ความคิดเห็นที่ 1 เราไปถึงเราก็นั่งรอ เอกสารก็เตรียมไปครบ เหลือแต่รอ  นั่งรอซักพัก ครู ก็เรียกเราเข้าไป ไปถึงเค้าถามเราว่า  ลูกกี่ขวบ 9 กับ 7 ค่ะ เราก็บอกไป....เค้าหันมาถามเราว่า   คุณอายุเท่าไหร่......เราก็ตอบ 25 ค่ะ เค้าถามเรา ด้วยสีหน้าที่ตกใจมาก....มีลูกตั้งแต่อายุเท่าไหร่ เรา.....16 เค้าเงียบ........แล้วฉันมาถามต่อว่า เลี้ยงลูกเองมั้ย   เรา...ไม่ได้เลี้ยงค่ะ เพราะตอนนั้นเรียน ม4อยู่ ไม่ได้ทำเรื่องด็อปเรียนเหรอ เรา...ป่าวค่ะ ท้องไม่ใหญ่ ลูกพิการรึป่าว เรา..ครบ32 ปกติดี นน แรกเกิด 2750 ปกติมั้ยค่ะ เรา..จะถามทำไม  ดิฉํนมาสมัครเรียนให้ลูก ไม่ได้มาเรียนเอง เรา..จะรับก็รับ ไม่รับ ก็ไม่เป็นไร เค้าเลยบอกว่า เค้าไม่ชอบ พวกวัยรุ่นมีลูกตอนไม่พร้อม เด็กพวกนี้อีกหน่อยจะสร้างปัญหา เรา...โมโห เลือดขึ้นหน้าเลย เราเลยถามกลับไปว่า นะปจุบันลูกเราเคยไปสร้างปัญหาให้คุณ หรือญาติคุณหรือไง  เราเคยไปขอยืมเงินคุณมาส่งลูกเราเรียนเหรอ จากคุณ : may..SEA เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 55 19:22:51

ความคิดเห็นที่ 2 เค้าเงียบ แล้วหันมาบอกเราว่า  เค้าไม่รับ เรากับมาบ้านแล้ว ความรู้สึกเรายังโกรธ คิดแล้วงง ตั้งคำถามต่างๆนาๆกับตัวเองมากมาย ว่าทำไมการที่เรามีลูก ตอนเราเรียน แต่เราก็ไม่เคยทำแท้ง ไม่เคยและไม่คิดจะเอาลูกไปทิ้ง ไม่เคยทำให้ใครเดือดร้อน(นอกจากแม่เรา ที่ต้องเลี้ยงหลาน) ลูกเรา ก็มี พ่อ มีแม่ ซึ่งไม่ได้เลิกลากันและทิ้งกันไปไหน เค้าก็เป็นเด็กปกติ ที่มีความสุขในส่วนของเค้า แล้วเค้าก็ยังไม่ได้ทำความเดือดร้อนใดๆๆเลย แล้ว..เราผิดตรงไหนที่เรา มีลูกตอนเรียน คนที่จะเสียใจและรู้สึกอาย ความจริง น่าจะเป็นพ่อและแม่เรา แต่ พ่อกับแม่ กับไม่เคย ว่า ด่า ได้แต่บอกว่ามีแล้วต้องเลี้ยง เลยยังงงว่า ฉันและลูก จะไปสร้างปัญหาให้ใคร แล้วก็งง  ว่าโรงเรียนเค้ารับเด็ก นักเรียน กันที่อายุแม่เหรอ จากคุณ : may..SEA เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 55 19:31:25

ความคิดเห็นที่ 3 ถ้าเป็นเรา  คง  ลุกด้วยความไม่พอใจอย่างมาก  พูดไปเพื่ออะไร  ได้อะไร ในเมื่อครอบครัว เจ้าของกะทู้ ก็สมบูรณ์ดีอยู่้แล้ว จขกท.  ไม่ต้องสนใจ กับคำพูด คำถามเหล่านี้เลยนะคะ ชอบใจมาก  " นะปัจบันลูกเราเคยไปสร้างปัญหาให้คุณ หรือญาติคุณหรือไง  เราเคยไปขอยืมเงินคุณมาส่งลูกเราเรียนเหรอ" จากคุณ : รักที่จะชอบและชอบที่จะรัก เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 55 19:37:56

ความคิดเห็นที่ 4 โรงเรียนอะไรเนี่ย มันน่านัก คนเราบางทีก็เข้าใจยาก มีลูกตอนแก่ก็ว่า มีอายุน้อยก็ไม่ดี ทำแท้งก็แย่ สารพัดโรงเรียนนี้เค้ารับลูกหรือรับแม่กันแน่ ? บางคนชาติตระกูลดีๆ นามสกุลดังๆ ร่ำๆรวยๆ ยังสร้างปัญหาให้สังคมอย่างที่เห็นกันอยู่ ครูเค้าอะไรคิดน้ออ สังคมสมัยนี่ชักจะอยู่ยากขึ้นทุกวัน จากคุณ : zhinza เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 55 19:38:06

ความคิดเห็นที่ 5 เป็นเราคงไม่จบที่เดินจากมาเฉยๆ แน่ๆ โรงเรียนอะไรเนี๊ยะ มีใครใหญ่กว่าครูคนนี้อีกไม๊ ต้องคุยกันยาวแน่ๆค่ะ นับถือในความเป็นแม่ของน้องนะคะ มีคนเดียวอิชั้นยังเหนื่อยจะแย่ๆ นี่ 3 คน เหนื่อย 3 เท่าทวีคูณ จากคุณ : nomyen-nomyen เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 55 19:43:31

ความคิดเห็นที่ 6 ขอหน่อยเถอะ อ่านแล้วโกรธแทนจริงๆ ทำไม แค่ลูกมีปมหน่อยเดียวก็ไม่รับแล้ว น่าชื่นชมคุณแม่เสียอีก รู้ตัวเองว่าผิดผลาดยังไม่สร้างความเดือดร้อนให้กับคนอื่น แต่โรงเรียนกลับมองว่าลูกคือตัวปัญหา อายุอาจจะเกี่ยวหน่อยแต่เชื่อว่า คุณแม่เค้าเลี้ยงลูกอย่างดี กล้าที่เผชินกับความจริง และมีลูก3 คนแล้วด้วย เป็นกำลังใจให้นะครับ สังคมสมัยนี้คงมองคนที่มีปมด้อยเป็นขยะของสังคมแน่เลย ปล.เคยโดนด่าคล้ายๆแบบนี้เหมือนกัน แก้ไขเมื่อ 01 ต.ค. 55 20:04:18 จากคุณ : น้องเชาว์ เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 55 19:58:51

ความคิดเห็นที่ 7 เราคงไม่เดินออกมาเฉยๆแน่นอน ต้องคุยกับ ผอ.ให้ได้ มีสิทธอะไรมาบอกในอนาคตลูกเราจะเป็นตัวสร้างปัญหา นี่ขนาดเป็นครูนะคะ ยังคิดอะไรได้โลกแคบขนาดนี้ ต้องมีคุยกันยาวค่ะงานนี้ ว่าแต่โรงเรียนไรคะเนี่ย จากคุณ : Blackmail เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 55 20:00:05

ความคิดเห็นที่ 8 คิดซะว่าสรรค์เปิดตา ไม่ต้องส่งลูกไปเรียนโรงเรียนนั้น ขนาดครูยังพูดจาเเบบนี้แล้วจะสอนเด็กนักเรียนอย่างไง   ว่าแต่ว่าโรงเรียนไหนพูดจาแบบนี้ จากคุณ : baby_lotion เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 55 20:05:14

ความคิดเห็นที่ 9 โรงเรียนสมัยนี้ส่วนใหญ่สัมภาษณ์ผู้ปกครองด้วยค่ะ ต้องยอมรับว่า เด็กเกิดมาเป็นผ้าขาว ถ้าพ่อแม่เลี้ยงดูดี เด็กก็เป็นเด็กดี ดูแลง่าย รับไว้ก็มีแต่จะสร้างชื่อเสียงให้โรงเรียน ครูที่สัมภาษณ์ทำผิดเรื่องเดียว เรื่องที่เอาอดีตมาตัดสินปัจจุบัน ถ้าครูเป็นคนที่มีทัศนคติแบบนี้ เราก็ไม่อยากให้มาเป็นครูของลูกเราหรอกค่ะ การไปหาโรงเรียนให้ลูก มันต้อง win-win โรงเรียนเลือกเรา เราก็เลือกโรงเรียนค่ะ จากคุณ : แม่น้องอัณณา เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 55 20:13:00 A:101.108.122.90 X: TicketID:258399

ความคิดเห็นที่ 10 ถ้าเป็นที่เมืองนอก ป่านนี้โรงเรียนนี้คงถูกฟ้องร้องไปแล้วค่ะ ชื่นชมน้องจขกท.นะคะที่เลือกจะเก็บลูกเอาไว้แทนที่จะทำแท้ง จากคุณ : siammeaw เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 55 20:13:46

ความคิดเห็นที่ 11 ดีแล้วที่เขามาใส่กับจขกทอย่างนี้ จะได้ไม่ต้องส่งเข้าโรงเรียนสั่วๆแบบนี้ ครูโรงเรียนเก่าเรามีลูกตั้งแต่อายุสิบห้า ลูกเขาถึงขั้นไปแข่งโอลิมปิกได้ ครูเขาก็สอนเด็กเข้าเป็นแพทย์ได้หลายสิบคน จะมีลูกอายุเท่าไหร่ไม่สำคัญหรอกค่ะ จะเลี้ยงเขาเป็นดีได้ใช้แค่อายุเป็นเครื่องวัดไม่ได้หรอก ขนาดฐานะ สติปัญญาของพ่อแม่ หรือหน้าตาทางสังคมยังมีส่วนน้อยเลย สวุฒิภาวะและจิตสำนึกความเป็นคนดีเท่านั้นแหละ ที่จะวัดว่าลูกออกมาดีรึเปล่า โรงเรียนที่มีครูใจแคบ กดคนอื่นเท่านั้นแหละ ต่อไปก็สร้างเด็กออกมาเป็นนักการเมือง กินภาษีชาวบ้านสืบเชื้อสั่วๆต่อไป ครูคงมีปมน่ะค่ะ อย่าคิดมากไปเลย จากคุณ : darkheart เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 55 20:18:24

ความคิดเห็นที่ 12 แหม่ๆๆ อยากทราบชื่อรร.จังเลย จากคุณ : ห้าสิงหาครบรอบแต่งงาน เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 55 20:22:45

ความคิดเห็นที่ 13 ไม่ต้องไปสนใจค่ะ เรามีลูกตอนอายุ 18 ปี วันที่ไปคลอดพยาบาล ก็บ่น ๆ ๆ อายุน้อยจัง ทำไมไม่เรียนให้จบ เราก็เออเจ็บท้องก็เจ็บ มาบ่นไรตรูฟระ แล้วจะเลี้ยงดูกันยังไง เราก็เฮ้ออออ ตรูเจ็บท้องว๊อยย แต่เราก็เลี้ยงเองนะคะ กินนมแม่จนขวบกว่า เติบโตเป็นชายหนุ่มที่น่ารักถึงทุกวันนี้ ไม่เห็นมีปัญหาอะไร อย่าไปสนใจเลยค่ะ มีลูกอายุน้อยก็ดีเหมือนกัน ไปไหนใคร ๆ มักคิดว่าน้อง เรา่โดนทักอย่างนี้ประจำละค่ะ  ขำกันทั้งแม่ ทั้งลูก จากคุณ : กระดังงาสีเงิน เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 55 20:26:29

ความคิดเห็นที่ 14 โชคดีแล้วค่ะที่ไม่ได้เรียนโรงเรียนที่มีบุคลากร "ห่วยๆ" แบบนี้ เราก็มีลูกตอน 19-20 เหมือนกัน เลี้ยงลูกเอง และไม่เคยไปสร้างปัญหาให้ใคร ถ้าเป็นเราเจอแบบนี้นะ ต้องขอคุยกับผอ.โรงเรียนซะหน่อยเถอะ แย่มาก ไม่อยากจะคิดเลยว่าลูกศิษย์เค้าจะเป็นยังไง บอกใบ้ชื่อโรงเรียนหน่อยดีมั๊ย? จากคุณ : Tui_NiChy เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 55 20:54:14

ความคิดเห็นที่ 15 เออ..อ่านแล้วไม่เข้าใจเหมือนกันว่ามันไปหนักหัวครูตรงไหน เป็นเราคงขอคำตอบจากผอ.อ่ะค่ะ..เอาให้รู้กันไปว่ามีลูกตอนอายุ 16 แล้วลูกจะไม่มีที่เรียน ตลกดีเนอะ จากคุณ : Z-Cube เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 55 20:59:36

ความคิดเห็นที่ 16 เราโดน ครูคนนี้เรื่องยาวแน่ ก่อนออกจากห้องเสียน้ำตากันบ้างสิเอ้า รังเกียจแทน จากคุณ : Data_Unix เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 55 21:03:09

ความคิดเห็นที่ 17 ไม่ผิดหรอก แต่ก็นะ คนส่วนใหญ่มักมองหญิงที่มีลูกในวัยเรียนว่า แก่แดด เขาคงกลัวว่าจะเลี้ยงดูอบรมรับผิดชอบลูกให้ดีได้เหรอ หาโรงเรียนใหม่ที่ไม่สนใจเรื่องนี้ มีเยอะไป จากคุณ : tormay เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 55 21:03:26

ความคิดเห็นที่ 18 ไม่ได้เข้าข้างครูนะคะ แต่ลองคิดว่า ถึงจะเป็นครู ก็เป็นคนธรรมดาทั่วไป ที่อาจจะรับรู้ความเป็นไปของโลก มองคนที่ท้องตั้งแต่วัยรุ่น ว่าไม่ดีอย่างโน้นอย่างนี้ เค้ามีสิทธิ์ที่จะมองใครแบบไหน ก็เป็นเรื่องของเค้า  ตราบใดที่คุณไม่ได้ทำให้ใครเดือดร้อน ถ้าคุณเป็นคนดี อบรมเลี้ยงดูลูกได้ดี สิ่งเหล่านี้ ไม่ใช่มองแค่ฉาบฉวยแล้วจะตัดสินกันได้ด้วยระยะเวลาแค่ชั่วครู่  แต่ด้วยคำพูด กิริยาวาจาของคุณ ที่แสดงออกไปต่อหน้าคนที่เรียกว่าครู(จะดีจะเลว อีกเรื่องนึง) อาจจะยิ่งไปตอกย้ำความเชื่อแบบนั้นให้เค้ามอง แม่วัยรุ่นไม่ดี หนักเข้าไปอีก สิ่งที่คนมองเราว่าเป็นยังไง ส่วนหนึ่งเกิดจากผลแห่งการกระทำของเรา แต่เราจะเป็นแบบที่เค้ามองหรือเปล่า อยู่ที่เราทำตัว และมีหน้าที่พิสูจน์ตัวเองค่ะ จากคุณ : กุ๊ดจัง เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 55 21:15:00

ความคิดเห็นที่ 19 เรากับแม่ห่างกัน 17 ปี แม่ก้อเลี้ยงมาอย่างดี ส่งเรียนจบโทเมืองนอก จนทุกวันนี้แต่งงานมีครอบครัว มีลูกสองคน แม่ไม่เคยขอเงินเลยซักบาท มีแต่ช่วยเหลือ ทั้งๆที่มีภาระเป็นน้องคนเล็ก และหลานที่เกิดจากน้องชาย คนเราวัดไม่ได้หรอกค่ะว่าเป็นแม่ตอนอายุเท่าไหร่ถึงจะเลี้ยงลูกให้มีคุณภาพได้ คุณจขกท อย่าไปใส่ใจเลยค่ะ ดีซะอีก ไม่ต้องไปเสียเงินให้ลูกเรียนกับคนใจแคบแบบนั้น จากคุณ : ***สาวน้อยนั่งเหม่อข้างสนาม*** เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 55 21:24:52

ความคิดเห็นที่ 20 คุณครูก็ผิดส่วนหนึ่ง แต่เราว่า จขกท ก็ผิดส่วนหนึ่งนะคะ ที่คุณถามว่า ผิดตรงไหนที่มีลูกตอนเรียน คุณคิดว่ามันเป็นสิ่งที่สมควรหรือค่ะ และเราว่าไม่ควรไปตอบโต้คุณครูว่า ลูกคุณไปสร้างปัญหาให้ครู หรือญาติครูหรอ มันทำให้คุณดูไม่มีวุฒิภาวะเท่าไหร่ค่ะ อีกอย่าง คุณมีลูกคนแรก ตอนอายุ 16 ม.4 แล้วคุณมีลูกคนที่สอง ตอนอายุ 18 ม.6 อีกคนหรอค่ะ?? จากคุณ : Gingerging เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 55 21:29:19

ความคิดเห็นที่ 21 ต่อไปถ้ามีมาถามอีก ก็บอกไปสิว่า ดีที่ไม่มีตั้งแต่ 9 ขวบ เอิ้กๆๆ อายุน้อยที่สุดในโลกที่มีบันทึกไว้คือ 5 ขวบ คงไม่มีใครอยากทุบสถิตินี้น๊า เอิ้กๆๆ แม่ที่อายุน้อยที่สุดในโลกที่มีการบันทึกไว้ โดยมีเอกสารอ้างอิงคือ ลินดา มีไดน่า ( Lina Medina ) เธอเป็นคนเมือง Paurange ประเทศเปรู (Peru) ในขณะที่เธอให้กำเนิดลูกเธอมีอายุเพียง 5 ขวบกับ อีก 7 เดือน 21 วัน พ่อแม่ของลินดา พาเธอมาส่งที่โรงพยาบาลเนื่องจากเธอท้องโตมาก ในช่วงแรกทุกคนคิดว่าเธอเป็นเนื้องอกในช่องท้อง แต่หมอกับตรวจพบว่าเธอตั้งท้อง 7 เดือน เพื่อความแน่ใจ Dr.Gerardo Lozada จึงส่งเธอเข้าตรวจกับผู้เชี่ยวชาญ ที่กรุงลิม่า ประเทศเปรู เพื่อตรวจสอบยืนยันอีกครั้งหนึ่ง เวลาผ่านไปอีกเดือนครึ่งเธอได้ให้กำเนิดบุตรชายเมื่อวันที่ 14 พฤศษาคม 1939 โดยมีน้ำหนักแรกเกิด 2.7 กิโลกรัม โดยเธอได้ตั้งชื่อลูกชายของเธอว่า Gerardo เหมือนหมอที่ดูแลเธอ และลูก Gerardo ถูกเลี้ยงดูร่วมกับ ลินดาในฐานะพี่ชายน้องชาย จน Gerardo มีอายุ 10 ขวบความจริงจึงเปิดเผย และผู้ต้องสงสัยที่ทำการข่มขืนลินดาก็คือ พ่อของเธอ แต่เนื่องจากหลักฐานไม่เพียงพอ พ่อของลิดาจึงได้รับการปล่อยตัวในที่สุด Gerardo เป็นเด็กที่มีสุขภาพแข็งแรงตั้งแต่เกิดแต่กับเสียชีิวิต เมื่ออายุเพียง 40 ปีเนื่องจากโรคเกี่ยวกับไขกระดูก ( Bone marrow ) ส่วนลินดาเสียชีวิต เมื่อมีอายุได้ 75 ปี ที่มา wowboom.blogspot จากคุณ : นนนี่จ๊ะจ๋า เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 55 21:36:31

