ความคิดเห็นที่ 1 เอาข้อมูลเต็มๆของทั้งฝ่ายเสนอ และฝ่ายคัดค้านมาให้อ่านกัน เพื่อประกอบการพิจารณา ว่าอะไรเป็นอะไร ขอบอกว่าให้พยายามอ่านให้หมด  ได้ความรู้ดี http://www.pantip.com/cafe/home/topic/R5751623/R5751623.html จากคุณ : ต้นโพธิ์ต้นไทร - [ 2 ก.ย. 50 05:20:27 ]

ความคิดเห็นที่ 2 Taxi ที่วิ่งๆ กันใช้ LPG   ครับ ถ้ารั่ว ก็แค่จางหายไป เพราะมันน้อยนิดมาก อีกทั้งไม่มีระเบิด เพราะส่วนผสมมันต้องพอเหมาะ และสะสมจนจุดระเบิดได้ ข่าวแอร์ระเบิดไฟใหม้ จาก propane น้อยกว่าข่าวเครื่องบินตกนะครับ อีกทั้งผมเองไม่เคยเห็นข่าวแอร์ระเบิด  ช่วยรวบรวมมาให้ดูหน่อยครับ จากคุณ : ยัยปุย - [ 2 ก.ย. 50 09:40:57 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ******* ไหนบอกเลิกแล้วไงหว่า มีหนีมาต่อก๊อกสอง ขึ้นกาตู๊ใหม่โดยไม่ลิงค์กาตู๊เก่าให้อ่านด้วยแฮะ 66666 ******* ส่วนใครที่คิดว่า COLD22 (PROPANE 99%) มีความปลอดภัยที่จะใช้แทน R22 ก็ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของท่านแล้ว ด้วยความเคารพ - อ่านหมดแล้ว รอให้เลิกบ้าตั้งราคาโหดๆ ก่อนก็จะเปลี่ยนครับ ******* แหม นึกถึงกาตู๊ น้ำมันเครื่องรถมอไซค์ API SJ ในห้องรัชดาเลยแฮะ มีคนนึงบอกใช้ไม่ได้ แต่คนที่เหลือทั้งห้องบอกว่าใช้ได้ ขุดอะไรมาให้อ่านกันเพียบเลย 66666 จากคุณ : monjangja - [ 2 ก.ย. 50 11:30:16 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ฮั่นแน่ คุณเจ้าหน้าที่หนีมาโพสต์อีกทีตรงนี้เอง  ไม่เป็นไร ผมตามมาช่วยให้ข้อมูลอีกแรง บทนำ บอกไว้ก่อนว่า  ผมไม่ได้ขาย cold 22 และไม่ได้เป็นช่างแอร์ นะ แต่ผมตัดสินใจจะใช้ COLD22 เลยหาข้อมูลมาเยอะ ผมได้เข้าร่วมทดสอบการเติมน้ำยา cold 22 มา โดยยืนเฝ้าคนเติมเลย   ที่สนใจตัวนี่เพราะสนใจที่มันช่วยประหยัดไฟแอร์ได้ และอยากรู้ว่ามันประหยัดจริงหรือเปล่า  เลยไป research net ได้ข้อมูลมาเพียบตาม link ข้างล่าง  ตามไปอ่านเองครับ  ผมแปลเป็นไทยแบบย่อๆให้ด้วย    ไม่ได้มาเชียร์ cold 22 แต่มาให้ข้อมูลตามจริง  เพื่อให้คนที่อ่านแล้วตัดสินใจเอง   มันเป็นน้ำยาทางเลือก เหมือนกับพลังงานทางเลือก การประหยัดไฟของน้ำยา COLD22 หรือ Propane --------------------------------------------------- ตามที่อ่านจาก web เมืองนอกมา การใช้ propane เป็นสารทำความเย็นมันจะช่วยประหยัดพลังงานแอร์ประมาณ 13-15%   แอร์ตัวที่ผมไปยืนดูเขาสาธิตนั้น เป็นแอร์ 13,000 BTU ก่อนเติม cold 22 กินกระแส 4.3 amp, หลังเติมน้ำยา cold 22 กินกระแส 3.6 amp   ประหยัดไฟไป = 0.7 amp คิดเป็น 0.7/4.3 x 100 = 16.27%  อันนี้เห็นชัดเลยว่ากินไฟน้อยลงทันที COLD 22 คืออะไร ------------------- COLD 22 เป็นน้ำยาแอร์ สำหรับทดแทนน้ำยาแอร์เดิม R22 ที่แอร์บ้านใช้อยู่ COLD22 มีส่วนผสมของ propane เป็นหลัก 99% เลยล่ะ ติดไฟแน่นอน  มันเป็น propane ตัวเดียวกับที่อยู่ในก๊าซหุงต้ม ตามบ้านนั่นแหละ  COLD22 หนักกว่าอากาศ ถ้ารั่วจะลอยตัวอยู่ต่ำๆ  และสามารถโดนลมพัดพาให้กระจายออกไปจนหมดได้ เรื่องการติดไฟของน้ำยา COLD 22นั้น ผมรายงานผลที่ได้ไปเห็นมากับตา คือ เจ้าหน้าที่บริษัท coolman เขาลองดูดบุหรี่จนแดงวาบ คาบไว้ที่ปาก แล้วพ่นน้ำยาแบบเฉียดๆปลายบุหรี่ให้ดู ซึ่งมันก็ไม่ติดไฟ   ขนาดน้ำยาที่เป็นน้ำๆเอาบุหรี่จุ่มลงไปบุหรี่ยังดับเลย กับอีกแบบคือจุดไฟแช็คแล้วพ่นน้ำยาใส่ตรงๆ อย่างนี้ติดไฟแน่นอนครับ เพราะมีเปลวไฟ การที่ propane จะติดไฟนั้นที่สำคัญคือ ความเข้มข้นของมันในอากาศต้องอยู่ในระดับที่สูงพอ คือมีปริมาณ 2.1%  แล้วจะต้องมีประกายไฟด้วย   ทำไม COLD 22 หรือ Propane จึงปลอดภัยสำหรับใช้งานในบ้าน ------------------------------------------------------------------ ปัจจัยสำคัญที่ทำให้มันปลอดภัยอยู่ในระดับที่รับได้สำหรับการใช้งานตามเครื่องทำความเย็นในบ้านคือ มันใช้ปริมาณน้อยมาก แอร์ 12,000 btu ถ้าใช้ R22 จะใช้ประมาณ 1,200-1,300 กรัม  แต่จะใช้ COLD 22 แค่ 500-600 กรัมเท่านั้น    ต่อให้มันรั่วออกมาจริงปริมาณที่รั่วก็ต่ำ จนการติดไฟที่เกิดขึ้น สร้างความเสียหายได้น้อยมาก  ยิ่งถ้าพูดถึงแอร์บ้านแล้ว  อย่าลืมว่า คอล์ยร้อนนั้นติดกันนอกบ้าน ในที่ๆอากาศถ่ายเทได้ดี แอร์จะได้ระบายความร้อนออกได้เร็ว    แล้วเวลาน้ำยามันรั่วน่ะ มันรั่วช้าๆแบบซึมออกทางตามด หรือทางข้อต่อที่ขันไม่แน่น  ความเข้มข้นของแกสที่ออกมาต่ำมาก โอกาสติดไฟเกือบเป็น ศูนย์ ที่สำคัญกว่านั้นคือตำแหน่งที่จะเกิดประกายไฟได้ในคอล์ยร้อน คือบริเวณหน้าคอนแทค ที่ตัดต่อไฟเข้า คอล์ยร้อน คอนแทคตัวนี้จะอยู่ค่อนข้างสูงคือประมาณ 18-20 นิ้วจากด้านล่างของ fan coil  แต่เวลา COLD22 มันรั่ว มันหนักกว่าอากาศ มันจะลอยลงต่ำติดด้านล่างของ คอล์ยร้อน มันจึงไม่มีทางโดนประกายไฟ  แถมโอกาสที่ cold 22 จะรั่วจนสะสมตัวจนสูงถึงระดับ 18 นิ้วก็ต่ำมากอีก  เพราะมันรั่วน้อยออกมาเท่าไรก็กระจายตัวออกไปโดยลมที่พัดอยู่รอบคอล์ยร้อน อีกตำแหน่งที่อาจเกิดประกายไฟคือที่หัวคอมเพรสเซอร์ ที่เป็นจุดต่อสายไฟเข้า ซึ่งมันก็สูงจากด้านล่างของ fan coil ประมาณ 10-12 นิ้ว  ซึ่งโอกาสที่แกสจะรั่วสะสมถึงความสูง 10 นิ้วก็แทบจะเป็น 0 อีก แล้วโดยทั่วไปสายที่ต่อเข้าหัวคอมเพรสเซอร์นั้น จะเชื่อมต่ออย่างแน่นหนา ไม่มีประกายไฟเกิดขึ้น เรื่องที่คุณเจ้าหน้าที่บอกว่าถ้าน้ำยารั่วตรงคอล์ยร้อน แล้วมันจะติดไฟนั้นเป็นไปได้ แต่โอกาสน้อยมากๆๆๆๆ และเท่าที่ร้านแอร์ที่เขาโฆษณาอยู่ใน pantown นั้นเขาก็เติมให้ลูกค้าไปเยอะ ยังไม่มีใครบ่นสักราย เรื่องน้ำยาแอร์รั่วใน fan coil นั้นอาการรั่วส่วนใหญ่จะรั่วเป็นตามด  ซึมออกมาช้ามากๆๆ ปริมาณแกสที่ออกมาน้อย  กว่าจะรั่วหมดก็ใช้เวลาหลายวัน