่างกัน 9 ปี ถ้าเป็นวัยทำงานแล้ว อายุห่างกันเท่านี้ก็ไม่ได้ห่างกันมาก บอกน้องที่เรียนหมาวิทยาลัยนะคะ ว่าให้รอไปก่อนสัก 10 ปี แล้วค่อยเริ่มต้นจีบน้องแบบจริงจังค่ะ ^__^ จากคุณ : sunisaogkim เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 55 23:15:55

ความคิดเห็นที่ 37 กลับมาอ่านอีกที โอยย กอดกันแล้ว..... รุ่นน้องคุณอยู่ในวัยที่สตาร์ทติดง่าย อย่าทำให้อารมณ์เรื่องเพศของเค้ามาชักจูงให้เด็กอยากรู้อยากลองเลย ลองคิดดูสิ ถ้าวันนึงเค้า2คน ห่างหรือแยกจากกัน แล้วน้องผู้หญิงจะเป็นยังไง.. เค้าเคยลองมาแล้วจะไปลองกับคนอื่นอีก เค้าก็คงไม่คิดว่ามันผิด กลัวว่าน้องเค้าจะกลายเป็นเด็กใจแตกไปซะก่อน ดูผลการเรียนแล้ว น้องเค้าเรียนเก่งนะ อนาคตไปได้ไกล ถ้ารุ่นน้องคนนั้นรักจริง ต้องรอได้ ไม่ทำอะไรเกินเลย สอนหนังสือ และคบกันแบบเพื่อนแบบพี่ไปก่อน จากคุณ : nating เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 55 23:32:16

ความคิดเห็นที่ 38 รักจริง ต้องรอได้ เป็นคำที่สวยหรู แต่ความเป็นจริงส่วนใหญ่จะมีใครทำได้ ในเมื่อผู้ชายเองก็กลัวถ้านานไปผู้หญิงจะไม่รักเหมือนเก่า ก็มักจะเครมเอาไว้ก่อน ส่วนผู้หญิงเองเด็กสมัยนี้ก็อยากจะลองอยู่แล้ว แต่ถ้าไปห้ามเด็ดขาดก็เหมือนไปกันอะไรอีก อาจจะเตลิดกว่าเก่า ลำบากมากถ้าตัวเด็กคิดไม่ได้เอง จากคุณ : sex เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 55 23:41:52 A:223.204.57.178 X: TicketID:165031

ความคิดเห็นที่ 39 โอ้!!!กอดกันแล้ว เพื่อนคุณนี่เยอะนะคะ บอกพ่อแม่เด็กเถอะค่ะ ก่อนที่จะลุกลามมากกว่านี้ สงสารเด็ก แต่สงสารพ่อแม่เด็กมากกว่า น่ากลัวจังสังคมสมัยนี้ อย่าว่าโลกสวยเลยนะ จากคุณ : AmmAmmMekkrajai เขียนเมื่อ : 30 มิ.ย. 55 00:18:11

ความคิดเห็นที่ 40 (ไอ) .....   คุก คุก คุก คุก ,,,,,,,,,,,,,,,! จากคุณ : Monii (monii) เขียนเมื่อ : 30 มิ.ย. 55 00:35:13

ความคิดเห็นที่ 41 ตอนแรกคิดว่าพิมพ์ผิดอะค่ะ นึกว่ามอห้้า แหกตาดูอีกรอบ แม่เจ้า...จริงๆแล้วเพราะใกล้ชิดรึป่าวค่ะ แต่แปลกมากอายุห่างกันขนาดนั้น  จริงๆน่าจะเหนเปนน้องนุ่งอะไรอย่างนี้ เอ่อพูดไม่ออก...เพื่อน จขกท แปลก!!!!!!!มากอะค่ะ จากคุณ : atta (sharnack) เขียนเมื่อ : 30 มิ.ย. 55 02:36:40

ความคิดเห็นที่ 42 เพื่อนจขกท.มัน โคตรเห็นแก่ตัว... ความกลัวที่จะไม่ได้กินเด็กในอนาคต เลยพยายามที่จะทำความสิทสนมกับเด็ก ให้ก้าวไปไกลกว่าการกอดกัน.. ไม่มีหรอกที่แค่กอดกัน.. เมือ่กอดแล้วต้องมีเกินเลย กอดก็คือการเอาตัวมาแนบกัน สัมผัสกันใกล้ชิดขนาดนั้น ผู้ชายนั่นแหล่ะมันต้องการจะเอาเด็กก่อนที่เด็กจะโตกว่านี้ เขาก็จะไปทางของเขา เจอโลกที่กว้างไกลกว่า... แต่เพื่อจขกท. มันเห็นแก่ตัว สันดานผู้ชายที่อยาก "เอาชนะ" ใจเด็ก และมากกว่านั้นด้วย จขก?งผิดด้วยนะ ที่รู้ว่าเพื่อนทำแบบนี้ แล้วยังไม่กล้าไปบอกพ่อแม่เด็ก... ปล่อยให้พ่อแม่เด็กเข้าใจผิด คิดว่าเพื่อนจขกท. เป็นคนดี สงสารเด็กอ่ะ ที่จะต้องมาใจแตก และอาจจะเสียตัวในอนาคตอันใกล้นี้ เพราะเพื่อนจขกท. พยายามรุกก่อนที่เด็กจะหลุดมือไป เสียดายความบริสุทธิ์ของเด็กสาวคนนี้ค่ะ จากคุณ : JidNince เขียนเมื่อ : 30 มิ.ย. 55 03:53:17

ความคิดเห็นที่ 43 เขายังเด็กไปกอดเขาเเล้ว จะบอกว่าเด็กมันให้ท่า มันเเต่งตัวยั่ว เด็กมันทรวดทรงองค์เอวยังกะสาวๆคุณไม่มีมีสิทธิ์ไม่ทำอะไรเด็ก เพื่อนคุณเป็นผู้ใหญ่กว่าน่าจะยับยั้งชั่งใจ คนดีๆไม่คิดอกุศล เขาไม่ทำเเบบนี้กันหรอก เด็กผู้หญิงตกอยู่ในที่อันตรายเสียเเล้ว มีคุณที่จะช่วยเขาได้นะ อ่านเเล้วก็ได้เเต่สงสารเด็ก เขาคงไม่รู้หรอกว่าผู้ชายคนนี้อันตราย จากคุณ : Hana* เขียนเมื่อ : 30 มิ.ย. 55 06:24:10

ความคิดเห็นที่ 44 ถามว่าจะแนะนำน้องเค้าอย่างไรดี ขอตอบว่าถ้ารักเด็กคนนั้นจริงๆ ก็ขอให้รอได้ไหมคะ รอจนเด็กโตก่อน รอสักสิบปี ฉันมองว่าน้องคงจะรักเด็กคนนั้นจริงๆ แต่.. แต่เด็กคนนั้นจะรักรุ่นน้อง จขกท.จริงๆหรือเปล่าล่ะ อาจเป็นแค่ความใกล้ชิด พอเด็กคนนั้นโตขึ้น ได้พบปะเพ่อนๆมากขึ้น เค้าอาจจะไม่รักคุณก็ได้ เคยคิดเรื่องนี้ไหม จากคุณ : kangsom เขียนเมื่อ : 30 มิ.ย. 55 09:21:13

ความคิดเห็นที่ 45 ถ้ารุ่นน้องคุณยังอยู่ในกรอบได้ก็ถือว่าไม่ผิด แต่ไอ้การที่โทรไปคุยกับน้องเขาเป็นเวลานานๆน่ะผิด รักก็ต้องดูแลให้น้องเขาอยู่ในกรอบ ปกป้องน้องเขาให้พ้นจากช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ นำน้องเขาไปสู่อนาคตที่ดี เมื่อน้องเขาอยู่วัยทำงานแล้วคราวนี้คุณจะทำอะไรน้องเขาก็ไม่ผิดหรอกครับถ้าน้องเขายินยอม แต่นี่มันยังเด็กอยู่เลยไปกอดเขาก็ไม่สมควรแล้ว แต่คำถามก็คือว่าเมื่อน้องเขาเติบโตแล้วมีแฟนเป็นตัวเป็นตน รุ่นน้องคุณจะยอมรับสิ่งที่น้องเขาเลือกได้ไหม ถ้าน้องเขามองรุ่นน้องคุณเป็นแค่พี่ชาย ถ้าไม่ก็แนะนำให้ห่างไปซะตั้งแต่วันนี้ ไม่อย่าให้เกิดคดีอาชญากรรมในอนาคต แก้ไขเมื่อ 30 มิ.ย. 55 09:41:31 แก้ไขเมื่อ 30 มิ.ย. 55 09:41:06 จากคุณ : jubchay เขียนเมื่อ : 30 มิ.ย. 55 09:39:23