ความคิดเห็นที่ 22 คือ ถ้าตามมาตรฐานสังคม กรณีของคุณมันก็แปลกน่ะค่ะ ดิฉันว่า ..ในเมื่อเรื่องก็เกิดมาแล้ว คุณจะไปห้ามคนอื่นไม่ให้เค้าตกใจก็คงไม่ได้หรอกค่ะ หรือจะให้คนมาชื่นชมว่าเก่ง..ก็คงลำบากเหมือนกัน เอาเข้าจริงๆ รร. ปัจจุบัน บางทีก็คัดเด็กผ่านการสัมภาษณ์ผู้ปกครองนะคะ แต่ในกรณีนี้ ดิฉันว่าทางรร. ก็เสียมารยาทพอกัน จากคุณ : JNOY เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 55 21:42:57

ความคิดเห็นที่ 23 ดิฉันไม่ได้จงจจะว่าร้ายใคร และดิฉันก็มั่นใจว่าลูกดิฉันก็เป็นเด็กปกติ ธรรมดา ไม่ได้สร้างปัญหาให้ใคร แน่ๆ เรื่องการแต่งตัวของดิฉัน..แน่นอนค่ะ แต่งตัวเหมือนคนปกติ เสื้อเชิต กางเกงยีนส์ ดิฉันทำงานบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง ซึ่งตำแหน่งค่อนข้างสูง คงไม่แต่งตัวเหมือนเด็ก สก็อย แน่นอน แล้วอีกอย่าง ลูกดิฉัน ก็เรียนหนังสืออยู่แล้ว แต่แค่เราอยู่ไกลกัน เลยอยากย้ายลูกมาใกล้ๆ ใช่ค่ะที่ดิฉันตั้งคำถาม ว่ามีลูกตอนเรียน ม4 ผิดมากเลยเหรอ เพราะ พอเกิดการตั้งท้องถ้า ต้องทำแท้ง คงจะเลวมาก แล้วอีกอย่างดิฉันอยู่กับสามีมา 10 ปี ซึ่งไม่เคยเปลี่ยน สามีเลย มันก็เป็นไปได้ที่ต้องมีการตั้งท้อง ดิฉันมีลูกคนที่2ตอนเรียนจบ ม6 ตอนนั้นอายุ 18 หลังจากนั้นเริ่มโต มีวุฒิภาวะมากขึ้น ก็เริ่มคุมกำเนิด จนมีปัญหากับมดลูก กว่าจะมีลูกคนที่3ก็วันที่ดิฉัน พร้อม มีทุกอย่างเป็นของตัวเอง แล้วดิฉันเลยไม่เข้าใจว่า ในอนาคต ลูกจะไปสร้างปัญหาให้สังคม เพราะ จากอดีต จิงๆเหรอ กะทู้นี้ไม่ได้ต้องการด่า ว่า ใคร แค่ รู้สึก โกรธ มาก ที่ถูกตัดสิน ภายในเวลไม่ถึง 30 นาที แล้วจะไม่มีการพิสูทธิ์ โดยการให้ลูกเรียนที่นั่นเด็ดขาด เพราะ คำว่าโรงเรียนเอกชน เราจ่ายเงินเอง ไม่มีใครจ่ายให้ ไม่ใช่โรงเรียนรัฐบาลที่เราต้อง ง้อ ก่อนหน้าที่จะโพส เราคิดแค่ว่า สังคมตัดสินวัยรุ่นที่เค้ามีลูกเร็วแค่นี้เหรอ ไม่คิดบ้างเหรอ ว่าปจุบันคนๆนั้นเรียนจบอะไร ทำงานอะไร บางทีเค้าอาจจะเป็นหัวหน้างานคุณก็ได้ จากคุณ : may..SEA เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 55 21:59:09

ความคิดเห็นที่ 24 มีคนแบบนี้ในโรงเรียนอย่าไปเรียนมันเลย ทำมาเป็นบอกไม่ชอบพวกมีลุกตอนไม่พร้อม ตัวเองละจิตใจพิการแท้ จากคุณ : ETHNOMUSIC เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 55 22:03:48

ความคิดเห็นที่ 25 สังคมตัดสิน รึ คุณครูท่านนั้นตัดสิน รึ เราจะตัดสินตัวเอง ???? ตอนคุณเดินออกนอกห้องไป คุณครูคนนั้น  ถูกยืนยันด้วยการกระทำไปแล้วพร้อมกับความคิดที่ว่า "ที่ชั้นเคยคิดว่า เด็กวัยรุ่นท้องตอนเรียน ไม่มีวุฒิภาวะ มันเป็นจริงๆ อย่างนั้นซะด้วยสิ ชั้นคิดไม่ผิดเลยจริงๆ"  และ ณ ตอนนี้ อาจจะนอนดูละครทีวีอยู่ ไม่รู้ร้อนรู้หนาว ลืมเรื่องของคุณไปแล้วก็ได้ ส่วนตัวคุณเอง โกรธ โกรธ  และ...โกรธอยู่ ไม่ว่าจะเป็นหัวหน้างานใคร เจ๋งแค่ไหน ต้องเรียนรู้ที่จะควบคุมสติ อย่าปล่อยให้ความโกรธเข้าครอบงำ ไม่ได้เพื่อคนอื่น แต่เพื่อตัวคุณเองนั่นแหละ จากคุณ : กุ๊ดจัง เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 55 22:13:50

ความคิดเห็นที่ 26 รรอะไรคะนี่ แย่มาก ขอหลังไมค์ด้วยค่ะ กลัวเผลอไปสมัครเข้า จากคุณ : miniaibon เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 55 22:30:58

ความคิดเห็นที่ 27 มีโรงเรียนดีๆๆที่เค้าพร้อมจะรับเด็กเข้าเรียนอยู่แล้วค่ะ อย่าคิดมากเลย ค่อยๆๆหานะสู้ๆๆ จากคุณ : มิ้นกับน้ำ เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 55 23:10:51

ความคิดเห็นที่ 28 เฮ้อ คนสมัยนี้ ติดสินอะไรบ้า ๆ ค่ะ สมัยก่อน คนมีลูกตั้งแต่ 15-16 สมัยนี้ = ใจแตก ตรรกะแย่ ๆ เรามีลูกตอน 19 ยังไปเรียนเลยเพราะดูไม่ออก จากคุณ : BeWeZ เขียนเมื่อ : 2 ต.ค. 55 01:27:49

ความคิดเห็นที่ 29 ไม่รู้สิ เรามองว่าครูเอกชนก็เหมือนเจ้าของร้าน จขกท คือลูกค้า มันไม่เหมือนกับว่าไปสมัครงาน ต้องทดสอบนู่นนี่นั่น ทดสอบความอดทน ทดสอบไหวพริบ ทดสอบว่าทำงานได้ไหม ตลกนะ ถ้า จขกท เอาเรื่องนี้ไปพูด บอกชื่อโรงเรียนมา ยิ่งมีเเต่เสียกับเสียไม่ใช่เหรอ จะทดสอบไปทำไม ยิ่งไม่เข้าใจ -*- จขกท ส่งชื่อโรงเรียนหลังไมค์มาหน่อยก็ดีนะคะ อยากไปทดสอบด้วยตัวเองเหมือนกัน ว่าครูจะดีเลิศเเค่ไหน โรงเรียนจะดีเลิศเเค่ไหน คนไทยก็เเปลก ผู้หญิงท้องเก็บลูกไว้ มีเเต่คำวิจารณ์ ส่วนพวกที่ทำเเท้ง ก็เดินเริงร่าสบายตัวไป มันเลยมีเเต่คนไปทำเเท้งไง จริงๆประเด็นของเรื่องนี้คือ การเอาเด็กเข้าเรียน มันต้องพิจารณาถึงพ่อแม่ขนาดนี้ด้วยรึไง ตัดเรื่องเด็กจะเป็นคนดีหรือต่อไปเด็กจะเเว๊นไม่เเว๊นออกไปก่อน โรงเรียนมีเป้าหมายอะไร สอนเด็กให้มีความรู้ สอนเด็กให้เก่งไม่ใช่เหรอ การให้ความรู้คือหน้าที่ของโรงเรียน เพื่อที่เด็กจะได้รู้สิ่งรอบตัวมากขึ้น เเต่ครูโรงเรียนนี้ทำตัวเอง ปฏิเสธการให้ความรู้ ถ้าอยากให้เด็กโตไปเป็นคนดี ต้องให้ความรู้เขาสิ เขาจะได้รู้เหตุเเละผล สิ่งที่ทำลงไปก่อให้เห็นผลยังไง ยิ่งอ่านก็เหมือนประเภทโรงเรียนที่รับเเต่เด็กเก่งอยู่เเล้ว สอนเด็กเก่งอยู่เเล้วให้เก่ง มันน่าภูมิใจตรงไหน โรงเรียนช่วยน้อยมาก เเต่สอนเด็กที่ไม่เก่งให้เก่ง มันไม่น่าภูมิใจกว่าหรอกเหรอ หรือโรงเรียนคิดว่าโจทย์นี้มันยากเกินไป ไม่มีปัญญาเเก้ เลยหนีปัญหางั้นสิ เราเชื่อว่า จขกท มีวุฒิภาวะมากพอ เพราะงั้นอย่าไปง้อเลยค่ะ โรงเรียนอื่นก็มี จริงอยู่ที่ จขกท ควรคุมอารมณ์บ้าง เเต่เราอ่านก็ไม่เห็นว่าคุณจะโกรธจะเหวี่ยงเท่าไหร่เลย ครูเขาก็ช่างพูดเนอะ ถ้าเป็นเมืองนอกฟ้องได้เเล้ว โรงเรียนก็หมดเป็นล้านเเน่นอน เเต่มาตราฐานเมืองไทยก็เเบบนี้เเหละ ต้องทำใจค่ะ ไม่ก็ออกมาโฮมสคูลเเบบเรานี่ เเล้วส่งต่อนอกไปเลย เศร้าเนาะ เมืองไทย ปากก็ว่าทุกคนมีสิทธิเท่าเทียม เเต่การปฏิบัติ เเละอคติเเย่ๆเเบบนี้ยังมีอยู่ คนไทยยังดูถูกคนไทยด้วยกันเอง เเล้วจะเอาอะไรไปสู่ต่างชาติเขา ไม่พัฒนาอย่างนี้ต่อไปเเหละดีเเล้ว วัตถุพัฒนาไป เทคโนโลยีเจริญไป เเต่จิตใจต่ำเตี้ยติดดิน จากคุณ : darkheart เขียนเมื่อ : 2 ต.ค. 55 02:32:59

ความคิดเห็นที่ 30 ครูเสียมารยาทที่ว่าคุณแบบนี้ ไม่มีใครอยากให้มันออกมาในรูปนี้หรอก(ท้องวัยเรียน) หาโรงเรียนอื่นให้ลูกดีกว่า ใจเย็นๆนะคะ จากคุณ : mumijungka เขียนเมื่อ : 2 ต.ค. 55 06:25:26

ความคิดเห็นที่ 31 เรามีลูกโตเป็นหนุ่มแล้ว มีตอนเรียนเหมือนกัน แต่ไม่เคยคิดทำร้ายลูกด้วย เดี๋ยวนี้ลูกกับแม่เดินคู่กันนึกว่าพี่สาว น้องชาย เคยเจอประเภทนี้ ก็มีไฟท์บ้าง ด่าคืนบ้าง อย่างน้อยเราก็เป็นคุณแม่วัยรุ่นที่รู้จักรับผิดชอบในสิ่งที่ตัวเองทำลงไป อย่าได้แคร์ค่ะ จากคุณ : PHaTthiTA เขียนเมื่อ : 2 ต.ค. 55 08:09:33

ความคิดเห็นที่ 32 เป็นเราถ้าเขารับ เราก็ไม่ให้ลูกเรียนค่ะ ถ้าเรียนที่นี่มีหวังลูกตกเป้นขี้ปากครู..... หา รร ใหม่ค่ะ สู้ๆ นะคะ จากคุณ : คุณแม่มาเฟีย เขียนเมื่อ : 2 ต.ค. 55 08:26:22

ความคิดเห็นที่ 33 ลองดูบทสนทนาต่อไปนี้ นั่งรอซักพัก ครู ก็เรียกเราเข้าไป ไปถึงเค้าถามเราว่า  ลูกกี่ขวบ 9 กับ 7 ค่ะ  >>>>>>(ถามเพราะสงสัย เพราะจะเอาลูกมาสมัครเข้าเรียน) เราก็บอกไป....เค้าหันมาถามเราว่า  คุณอายุเท่าไหร่......>>>>>> (อาจจะเพราะเจ้าของกระทู้หน้าเด็ก หรือ เห็นวันเดือนปีเกิดแม่ในใบสมัคร แต่ก็เป็นคำถามที่อาจจะถามได้ ปกติ เมื่อลูกสมัครเข้าเรียน) เราก็ตอบ 25 ค่ะ เค้าถามเรา ด้วยสีหน้าที่ตกใจมาก....มีลูกตั้งแต่อายุเท่าไหร่ >>>>>(ไม่ตกใจสิแปลก) เรา.....16 เค้าเงียบ........แล้วฉันมาถามต่อว่า เลี้ยงลูกเองมั้ย  >>>>>>(อาจจะสงสัยเพราะเห็นมีลูกตั้งแต่อายุน้อย จึงไม่แปลกที่จะถาม) เรา...ไม่ได้เลี้ยงค่ะ เพราะตอนนั้นเรียน ม4อยู่ ไม่ได้ทำเรื่องด็อปเรียนเหรอ >>>>>(อยากรู้ต่อผิดไหม) เรา...ป่าวค่ะ ท้องไม่ใหญ่ ลูกพิการรึป่าว >>>>>(ถามคุณสมบัติเด็กที่เข้าเรียน ซึ่งก็อาจจะดูพฤติกรรมการเลี้ยงดู ของแม่ไปด้วยตามความเชื่อเดิมของตัวเองว่า เด็ก 16 ใจแตกอาจจะเลี้ยงลูกไม่ได้ดี กินยาขับ ซึ่งบางทีเราห้ามความคิดคนไม่ได้ ผลลัพธ์ชวนอาจจะชวนให้มองไปได้แบบนั้น ) เรา..ครบ32 ปกติดี นน แรกเกิด 2750 ปกติมั้ยค่ะ ณ จุดนี้ คุณมีทางเลือกดังนี้ คือ ตอบในแบบที่คุณคิดและทำไปแล้ว ด้วยการ"ตีความ" คำถามที่เค้าถามมาทั้งหมด เป็นความจงใจที่จะกีดกันไม่ให้แม่ที่ท้องในวัย 16 ส่งลูกอายุ 9 ขวบและ 7 ขวบมาเรียน  ซึ่งผลของการกระทำเป็นแบบที่คุณเห็น...ตัวเองโกรธ ลูกไม่ได้รับเข้าโรงเรียน และคิดว่า โดนดูถูก แสดงออกถึงวุฒิภาวะและการควบคุมอารมณ์ ถ้าถามส่วนตัวดิฉันซึ่งไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ คำถามด้านบน ถือว่าปรกติ อาจจะมีกิริยาวาจาแสดงออกของอาจารย์ท่านนั้น ที่แสดงออกถึงการกีดกันด้วยหรือเปล่า จึงทำให้รู้สึกแบบนั้น ไม่ได้บรรยายมา ณ ที่นี้ เรา..จะถามทำไม  ดิฉํนมาสมัครเรียนให้ลูก ไม่ได้มาเรียนเอง   เรา..จะรับก็รับ ไม่รับ ก็ไม่เป็นไร เค้าเลยบอกว่า เค้าไม่ชอบ พวกวัยรุ่นมีลูกตอนไม่พร้อม เด็กพวกนี้อีกหน่อยจะสร้างปัญหา  >>> อาจจะเป็นการอธิบาย ความคิด ความเชื่อจากประสบการณ์ของตัวเอง ต่อพ่วงท้ายไปด้วยอคติหน่อยๆ แต่ดิชั้นว่า ยังดีที่เขาพูดตรงๆ ว่าคิดยังไง เพื่อเปิดโอกาสให้คุณอธิบายข้อข้องใจความเชื่อดี ยังดีกว่าไม่พูดแล้วปล่อยให้กลับบ้านไป ด้วยความสงสัยว่าทำไมฉันมีคุณสมบัติเหมาะสมแต่ไม่ได้เข้า คุณควรฉวยโอกาสนี้ ในการนำเสนอตัวเอง แต่สิ่งที่แสดงออกดันกลายเป็น เรา...โมโห เลือดขึ้นหน้าเลย เราเลยถามกลับไปว่า นะปจุบันลูกเราเคยไปสร้างปัญหาให้คุณ หรือญาติคุณหรือไง  เราเคยไปขอยืมเงินคุณมาส่งลูกเราเรียนเหรอ ตึ่ง!!!!!! ถ้าลองเปลี่ยนคำตอบใหม่ เพื่อแสดงถึงความพร้อมและเจตนาในการส่งลูกเข้าโรงเรียน คุณ : แต่ถึงหนูจะท้องตอนอายุยังน้อย ที่บ้านก็ยอมรับและสนับสนุนให้เลี้ยงลูก โดยไมให้เอาเด็กออก ช่วงแรกหนูจึงไม่ได้เลี้ยงลูกเอง มีคุณย่าคุณยายช่วยอบรมสั่งสอน ในขณะที่หนูไปเรียนเหมือนปกติ จนจบชั้นม. 6 และปัจจุบัน หนูและสามี ทั้งสองคนทำงานมีอาชีพ มีความมั่นคง พอที่จะส่งเลี้ยง เลี้ยงดูลูกเอง จึงอยากให้ลูกมาอยู่ใกล้ๆ เรียนโรงเรียนที่สามารถเลี้ยงดูลูกเองได้ ขอให้อาจารย์โปรดช่วยพิจารณาค่ะ คุณครูท่านนั้น อาจจะยิงคำถามต่อๆ มา เพื่อให้คุณพิสูจน์ แสดงความตั้งใจของตัวเอง ก็เป็นได้ และในท้ายที่สุด เค้าอาจจะเปลี่ยนทัศนคติที่มีต่อ แม่ท้องตอนอายุ 16 ด้วยบทสนทนาในแบบที่  2  และรับลูกคุณเข้าเรียน (หรืออาจจะไม่รับด้วยคุณสมบัติข้ออื่นๆ ก็อาจเป็นได้อีกเช่นกัน) แต่สุดท้าย อาจารย์ท่านนั้น ยังคงมีความเชื่อแบบเดิมอยู่ ด้วยการกระทำในแบบที่ได้ทำไปแล้ว อย่าโทษการตัดสินของสังคม อย่าโทษคุณครูท่านนั้น...จงโทษตัวเอง และรับผลของการกระทำอันขาดสติ ของตัวเองเถอะค่ะ แก้ไขเมื่อ 02 ต.ค. 55 08:57:18 จากคุณ : กุ๊ดจัง เขียนเมื่อ : 2 ต.ค. 55 08:49:16