หรือเป็นอาทิตย์เลยกว่าจะถึงจุดที่น้ำยามันพร่องไปมากจนผู้ใช้บ่นว่าแอร์ไม่เย็น   แล้วแอร์ที่จะเป็นตามดน่ะมันต้องนานๆเกิน 8-9ปีขึ้นไป  ผมใช้มาตั้ง 12 ปีน้ำยายังไม่เคยเติมเลย แอร์ก็ยังเย็นดี  ดังนั้นตามดก็ไม่ได้เกิดขึ้นง่ายๆ  ถ้าน้ำยารั่วมาจากตามด มันจะออกมาน้อยมาก  ส่วนใหญ่จะโดนลมพัดออกไปหมด ความเข้มข้นของที่เหลือยากที่จะถึงจุดติดไฟ    แต่แน่นอนผมไม่ได้บอกว่ามันไม่ติดไฟ แต่โอกาสมันน้อยมาก เรื่องราคาของสารทำความเย็นในตระกูล COLD22 หรือ Propane --------------------------------------------------- ส่วนที่ว่า COLD 22 ราคาแพงนั้นแก๊สเติมรถน่ะมี propane แค่ 70% มั้ง   COLD22 น่ะมันมี propane 99%++ เชียว กระบวนการทำให้แก๊สบริสุทธิ์มันก็มีราคาของมัน แกส lpg ประเทศไทยทั้งประเทศใช้กันเดือนละกว่า 60 ล้านกิโล กว่าขนาดไหนก็ไม่รู้  คุณว่าประเทศไทยใช้  COLD22 เดือนละ 60 ล้านกิโลไหม   ของที่เขาขายน้อย กำไรต่อหน่วยมันควรจะสูงกว่าใช่ไหม แล้วราคา COLD22 ที่คุณว่าแพงน่ะ เขาขายเป็นถัง ราคารวมถังบรรจุมาด้วยอีก  ราคา LPG ที่เราว่ากันน่ะไม่รวมถังนะ   ถังบรรจุน้ำยาเปล่าๆ ร้านแอร์ขายกันที่ 300-700 บาทนะ อย่าลืมคิดค่าถัง เปรียบเทียบราคา COLD22 กับ R22 ------------------------------------- คราวนี้มาเปรียบเทียบเรื่องที่ร้านเติมน้ำยาแอร์ cold 22 คิดเครื่องละ 2,000 บาทนั้น คุณคงรู้ดีว่าร้านแอร์ทั่วไปที่มาเติมน้ำยาแอร์ R22 โดยวิธีถ่ายของเก่าออกจนหมดแล้ว ทำสูญญากาศระบบอีก 25-30 นาที ก่อนจะปล่อยน้ำยาแอร์ R22 เข้าไปจนเต็มระบบน่ะ  ส่วนใหญ่เขาคิดราคากันที่ 1,000 - 1,500 บาท แล้วแต่ว่าจะเอากำไรมากน้อย  ทั้งๆที่น้ำยาแอร์ R22 น่ะ ขายปลีกกันที่กิโลละ 55-65 บาทเท่านั้น  เติมแอร์ 12,000 BTU ที่ไม่มีน้ำยาเหลือเลย จะใช้ R22 ประมาณ 1.3 กิโล คิดเป็นตุ้นทุนค่าน้ำยา 1.3 x 65 = 84.5 บาท  เท่านั้น แต่ไปเก็บลูกค้า พันกว่าบาทน่ะ ผมว่ามันแพงไปนิด แต่ก็เข้าใจว่าช่างเขาก็ต้องมีค่าเสียเวลา ค่าเดินทาง ค่าแรง ค่าอุปกรณ์ ค่าวิชา  ค่ากำไรด้วย น้ำยาแอร์ R22 อย่างดีของ Dupont กิโลละ 150 บาทก็มี แต่จะมีช่างแอร์กี่คนที่ใช้ของแพงระดับนั้น   แต่มีช่างบางคนใช้จริงๆครับ เคยคุยด้วยมาแล้ว  เขาเน้นผลงาน ไม่แข่งราคา นี่ยังไม่นับช่างแอร์ขูดรีดบางรายที่คิดค่าเติมน้ำยาเป็น ปอนด์ (หน่วยวัดความดันน้ำยาแอร์ในระบบมีหน่วยเป็นปอรด์ต่อตารางนิ้ว) ,คิดราคา ปอน์ดละ 15-25 บาท เติม 20 ปอด์น ก็ 20 x 15 = 300 บาท ทั้งๆที่ใช้น้ำยาไปสัก 2 -3 ขีด คิดเป็นต้นทุนน้ำยา 0.3 x 65 = 19.5 บาท เท่านั้น   ผมเข้าใจว่าช่างแอร์เขาก็ต้องหาเลี้ยงชีพ แต่อย่าบวกราคาลูกค้าที่ไม่รู้เรื่องมากจนเกินไป   ร้านแอร์ที่ดีๆมีเยอะ แต่ดูเหมือนร้านแอร์ที่ฟันราคาก็เยอะเหมือนกัน   ที่ผมมาอธิบายโดยละเอียดนี้เพราะโดนช่างแอร์ฟันหัวแบะมาเยอะ ด้วยความคับแค้น และอยากหาความรู้  เลยหาข้อมูลมาเพียบ จนเดี๋ยวนี้ก็ซ่อมแอร์แบบง่ายๆได้เองแล้ว รู้หมดว่าต้นทุนช่างน่ะอยู่ที่เท่าไร เขากำไรเท่าไร  ทำงานก็ต้องมีกำไร แต่ต้องยุติธรรมกับทั้ง 2 ฝ่ายครับ กลับมาเรื่องราคา ถ้าคิดว่าร้านแอร์ทำการถ่ายน้ำยาR22 ออก, ทำสูญญากาศ แล้วเติมน้ำยา R22 ใหม่ที่ราคา 1,000 บาท  แต่ร้านที่บริการ COLD 22 คิดที่ 2,000 บาท  ก็เท่ากับว่า ร้านที่ให้บริการ COLD22 คิดราคาแพงกว่ากัน แค่ 1,000 บาทเท่านั้น  แต่ด้วยการประหยัดไฟ 13-20% จะทำให้คุณคืนทุนส่วนเกิน 1,000 นี้ค่าน้ำยาในเวลาไม่เกิน 1ปี ยิ่งคุณใช้แอร์มาก ยิ่งคืนทุนเร็ว ในขณะที่ถ้าคุณเติม น้ำยา R22 ที่ไม่ติดไฟก็จ่ายค่าไฟราคาเต็มไป ของทุกๆอย่างมีข้อดี และข้อเสียครับ  ผู้บริโภคต้องรับรู้ข้อมูลทั้ง 2 ฝ่ายแล้วประเมินความเสี่ยง  ตัดสินใจเลือกสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับคุณ  สำหรับตัวผม ซึ่งประเมินความเสี่ยงแล้วต่ำ  ผมจึงเลือกใช้ COLD22 ผมคำนวนแล้วว่าถ้าใช้ COLD 22 ผมจะคืนทุนจากค่าไฟที่ประหยัดไปได้ในเวลาประมาณ 6 เดือน ที่สำคัญผมไม่ต้องให้ช่างทำให้ ทำเองได้ ต้นทุนเลยถูกลง ตัวอย่างอื่นเช่น  จะใช้น้ำมัน หรือ LPG, NGV ดี  ก็มีคนจำนวนมากเลือก NGV,LPG ใช่ไหม  เพราะอะไร ก็เพราะมันถูกกว่าเกินครึ่ง  ความเสี่ยงก็ไม่ได้มากมายอย่างที่หลายคนกลัว   คนก็ไปติดกันเยอะ  คนที่คิดว่าเสี่ยงมากก็ไม่ติด  เพราะมันเป็นพลังงานทางเลือก  นั่นขนาดค่าติด NGV 50,000 , LPG อย่างถูกก็ 10,000 กว่าๆแล้ว จากคุณ : คนปากช่อง (super yellow bird) - [ 2 ก.ย. 50 15:44:32 ]

ความคิดเห็นที่ 5 สารทำความเย็น COLD22 ตระกูล Propane จะทำให้แอร์พังไหม ------------------------------------------------------------------ แอร์ใหม่ถ้าเปลี่ยนมาใช้น้ำยา cold ประกันจากผู้ผลิตน่าจะขาดครับ  แต่ทางบริษัทที่ขายน้ำยา cold เขารับประกันแทนว่าน้ำยาตัวนี้ไม่ทำให้แอร์พังแน่  ถามร้านที่ให้บริการให้มั่นใจก่อน  เป็นผม ผมก็กลัวประกันขาดเหมือนกัน ในเว็บต่างประเทศหลายที่ ยืนยันตรงกันว่าสามารถนำสามารทำความเย็นตระกูล propane มาใช้แทนน้ำยา R22 ตัวเดิมได้ทันที โดยจะไม่ทำให้แอร์เสียหาย และไม่มีการดัดแปลงใดๆทั้งสิ้น  ดังนั้นผมไม่ได้เชื่อตามที่คนขายพูดเท่านั้น ผมค้นข้อมูลประกอปแล้ว LPG กับ Propane มันเหมือนกันไหม -------------------------------------- LPG กับ propane มันคนละตัวกันแน่ๆ   LPG มี propane เป็นส่วนประกอปไม่ถึง 90% หรอก   LPG ที่ใช้ในไทยมี propane เป็นส่วนประกอปประมาณ 60%   ถ้าใช้คำว่า propane เฉยๆ มันควรจะมี %propane สูงกว่า  LPG ผมว่าในทางเคมี มันต้องเกิน 99% เลยดวยซ้ำ  ถ้าคุณเจ้าหน้าที่ต้องการย้ำว่า COLD เป็น propane และติดไฟล่ะก็ ไม่ต้องไป research ให้เมื่อย