ความคิดเห็นที่ 1 บรรยากาศการเรียน CPR ของเด็กๆ จากคุณ : I Promise เขียนเมื่อ : 2 ต.ค. 55 09:43:37

ความคิดเห็นที่ 2 เพื่อนเคยเล่าให้ฟังว่ามีลูกหมอจมน้ำตอนไปประชุมต่างจังหวัด หายไปหลายนาที แต่พอช่วยขึ้นมาหมอก็ช่วยกันทำ CPR ข้างสระ เด็กก็ตื่นฟื้นกลับมาได้จริงๆ จากคุณ : I Promise เขียนเมื่อ : 2 ต.ค. 55 09:46:40

ความคิดเห็นที่ 3 CPR ปั๊มหัวใจ 30 ครั้ง เป่าปาก 2 ครั้ง ในโรงงานบังคับให้อบรมปีละ 1ครั้งตามกฏหมาย จากคุณ : อัยเยอร์ เขียนเมื่อ : 2 ต.ค. 55 09:49:24

ความคิดเห็นที่ 4 อันนี้ 911  "Two-Year-Old Pool Save" จากคุณ : I Promise เขียนเมื่อ : 2 ต.ค. 55 09:55:19

ความคิดเห็นที่ 5 Woman Does CPR for 7 Minutes, Saves Child from Drowning จากคุณ : I Promise เขียนเมื่อ : 2 ต.ค. 55 10:10:01

ความคิดเห็นที่ 6 เท่าที่ดูข่าวเมื่อวานนี้ เห็นว่ามีการผายปอดด้วยการนวดหัวใจ ไม่บอกว่ามีการเป่าปาก วิทยาการยุคนี้บอกว่า การนวดหัวใจก็ถือว่าเป็นการผายปอดได้เหมือนกัน เป่าปากด้วยก็เป็นวิธีที่ดีที่สุด แต่การแบกขึ้นบ่านี่ไม่ได้เรื่องเลย ปิดเทอมทุกครั้ง มีเด็กตายเพราะจมน้ำตายหลายต่อหลายคนทุกเทอม ตายทีละหลายคนด้วย เพราะคนนึงจมน้ำ อีกคนช่วย เจอกอดเลยจมทั้งคู่ ต้องอย่าปล่อยเด็กให้คลาดสายตาเด็ดขาด เจอคนตกน้ำต่อหน้าต้องช่วยให้ถูกวิธี เข้าทางด้านหลัง(มีหลักการอยู่) จะได้ไม่ถูกกอดจนจมไปทั้งคู่ สมัยเราฝึกดำน้ำ มีคนจมอยู่ก้นสระ เลยช่วยกันนำขึ้นฝั่ง หน้าเป็นสีม่วงแล้ว ก็ต้องช่วยกันทั้งเป่าปาก ผายปอด จนหน้าจากสีม่วงกลายเป็นชมพูเป็นแดงเห็นๆ อีกครั้งสาวลอยตามน้ำมาตามแม่น้ำตาปี โบกมือให้ช่วยอยู่กลางแม่น้ำ เลยรีบออกเรือไปช่วย ต้องโยนกระป๋องน้ำไปให้เกาะก่อน จึงโดดลงไปช่วยขึ้นเรือเข้าฝั่ง เสร็จแล้วก็ต้องมานวดหัวใจอีกพัก เล่าให้ฟังถึงวิธีการเท่านั้น จากคุณ : ต้นโพธิ์ต้นไทร เขียนเมื่อ : 2 ต.ค. 55 10:21:14

ความคิดเห็นที่ 7 โหวตให้ค่ะ ความรู้ทั้งนั้นเลย จากคุณ : newoasis2 เขียนเมื่อ : 2 ต.ค. 55 10:29:36

ความคิดเห็นที่ 8 ขออนุญาตนะคะ คลิปนี้สอนโดยพยาบาล จากที่ไม่เคยสนใจ เจอข่าวแบบนี้ ต้องสนใจและทำ CPR ให้เป็นค่ะ จากคุณ : wanvisa เขียนเมื่อ : 2 ต.ค. 55 10:37:30

ความคิดเห็นที่ 9 จากคุณ : mominam เขียนเมื่อ : 2 ต.ค. 55 11:29:26

ความคิดเห็นที่ 10 ขออย่าให้เหตุการณ์อย่างนี้เกิดขึ้นกับใครเลยนะคะ... แต่สำหรับพ่อแม่...การเรียนรู้จักการรับมือกับสถานการณ์ฉุกเฉินต่างๆไว้เป็นสิ่งที่ดีมากค่ะ จากคุณ : รักเฌอ..ประเทศไทย เขียนเมื่อ : 2 ต.ค. 55 11:41:29

ความคิดเห็นที่ 11 ขอแสดงความเสียใจและเป็นกำลังใจให้พ่อแม่ของเด็กด้วยนะครับกับการสูญเสียครั้งที่ยิ่งใหญ่ เหตุการณ์นี้เคยได้เกิดกับผมมาเมื่อไม่นานมานี้ ความเศร้ายังไม่จางหายเลย เหตุการณ์เหมือนกันมาก ครูที่โรงเรียนเข้ามาแสดงความเสียใจกับขอโทษ หลายอย่างที่อยากจะปลอบใจ ในช่วงนี้ร้องไห้ให้พอนะครับน้ำตาเท่านั้นที่จะทำให้มีความสุข เป็นห่วงเขากลัวเขาเหงา กลัวเขาหนาว กลัวเขาไม่มีที่ไป กลัวเขาคิดถึงบ้าน คิดถึงพี่น้อง กลัวเขาร้องให้ กลัวเขาเจ็บปาก เจ็บท้อง กลัวไปสารพัด กลัววิญญาณเขาจะถูกจับ ผมอยากเล่าหลายสิ่งหลายอย่างให้ฟังกับเรื่องราวที่สูญเสียลูกชายไปอย่างไม่มีวันกลับมา วันเวลาที่ผ่านมา ๔ เดือน ร้องให้จนไม่มีน้ำตา จำได้ทุกอย่าง จำคำพูด จำเสียงหัวเราะ จำล่องลอยที่เขาเคยไป ยิ่งเห็นเสื้อผ้าที่เขาเคยใส่ไม่รู้น้ำตาหลั่งมาจากไหน จากคุณ : เป็นกำลังใจให้ เขียนเมื่อ : 2 ต.ค. 55 13:32:31 A:1.179.128.227 X: TicketID:376935

ความคิดเห็นที่ 12 ขอบคุณสำหรับความรู้นะคะ เสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมากจริงๆ ไม่อยากจะนึกว่าถ้าเกิดกับลูกเราจะเป็นยังไง จากคุณ : cutybabe เขียนเมื่อ : 2 ต.ค. 55 13:33:05

ความคิดเห็นที่ 13 #คห.11 ขอแสดงความเสียใจด้วยอย่างสุดซึ้งนะคะ แค่อ่านตามก็น้ำตาไหลแล้ว ขอให้น้องไปสู่สุขคติ แล้วกลับมาเกิดเป็นลูกของคุณอีกครั้งนะคะ จากคุณ : cutybabe เขียนเมื่อ : 2 ต.ค. 55 13:34:52

ความคิดเห็นที่ 14 คห. 11 ขอแสดงความเสียใจด้วยค่ะ เป็นกำลังใจให้ค่ะ จากคุณ : เอ่ เอ๊ บูเก้ คนดี เขียนเมื่อ : 2 ต.ค. 55 13:56:31

ความคิดเห็นที่ 15 ขอเป็นกำลังใจกับการสูยเสียด้วยน่ะค่ะ ชีวิตของเราต้องดำเนินไปตามปัจจุบันและอนาคตต่อไปค่ะ จากคุณ : weahalimah (weahalimah) เขียนเมื่อ : 2 ต.ค. 55 13:56:54