ความคิดเห็นที่ 34 คุณครู เขาอาจกำลังทดสอบวุติภาวะทางอารมณ์ของเจ้าของกระทู้ก็ได้ อีกอย่างเด็กคือผ้าขาว ผู้ใหญ่เป็นอย่างไร เด็กมักเป็นอย่างนั้น โรงเรียนอาจมีสิทธ์เลือกเด็กที่จะรับเข้ามาเรียน ว่าจะไม่สร้างปัญหาใดๆ ส่วนเรื่องนี้ใครผิดหรือถูก ผมไม่รู้เพราะไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ จากคุณ : ไชโป๊ผัดไข่ เขียนเมื่อ : 2 ต.ค. 55 08:55:19

ความคิดเห็นที่ 35 อย่าไปสนใจเลยคะ คุณ จขกท คุณอายุเท่าเราเลยค่ะ เพื่อนเรากะท้องตอน 17 ทุกวันนี้มันกะเรียนจบป.ตรี ส่งลูกเรียน ไม่เหนทำใครเดือดร้อนเลย อย่าคิดมากนะคะ สู้ๆค่ะ ^__^ จากคุณ : นางฟ้าในวงเหล้า เขียนเมื่อ : 2 ต.ค. 55 09:05:13

ความคิดเห็นที่ 36 ถ้าทัศนะคติเค้าไม่ดีไม่มีทางจะสอนสิ่งที่ดีๆได้หรอก ใจแคบมาก!!! จากคุณ : orange coral (orange coral) เขียนเมื่อ : 2 ต.ค. 55 09:10:37

ความคิดเห็นที่ 37 บุคลากร มันก็สะท้อนสิ่งที่โรงเรียนนี้เป็นแหละครับ ดีแล้วที่ไม่ได้เรียนที่นี่ ขอให้ได้โรงเรียนที่ดีในเร็ววันครับ สู้ๆครับ จากคุณ : 1st Group Lens Frame Ass'y เขียนเมื่อ : 2 ต.ค. 55 09:13:12

ความคิดเห็นที่ 38 คือ คุณครูเค้าคงแปลกใจค่ะ เหมือนกับพฤติกรรมของ จขกท. มันผิดไปจากบรรทัดฐานของสังคมค่ะ (พฤติกรรมเบี่ยงเบน) คือ การติฉิน นินทา เป็นเรื่องปกติค่ะ ที่จะอยู่คู่กับพฤติกรรมเบี่ยงเบน เพราะเป็นเรื่องของค่านิยม เพราะฉะนั้น จขกท. ก็คงจะต้องพฤติกรรมดังกล่าวอีกเยอะค่ะ ทั้งต่อหน้าและลับหลัง ^_^ คือ เค้าจะเหมารวมไปเอง ว่า คนที่มีลูกก่อนวัยอันควรที่เหมาะสม มักจะเป็นเด็กใจแตก แต่ อย่างไงเสีย จขกท.ก็ไม่ต้องไปกลัวค่ะ ถ้าเรามั่นใจว่าตัวเองดีพอ ยังไงก็ขอให้ได้ โรงเรียนเร็วๆนะคะ (ขอโทษนะคะที่ต้องพูดตรงๆ เพราะยังไงซะ จขกท.ก็ต้องไปเจอโลกอีกมากค่ะ ต้องเจอทั้งคนที่ว่า หรือนินทาแบบนี้อีก และต้องเจอคนที่ชื่นชม ในความเข้มแข็งของ จขกท.ค่ะ เราห้ามความคิดใครไม่ได้หรอกค่ะ) จากคุณ : หมูหวานน้ำกะทิ เขียนเมื่อ : 2 ต.ค. 55 10:27:01

ความคิดเห็นที่ 39 เข้าใจว่าโกรธ เพราะรู้สึกเหมือนดูหมิ่น แต่ในโลกความจริง เวลาน้องเข้าเรียน และคุณไปรับ-ส่ง หรือร่วมกิจกรรมกับผู้ปกครองท่านอื่น อาจโดนนินทามากกว่านี้ได้ค่ะ ต้องใจเย็นกว่านี้ เพื่อน้องเวลาอยูรร. จะได้ไร้กังวล แม่เราบอกเสมอว่าบางครั้งแกล้งโง่บ้างก็ได้ ไม่ต้องรู้ทันคนไปหมด และตอบโต้ไปหมดทุกครั้ง จากคุณ : simiach เขียนเมื่อ : 2 ต.ค. 55 11:19:03

ความคิดเห็นที่ 40 โรงเรียนอะไรคะ หลังไมค์มาบอกหน่อยคะ ( โมโหแทน จขกท) คุณแม่เรามีเราตอน 17 ปัจจุบันเรา 33 แม่เรา 50 ไปไหนด้วยกัน เหมือนพี่น้อง เป็นที่ปรึกษาและเพื่อนคู่คิดได้ดีเยี่ยม จขกท. อย่าได้แคร์นะคะ จากคุณ : nu_ningning เขียนเมื่อ : 2 ต.ค. 55 11:20:04

ความคิดเห็นที่ 41 หลังไมค์ชื่อรรหน่อยจ้า เป็นปกติขของคนทั่วไปที่ตัดสินจากภายนอก ถึงให้ลูกเรียนที่นี่ ก็ไม่ได้หมายความว่าจะเป็นคนดี สถาบันที่ดีที่สุดคือครอบครัวค่ะ หาที่ใหม่เนอะ จากคุณ : ฮิปโป-โป๊ เตมัส O.,o เขียนเมื่อ : 2 ต.ค. 55 11:40:46

ความคิดเห็นที่ 42 สงสัยค่ะว่าทำไมแม่อายุน้อย มันเกี่ยวอะไรกับการไม่รับลูกเข้าเรียน งงมาก แต่ดีแล้วค่ะถ้า รร.คัดเลือกด้วยวิธีนี้อย่าให้ลูกไปเรียนเลยค่ะ ขอทราบชื่อ รร.ด้วยอีกคนนะคะ เราจะได้ไม่ให้ลูกไปเรียน ลูกเราออกมาตอนเราอายุ26 (ตัวเล็กนิดเดียวตัวเล็กกว่าคุณจขกท.ด้วยนะคะลูกเรา2270gเอง)เรายังรู้สึกว่าเรามีลูกช้าไปเลยค่ะ อยากจะมีลูกตั้งแต่อายุ 18 555(พอดีตอนนั้นยังเรียนไม่จบง่ะทำงานด้วยกลัวลำบาก) จากคุณ : ออยล์ เขียนเมื่อ : 2 ต.ค. 55 12:36:43

ความคิดเห็นที่ 43 มาให้กำลังใจ เจ้าของกระทู้ครับ น้องยังดี มีความรับผิดชอบ ต่อ ลูก และครับครัว... สู้เพื่อลูกครับ จากคุณ : น้าลีโอ เขียนเมื่อ : 2 ต.ค. 55 12:39:14

ความคิดเห็นที่ 44 โรงเรียนอะไรคะนั่น ทำไมวิสัยทัศน์ห่วยแตกขนาดนั้นเนี่ย จากคุณ : mikenekomeaw เขียนเมื่อ : 2 ต.ค. 55 12:39:17

ความคิดเห็นที่ 45 แม่แต่งงานตอน 18 แม่เราก็ท้องเราตอน 19 แม่ไม่ได้เรียนสูงจบแค่ ป.6 เพราะไม่มีเงินเรียนต่อ ยายมีลูก 5 คนแม่เป็นคนโต ต้องออกมาดูแลน้อง ๆ แม่ดูแลลูก ๆ ได้เป็นอย่างดี ให้การศึกษา ให้ความอบอุ่น เราเสียอีกมาท้อง ก่อนแต่งงาน ตอนอายุ 25 ...แต่เราเรียนจบทำงานแล้ว ก็เลยไม่อะไรมาก แต่คิดกลับไป ถ้าเราเป็นแบบแม่เรา ๆ จะเลี้ยงลูกเราได้ดีเท่าแม่เลี้ยงเราไหม อายุ..ของแม่กับลูกไม่ใช่คำตอบ  วุฒิภาวะของคนบางครั้งก็ไม่ขึ้นอยู่กับ อายุเสมอไป ไม่งั้นจะมีคนบอกเหรอ เฒ่าเพราะอยู่นาน  คนบางคนมีลูก ตอนอายุเยอะ ๆ หรืออายุที่เหมาะสม ก็เลี้ยงลูกให้ดีไม่ได้ แต่คนอายุน้อย ก็ใช่ว่าจะเลี้ยงลูกดีได้เสมอไป ของแบบนี้ต่างกรรมต่างวาระค่ะ อย่าคิดมากนะคะ คุณแม่ลองหาโรงเรียนที่คุณสบายใจ ลูกสบายใจ เพราะ คนที่เค้ามองแบบนี้ ก็จะมองแบบนี้ไปเรื่อย ๆ จนกว่าจะเจอกับตัวเอง จากคุณ : Krabai_Fern เขียนเมื่อ : 2 ต.ค. 55 12:54:00

ความคิดเห็นที่ 46 เราคิดว่ามันเป็นเหมือนผลกระทบที่คุณต้องยอมรับนะ เพราะการมีลูกตั้งแต่อายุยังน้อย ยังไงมันก็ผิดจารีตประเพณีอยู่แล้ว แน่นอนว่าคนต้องมองคุรในแง่ไม่ดีไว้ก่อน เมื่อคุณทำอะไรผิดพลาดไปแล้วครั้งหนึ่ง มันก็เหมือนแผลเป็นที่อยู่กับคุณตลอดไป จะมองว่าคุณครูเขาผิดไหม เขาก็คือคนธรรมดาคนหนึ่งเท่านั้นเอง ไม่ใช่แค่ครูคนเดียวที่คิด คนอื่นๆเขาก็คิด(แต่คิดในใจ ไม่พูดไม่ถาม) และการที่คุณตอบโต้ ก็เป็นการแสดง EQ ของคุณ ว่าคุณมีมากขนาดไหน ปล.หลายๆโรงเรียน มีการเรียกผู้ปกครองเข้าสัมภาษณ์ด้วย เพื่อดูลักษณะนิสัยของผู้ปกครอง และคุณสอบตกในจุดนั้น จากคุณ : สถานีต่อไปคานทองนิเวศ เขียนเมื่อ : 2 ต.ค. 55 12:54:36

ความคิดเห็นที่ 47 มาเป็นกำลังใจให้ค่ะ... คุณทำถูกต้องที่สุดแล้วค่ะ... ตั้งท้อง..เลี้ยงลูก..พ่อแม่ครบ.. พ่อแม่มีงานทำ...ไม่เห็นคุณจะทำผิดตรงไหน ความเห็นไหนยกตรรกะอะไรแปลกๆมา ก็อย่าไปอ่านมากค่ะปวดประสาทเปล่าๆ จะมาทดสอบอะไรนักหนาคนเราโตๆกันแล้ว ควรให้เกรียติกันบ้างไม่ใช่มาตัดสินคนจากอคติของตัวเอง เราไม่รู้นะคนเรามีรักโลภโกรธหลงเป็นธรรมดา... โดนพูดจาเหมือนดูถูกขนาดนี้คนไม่โดนกับตัวคงไม่รู้ จะมานั่งคิดว่าตอบแบบที่1แบบที่2อยู่คงต้องเป็นที่โลกสวยเกินแล้วค่ะ สรุปง่ายๆโรงเรียนอื่นๆดีๆยังมีอีกเยอะ ไม่จำเป็นต้องให้ลูกเราไปเรียนกับครูบาอาจารย์ทัศนคติแบบนี้ดีกว่าค่ะ ขอให้ลูกได้เข้าโรงเรียนดีๆนะคะ สู้ๆ จากคุณ : ห้องนี้ศรีนวล เขียนเมื่อ : 2 ต.ค. 55 13:23:38

ความคิดเห็นที่ 48 จะถามทำไม  ดิฉํนมาสมัครเรียนให้ลูก ไม่ได้มาเรียนเอง จะรับก็รับ ไม่รับ ก็ไม่เป็นไร ณ ปัจจุบันลูกเราเคยไปสร้างปัญหาให้คุณหรือญาติคุณหรือไง  เราเคยไปขอยืมเงินคุณมาส่งลูกเราเรียนเหรอ   เราว่านะ...ลูกคุณไม่ได้เข้าเรียนก็เพราะ 3 ประโยคนี่แหล่ะค่ะ ... จากคุณ : แม่นาล่าจัง เขียนเมื่อ : 2 ต.ค. 55 13:41:16

ความคิดเห็นที่ 49 การตั้งครรภ์ตอนอายุ 16 แล้วไม่ทำแ้ท้ง ก็เป็นสิ่งที่ดีและคุณก็โชคดีที่มีครอบครัวคอยดูแลลูกในขณะนั้น แต่ก็ต้องยอมรับว่ามันไม่ใช่เรื่องที่ถูกครรลองของสังคมไทย เพราะหน้้าที่ของเด็กในวัยนั้น มีเรื่องเดียว คือ การตั้งใจเรียนหนังสือ จริงอยู่ สมัยก่อนการมีครอบครัวตั้งแต่อายุำไม่ถึง 20 เป็นเรื่องปกติ เพราะ ผู้หญิงสมัยก่อนไม่ได้รับโอกาสในการเรียนเท่ากับปัจจุบัน แต่สมัยนี้ โอกาสในการศึกษามันเท่าเทียมกัน อย่างน้อยก็คือมัธยมปลาย ดังนั้น การเป็นคุณแม่วัยรุ่น ย่อมยังเป็นสิ่งที่สังคมส่วนใหญ่อาจตั้งคำถามอยู่ คิดกลับกันว่า ในความเป็นพ่อ แม่ขณะนี้ เรามีลูก เราก็ตั้งใจ/คาดหวัง ให้ลูกเรา ตั้งใจเรียน และสำเร็จการศึกษาอย่างน้อยคือในระดับอุดมศึกษาก่อน ถึงจะมีครอบครัว ใช่หรือไม่ อีกอย่าง ตัวตนของพ่อแม่ หรือ ผู้เลี้ยงดู ย่อมสะท้อนตัวตนของลูก  ดังนั้น บางโรงเรียนก็อาจใช้เป็นปัจจัยหนึ่งในการรับเด็กก็เป็นได้ เพราะ ความคาดหวังอย่างหนึ่งของผู้ปกครองโดยทั่วไปสำหรับโรงเรียนเอกชน คือ ต้องการสภาพแวดล้อม และสังคมที่ดีกว่าโรงเรียนรัฐบาล จากคุณ : TT_andaman เขียนเมื่อ : 2 ต.ค. 55 13:43:20

ความคิดเห็นที่ 50 ในเมื่อมันผ่านไปแล้วก็อย่าเก็บมาโกรธเลยค่ะ เดินหน้าหาสิ่งที่ดีให้กับลูกต่อไป ขอเป็นกำลังใจให้จขกท. นะคะ แต่ในความเห็นเรา เป็นไปได้ว่าคุณครูท่านนั้น (ซึ่งอาจผ่านประสบการณ์อะไรมาจะดีหรือร้ายไม่รู้) เค้ากำลังทดสอบวุฒิภาวะทางอารมณ์ของจขกท. เพราะเราเคยสัมภาษณ์งาน ผู้จัดการก็ถามอะไรไม่รู้ที่ไม่เกี่ยวกับการทำงาน เราเกือบจะโมโหและเดินออกมา แต่ในใจก็ อีกซักตั้งเถอะน่า ... พยายามอธิบายในสิ่งที่เค้าอคติกับสิ่งที่เราเป็น สุดท้ายเมื่อเราได้ทำงานเลยมารู้ทีหลังว่านั่นเป็นการทดสอบเราด่านแรก.. ตอนนี้เราเองสัมภาษณ์พนักงานที่จะมาทำงานกับเรา เราก็ใช้วิธีนี้นะคะ เป็นการทดสอบอารมณ์ด่านแรกก่อนที่จะต้องปะทะอารมณ์กับลูกค้า และมันก็ได้ผลค่ะ...   ตอนนี้ จขกท. อาจจะกำลังโกรธอยู่ เมื่อเวลาผ่านไปความคิดเราอาจจะเปลี่ยนได้ค่ะ...สู้ๆ นะคะ จากคุณ : twin-mom (nink-nund) เขียนเมื่อ : 2 ต.ค. 55 13:51:54