ผมยืนยันครับว่า COLD น่ะมันมี propane เป็นส่วนประกอปกว่า 99%เพราะดูมาจากถังบรรจุเลย ที่เว็บเขาก็มี และติดไฟแน่นอน คุณเจ้าหน้าที่มาบ่นว่าแอร์ตัวใหม่น้ำยารั่ว ------------------------------------------ แอร์อย่าว่าแต่อายุ 1 ปีเลย แค่อายุ 1 วันถ้าช่างขันข้อต่อเกลียวไม่แน่น น้ำยามันก็ซึมออกแล้วและทำให้เราต้องเสียตังเติมน้ำยาใหม่  ไม่เกี่ยวกับยี่ห้อแอร์ ดังนั้นต้องดูสาเหตุการรั่วด้วย ก่อนจะโทษว่าแอร์ไม่ดี  ส่วนใหญ่ที่ติดตั้งแอร์ใหม่แล้วไม่เย็น หรือรั่ว เกิดจากช่างติดตั้งไม่ดี พอช่างแอร์จากผู้ผลิตมาดูก็พบข้อบกพร่องในการติดตั้งหลายอย่าง       คุณเจ้าหน้าที่บอกมาสิครับว่า ที่แอร์บ้านคุณรั่วน่ะ มันพ่นน้ำยาออกมาทั้งหมดใน 1 นาที หรือมันซึมออกมาหลายๆวันค่อยๆลดความเย็นลงอย่างช้าๆ จนกว่าที่คุณจะรู้ตัว แอร์ก็พ่นลมร้อนแล้ว ก๊าซหุงต้ม(LPG) ไม่ควรใช้เป็นสารทำความเย็นเพราะ มันไม่บริสุทธิ์ มีสารพัดแก๊สปนอยู่  ซึ่งผมไม่รู้ว่ามีอะไรบ้าง  ยังมีความชื้นปนอยู่ด้วย แอร์เกลียดความชื้นที่สุด จะไปทำให้ระบบอุดตัน lpg เอามาจุดไฟได้  แต่ไม่เหมาะจะใช้เป็นสารทำความเย็น เพราะยังไม่ได้รับการทดสอบ และไม่มีใครกล้ารับประกันสักคน แอร์ที่เปลี่ยนมาใช้ COLD แล้ว ควรจะติดสติ๊กเกอร์ที่ตัวคอล์ยร้อน ว่าเป็นน้ำยาติดไฟ ช่างคนอื่นที่มาทำจะได้รู้ ผมเห็นร้านที่ขายน้ำยาเขาให้สติ๊กเกอร์มาด้วย  เหลือแต่ว่าช่างที่ทำเขาจะติดให้หรือเปล่า จากคุณ : คนปากช่อง (super yellow bird) - [ 2 ก.ย. 50 15:56:44 ]

ความคิดเห็นที่ 6 คุณเข้าหน้าที่ให้ข้อมูลเพิ่มเติมเรื่องแอร์รั่ว ------------------------------------------- ส่วนเรื่องแอร์ที่รั่วนั้นบริเวณที่รั่วคือ Fan Coil ที่อยู่ในชุดคอล์ยเย็นนะครับ ที่อยู่ในห้องนอนไม่ใช่คอล์ยร้อน และก็รั่วหมดในวันเดียวผมจึงได้แจ้งให้บริษัทิแอร์มาดู เค้าก็เลยบอกว่านานๆจะพบสักตัว น่าจะมีความบกพร่องมาจากการประกอบจากโรงงาน ถ้าว่าถ้านำยาที่อยู่เป็น COLD22 ล่ะครับ PROPANE ที่รั่วก็จะลอยอยู่ที่พื้นห้อง แล้วที่เติมเข้าไป 0.5 กก.(ในสภาพที่เป็นของเหลว) ถ้าอยู่ในสภาพก๊าซจะมีปริมาตรสักเท่าไรคุณคนปากช่อง ในเมื่อ PROPANE มีค่า 177 ปอนด์ต่อตารางนิ้ว คุณยังคิดว่าปลอดภัยอยู่มั้ยครับ ถ้ามีประกายไฟก็คงถูกย่างสดไปแล้ว แต่ R22 ไม่ติดไฟและก็มีมวลโมเลกุลมากกว่า PROPANE มากกว่า 3 เท่า ถึงแม้จะรั่วออกหมดก็ไม่มีอันตราย โชดดีที่ไม่ได้ใช้ COLD22 ถ้าใช้ก็อาจจะไม่ได้มาโพสแล้วก็ได้ คุณเจ้าหน้าที่ให้ข้อมูลเรื่อง propane เพิ่มเติม ---------------------------------------------- ผมมีข้อมูลเพิ่มเติมสำหรับ PROPANE เหลวที่เติมลงในระบบแอร์ที่มีน้ำหนัก 0.5 กก.นั้น ที่อุณหภูมิ 15 องศาC จะมีปริมาตรเป็น 274 เท่าของที่เป็นของเหลวนะครับ ดังนั้นถ้าสมมุติให้ PROPANE เหลว 0.5 กก. มีปริมาตร 0.5 ลิตร ซึ่งจริงๆจะน่าจะมากกว่านี้ เมื่อที่อุณหภูมิ 15 องศา C ก็จะมีปริมาตรเท่ากับ 0.5x274 = 137 ลิตร แต่อุณหภูมิห้องที่ติดแอร์จะอยู่ที่ 23-25 องศา C ปริมาตรของก๊าซ PROPANE ก็จะยิ่งมากกว่า 137 ลิตร ดังนั้นอย่าเข้าใจว่า PROPANE ในระบบมีแค่ 0.5 กก. นั่นมันอยู่ในสภาวะที่เป็นของเหลวไม่ใช่ของจริงครับ เพราะของจริงที่จะออกเมื่อมีการรั่วคือก๊าซครับ เพื่อนๆสามารถดูรายละเอียดของ PROPANE ได้ตามลิ้งค์นี้ครับ http://www.doeb.go.th/knowledge/knowledge_article_Natural2.html ซ) อัตราส่วนปริมาตรของเหลว/ก๊าซ (Liquid/Vapor Volume Ratio) แอลพีจีเหลวเมื่อระเหยและเปลี่ยนสถานะไปเป็นก๊าซ ปริมาตรจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก กล่าวคือที่อุณหภูมิ 15.5 องศาเซลเซียส (60 oF) โปรเปนเหลว 1 หน่วยปริมาตร เมื่อกลายเป็นก๊าซจะมีปริมาตรเป็น 274 หน่วย ส่วนบิวเทนเหลว 1 หน่วยปริมาตร เมื่อกลายเป็นก๊าซจะมีปริมาตรเป็น 233 หน่วย จากคุณ : คนปากช่อง (super yellow bird) - [ 2 ก.ย. 50 16:00:00 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ผมในฐานะที่ทำงานแอร์ค่อนข้างมากขอออกความเห็นนะครับ 1.cold22 หากเทียบกับfreon R22ของดูปองท์ประหยัดไฟกว่าแค่10%เท่านั้น 2.R22 Dupont ราคาต่อกิโลกรัม 125บาทครับ ผมก็เป็นช่างแอร์ที่ไม่สนับสนุนCold22  ครับ การซ่อมแอร์ที่ใช้น้ำยานี้ต้องระวังการติดไฟมากๆ ครับ  ช่างเองไม่ค่อยกลัวไฟหรือการระเบิดครับ แต่กลัวไฟที่ลุกจะลามติดบ้านสิครับ จากคุณ : xlt - [ 2 ก.ย. 50 16:00:10 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ผม (คนปากช่อง) ตอบคุณเจ้าหน้าที่ เรื่องแอร์รั่ว และ Propane ดังนี้ ------------------------------------------------------------------------ โฮ โฮ โฮ คุณเจ้าหน้าที่จบเคมีอินทรีย์ ดีครับ  เคมีผมอ่อนมาก จะได้ช่วยผมหาข้อมูลเพิ่ม     ก็อย่างที่บอกว่าผมไม่ได้ขาย cold แต่ถามคนขายมาเยอะก่อนจะซื้อ จึงพอมีความรู้บ้าง  เรื่องส่วนประกอปของ COLD ว่ามี propane กี่ % ผมดูที่ข้างถังและเชื่อตามนั้น ไม่ค้นต่อ เสียเวลา เพราะผมเชื่อ 100% ว่ามันติดไฟ น้ำยาตัวนี้นำเข้าจากทางยุโรป(ถามคนขาย) เขาไม่ได้ผลิต propane หรือ isobutane แต่เขาเป็นคนกำหนดสูตรน้ำยาว่าจะผสมด้วยอัตราส่วนเท่าไร  ดังนั้นคนผลิตจริงๆอยู่เมืองนอก เขาใช้วิธีอะไรในการทำให้บริสุทธ์ผมไม่รู้   สารตั้งต้นก่อนผสมเป็น COLD มันจะบริสุทธิ์แค่ไหนผมไม่รู้ เพราะไม่จำเป็นสำหรับผู้ใช้ ผมสนแต่ว่าเขา test มาแล้วกับแอร์ และมันใช้ได้กับแอร์ ได้รับการรับรองว่าใช้ได้แอร์ไม่พังแน่  จุดนี้ผมพอใจแล้วและไม่ค้นต่อ   หลายๆประเทศทั่วโลกก็ยอมรับและใช้งานโดยยอมรับว่ามันมีความปลอดภัยสำหรับระดับการใช้งานตามบ้าน เพราะปริมาณที่ใช้ถือว่าน้อยมาก จุดเด่นน้ำยาตระกูล cold ที่ทุก