ความคิดเห็นที่ 46 ป.5 เฮ้อออ -*- จากคุณ : LAPD21 เขียนเมื่อ : 30 มิ.ย. 55 10:27:05

ความคิดเห็นที่ 47 11  ขวบ นะคะ พ่อแม่เขารู้ว่ากอดลูกสาวเขาคงไม่ยอมหรอก  คุกนะ น้องยังเด็กอยู่ด้วย ควร บอกพ่อแม่เขานะจะได้แก้ไขได้ทัน ให้เด็กตั้งหน้าตั้งตาเรียนดีกว่าอนาคตเขายังอีกไกล เพื่อนคุณนะที่ว่ารักนะ รักหรือหลงหรือคลังไคล้ กันแน่ ถ้ารักน้องเขาก็ต้องปล่อย ให้น้องเขาใช้ชีวิต ที่กำลังจะเติบโต ในความดูแลของพ่อแม่น้องเขาดีกว่า จากคุณ : bell-ban เขียนเมื่อ : 30 มิ.ย. 55 10:54:42

ความคิดเห็นที่ 48 มีเพื่อนบอกว่า ถ้ามีลูกสาวจะไม่ให้เรียนพิเศษกับครูผู้ชาย2ต่อ2เด็ดขาด ไม่ว่าวิชาอะไร จากคุณ : la-la-bell เขียนเมื่อ : 30 มิ.ย. 55 11:23:30

ความคิดเห็นที่ 49 ถ้าชอบไม่ผิดหรอก ถ้าใคร่น่ะผิด อย่าง นภ พรชำนิ ก็มีเมียเด็ก ผมเคยฟังว่าพี่แกเจอเมียตั้งแต่ยังตัวกะเปี๊ยก ป.5 ป.6 นี่แหละ ก็รู้สึกว่าน่ารักสดใสดี พอโตก็ค่อยคบเป็นแฟนแต่งงาน ถ้ารุ่นน้องคุณรักจริง ก็ต้องปรารถนาดีต่อน้องเค้า ซึ่งถ้าปรารถนาดีก็ต้องรู้ว่าที่ควรทำคืออะไร ส่งเสริมให้น้องเค้าเรียนดี อยู่ในสังคมดีๆ ป้องกันน้องเค้าจากคนไม่ดี สักม.ปลายค่อยคบเป็นแฟนแต่ไม่ทำอะไรเกินเลยก็ยังไม่น่าเกลียด แต่นี่หากไปทำให้กลายเป็นเด็กใจแตก หรือทำให้กลายเป็นเด็กเกไม่สนใจเรียน และใช้ชีวิตให้มีความสุขสมกับวัย อันนี้ผมว่าคุณจขกท.ควรจะเลือกความถูกต้อง มากกว่าจะเลือกความเป็นเพื่อนนะครับ อาจจะเตือนรุ่นน้องก่อน หากไม่ยอมฟังดึงดันจะเกินเลย ต้องบอกพ่อแม่น้องเค้าแล้ว เพราะนอกจากจะถือเป็นอาชญากรรมแล้ว ยังเป้นแค่ไอ้หื่นที่ต้องการเด็กประถม โดยไม่ได้รักหรือชอบเลย จากคุณ : ผมไม่ใช่คนดี แต่เป็นคนธรรมดา เขียนเมื่อ : 30 มิ.ย. 55 11:26:37

ความคิดเห็นที่ 50 บอกพ่อแม่เด็กไปเถอะ ถ้าเป็นลุกสาวคุณหละ คิดถึงใจเขาใจเราบ้าง แม่ว่าอาจจะมีเรื่องที่คุณวิตกกังวลบ้างถ้าบอกไป แต่มันจะเป็นการแก้ปัญหาเลยทีเดียว ปัญหาจะค่อยๆโดนแกะออก ถ้าคุณพอจะมีความรัก ความเห็นอกเห็นใจ เพื่อนมนุษย์และสังคมบ้าง  คุณควรจะบอกพ่อเด็กไป แต่ถ้าคุณเห็นแก่ตัวเห็นแก่ติวเตอร์คนนั้น เห็นแค่ความสัมพันธ์ที่คุณมีต่อติวเตอร์คนนั้น ซึ่งแค่สองคนเองมันคับแคบไป อ้อ ผมจะเล่าให้ฟัง ติวเตอรืผู้ชายข่มขืน นร สาว บ่อยนะครับ เรื่องนี้ผมได้รับรู้มาเพราะผมได้รู้จัก กับ นร สาวจากโรงเรียนหญิงล้วน รร คุณหนูที่มาเรียนกับพิเศษกับติวเตอร์บางคน  จึงได้รับรู้เรื่องพวกนี้มา ส่วนมากแล้ว ก้ไม่ได้มีการแจ้งความเอาผิดตามกฏหมายเพราะคนนอกไม่รู้  และที่ผมพูดมาเป็นเรื่องจริง แต่ผมไม่ขอเล่าในรายละเอียด จากคุณ : มังกรจักรวาล เขียนเมื่อ : 30 มิ.ย. 55 11:59:39

ความคิดเห็นที่ 51 หนีตามกันไปอยู่แถวตะวันออกกลางหรืออินเดียครับ แถบนั้นบางพื้นที่ ให้แต่งงานได้ตั้งแต่ 9 ขวบ จากคุณ : Tama2kun เขียนเมื่อ : 30 มิ.ย. 55 12:01:30

ความคิดเห็นที่ 52 อย่าสอนให้เด็กแรดตั้งแต่เด็ก ...แรงไปไหม เคยผ่านช่วงเวลาคล้ายๆกันนี้ตอนละอ่อน(แต่ไม่เด็กเท่านี้) จริงๆ คนเรา...ถ้าไม่ทอดสะพานกันไป ไม่ต่อความยาวสานสัมพันธ์ มันก็จบ ลงที่พี่น้องกันได้ แต่ที่แน่ๆเนี้ย....ความหื่นในผู้ชายวัยมหาลัย มันทำเด็กน้อยที่กำลังเป็นสาวเสียได้แน่นอนค่ะ!! จากคุณ : มีน้องสาวป.5 เหมือนกัน (calliope) เขียนเมื่อ : 30 มิ.ย. 55 12:48:13

ความคิดเห็นที่ 53 อย่าไปยุ่งกับเด็กเลย วัยขนาดนั้นยังไม่รู้จักความรักแบบชายหญิงหรอก น้องเค้ายังต้องมีสังคมโตไปเจออะไรอีกเยอะครับ จากคุณ : บาส100% เขียนเมื่อ : 30 มิ.ย. 55 12:57:40

ความคิดเห็นที่ 54 อยากบอกจขกท.ว่า รู้แล้วแต่เงียบไว้ ก็เหมือนเป็นการส่งเสริมและเปิดทางให้รุ่นน้องคุณนะคะ กลัวเข้าหนารุ่นน้องไม่ติดจนจะยอมสละอนาคตเด็กผู้หญิงเลยเหรอคะ แล้วถ้าเงียบไว้ก็เป็นการไม่หวังดีต่อรุ่นน้องคุณด้วย เป็นการส่งเสริมให้เขาทำผิด คุณลองคิดดูนะคะ ถ้าสมมุติมีพ่อแม่คนหนึ่งรู้ว่าลูกขโมยของแต่เขาไม่ตักเตือน เพราะกลัวว่าลูกจะเกลียดเอา เป็ยการถูกต้องไหมคะ ถ้าหวังดีต่อกันจริงต้องกล้าเตือนและห้ามนะคะ ควรบอกพ่อแม่น้องเขาด่วนที่สุดค่ะ พ่อแม่เด็กที่ยังเล็กเขาไม่คิดว่าจะเกิดอะไรแบบนี้กับลูกเขาหรอก ตอนเราป.สอง เคยเกือบโดนเพื่อนบ้านวัย ปวช. ข่มขืน โดนจับกดลงกับเตียงแล้วด้วย หนีมาได้มาเล่าให้แม่ฟังแม่ยังไม่เข้าใจเลยค่ะ นึกว่าไอ้เลวนั่นแค่กอดเราแบบเอ็นดู เหอๆๆ จขกท.ต้อง "ชี้แจงอย่างชัดเจน" ให้พ่อแม่เด็กเขาใจค่ะ ไม่ใช่บอกแค่ว่ารุ่นน้องผมเขาชอบลูกคุณ แต่ให้บอกไปเลยว่ามันเกิดอะไรขึ้นแล้วบ้าง มีโทรคุยกัน กอดกัน เพ่่อพ่อแม่จะได้แก้ไขอย่างจริงจังได้ทันค่ะ จากคุณ : ลูกสาวอีฟ เขียนเมื่อ : 30 มิ.ย. 55 13:08:11