ความคิดเห็นที่ 51 บางคนทำเป็นพูดดี ไม่โดนกับตัวไม่รู้หรอก เอ้ารับผลกรรมกันต่อไป ความจริงก็คือรับการดูถูกกันต่อไป ตลอดชาตินี้ ตรรกะแบบนี้ ทำสังคมไม่พัฒนา เพราะไม่มีคำว่า โอกาส เราจะตัดสินเข้าไม่ได้หรอกเพราะต้นทุนแต่ละคนไม่เท่ากัน ไม่แปลกที่ คนเคยติดคุก เด็กพิเศษ คนที่คิดไม่เหมือนคนอื่น จะโดนสังคมซ้ำเต็ม จากคุณ : หางแหลม เขียนเมื่อ : 2 ต.ค. 55 13:59:04

ความคิดเห็นที่ 52 มาให้กำลังใจน้อง จขกท ด้วยคนนะคะ มีลูกตอนอายุยังน้อย อาจจะตั้งใจหรือพลาด มันก็ไม่ใช่สาระสำคัญหรอกค่ะ ปัจจุบัน เราเลี้ยงดู อบรม ให้ความรักลูกอย่างไรสิ น่าสนใจกว่า คิดดูสิคะสมัยปู่ยาตายาย อายุ 15 16 ก็มีลูกกันหมดแล้ว ไม่เห็นมีใครไปประนามเลยเพราะคนสมัยนั้นไม่ได้ศึกษากันสูงๆ ดิฉันอยู่ต่างประเทศนะคะ ประเทศที่ให้การศึกษาฟรีๆในมาตรฐานเดียวกันกับคนทุกชนชั้น ไม่มีแบ่งแยก ไม่มีการถามภูมิหลังค่ะ แถมยังมีเงินเดือนให้นักเรียนอีกต่างหาก ประเทศที่ดิฉันพำนักอยู่ ไม่ได้มองจุดนี้เป็นปัญหาค่ะ แต่เขากลับช่วยกันแก้ไขช่องโหว่ในอนาคต เช่น ให้โอกาสเด็กที่ตั้งครรภ์ไปเรียนได้จนกว่าจะไปไม่ไหว ส่งเสริมให้เด็กเรียนจนจบ ส่งเสริมให้เด็กมีอาชีพ มีรายได้เป็นของตนเอง ไม่มาเป็นภาระให้สังคมในอนาคตค่ะ ดิฉันไม่ได้มองว่าการที่คนเรามีลูกตอนยังเรียนจะเป็นคนไม่ดี สิทธิ์ของแต่ละบุคคลค่ะ ดิฉันมิอาจไปก้าวก่าย ดิฉันไม่ได้ไปยืนอยู่ในสถานการณ์เดียวกับคุณ ดิฉันคงไม่สามารถไปชี้ขาดได้ว่า อารมณ์โกรธของคุณนั้นถูกต้องไหม คำพูดของคุณนั้นควรจะเป็นอย่างไร และถ้าเหตุการณ์นี้ดิฉันเจอกับตัวเอง ก็คงจะระเบิดโรงเรียนไปแล้ว ดิฉันไม่ชอบคนที่ตัดสินคนอื่นที่อดีตค่ะ บังเอญว่าดิฉันเป็นคนที่มองแต่ปัจจุบันและอนาคตมากกว่า ดิฉันเองก็มีเรื่องราวที่ทำให้พ่อแม่เสียใจในอดีตเช่นกัน อายุน้อย วุฒิภาวะน้อย การทำอะไรบางอย่างผิดพลาดก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรค่ะ อยู่ที่พ่อแม่มากกว่าว่าจะประคับประคองกันไปอย่างไร รวมทั้งสังคมจะเปิดโอกาสให้มากน้อยแค่ไหน อยากเห็นสังคมไทยให้โอกาส "คน" ค่ะ ไม่ใช่แค่คนที่ตั้งครรภ์ในวัยเรียนเท่านั้นนะคะ มันรวมไปถึง - คนที่เคยติดยาเสพติดย์ - คนที่เคยต้องโทษคุมขัง - คนที่พิการ - คนที่โตมาจากชุมชนแออัด แก้ไขเมื่อ 02 ต.ค. 55 14:07:19 จากคุณ : sunisaogkim เขียนเมื่อ : 2 ต.ค. 55 14:06:28

ความคิดเห็นที่ 53 ใจเป็นนาย  กายเป็นบ่าว คงพอจะใช้ได้ดีกับกระทู้นี้ค่ะ มองโลกในแง่ดี  มีเจตคติที่ดี  แล้วสังคมจะมองเราในเชิงบวกค่ะ  ^^ จากคุณ : น้องชมลูกพ่อชัย เขียนเมื่อ : 2 ต.ค. 55 14:11:26

ความคิดเห็นที่ 54 คำถามนั้น ประโยคนั้น อาจจะเป็นการตั้งคำถามเพื่อดูว่า เมื่อมีปัญหาอะไรเกิดขึ้น ผู้ปกครองมีแนวคิดอย่างไรในการแก้ปัญหา ใช้อารมณ์หรือว่าตั้งสติแล้วค่อย ๆ พูดกันด้วยเหตุผล อย่าลืมว่าเด็ก กว่าเขาจะเติบโต ปัญหาที่โรงเรียนอาจจะมีมาให้เราช่วยแก้ไม่น้อย เมื่อเด็กมีปัญหาเกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไรก็ตาม พ่อแม่กับโรงเรียนต้องร่วมมือร่วมใจกัน ถ้าพ่อแม่ไปทาง โรงเรียนไปอีกทาง.....ปัญหาที่มีก็ไม่ได้แก้ แถมอาจจะได้ปัญหาใหม่มาอีก คุณมีลูกตอนอายุ 16 ผิดถูกขอไม่ตอบ แต่ถ้าโรงเรียนมีการทดสอบผู้ปกครองเพื่อพิจารณาในการรับเด็กเข้าโรงเรียนเขา คุณก็แค่สอบไม่ผ่านเกณฑ์ของเขาก็เท่านั้น....อย่าลืมว่าโรงเรียนนั้นเป้นโรงเรียนเอกชน ไม่ใช่มีเงินจ่ายแล้วจบกัน บางโรงเรียนเขาก็มีจุดที่เขาต้องพิจารณา.... การที่โรงเรียนเขา คิดและต้องการป้องกันปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้นกับโรงเรียนของเขาก็เป็นเรื่องธรรมดานี่คะ ในความคิดของดิฉัน ถ้าคุณไม่แสดงอารมณ์ออกมาแบบนั้น คุณคงจะได้คำตอบจากโรงเรียนที่ชัดเจนกว่านี้ว่า เพราะอะไร ทำไม โรงเรียนถึงได้คิดว่าอาจจะมีปัญหาตามมาในอนาคต แต่เมื่อเป้นอย่างนี้แล้ว อย่าไปโทษใครเลยค่ะ ต้องเตือนสติตัวเองค่ะว่า ถ้าเราไม่ได้ทำอะไรผิด ควรจะอธิบายกันด้วยเหตุผล เพราะถ้าลูกยังเรียนหนังสือ หนีไม่พ้นที่เรา พ่อแม่กับโรงเรียนต้องหันหน้าเข้าหากันค่ะ แก้ไขเมื่อ 02 ต.ค. 55 14:20:19 จากคุณ : ทะเลสวย น้ำใส เขียนเมื่อ : 2 ต.ค. 55 14:17:49

ความคิดเห็นที่ 55 เข้ามาอีกรอบ เพราะงงกับบางความเห็น คุณเข้าใจอะไรผิดรึเปล่าคะ? เค้าพาลูกมาสมัครเรียน มิได้สมัครตัวเองเข้าทำงาน!!!!! ปีหน้าดิฉันจะพาลูกไปสมัครเรียน แล้วจะมาบอกนะคะว่าเค้าถามเราแบบนี้รึเปล่า หรือว่าถ้าดิฉันอยากจะให้ลูกเรียนที่ไหน ต้องทำหนังสือประวัติของดิฉันส่งให้ด้วยมั๊ยคะ ใช่ค่ะ ครูมีสิทธิ์ในการถามผู้ปกครองเบื้องต้น!! ว่าทำอาชีพอะไร เงินเดือนเท่าไหร่ บ้านอยู่ที่ไหน ฯลฯ แต่ไม่มีสิทธิมาถามว่า ดิฉันมี "ผัว" ตอนอายุเท่าไหร่ ซั่มกันตอนไหน ท้องกันตอนไหน เลี้ยงยังไง... บลาๆๆๆๆ การแต่งตัวของจขกท.คงไม่ได้แย่ จนเหมือนกับคนหนีเข้าเมืองมาหรอกมั้ง ถึงต้องถามกันขนาดนั้น ถ้าคุณจะถาม"เรื่องส่วนตัว" กันลึกขนาดนั้น ดิฉันก็มีสิทธิ์ "เหวี่ยง" คุณนะ เพราะมันเป็น "เรื่องส่วนตัว" คุณมีสิทธิ์ที่จะคิดว่า คนนั้นไม่ดี คนนั้นใจแตก บลาๆๆๆๆๆๆ (ตามแต่จิตใต้สำนึกคุณจะคิดได้) แต่.... คุณไม่มีสิทธิ์ ที่จะมาพูดใส่หน้าฉันปาวๆว่าฉันเป็นคนไม่ดีที่มีผัวก่อนเรียนจบ มันก็ใช่ที่มันไม่ใช่เรื่องถูกครรลองของบ้านเมืองเราซักเท่าไหร่ แล้วจะให้ทำยังไง ให้ยัดลูกกลับเข้าไปใหม่หรือว่าให้ทำแท้งซะตั้งแต่แรก คนที่จะทำให้เกิดปัญหาเนี่ย เราเชื่อว่าสาเหตุส่วนใหญ่ไม่ได้มาจากเด็กหรอก มาจากผู้ใหญ่ที่จิตใจคับแคบแบบนี้แหละ ปล.ขออภัยถ้าแรงไปหน่อย อินเกินไป จากคุณ : Tui_NiChy เขียนเมื่อ : 2 ต.ค. 55 14:18:59

ความคิดเห็นที่ 56 เอ่อ...บอกตามตรงนะคะว่าถ้าดิฉันรู้ว่าใครมีลูกตั้งแต่อายุ 16 ปี ดิฉันก็อึ้งเหมือนกัน และคิดต่อไปเหมือนที่คุณครูใหญ่ท่านนั้นแหล่ะค่ะ แต่ในบทบาทของครูใหญ่ก็ไม่ควรจะตั้งคำถามลักษณะนี้กับผู้ปกครอง เหมือนไม่มีทักษะในการเป็นครูเท่าไหร่เลย เราเคยเจอคนที่มารับลูกที่โรงเรียนลูกเรียนอยู่ ใส่กางเกงสั้นกุด เสื้อลูกไม้รัดรูปโดยไม่ใส่เสื้อทับใน ทั้งผู้ปกครองและครูต่างมองกันแบบคาดไม่ถึง เรายังรู้สึกกระอักกระอ่วนใจเลยค่ะ แต่แอบดีใจว่าอยู่คนละห้องกับลูกเรา พาลคิดไปถึงว่าเด็กคนนี้เวลาอยู่ที่บ้านจะถูกเลี้ยงดูอย่างไรบ้าง จากคุณ : paripan เขียนเมื่อ : 2 ต.ค. 55 14:19:16

ความคิดเห็นที่ 57 ถ้าเราเป็นครูคนนั้่น เราจะถามเจาะให้ละเอียดกว่านั้น ท้องตอนม.4 แล้วไงต่อคะ คลอดลูกแล้วใครเลี้ยง ใครออกค่าใช้จ่ายเลี้ยงดูเด็ก พ่อเด็กเป็นใคร ถ้ายังอยู่ด้วยกันมาจนลูกสามก็ต้องถือว่าประสบความสำเร็จในการใช้ชีวิตครอบครัวแล้ว เพราะเท่าที่เคยเห็น ไม่ค่อยจะอยู่ด้วยกันรอดซักเท่าไหร่ ถ้าจะคัดกรองเด็กด้วยการสัมภาษณ์ผปค. ก็ควรจะมีวิธีการถามที่ดีกว่านี้ --------------------------------- นอกเรื่อง เมื่อหลายปีก่อน ไปขอระเบียบการสมัคร ป.1 ให้หลาน ที่ รร.รัฐแห่งหนึ่ง ตอนนั้นไว้ผมซอยสั้น ทำสีทองผ่องอำไพทั้งหัว ก็แลกบัตรเข้าไปขอระเบียบการตามปกติ ขณะที่ยืนรอเอกสาร ครูท่านหนึ่งก็เดินผ่านมา ท่าทางเป็นครูเจ้าระเบียบ หน้าดุๆ พอเห็นเราเข้า ครูก็มองเขม็ง แล้วก็ถามว่า "ผู้ปกครอง... ทำไมไม่ทำสีคิ้วด้วย.. มันไม่เข้ากัน!!" จากคุณ : ฟ้าคำราม เขียนเมื่อ : 2 ต.ค. 55 14:21:33

ความคิดเห็นที่ 58 บางโรงเรียน แค่เด็กที่พ่อแม่เลิกกันเค้ายังไม่อยากได้เลยค่ะ ไม่ชอบเลยที่เอา "มาตรฐาน" มากำหนดว่าเด็กคนไหนมีสิทธิ์มากกว่า ทั้งที่การศึกษาเป็นสิทธิพื้นฐานของเด็กทุกคนในประเทศ ทั้งนี้ต้องโทษสื่อด้วยค่ะที่ชอบประโคมข่าว "ปัญหา"ท้องก่อนแต่ง "ปัญหา"แม่วัยใส ทำไมต้องไปมองว่าเค้าเป็นปัญหาด้วยก็ไม่รู้ ท้องก่อนแต่งสมัยนี้เรื่องปกติมาก ท้องแล้วไม่แต่งก็เยอะ ไม่ใช่ปัจจัยที่จะทำให้เด็กมีปัญหาเลย อาม่าเรามีลูกตอน 17 ลุงๆ ป้าๆ เราก็มีลูกคนแรกตอนยังไม่ 20 ครอบครัวเราก็ไม่เห็นจะมีปัญหาอะไรเลยค่ะ จากคุณ : M-M-C-L เขียนเมื่อ : 2 ต.ค. 55 14:26:30

ความคิดเห็นที่ 59 การที่ลูกคุณไม่ได้เรียนที่นี้ไม่ใช่เพราะคุณมีลูกตั้งแต่อายุ16หรอกค่ะ แต่เพราะวุฒิภาวะในการตอบคำถามของคุณต่างหาก เดียวนี้โรงเรียนเอกชนหรือโรงเรียนสาธิตส่วนใหญ่มีการสัมภาษณ์ผู้ปกครองทั้งนั้น ก็เพื่อที่จะดูว่าผู้ปกครองทีความคิด วุฒิยังไง เพราะสิ่งเหล่านี้จะส่งไปถึงลูก ทำให้เค้าใช้วิธีนี้มาคัดเลือกเด็กเข้าเรียนด้วย ว่าจะเหมาะกับการสอนในแบบของเค้าไหม จะดูแลยากรึเปล่า จากคุณ : แพนกวิ้นน้อยหลงทาง เขียนเมื่อ : 2 ต.ค. 55 14:28:10

ความคิดเห็นที่ 60 คุณครูไม่ไหวนะ หากจะสัมภาษณ์น่าจะถามเรื่องการเลี้ยงดูมากกว่าประวัติพ่อแม่ แม่เรามีเราตอน 18 เอง มีพี่ชายเราตอน 16 เท่าเจ้าของกระทู้เป๊ะ ไม่เคยมีใครมาถามแม่เราแบบนี้ เรายังเรียนได้จนจบเลย จากคุณ : มนอุ๊งอิ๊ง เขียนเมื่อ : 2 ต.ค. 55 14:31:48

ความคิดเห็นที่ 61 มีความผิดทั้งคู่ล่ะครับ แต่คุณยังโกรธอยู่ มีแต่ความทุกข์ใจ ส่วนคุณครูท่านนั้น สบายใจ จากคุณ : มาละเหวย เขียนเมื่อ : 2 ต.ค. 55 14:37:07

ความคิดเห็นที่ 62 ดีใจ ที่ไม่เคยถูกถามคำถามนี้ ไม่รู้สินะ เพื่อนเราก็ท้อตอนอายุ15เพื่อนเราเก็บลูกไว้ ตอนนั้นเราชื่นชมเพื่อนเรามากนะ ทุกวันนี้ยิ่งชื่นชม เพราะเรารู้แล้วว่าการต่อสู้กับเสียงนินทาของคนอื่นมันเป็นยังไง ลำบากแค่ไหน ต่อสู้กับจิตใจคับแคบที่มองคนแค่เปลือก หลายคนยกย่องสรรเสริญคนที่ฆ่าได้แม้กระทั่งเลือดในอก แต่กลับทับถมคนที่เลือกจะต่อสู้เพื่ออีกชีวิตนึงในท้อง แต่ก็เข้าใจแหละว่าเป็นธรรมดาของมนุษย์ แม้แต่พระพุทธเจ้ายังถูกนินทาประสาอะไรกับคนที่ยังเวียนวายตายเกิดแบบเรา จากคุณ : แม่น้องฟ้าใส (มามี๊ตัวกลม) เขียนเมื่อ : 2 ต.ค. 55 14:50:01

ความคิดเห็นที่ 63 เห็นด้วยกับ 18, 25, 33 ของคุณกุ๊ดจังมากกกกก คือเราว่า ท้องตอนอายุ 16 นี่จริงจริงแล้วมันไม่ปกตินะคะ โปรดยอมรับความจริง แต่หลังจากนั้น รับผิดชอบเลี้ยงดู ก็เป็นสิ้่งที่ดี เราว่าเป็นใครรู้ ใครก็ถามทั้งนั้นแหละค่ะ เรื่องเลี้ยงยังไง ใครเลี้ยง ไปเรียนให้จบตอนไหน เป็นเรื่องเบสิคที่ จขกท. ต้องเจออยู่แล้วนะคะ ยิ่งถ้ารู้ว่า จขกท. เก็บลูกไว้ และมีครอบครัวสนับสนุน แล้วก็กลับมาเรียนจนจบ เป็นเรื่องน่าชมเชย แต่คุณ Present ตัวเองไม่ดีค่ะ คนเลยมองเป็นเด็กใจแตกที่ท้องวัยเรียนคนนึงน่ะค่ะ แต่อยากบอกกับหลายหลาย คห. ว่า เดี๋ยวนี้โรงเรียนเอกชนเค้าสัมภาษณ์ พ่อแม่นะคะ เราว่าส่วนมากเลยหล่ะ เค้าก็ต้องการดูพ่อแม่ด้วยส่วนนึงว่าเลี้ยงลูกยังไง มีทัศนคติอย่างไร ก่อนที่จะรับ เพื่อที่จะได้เป็นไปในแนวทางเดียวกับโรงเรียนนะคะ โรงเรียนก็มีสิทธิ์เลือกเช่นกันถ้าเป็นโรงเรียนที่รับจำนวนจำกัด และมีคนมาสมัครมากเกินจำนวนที่จะรับได้ ดังนั้นไม่แปลกที่โรงเรียนจะถาม จากคุณ : นู่นนี่ เขียนเมื่อ : 2 ต.ค. 55 15:11:24