research ยอมรับคือมันช่วยประหยัดไฟประมาณ 13-17% นี่เป็นค่าจาก lab แต่จากคนที่ไปเปลี่ยนน้ำยามาเล่าให้ฟังว่าแอร์บางตัวเปลี่ยนน้ำยา cold แล้วกินกระแสไฟลดลงถึง 30% และทำให้เสียงคอมเพรสเซอร์เงียบลงเยอะ  เพราะน้ำยามันบีบอัดให้เป็นของเหลวง่าย ไม่กินแรงคอมแอร์ จุดเด่นอีกข้อคือมันมาจากธรรมชาติเป็น by product ของการผลิตน้ำมัน มันไม่ทำให้เกิด green house effect จุดเสียข้อเดียวเท่านั้นที่หาเจอคือติดไฟ ซึ่งผมพูดมาหลายครั้งแล้วตั้งแต่ตอนแรกๆ และผมไม่เคยสักครั้งที่จะพูดว่า COLD ปลอดภัยกว่า R22 ตรงนี้ชัดแล้วนะครับ  clear กันไปทีละจุด  ผมไม่เข้าข้าง cold22 และ R22 ว่ากันไปตาม fact การคำนวนปริมาณแกส propane (ถ้าเกิดรั่วออกมาหมดทั้ง 100%) โดยคนปากช่อง ----------------------------------------------------------------------------- คราวนี้เรื่องแอร์รั่ว  ตกลงเป็นที่ตัวแอร์เอง รั่วหมดภายใน 1 วัน   ผมตีซะว่า 12 ชม ก็แล้วกัน รั่วที่คอล์ยเย็นในห้องนอน       เติมน้ำยา 0.5 กิโล   ขนาดห้องผมตีซะว่า 16 ตรม   ปริมาณ 1 คิวบิกเมตรคือ 1,000 ลิตร ผมใช้ข้อมูลของคุณเจ้าหน้าที่ว่า propane เหลว 0.5 กก มีปริมาตรประมาณ 0.5 ลิตร ที่ temp 15 องศา   คุณกะว่าที่รั่วออกมาที่ 15 องศาน่าจะประมาณ 137 ลิตร  ผมตีว่าที่ 30 องศาปริมาตรเป็น 137 x 2 = 274 ลิตร ตีเป็น 300 ลิตรเลย คิดง่ายๆ แกส 300 ลิตร ที่รั่วออกมาหนักกว่าอากาศ จะลงมากองอยู่กับพื้น แต่จะสูงจากพื้นกี่ ซม พื่นที่ 16 ตรม ความสูง 1 ซมจากพื้น หรือ 0.01 เมตร คิดเป็นปริมาตร 16 x 0.01 = 0.16 คิวบิกเมตร ถ้าแปลงเป็นลิตรจะได้ = 0.16 x 1,000 = 160 ลิตร     การคำนวนข้างต้นแสดงว่าถ้าแกสรั่ว 160 ลิตร จะลอยสูงจากพื้น 1 ซม แต่เราประมาณว่าแกสสรั่วออกมาประมาณ 300 ลิตร  จะลอยสูงจากพื้นไม่เกิน 2 ซม ครับ แอร์โดยปกติติดตัวคอล์ยเย็นที่ความสูง 190 - 200 ซม จากพื้น แต่แก๊สอยู่แค่ 2 ซม จากพื้น   เราไม่จุดไฟกันที่ระดับ 2 ซม หรอกครับ ตำแหน่งที่ติดปลั๊กไฟยังสูงเกิน 2 ซม เลย  แกสสูงไม่ถึงระดับที่ติดปลั๊กไฟด้วยซ้ำ ถ้าผมเพิ่มปริมาณแกสที่รั่วให้มากกว่าเดิมอีก 5 เท่า(ซึ่งไม่มีทางมากขนาดนั้น) ระดับแกสจะสูงจากพื้นแค่ 10 ซม  ยังไกลจากแอร์นัก อย่าลืมว่าเวลาน้ำยาแอร์รั่ว มันจะไม่ออกมาทั้งหมด 100% มันรั่วออกมาแค่ 30% แอร์ก็ไม่เหลือความเย็นแล้ว น้ำยาที่รั่วออกมา 30% จะลอยสูงจากพื้นห้องแค่ 0.6 ซม เท่านั้น  แล้วพอแอร์ไม่มีความเย็น คนโดยทั่วไปจะปิดแอร์ แล้วเปิดห้องโดยเปิดประตู หรือหน้าต่างเพื่อให้ลมเข้ามาในห้อง  พอถึงตอนนี้ ไอแกส propane ที่จมอยู่ที่พื้นห้อง จะโดนอากาศถ่ายเทออกไปเองจนหมด หรือเกือบหมด ถ้าแกสรั่วออกมาทั้งหมด 100% ใน 12 ชั่วโมง ------------------------------------------------- ต่อมาเรื่องอัตราการรั่วของแกส เราคำนวนได้ว่าแกสที่ออกมามีประมาณ 300 ลิตร รั่วหมดใน 12 ชมหรือ 12x60=720 นาที   คิดเป็น อัตราการรั่ว 300/720 = 0.416 ลิตร/นาที  แกสปริมาณนี้ที่รั่วจะค่อยๆจมสู่พื้นห้อง ช้าๆ และจะถูกเจอจางด้วยปริมาณอากาศทั้งห้อง ทำให้ความเข้มข้นของแกสที่รั่วออกมาลดลงไปอีก  พอจะมองเห็นประเด็นตรงนี้หรือยังครับว่า มันจะเจอจางลงจน โอกาสติดไฟต่ำลงไปอีก   นี่คิดว่าปิดห้องตลอดนะ   ถ้าห้องนั้น ปิดเปิด จากการเดินเข้า-ออก อากาศจะถ่ายเท ความเข้มข้นของแกสยิ่งต่ำลงไปอีก คราวนี้คุณเจ้าหน้าที่ น่าจะเรียนสายวิทย์(ตามที่บอกว่าเรียนทาง เคมีอินทรีย์มา)   ลองประเมินความเสี่ยงออกมาสิครับ ว่าโอกาสที่มันจะติดไฟน่าจะต่ำขนาดไหน   นี่เป็นเหตุผลที่หลายๆประเทศทั้งในยุโรป อาหรับ เอเชีย ญี่ปุ่น จึงอนุญาตให้ใช้สารทำความเย็นแบบ propane ในที่พักอาศัยได้ เพราะแอร์ในบ้านพักตัวเล็ก ใช้น้ำยาไม่มาก  แกสรั่วออกมากก็นิดเดียว  แถมจะโดนอากาสที่ถ่ายเทจนแกสมันกระจายตัวออกไปหมด     ด้วยการคำนวนข้างต้น ผมเองจึงคิดว่าความเสี่ยงเรื่องสำหรับใช้น้ำยาแอร์แบบ propane ต่ำมากๆๆๆๆ  และผมเห็นด้วยกับหลายๆประเทศว่ามันปลอดภัยเพียงพอสำหรับใช้งานที่บ้านผมเอง   สำหรับคนอื่นก็ตัดสินใจเอง จากข้อมูลข้างต้น  เงินของคุณ คุณต้องตัดสินใจเอง ผมหาข้อมูลโดย search ด้วย keyword  propane refrigerant iso-butane efficiency cooling  ลองๆใช้หลายๆคำปนกัน คุณจะพบบทความมาเพียบ  ผมอ่านอยู่หลายวันเหมือนกัน  ได้ข้อมูลมาด้วยว่า greenpeace สนับสนุนให้ทุกประเทศใช้นำยาตระกูลนี้ เพราะมันไม่ทำให้เกิด green house effect ในขณะที่ R22 เป็นตัวการของ green house effect น้ำยาตระกูลนี้เป็นน้ำยาทางเลือก ผู้บริโภคต้องเลือกเอง โดยพิจารณาจากข้อดี ข้อเสีย ในทุกด้าน จากคุณ : คนปากช่อง (super yellow bird) - [ 2 ก.ย. 50 16:11:36 ]

ความคิดเห็นที่ 9 นี่เป็นอีกความเห็นหนึ่งที่เข้ามาตอบ คุณเจ้าหน้าที่ ---------------------------------------------------- คห.ที่30 ถ้าเติมน้ำยาแล้วรั่วหมดในวันเดียวก็ไม่ต้องใช้กันแล้วครับ เติมเข้าไปเปิดยังไม่ทันเย็นเลยน้ำยาเหลือไม่ถึงครึ่งแล้ว ปกติน้ำยาถ้าพร่องจากระบบสัก20%มันก็เริ่มที่จะไม่เย็นแล้ว อ่านมาตั้งนานเห็นข้อมูลเยอะดี แต่ไม่เข้าใจว่าคุณทนใช้แอร์เดรื่องนั้นได้อย่างไร น้ำยารั่วหมดในวันเดียว มันไม่มีโอกาสทำความเย็นด้วยซ้ำไป ประเด็นนี้มันทำให้ข้อมูลคุณไม่น่าเชื่อถือไปเลย จากคุณ : ไม่เข้าใจทนได้ไง (suradaje)  - [ 28 ส.ค. 50 09:27:29 ] จากคุณ : คนปากช่อง (super yellow bird) - [ 2 ก.ย. 50 16:15:39 ]