ความคิดเห็นที่ 55 เอ่องานนี้จบไม่สวยแน่ต่อให้ผู้ชายคิดได้เลิกไปเอง เดี๋ยวเด็กคนนี้จะต้องไปคบคนอื่นต่อ 100 เปอร์เซ็นต์ อันที่จริง 11 ปีไม่ใช่เด็กมากอีก 4 ปีก็ 15 ถ่ายบัตร ถ้าสมัยเก่าก็ออกเรือนแล้ว แล้วรูปลักษณ์ภายนอกก็สำคัญเหมือนกันนะเค้าอาจจะดูโตเกินวัยมากๆก็ได้ ถ้าฝ่ายชายไม่ได้ชอบเพราะโลลิแต่กลับเป็นคนดีมันจะดีมากๆ เพราะตอนน้องเรียนจบฝ่ายชายก็เกือบตั้งตัวได้แต่งปั๊บเอาลูกได้ปุ๊บ ไม่เหมือนรุ่นเดี๋ยวกันแต่งกันแล้วสร้างฐานะด้วยกัน ไปๆมาๆ 30 ไม่รู้ตัวมีลูกยากอยู่แล้ว งาน:-)รัดตัว โอ๊ยจิปาฐะ กลับมาบ้านต่างคนต่างนอน อนาถมาก จากคุณ : BeeTheGreat เขียนเมื่อ : 30 มิ.ย. 55 13:15:37

ความคิดเห็นที่ 56 พอดีพึ่งไปคุยกับพอ่เข้าตอนบ่ายโมงมานะครับ พอผมไปบอกว่า รุ่นน้องผมชอบลูกเขา ยังพูดไม่ทันขาดคำเลย พ่อเขาเหมือนจะใจร้อนสั่งลูกเขาไม่ให้ไปเรียนพิเศษกับรุ่นน้องผมอีก และลูกสาวบอกว่าหนูอยากไปเรียนถ้าพ่อไม่ให้ไปหนูจะโกรธพ่อ พ่อเขาก็ดุลุกว่าทำไม่เห็นคนอื่นดีกว่าพ่อ ต่อไปนี้ห้ามไปอีกเด็ดขาด(เสียงดังมาก) ลูกเขาร้องให้ และหนีขึ้นไปข้างบนเลยครับ (ผมแอบเห็นลูกเขาหยิบ โทรศัพท์มือถือตรงโต๊ะคอมไปด้วย) เฮ้อ ไม่รู้ว่าผมทำพลาดไปรึปล่าว ไปบอกพ่อเขา ตอนลูกอยู่ด้วย พ่อกับแม่เด็กคนนั้นทำหน้าเครียดกันใหญ่เลย (ตอนนี้ยังอยู่ในอารมณ์แบบเสียว ๆ ไง ไม่รู้ มือสั่นใหญ่เลยครับ) จากคุณ : ปวดตับเพราะตั้งชื่อ เขียนเมื่อ : 30 มิ.ย. 55 14:06:03

ความคิดเห็นที่ 57 ก็ต้องให้พ่อเค้าใจเย็น ๆ กว่านี้นะคะ เด็ก ป.5 ดูเป็นเด็กในสายตาเราก็จริง แต่เค้าคิดว่าเค้าโตแล้ว เริ่มอยากรู้อยากลองแล้วนะคะ ถ้าเด็กสนิทกับพ่อแม่ จะไม่เกิดเรื่องแบบนีั้้ขึ้นหรอกค่ะ นี่แสดงว่าเด็กค่อนข้างห่างเหินกับพ่อแม่พอสมควร (อาจจะห่างเหินทางใจ) เลยหวั่นไหวไปกับรุ่นน้องคุณได้ ป.5นี่ต้องเริ่มเปลี่ยนจากดุด่า ตี เป็นพูดคุยให้เหมือนเพื่อนแล้วค่ะ ถ้าทำได้ ลูกจะเปิดใจพูดกับเรามากขึ้น มีอะไรเราจะได้รู้ทันนะคะ ยิ่งดุ ด่า ลูกจะยิ่งปิดบัง ไม่บอกอะไรทั้งสิ้น ถ้าเป็นแบบนั้น จะสายเกินแก้นะคะ จากคุณ : saturn_eyes เขียนเมื่อ : 30 มิ.ย. 55 15:00:48

ความคิดเห็นที่ 58 จะเป็นลม เด็กรุ่นลูกเลยนะนั้น แถมไปกอดอีก ไปกันใหญ่แล้ว จขกท ควรไปบอกพ่อแม่เด็กให้ไวเลยค่ะ คิดซะว่าช่วยเหลือเด็กคนหนึ่งให้เติบโตมาเป็นผุ้ใหญ่ ตามวัย เด้กเขายังไม่เป็น นส เลย ปล่อยให้เขาได้โตตามวัยเขาเถอะ รุ่นน้องคุณเข้าขั้นโรคจิตแล้วละ คนความคิดดีๆที่ไหนจะไปรักเด็กได้ขนาดนั้น บอกพ่อแม่เด็กให้หาทางแก้ไขด่วน ก่อนที่อะไรๆจะสายไปกว่านี้ จากคุณ : แป้ง เขียนเมื่อ : 30 มิ.ย. 55 15:32:10 A:27.55.8.120 X: TicketID:358210

ความคิดเห็นที่ 59 ผมเคยเจอเด็ก ป.5 ที่มีร่างกายเหมือนสาว FHM มาแล้วนะครับ เจอตอนแรกก็อยากจะจีบแล้วเพราะไม่รู้  ดีนะน้องสาวมาเบรคว่า ป.5 แรกๆไม่เชื่อด้วยนะ คิดว่าน้องอำเล่น =.=a จากคุณ : หมีอ้วนขนนิ่มสมัครอมยิ้มมาเฮฮา เขียนเมื่อ : 30 มิ.ย. 55 15:50:01

ความคิดเห็นที่ 60 เพือน จขกท ออกแนวชอบโลลิ ส่วนน้องคนนั้น....เกินนน ป.5 ไปกอดผู้ชายที่ไม่ใช่พ่อซธแล้ว - -'' แถมยังจะเถียงพ่ออีกถ้าไม่ให้ไปเจอผู้ชายต่อ พ่อแม่น้องเค้าคงมีกรรม จากคุณ : หนมจีนเส้นหนึบ (kkasemos) เขียนเมื่อ : 30 มิ.ย. 55 17:10:09

ความคิดเห็นที่ 61 อย่าเอาสังคมมาล้อมกรอบความรู้สึก จากคุณ : kanonkung เขียนเมื่อ : 30 มิ.ย. 55 18:02:00

ความคิดเห็นที่ 62 คุณพระ ป.5 / เอามือทาบอกด้วยความตกใจ น้องเค้ายังไม่รู้จักหรอกค่ะว่าความรักเป็นยังไง นึกถึงเรื่องหน้าต่างบานแรกแฮะ -"- จากคุณ : touch_sky_like_bird เขียนเมื่อ : 30 มิ.ย. 55 18:59:03

ความคิดเห็นที่ 63 พ่อกับแม่ต้องใจเย็นกว่านี้ค่ะ วัยนี้ยังไม่ค่อยเข้าใจอะไร นอกจากคิดว่าพ่อแม่ชอบบังคับ ค่อยๆคุยถึงเหตุผล เอาเหตุผลเอาความเห็นในทู้นี้ไปให้พ่อแม่ดูก็ได้ค่ะ หรือให้น้องเค้าอ่านเลย จะได้รู้ว่าถึงเป็นพ่อแม่คนอื่นเค้าก็ห่วงและห้ามลูกแบบนี้ และเหตุผลที่พ่อแม่มี คืออะไรบ้าง ลองหาทู้ที่ลูกสาวไม่เชื่อพ่อแม่ จะเอาอารมณ์ส่วนตัวมากกว่าเหตุผล ผลสุดท้ายเป็นยังไง ให้เค้าอ่าน ให้คิดได้ด้วยตัวเค้าเอง บางทีเราอธิบายเหตุผล108 เค้าก็ไม่เข้าใจ จากคุณ : nating เขียนเมื่อ : 30 มิ.ย. 55 19:09:06