ความคิดเห็นที่ 64 ทำไมคนตีความไปอีกแบบนึง จขกท. เอาลูกไปเข้าเรียนนะคะ   ทำไมต้องถามว่ามีสามีตั้งแต่อายุเท่าไหร่ คำถามนี้ต่างหากทาง รร. ต้องปรับปรุง หรือว่าถ้าเด็กพิการ หรือเกเรทาง รร. จะไม่รับหรือคะ   ถ้าเป็นอย่างนี้ จขกท. ไม่ต้องเสียใจไป รร. ใจแคบ เพราะแบบนี้แหละสังคมถึงเป็นแบบนี้ไง เด็กบางคนถึงไม่มีทางเลือก   มาเข้าเรื่องเค้าถามแบบนั้นมา ถามจริงๆ แม่ๆ ในนี้ไม่โกรธจริงๆ หรือคะ เห็นบางกระทู้คำพูดกระทบนิดหน่อยก็วีนกันแล้ว แก้ไขเมื่อ 02 ต.ค. 55 15:41:37 จากคุณ : พาไล เขียนเมื่อ : 2 ต.ค. 55 15:15:18

ความคิดเห็นที่ 65 ตอนเราไปคลอดลูก เราเห็นเด็กวัยรุ่นหลายคนไปคลอดด้วยเช่นกัน วันไปอบรมการเลี้ยงลูกก่อนคลอด ก็มีคุณแม่วัยใสไปนั่งเรียนกันอย่างพร้อมหน้าหลายคน ใจเราเองก็คิดนะคะ คิดในทางไม่ดีน่ะค่ะ ว่าทำไมถึงมีลูกไวกันจัง ไม่เรียนกันแล้วเหรอ แต่อีกใจก็ชื่นชมว่าดีมาก ๆ เลยที่เด็ก ๆ เหล่านี้ไม่เอาลูกออก ไม่ทำแท้ง รักลูกและดูแลลูกเอง แต่โดยวุฒิภาวะในบางคนมันไม่พอจริง ๆ ค่ะ หลายคนก็เลิกรากันไปกับสามี ทิ้งลูกและเที่ยวไปมีสามีใหม่ แต่ในกรณีคุณ จขกท. เราดีใจมาก ๆ ค่ะ ที่เห็นคุณมีความสุขและประสบความสำเร็จในชีวิต ลูกก็มีความสุขและเป็นเด็กดีของพ่อแม่ ดีใจจริง ๆ ค่ะ อย่าไปสนใจว่าใครจะมองเราอย่างไร เพราะเราไม่สามารถไปห้ามความคิดใครได้ เอาความทุกข์ที่เราไม่ได้ก่อมาใส่ตัว มันรังแต่จะทำให้เราทุกข์ใจค่ะ มองดูสิ่งที่เราเป็นวันนี้ อดีตมันจบไปแล้ว ให้มันจบไป ทำวันนี้ให้ดีกว่าเมื่อวาน เราเชื่อว่าคุณทำได้ดีแน่นอนจ้า แต่ขอดุนิดนึง เวลาคุยกับผู้ใหญ่ ถึงแม้เค้าจะทำให้เราไม่พอใจ เราก็ต้องมีสัมมาคาราวะค่ะ สำคัญมาก ๆ จ้า เราอยู่ในเมืองไทย ผู้ใหญ่คุยด้วย เราต้องคุยด้วยความนอบน้อมนะคะ เค้าจะได้เอ็นดูและเมตตาจ้า จากคุณ : peopleparadise เขียนเมื่อ : 2 ต.ค. 55 15:18:16

ความคิดเห็นที่ 66 ไม่เข้าใจว่า ครูท่านนั้น มีสิทธิ์มาตัดสินได้ไงว่าเด็กพวกนี้โตขึ้นจะสร้างปัญหา ขอให้ จขกท จำคำนี้ให้ติดใจนะคะ แล้วใช้มันเป็นแรงผลักดัน เลี้ยงลูกให้ได้ดี เราเองก็มีลูกตอนอายุ 17-18 โดนคนรอบข้างประนามจนชิน จนตอนนี้คนเหล่านั้น ยอมรับ เรากะแฟน (อายุเท่ากัน) มากขึ้น เราเองก็มาจากครอบครัวที่ขาด ขาดพ่อ ขาดแม่ ขาดความอบอุ่น ขาดโอกาสทางการศึกษา แต่นั่นเป็นแรงผลักดันในหัวเราตลอด ว่าลูกเราต้องไม่ขาดพ่อ ไม่ขาดแม่ ไม่ขาดความอบอุ่น ไม่ขาดโอกาสทางการศึกษา เราเข้าใจว่าคนที่อายุมาก ย่อมมองว่าคนอย่างพวกเรา เป็นพวกวัยรุ่นมีลูกตอนไม่พร้อม แต่อยากให้เข้าใจด้วยว่า ถึงตอนมีเราจะไม่พร้อม แต่พอมีเค้าออกมาแล้ว พวกเราก็พร้อมที่จะเลี้ยงเค้าให้ดีที่สุด ป.ล. อ้อ ในกรณีที่คุณครูทำหน้าตกใจ และถามว่ามีลูกตั้งแต่อายุเท่าไหร่ เราว่าครูมากกว่าคะ ที่ขาดวุฒิภาวะ ไม่รู้ว่าอะไรควรถาม หรือควรเก็บไว้สงสัยในใจไม่ใช่โพร่งออกมาแบบนี้ หรือควรประดิษประดอยคำถามให้่มันน่าฟังกว่านี้ ปล.2 เห็นด้วยคะ ตอนเราพาลูกทั้งสองไปสมัครเรียนโรงเรียนเอกชน เค้าก็สัมภาษณ์พ่อแม่ แต่ถามเรื่องการเลี้ยงดู สภาพแวดล้อม และพัฒนาการต่าง ๆ มากกว่า แก้ไข ปล.2 คะ แก้ไขเมื่อ 02 ต.ค. 55 15:30:38 จากคุณ : แก้วขวัญกะพู่กัน เขียนเมื่อ : 2 ต.ค. 55 15:26:24

ความคิดเห็นที่ 67 โรงเรียนที่ จขกท.กล่าวถึงนี่ มีถึงชั้นมัธยมป่าวคะ คือที่ถามเนี่ย แอบเป็นห่วงว่า เกิดมีเหตุการณ์เด็กม.4ในโรงเรียนเกิดท้องขึ้นมาโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์  ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดๆ เป็นห่วงว่าเด็กจะได้รับคำแนะนำดูแลแบบไหนจากครูแบบนี้  จริงๆ จะมีลูกตอนอายุเท่าไหร่ ท้องก่อนแต่ง ท้องแล้วไม่ได้แต่ง ท้องแล้วโดนทิ้ง หรืออะไรก็แล้วแต่ เราว่าไม่เห็นสำคัญเท่ารับผิดชอบสิ่งที่เกิดและทำหน้าที่ "แม่" ได้ดีอย่างที่แม่ควรทำ จากคุณ : มันน่ามั้ยเนี่ย!!! เขียนเมื่อ : 2 ต.ค. 55 15:32:04

ความคิดเห็นที่ 68 ที่คุณบอกว่าการกระทำของคุณครูไม่เหมาะสม เราว่าการท้องในวัยเรียนก็ไม่ใช่สิ่งที่เหมาะสมเหมือนกันค่ะ แต่คิดว่าสิ่งที่ทำให้ครูไม่รับลูกคุณเข้าเรียนเป็นเพราะการตอบคำถามของคุณมากกว่า ตัวคุณเองก็ตอบคำถามด้วยความคิดแบบมีปมว่าคนตั้งคำถามกำลังดูถูกตัวเองอยู่ คำถามพวกนี้ (โดยเฉพาะคำถามแรกๆก่อนคุณจะเริ่มออกตัวเหวี่ยง) หากมองเป็นเรื่องปกติ มันก็เป็นแค่การสัมภาษณ์ปกตินะคะ จากคุณ : มะหมีกล๊มกลม เขียนเมื่อ : 2 ต.ค. 55 15:32:24

ความคิดเห็นที่ 69 บางโรงเรียน จะตัดสินใจรับเด็กเข้าเรียนหรือไม่ ต้องมีการสัมภาษณ์ผู้ปกครองด้วยค่ะ จากคุณ : นมสดรสกล้วยหอม เขียนเมื่อ : 2 ต.ค. 55 15:37:43

ความคิดเห็นที่ 70 ขออนุญาตนะคะ อย่าเอาคนสมัยก่อนว่ามีลูกเร็ว ออกเรือนเร็วมาเทียบกับคนสมัยนี้เลยค่ะ ยุคสมัยเปลี่ยนไปแล้ว การตะแบงไม่ช่วยให้เรื่องที่ไม่เหมาะสมกลายเป็นเรื่องที่น่าชื่นชมไปได้ค่ะ ดิฉันเชื่อว่าทุกคน แม้แต่จขกท. ก็คงไม่สอนลูกให้ท้องตั้งแต่อายุ 16 เหมือนกันใช่หรือเปล่า ดิฉันไม่ได้ว่าๆสิ่งที่จขกท. ทำมันเลว ให้อภัยไม่ได้ เพียงแต่เห็นว่าถ้าวันนั้นคุณทำไปแล้ว วันนี้คือผลที่คุณก็ต้องรับเท่านั้น เพียงแต่วันนี้ ถ้าคุณมั่นใจว่าคุณประสบความสำเร็จแล้ว คุณจัดการชีวิตตัวเองได้ คุณก็แค่บอกตัวเอง แล้วแสดงมันออกมาแค่นั้น เวลาใครถามอะไรก็ตอบไปด้วยความรู้สึกภูมิใจ ชีวิตคุณก็จะมีความสุข ..เมื่อไหร่ที่คุณหยุดเก็บปมนี้ไว้ ก็ไม่มีใครมาทำร้ายคุณได้ .. คุณครูคนนั้นเป็นแค่ตัวแทนของมนุษย์ธรรมดาบนโลกนี้ ที่ยังเป็นสัตว์สังคม ยังใช้มาตรฐานสังคมที่คิดว่าการท้องในวัยเรียนเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้องเท่านั้น เค้าไม่ได้ตั้งใจทำร้ายคุณ ..คนที่ทำร้ายคุณคือตัวคุณเอง จากคุณ : JNOY เขียนเมื่อ : 2 ต.ค. 55 15:50:34

ความคิดเห็นที่ 71 เข้ามาเป็นเพื่อนเจ้าของกระทู้ค่ะ เราก็มีลูกตอนวัยรุ่นตอนนั้นเราอายุ15อยู่เลย และเราก็ไม่คิดจะทำแท้ง แฟนเราก็ไม่ให้ทำเลี้ยงลูกมาจนโตถึงทุกวันนี้ตา-ยาย ปู่-ย่า รักหลานมากๆครอบครัวเราก็พร้อมสมบรูณ์แบบ เป็นเราๆก็โกรธครูนะที่มา ว่าให้เจ้าของกระทู้แบบนั้นทำไมหละ มีลูกตอนอายุ16แล้วมันทำไมหรอจะให้ลูก เข้าร.ร.ดีๆไม่ได้หรอ ครูคนนี้เป็นคนที่จิตใจแคบมากๆดีแล้วหละที่คุณไม่ได้ให้ลูก เรียนร.ร.นี้ แต่เราว่าคุณควรจะคุยกับเค้าดีๆนะค่ะ เราคิดว่าคุณอาจโมโหขึ้นเสียง มันจะให้เค้ามองคุณไปในแง่ลบนะค่ะ อย่างเราตอนเอาลูกไปสมัครเรียนเราไปกับ แม่เราคือยายของลูก คุณครูก็ต้อนรับดีนะค่ะเค้ารู้ว่าเราอายุเท่าไหร่ก็ไม่ตกใจนิ เราเอาลูกไปเข้าร.ร.ตอนลูก1ขวบ9เดือน เราอายุ16กว่าเองไม่เห็นเป็นอะไรเลย จากคุณ : คุณแม่ยังสาว (bewtyalon) เขียนเมื่อ : 2 ต.ค. 55 15:51:24

ความคิดเห็นที่ 72 ลองอ่านกระทู้ดีดีนะคะ คุณครูเค้ายังไม่ได้ว่าอะไรคุณเลย เค้าแค่ถามว่า มีลูกตอนอายุเท่าไหร่ (ซึ่งถ้าเป็นใครก็ต้องถามมั๊งแบบว่าลูกอายุ 9 ขวบ แม่อายุ 25 เป็นเราก็ต้องตกใจนะ) ต่อด้วย เลี้ยงเองไหม ไม่ได้ดร็อปเหรอ ซึ่งเป็นคำถามต่อเนื่องกัน แล้วพิการหรือเปล่าซึ่ง ก็เกี่ยวกับเด็กที่โรงเรียนจะรับ แต่เจอ คุณ จขกท. เหวี่ยงวีนซะเต็มที่ เราว่าคุณเองเนี่ยแหละที่คอยคิดวนเวียนให้เป็นปมในใจว่าท้องตั้งแต่ 16 ซึ่งคำถามพวกนี้เราว่าก็ปกตินะคะ แต่พอดีมันไปสะกิดต่อม จขกท. มากกว่า จากคุณ : นู่นนี่ เขียนเมื่อ : 2 ต.ค. 55 15:56:02

ความคิดเห็นที่ 73 มาอีกทีชอบ คห.70 มากมากคือมันไม่ใช่ความผิดคุณครูเลยนะคะ เห็นหลายหลาย คห. ว่าโรงเรียนซะดีแทบไม่มีเหลือ จากคุณ : นู่นนี่ เขียนเมื่อ : 2 ต.ค. 55 15:58:31

ความคิดเห็นที่ 74 จะท้องตอนไหน สมัยไหนๆโบราญกันปัจจุบัน มันมีให้เห็นอยู่เสมอๆมานะคะ สมัยนี้ 12ท้องแล้วเยอะไปค่ะ แต่บางท่านไม่ได้พบเจอมากกว่า โดยเฉพาะต่างจังหวัดนะคะ ไม่ได้ดูถูกหรือว่าคนต่างจังหวัดนะคะ อันนี้เห็นมาเยอะค่ะ มีแฟนอยู่ต่างจังหวัด หลานชายแฟนทำผู้หญิงท้องก็อายุแค่ 12เท่าๆกันค่ะ ตอนนี้ก็ 3-4ขวบ พ่อแม่ญาติพี่น้อง เค้าก็รับกันได้ ไม่เห็นแปลก   ทำไมสังคมจะต้องว่าแปลก ไม่เข้าใจค่ะ ยิ่งท้องไม่มีพ่อ เพราะผู้ชายไม่ยอมรับ ก็มีอยู่เสมอๆ ไม่ได้น้อยลงไปกว่าสมัยโบราญเลยนะคะ อย่ามาทำเป็นรับไม่ได้ ทำให้เห็นว่ารังเกียจ ว่าแปลก   ทำไมถึงไม่ช่วยกันป้องกันหรือหาทางแก้ไข ดูแลลูกหลาน พี่น้อง ญาติของตัวเอง ไม่ให้มันเกิดขึ้น ลดสถิติลงกันบ้างเถอะค่ะ   มองไปในอนาคตค่ะ ถ้าไปทับถมกับอดีตของใครเค้าเลย โรงเรียนก็เช่นกันค่ะ เพราะเป็นส่วนหนึ่งของสังคม ถ้าคุณเห็นเด็กที่เกิดจากแม่อายุน้อยแปลก เค้าก็เป็นเด็กแปลกในสังคม ถ้าเห็นว่าเค้าเหมือนเด็กอื่นๆ เค้าก็จะมีโอกาสอยู่ในสังคมร่วมกับคนอื่นอย่างปกติสุขนะคะ   ต่างคนต่างมุมมองค่ะ ไม่ได้ว่าใครผิด แต่เราเห็นเป็นเรื่องปกติค่ะ ปล.เราซะอีกมีลูกตอน 40 จะลงโลงอยู่แระ มีมาได้ แต่ก็ดีค่ะไม่เหงา ... จากคุณ : pim3p เขียนเมื่อ : 2 ต.ค. 55 16:12:45

ความคิดเห็นที่ 75 กระทู้นี้มีแต่แม่ๆอารมณ์ร้อนเนอะ จากคุณ : bangnuu เขียนเมื่อ : 2 ต.ค. 55 16:25:42

ความคิดเห็นที่ 76 จขกท เข้มแข็งไว้นะคะ จากคุณ : JusTT เขียนเมื่อ : 2 ต.ค. 55 16:26:22

ความคิดเห็นที่ 77 มีลูกตอนอายุ 16 ไม่ผิดหรอกครับ  ยอมที่จะท้อง และเลี้ยงเขามาจนโต นี้ควรได้ยกย่องครับ แต่เหมือนที่หลายคนบอก  มีลูกตอนอายุ 16 มันคือว่าผิดพลาดแน่ ๆ แต่เราแก้ไขและผ่านมาแล้ว  ณ ตอนนี้ ในบางครั้งอดีตมันยังตามมาครับ  ที่ครูพูดถึงเรื่องมีลูกตอนอายุ 16 มันคือกรรมจากอดีตของคุณเอง  ซึ่งคุณก็คงต้องยอมรับมัน (เข้าใจว่าบางครั้งมันทำให้อารมณ์มันขุ่นมัว) แต่ขอให้ตั้งสตินะครับ มันคงจะจริงที่ว่า โรงเรียนหรือคนอื่น ๆ กำลังทดสอบคุณ ความมีวุฒิภาวะของคุณอยู่  อย่าให้อารมณ์มันพาไป คิดทำอะไร ให้ใช้สติ อาจจะมีคนที่ดูถูกคุณอยู่ แต่คุณสามารถพิสูจน์ตัวเองได้  เพราะตอนนี้ครอบครัวของคุณ ก็มีทั้ง ลูกและสามี มีงานมั่นคง  ด่านต่อไปของคุณ คือการเลี้ยงดูให้ลูกของคุณ เป็นเด็กดีของสังคม  ถึงวันนั้นวันผิดพลาดของคุณ จะถูกลืม จากคุณ : 007 (panaratb) เขียนเมื่อ : 2 ต.ค. 55 16:27:14