ความคิดเห็นที่ 10 แถมให้อีกอัน เป็นปริญญานิพนธ์ ที่นักศึกษา ป ตรี ทำไว้ และลงเผยแพร่ใน web ชุดทดสอบเปรียบเทียบสารทำความเย็นระหว่าง HCFC-22 กับ COLD 22 ------------------------------------------------------------------------------ ชื่อ สุกิจ ศิริคะรินทร์, เจริญ พูนน้อย, ณัฐวุฒิ ตันฑ์ณรงค์, ชื่อเรื่อง ชุดทดสอบเปรียบเทียบสารทำความเย็นระหว่าง HCFC-22 กับ COLD 22 จำนวนหน้า ณ, 124 แผ่น ภาควิชา เทคโนโลยีวิศวกรรมเครื่องต้นกำลัง สาขาวิชาเทคโนโลยีวิศวกรรมการทำความเย็นและการปรับอากาศ สถาบันการศึกษา สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ ระดับการศึกษา ปริญญาตรี ที่ปรึกษาปริญญานิพนธ์ ผู้ช่วยศาตราจารย์วิชาญ วิมานจันทร์ vvj@kmitnb.ac.th ปีการศึกษา 2549 ------------------------------------------------------------------------------ บทคัดย่อ ปัจจุบันสารทำความเย็นที่ใช้ในระบบปรับอากาศภายในบ้านเป็นชนิดที่มีความเป็นพิษต่อชั้นบรรยากาศ ดังนั้นเพื่อที่จะขจัดปัญหานี้จึงได้มีบริษัทที่คิดค้นสารทำความเย็นชนิดใหม่ขึ้นมาทดแทนสารทำความเย็นที่มีอยู่เดิม ซึ่งในการทดลองนี้จะใช้สารทำความเย็น COLD 22 ซึ่งจะเป็นสารทำความเย็นชนิดใหม่ดังนั้นเพื่อที่จะหาคุณสมบัติ ของสารชนิดใหม่นี้จึงได้มีการทดสอบกับเครื่องปรับอากาศที่ใช้ภายในครัวเรือนเพื่อหาประสิทธิภาพและความสามารถ ของสารทำความเย็นนี้ การทดสอบกระทำโดยใช้เครื่องปรับอากาศและเตรียมอุปกรณ์เครื่องมือที่ใช้ในการวัด โดยจะเปรียบเทียบสารทำความเย็น HCFC-22 กับสารทำความเย็น COLD 22 โดยจะเริ่มจากการชั่งน้ำหนัก สารทำความเย็นที่เติม การวัดอุณหภูมิ ความเร็วลมและความชื้นสัมพัทธ์ที่ทางลมส่งและลมเข้า ที่คอนเดนเซอร์ทำงานปกติ 100 เปอร์เซ็นต์ จากนั้นจะเป็นการทดลอง กรณีสมมติว่าคอนเดนเซอร์สกปรกโดยจะปิดทางด้านลมเข้าของชุดคอนเดนเซอร์ ให้อากาศสามารถระบายความร้อนได้เพียง 80เปอร์เซ็นต์แล้วจะทำการวัดค่าต่างๆเหมือนกับการทดลองตอนแรก เพื่อหาความสามารถของการทำความเย็นและสมรรถนะของสารทำความเย็นในระบบปรับอากาศ จากการทดลอง สามารถสรุปได้ว่าสารทำความเย็น COLD 22 ที่การระบายความร้อนออกที่คอนเดนเซอร์ 100 เปอร์เซ็นต์ค่า COP จะสูงกว่าสารทำความเย็น HCFC-22 อยู่ร้อยละ1.059 ส่วน ค่า EER จะสูงกว่า ร้อยละ 1.42 ตามลำดับ ส่วนการระบายความร้อนออกที่คอนเดนเซอร์ 80 เปอร์เซ็นต์ค่า COP จะสูงกว่าสารทำความเย็น HCFC-22 อยู่ร้อยละ1.05 ส่วนค่า EER จะสูงกว่า ร้อยละ1.25 แสดงว่าสารทำความเย็น COLD 22 มีประสิทธิภาพดีกว่าในสภาวะเดียวกันและยังช่วยประหยัดในเติมสารทำความเย็นที่น้อยลงกว่า ร้อยละ51.2 และการใช้กำลังไฟฟ้าที่ลดลงกว่า ร้อยละ 20.3 ในสภาวะการทำงานที่ 100 เปอร์เซ็นต์ จากคุณ : คนปากช่อง (super yellow bird) - [ 2 ก.ย. 50 16:16:27 ]

ความคิดเห็นที่ 11 คุณเข้าหน้าที่เข้ามาตอบอีก ---------------------------- ผมก็คงจะไม่โพสต่อแล้วครับ ยอมแพ้ดีกว่า แต่จะขอบอกอีกนิดนึงนะครับ PROPANE หนักกว่าอากาศ เวลารั่วในห้องที่เป็นระบบปิดก็จะนอนอยู่ที่พื้นอย่างที่คุณคนปากช่องว่า แต่แก๊สนะครับไม่ใช่น้ำจะได้รั่วปุ๊บแล้วจะนอนก้นปั๊บ และขณะที่รั่วลมออกพัดออกมาจากแรงของพัดลมของแอร์ก็จะพัดให้มันกระจายไปทั่วห้อง แล้วมันจึงจะค่อยๆนอนลงที่พื้น เพราะที่คุณพูดนั้นเหมือนกับว่าขณะที่รั่วนั้นไม่ได้เปิดแอร์ แต่ผมพูดถึงขณะที่เปิดแอร์ และถ้าทิศทางของลมที่พุ่งออกมาจากแอร์ที่กำลังมี COLD22 หรือ PROPANE ที่กำลังรั่ว คุณคิดว่า COLD22 หรือ PROPANE จะดิ่งลงไปนอนที่พื้นรึครับ แรงลมลมที่พัดก็จะสามารถที่จะทำให้ COLD22 หรือ PROPANE นั้นมีการฟุ้งกระจายไม่นอนอยู่ที่พื้นแน่นอนครับ เพราะมีลักษณะเป็นก๊าซที่สามารถจะไหลไปได้ตามแรงที่มากระทำคือแรงลมที่เกิดจากพัดลม แล้วถ้าในห้องนอนนั้นมีประกายไฟที่อาจจะเกิดจากการกระทำใดๆก็แล้วแต่ มันก็ยังเป็นไปได้ที่มันจะติดไฟได้ สุดท้ายนี้ ผมก็ขอให้ผู้ที่จะตัดสินใจจะใช้ COLD22 หรือ PROPANE นี้ คิดให้ดีๆก่อน อย่าคิดแต่การประหยัดไฟเป็นหลัก แต่ควรที่จะตระหนักถึงความปลอดภัยไว้ก่อนจะดีกว่า และสุดท้ายของสุดท้าย ผลการทดสอบของการเปรียบเทียบสารทำความเย็นระหว่าง HCFC-22 กับ COLD 22 ของภาควิชา เทคโนโลยีวิศวกรรมเครื่องต้นกำลัง สาขาวิชาเทคโนโลยีวิศวกรรมการทำความเย็นและการปรับอากาศ สถาบันการศึกษา สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ ที่ได้แสดงผลสรุปอยู่ในใบ Certificate ที่ทางผู้จำหน่ายได้ใช้เป็นข้อมูลอันหนึ่งในการโฆษณา COLD22 นั้น น่าจะให้ลงบทสรุปด้วยว่ามีความปลอดภัยสูงไม่เกิดอันตรายกับผู้คนที่จะนำไปใช้กับระบบแอร์บ้าน เมื่อเปรียบเทียบกับ R22 ซึ่งถ้าสามารถลงได้ ผมเองก็จะขอใช้ด้วยคนครับ ขอบคุณ และ สวัสดีครับ จากคุณ : เจ้าหน้าที่ - [ 30 ส.ค. 50 00:02:26 A:125.26.65.215 X: TicketID:153696 ] จากคุณ : คนปากช่อง (super yellow bird) - [ 2 ก.ย. 50 16:18:03 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ผม คนปากช่อง ก็ตอบ คุณเจ้าหน้าที่ว่า ---------------------------------------- ว่าจะไม่ต่อแล้วเชียว ขออีกนิดตามคุณเจ้าหน้าที่ก็แล้วกัน ตาม คห41 ระบุว่าถ้าpropaneมันรั่วตอนที่แอร์กำลังทำงานจะเกิดอะไรขึ้น  เราต้องรู้ก่อนว่า 1.น้ำยาแอร์รั่วออกมาสัก 30% ของทั้งหมดแอร์ก็ไม่เหลือความเย็นแล้ว  พอแอร์พ่นลมเปล่าๆที่ไม่มีความเย็นออกมา คนโดยทั่วไปจะปิดแอร์ ครับ ไม่รู้จะเปิดทำไม เปลืองไฟ 2.