ความคิดเห็นที่ 64 ผิดตั้งแต่คิดแล้วค่ะ >>>  จบข่าว <<<<< จากคุณ : เหยินฟ้า (เหยินฟ้า) เขียนเมื่อ : 30 มิ.ย. 55 19:44:03

ความคิดเห็นที่ 65 ทำไมอะคะ. เค้าอาจจะเป็นพี่ชายที่ดี ปกป้องน้องิให้เค้าคบกันแบบในสายตา ผปค ไม่ดีกว่าหรอคะ จากคุณ : rainswatch เขียนเมื่อ : 30 มิ.ย. 55 21:42:17

ความคิดเห็นที่ 66 ในกรณีนี้ผมว่ารักได้ชอบได้ ถ้าทุกคนคอยจับตามองดีๆ เพราะเท่าที่ฟังๆจากคุณจขกท.ผมว่าเพื่อนคุณไม่ใช่คนเลวร้ายอะไร ถ้าเพื่อนคุณดูแลน้องเค้าแบบทะนุถนอมไม่ชิงสุกก่อนห่าม รอให้โตเป็นผู้ใหญ่ก่อนแล้วค่อยไปขั้นต่อไปได้จะดีมาก เพียงแต่ 1.มันมีกอดแล้วนี่สิ ผมว่าอันนี้แย่แล้วกับเด็กอายุ11 2.ฝ่ายพ่อแม่เค้าดูจะไม่ยอมแน่ๆ ปิดประตูแฮปปี้เอนดิ้งแน่ๆครับ และเห็นด้วยว่าจากนี้ฝ่ายน้องผู้หญิงจะใจแตกเอาง่ายๆ ถ้าเกิดในกรณีถูกกีดกันแล้วไปคบคนอื่นแทน... จากคุณ : รักเธออยู่แต่ก็รู้ว่าไม่ได้ เขียนเมื่อ : 30 มิ.ย. 55 21:48:04

ความคิดเห็นที่ 67 เราว่าผู้ปกครองของน้องพลาดแล้วล่ะค่ะ เข้าใจว่าคุณพ่อคุณแม่ต้องโกรธแน่นอน แต่การที่ดุ ว่า ห้าม โดยใช้อารมณ์ เด็กจะมีแต่ต่อต้านค่ะ ยิ่งห้ามก็เหมือนยิ่งยุ ถ้าเราเป็นพ่อแม่ เราจะเรียกผู้ชายคนนั้นมาคุยให้เข้าใจ บอกให้รู้ว่าเรารู้แล้วนะ และไม่สบายใจที่มันมีเรื่องแบบนี้ จะจัดการยังไงก็ว่าไป เรื่องแบบนี้พูดยากค่ะ ตึงไปก็ไม่ดี หย่อนไปก็ไม่ดี แต่เราว่าพยายามควบคุมให้อยู่ในสายตา ดีกว่า บังคับ ห้าม แต่สุดท้ายเด็กก็อาจปิดบังผู้ปกครองอยู่ดี จากคุณ : Nirancha เขียนเมื่อ : 30 มิ.ย. 55 22:01:50

ความคิดเห็นที่ 68 น่าสงสารเด็ก ติดคุกได้นะทำแบบนี้ จากคุณ : credor เขียนเมื่อ : 30 มิ.ย. 55 22:16:27

ความคิดเห็นที่ 69 เท่าที่อ่านเพิ่ม ดูเหมือนเด็กก็จะกู่กลับยากเหมือนกันแฮะ -*- ผมว่าควรต้องบอกให้พ่อเด็ก ไปบอกรุ่นน้องว่าควรให้พ่อแม่รุ่นน้องรู้ ถ้ารุ่นน้องรักแบบบริสุทธิ์ใจจริง เค้าย่อมให้พ่อแม่รู้ได้อยู่แล้ว แต่ถ้ารุ่นน้องคุณไม่ยอมให้รุ่นน้องรู้ แปลว่าต้องมีอะไรไม่บริสุทธิ์ใจแน่ และถ้าพ่อแม่รุ่นน้องรู้ หากบริสุทธิืใจก็จะช่วยกันดูแลให้อยู่ในกรอบได้ แต่ถ้าไม่บริสุทธิืใจพ่อแม่รุ่นน้องต้องห้ามเด็ดขาดแน่ๆ ตนเป็นพ่อแม่ยังไงก็ไม่ยอมให้ลูกชายโดนข้อหาพรากผู้เยาว์หรอก ว่าแต่อยากเห็นป.5 หุ่น FHM แฮะ ขนาดมหาลัยหุ่น FHM ยังน้อยมากๆ แล้วป.5 หุ่น FHM นี่มันโคตรแรร์ชัดๆ เคยเห็นแต่ในการ์ตูน ไม่น่าเชื่อว่าจะมีจริง อ๊ะ จะว่าไปก็เคยเห็นอยู่คนนึงนี่นา เอาให้ดูเป้นรูปประกอบเรื่องละกัน Saaya Irie รูปนี้ตอนอายุ 11 ปี เมื่อราวๆ 7-8 ปีที่แล้ว จากคุณ : ผมไม่ใช่คนดี แต่เป็นคนธรรมดา เขียนเมื่อ : 30 มิ.ย. 55 22:31:00

ความคิดเห็นที่ 70 ^ พ่อแม่เค้าคิดอะไรอยู่ _*_ ตามไปหาประวัติมาอ่าน เห็นว่าโฆษณาชุดชั้นในตั้งแต่อายุ 11 โอ้แม่เจ้า ส่วนเรื่องของจขกท.คิดว่า เอ่อ ดูวิธีการบอกมันจะตรงเกินไปรึเปล่า เหมือนโยนระเบิดไปกลางบ้านเลยนะนั่น แต่ตอนนี้จะแก้ไขยังไงดี บอกไปแล้ว จากคุณ : ฟ้าหมาดฝน เขียนเมื่อ : 30 มิ.ย. 55 22:54:21

ความคิดเห็นที่ 71 กรุณาปรึกษาจิตแพทย์ http://www.ramamental.com/noncat/diagnosis/#56 โรค Pedopilia เป็นหนึ่งใน Paraphilia (กามวิตถาร) ซึ่งมีเกณฑ์การวินิจฉัยตามระบบ DSM-IV คือ Pedophilia A. มีความต้องการทางเพศ หรือพฤติกรรมซึ่งเกี่ยวข้องกับการมีกิจกรรมทางเพศกับเด็กก่อนวัยเจริญพันธุ์ หรือเด็กเล็ก (โดยทั่วไปอายุตั้งแต่ 13 ปีลงไป) หรือการมีจินตนาการในทำนองนี้กระตุ้นให้เกิดอารมณ์เพศอย่างมาก เป็นเช่นนี้อยู่เรื่อยๆ ตลอดระยะเวลาอย่างน้อย 6 เดือน B. จินตนาการ ความต้องการทางเพศ หรือพฤติกรรมนี้ก่อให้ผู้ป่วยมีความทุกข์ทรมานอย่างมีความสำคัญทางการแพทย์ หรือกิจกรรมด้านสังคม การงาน หรือด้านอื่นๆ ที่สำคัญ บกพร่องลง C. บุคคลนั้นอายุอย่างน้อย 16 ปีและอย่างน้อยอายุมากกว่าเด็กตามเกณฑ์ข้อ A อยู่ 5 ปี หมายเหตุ ไม่รวมผู้ที่ผู้ในช่วงวัยรุ่นตอนปลายที่มีเพศสัมพันธ์กับเด็กอายุ 12-13 ปี จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 30 มิ.ย. 55 22:58:02