ความคิดเห็นที่ 16 ขออภัยนะคะ เราดูแต่ในคลิปที่เป็นพยาบาลสอนในคห.ที่ 8 แล้ว เราอยากบอกว่ามันไม่ใช่แล้วค่ะ ตอนนี้เขาเปลี่ยนหลักปฎิบัติกันแล้ว อันล่าสุดรู้สึกว่าจะเป็นของปี 2010 จากเดิมที่เป็น A - B - C เปลี่ยนเป็น C - A - B (circulation, airway, breathing) คืออันดับแรก ปั้มเลยค่ะ 30 ครั้ง ในความเร็วอย่างต่ำ 100 ครั้ง/ นาที (อันนี้สำคัญมาก ทำทันที) เช็คทางเดินหายใจ แล้วเป่า 2 ลมหายใจ ทำอย่างนี้ 5 รอบ (ภายใน 2 นาที) แล้วสังเกตุดูการเปลี่ยนแปลง อัตรานี้ใช้ในเด็ก(1-8 ปี)และผู้ใหญ่ 1.) ถ้าทำได้ควรที่จะคุกเข่าทางด้านซ้ายของเด็ก เวลากดให้แขนตรงอยู่ตลอดเวลา อย่างอข้อศอก โน้มตัวขนานกับพื้น โดยใช้น้ำหนักตัวในการกด ในเด็กใช้มือเดียวในการกด กดลึกราว 5 เซนติเมตรแล้วปล่อยให้ทรวงอกขยายตัวเอง กดครบ 30 ครั้ง 2.) เช็คทางเดินหายใจ หงายศรีษะน้องไปด้านหลังให้เงยหน้าขี้น สังเกตุลมหายใจ เอาหน้าเข้าไปใกล้ๆ ให้รู้สึกถึงลมหายใจที่จะปะทะแก้ม ดูการขยับขึ้นลงของหน้าอก (ใช้เวลาไม่เกิน 5-10 วินาที) หากยังไม่เปลี่ยนแปลง 3.) เตรียมช่วยหายใจ บีบจมูก เอาริมฝีปากประกบ เป่าลมหายใจ 1 ครั้ง นาน 1 วินาที สังเกตุการขยับของหน้าอก หากขยับเป่าอีก 1 ครั้ง หากไม่ขยับ ให้เช็คการหงายศรีษะอีกครั้งแล้วเป่าครั้งที่ 2 ทำ 5 รอบสังเกตการเปลี่ยนแปลง ถ้ามีเครื่องกระตุ้นหัวใจให้ใช้หลังทำทุก 5 รอบ ถ้าไม่มีปั้มไปเรื่อยๆ จนกว่าจะถึงมือหมอหรือเจ้าหน้าที่ ที่เราพิมพ์มาใช้ในกรณีเด็กจมน้ำ แล้วหัวใจหยุดเต้นและไม่หายใจนะคะ เพราะบางกรณีไม่จำเป็นต้องช่วยหายใจ (ส่วนใหญ่ในผู้ใหญ่ที่เกิดหัวใจล้มเหลว หรือคนที่เราเห็นล้มลงไปต่อหน้า) ตามหลักการแล้วหากไม่เคยฝึกมาก่อน เขาไม่แนะนำให้ช่วยหายใจนะคะ ควรจะปั้มอย่างเดียวค่ะ แน่นอนว่าเราเองก็ไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญมาจากไหน ถ้าอย่างไรลองค้นเรื่อง AHA Guidelines for CPR and ECC 2010 ดูนะคะ จากคุณ : leira เขียนเมื่อ : 2 ต.ค. 55 14:08:13

ความคิดเห็นที่ 17 ขอแสดงความเสียใจและเป็นกำลังใจให้พ่อแม่ของเด็กด้วยนะครับกับการสูญเสียครั้งที่ยิ่งใหญ่ เหตุการณ์นี้เคยได้เกิดกับผมมาเมื่อไม่นานมานี้ ความเศร้ายังไม่จางหายเลย เหตุการณ์เหมือนกันมาก ครูที่โรงเรียนเข้ามาแสดงความเสียใจกับขอโทษ หลายอย่างที่อยากจะปลอบใจ ในช่วงนี้ร้องไห้ให้พอนะครับน้ำตาเท่านั้นที่จะทำให้มีความสุข เป็นห่วงเขากลัวเขาเหงา กลัวเขาหนาว กลัวเขาไม่มีที่ไป กลัวเขาคิดถึงบ้าน คิดถึงพี่น้อง กลัวเขาร้องให้ กลัวเขาเจ็บปาก เจ็บท้อง กลัวไปสารพัด กลัววิญญาณเขาจะถูกจับ ผมอยากเล่าหลายยิ่งหลายอย่างให้ฟังกับเรื่องราวที่สูญเสียลูกชายไปอย่างไม่มีวันกลับมา วันเวลาที่ผ่านมา ๔ เดือน ร้องให้จนไม่มีน้ำตา จำได้ทุกอย่าง จำคำพูด จำเสียงหัวเราะ จำล่องลอยที่เขาเคยไป ยิ่งเห็นเสื้อผ้าที่เขาเคยใส่ไม่รู้น้ำตาหลั่งมาจากไหน สภาพที่อุ้มลูกชายที่ไร้วิญญาณออกจากโรงพยาบาลด้วยความเศร้า พร้อมภรรยาและญาติพี่น้องที่เดินตามหลังมาพร้อมกับเสียงร้องให้ มาขึ้นรถช่วงนั้นลูกชายมีอาการตัวตัวแข็งแล้ว เอาขึ้นด้านหน้ารถเก่งผมก็นอนกอดมาตามทางโดยมีพี่ชายเป็นคนขับรถ ตอนนั้นผมก็พูดทุกย่างมาตามทาง ขอสิ่งศักดิ์ทุกอย่างให้มีปาฎิหาริย์ให้ช่วย ขอคุณพระคุณเจ้า พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ทุกขัง อนิจจัง อนัตตา ทุกย่างที่นึกได้ในช่วงนั้น ให้ลูกฟื้น ตั้งแต่โรงพยาบาล มาจนถึงหน้าบ้าน พอถึงหน้าบ้านบรรยากาศทุกย่าง มันเศร้าสลดใจ มีแต่เสียงร้องให้ ทุกคนโห่ร้อง ร้องไห้ ปนเศร้า พร้อมกับวิ่งมาหน้ารถที่กำลังจอดอยู่บริเวณหน้าบ้าน ผมก็พยุงร่างกายลูกชายที่แข็งทื่อออกจากรถและก็มีญาติพี่น้องที่มาเฝ้ารอได้วิ่งมารับพร้อมกับเสียงร้องให้อย่างเศร้าโศก ผมก็อุ้มลูกชายที่มีสภาพนอนยาวตัวแข็งเข้าบ้านพร้อมกับน้ำตาที่ไหลไม่หยุด (ชักจะน้ำตาไหลแล้วครับเวลาร้องไห้เหมือนใจจะขาดครับ) จากคุณ : เป็นกำลังใจให้ เขียนเมื่อ : 2 ต.ค. 55 14:23:27 A:1.179.128.227 X: TicketID:376935

ความคิดเห็นที่ 18 ดิฉันทำงานที่บ้านพักคนชราในต่างประเทศ ตอนเรียนหลักสูตรนี้ก็มีการอบรม First help  3 วันค่ะ และหนึ่งในนั้นก็คือการทำ C P R ได้เรียนรู้ว่าแต่ละนาทีมันคือความเป็นความตายของอีกคน สติต้องตั้งให้มั่นที่สุดค่ะ และเริ่มทำ C P R โดยใช้หลัก 30 / 2 คือ ปั้มหัวใจ 30 ครั้ง และเป่าปาก 2 ครั้ง สลับกันไปเรื่อยๆ เพื่อช่วยปั้มหัวใจให้ส่งออกซิเจนไปเลี้ยงสมองค่ะ การทำ C P R ในแต่ละวัยก็จะต่างกันออกไปค่ะ เช่น เด็กแรกเกิดถึงหนึ่งปี เด็กเล็ก เด็กโต และผู้ใหญ่ ซึ่งการทำ CPR ในเด็กแบเบาะจะไม่ใช้ทั้งฝ่ามือปั้มหัวใจ แต่จะใช้สองนิ้วกดปั้มหัวใจแทนค่ะ เพราะกระดูกบริวณหน้าอกเด็กยังบอบบางนัก ในหลายๆสถานที่ในชุมชนในต่างประเทศ จะมีเครื่องช่วยชีวิต เป็นเครื่องปั้มหัวใจขนาดกระเป๋าค่ะ แก้ไขเมื่อ 02 ต.ค. 55 14:34:58 แก้ไขเมื่อ 02 ต.ค. 55 14:32:59 แก้ไขเมื่อ 02 ต.ค. 55 14:29:21 จากคุณ : sunisaogkim เขียนเมื่อ : 2 ต.ค. 55 14:27:22

ความคิดเห็นที่ 19 คุณเป็นกำลังใจค่ะ ช่วยเล่าได้ไหมค่ะว่าเหตุการณ์ที่ลูกคุณจมน้ำมันเป็นยังไง เอาไว้ให้คนที่อ่านได้เป็นอุทาหรณ์ ดิชั้นก็มีลูกเล็กค่ะ จะได้ระวังค่ะ ขอบคุณมากๆค่ะ ถ้าไม่สะดวกก็ไม่เป็นไรนะค่ะ จากคุณ : อยากรวยแต่ยังเด็ก เขียนเมื่อ : 2 ต.ค. 55 14:40:35

ความคิดเห็นที่ 20 คุณเป็นกำลังใจให้  เสียใจด้วยนะค่ะ อยากทราบเหตุการณ์เหมือนกันค่ะ เพราะถ้าน้องไปโรงเรียนก็ต้องมีเรียนว่ายน้ำ ตอนนี้จิตตกแล้วค่ะ จากคุณ : กลับมาได้ไหม เขียนเมื่อ : 2 ต.ค. 55 14:55:36