ปริมาณลมแอร์พ่นออกมาตอนแอร์กำลังทำงานนั้น จะผสมกับไอของ propane ที่รั่วด้วยอัตรา 0.4 ลิตร/นาที  ทำให้ความเข้มข้นของแกสจางไปมาก  ผมเปิด spec ของแอร์ diakin inverter รุ่น 12,000 btu ที่ใช้อยู่ ระบุว่าพัดลมแอร์ที่ระดับ medium จะพ่นลมที่ปริมาตร 7.4 ลบ เมตร/นาที หรือ 7,400 ลิตร/นาที       เมื่อคิดอัตราส่วนของแกสที่รั่ว/ปริมาตรอากาศ จะเท่ากับ 0.4 / 7,400 = 0.000054  ไม่มีหน่วย เพราะหน่วยตัดกันไปหมด   ด้วยอัตราส่วน 0.000054 นี้ต่ำมาก  ต่ำกว่าความเข้มข้นขั้นต่ำที่ propane จะติดไฟเป็นร้อยๆเท่า  จนไม่สามารถติดไฟได้ ไม่ว่าคุณจะเอาไฟแช็คไปจุดที่หน้าแอร์ตรงที่ลมพ่นมาก็ตาม ยังไงไฟก็ไม่ติด มีแต่ไฟแชคจะดับเพราะโดนลมเป่า จากนั้นลมที่แอร์พ่นออกมาซึ่งมีแกสผสมเจอจางมากๆๆๆๆ จนทำยังไงก็ไม่ติดไฟ จะกระจายทั่วห้อง และแกสจะค่อยๆจมสู่พื้นห้อง ที่ระดับความสูงไม่เกิน 1 ซม (ผมไม่ได้พิมพ์ผิด การคำนวนก่อนหน้านี้ที่ระบุว่า 2 ซม นั้นหมายถึงน้ำยารั่วหมด100% 0.5 กิโล  แต่ในทางปฏิบัติน้ำยาจะไม่รั่ว 100% หรอกครับ เหลือในระบบอยู่บ้าง ผมเลยตีซะรั่ว 50% แล้วกัน) คราวนี้ยังเหลือจุดไหนอีกครับ ที่คุณเจ้าหน้าที่คิดว่าไม่ปลอดภัยอีก  ผมจะไปหาข้อมูลมาให้ดู แต่ก่อนที่คุณเจ้าหน้าที่จะเอามาลงเพิ่ม  ขอความร่วมมือทำการบ้านหน่อยครับ  คือช่วยไป search หาข้อมูลสนับสนุนความเชื่อของคุณเจ้าหน้าที่สักนิด  แล้วใช้วิชาorg chem ช่วยอีกสักหน่อย  ว่าสิ่งที่กำลังจะโพสต์เข้ามา มีหลักฐานยืนยันทางวิทยาศาสตร์แน่นอน   เพราะก่อนผมจะตอบเนี่ย ผมคิด 18 ตลบ แถมค้นข้อมูลประกอปอีก เสียเวลาผมครับ   เราคุยกันทางวิทยาศาสตร์ ประเด็นที่คุยคือ ความปลอดภัยของแกส propane ที่เอามาเป็นสารทำความเย็นสำหรับเครื่องปรับอากาศในบ้านพัก คุณเจ้าหน้าที่พยายามจะชี้ว่าไม่ปลอดภัย แต่พูดลอยๆ(ตามคห 41) ใช้ความรู้สึกทั่วๆไปว่าpropaneมันติดไฟได้ อันตรายแน่นอน เลยฟันธงว่าอย่าใช้ โดยไม่มีการคำนวนประกอปที่ชัดเจน หรือแสดงหลักฐานชัดเจนเพื่อยืนยันความคิดว่ามันอันตรายต่อการใช้ในบ้าน แต่ผมแย้งว่ามันปลอดภัยแน่นอนสำหรับการใช้งานในบ้าน เพราะปริมาณ propane ที่ใช้น้อยมาก  แล้วผมแสดงวิธีคิด คำนวนปริมาณแกสที่รั่ว  ความเข้มข้นของแกสที่รั่ว ว่าความเข้มข้นมันต่ำจนทำยังไงก็ไม่ติดไฟ ถ้าจะโพลต์ต่อไป รบกวนใช้วิธีทางวิทยาศาสตร์ แสดงการคำนวน หรือ research หรือ paper ยืนยันความคิดของคุณด้วยครับ ว่ามันไม่ปลอดภัย   ที่ผมกล้าท้า เพราะไอ้ research กับ paper ของเมืองนอกทั้งหมดที่ผมค้นมาน่ะ   มันระบุว่า ประเทศในยุโรปที่อนุญาตให้ใช้ COLD หรือ propane เป็นสารทำความเย็นเพราะยอมรับความปลอดภัยของมัน  แถมยังชอบคุณสมบัติของ propane ที่ไม่ทำลาย ozone ในบรรยากาศ จึงไม่เป็นสาเหตุของ green house effect ด้วย อย่าลืมครับ เราคุยกันด้วยวิธีทางวิทยาศาสตร์ เอาข้อมูล ความจริงมาหักล้างกันครับ  นั่นคือสิ่งที่ผมเรียนมา แม้จะไม่ได้เอกเคมีก็เถอะ จากคุณ : คนปากช่อง (super yellow bird) - [ 2 ก.ย. 50 16:20:06 ]

ความคิดเห็นที่ 13 ผม คนปากช่อง แสดงการคำนวนความเข้มข้นของแกสที่รั่วออกมา -------------------------------------------------------------------- เอาข้อมูลจาก wikipedia มาให้ดูเรื่องความเข้มข้นของ propane ที่จะติดไฟในอากาศ ตาม link นี่ http://en.wikipedia.org/wiki/Explosive_limit ถ้ายังข้องใจคุณสมบัติของ propane แบบเต็มๆ ไปที่ http://en.wikipedia.org/wiki/Propane มันบอกว่า propane จะติดไฟ ต้องมีส่วนผสมกับอากาศ อย่างต่ำ 2.1% แต่ความเข้มข้นของแกสที่คำนวนได้ตาม คห 43 อยู่ที่ 0.000054 หรือคิดเป็น % ได้ 0.000054 x 100 = 0.0054 % คราวนี้คิดว่า เจ้า .0054% มันต่ำกว่า  2.1%ที่ propane จะติดไฟอยู่เท่าไรโดย  2.1 / 0.0054 = 388    แสดงว่าแกสที่รั่วออกมามีความเข้มข้นต่ำกว่าขีดจำกัดขั้นต่ำสุดที่ propane จะติดไฟอยู่ 388 เท่า   ด้วยปริมาณที่เจือจางขนาดนี้ อย่าว่าแต่เอาไฟแชคไปจ่อหน้าแอร์เลย   เอาเครื่องพ่นไฟขนาดเล็กไปจ่อหน้าแอร์ หรือเดินไปรอบห้อง ก็ไม่มีทางติดไฟ นี่เป็นข้อมูลเกี่ยวกับ ความเข้มข้นของแกสขั้นต่ำที่จะติดไฟได้ The explosive limit of a gas or a vapour, is the limiting concentration (in air) that is needed for the gas to ignite and explode. There are two explosive limits for any gas or vapor, the lower explosive limit (LEL) and the upper explosive limit (UEL). At concentrations in air below the LEL there is not enough fuel to continue an explosion; at concentrations above the UEL the fuel has displaced so much air that there is not enough oxygen to begin a reaction. Concentrations of explosive gases are often given in terms of percent of lower explosive limit (%LEL). The explosive limits of some gases and vapors are given below. Concentrations are given in percent by volume of air. Substance.............. LEL............. UEL Acetone 3% 13% Acetylene 2.5% 82% Benzene 1.2% 7.8% Butane 1.8% 8.4% Ethanol 3% 19% Ethylbenzene 1.0% 7.1% Ethylene 2.7% 36% Diethyl ether 1.9% 36% Diesel fuel 0.6% 7.5% Gasoline 1.4% 7.6% Hexane 1.1% 7.5% Heptane 1.05% 6.7% Hydrogen 4.1% 74.8% Hydrogen sulfide 4.3% 46% Kerosene 0.6% 4.9% Methane 5.0% 15% Octane 1% 7% Pentane 1.5% 7.8% Propane................ 2.1%......... 9.5% Propylene 2.0% 11.1% Styrene 1.1% 6.1% Toluene 1.2% 7.1% Xylene 1.0% 7.0% จากคุณ : คนปากช่อง (super yellow bird)  - [ 30 ส.ค. 50 09:57:14 ] จากคุณ : คนปากช่อง (super yellow bird) - [ 2 ก.ย. 50 16:22:06 ]