ความคิดเห็นที่ 78 ตัวเราเอง เมื่อตอนคบกับแฟนช่วงแรกๆ ไม่ทราบมาก่อนเลยว่า แฟนเคยมีลูกชายแล้ว 1 คน ตอนอายุ 17 บอกตรงๆ ทั้ง "ตกใจ" และ "เสียใจ" มากๆ "ตกใจ" ที่ มี ลูกตั้งแต่ อายุ 17 เลยยเหรอเนี๊ยะ ตอนเราอายุ 17 ยัง มีความรักแบบ poppy love อยู่เลย แอบชอบเค้าเงียบๆ "เสียใจ" ที่ แฟนโกหก ว่า เด็กผู้ชายคนนี้เป็นลูกของญาติ พ่อกับแม่ของเค้าเอามาเลี้ยงแล้วรักเหมือนลูก แม่ของเด็ก ตอนตั้งท้อง อายุ 17 เท่ากัน พอคลอดลูกได้ไม่นานก็เลิกรา พร้อมบอกว่า ไม่สามารถดูแลลูกได้ ให้เด็กที่เกิดมาอยู่กับพ่อ ซึ่งพ่อเองก็มีวุฒิภาวะไม่พอที่จะเลี้ยงดูแลลูกเองได้ ก็ให้พ่อกับแม่ตัวเองเลี้ยงแทน แต่พอตั้ง สติ ได้ ก็มานั่งพิจารณา ด้วยเหตุและผล ที่แฟนโกหก คงคิดว่าเราไม่สามารถยอมรับได้ ว่าเขามีลูกติดมา 1 คน จะมีผู้ชายสักกี่ % ที่หย่าร้าง แล้ว ต้อง เลี้ยงลูก ส่วนใหญ่เห็นลูกจะอยู่กับแม่ ซึ่งในส่วนนี้เขาเองก็ต้องเป็นผู้ชายที่มีความรับผิดชอบพอตัว เพราะทำงานได้เงินก็จะส่งให้พ่อแม่ตัวเอง เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการเลี้ยงดูลูก ปัจจุบันเราอายุ 33 แต่งงานกับแฟนแล้ว ซึ่งก็เรียกว่า เป็นสามี อย่างเต็มปาก ตอนนี้กำลังท้องลูกคนแรกของเรา แต่เป็นลูกคนที่ 2 ของสามี ที่เล่ามาทั้งหมด แค่ อยากจะบอกว่า มันเป็นเรื่องธรรมดานะ ที่หลายๆ คนจะตกใจเมื่อทราบว่า จขกท. มีลูกคนแรกตอนอายุ 16 ถ้าเป็นสังคมต่างจังหวัด หรือ ชนบท ที่คนไม่ได้เรียนสูงๆ มีครอบครัว กันตั้งแต่ 16-17 ก็คงไม่ใช่เรื่องแปลก ก็ยังมีให้เห็นทั่วๆ ไป  แต่ส่วนใหญ่ที่เราได้พอเจอมา คุณภาพชีวิตของเด็กๆ เหล่านั้น เมื่อเทียบกับ เด็กที่เกิดมาจากครอบครัวที่พร้อม และ สมบูรณ์ มันมีความแตกต่างจริงๆ โรงเรียนเอกชน หลายๆ ที่ ก็ต้อง คัดกรองเด็กที่เข้ามาเรียน ด้วยการสัมภาษณ์ผู้ปกครองส่วนนึง แต่เกณฑ์การพิจาราณาเด็กเข้าเรียนแต่ละที่ คงไม่เหมือนกัน "มันยากที่จะคนอื่นมองเราในมุมที่เราอยากให้มอง" แค่ คุณ จขกท. มีความรักและดูแล ตั้งใจอบรม ลูกๆ ให้คนดีของสังคม ก็ได้ขึ้นชื่อว่าเป็น แม่ที่ดีแล้วค่ะ อยากฝากว่า ไม่ต้อง "โกรธ" ซึ่งมันก็ทำยากนะ เราเข้าใจ จากคุณ : Joy*~Joystick~* เขียนเมื่อ : 2 ต.ค. 55 16:43:34

ความคิดเห็นที่ 79 ตัดประเด็นเรื่องมีลูกตอนอายุยังน้อยออกก่อนนะคะ โรงเรียนส่วนใหญ่ มักจะมีการทดสอบวุฒิภาวะของผู้ปกครอง คำถามเชิงจิตวิทยา ที่ใช้ในการสัมภาษณ์และทดสอบ เหมาะสมแล้วหรือไม่??? คำถามเพื่อทำการทดสอบ ควรจะเป็นมาตรฐานเดียวกันที่ใช้ในโรงเรียนนั้นๆ หรือว่า คุณครูท่านใดอยากจะถามเชิงยั่วยุ เหน็บแนม หรือ จี้เรื่องส่วนตัว หรือใดๆก็ตาม แบบไร้ทิศทาง ก็ได้เช่นนั้นหรือ? จากคุณ : Closer Escape เขียนเมื่อ : 2 ต.ค. 55 16:50:17

ความคิดเห็นที่ 80 ตามเนื้อกระทู้ก็ถือว่าน่าแปลกใจน่ะ คือ ปกติเด็กพลาดท้องมีลูก พอคลอดแล้ว ก็อาจจะคิดได้ก็วางแผนคุมกำเนิด รอมีลูกคนใหม่ตอนเรียนจบอีกที แต่กรณีนี้นักเรียนสามารถเรียนไป มีครอบครัวมีลูกติดกันได้ตอน ม.4 และ ม.6 ได้ถือว่าเป็นเรื่องแปลกพอสมควรล่ะ แล้วผู้คนมักตอบสนองต่อเรื่องแปลกๆ แตกต่างกัน อันนี้ จขกท. ต้องทำใจ (ส่วนเรืีองสัมภาษณ์โรงเรียนลูก ถ้า จขกท มองว่าโรงเรียน เลือกปฏิบัติ จขกท.ก็น่าจะเอาเรืีองทางกฎหมายได้นะ) แก้ไขเมื่อ 02 ต.ค. 55 20:11:55 จากคุณ : rainfull เขียนเมื่อ : 2 ต.ค. 55 16:50:20

ความคิดเห็นที่ 81 เข้ามาสงสัยกับหลายๆ ความเห็น ที่เอาอายุตอนเรามีลูกไปเปรียบเทียบกับรุ่นพ่อแม่มีเรา ยุคสมัยมันเปลี่ยนไปแล้ว  แม่เรามีพี่เราตั้งแต่ 23 แต่ลูกๆ ไม่มีใครคิดจะมีลูกตอนอายุเท่าแม่ซักคน พูดกันจริงๆ คงจะบังคับว่า การที่มีลูกอายุ 16 เป็นเรื่องที่น่าชื่นชม เหรอคะ การที่ครูตกใจ ก้อคงไม่แปลก และคิดว่า ครู น่าจะเจออะไรมาเยอะ เรื่องเด็กท้องตอนเรียน อาจจะทำให้มีการตั้งคำถามที่อาจจะไม่เข้าหู น้อง จขกท บ้าง แต่เห็นด้วยกับ หลายๆ คคห ทางโรงเรียน ทดสอบ ผปค มากกว่าตัวนักเรียนซะอีก โดยเฉพาะ ทัศนคติและวิธีการเลี้ยงดูลูก บาง รร ผปค มาส่งลูกสาย ถูกทำโทษกับลูกก็มี ขอโทษนะคะ รร inter หรือ ep ทดสอบ ผปค เลยว่าพูดภาษาอังกฤษได้หรือเปล่า ไม่ใช่เพื่อจะมาดูถูก ผปค แต่ ในความจริง ถ้าพ่อแม่พูดภาษาอังกฤษไม่ได้ และลูกก็เรียนเป็นภาษาอังกฤษทั้งหมด ลูกสงสัยอะไร  จะหันหน้าไปถามใคร มีเงินอย่างเดียว เข้าเรียนไม่ได้หรอกนะคะ ขอโทษที่นอกเรื่องไปเยอะ ถ้าคุณสามารถตอบคำถามอย่างมีวุฒิภาวะ ผลคงไม่ออกมาอย่างนี้ หรือ คุณคงไม่มากลุ้ม หรือ หงุดหงิดอย่างนี้หรอกค่ะ +แก้คำผิดค่ะ+ แก้ไขเมื่อ 02 ต.ค. 55 17:02:49 จากคุณ : Le PeTiT MoM เขียนเมื่อ : 2 ต.ค. 55 16:58:46

ความคิดเห็นที่ 82 รร.ลูกเรา เขาสัมภาษณ์และกรอกประวัติ ไม่เคยถามเรื่อง อายุของคุณพ่อคุณแม่นะคะ ถือว่า รับกรรมที่ดื้อกับคุณพ่อคุณแม่ไว้แล้วกันนะคะ อย่าคิดมากค่ะ สู้ๆ จากคุณ : pada_panda เขียนเมื่อ : 2 ต.ค. 55 17:14:00

ความคิดเห็นที่ 83 สิทธิการใช้ชีวิตมันอยู่ที่เราค่ะ ถ้าจะผิด คงผิดกับผู้ที่เป็นบุพการีเท่านั้น   จะดีจะชั่ว มาวัดกันไม่ได้แน่นอน ชีวิตมีการดำเนินไปต่าง ๆ นา ๆ ไม่มีใครสามารถเลือกหรือทำได้ดีตลอด มันต้องมีดีและไม่ดีคละกันไป การที่จะก้าวล่วงไปยุ่งกับเรื่องส่วนตัวของใคร ควรมีการเกริ่นนำให้ทราบว่าคำถามต่อไปนี้ทำไมต้องถาม และมันสำคัญแค่ไหน  เพราะทุกคนมีเส้นที่ไม่มีใครสามารถข้ามมาได้ และหากเราจะไม่รักษามารยาทกับคนที่ไม่มีมารยาทกับเราก่อน ซึ่งเรื่องนี้ก็ต้องอยู่ในสถานะการณ์ถึงจะทราบได้ ไม่มีข้อบ่งชี้ที่แน่นอนว่าควรหรือไม่ควร เพราะคนเรามีจุดที่เรียกว่ามารยาทไม่เท่ากันอยู่แล้ว การตัดสินคนจากความรู้สึกคน มันเป็นสิ่งที่ไม่ยุติธรรม แต่มันก็หลีกเลี่ยงไม่ได้ เพราะเราอยู่ในสังคมที่มีคนคละเคล้ากันไป ถ้าเราคิดว่าชีวิตเราทำดีที่สุดแล้ว ก็ไม่ต้องกังวลอะไรทั้งสิ้น และไม่ต้องสนใจกับคำพูดคน ทำใจให้สบายปล่อยและโยนทิ้งอารมณ์นั้นไป แล้วเดินต่อไป เป็นกำลังใจให้ค่ะ จากคุณ : Chuppu_toto เขียนเมื่อ : 2 ต.ค. 55 17:33:48

ความคิดเห็นที่ 84 เท่าที่อ่านมาเรารู้สึกได้ว่าคุณครูถามด้วยความเผือกค่ะ   คำถามแต่ละข้อเชิงลบและชวนโมโห ดีแล้วค่ะที่ไม่เรียนโรงเรียนนี้ จากคุณ : ไม่รู้อะไรดลใจ เขียนเมื่อ : 2 ต.ค. 55 18:09:56

ความคิดเห็นที่ 85 ไม่ได้อ่านทุกความเห็นนะคะ แต่อ่านแล้วรู้สึกว่าจขกท ไม่มีวุฒิภาวะจริงๆแหละ ยิ่งทำให้เค้าคิดว่าสิ่งที่เค้าคิดอยู่หน่ะถูกแล้ว แต่เราก็คิดว่าครูก็แย่ เราว่าเหมือนเค้าตั้งแง่ไว้ในใจ เรื่องแบบนี้เราเข้าใจว่าคนที่เจอคงรู้สึกแย่ จขกทก็คงรู้สึกไม่ดีกับมันหรอก เหมือนเป็นจุดอ่อนในใจ แต่ก็ไม่มีใครแก้ไขอดีตได้  คนถามก็รู้แต่ก็อยากจี้ใจดำ เรารู้สึกแบบนั้นนะ แต่ทั้งหมดทั้งมวล เราว่าก็ดีแล้วที่ลูกคุณไม่ต้องเรียนที่นี่ มันตลกมากถ้าครูจะคิดแค่ว่าเด็กคนนี้เกิดมาตอนแม่อายุเท่าไหร่มากกว่าที่จะคิดถึงการสั่งสอนให้เด็กเติบโตได้เป็นคนดี จากคุณ : The smiling moon เขียนเมื่อ : 2 ต.ค. 55 18:30:10

ความคิดเห็นที่ 86 ใจเย็นๆกันนะคะ อย่างซ้ำเต็ม จขกท กันมากนักเลยค่ะ อดีตมันก็คืออดีตนะคะ จะไปยึดติดอะไรกับมันมาก ถ้า จขกท มาเล่าว่าดิฉันเรียนมาแค่ประถมต้น พบรักกับแฟนตอนเรียนจบ พออายุ 16 มีลูก คงจะไม่มีใครติดใจเรื่องมีลูกตอนอายุน้อยกันใช่ไหมค่ะ ถ้า จขกท มาเล่าว่าดิฉันมีลูกตอนเรียนมหาวิทยาลัยเทอมสุดท้าย ก็คงไม่มีใครติดใจเรื่องมีลูกตั้งแต่ยังเรียนไม่จบ เพราะ จขกท เรียนใกล้จะจบแล้ว คงไม่ต้องพักการเรียน หรือถ้า จขกท มาเล่าว่าดิฉันมีลูกตอนอายุ 45 คนเขาก็ตั้งคำถามอยู่ดีแหล่ะค่ะ แปลกใจว่าสมัยนี้เวลาเขาสัมภาษณ์รับเด็กเข้าเรียน เขาถามกันลึกถึงเรื่องส่วนตัวของผู้ปกครองเลยเหรอค่ะ คนที่จะเข้าเรียนน่ะเด็กนะคะ ควรจะสนใจเรื่องเกรดที่เด็กเรียนผ่านมามากกว่า หรือพฤติกรรมเด็กในโรงเรียน เข้ากับเพื่อนได้ไหม ฯลฯ เรื่องตั้งครรภ์ระหว่างเรียน ดิฉันเห็นด้วยค่ะว่าเป็นเรื่องที่ไม่สมควร เพราะผู้ใหญ่กลัวว่าเราจะเรียนไม่จบ ไม่มีอนาคต ไม่มีเงินส่งเสียเลี้ยงดูลูก วุฒิภาวะยังไม่พอ ฯลฯ แต่ตั้งครรภ์ระหว่างเรียนไม่ได้ผิดกฎหมายนะคะ ทำไมต้องทับถมกันขนาดนั้น เรื่องทำผิดพลาด ใครบ้างไม่เคยค่ะ แต่ถ้าพลาดแล้วนำมันมาเป็นบทเรียนให้ตังเอง และพร้อมที่จะแก้ปัญหา ดิฉันไม่แปลกใจเลยค่ะ ว่าทำไมคนที่ประสบปัญหาเหล่านั้น ส่วนมากถึงไม่มีอนาคตกันจริงๆ ส่วนหนึ่งเพราะสังคมที่ไม่ให้โอกาสค่ะ และสังคมที่รวมกันอยู่ก็ประกอบไปด้วยมนุษย์เรานี่แหล่ะค่ะ ยิ่งมีคนใจแคบมากขึ้นเท่าไหร่ ก็อยู่ในสังคมลำบากขึ้นทุกวันค่ะ เพราะคนจ้องแต่จับประเด็นเล็กประเด็นน้อยของคนอื่น แทนที่จะมาพิจารณาประเด็นหลักของตนเอง แก้ไขเมื่อ 02 ต.ค. 55 19:15:28 แก้ไขเมื่อ 02 ต.ค. 55 19:10:30 จากคุณ : sunisaogkim เขียนเมื่อ : 2 ต.ค. 55 19:04:37

ความคิดเห็นที่ 87 แม่ผมก็มีพี่คนโตตอน16 แล้วไง ก็เลี้ยงลูกส่งเสียจบได้ทุกคน จากคุณ : fays (by_faith) เขียนเมื่อ : 2 ต.ค. 55 19:45:47

ความคิดเห็นที่ 88 หืม??  -____________________-?? จะเอาลูกเข้าโรงเรียนต้องลำบากนั่งสัมภาษณ์ ถ้าเค้าไม่ถูกใจก็ต้องประจบประแจงแบบที่คุณกุ๊ดจังแนะนำขนาดนั้นเลยหรอ???(ขออภัยที่พาดพิง ไม่ได้ตำหนิคุณกุ๊ดนะคะ)  จ่ายเงินเรียนนะเนี่ยไม่ใช่เรียนฟรี ตกใจอ่ะ จากคุณ : ทังโคริริน เขียนเมื่อ : 2 ต.ค. 55 19:55:01

ความคิดเห็นที่ 89 ยังไม่ได้อ่านคอมเม้นท์อื่นๆนะคะ ส่วนตัวเราก็มีอคติกับสาวๆที่ท้องไม่พร้อมเหมือนกันนิดนึง แต่ว่าคุณครูน่าเกลียดมากๆเลยที่พูดออกมาแบบนี้ แล้วเป็นครูเลือกศิษย์นี่ เหมือนกับหมอเลือกคนไข้รึเปล่า ? เราว่าบางโรงเรียนดัดจริตไปไหม พูดตรงๆนะ ไอ้การทดสอบนั่นนี่ แต่พอจริงๆมีตังค์ยัดก็จบ พอเด็กจะตก ก็ปัดให้ผ่าน เพราะเดี๋ยวโรงเรียนจะเสื่อมเสีย สอนเด็กยังไงให้ตก อย่างมากก็เรียกเงินผู้ปกครอง ให้เด็กเรียนซัมเมอร์แทนการสอบซ่อม ตกลงไม่รู้เด็กสร้างปัญหา หรือโรงเรียนสร้างปัญหากันแน่หว่า ส่วนเรื่องอายุ จขกท. อย่าคิดมากนะคะ ดูอย่างลูกหลานคนใหญ่คนโตตั้งหลายคน พ่อแม่ๆเค้าก็แต่งงานกันตอนพร้อม มีหน้ามีตา แต่โตมาแล้วก็ก่อเรื่องเพียบ ถึงเราจะมีอคตินะ แต่เราว่าเรื่องแบบนี้ก็เอามาตัดสินคนชี้ชัดไม่ได้หรอก เป็นกำลัใจให้จขกท.นะคะ เรื่องมันผ่านมาแล้ว เลี้ยงลูกให้ดีที่สุดก็พอแล้วค่ะ จากคุณ : โคอาล่าบ้องแบ๊ว เขียนเมื่อ : 2 ต.ค. 55 19:58:01