ความคิดเห็นที่ 21 พึ่งรู้ว่าแบกบนบ่าให้น้ำออกไม่ได้ช่วยอะไรเลย เข้าใจผิดมาตลอดแหะเรา จากคุณ : mumijungka เขียนเมื่อ : 2 ต.ค. 55 16:01:06

ความคิดเห็นที่ 22 คห. 11 ขอแสดงความเสียใจด้วยค่ะ เป็นกำลังใจให้ค่ะ จากคุณ : ชวนชมดอกซ้อน เขียนเมื่อ : 2 ต.ค. 55 16:43:46

ความคิดเห็นที่ 23 เดี๋ยว นี้  มี Hand Only ด้วยครับ เน้น กด หน้า อก อย่างเดียว ไม่เป่าก็ได้ จากคุณ : chanman เขียนเมื่อ : 2 ต.ค. 55 16:54:33

ความคิดเห็นที่ 24 โรงเรียนแห่งหนึ่ง เป็นโรงเรียนฝรั่งมีชื่อเสียงดังมากในจังหวัดหนึ่งก็แล้วกันนะครับ มีสระน้ำประจำโรงเรียน เปิดบริการนักเรียนในชั่วโมงเรียน บริการสมาชิกและประชาชนช่วงหลังเรียน เสาร์ อาทิตย์ มาประมาณ 4-5 ปีแล้ว จะมีสระเด็กไม่ลึก และสระผู้ใหญ่อยู่ติดกันจะมีราวเหล็กสแตนเลสกั้นเอาไว้ และมีครูดูแลสระน้ำ วันเกิดเหตุเป็นวันศุกร์ที่ 18 พฤษภาคม 2555 โรงเรียนเปิดได้ 3 วัน ขึ้น ป. 4 ได้ 3 วัน ลูกชายผมอายุ ณ วันนั้น 8 ปี 11 เดือน กับอีก 24 วัน อีก 6 วัน ก็จะถึงวันเกิดเขา คือวันที่ 23 พฤษภาคม ตอนเช้า แฟนไปส่งลูกที่โรงเรียนเป็นเรื่องปกติ ไม่มีลางสังหรณ์ หรือเรื่องไม่ดีเกิดขึ้นแต่อย่างใด แม่เขาจะเอารถไปส่งลูกที่โรงเรียนก่อนหลังจากนั้นก็ไปทำงาน ตอนเย็นก็จะมารับ โรงเรียนจะเลิกประมาณ 3 โมงครึ่ง และจะมีสอนพิเศษในห้องอีก ประมาณ 30 นาที จะเลิกก็ประมาณ 4 โมงเย็นสำหรับคนเรียนพิเศษ เด็ก ๆ ก็จะมาคอยผู้ปกครองที่หน้าโรงเรียนก็จะเล่นกันตามปกติ แฟนผมก็จะมารับลูกประมาณ 4 -5 โมงเย็น ทุกวัน ช้าหน่อยก็ 5 โมงครึ่ง ( ผมมีลูกสองคน ลูกชาย และลูกสาว คนโตอยู่ ป.4 คนเล็กอยู่ ป.3 ความสูงต่ำ ไม่เกิน 2 เซน หลายคนที่เห็นเขาจะว่าเป็นฝาแฝดกัน) วันนั้น แม่เขามารับ 5 โมงกว่าๆ เห็นน้องสาวเล่นอยู่หน้าอาคารเรียน แม่จอดรถ ลูกสาววิ่งมาบอกแม่ว่าพี่ชายขอไปเล่นน้ำเหตุผลว่าร้อน แม่และน้องก็รีบไปหาลูกชายเพราะเข้าใจดีอยู่แล้วว่าลูกชายว่ายน้ำไม่เป็น นอกเสียจากจะเล่นสระเด็ก จะเป็นสระไม่ลึก เดินไปด้วยอาการปกติ เดินข้าไปในสระก็ไปตามหาลูกอยู่ที่สระเด็ก ก็ไม่เห็น เดินไปหาที่ห้องน้ำห้องเปลี่ยนชุดไม่เห็น ก็เดินออกมาสระเด็กก็หาลูกชายอีกไม่เห็น จะเดินออกมาจากบริเวณสระก็ผ่านสระผู้ใหญ่ก็ถามเด็กรุ่นโตที่เล่นอยู่สระผู้ใหญ่ก็ว่าไม่เจอไม่พบ ไม่เห็น แฟนผมดูหมดทุกที่ทุกมุมบริเวณสระ แฟนผมก็เดินออกมาจากสระก็มองไปเห็นรองเท้าลูกชายเข้าใจว่าลูกก็ต้องอยู่ในบริเวณสระน้ำ เพราะน้องสาวบอกว่าพี่ชายมาเล่นน้ำ เพราะตอนที่มาสระว่ายน้ำก็มากับน้องสาว ไปเช่าชุดว่ายน้ำน้องสาวยังจ่ายค่าชุดว่ายน้ำให้เลย 10 บาท คุณครูยังบอกเลยว่าไปหากางเกงใส่ ถ้าใส่ได้ก็เล่น ถ้าใส่ไม่ได้ก็ไม่ต้องเล่น( น้องสาวเขาเล่าให้แม่ฟัง) แฟนผมก็เดินกลับมาสระว่ายน้ำอีกครั้งหนึ่ง คราวนี้เดินผ่านสระผู้ใหญ่ก็มองไปเห็นเด็กผู้ชายว่าน้ำอยู่ลักษณะเอาหัวคว่ำลง แก่ก็สังเกตุดูเหมือนเด็กลอย (ไม่ใช่ว่ายน้ำนะครับ เป็นลักษณะลอยไปตามคลื่นน้ำ) แฟนผมแก่ก็ไม่คิดว่าเป็นลูกของแก่เพราะลูกไม่เคยมาเล่นสระผู้ใหญ่และก็ว่ายน้ำไม่เป็น และไม่ได้มาเล่นนานแล้ว แฟนผมก็ร้องให้คนช่วย เมื่อมีคนมาช่วยขึ้นจากสระ มองไปสังเกตุว่าเป็นลูกตัวเองแก่ก็ตกใจเป็นอันมาก เท่านี้ก่อนนะครับน้ำตาจะไหลครับ วันหน้าจะมาเล่าต่อนะครับช่วงที่จัดงานศพให้ลูกชายก็มีปรากฎการณ์ต่าง ๆเกิดขึ้นจนทุกวันนี้ถ้ามีคนอยากฟังอยากอ่าน นะครับ ขอบคุณนะครับกำลังใจที่ส่งมาให้ ผมอยากให้เป็นอุทาหรณ์ สำหรับคนอื่น ๆ สระที่มีคนเล่นเยอะ ๆ มีผู้ปกครองเด็กบางท่านไปเฝ้าลูก ไม่ใช่ว่าจะปลอดภัยนะครับ ไม่มีใครดูแลลูกดีเท่ากับพ่อแม่นะครับ สระมีครูดูแลก็จริงมีเยอะไหม 1 คน 2 คน 3 คน เท่ากับจำนวนคนที่ไปใช้สระว่ายน้ำในคณะนั้นไหม ในช่วงนั้นครูดูแลสระทำอะไรอยู่ เล่นเฟส โทรศัพท์ ดูทีวี หรือกำลังเก็บตังค์ ที่เขียนมานี่คือมี แต่มีทำอะไรอยู่ พิสูจน์ไม่ได้ ยากมาก ได้แต่คำขอโทษคุ้มไหมละกับชีวิตลูก เขียนถูกผิดขออภัยนะครับ จากคุณ : เป็นกำลังใจใ เขียนเมื่อ : 2 ต.ค. 55 17:14:30 A:1.179.128.227 X: TicketID:376935