ความคิดเห็นที่ 14 คุณ เจ้าหน้าที่ มาตอบว่า ------------------------- ตามลิงค์ที่คุณคนปากช่องให้มา เรื่องเกี่ยวกับ PROPANE ผมอ่านโดยละเอียดแล้วก็ได้คัดลอกมาให้ดูดังนี้ ผมคงไม่โต้ตอบอะไรทั้งสิ้นอีกแล้ว แต่จะขอใช้ความรู้ภาษาอังกฤษ ลองแปลให้อ่านกันดู ถ้าผิดขอให้คุณคนปากช่องช่วยแก้ไขให้ด้วยนะครับ ในสมัยแรกๆ เครื่องปรับอากาศ และ เครื่องทำความเย็น ได้มีการใช้สารที่เป็นพิษ หรือแก๊สที่ติดไฟได้ อย่างเช่น แอมโมเนีย เม็ทธิลคลอไรด์ และ โพรเพน (COLD22) ซึ่งอาจจะมีผลให้เกิดอุบัติเหตุถึงขั้นเสียชีวิตได้เมื่อเกิดการรั่ว นาย Thomas Midgley, Jr. จึงได้คิดค้น แก๊สคลอโรฟลูโอโรคาร์บอน หรือที่เรียกในชื่อของ ฟรีออน ขึ้นเป็นครั้งแรกในปี ค.ส. 1928 ซึ่งเป็นสารทำความเย็นที่มีความปลอดภัยมากกว่าแต่ต่อมาจึงพบว่ามีผลกระทบต่อบรรยากาศในชั้นที่เป็นโอโซน ฟรีออน ซึ่งเป็นชื่อทางการค้าที่ทางบริษัท Dupont ใช้เรียกชื่อแทนสารทำความเย็น Chlorofluorocarbon (CFC), Hydrogenated CFC (HCFC), or Hydrofluorocarbon (HFC) ซึ่งแต่ละชื่อจะถูกเรียกเป็นชื่อที่มีตัวเลขกำกับเพื่อขนาดของโมเลกุล เช่น R-11, R-12, R-22, R-134 ส่วน R22 ได้ถูกใช้กันอย่างแพร่หลายในการทำความเย็นของเครื่องปรับอากาศ R22 จะเริ่มไม่ให้ใช้กับเครื่องปรับอากาศในปี 2010 และ จะเลิกใช้ R22 อย่างเด็ดขาดภายในปี 2020 R11 และ R12 ก็ไม่มีการผลิตอีกต่อไปแล้วในอเมริกา ส่วนที่อย่างมีการใช้กันอยู่ในปัจจุบันอย่างเดียวเท่านั้นคือใช้ทำความสะอาดระบบแอร์ สารทำความเย็นที่ไม่ทำลายชั้นโอโซนได้ถูกพัฒนาขึ้นมาหลายตัว ซึ่งก็รวมถึง R410A ที่ได้เป็นที่รู้จักภายใต้ชื่อ พูรอน (Puron) PROPANE (R290 หรือ COLD22) ที่มีความบริสุทธิ์สูง สามารถที่จะนำไปใช้แทนที่สารทำความเย็นอย่างเช่น R11, R22 หรือ R134A ซึ่งปัจจุบันนี้ทางบริษัท ยูนิลิเวอร์ ไอศกรีม และบริษัทอื่นๆก็ได้ใช้ PROPANE (R290 หรือ COLD22) เป็นสารทำความเย็นในอุตสาหกรรมเครื่องทำความเย็น และยังพบอีกว่าประโยชน์ที่ได้รับเพิ่มเข้ามา คือ PROPANE จะมีความสามารถในการทำความเย็นที่เพิ่มขึ้นจากเดิม 9-15 % ขอบคุณในข้อมูล และขอให้โชคดีกับธุรกิจ COLD22 ด้วยครับ ส่วนใครที่คิดว่า COLD22 (PROPANE 99%) มีความปลอดภัยที่จะใช้แทน R22 ก็ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของท่านแล้ว ด้วยความเคารพ http://en.wikipedia.org/wiki/Liquified_petroleum_gas The first air conditioners and refrigerators employed toxic or flammable gases like ammonia, methyl chloride, and propane which could result in fatal accidents when they leaked. Thomas Midgley, Jr. created the first chlorofluorocarbon gas, Freon, in 1928. The refrigerant was much safer for humans but was later found to be harmful to the atmosphere's ozone layer. "Freon" is a trade name of Dupont for any Chlorofluorocarbon (CFC), Hydrogenated CFC (HCFC), or Hydrofluorocarbon (HFC) refrigerant, the name of each including a number indicating molecular composition (R-11, R-12, R-22, R-134). The blend most used in direct-expansion comfort cooling is an HCFC known as R-22. It is to be phased out for use in new equipment by 2010 and completely discontinued by 2020. R-11 and R-12 are no longer manufactured in the US, the only source for purchase being the cleaned and purified gas recovered from other air conditioner systems. Several non-ozone depleting refrigerants have been developed as alternatives, including R-410A, known by the brand name "Puron". In highly purified form, propane (R-290) can serve as a direct replacement in mechanical refrigeration systems designed to use R-12, R-22 or R-134a chloro- or fluorocarbon based refrigerants. Today, the Unilever Ice Cream company and others are exploring the use of environmentally friendly propane as a refrigerant. As an added benefit, users are finding that refrigerators converted to use propane are 9-15% more energy efficient จากคุณ : เจ้าหน้าที่ - [ 31 ส.ค. 50 00:45:02 A:125.26.65.173 X: TicketID:153696 ] จากคุณ : คนปากช่อง (super yellow bird) - [ 2 ก.ย. 50 16:23:01 ]

ความคิดเห็นที่ 15 ผม คนปากช่อง เข้ามาตอบว่า -------------------------------- คห 45 คุณเจ้าหน้าที่นอนดึกแฮะ คำอธิบายตาม คห 45 อย่านี้หนักแน่นครับ มีแหล่งข้อมูลชัดเจน เสนอข้อมูลครบถ้วนตามจริง ไม่เข้าข้างใคร และยังเสนอน้ำยาทางเลือก R410A ไว้ให้พิจารณาอีก 1 ตัวด้วย   ข้อมูลแบบนี้แหละครับที่ผมมองหาอยู่ R410A เป็นน้ำยาตัวใหม่ที่ผมสนใจศึกษามาก ยังไม่ค่อยมีคนใช้ในเมืองไทย  กำลังหาข้อมูลให้ครบถ้วนในทุกแง่มุมก่อนจะนำออกเผยแพร่ครับ รอบหน้า Propane (R290) ปะทะ Puron (R410A) ตัวไหนดีกว่ากัน  มีข้อดีข้อเสียยังไง  มีความเสี่ยงมากไหม  ตัวไหนน่าใช้กว่ากัน   ผมจะไปหามาให้ดูกัน   แต่รอหน่อยนะครับ ผมมาให้ข้อมูลเพราะอยากรู้คุณสมบัติของน้ำยาแอร์แต่ละตัว  ที่สำคัญผมยังไม่เคยเห็นใครมาให้ข้อมูลอย่างละเอียด หรือเปรียบเทียบน้ำยาแต่ละตัวให้ดูสักที  ไม่มีใครทำแต่อยากรู้เลยต้องทำเอง ลองเอง   น้ำยาที่เอามาลองก็ซื้อเอง  อุปกรณ์ที่เอามาทดลองก็แอร์ของตัวเอง   พังก็พังเอง  ใช้ดีก็เอามาบอกต่อ ไม่ได้เชียร์ใครทั้งสิ้น ต่อไปรับรองว่าถ้าเปรียบเทียบ Propane กับ Puron แล้วผลออกมาว่า Puron มันประหยัดไฟพอๆกัน  ไม่ติดไฟ   ไม่ทำลายชั้น Ozone ผมก็จะบอกว่า Puron มันดีกว่า  โดยไม่ดันทุรังเชียร์ Propane ครับ เพราะผมไม่ได้ผลประโยชน์จากใคร   สิ่งที่อยากได้คือน้ำยาแอร์ที่ดีที่สุดสำหรับทุกคน ในราคาที่สมเหตุผล ปัญหาอย่างเดียวคือ ยังไม่รู้จะหา Puron จากไหนมาลอง  ได้ยินมาว่าไม่สามารถเติม Puron ลงในแอร์เดิมที่มีอยู่ได้  มันต้องซื้อแอร์ใหม่ เท่านั้น ซึ่งผมคงไม่ลงทุนขนาดนั้น   สงสัยทำได้เฉพาะภาคทฤษฎี จากคุณ : คนปากช่อง (super yellow bird)  - [ 31 ส.ค. 50 07:36:51 ] จากคุณ : คนปากช่อง (super yellow bird) - [ 2 ก.ย. 50 16:23:54 ]