ความคิดเห็นที่ 72 ตอบแบบคร่าวๆ สรุปๆ ก่อนละกันครับ พอดีไม่ว่าง แล้วเดี๋ยวมีเวลาจะมาตอบอีกที _____________ รักเด็ก ป.5 ผิดไหม? --ไม่ผิดครับ เพราะความรักไม่มีอายุ ไม่มีกฎเกณฑ์ อีกอย่างความชอบมันไม่มีเหตุผลอยู่แล้ว เป็นเรื่องของจิตใจและอารมณ์ล้วนๆ และ ถ้่าเด็ก ป.5 จะไม่ใช่วัยที่ควรมีเรื่องรักมาเกี่ยวข้อง นั่นก็หมายความว่า...ไม่ว่ากับใคร เด็กคนนี้ก็ไม่มีควรมีเรื่องรักแนวชู้สาวทั้งนั้นครับ ไม่ใช่ว่า เพราะเป็น นศ. ปี 3 มันถึงผิด แต่เด็ก ป.5 คนนี้แมร่งไปคบกับเพื่อนรุ่นเดียวกันแล้วดันไม่ผิด อันนี้ทุเรศละครับ เพราะเด็กเดี๋ยวนี้มันก็มีประสบการณ์ไว เสียตัวเร็ว มันเป็นโลกของการแย่งชิงและแข่งขัน เกิดรอๆ ไปแล้วดันโดนคู่แข่งคนอื่นแย่งไปก่อน อันนี้ก็ซวยเช่นกันเพราะพวกโลกสวยก็คงไม่มีรับผิดชอบแทนแหงๆ สรุปนะครับ รักได้ ไม่ผิด แต่ว่ารักแล้วก็ควรจะมีพฤติกรรมที่เหมะสมด้วยนะครับ ถ้ารักจริง ก็ควรคำนึงถึงผลดี ผลเสียที่จะเกิดกับตัวเองและอีกฝ่ายด้วยครับ คิดให้รอบคอบ และนำน้องเขาในทางที่ถุกที่ควรดีกว่า อันนี้ตอบโดย ไม่ได้อ่านเม้นอื่นนะครับ อ่านจาก จขกท ข้อความเดียว แก้ไขเมื่อ 01 ก.ค. 55 00:50:02 จากคุณ : Gow27 เขียนเมื่อ : 1 ก.ค. 55 00:48:26

ความคิดเห็นที่ 73 อ่านหลาย คห. แล้วรู้สึกยินดี ที่ยังเจอคนไทยที่อยากให้ ชายหญิงมีเพศสัมพันธ์หลังแต่งงานไปแล้ว แต่ก็แปลกใจ ว่าทำไมเด้กวัยรุ่นสมัยนี้มีเพศสัมพันธ์กันตั้งแต่เป็นผู้เยาว์ สวนทางกับ ทัศนคติสวยๆ แบบที่เห็นนี้โดยสิ้นเชิง :P สรุป หลักนี้ใช้ได้จริงกับแค่ผู้ใหญ่หรือพวกโลกสวยคุยกันเองหรือไม่ ? ในเมื่อบังคับใช้จริงไม่ได้ ก้ไม่มีใครอยากเล่นตามกฏมั้ง เพราะถ้ารอตามกฏ ก็จะกลายเป็นว่าคนดีๆ ต้องรอรับของเหลือที่ผ่านมาแล้วนับไม่ถ้วน... ปัญหาโลกแตกครับ จะแก้ยังไงให้ทุกฝ่ายได้ประโยชน์และยุติธรรมที่สุด ?! ผมคนหนึ่งล่ะที่เคยคบสาวอายุน้อยกว่า พยายามทำให้อะไรมันถูกต้องที่สุด เพราะเกรงใจทั้งพ่อแม่เขาและคิดว่าการชิงสุกก่อนห่ามนั้นเป็นสิ่งไม่ดี ทนมาเ็ป็นปีๆ ซื่อสัตย์ ไม่เคยมองคนอื่น แต่ปรากฏว่าอีกฝ่ายดันไปมีอะไรกับผู้ชายอื่นแทน แถมยังโดนแบบนี้สองคนซ้อน ทำให้โดนประนามจากคนรอบข้างว่า โง่ที่มัวแต่รอ ซึ่งถ้าเจอกรณีแบบนี้พวกโลกสวยก็คงบอกว่า "เรื่องของเอ็ง" และไม่มีทางรับผิดชอบความสูญเสียให้คุณหรอก  ... พ่อแม่ผู้หญิงประเภทที่หวงลูกแบบไร้สาระ ชอบกีดกันคนดีๆ ที่เข้าตามกรอบ แต่ไม่รู้ว่าตัวเองโดนลูกสวมเขาก็มีเพียบในสังคมยุคปัจจุบัน ดังนั้น ถ้าจะเลือกทำสิ่งใดก็อยากให้มองให้รอบด้านว่า คุณพร้อมจะสูญเสียคนที่รักไหม กับเงื่อนไขของสังคมที่บางครั้งก็กำหนดกรอบให้เราอย่างไร้สาระ __________________________ edit: เพื่งอ่านเรื่องที่คุณ จขกท ไปเล่าให้พ่อแม่น้องเขาฟังแล้วพ่อแม่ใช้วิธีห้ามอย่างเดียว อันนี้ผมว่าึคงแย่แล้วล่ะครับ ยิ่งห้ามแบบบังคับ เหมือนยิ่งยุและบีบคั้นให้เด็กยิ่งเตลิดจนใจแตกไปเลย อีหรอบนี้แสดงว่าพ่อแม่คนนี้คงไม่เคยอบรมสั่งสอนลูกมาแต่เล้กแต่น้อยในเรื่องนี้แหงๆ ห้ามกับหวงลูกเดียว ไม่ไหวน่ะครับ ... แก้ไขเมื่อ 01 ก.ค. 55 10:06:11 แก้ไขเมื่อ 01 ก.ค. 55 09:29:37 แก้ไขเมื่อ 01 ก.ค. 55 01:22:47 แก้ไขเมื่อ 01 ก.ค. 55 01:10:46 แก้ไขเมื่อ 01 ก.ค. 55 01:06:38 จากคุณ : Gow27 เขียนเมื่อ : 1 ก.ค. 55 01:05:06

ความคิดเห็นที่ 74 ดีเเล้วที่เจ้าของกระทู้บอกพ่อเเม่ของเด็กผู้หญิงไป ก็ให้เขาจัดการกัน ลูกเขา ส่วนเด็กผู้หญิงจะเชื่อฟังพ่อเเม่เขาหรือไหมนั้น ส่วนตัวมีลูก เคยเป็นลูก พ่อเเม่บอกอะไร ก็อาจจะมีต่อต้านบ้างเเต่ไม่เคยพาตัวเองไปทำในสิ่งที่พ่อเเม่เตือนค่ะ จากคุณ : Hana* เขียนเมื่อ : 1 ก.ค. 55 07:08:21

ความคิดเห็นที่ 75 ให้กำลังใจจขกท.ค่ะ อย่าเพิ่งท้อ อย่าเพิ่งกลัวนะคะ บอกพ่อเขาว่าให้ใจดีกับลูกแต่ไปพูดกับเพื่อนคุณให้เด็ดขาดดีกว่า เป็นผู้ใหญ่แล้ว มันต้องมีกลยุทธในการจัดการปัญหาบ้าง ไม่ใช่ด่าๆๆอย่างเดียว ^^" คุณพ่อเขาอาจกำลังตกใจมาก ร้อนใจ เลยไม่ทันคิด คุณจขกท.ลองแนะท่านดูนะคะ ไม่ว่าจะเป็นยังไงก็เป็นกำลังใจให้คุณจขกท.ค่ะ จากคุณ : ลูกสาวอีฟ เขียนเมื่อ : 1 ก.ค. 55 08:09:48

ความคิดเห็นที่ 76 เป็นเรื่องปกติที่พ่อเด็กโมโหเคือง และต่อว่าลูกเขา... ใครจะรับได้ทันทีล่ะ ... ลองให้มีลูกโตแล้วเป็นแบบนี้ จะ สงบสติได้ทันทีซะเมือ่ไร... ดิฉันไม่โทษพ่อเด็กในเรือ่งนี้ค่ะ ที่เด็กพูดต่อต้านพ่อว่า จะกลับไปเรียนกับผู้ชายคนนั้นอีก ถ้าพ่อไม่ให้ไป เขาจะโกรธพ่อ... แสดงว่าเด็กคนนี้ถูกตามใจเหมือนกัน ถึงพยศได้ ตอนดิฉันเด็กๆ ไม่กล้าพยศเถียงแบบเด็กคนนี้ จะเดินแพร่ดๆเข้าห้องนอนตัวเองล่ะโดนตีโทษฐานเถียงพยศใส่พ่อแม่ ตอนนี้ให้เป็นหน้าที่ของครอบครัวเขา... คุณจขกท. ได้ทำหน้าที่พลเมืองที่ดีแล้วค่ะ ที่ช่วยเปิดตาให้พ่อแม่เด็กรู้ว่า รุ่นน้องคุณคิดในทางชู้สาวกับลูกของเขา ให้ระวังลูกสาวด้วย จากคุณ : JidNince เขียนเมื่อ : 1 ก.ค. 55 11:01:26