ความคิดเห็นที่ 25 ขอแสดงความเสียใจและเป็นกำลังใจให้คุณ เป็นกำลังใจให้ นะคะ สำหรับกรณีเด็กจมน้ำ การเป่าปาก น่าจะมีประโยชน์ เพราะสามารถทำได้ตั้งแต่อยู่ในน้ำ และเราควรจะทำ CPR จนกว่ารถพยาบาลจะมาถึง อย่าหยุด...... กรณีเพื่อนเราที่จมน้ำ เค้าว่ายน้ำไม่เป็นเลย เรือจมในบึงเลยช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ กว่าจะงมขึ้นมา กว่าจะไปส่ง รพ. หมอทำ CPR กันทั้งคืน แต่สุดท้ายก็ช่วยไม่ได้ พอเรามีลูกเลยตั้งใจเลยว่ายังไงลูกต้องว่ายน้ำให้เป็น  เราเองก็ว่ายไม่แข็ง ช่วยอะไรเค้าไม่ได้ วันหนึ่งเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดก็เกิดกับลูกเราจริงๆ ตอน 8 ขวบเค้าลงไปให้อาหารปลาในแพที่บึงบรเพ็ด แล้วเค้ากะระยะผิดกระโดดโยนอาหารปลาไปให้ไกลๆ แต่ตัวเองลอยตกลงไปในบึงบรเพ็ดซะเอง เค้าลงไปในน้ำประมาณ 15 วินาที คุณลุงเค้าโดดลงไปช่วย แต่เค้าก็โผล่พรวดขึ้นมาเอง แต่ตอนนั้นลูกเราว่ายน้ำแข็งแล้ว ว่ายน้ำลึกได้สบายๆ ขึ้นมาเค้าบอกว่าเค้าตกใจเพราะมันมืดไม่เหมือนน้ำในสระว่ายน้ำ แต่เค้าก็ไม่สำลัก  ตอนนั้นก็รู้สึกว่าโชคดีมากที่ให้เค้าเรียนว่ายน้ำมาตลอด เด็กกับน้ำมันใกล้ตัวเรามาก บางคนจมน้ำตุ่มที่บ้านตัวเองเพราะปีนเอาหัวจุ่มลงไปแล้วไม่มีใครเห็น ถ้าน้องว่ายน้ำไม่แข็งแม้ว่าจะอยู่ที่สระว่ายน้ำก็ห้ามละสายตาเด็ดขาด จากคุณ : I Promise เขียนเมื่อ : 2 ต.ค. 55 17:30:34

ความคิดเห็นที่ 26 ขอแสดงความเสียใจกับคุณเป็นกำลังใจให้ค่ะ เมื่อวานดูรายการแล้วน้ำตาคลอ สงสารคุณแม่และครอบครัวน้องค่ะ ขอให้น้องไปสู่สุขคตินะคะ คิดว่าการทำ C P R ควรจะมีสอนหลักสูตรที่โรงเรียนด้วยนะคะ จากคุณ : kaewko เขียนเมื่อ : 2 ต.ค. 55 18:19:09 A:182.52.34.11 X: TicketID:265805

ความคิดเห็นที่ 27 คุณ I Promise โชคดีที่น้องไม่เป็นอะไร ลูกสาวดิฉันอายุ 8 ขวบเท่ากัน เพิ่งไปหัดว่ายน้ำตอนซัมเมอร์ ยังว่ายน้ำไม่แข็งเลย คิดว่าซัมเมอร์หน้าจะต้องให้ลูกสาวว่ายน้ำให้เป็นให้ได้ เพราะอุบัติเหตุอาจจะเกิดขึ้นโดยเราไม่คาดคิดค่ะ จากคุณ : kaewko เขียนเมื่อ : 2 ต.ค. 55 18:29:21 A:182.52.34.11 X: TicketID:265805

ความคิดเห็นที่ 28 คอร์สนี้เป็นคอร์สที่อยากเข้าเรียนมากๆ ที่จริงตามโปรแกรมต้องเรียนวันนี้ แต่โทรสอบถามเรื่องเวลาและห้องก่อนถึงวันที่จะได้เรียน ได้รับคำตอบว่าคลาสนี้ถูกแคนเซิ่ลไป เพราะผู้สนใจเรียนน้อยมาก พอได้รับคำตอบแบบนี้อย่างเซ็งมากๆค่ะ เพราะว่าคอร์สนี้สำคัญมากๆไม่ใช่แต่เฉพาะสำหรับเด็กเท่านั้น สำคัญกับคนทุกๆคนทีเดียวเลยค่ะ ที่เล่ามาไม่ใช่ในประเทศไทยน่ะค่ะ วันนี้ยังนั่งเบื่ออยู่เลย และก็ดีใจมากที่ได้อ่านกระทู้นี้ อาทิตย์หน้าจะเปิดกระทู้นี้ประชาสัมพันธ์บอกให้เพื่อนทุกคนทราบและได้เห็นภาพได้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น  จะได้รวมตัวไปแจ้งกับทางผู้จัดการให้พิจารณาเรื่องการเข้าอบรมคอร์สนี้อีกครั้งค่ะ จากคุณ : แม่อยู่ไกล (แม่อยู่ไกล) เขียนเมื่อ : 2 ต.ค. 55 19:36:48

ความคิดเห็นที่ 29 ต่างประเทศ บริษัทเอกชนธรรมดา ไม่เกี่ยวข้องกับการเเพทย์ เเต่ละปี ต้องมีการฝึกซ้อมหนีภัย ฝึกซ้อมอพยพกันไฟไหม้ ฝึกซ้อมวิธีช่วยชีวิตซีพีอาร์ฉุกเฉิน ฝึกซ้อมกรณีของติดคอจะเอาให้หลุดออกมาได้อย่างไร ครูโรงเรียนธรรมดา เจ้าหน้าที่ประจำสระว่ายน้ำ พวกนี้ต้องฝึกด้วยค่ะ นอกเรื่องอีกนิด ใครที่ทำงานเกี่ยวกับเด็ก ต้องตรวจวัณโรคด้วย ไม่ใช่เเค่เอ็กซ์เรย์ทุกหกเดือน เเต่ต้องไปเพาะเชื้อที่เเขนกันเลย เข้าใจว่าสำหรับคนทำงานที่สถานพักคนชราด้วย(ไม่เเน่ใจ) บ้านเราน่าจะออกเป็นกฏหมายมาเลย ที่ไหนทำผิดกฏ ไม่มีมาตรการรักษาป้องกันความปลอดภัยที่ดีพอ ถ้าเกิดเรื่อง สั่งปิดอย่างเดียว เเต่อย่างว่่า บ้านเราคอรัปชั่นเยอะ คงยาก จากคุณ : Pixiepasta เขียนเมื่อ : 2 ต.ค. 55 19:43:14

ความคิดเห็นที่ 30 ขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวน้องจีนน้องญี่ปุ่น และครอบครัวคุณเป็นกำลังใจให้ T.T จากคุณ : ระแนงไม้ เขียนเมื่อ : 2 ต.ค. 55 20:47:42

ความคิดเห็นที่ 31 ขอแสดงความเสียใจกับคุณเป็นกำลังใจให้ด้วยนะคะ .... เรารู้จักเด็กคนหนึ่งที่จมน้ำเสียชีวิตเมื่อหลายปีที่แล้ว ขนาดแค่เป็นคนรู้จักกันก็ยังใจหาย เข้าใจหัวอกคนเป็นแม่ของน้องเลยว่าเธอใจสลายแค่ไหน ขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวของน้องจีนและญี่ปุ่นด้วยนะคะ จากคุณ : เสียงจากบ้านนา เขียนเมื่อ : 2 ต.ค. 55 20:53:31

ความคิดเห็นที่ 32 เคยช่วยเด็กจมน้ำไว้ประมาณ 3 ครั้ง เป็นเด็กผู้หญิงทั้งหมด คนล่าสุดคือน้องสาวตัวเอง ทุกครั้งที่ได้ช่วย เกิดคำถามผุดขึ้นมาในหัวคำถามเดียวกันเลย ถ้าไม่มีเราในตอนนั้นจะเป็นยังไง? ไม่อยากคิดเลย T^T จำได้แม่นหนึ่งในเด็กผู้หญิงที่เคยช่วยไว้คนหนึ่ง จมน้ำท่ามกลาง เพื่อนๆอีกมากมาย เพราะเป็นช่วงปิดเทอมเด็กๆทุกคนพ่อแม่ก็ส่งมาเรียนว่ายน้ำกันหมด ร.ร.ประถมแห่งนั้นจัดแข่งว่ายน้ำทุกเทอม น้องเท้าไม่ถึงพื้น น้ำท่วมหัว มือหลุดจากขอบเท่านั้น แต่ไม่มีเพื่อนคนไหนกล้าช่วยน้องเลย แค่มอง ขอแสดงความเสียใจอย่างที่สุดกับครอบครัวที่สูญเสียแก้วตา ดวงใจไปคะ จากคุณ : Pucpica ZL เขียนเมื่อ : 2 ต.ค. 55 21:36:08

ความคิดเห็นที่ 33 ขอแสดงความเสียใจกับคุณเป็นกำลังใจกับครอบครัวน้องทั้ง 2 ด้วยนะคะ อ่านแล้วเศร้ามากค่ะ ขอให้น้องไปสู่สุขติค่ะ จากคุณ : aingy เขียนเมื่อ : 2 ต.ค. 55 21:42:57

ความคิดเห็นที่ 34 เสียใจกับครอบครัวคุณเป็นกำลังใจ ด้วยนะคะ น้องจีน-น้องญี่ปุ่น ไปสู่สุขคตินะคะ จากคุณ : via iPhone (nooh_blue) เขียนเมื่อ : 2 ต.ค. 55 22:39:57

ความคิดเห็นที่ 35 วันนี้เราฝึกทำ cpr อย่างจริงจัง จากคุณ : rainfull เขียนเมื่อ : 2 ต.ค. 55 22:48:22