ความคิดเห็นที่ 90 ที่เราเขียนไว้ข้างต้น เมนท์บนๆ ขอไม่อ้างถึงนะคะ เราต้องเข้าใจค่ะ ว่ายังไงซะ มันก็ต้องมีคนคิดแบบนี้ นี่คือ สังคมความเป็นจริง เราจะไปประกาศปาวๆๆ ว่า ทำไม ไม่มอง แม่วัยรุ่นแล้วมีลูก มองในแง่ดีบ้าง เป็นไปไม่ได้ค่ะ เพราะแต่ละคนก็ความคิดต่างกัน คุณครูก็อาจจะเจอประสบการณ์เดิมเกี่ยวกับแม่วัยรุ่นที่ไม่ดี เค้าเลยอาจจะเหมารวมได้ค่ะ เป็นเรื่องปกติ จริงๆ เชื่อว่าหลายๆคนยังไงซะก็ต้องเจอ การพูดแบบนี้บ้างหล่ะ (แม่วัยรุ่นอ่ะ) ไม่ว่าจะต่อหน้า หรือลับหลัง เป็นไปไม่ได้หรอกค่ะ ที่จะไม่เจอเลย (อะไรๆที่เราไม่เจอต่อหน้า อย่าคิดว่าไม่มี) เพราะฉะนั้นยังไงซ๊า เค้าก็ต้องคิด ต้องตั้งแง่อยู่แล้วค่ะ ไม่ว่าใครก็เหอะ (แต่คุณครูอาจจะผิดตรงที่บอกว่าไม่รับ) เพราะเค้ารู้จักกับคุณ จขกท.แค่เบื้องต้นค่ะ เค้าไม่รู้หรอกว่าคุณผ่านความยากลำบากมาแค่ไหน ต้องผ่านการพูดคุย รู้จักกันให้มากกว่านี้ค่ะ อย่ามองว่าทำไมคนอื่นไม่เปิดใจ ลองดูบรรทัดฐานของสังคมเราให้ดีนะ ที่ออกข่าวโคมๆทุกวันนี้ เรื่องแม่วัยรุ่น มันมีแง่บวกไหมหล่ะ มีแต่แง่ลบ เราก็ต้องทำใจ (คงไม่มีใครอยากให้ตัวเองหรือลูกตัวเอง ญาติตัวเอง มีลูกก่อนวัยอันที่เหมาะสมหรอกค่ะ) เพราะเอาเข้าจริง มันก็ไม่เหมาะสมกับบรรทัดฐานของสังคมเรา ก็เราเรียน ถูกปลูกฝังแบบนี้ไม่ใช่หรอ .... ซึ่งแน่นอนหลายคนบอกว่ารับได้ อีกหลายคนเช่นกัน ย่อมรับไม่ได้ ...ถ้าถามเรา เราปกตินะ เพราะก็เจอกันเยอะมากกก ^^ ดีซะอีกที่คุณจขกท.มีสติดีมากก เป็นผู้ใหญ่จริงๆ เรานับถือคนที่ไม่ทำแท้ง เพราะเราก็ไม่สนับสนุนค่ะ พลาด อ่ะ ใครๆก็พลาดได้ แต่วิธีการแก้ไขหรือการรับมือนี่สิ สุดยอดกว่า เราก็นับถือไม่ว่าจะแม่ไหนๆเพราะ เราเองยังไม่มั่นใจเลยเราว่าเป็นแม่ที่ดีได้หรอ ซึ่งเราก็นับถือ จขกท.จริงๆค่ะ รวมทั้งแม่วัยรุ่นคนอื่นด้วย ที่เป็นแม่ที่ดี ที่เราร่ายยาวมาทั้งหมด แค่อยกบอกว่า ต่างคนต่างความคิดค่ะ ^^ ก็ดีนะ เราจะได้เจอหลายๆมุมมอง เรียนรู้อย่างหนึ่งค่ะ แก้ไขเมื่อ 02 ต.ค. 55 20:34:28 จากคุณ : หมูหวานน้ำกะทิ เขียนเมื่อ : 2 ต.ค. 55 20:31:23

ความคิดเห็นที่ 91 มีลูกตอนอายุ 16 ตอนม.4 เราว่าไม่แปลกหรอกค่ะ ใคร ๆ ก็พลาดกันได้ แต่แปลกที่ว่าคุณมีลูกคนที่สองตอนม. 6 ได้ยังไงมากกว่า สงสัยเหมือนคห. 80 ว่าโรงเรียนอะไร ช่วงม.ปลายเป็นช่วงที่เรียนหนักด้วย แต่คุณกลับมีลูกคนที่สองช่วงนั้นได้สบาย ๆ สำหรับคำถามของครู เราไม่คิดว่าแปลกค่ะ เป็นปกติของโรงเรียนเอกชน และที่เขาไม่รับคงไม่ใช่เพราะอายุคุณหรอก เราว่าการที่คุณผ่านช่วงเวลานั้นมาได้และประสบความสำเร็จทุกวันนี้ทั้งในด้านการงานและครอบครัวเป็นสิ่งที่น่าชื่นชม แต่ว่าการตอบคำถามของคุณวันนั้นไม่ได้แสดงถึงวุฒิภาวะค่ะ แก้ไขเมื่อ 02 ต.ค. 55 20:32:55 จากคุณ : Sonnenschein เขียนเมื่อ : 2 ต.ค. 55 20:32:29

ความคิดเห็นที่ 92 อดีตแก้ไขไม่ได้ โดยส่วนตัวขอชื่นชมคุณ ที่มีลูกแล้วก็ยังไม่ทิ้งการเรียน คุณมีความรับผิดชอบในระดับสูงในความคิดเรา ส่วนถ้าครูคนนั้นเค้าตัดสินคุณ เพราะตอนคุณตอบคำถามอาจจะเหวี่ยงใส่ครูไปรึเปล่า เราไม่รู้ แต่ถ้าเป็นเรา ๆ ก็คงเหวอค่ะ ใช่จริงอยู่บาง รร.ต้องสัมภาษณ์ผู้ปกครองเด็กด้วย ระดับการศึกษา อาชีพ รายได้ แต่คำว่าสัมภาษณ์ กับละลาบละล้วงมันคนล่ะส่วนน่ะค่ะ จากที่เราอ่าน ครูคนนี้ละลาบละล้วงค่ะ มนุษย์สัมพันธ์ต่ำและมารยาท ทรามมาก ถ้าคาดเดาไม่ผิดระหว่างสัมภาษณ์คุณไป สีหน้าและแววตาอาจจะ ดูตำหนิและเหยียดหยามก็เป็นได้ และเราคิดว่าตอนนี้เค้าคงจะไม่ลืมเรื่องของคุณหรอกค่ะ ต้องนำเรื่องของคุณไปเล่าต่อแน่ ๆ ถ้าตอนสัมภาษณ์คุณนั้น แล้วสีหน้าท่าทางไม่ขนาดนี้อาจจะยิ้มบ้าง ดีค่ะ ขนาดมีลูกอายุยังน้อยแล้วยังไม่ทิ้งการเรียนอีก ไม่ทำแท้ง บลา ๆ พูดไปสิค่ะสิ่งดีๆ ยิ้มด้วย แล้วครูจะรับไม่รับเด็กก็อีกเรื่องหนึ่ง ไม่ต้องไปแสดงกริยามารยาท ต่ำ ๆ ทราม ๆ ดูถูกเหยียดหยามคนอื่นเค้า วุฒิภาวะของคุณไม่เหมาะกับคนเป็นครูเลย ดีแล้วค่ะที่ไม่เอาลูกไปเรียนโรงเรียนนี้ แล้วไม่ต้องหลังไมค์ชื่อ รร. หรอกค่ะ บนกันตรงนี้แหละ เพราะโรงเรียนไม่ได้ผิด แต่ผิดที่มีครูนิสัยเลว ๆ แบบนี้ อย่าส่งลูกให้ไปคนเลว ๆ อบรมสั่งสอนเลยค่ะ เสียดายเด็กดี ๆ ทดสอบ กับ ดูถูกเหยียดหยาม มันคนละเรื่องกันค่ะ ถ้าการดูถูกและการละลาบละล้วงเรื่องคนอื่นคือการทดสอบแล้วละก็....อย่าเรียนมันเลยค่ะ รร. นี้ เรื่องของคุณเม้าท์กันสนุกปากแน่ ใน รร. นี้ และ ญาติโกโหติการของครูคนนี้ด้วย  ชีไม่ได้นอนกระติกนิ้วนอนดูทีวีหรอกค่ะ ใส่สีตีข่าวด้วย แก้ไขเมื่อ 02 ต.ค. 55 20:48:44 จากคุณ : มหาเศรษฐีสีเท่าอ่อนๆ (มหาเศรษฐีสีเท่าอ่อนๆ) เขียนเมื่อ : 2 ต.ค. 55 20:37:00

ความคิดเห็นที่ 93 เพื่อนเราอายุห่างจากแม่ไม่ถึง 16 ปี จบปริญญาตรีเกีตรตินิยมอันดับ 1 เหรียญทอง มหาลัยฝั่งธรเน๊ีย จากคุณ : No-eY me เขียนเมื่อ : 2 ต.ค. 55 20:40:54

ความคิดเห็นที่ 94 เราว่าช่วงแรก ครูอาจจะถามเพราะอยากรู้วิธีการเลี้ยงลูกของ จขกท. เพราะ จขกท. อายุน้อย หรืออาจมีอคติกับแม่ที่มีลูกตั้งแต่ยังเด็กอยู่แล้ว แต่สิ่งที่ตัดสินความคิดของครู คือคำพูดของ จขกท. เองค่ะ ขอโทษที่เห็นต่างค่ะ จากคุณ : Winnie (WinNie05) เขียนเมื่อ : 2 ต.ค. 55 20:46:39

ความคิดเห็นที่ 95 ผิดตรงไหนที่มีลูกในวัยเรียน (ยิ้ม) ผิดสิคะเพราะวัยเรียนเป็นวัยที่ยังไม่ควรมีลูกไง เป็นวัยที่ควรตั้งหน้าตั้งตาเรียนหนังสือไป แต่ในเมื่อคุณมีแล้ว ... คุณต้องยอมรับผลที่ตามมา นั่นคือปฏิกิริยาของผู้คนที่จะมีต่อคุณ คุณจะโกรธเราเป็นฟืนเป็นไฟก็โอเคแต่นี่คือความรู้สึกที่จะบอกอย่างตรงไปตรงมา คุณจะยอมรับหรือไม่นั่นมันขึ้นอยู่กับวุฒิภาวะของคุณ เราไม่ได้เข้าข้างครู เพราะเราพูดถึงแค่คุณ ยอมรับในสิ่งที่เกิดขึ้นนะคะ และก็ตั้งใจพิสูจน์ตัวเอง เลี้ยงดูลูกให้ดีต่อไป โรงเรียนนั้น ครูคนนั้น ช่างเขาเถอะ คิดเสียว่าเขามีสิทธิ์จะคิด และเขาแค่เป็นผู้ใหญ่คนหนึ่งซึ่งมองโลกในมุมมองของตัวเอง จากคุณ : เสียงจากบ้านนา เขียนเมื่อ : 2 ต.ค. 55 20:48:00

ความคิดเห็นที่ 96 ไม่รับเพราะ เด็กพวกนี้อีกหน่อยจะสร้างปัญหา (สงสารเด็กจัง) จากคุณ : จาริก เขียนเมื่อ : 2 ต.ค. 55 21:03:46

ความคิดเห็นที่ 97 หลายๆคนยังไม่เข้าใจ โรงเรียนเอกชน จ่ายเงินเรียน เขาจะรับหรือไม่รับก็เป็นสิทธิ์ของทางโรงเรียนเขาไม่ใช่เหรอ  บางโรงเรียนต้องสอบด้วย สัมภาษณ์นักเรียนสัมภาษณ์ผู้ปกครอง ไม่ใช่มีเงินเเล้วจะเข้าเรียนได้เลยนะ จากคุณ : Hana* เขียนเมื่อ : 2 ต.ค. 55 21:28:47

ความคิดเห็นที่ 98 "อย่าโทษการตัดสินของสังคม อย่าโทษคุณครูท่านนั้น...จงโทษตัวเอง และรับผลของการกระทำอันขาดสติ ของตัวเองเถอะค่ะ" คนคนหนึ่งจะต้องรับผลกรรมทั้งชาติเลยหรือไง การที่คุณแม่เค้ามีความรับผิดชอบเลี้ยงลูกมาจนโตได้ และมีฐานะเพียงพอที่เอาลูกเข้า รร. เอกชนได้ ก็เปนการบอกอยู่แล้วว่าเป็นแม่ที่มีความรับผิดชอบแค่ไหน คนที่ต่างจากคนอื่นไม่ใช่ว่าจะเป็นคนไม่ดี ถ้าใครมาว่าเราแบบนี้เราก็โกรธ และคงแรงกลับไปมากกว่านี้ จากคุณ : หมีพูห์@WHL เขียนเมื่อ : 2 ต.ค. 55 21:28:55

ความคิดเห็นที่ 99 คห 88 เดี๋ยวนี้หลายๆ รร. เค้าก็สัมภาษณ์ ผู้ปกครองเป็นเรื่องปกตินี่คะ รร. สาธิต, รร. มาแตร์ คะแนนผู้ปกครองมากกว่า คะแนนลูกอีก เค้าคงไม่ได้ให้ ผปค.  มาประจบเพื่อให้ลูกเข้า รร. หรอกค่ะ เค้าน่าจะดูความพร้อมของ ผปค. และก็ทัศนคติในการเลี้ยงลูก หรือดำรงชีวิตของ ผปค. ด้วย รร. เค้าคงอยากให้พัฒนาเด็กไปพร้อมๆกัน สมัยนี้ไม่ใช่เอาเด็ก ไป รร. แล้วยกหน้าที่ให้ครูสอนทุกอย่าง พ่อแม่ที่บ้านต้องมีส่วนร่วมด้วย จากคุณ : ENNUI เขียนเมื่อ : 2 ต.ค. 55 21:34:36

ความคิดเห็นที่ 100 เราไม่มีอคติกับคนที่ท้องตอนไม่พร้อม แต่รับผิดชอบเด็กค่ะ เรานับถือมากที่คุณไม่เอาเด็กออก แต่คนที่ท้องแล้วไปทำแท้งเพราะพลาดหรือไม่ป้องกันนี่ยังไงเราก็ไม่ไหวอ่ะ สมัยก่อนมีเยอะนะคะที่มีลูกแต่ยังเด็ก แค่นี้ำทำเป็นรับไม่ไ้ด้ ไม่เข้าใจว่ะ - -" จากคุณ : Chunsa เขียนเมื่อ : 2 ต.ค. 55 21:44:16

ความคิดเห็นที่ 101 พวกที่บอกไม่แคร์นี่ก็แปลก ถ้าตัวเองมีลูกสาวเอง และท้องตอน ม. 4 จะปลื้มไหม... แต่กรณีนี้ อ.ก็ดูไม่เหมาะสมที่เสียมารยาทกะคุณ ส่วนคุณเอง ก็ต้องยอมรับผลแห่งการกระทำ เพราะถึงคุณจะเก็บลูกไว้ก็ตาม โอเคถือว่าเป็นผู้ที่กลัวบาป มีข้อดีที่น่าชื่นชม แต่คุณเองก็ไม่เหมาะสม เพราะชิงสุกก่อนห่าม ผลลัพธ์คือสร้างภาระให้พ่อและแม่คุณ ซึ่งไม่สมควร คุณควรเรียนให้จบและไม่สร้างภาระต่อท่าน จะดีกว่า ส่วนที่บอกว่าท้องไม่โต ยังไปเรียนได้เลย คุณมองว่าเป็นปกติ เหรอ ถ้าในสังคมเห็นเด็กท้องแล้วไปเรียนกันเป็นเรื่องปรกติ สังคมจะวิบัติขนาดไหน การเป็นนักเรียนต้องมีวินัย และอยู่ในกรอบ ทำหน้าที่ของตนให้ดีที่สุด จะดีกว่านะ จากคุณ : travelmemo เขียนเมื่อ : 2 ต.ค. 55 21:46:50