ความคิดเห็นที่ 77 เคยเจอเด็ก ป.5 คนหนึ่งตอนไปฝึกสอน อายุก็เท่าๆ เพื่อนในห้องแหละ แต่จะบอกว่าร่างกายหน่ะ เท่าเด็ก ม.ปลาย ไปแล้วครับ จะโตเร็วไปไหน เครียดจริงๆ ตอนสอน เล่นด้วยมากไม่ได้ จากคุณ : หัวใจในลังกระดาษ เขียนเมื่อ : 1 ก.ค. 55 11:15:30

ความคิดเห็นที่ 78 เด็กมันก็โตเกินวัยด้วยนะครับสมัยนี้ เฮ้อ ผมลูกสาว 3 คน ผมเครียดนะเนี่ย จากคุณ : โลหการ4 เขียนเมื่อ : 1 ก.ค. 55 14:32:42

ความคิดเห็นที่ 79 ^^^^^ค่าเทอมไม่พ่อบอกผมได้นะ อิอิล้อเล่จๆขอโทษครับพอดีผมอยู่คนเดียวเพื่อนๆมีลูกหมดแล้วหลายชายคนหลานสาวคนเจอเแล้วมีความสุข แต่ตอนอยู่ต่อหน้าผมจะยืนนิ้งเลยไม่แสดงท่าทางอะไร แต่ชอบซื้ออุปกรณการเรียนให้แต่ไม่ได้ให้เองและสั่งเพื่อนด้วยว่าห้ามบอกว่าลุงซื่อให้ แบบนี้ผมเข้าข่ายโทรจิตหรือปล่าว จากคุณ : JackOnell เขียนเมื่อ : 1 ก.ค. 55 20:34:54

ความคิดเห็นที่ 80 ผมก็เคยเป็นคนที่ เคารพกฏหมาย มองโลกสวย คิดว่าวัยเรียนไม่ควรมีเรื่องชู้สาว จนกระทั่งล่วงเลยมาถึงตอนเรียน มหาลัยฯ ที่เริ่มได้ยินได้เห็นข่าว อะไรมากมาย เกี่ยวกับค่านิยมในสังคมที่เปลี่ยนแปลงไป คนในรุ่นเดียวกัน แทบไม่มีคนถือตามทำเนียมเดิมแล้ว คนที่ดูดีๆหน่อย มีแฟนกันเกือบหมดไปแล้ว แล้วผมยังได้รู้เพิ่มจากการที่เพื่อนคุยกัน ทำให้รู้ว่า คำว่า "แฟน" เกือบ 100% มันหมายถึง มีอะไรกันไปแล้ว ผมก็ยังถืออุดมคติ มองหาคนที่ ยังไม่มีเจ้าของ ก็เจอ "คนนึง" แต่จีบไม่ติด คนที่เป็นผู้ใหญ่เห็นโลกมามากหน่อย คงจะรู้ว่า ผู้ชายที่ไม่เคยจีบ ญ มาก่อน ทักษะมันห่วยแตกแค่ไหน - -a ซึ่งก็มักจะนำไปสู่ความล้มเหลว เราก็เริ่มเห็นโลกต่างไปจากเดิม ถ้าเรายังถืออุดมคติ แบบเดิมๆ อะไรจะเกิดขึ้น เพื่อนรุ่นเดียวกัน และเราสนใจ ทุกคนมีแฟนแล้ว หรือจีบไม่ติด เพราะเราไม่มีทักษะ(ในขณะที่คนที่เกเรๆ เสเพลหน่อย ได้ฝึกสกิลมาเยอะ ก็คล่อง แทบไม่พลาด) มองไปที่รุ่นน้องๆ เอ้า มีแฟนกันหมดแล้วเหมือนกัน - - ลองมองไปที่เด็กมัธยม หลังหาข้อมูล ก็ทำให้รู้ว่าพวกเด็กมัธยม ก็มีแฟนกันหมดแล้ว และคำว่าเป็นแฟน มันก็หมายถึง ... ม.ต้น เฮ้ย ม.ต้น มันก็มีทักษะด้านนี้สูงกว่าเรา - -' ... โลกมันจะน่าหดหู่ไปไหน คนที่ถือตามธรรมเนียมไทยเดิม อย่างเรา จะหาความยุติธรรมที่ไหนในสังคม? จะให้ไปรับของเหลือจากคนอื่นมาแล้ว มันยุติธรรมกับการที่เราทำตัวเป็นคนดีมาตลอดนี้เหรอ เราก็รู้สึกว่ามันไม่ยุติธรรม เราก็ไม่เอาสิ (ที่สำคัญ ในทางจิตวิทยา ชีวิตคู่ มักไปไม่ได้ดี ถ้าฝ่าย ญ มี LV. ทางด้านนี้สูงกว่าฝ่าย ช. เพราะฝ่าย ช. จะให้ความพึงพอใจกับฝ่าย ญ ไม่ได้เท่าที่จำเป็นต้องมี) ก็ถ้าไม่อยากรับของเหลือ แล้วจะไปมองหาจากไหน ถ้าไม่ลงไปในจุดเริ่มต้น ที่คนส่วนใหญ่(ในยุคนี้) เริ่มต้นมีแฟนกัน ซึ่งในยุคนี้ จุดนั้นมัน ต่ำมากๆ อายุแถว ม.ต้น เอง พอคิดจะไปตรงนั้น ก็โดนหาว่าเป็นพวกโรคจิต โลลิ ฯลฯ แล้วยังไงล่ะ ถ้าคุณไปตลาดเพื่อซื้อผลไม้ตอนเช้า ถ้าคุณไปตอนที่เขาเพิ่งเอาผลไม้มาส่งที่แผง คุณย่อมมีตัวเลือกที่ดีๆอยู่มากมาย แต่ถ้ารอจนสายๆ ให้คนอื่นมาเลือกหยิบกันไปหมดก่อน แล้วเราเก็บของที่เหลืออยู่ คุณคิดว่าผลไม้ที่เหลือบนแผงตอนนั้น สภาพมันจะยังไง - -a หรือถ้าจะไปเอาผลไม้ที่คนกัดไปแล้วคำนึงแล้วโยนทิ้ง มากินต่อ มันก็ยิ่งแย่เข้าไปอีก นั่นหรือคือรางวัลที่ควรได้ของคนดี ที่รอให้คนอื่นเลือกหยิบของไปก่อน? ไม่สิ คนอื่นๆที่เขามาแย่งตัดหน้าคุณไป เขาจะเห็นความดีของคุณมั้ย ในความเป็นจริง ถ้าเราทำแบบนั้น คงจะถูกมองได้อย่างเดียวคือ ไอ้นี่โง่นี่หว่า คนโง่ที่พ่ายแพ้ต่อคำพูดของคนอื่นๆในสังคม รางวัลมันก็เป็นรางวัลของคนโง่ ซึ่งผมคงจะไม่ยอมเป็นคนโง่อีกต่อไปล่ะ และก็หวังว่าสังคมจะมองอะไรตรงตามความเป็นจริง มากกว่าปากอย่างใจอย่าง มองโลกสวยผิดความจริง หรือใช้เหตุผลที่มีเหตุผลอื่นแฝงเบื้องหลังไม่จริงใจ เพิ่มเติม ผมอาจจะกลับไปเป็นคนดีแบบเดิม ถ้าผมเห็นว่า พวกเด็กที่ชิงสุกก่อนห่าม มีบทลงโทษที่แรงเท่ากับคดีพรากผู้เยาว์ และต้องเป็นคดีที่ยอมความไม่ได้ ไม่ว่าพ่อแม่เด็กทั้งคู่จะว่ายังไง และมีการบังคับจริงจัง จนทำให้เด็กเหล่านั้น ผ่านระบบการศึกษามาจนเรียนจบ ได้โดยยังไม่มีอะไรเกินเลย เป็นส่วนมาก ถ้าทำได้อย่างนั้น ปัญหาสังคมจะลดไปเยอะ และคนดีๆก็คงมีที่ยืนอีกครั้ง :) ความยุติธรรมจริงๆจะเกิด ความลักลั่นแบบปัจจุบันจะไม่มี OK? แก้ไขเมื่อ 01 ก.ค. 55 23:35:48 แก้ไขเมื่อ 01 ก.ค. 55 23:30:26 จากคุณ : Detonator_Pao_ เขียนเมื่อ : 1 ก.ค. 55 23:28:33