ความคิดเห็นที่ 36 เราเคยจมน้ำตอนเด็กๆ  โตขึ้นมาเลยไปเรียนว่ายน้ำ  แต่ก็ยังมีความกลัวฝังใจนิดหน่อย พอมีลูก เลยตั้งใจให้ลูกเรียนว่ายน้ำ แต่คงต้องจับตาดูไม่ให้คลาดสายตาเลย ขอบคุณทุกท่านที่ให้ความรู้ และแชร์เรื่องราวให้เป็นอุทาหรณ์ ขอเป็นกำลังใจให้พ่อแม่ทุกท่านที่เสียลูกไปก่อนวัยอันควร ขอให้เทวดาน้อยๆนางฟ้าน้อยๆ กลับสู้สรวงสวรรค์ค่ะ จากคุณ : mickymackynetty เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 55 10:38:29

ความคิดเห็นที่ 37 ขอให้ครอบครัวที่สูญเสียลูกรักทุกคน ทำใจได้และ เข้มแข็งเร็วๆนะคะ คงไม่ถึงกับทำใจได้ แต่ให้สามารถอยู่กับมันได้ค่ะ จากคุณ : la-la-bell เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 55 13:28:59

ความคิดเห็นที่ 38 ฟังแล้วใจหาย  น้องอายุใกล้เคียงกับลูกคนโต  และลูกคนกลางมากๆ   แล้วลูกเราก็ชอบไปว่ายน้ำเหมือนกันที่สระของหมู่บ้าน (บ้านอาม่า)   เราเป็นห่วงมาตลอด  กลัวเหตุการณ์แบบนี้จะเกิดขึ้น  เวลาที่อาม่าพาเด็ก 2 คนไปว่ายน้ำ  แล้วคิดว่าไปห้องน้ำแป๊ปนึง   พูดตรงๆ  หลอนเลยค่ะ  กลัวไม่อยากให้เกิดกับลูกเรา ขอแสดงความเสียใจกับพ่อแม่ ของน้องด้วยนะคะ  ขอให้คุณพระศรีรัตนตรัย  ช่วยคุ้มครองให้ดวงวิญญาณของน้องไปสู่สุคติด้วยเทอญ จากคุณ : สาวผมสั้น เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 55 14:44:56

ความคิดเห็นที่ 39 เราเองก็ว่ายน้ำไม่เป็นค่ะ เพราะไม่ค่อยมีโอกาสได้เล่นน้ำ จำได้ว่าตอนอนุบาลที่โรงเรียนจะสอนว่ายน้ำ เด็กคนไหนที่ว่ายน้ำไม่เป็น ครูจะให้เตรียมห่วงยางมาด้วย แต่ด้วยความที่เราไม่เคยเล่นน้ำ ก็เลยไม่รู้ว่าเราว่ายน้ำไม่เป็น คิดว่าถ้าลงไปในน้ำแล้วก็คงว่ายได้ เลยไม่ได้ให้ผู้ปกครองเตรียมห่วงยางให้ พอไปถึงสระ เราก็กระโดดลงสระไปเลย ตัวเราก็ค่อย ๆ ดิ่งจมลง เราลืมตาขึ้นมามองรอบ ๆ เห็นแต่ขาลอยอยู่เต็มไปหมด และด้วยความตกใจว่าทำไมเราไม่ลอยเหมือนเด็กคนอื่น ๆ ทำให้เราต้องดิ้น แล้วก็มีครูลงมาช่วยเราไว้ เลยทำให้เรารู้ว่า เราว่ายน้ำไม่เป็น 555 พอโต ๆ ขึ้นมา ก็พอจะมีโอกาสได้เล่นน้ำบ้าง แบบเล่นน้ำตก เล่นทะเล และครั้งนึงก็ได้ไปดำน้ำ(ดูปะการังน้ำตื้น) คนขายทัวร์ก็บอกว่าว่ายน้ำไม่เป็นไม่เป็นไรมีชูชีพให้ ด้วยความซ่าก็นึกว่าง่าย ๆ(อีกแล้ว) เดินลงบันไดท้ายเรือลงน้ำ พอพ้นบันไดขั้นสุดท้ายเท่านั้นแหละ รีบดึงตัวเองขึ้นบันไดแทบไม่ทัน ไม่คิดว่าชูชีพมันจะพยุงตัวเราลอยน้ำได้นิดเดียวเอง นึกว่าจะลอยเหนือน้ำสักครึ่งตัว แต่ที่ไหนได้ โผล่พ้นน้ำแค่หัวกะหัวไหล่หน่อยนึง ทำใจอยู่นานก็ไม่กล้าลอยไปไหน กลัวกลับมาที่เรือไม่ได้ ได้แต่เกาะท้ายเรือ ก้มหัวดูปะการังตรงนั้นแหละ อนาถตัวเองจริง ๆ หลังจากนั้น ก็พยามฝึกว่ายน้ำ แฟนก็สอนให้ลอยตัว ตีขา ก็ยังว่ายไม่เป็นอยู่ดี แต่ไม่ค่อยกลัวน้ำแล้ว คราวนี้ไปจมที่น้ำตกอีก เล่นน้ำตกกะพี่ ๆ น้อง ๆ ที่ว่ายน้ำไม่เป็นสักคน เดินเล่นในน้ำไปเรื่อย ๆ น้ำประมาณหน้าอก เท้าก็เดินก้าวไปเรื่อย ๆ อยู่ ๆ พื้นมันก็ลึกลงไปเลย จมมิดหัวเลยค่ะ น้ำขุ่นมองไม่เห็นใครเลย ตั้งสติชั่วเสี้ยววินาที กลั้นหายใจ(เอามือบีบจมูก) สักพักตัวก็ลอยขึ้นมา รีบชูมือโบกไปมา น้องชายคว้าแขนดึงไว้ได้ รอดตายแล้ว ไม่รู้จะถูกต้องรึเปล่า ถ้าคิดว่าเวลาจมน้ำให้กลั้นหายใจจะได้ไม่สำลัก แล้วตัวก็จะลอยขึ้นมาเอง และเมื่อลอยขึ้นมาได้ จะได้มีโอกาสสักเสี้ยววินาทีในการขอความช่วยเหลือ จากคุณ : ยัยหมวย อินเตอร์ เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 55 15:43:55

ความคิดเห็นที่ 40 อยากฟังคุณเป็นกำลังใจเล่าต่อนะคะ   ถ้อยคำไหนก็คงจะปลอบใจไม่ได้ ขอเเสดงความเสียใจด้วยคะ จากคุณ : lin (chelee_ry) เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 55 18:26:43

ความคิดเห็นที่ 41 ขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวของน้องและคุณ คห 11 ด้วยค่ะ ______________ ส่วนตัวแล้วเคยอ่านหนังสือเกี่ยวกับอุบัติเหตุในเด็กของคุณหมออดิศักดิ์ ผลิตผลการพิมพ์ เราจำฝังใจเลยว่า เด็กควรว่ายน้ำได้ก่อนแต่อายุ 7 ขวบ พอลูกอยู่ ป 1 โรงเรียนมีสระว่ายน้ำพอดี  เราให้ลูกชายและน้องสาว 6ขวบ ไปเรียน แล้วก็ตอนเรียน ก็ต้องไปเฝ้าทุกวัน พยายามไม่ให้คลาดสายตา ทุกวันนี้ถึงเด็กจะว่ายน้ำค่อนข้างแข็ง แต่ถ้าไปเล่นนำ้ก็ต้องเฝ้าเหมือนเดิม จากคุณ : nunow_maeew เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 55 21:14:11