ความคิดเห็นที่ 102 เพลีย.... 1. ผลของการกระทำที่เราหมายถึง ไม่ได้หมายถึงมีลูกตอนเรียน!!! ใครจะทำอะไร ยังไง ผิดพลาด ก็เรื่องของเค้านะคะ คนเราถ้ามัวแต่รอโอกาสจากสังคม คงไม่ได้เงยตาอ้าปาก....มัวแต่โทษปัจจัยภายนอกที่ควบคุมไม่ได้ ถ้าเรายอบรับ นับถือตัวเอง ต่อให้ใครหน้าไหนไม่หยิบยื่นโอกาสให้ เราจะพร้อมที่จะฟันฝ่า เพื่อให้โอกาสตัวเอง คนที่เรียกร้องโอกาสทางสังคม คือคนที่ไม่ให้แม้แต่โอกาสสำหรับตัวเอง เรียกร้อง ความเท่าเทียม ความเท่าเทียมและไม่เท่าเทียมไม่มีอยู่จริงบนโลกใบนี้ ใครๆ ล้วนมีคติ และอคติ ประกอบขึ้นจากพื้นฐานประสบการณ์ สิ่งแวดล้อม สัญญา ถ้าเราจะหาความเท่าเทียมกันจากคนอื่น หาเท่าไหร่ก็หาไม่เจอ แต่ถ้าเรามัวแต่คิดว่าโลกนี้ไม่มีความเท่าเทียม เราก็จะไม่เคยพบเจอความเท่าเทียมเช่นกัน เราต้องมอบความเท่าเทียมและโอกาสให้ตัวเองก่อนที่จะรอให้คนอื่นมามอบให้ ผลของการกระทำ ที่เราหมายถึง คือ การไม่มีสติพิจารณา สถาณการณ์ตรงหน้า และโพล่ง พูดออกไปแบบนั้น สุดท้าย ผลลัพธ์ที่ได้ คือ ตัวเองโกรธ  และลูกก็ไม่ได้เข้าโรงเรียน และสิ่งที่เราพิมพ์ไปว่าถ้าน้องเค้าพูดแบบนี้ ประมาณนี้ ไม่เรียกว่าประจบสอพลอ :-) เพราะ เรานำความจริงที่น้องเค้าพูด มาเรียบเรียงใหม่โดยใช้คำพูดที่ไพเราะกว่า  เพื่อให้ผู้ฟังคล้อยตาม นำไปสู่สิ่งที่เราต้องการ เขาเรียกว่า การเจรจาต่อรอง โดยใช้มธุรสวาจา เป็นสิ่งที่คนพึงจะกระทำต่อกัน เขา หรือใครหน้าไหน อาจจะตัดสินตัวเราจากอดีตที่เราเป็น แต่เรามีสิทธิ์เลือกที่จะเป็นแบบนั้นหรือไม่ และแสดงให้คนอื่นเห็น ว่าเราเป็นแบบไหน เคยได้ยินที่เขาว่าไว้ไหมคะ ว่า แพ้ศึก แต่ชนะสงคราม ดีกว่า ชนะศึก แต่แพ้สงคราม คุณชนะศึก น้ำลาย ณ ห้องคุณครู แต่คุณแพ้สงครามอย่างราบคาบ!!! นี่คือ ความหมายที่เราบอก ไม่ได้พูดถึงเล้ยยย ว่ามีลูกตอนเรียนมันเป็นพฤติกรรมดี หรือไม่ดี ควรทำหรือไม่ควรทำ แค่บอกว่า มันแปลกไปจาก  norm  ทั่วไป จึงอย่าไปถือโกรธเมือคนอื่นมองเราไม่ดี จากสิ่งที่เราเคยทำมา เพราะมันเป็นผลจากสิ่งที่เราเคยทำ ท้องตอนเด็ก  > อาจจะไม่ดีในสายตาคนอื่น หรือปกติในสายตาหลายคน แต่เก็บเด็กไว้ > ถือว่าเป็นปกติ เป็นการกระทำที่พึงกระทำ เมื่อ ท้องตอนเด็ก และเก็บเด็กไว้ หลายคนอาจจะยกย่อง ชมเชย หรือมองเป็นเรื่องธรรมดา สามัญสุดแท้แต่คนจะมอง จะให้คนอื่นยกย่อง เห็นใจเหมือนกันหมด เห็นจะไม่ได้นะคะ ทำแท้ง >> ผิดทั้งศีลธรรมและอื่นๆ สารพัด แต่ถ้าไปว่า บางคนก็จะบอกว่า ดีกว่าเก็บเด็กไว้เป็นปัญหาสังคม คุณไปช่วยเขาเลี้ยงลูกหรอ ถึงมีสิทธิวิจารณ์ เหรียญมันมีสองด้านแบบที่คนหลายคนชอบเอามาพูด ก่อนที่จะว่าคนอื่นตัดสินตัวเรา ได้ลองมองดูหรือยัง ว่าเราตัดสินตัวเองไปแล้วแค่ไหน คนที่เหมารวมว่าสังคมเป็นแบบนั้นแบบนี้ คือการตัดสินคนอื่น เช่นกัน.. พยายามเอาใจเขามาใส่ใจเรา เข้าใจตัวเองอย่างถ่องแท้  มองโลกในแง่บวก ผูกติดอยู่กับความโกรธและปมในอดีต โทษสิ่งรอบข้าง ไม่ได้ช่วยให้อะไรดีขึ้นมา คนที่ดูถูก ดูผิด ล้วนแต่ช่วยให้เราแข็งแกร่งขึ้น ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง ถ้าเรามัวแต่ยึดติดอัตตา ตัวตนของตัวเอง กูถูก มรึงผิด ล้วนแล้วไม่ได้อะไร ขาวล้วน ดำล้วนในอุดมคติ ไม่มีจริง แก้ไขเมื่อ 02 ต.ค. 55 22:01:49 จากคุณ : กุ๊ดจัง เขียนเมื่อ : 2 ต.ค. 55 21:50:07

ความคิดเห็นที่ 103 ลูกเพิ่งหลับจะเข้ามาแชร์ว่า..เราก็เคยโดนค่ะ แต่เราไปถามค่าเทอมของโรงเรียนอนุบาลแถบบางบัวทอง คือเดิมเราอยู่ในเมืองค่ะแต่งงานแล้วย้ายมาอยู่บางบัวทอง ลูกเราเพิ่งขวบเดียวเรากับสามีก็ไม่ได้ซีเรียสถามไปเรื่อย พอดีมีอยู่วันนึงเราไปทำธุระเสร็จผ่านโรงเรียนที่ติดป้ายว่าเป็นโรงเรียนรางวัลพระราชทาน เราก็อยากรู้ว่าหน้าตาโรงเรียนเป็นไง ดีเด่นอย่างไรจึงเข้าไปสอบถาม โรงเรียนอยู่ในหมู่บ้านใหญ่ ที่ดดนน้ำท่วมหนักเมื่อปีที่แล้ว สภาพพอดูได้เพราะยังไม่มีการทำสีใหม่ ห้องเรียนดูอุดอู้ คับแคบเมื่อเทียบกับจำนวนเด็ก ค่าเทอมอยู่ในระดับแพงอยู่สำหรับแถวนี้ ..ตอนเราไปถึงมีคนพาชมโรงเรียนเพราะครูไม่ว่าง ไอ้เราก็ใส่เดรส แต่แฟนเราใส่กางเกงยีนส์ค่ะพอเจอครูได้เรื่อง!!!..มองตั้งแต่หัวจรดเท้าเลย แถมท้ายด้วยค่าเทอมแพงนะคิดดีดีนะคับ 555 ชริ..คิดเหรอว่าโรงเรียนี้ดีเด่นนักหนา ได้รางวัลมาจะ 10 ปีแล้วไม่เคยได้อีกทำเป็นหยิ่ง ค่าเทอมขนาดนี้เราส่งลูกไปเรียนในเมืองที่เราเคยเรียนดีกว่า ได้สิทธิ์ศิษย์เก่าแล้วยังการันตีคุณภาพด้วย ปล.หรือว่าเค้าเห็นว่าเรากับสามีเด็ก อายุ 26 กันเองค่ะ แต่งตัวอาจจะกะโปโลหน่อยแต่แบบรู้สึกว่าครูหยิ่งมากกกกกกกก..เราไม่อยากให้ลูกอยู่กับครูแบบนี้หรอก แก้ไขเมื่อ 02 ต.ค. 55 21:58:09 จากคุณ : Z-Cube เขียนเมื่อ : 2 ต.ค. 55 21:54:24

ความคิดเห็นที่ 104 อ่า ... เราไม่เคยมีลูกอ่ะนะคะ แต่เราว่าเราเข้าใจเจ้าของกระทู้นะคะ เพราะการที่เขาท้อง ไม่ว่าจะด้่วยวัยตอนไหน มันเป็นสิ่งที่เกิดมาแล้ว ไม่มีความจำเป็นต้องไปรื้อฟื้นขึ้นมาเลย ยิ่งประโยค "ไม่ชอบ พวกวัยรุ่นมีลูกตอนไม่พร้อม เด็กพวกนี้อีกหน่อยจะสร้างปัญหา" คือ ครูคะ ครูไม่ชอบคนเดียวหรือ นโยบายของโรงเรียนเป็นแบบนี้คะ? ถ้าครูเป็นเจ้าของโรงเรียนก็เข้าใจค่ะ แต่ถ้าครู เป็นเพียง"ผู้สอบถาม/สัมภาษณ์" มันไม่เหมาะสมเลยค่ะ ครูตัดสินได้เลยใช่ไหมคะ ว่าจะให้คนนี้เข้า คนนี้ไม่เข้า เพราะว่า ครูชอบหรือไม่ชอบ เราว่ามันไม่ใช่แล้วอ่ะ... สำหรับเรา เราว่าเจ้าของเขาไม่ได้ผิดค่ะ การที่เขามีลูกตอนไหน มันก็น่าจะเป็นเรื่องของเขา ต่อให้เรารู้สึกแปลกใจหรือรู้สึกไม่เหมาะสม มันก็ใช่ว่าเราจะมีสิทธิ์เดินไปบอกเขาว่า "เมิงผิดๆๆๆๆ" นี่นา (แอบนินทาก็ว่าไปอย่าง อันนี้เข้าใจได้) จากคุณ : bookalive เขียนเมื่อ : 2 ต.ค. 55 21:56:19

ความคิดเห็นที่ 105 ปล. เราว่าคุณครูไม่น่าจะตั้งใจทดสอบหรอก เราว่าครูอยากเผือกมากกว่าอ่ะ จากคุณ : bookalive เขียนเมื่อ : 2 ต.ค. 55 21:58:26

ความคิดเห็นที่ 106 ไม่เป็นไรค่ะ จขกท. ดีแล้วที่ไม่ได้เรียนค่ะ เข้าใจ คนเราก็ต้องมีอารมณ์โกรธอยากหาที่ระบาย อยากหาที่รับฟัง มาช่วยฟังค่ะ แต่จากหลายๆความคิดเห็น เหมือน จขกท.จะได้ความเครียดกลับไปแทนแล้วมั้งคะ เหอๆ สู้ๆค่ะ หาใหม่ ที่เหมาะกับเราไปเรื่อยๆ รร.เยอะค่ะ บทสนทนาเต็มๆมันคงไม่ได้ห้วนแบบนี้มั้ง แต่เราก็เชื่อว่า ครูเขาไม่รับ ไม่ใช่เพราะคุณแม่อารมณ์ร้อน แต่เขาไม่รับเพราะเขาไม่ชอบที่คุณมีลูกตอน 16 จริงๆ ถึงตอบดีแค่ไหน ไงเขาก็ไม่รับ แต่นะคะ แต่ ลองคิดเล่นๆ มาถ้าครู มาเจอตอนที่ จขกท. ลงมาจากรถเบนซ์รุ่นใหม่ล่าสุด แต่งตัวเริ่ดที่สุด รับแน่นอนค่ะ  เพราะนี่แหละ เมืองไทย จากคุณ : Cheerfully เขียนเมื่อ : 2 ต.ค. 55 22:35:08

ความคิดเห็นที่ 107 เคยมีคนบอกเราว่า "อย่าตัดสินการกระทำของคนอื่น ในเหตุการณ์ที่เราไม่เคยเจอ" จากคุณ : earthham เขียนเมื่อ : 2 ต.ค. 55 22:51:52

ความคิดเห็นที่ 108 อ่านทุกคอมเม้นต์เลยค่ะเพราะว่าตัวเองอายุ19 ลูก2 เข้าไปแล้ว แต่สามีคนเดิมนะ แต่งงาน จดทะเบียนถูกต้องตั้งแต่อายุ15   คิดเสมอว่าเราภูมิใจในตัวเองที่เลี้ยงลูกมาได้จนถึงทุกวันนี้การเรียนก็ไม่ได้ทิ้ง และมีความสุขมากๆกับการเป็นแม่คน ถึงจะอายุยังน้อยแต่ก็รักลูกมากไม่แพ้แม่คนอื่นๆ ตัวเราเองเรารู้ดีที่สุดค่ะว่าเราเป็นอย่างไร ลูกเราเป็นอย่างไร คนอื่นจะมองว่าเราเป็นเด็กใจแตก มันก็ต้องมีบ้างเนอะ จขกท. เพราะเขาไม่รู้จักเรา เพราะปกติคนที่มีลูกเร็ว"ส่วนมาก"ก็เป็นเด็กใจแตกหรือพวกสก๊อยจริงๆ จะมีสักกี่คู่ที่มีลูกตั้งแต่อายุยังน้อยแล้วอยู่กันยืนยาวแบบคุณ จขกท. ใช่ไหมคะ ดังนั้นก็ต้องมีบ้างที่คุณครูหรือบางคนจะมองเราเป็นคนส่วนมาก คนเรามีหลายประเภทค่ะ เราอาจจะโชคร้ายเองที่เจอคนไม่เปิดใจ ขอให้คุณ จขกท.ใจเย็นลงไวๆนะคะ ต้องขอบคุณกระทู้นี้ที่สอนให้เราได้รับรู้ถึงความแตกต่างทางความคิด และวิธีที่ควรปฏิบัติถ้าเจอเหตุการณ์แบบ จขกท. ขึ้นมา แก้ไขเมื่อ 02 ต.ค. 55 22:57:56 จากคุณ : Bubble_BG เขียนเมื่อ : 2 ต.ค. 55 22:56:27

ความคิดเห็นที่ 109 ถ้าจะบอกว่า จขกท ไม่มีวุฒิภาวะทางอารมณ์ แล้วครูคนนั้นมีวุฒิภาวะณ์ มากกว่าจขกท สินะคะ แล้วที่บอกว่าเดี๋ยวนี้รร.เอกชนส่วนมากต้องสัมภาษณ์ผู้ปกครองด้วย ก็น่าจะถามถึงทัศนคติ สภาพแวดล้อมในการเลี้ยงลูกมากกว่า ไม่ใช่ละลาบละล้วงถามเรื่องส่วนตัวของผู้ปกครอง เราว่าบางเรื่องครูไม่มีสิทธิ์ถามมันเกินขอบเขตและจาบจ้วงมากเกินไปด้วยซ้ำ จากคุณ : นารีพิฆาตกุ้ง เขียนเมื่อ : 2 ต.ค. 55 23:41:54

ความคิดเห็นที่ 110 มาให้กำลังใจ จขกท. น่ะคับ คุณเก่งมากที่ผ่านช่วงเวลาเหล่านั้นมาได้ อย่าไปใส่ใจพวกโลกสวยมาก ถ้าโดนกับตัวเองมั้ง คนโลกสวยก็ทำไม่ได้อย่างที่ปากพูด มือพิมพ์ หรอก จากคุณ : เด็กหญิงเอญ่า เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 55 00:01:12

ความคิดเห็นที่ 111 เอาจริงๆนะ จริงๆเลย แบบไร้อคตินะคะ  เพราะเราไม่มีประสบการณ์มีลูกตอนวัยเรียน หรืออายุยังน้อย หรือยังไงอย่างไร ในความเป็นจริงแล้ว ไม่ว่าจะยังไง การรับสมัครเด็กเข้าเรียน ผู้รับสมัครไม่ควรนำประวัติผู้ปกครอง มาเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้นะคะ จริงอยู่ค่ะ ที่พฤติกรรมของเด็กที่โตมา อาจจะเกี่ยวข้องกับการเลี้ยงดู ความเป็นอยู่ พฤติกรรมของผู้ปกครอง แต่เรามีทัศนคติที่ว่าโรงเรียนมีหน้าที่ร่วมกับผู้ปกครองในการขัดเกลา กล่อมเกลาให้เด็กมีความรู้ มีจริยธรรม คุณธรรม เรียนรู้ทักษะชีวิต ปูพื้นฐานก่อนที่จะเติบโตต่อไป ไม่จำเป็นว่าเด็กคนนั้นจะพิเศษ หรือบกพร่องทางการเรียนรู้ เข้าใจว่าโรงเรียนที่จขกท.พาลูกไปสมัคร นั้นเป็นเอกชน จึงมีการคัด เน้น เพื่อให้โรงเรียนมีคุณภาพ จึงต้องสอบประวัติต่างๆนานา ต่างจากโรงเรียนรัฐบาล ที่ไม่ว่าเด็กจะยากดีมีจน พ่อแม่ทำอาชีพอะไร สุจริตหรือไม่ ติดคุกหรือไม่ แม่ท้องเมื่อไหร่ บกพร่องทางการเรียนรู้ สติปัญญามั้ย? ก็ต้องรับ เพราะถ้าไม่รับก็เกิดความผิด ก็ไม่เห็นว่าเด็กที่เจอสิ่งแวดล้อม แบบนั้น จะโตมาเป็นแบบนั้นถมไป บางคนดิ้นรน ต่อสู้  จนได้รางวัลระดับนานาชาติ ทัดเทียมโรงเรียนเอกชนด้วยซ้ำไป ขอย้ำอีกรอบว่า การที่ผู้ปกครองตั้งครรภ์เมื่อไหร่ ไม่น่าจะนำมาเป็นประเด็นมั้งคะ? เราก็มีอาชีพ หน้าที่ ภาระงาน เกี่ยวข้องกับการศึกษาเหมือนกัน เราไม่ได้เข้าข้างผู้ปกครองหรอกค่ะ เพราะเราก็ไม่ปลาบปลื้มในพฤติกรรมของผู้ปกครองบางคนเช่นกัน เซ็งมากที่วัดคนอื่นจากการมีลูกตอนวัยเรียนเป็นคนไม่ดี คนที่มีลูกตอนยังสาวๆว่าต้องก้มหน้ารับกรรมโดนตราหน้ากันไป ขอโทษเถอะค่ะ คนที่บอกจขกท.ว่าต้องยอมรับว่าจะโดนประเมิน โดนตัดสินเพราะมีชีวิตแบบนั้น เราว่าไม่มีอะไรวัดเลยนะคะ ว่าเค้าจะีมีชีวิตที่แย่เสมอไป อาจารย์ท่านนั้นก็ไม่มีสิทธิ์ สอบถามด้วยค่ะ เค้าอาจจะสามารถวิพากษ์วิจารณ์ได้ (ลับหลัง) เนื่องจากไม่ชอบเรื่องแบบนี้ แต่เราคิดว่าด้วยระดับอาจารย์ใหญ่ ของโรงเรียนแล้ว ควรมีวุฒิภาวะ คุณวุฒิ วัยวุฒิ และมารยาททางสังคม ที่มากพอ จะไม่สอบถามเรื่องส่วนตัวค่ะ และมีความคิด ที่จะไม่โยงเรื่องส่วนตัวมาเกี่ยวข้องกับเรื่องรับสมัครนักเรียนค่ะ ขอโทษนะคะ ยาวไปหน่อย อินมาก พอดีอยู่ในวงการการศึกษากับเค้าด้วย จากคุณ : ปลอดภัยห่วงใยคุณ เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 55 00:03:01