ความคิดเห็นที่ 81 ผมเห็นโลกมาเยอะ ผ่านปัญหาวัยรุ่นมาก้เยอะ ช่วยคนมาก็เยอะ เห็นตามที่ คห.80 Detonator บอก และบอกได้เลยว่า ถ้าปัญหาวัยรุ่นปัจจุบันยังมีความเหลื่อมล้ำและไม่ถูกแก้ไขให้เป็นธรรมตลอดทั้งระบบแบบนี้ ผมคนหนึ่งละที่จะแคร์ผลประโยชน์ของตัวเองเป็นหลักก่อน เพราะผมยอมรับ logic ประเภทปกป้องเด็กเกินเหตุของพวกโลกสวยไม่ได้ จากคุณ : Gow27 เขียนเมื่อ : 1 ก.ค. 55 23:59:27

ความคิดเห็นที่ 82 เอ่อ แปลว่าผช.จำนวนหนึ่งคิดว่า อยากได้หญิงจิ้น ต้องจีบเด็กประถม ว่างั้น? เราแปลความไม่ผิดใช่ไหม ถ้าพูดถึงเรื่อง จิ้น ไม่จิ้น มันก็ยาวเลยน่ะนะ ปัญหาโลกแตก แก้ไขเมื่อ 02 ก.ค. 55 09:55:34 จากคุณ : ฟ้าหมาดฝน เขียนเมื่อ : 2 ก.ค. 55 09:48:38

ความคิดเห็นที่ 83 เอ่อ คห. 80,81 เสื่อมอ่ะ คุณจะบอกว่าคุณประพฤติตัวดีแล้วแต่โลกมันช่าง ไม่ยุติธรรม ที่คุณจีบหญิง ไม่ติดนั้นเหมือนคุณจะโทษแต่ สังคม และสิ่งแวดล้อม ภายนอกเลยนะคะ ตัวคุณไม่ใช่สาเหตุที่จีบหญิงไม่ติดเลยเหรอ ช่วงชีวิตนึง คุณเจอคนซักกี่คนกันนะ แล้วมาเลือกเด็กประถมนี่นะ ไม่เห็นใจหัวอกพ่อแม่เค้าเลยเหรอ ???!!!  เพลียมากกกชั้นมีลูกสาวสองคน ไว้รอคุณมีลูกสาวก่อนนะ ชั้นอยากจะรู้คุณจะจัดการยังไง!! จากคุณ : เขียนบน iPhone (bombgolf) เขียนเมื่อ : 2 ก.ค. 55 10:25:46

ความคิดเห็นที่ 84 ปัญหาไม่ได้อยู่ที่อายุต่างกันเท่าไหร่ ปัญหาอยู่ที่ ณ เวลานั้น ๆ ฝ่ายหนึ่งซึ่งมีมากกว่า ทั้งหน้าที่ ความรับผิดชอบ วุฒิภาวะและวัย กำลังเอาเปรียบอีกฝ่ายซึ่งมีน้อยกว่าหรือไม่ คุณเป็นครู จีบลูกศิษย์ที่คุณสอน คุณกำลังใช้อำนาจของความเป็นครูบังคับลูกศิษย์ หรือไม่ อย่าบอกว่าเป็นความสมัครใจทั้ง 2 ฝ่าย เพราะคุณเองก็ใช้โอกาสในความเป็น ครูในการเข้าหาลูกศิษย์ ขณะที่คุณแน่ใจได้อย่างไรว่าที่ลูกศิษย์ยอมคุณเพราะเธอ ชอบคุณจริง ๆ หรือเพราะเธอเกรงความเป็นครูของคุณ คุณเป็นครู หากมีลูกศิษย์เป็นแฟน แล้วปรากฏว่าผลการเรียนของลูกศิษย์คุณเปลี่ยนไป ไม่ว่าจะดีขึ้นหรือแย่ลง จะหลีกเลียงความรับผิดชอบได้หรอไม่?  หากดีขึ้นเป็นเพราะ ลูกศิษย์ทำได้ดีจริง หรือเพราะความเสน่หาของคุณ หากแย่ลงเป็นเพระาลูกศิษย์เองหรือ เพราะจากความความสัมพันธ์ของคุณกับลูกศิษย์ หากเลิกลากันแล้วผลการเรียนเธอ เปลี่ยน จะตอบได้ปรอไม่ว่าเป็นเพราะลูกศิษย์เอง หรือเพราะความสัมพันธ์ที่ล้มเหลว หรือเพราะแม้แต่คุณกลั่นแกล้ง? คุณมีอายุและวัยวุฒิสูงกว่า คุณกำลังปิดกั้นอนาคตของเด็กหรือไม่ เพราะเขามีประสบการณ์ น้อยกว่า มีความคาดหมายน้อยกว่า มีสังคมน้อยกว่า รู้ผิดรู้ชอบน้อยกว่า คุณจึงชักนำ เด็กให้เป็นไปในทางที่คุณสมประโยชน์ เช่นนี้คุณเห็นแก่ตัวหรือคุณไร้ความรับผิดชอบ จากคุณ : Away from Thailand เขียนเมื่อ : 2 ก.ค. 55 10:32:58

ความคิดเห็นที่ 85 http://www.pantip.com/cafe/family/topic/N12314147/N12314147.html เจ้าของกระทู้อัพเดทแล้วค่ะ จากคุณ : la-la-bell เขียนเมื่อ : 2 ก.ค. 55 11:27:44

ความคิดเห็นที่ 86 คห. 83 ครับ ดูเหมือนคุณจะอ่านไม่เข้าใจนะครับ ผมไม่ีเคยบอกว่าผมจีบหญิงไม่ติดครับ และไม่มีตรงไหนที่ผมบอกว่าผมเคยจีบเด็กประถมครับ แต่กำลังให้ข้อมูลความเป็นจริงที่เกิดขึ้นในสังคมอีกด้าน ตรงข้ามกับพวกโลกสวยที่พูดแต่ในแง่เดียว โดยไม่แคร์ผลประโยชน์ของทุกฝ่าย ไม่ต้องพล่ามเรื่องศีลธรรมถ้าอ่านแล้วจัวประเด็นแค่นี้ไม่รู้เรื่อง จากคุณ : Gow27 เขียนเมื่อ : 2 ก.ค. 55 13:14:22

ความคิดเห็นที่ 87 ขอบคุณสำหรับอัพเดตค่ะ คุณ 80 ทุเรศจัดๆเลยค่ะ แบบนั้นมันแค่ข้ออ้างทำเลวค่ะ จากคุณ : ลูกสาวอีฟ เขียนเมื่อ : 3 ก.ค. 55 20:51:36