ความคิดเห็นที่ 42 เศร้าจนไม่รู้จะบรรยายอย่างไรค่ะ ขอแสดงความเสียใจด้วยนะคะ ส่วนตัวไม่เคยไว้ใจใครเลยค่ะ นอกจากตัวเอง แม้แต่พ่อเค้าเรายังไม่ไว้ใจเลยค่ะ ให้เรียนว่ายน้ำที่โรงเรียนโดยไม่มีเราคอยดูอยู่ก็ไม่อยากค่ะ เคยแว๊บ ๆ ไปถามเพราะไม่ค่อยมีเวลา แต่ดีที่เต็มค่ะ เคยเรียนรู้การทำ CPR ไม่แน่ใจแต่เห็นว่าแบบใหม่คือไม่ต้องเป่าปากแล้วนะคะ ต้องทำแรงและเร็วค่ะ คุณหมอเคยบอกซี่โครงหักก็ไม่เป็นไร รักษาได้ แต่ต้องทำให้หัวใจกลับมาก่อน ปกติจะพยายามคิดว่า สังขารเป็นสิ่งไม่เที่ยงตลอดค่ะ แต่การสูญเสียลูกไปก่อน เราไม่คิด ไม่อยากคิด และ ทำใจปลงไม่ได้จริง ๆ ค่ะ เข้าใจความรู้สึกเลยค่ะ ว่าใจจะขาด ขอให้คุณพ่อคุณแม่ทำบุญให้น้องเยอะ ๆ นะคะ เบิกบุญมาเลยค่ะ ขอใช้เลย อ่านหนังสือธรรมะ เค้าบอกว่าขณะที่ทำ ไม่ว่าจะให้อาหารสุนัข ดูแลพ่อแม่ ให้เตั้งจิต ณ ขณะที่ให้ที่ของหลุดจากมือเลย แรงภาวนาจะแรงกล้าค่ะ ปกติไม่ได้ธรรมะ นะคะ แต่พอผ่านเรื่องต่าง ๆ มาเยอะ บางเรื่องหาเหตุ หาผลไม่เจอจริง ๆ แนะนำให้พึ่งไว้บ้างค่ะ อีกอย่างคือเวลามีเคสอุบัติเหตุเราจะเล่าให้ลูกฟังตลอดค่ะ หาสาเหตุ และอธิบายให้เค้าฟังตลอด อย่างเรื่องเข็มขัดนิรภัย ก็จะอธิบายว่ามันช่วยยังไง กระชากให้ดูเลย ขนาดเรากลัวบางทีก็ยังละเลย กับการป้องกันความปลอดภัยค่ะ ส่วนใหญ่จะคิดว่ามันไม่เคยเกิด และมันก็คงจะไม่เกิด บางทีก็คิดว่าแป๊ปเดียวคงไม่เป็นไร หรือบางทีก็ทำไปเพื่อประหยัดเวลา เป็นแม่คนแล้ว ต้องคิดอะไรเยอะขึ้นมากทีเดียวค่ะ จากคุณ : hoshi my star เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 55 22:38:47

ความคิดเห็นที่ 43 คนไทยเข้าใจผิดกับการช่วยชีวิตมากๆ ขนาดรายการทีวี ยังเคยเอามาออกผิดๆ ว่าพอเอาขึ้นจากน้ำ ต้องเอาน้ำออกจากปอดเป็นอันดับแรก แล้วฉายภาพผู้ใหญ่แบกเด็กที่จมน้ำคว่ำไว้บนบ่า วิ่งๆๆ ให้กระแทกเอาำน้ำออกมา จากคุณ : ปฏิจจสมุปบาท (ปฏิจจสมุปบาท) เขียนเมื่อ : 4 ต.ค. 55 01:22:16

ความคิดเห็นที่ 44 ลูกชาย 6 ขวบเพิ่งเริ่มเรียนว่ายน้ำเมื่อต้นเดือนที่แล้ว วันแรกที่ไปเรียนเราแทบจะลากเก้าอี้ไปนั่งขอบสระ(เราว่ายน้ำเป็นครบทุกกระบวนท่า เรียนตอนอายุ 25 ปี+เป็น พยาบาล RN+ renew CPR Cert.กับAHA ไว้ตลอด) ที่สระแม้จะมี lifeguard นั่ง 4 จุด ทุก 10 นาที 4 คนนี้ ต้องลุกขึ้นเปลี่ยนจุดสลับตำแหน่งกัน ครูฝึกสอนเด็กแค่ 2 คน เชื่อป่ะ? สายตาเราแทบจะไม่คลาดจากลูกเลย บางวันเราลองคิดร้ายๆ นะ ถ้าลูกจมน้ำเราจะต้องทำไงบ้าง...1-2-3- ซ้อมในใจ ฝึกสติ ส่วนตัวเราเชื่อและคิดไว้ตลอดว่าเด็กทุกคนต่อให้ว่ายน้ำเป็นแต่เมื่อตกใจ...ลืมหมด .. น้องสาวเราที่ลูกชายเค้า 5 ขวบว่ายน้ำเป็นแล้วเพราะเรื่มเร็ว บอกเราว่าเราเป็นแม่ที่กังวล ห่วงเกินจะเป็นสาเหตุให้ลูกว่ายน้ำไม่เป็นเพราะความกังวลของแม่ ลูกจะไม่มั่นใจ เราตอบน้องสาวไปว่าเรายอมมีลูกว่ายน้ำไม่เป็นดีกว่าไม่มีลูกหรือมีลูกที่พิการทางสมองจากจมน้ำ แล้วสาระสำคัญเรื่องให้ลูกไปเรียนว่ายน้ำคือ สนุก+มีกิจกรรมหลังเลิกเรียนแค่นั้นไม่ได้หวังเป็นไมเคิล เฟลป์นะ ตอนเห็นข่าวตกใจมากเสียชีวืตทั้ง 2 คนพี่น้องเลยเหรอ? เป็นไปได้อย่างไร เหตุการณ์นี้ผิดกันหมด...ไลฟ์การ์ด ครูฝึกสอน การไม่เคารพระเบียบของสระ ...และ แม่เด็กปล่อยลูกลำพัง? ฝากลูกไว้กับใคร? แม้จะออกไป1-2 นาที สระว่ายน้ำที่ไทย(ตจว.)เราไม่เคยได้ยืนเสียงเป่านกหวีดเมื่อเด็กวิ่งๆๆๆๆ เด็กข้ามไปจุดที่ไม่ใช่ที่เล่น หรือแม้แต่การเล่นน้ำสาดกัน ส่งเสียงดัง การแบ่งโซน/เวลา เรียนมีคลาสหรือเปืด open ให้ว่ายได้ ... ไลฟ์การ์ด ครูฝึกสอนต้องเข้มกว่านี้ ปี๊ดๆๆๆๆ บ้าง ต้องเช็ครายหัวเด็กเลย ที่เล่นน้ำอยู่ ผปค. คนไหน? ใครจะปกป้องดูแลให้ลูกปลอดภัยได้เท่าพ่อแม่..จริงไหม? สำคัญที่สุด... เราสอนให้ลูกรักชีวิตตัวเอง กว่าจะโตมาเท่านี้แสนยากนัก  รูปลูกเก่าๆ ตอนลูกต่อสายดินสายอากาศระโยงระยางทั้งตัว  เอาให้ลูกดูเค้าจะได้ไม่ตะแบง เอาร่างกายไปทดลองในเรื่องอันตราย ร่วมกับ รร. / จนท.ดับเพลิงสอนเมื่อไฟไฟม้ พายุมา นั่งคาร์สิทถึง 7 ขวบ ขี่จักรยานต้องสวมหมวกกันน็อค การใช้ยา/สารเคมี เจอวัตถุต้องสงสัยต้องทำอย่างไร ให้รู้ว่าทุกที่ที่บ้าน/รร./ ถนน ที่ไหนๆ ก็มีกฎ ที่ทุกคนต้องทำตาม แม้แต่เด็กๆ ก็มีกฎ ปล. การช่วยพื้นคืนชีพสำคัญก็จริงแต่คือ...ปลายทาง..เรียกชีวิตคืนกลับ มาได้ก็  50/50 หรือฟิ้นกลับมาก็อาจมีรอยโรค พ่อแม่ป้องกันจะดีกว่าไหม? แก้ไขเมื่อ 05 ต.ค. 55 02:02:36 จากคุณ : one&only เขียนเมื่อ : 4 ต.ค. 55 05:32:59

ความคิดเห็นที่ 45 คุณ one&only คิดเหมือนเราตอนไปนั่งเฝ้าลูกว่ายน้ำเลย ถ้ามีเด็กจมน้ำเราจะทำอะไรบ้าง เป่าปาก เรียกคนช่วย ให้ตามรถพยาบาล พอดีสระว่ายน้ำกับโรงพยาบาลอยู่ใกล้ๆกัน และเป็นเจ้าของเดียวกันด้วย C P R จากคุณ : I Promise เขียนเมื่อ : 4 ต.ค. 55 10:32:12

ความคิดเห็นที่ 46 baby swimming lesson... จากคุณ : I Promise เขียนเมื่อ : 4 ต.ค. 55 10:53:45

ความคิดเห็นที่ 47 ขอบคุณนะครับที่ให้กำลังใจ จากคุณ : เป็นกำลังใจให้ เขียนเมื่อ : 4 ต.ค. 55 11:49:03 A:180.180.37.56 X: TicketID:376935

ความคิดเห็นที่ 48 คุณ เป็นกำลังใจให้ เราเข้ามาทู้นี้ทุกวันวันละ หลายๆ รอบ เผื่อจะเจอ คห.ของคุณ ไว้จะรอฟังเรื่องราวถ้าคุณพร้อจะถ่ายทอดไว้เป็นอุทาหรสำหรับแม่ๆท่านอื่นต่อไป RIP เด็กๆที่น่ารัก จากการจากไปของการจน้ำค่ะ จากคุณ : กลับมาได้ไหม เขียนเมื่อ : 4 ต.ค. 55 12:01:29

ความคิดเห็นที่ 49 ขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวน้องญี่ปุ่นน้องจีนด้วยคะ และเป็นกำลังใจให้ คห.ที่ 11 ด้วยนะคะ ลูกพี่ลูกน้องเราที่อยู่ ตจว.ก็เสียชีวิตเพราะน้ำกัน 3 คนแล้ว สองคนแรกเป็นผู้หญิงทั้งคู่แอบไปเล่นน้ำคลองน้องจมพี่ไปช่วยน้องเลยไปกันคู่ อีกคนก็น้องผู้ชายแอบไปเล่นน้ำคลอง(อีกแล้ว)ก็เสียชีวิตเพราะน้ำอีกคน เด็ก ตจว.พอปิดเทอมชอบแอบหนีไปเล่นน้ำคลองกับเพื่อนๆ แล้วส่วนมากพ่อแม่จะไม่ค่อยรู้นึกว่าไปเล่นบ้านเพื่อนธรรมดา กว่าจะรู้อีกทีลูกก็จมน้ำเสียชีวิตแล้วอะ ขนาดเราเองตอนมัธยมก็เคยไปเล่นน้ำคลองกับเพื่อนเราว่ายน้ำได้แค่ท่าลูกหมาตกน้ำก็ยืนเล่นตรงตื้นๆ แต่เพื่อนดันเล่นพิเรนมากลากแขนเราไปตรงกลางที่ลึกแบบยืนไม่ถึงเราจมลงไปแถมตกใจด้วยรีบคว้าตะเกียกตะกายพอดีคว้่าขาเพื่อนได้รีบจับไว้แล้วผลักตัวเองขึ้นมา พอขึ้นมาได้รีบตะกายเข้าหาฝั่งเกือบตายเลยอะ จากนั้นเราไม่กล้าลงน้ำคลองอีกเลย ขนาดน้ำสระก็ยังไม่ค่อยจะกล้าลงเลย จากคุณ : ต้นไม้กะใบหม่อน เขียนเมื่อ : 4 ต.ค. 55 12:15:53

ความคิดเห็นที่ 50 ถ้ามีคนสนใจที่จะอ่าน ผมจะเล่าให้ฟังครับ ก็อยากเล่าให้ฟังเพื่อจะเป็นอุทาหรณ์ สำหรับหลายท่าน เพื่อว่าจะมีประโยชน์ไม่มากก็น้อย ชีวิตก่อนที่แก่จะเสีย ช่วงจมนำ้ (แฟนผมอยู่ในเหตุการณ์ แก่บอกจนทุกวันนี้จำได้ทุกวินาที ภาพเล่านี้จะติดตาแก่ตลอดถึงแม้จะไม่ได้นึก น้ำตาจะมาเอง)และเรื่องวิญญาณช่วงแก่เสียชีวิต จนถึงปัจจุบัน จากคุณ : เป็นกำลังใจให้ เขียนเมื่อ : 4 ต.ค. 55 12:52:37 A:101.108.23.148 X: TicketID:376935

ความคิดเห็นที่ 51 ขอเป็นกำลังใจให้คุณ คห.11 นะคะ รู้สึกถึงความเศร้าของคุณได้เลยค่ะ ขอเค้ามารอฟังเรื่องต่อนะคะ สนนใจคะ เผื่อจะฟังเป็นอุทาหรณ์สำหรับลูกหลานต่อไปค่ะ จากคุณ : pudding berry เขียนเมื่อ : 4 ต.ค. 55 14:04:56

ความคิดเห็นที่ 52 ย้ำเตือนพ่อแม่ ผู้ปกครองเด็ก ให้ระวัง อย่าประมาทอย่าคิดว่าเรื่องนี้จะไม่เกิดกับครอบครัวตนเองอย่างแน่นอน อย่าคิดว่าไม่มีทาง ...และคิดในแง่ที่ดีจนเกินไป ไม่อยากได้ยินได้ฟังว่าเด็กจมน้ำเสียชีวิต ที่ ... . คนหนึ่ง สองคน เวลาข่าวหน้าจอทีวี หน้าหนังสือพิมพ์ หรือประชาสัมพันธ์ผ่านทางวิทยุ บอกเล่าให้กันฟังในที่ทำงาน เด็กจมน้ำเสียชีวิตเป็นความผิดของใคร พ่อแม่ ผู้ปกครอง ผู้เกี่ยวข้อง หรือเวรกรรม ความสูญเสียครั้งนี้ยากที่จะคะนานับ เพียงเสี้ยวนาทีเดียว ไม่สามารถย้อนเวลาคืนได้ถึงแม้นว่าพึ่งผ่านไป ความเสียใจ เสียงร้องให้ เหมือนใจจะขาดสะบัดในนาทีนั้นให้ได้ เสียงสะอึกสะอื้นแทบจะขาดใจ น้ำหูน้ำตาน้ำลายไหลออกมาไหนอย่างไม่ขาดสาย ล้มทั้งยืนแบบไม่ได้ตั้งใจ ลงคลานกับพื้นชนิดไม่อ้ายคน เสียงพร่ำภาวนา ขอสิ่งศักดิ์ให้ช่วย พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ เจ้าที่เจ้าทาง ศาลพระภูมิ สิ่งเหล่านี้พูดออกมาจากปากโดยไม่ได้ไตร่ตรองมาก่อน อะไรก็ช่างในขณะนั้นจะถูกผิดหรือไม่ไม่ว่ากันพูดออกมาก่อน มองไปรอบข้างญาติพี่น้องมีอาการเสียใจไม่แตกต่างกัน บางคนก็เข้ามากอด มาแสดงความเสียใจ ร้องให้ ปลอบใจ จับไม้จับมือ สิ่งเหล่านี้ไม่อยากให้เกิดขึ้นกับครอบครัวอื่น ขอให้เกิดกับครอบครัวของข้าพเจ้าเป็นครอบครัวสุดท้ายและเป็นอุทาหรณ์กับผู้อื่นต่อไป จากคุณ : เป็นกำลังใจให้ เขียนเมื่อ : 4 ต.ค. 55 16:04:40 A:101.108.23.148 X: TicketID:376935

ความคิดเห็นที่ 53 อ่านข่าวเด็กจมน้ำตายเมื่อวานก่อน รู้สึกสลดมาก และขอแสดงความเสียใจ ให้กับครอบครัวที่ต้องสูญเสียลูกสาวทั้งสองด้วยนะคะ การให้เด็กเรียนว่ายน้ำได้ ตั่งแต่อายุยังน้อยๆนั้นสำคัญมาก ผู้ปกครองหลายๆท่านกรุณาอย่ามองข้ามจุดนี้ไปเด็ดขาด และเมื่อพาลูกไปเรียน ก็อย่าปล่อยให้คลาดสายตาเป็นเด็ดขาด เพราะแค่เสี้ยวนาทีคุณอาจจะสูญเสียสิ่งที่มีค่าที่สุดในชีวิตได้. จากคุณ : จิงโจ้ยักษ์ เขียนเมื่อ : 4 ต.ค. 55 16:11:48

ความคิดเห็นที่ 54 อ่านคห. 52 แล้วน้ำตาคลอเลยค่ะ เฮ่อ เราจะดูแลลูกของเราเองให้ดีที่สุดค่ะ จากคุณ : la-la-bell เขียนเมื่อ : 4 ต.ค. 55 17:00:57

ความคิดเห็นที่ 55 คุณ เป็นกำลังใจให้ ตอนเพื่อนเราจมน้ำเสียชีวิต มีแต่คนบอกว่า เพราะว่าเค้าดีเกินไป กรรมหมดก็เลยไม่ต้องอยู่ชดใช้กรรมต่อไป เพื่อนเราเค้าจบเกียรตินิยมเหรียญทอง เป็นคนดีมากๆๆ เพื่อนๆรักเค้าทุกคน   ขอให้คุณมีกำลังใจสู้ต่อไปนะคะ อย่างน้อยก็ยังมีลูกสาวที่ต้องดูแลและรักที่สุดอีก 1 คน จากคุณ : I Promise เขียนเมื่อ : 4 ต.ค. 55 19:14:53

ความคิดเห็นที่ 56 ขอบคุณครับคุณ I Promise ที่ให้กำลังใจ ใช่ผมเชื่อ ว่าคนที่เสียชีวิตก่อนอายุไข จำนวนหนึ่งเป็นคนดี มาก ๆ เหมือนกับที่ผมจะเล่าให้ฟัง หลายคนที่ได้พบและคุ้นเคยกับเขาจะชอบมาพูดกับแม่เขาว่าลูกนิสัยดี มีอะไรเยอะมาก ชีวิตก่อนตาย และหลังตาย (พูดง่ายๆเลยนะครับ) และพิสูจน์ได้จากคนในหมู่บ้าน ไม่ได้แต่งเรื่อง นี้ก็ 4 เดือนแล้ว คนยังนำไปพูดเป็นนิทานอยู่เลย ว่าง ๆผมจะมาเล่าให้ฟังนะครับ จากคุณ : เป็นกำลังใจให้ เขียนเมื่อ : 4 ต.ค. 55 19:29:59 A:101.108.23.148 X: TicketID:376935