ความคิดเห็นที่ 88 ผมเสนอปัญหาระดับสังคมที่เจอ และผมก็เข้าใจปัญหาของพ่อแม่ด้วย ดังนั้น จึงเสนอวิธีแก้ปัญหาสังคมให้ ด้วยกลไกของกฏหมาย ในขณะที่บางคนก็เสนอปัญหาของตัว แต่ไม่พยายามเข้าใจปัญหาของคนอื่น และเสนอแต่คำด่า ที่ไม่ก่อประโยชน์อะไรเลย ; การอ่านและตีความ อาจจะยากไปสำหรับบางคน ผมจะสรุปให้ง่ายขึ้น ผมกำลังอยู่ในสมรภูมิหนึ่ง ที่เป็นการสู้กันระหว่าง สองวัฒนธรรม 1. วัฒนธรรมอุดมคติแบบไทย 2. วัฒนธรรมยำมั่วยุคปัจจุบัน ผมเกิดและยืนอยู่บนวัฒนธรรมอุดมคติแบบไทย ซึ่งวัฒนธรรมนี้มองว่า - การมีแฟนวัยเรียน เป็นสิ่งไม่ดี (แค่ถูกต้องตัวเพศตรงข้ามโดยไม่ตั้งใจ ก็ต้องขอโทษขอโพยกันแล้ว) - การสมสู่กันก่อนแต่งงาน เป็นสิ่งไม่ดี - การยุ่งกับคนมีเจ้าของ เป็นสิ่งไม่ดี ในขณะที่ วัฒนธรรมยำมั่วยุคปัจจุบัน มองว่า - การมีแฟนวัยเรียน เป็นเรื่องธรรมดา - การมีเพศสัมพันธ์วัยเรียน เป็นเรื่องธรรมดา (ถึงขนาด รัฐฯ ยังอุตส่าห์ไปแจกถุงยางให้ถึงในโรงเรียน) - การสมสู่กันก่อนแต่งงาน เป็นเรื่องธรรมดา ย้อนกลับไปซัก 15 ปีก่อน การที่ผมยืนบนวัฒนธรรมอุดมคติแบบไทย เป็นเรื่องธรรมดา ไม่ได้มีปัญหาอะไร แต่โดยไม่รู้ตัว ตรงที่เป็นจุดเปลี่ยนในสังคมไทย ที่ใช้เวลาแค่ไม่ถึง 2 ปี พื้นทางของวัฒนธรรมอุดมคติแบบไทย ที่ผมยืนอยู่ กลายเป็นคนส่วนน้อย จากนั้น จึงเกิดปัญหาขึ้น ตามที่อธิบายใน #80 สิ่งที่ผมกำลังทำ คือการต่อสู้เพื่อรักษาจุดยืน ว่าผมจะยังถือวัฒนธรรมอุดมคติแบบไทย ซึ่งอธิบายได้เป็นข้อๆคือ - การมีแฟนวัยเรียน เป็นสิ่งไม่ดี << ข้อนี้ผ่านไปแล้ว จุดยืนข้อนี้เสร็จสิ้นไปแล้ว - การสมสู่กันก่อนแต่งงาน เป็นสิ่งไม่ดี << จุดยืนข้อนี้ จึงมองว่า คนที่สนับสนุนการมีอะไรก่อนแต่งงาน เป็นคนที่พฤติกรรมทางเพศไม่ดี, คบเป็นเพื่อนได้ แต่ไม่ควรคิดเป็นแฟน (แน่นอน ในทางพฤตินัย ตัวผมเองก็ตั้งใจจะไม่มีอะไรก่อนแต่งงาน ยกเว้น ฝ่าย ญ และพ่อแม่ฝ่าย ญ อนุญาต) - การยุ่งกับคนมีเจ้าของ เป็นสิ่งไม่ดี  << จุดยืนข้อนี้ จึงไม่ไปจีบคนมีแฟนแล้ว เมื่อเกิดเหตุการณ์ปัญหา ตามที่เล่าใน #80 ถามว่า ผมจะรักษาจุดยืนได้ยังไง ในเมื่อ คนในรุ่นใกล้กันส่วนใหญ่ ที่ถูกใจหน่อย ต่างก็มีแฟน หรือเคยมีแฟนกันไปหมดแล้ว ดังนั้น โอกาสจะเจอคนที่ตรงเงื่อนไขตามจุดยืนข้อ 2-3 นั้นจึงต่ำมากราว 1% (ความจริงอาจจะน้อยกว่านั้นด้วย) ในยุคแบบนี้ และถึงจะเจอคนใน 1% นั้น สำหรับผู้ชายธรรมดา โอกาสจีบติดโดยสถิติจะมีเพียง 1/10 (อาจเป็น 5/10 สำหรับเพลบอยที่เชี่ยวชาญการจีบมาแบบโชกโชน) ดังนั้น ความน่าจะเป็นทางสถิติ ที่จะเป็นแฟนกับใครซักคนได้สำเร็จ จึงเหลือ (1/100) * (1/10) = 1/1000 = 0.001% หมายความว่า ในการเดินเข้าไปจีบใครซักคน 1000 ครั้ง จะเจอคนที่ไม่ตรงเงื่อนไขในจุดยืนข้อ 2-3 อยู่ 990 ครั้ง ถูกปฏิเสธ 9 ครั้ง และสำเร็จ 1 ครั้ง ถ้ายังไม่คิดว่านี่คือปัญหา ก็บ้าแล้ว - -a การที่ผมสรุปว่า สังคมปัจจุบัน ซึ่งส่วนใหญ่ถือตามข้อ 2 (วัฒนธรรมยำมั่วยุคปัจจุบัน - ย้อนกลับไปอ่านด้านบน) จึงไม่ใช่เพียงอคติส่วนตัว แต่เกิดจากการทดลองและค้นคว้าหาข้อมูล ก่อนจะสรุปว่า นี้มันเป็นปัญหาสังคมจริงๆ และจริงมากๆด้วย แต่เป็นปัญหาเฉพาะสำหรับคนที่ยังถือวัฒนธรรมตามแบบข้อ 1 (วัฒนธรรมอุดมคติแบบไทย) ซึ่งด้วยสภาพแวดล้อมสังคมแบบปัจจุบัน ได้บีบให้คนแบบข้อ 1 นั้น ไม่มีที่ยืน จริง เมื่อเขารู้สึกว่าไม่มีที่ยืน สิ่งที่จะเกิดขึ้นมี 2 แบบ - ทิ้งจุดยืนเดิม และเปลี่ยนไปเป็นพวกถือวัฒนธรรมข้อ 2 - รักษาจุดยืน และต่อสู้ในจุดที่เป็นปัญหา (กฏหมาย, ตรรกะบิดเบี้ยวหรือลักลั่น) ซึ่งพวกที่พยายามรักษาจุดยืน จะถูกมองว่าเป็นพวก กบฏ (ทางความคิด) ถ้าปัญหานี้ ถูกปล่อยทิ้งให้ยืดเยื้อ ไม่ยอมปรับกฏหมายที่ควรปรับ กระทรวงวัฒนธรรม ไม่ทำงานให้ตรงจุดกว่านี้ (เล่นงานพวกผลิตสื่อ ที่เอาเยาวชน มาโฆษณา หรือมาเล่นละคร ที่สื่อความหมายในทางเพศ กันดาดดื่นอย่างที่เป็นกันอยู่) กระทรวงสาธารณสุข ไม่หยุดแจกถุงยางกับยาคุมในโรงเรียน (ซึ่งเป็นการสนับสนุนเด็กแบบโต้งๆ) พวก กบฏ จะมากขึ้นเรื่อยๆ ถ้าการที่ ผมพยายามรักษาจุดยืนแบบไทยเดิม จะถูกมองเป็นคนเลว พวกที่เกิดเป็นคนไทยแท้ๆ แต่ยกยอ เปิดประตูให้การรุกรานทางวัฒนธรรมเสื่อมๆของต่างชาติ ก็เลวยิ่งกว่า แก้ไขเมื่อ 04 ก.ค. 55 00:33:53 จากคุณ : Detonator_Pao_ เขียนเมื่อ : 4 ก.ค. 55 00:31:18

ความคิดเห็นที่ 89 คุณ Detonator ต้องใช้ความอดทนในกาารอธิบายให้คนพวกนี้ฟังนี่ผมนับถือจริงๆ อย่างที่ผมบอกไว้ใน คห.73 ครับ ว่าพวกมองด้านเดียว ก็คงไม่มานั่งทำความเข้าใจกับคุณหรอก พอมีปัญหา ก็แค่ตอบง่ายๆ ว่า "ก็เรื่องของเมิงสิ" ดังนั้น ผมว่าอยากทำไรก็ทำเถอะครับ กับพวกมีศีลธรรมแค่ครึ่งๆ กลางๆ อย่าไปฟังมันมากให้มันมาทำให้เราไม่มีความสุข จากคุณ : Gow27 เขียนเมื่อ : 4 ก.ค. 55 00:49:09

ความคิดเห็นที่ 90 อืม.. ไม่ถึงขั้นมองว่ามีแฟนในวัยเรียนเป็นสิ่งไม่ดี มีไม่ได้ เพราะยุคสมัยมันเปลี่ยนไปแล้ว เรื่องนี้เราเองก็รู้ดี (แต่กรณีนี้หญ้าอาจอ่อนไปนิดนึงนะคะ U_U") ตอนอ่านกระทู้เปิดของคุณบอกว่าถึงขั้นกอดแล้ว.. กอดแบบไหนคะ? อ่านแ้วรู้สึกไม่ค่อยดีเลยจริงๆ เพราะสำหรับลิ้ม ป.5 ยังถือว่าเด้กอยู่ค่ะ ถึงแม้เค้าจะคิดว่าคนที่สอนพิเศษเค้านั้นมันมากกว่าคำว่าลูกศิษย์และนักเรียนก็ตาม การจับมือถือแขน โอบคอยังพอรับได้อยู่ ลิ้มเชื่อว่าการกอดเป็นจุดเริ่มต้นของสิ่งที่มากกว่าการกอดค่ะ(สำหรับแฟนกันนะคะ) ลิ้มไม่รู้จักรุ่นน้องคุณรวมไปถึงนิสัยใจคอ ถ้าบางประโยคดูเหมือการดูถูกหรืออะไรก็ตามแต่ที่อ่่านแล้วทำให้รู้สึกไม่ดี ขออภัยจรงๆค่ะ แต่มันสะดุดประคำนั้นจริงๆ จากคุณ : น้อยหน่ากะสาลี่ เขียนเมื่อ : 4 ส.ค. 55 17:28:27