ความคิดเห็นที่ 57 คุณเป็นกำลังใจให้ เราอ่านที่คห.24 ตั้งข้อสังเกตไว้นิดนึงนะคะ ตอนที่ภรรยาคุณเห็นน้องเค้าคว่ำหน้าแล้วลอยตัวอยู่  ทำไมน้องถึงไม่จมไปก่อนเหมือนการจมน้ำทั่วๆไป หรือว่าอาจจะมีเหตุอื่นที่ทำน้องเค้าหมดสติไปก่อน โดยที่ไม่ได้สำลักน้ำหรือเปล่าคะ เลยทำให้ตัวลอยอยู่ได้ พอดีเราเห็นข่าวที่คนกินยานอนหลับแล้วกระโดดน้ำ ตัวเค้าก็ลอยอยู่ในน้ำในขณะที่หลับอยู่น่ะค่ะ จากคุณ : I Promise เขียนเมื่อ : 4 ต.ค. 55 20:23:22

ความคิดเห็นที่ 58 สาเหตุที่น้องเขาไม่จมน้ำอาจจะเป็นเพราะน้องเขาอยู่ในสระนาน กว่าแม่เขาจะไปเห็น และอีกอย่างช่วงที่ดูทีวีวงจรปิด เด็กรุ่นโตเขาว่ายน้ำไปมา พูดง่าย ๆ เขาชนศพน้องเขานั้นละไม่รู้ว่านานเท่าไหร่ และน้ำในขณะที่คนเล่นมันเป็นคลืนอยู่คุณลองคิดดูจนน้องเขาลอย คนคุมสระ ผู้ปกครองเด็กที่ไปดูลูก คนที่เล่นนำ้ในสระ ไม่มีคนสนใจ มันจะนานขนาดไหน กล้องทีวีวงจรปิดผมและแฟนไม่กล้าดู ผมสงสารลูก ผมก็เลยให้ญาตดูให้ มันโหดเกินไป นี่ก็ 4 เดือนแล้วนะครับผมยังไม่กล้าดู ขนาดรูปที่ถ่ายในงานศพผมยังไม่ดูเลย พูดง่าย ๆ ขณะนี้อ่อนแออยู่ครับ จากคุณ : เป็นกำลังใจให้ เขียนเมื่อ : 4 ต.ค. 55 21:06:36 A:101.108.23.148 X: TicketID:376935

ความคิดเห็นที่ 59 ขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวด้วยคะ เราเคยเขียนกระทู้เกี่ยวกับทักษะการเอาตัวรอดถ้าเด็กเล็กตกน้ำไว้ในกระทู้นี้ ตอนนั้นเป็นกระทู้แนะนำด้วย ขอฝากไว้อีกทีก็แล้วกันคะ http://topicstock.pantip.com/family/topicstock/2011/11/N11365051/N11365051.html AAP (American Academy of Pediatrics) บอก การเอาตัวรอดจากการจมน้ำ (Drowning Prevention) เป็นทักษะที่เด็กทุกคนควรจะมี ทักษะนี้ไม่เหมือนว่ายน้ำนะคะ ลูกของเราว่ายน้ำทุกอาทิตย์ตั้งแต่หกเดือน ตอนนี้สองขวบแล้ว ทุกครั้งที่ไปว่ายน้ำ พ่อแม่ต้องดูใกล้ชิดตลอดเพราะลูกไม่กลัวน้ำแล้ว ส่วนตัวแล้ว เราอยากจะเอาลูกไปฝึก ISR (Infant Swim Resource) มาก แต่หาครูฝึกไม่ได้ ก็ต้องยอมรับให้ลูกเรียนว่ายน้ำตามแบบแผนทั่วไป ในยูทูปมีคลิปดีๆ มีเทคนิคดีๆเยอะเกี่ยวกับ baby swim เราแนะนำให้ได้คะ เมื่อไม่นานมานี้ มีแม่คนหนึ่งเขียนเล่าไว้เกี่ยวกับเอาลูกเบบี้ไปว่ายน้ำ แต่ไม่ค่อยมีคนสนใจเท่าไร ถ้ามีคนสนใจ เรายินดีเขียนเล่าประสบการณ์ตัวเองเกี่ยวกับการสอนเด็กเล็กว่ายน้ำคะ ก่อนไป ขอฝากเวปไซท์นี้ด้วยคะ องค์กรนี้ไม่แสวงหากำไร เน้นโปรโมทส่งเสริมความปลอดภัยในเด็กคะ มีข้อมูลดีๆเยอะเกี่ยวกับการป้องกันจมน้ำของเด็กคะ www.safekids.org/safety-basics/safety-resources-by-risk-area/drowning/ ~Mrs.J จากคุณ : Freedom and Justice เขียนเมื่อ : 4 ต.ค. 55 23:28:34

ความคิดเห็นที่ 60 ขอแสดงความเสียใจ และส่งกำลังใจดวงโตๆ ให้ครอบครัวของ น้องจีน และน้องญี่ปุ่น รวมถึง คุณเป็นกำลังใจให้ด้วยนะคะ จากคุณ : usagimom เขียนเมื่อ : 5 ต.ค. 55 07:19:34

ความคิดเห็นที่ 61 ความคิดถึงทำให้เราอ่อนแอ ทุกวันนำคอมพิวเตอร์แบบโน๊ตบุ๊คไปทำงานด้วยเปิดขึ้นมาเห็นรูปภาพเขาอยากเข้าไปกอด เข้าไปจูบ เข้าไปหอม อยากย้อนวันเวลาคืน ได้แต่คิดแต่ก็ทำอะไรไม่ได้ เคยได้ยินคำว่าเสียงหัวใจร้องไห้ไหมครับ ผมเจอแล้วครับ หนีไม่ออก เศร้าครับ รูปภาพที่อยู่หน้าคอมหลายคนก็บอกว่าให้เอาออก ก็อยากเอาออกเพื่อจะได้ลืมเขา ทำใจไม่ได้ที่จะเอาออกกลัวไม่เห็นเขา กลัวเขารู้ว่าเราเอารูปเขาออกเขาจะไม่พอใจ ช่วงนี้เห็นเขาอยู่หน้าคอมก็มีความสุขปนเศร้า รู้ไหมครับความเศร้าบางครั้งก็มีความสุข ลงลืมเขาไม่ลงหรอกครับ นอกเสียจากว่าความทรงจำนี้จะตายไปจากโลกนี้ จากคุณ : เป็นกำลังใจให้ เขียนเมื่อ : 5 ต.ค. 55 14:20:06 A:101.108.158.201 X: TicketID:376935

ความคิดเห็นที่ 62 คุณเป็นกำลังใจให้ อย่าเอารูปน้องออกจากคอมเลยค่ะ  น้องเขาต้องอยากเห็นหน้าคุณพ่อทุกว้ันหละคะ คุณมีบุญที่ได้เป็นคุณพ่อน้องเขา ถึงจะไม่นานนัก แสดงความเสียใจอย่างสุดซึ่งนะคะ อยากให้ทำบุญเยอะๆ ทำบุญให้น้องเขานะคะ เป็นกำลังใจให้นะคะ จากคุณ : t0mEi เขียนเมื่อ : 5 ต.ค. 55 17:11:10

ความคิดเห็นที่ 63 โอ้ว เศร้ามากๆเลยค่ะ ถ้าเราต้องเจอแบบนี้เราคงจะรับไ่ม่ได้  ชีวิตนี้คิดไม่ออกเลยว่าถ้าไม่มีลูกจะอยู่ได้อย่างไร เสียใจอย่างสุดซึ้งค่ะคุณ เป็นกำลังใจให้ จากคุณ : กลับมาได้ไหม เขียนเมื่อ : 6 ต.ค. 55 08:58:50

ความคิดเห็นที่ 64 ขอแสดงความเสียใจกับคุณเป็นกำลังใจให้ค่ะ อ่านแล้วเศร้ามาก ไม่อยากให้เกิดกับใครทั้งนั้น  แต่ชีวิตต้องเดินต่อไป เข้มแข็งนะคะ ถ้าคุณและน้องเค้ามีบุญต่อกันมากพอ  คุณและน้องคงได้กลับมาเจอกันอีกในที่ดีๆซักที่นึงแน่นอน จากคุณ : อิงเหม่ย (Yingmen) เขียนเมื่อ : วันเกิด PANTIP.COM 55 05:06:15

ความคิดเห็นที่ 65 ขอบคุณครับที่ให้กำลังใจ จากคุณ : เป็นกำลังใจให้ เขียนเมื่อ : 8 ต.ค. 55 13:07:26 A:101.108.156.140 X: TicketID:376935