ความคิดเห็นที่ 16 ก่อนคุยต่อ ขอบอกเลยว่าการที่คุณเจ้าหน้าที่ ไม่กล้าเปิดเผยตัวเองโดยใช้ login จริง แต่แอบใช้บัตรผ่าน มาให้ข้อมูลบางส่วนโดยไม่ครบถ้วน  ที่ทำให้ผู้อ่านอาจเข้าใจคลาดเคลื่อนนั้น ทำให้ความน่าเชื่อถือของตัวคุณลดลงไปมาก เหมือนกับคนที่คิดจะทำความผิด กลัวถูกยึดlogin จึงไม่กล้าเปิดเผยตัวตน   ลูกผู้ชายกล้าทำ กล้ารับครับ  ทำอะไรลับๆล่อๆมิใช่วิสัยจอมยุทธ   นอกจากนี้คุณยังตามโพสต์กระทู้แบบนี้หลายครั้ง ในหลายเว็บแล้ว  มีเหตุผลอะไรครับ  กลัวน้ำยา R22 ขายไม่ออกหรือ?     ถ้าคุณมีปัญหาจากการใช้งานน้ำยาตัวนี้จริง ก็ว่ามา  เราจะได้มาหาสาเหตุกันว่ามันเกิดจากอะไร  และจะป้องกันอย่างไร  จะได้เป็นบทเรียนให้กับผู้ใช้คนอื่นด้วย ส่วนผมที่ต้องตามมาแก้ไขข้อมูลคุณทุกครั้ง เพราะ 1.  คุณให้ข้อมูลเลื่อนลอย ให้ข้อมูลไม่ครบถ้วน และพยายามจูงใจให้คนอ่านเชื่อว่ามันไม่ปลอดภัย   2. ผมไม่ชอบการกระทำของคุณแบบลับๆล่อๆแบบนี้ 3. ผมไม่ได้ขายน้ำยาตัวนี้ หรือมีธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับมัน  แต่ผมใช้มันอยู่ และทำการบ้านมาเยอะก่อนตัดสินใจใช้ ดังนั้นเมื่อคุณให้ข้อมูลว่าสิ่งที่ผมใช้อยู่ไม่ปลอดภัย ผมก็มาแย้ง แต่ในที่สุด ถ้าคุณสามารถพิสูจน์ให้เห็นโดยชัดเจนว่ามันไม่ปลอดภัยจริง ผมก็ยินดีเปลี่ยนความคิด คุณมีเหตุผลอะไร ที่ขยันโพสต์กระทู้? จากคุณ : คนปากช่อง (super yellow bird) - [ 2 ก.ย. 50 19:33:06 ]

ความคิดเห็นที่ 17 คห 7 คุณ XLT  ยินดีที่เข้ามาร่วมแสดงความคิดเห็นครับ ผมได้ความรู้เรื่องแอร์จากคุณ XLT มาเยอะ ตัวเลขที่ผมเห็นว่ากระแสไฟลดลงไปจากการใช้น้ำยา cold ทุกกรณีมันเกิน 10% นะครับ  อย่างแย่ที่สุดที่เคยเห็นก็ 15% ผมดูจากที่ร้านใน pantown เขาเอามาลงใน web ของเขานั่นแหละ  เห็นเลขประหยัดไฟมันสูงใช้ได้เลย น้ำยา R22 dupont แค่ 125 บาทเองหรือครับ ถูกแฮะ วันหลังผมจะได้ไปซื้อไม่ผิดราคา   ถึงอย่างไร R22 ก็ยังไม่มีวันตายง่ายๆ ยังต้องใช้ไปอีกนาน จากคุณ : คนปากช่อง (super yellow bird) - [ 2 ก.ย. 50 19:40:23 ]

ความคิดเห็นที่ 18 จากข้อความนี้ของคุณเจ้าหน้าที่ ------>ผมได้คัดลอกข้อมูลที่ทางผมและคุณคนปากช่องได้มีการโต้ตอบในเว็บ PANTIP ในส่วนสุดท้ายของกระทู้ "ห่วงความปลอดภัยอย่าใช้ COLD22 เพราะมันคือแก๊ส LPG หรือแก๊สหุงต้ม " ซึ่งคุณคนปากช่องก็ยอมรับในข้อมูล แต่ส่วนตัวแล้วผมก็ยังเชื่อว่าคุณคนปากช่องน่าจะรู้จักและสนิทสนมกับทางผู้จำหน่าย COLD22 และร้านเจริญแอร์อยู่ไม่น้อย จึงได้พยายามหาข้อมูลมาเพื่อชี้แจงให้เชื่อว่า COLD22 มีความปลอดภัยสูง คนปากช่อง ===> ผมไม่ได้ยอมรับในข้อมูลใดๆของคุณเจ้าหน้าที่เลย เพราะสิ่งที่คุณกล่าวอ้างในกระทู้เดิมนั้นไม่มีหลักฐานหรือข้อเท็จจริงสนับสนุนอย่างเพียงพอ  คุณพูดแต่ว่าถ้าแอร์รั่วใช้น้ำยาแบบ propane แล้วมันจะติดไฟเป็นอันตราย    ซึ่งผมก็ได้แสดงการคำนวนหักล้างสิ่งที่คุณเจ้าหน้าที่กล่าวอ้างมาว่ามันมีความเสี่ยงต่ำมากๆ  เอาแค่เรื่องความเข้มข้นของแกสก็ต่ำกว่าระดับที่จะติดไฟได้ 388 เท่าแล้ว   สิ่งเดียวที่ผมยอมรับ คือ  Propane ติดไฟได้ เพราะนี่เป็นความจริงแท้แน่นอน  แต่ความเสี่ยงจากการนำมาใช้เป็นสารทำความเย็นในบ้านต่ำมากๆ เพราะการคำนวนทั้งหมดได้แสดงให้เห็นอย่างนั้น  บทความที่ผม search จากใน net ก็พูดแบบเดียวกัน  แต่คุณเจ้าหน้าที่เอาแต่พูดว่ามันไม่ปลอดภัย โดยไม่มีการแสดงหลักฐานหรือการคำนวนมาสนับสนุนคุณเลย  สิ่งเดียวที่คุณเชื่อคือ propane มันติดไฟ อย่าเอามาใช้เป็นสารทำความเย็น  ซึ่งนี่เป็นจุดที่ผมตามแย้งมาตลอด     ดังน้นทำความเข้าใจในจุดนี้ก่อน          ผมจะรู้จักผู้จำหน่าย cold 22 หรือไม่  มันก็ไม่ได้เปลี่ยนแปลงความจริง ผลการคำนวนทั้งหมด หรือ research ทั้งหมดที่ผมกล่าวอ้างมาหรอกครับ ตัวเลขทั้งหมดยังคงใช้ได้เหมือนเดิม   ผมบอกแล้วว่าผมใช้วิธีการทางวิทยาศาสตร์มาพิสูจน์ให้เห็น   คุณก็เรียนทางด้านวิทยาศาสตร์มา ก็บอกมาสิครับว่า ผลการคำนวนของผม ผิดตรงไหน  แหล่งข้อมูลที่ผมยกมาใช้ มีท่อนไหนที่บอกว่า propane ไม่ปลอดภัยเพียงพอสำหรับการนำมาใช้ในบ้าน    บทความที่คุณยกมาใช้คำว่า propane ถ้ารั่วออกมาอาจทำให้เกิดอุบัติเหตุอย่างแรงได้ (propane which could result in fatal accidents when they leaked)  ซึ่งเขาพูดถูก propane มันติดไฟ จะให้บอกว่าปลอดภัย100%คงไม่ได้     ซึ่งผมได้ทำการคำนวนให้เห็นโดยละเอียดแล้วว่า สำหรับการใช้ propane เป็นสารทำความเย็นในบ้านนั้น ความเสี่ยงมันต่ำมากเพราะใช้แค่ 500 กรัมเท่านั้น (ดูการคำนวนในกระทู้ข้างบน)  แถมแอร์เป็นระบบปิดที่ไม่ควรจะมีอะไรรั่วไหลออกมา  ถ้ารั่วออกมากก็รั่วช้าๆ ไม่ใช่รั่วฟู่ออกมาทีเดียวหมด    เตาแก๊สที่บ้านนั่นแหละครับน่ากลัวกว่าเยอะเพราะแกสถังละ 15 กิโล แกสวิ่งออกมาที่หัวเตาตรงๆ  ถังแกสก็อยู่ไม่ไกลจากหัวเตา  จุดติดไฟเต็มที่ แถมบางรายเร่งไฟแรงๆๆอีกต่างหาก   ทุกบ้านเป็นสิบๆล้านครัวเรือนในประเทศไทยใช้เตาแกส   แล้วมันระเบิดบ่อยแค่ไหน?    แล้วนี่เครื่องปรับอากาศเป็นระบบปิดนะครับ โอกาสที่น้ำยาแอร์จะรั่วออกมาน้อยมากๆ   แอร์ในสภาวะปกติสามารถใช้งานได้เกิน 10 ปีถึงจะเริ่มมีตามดเกิดขึ้นในระบบแอร์ และอาจมีน้ำยารั่วซึมออกมาช้ามากๆ ผมอยากให้คุณเจ้าหน้าที่ พิสูจน์ให้เห็นอย่างที่ผมทำว่า  สารทำความเย็นตระกูล propane ไม่ปลอดภัยเพียงพอสำหรับการใช้งานในบ้าน ซึ่งใช้ propane แค่  500 กรัมสำหรับแอร์ 12,000 btu  และ1,000 กรัมสำหรับแอร์ 24,000 BTUเท่านั้น  หรือคุณเจ้าหน้าที่จะพิสูจน์มาให้เห็นว่าที่ผมคำนวนความเข้มข้นของแกสที่รั่วว่าน่าจะอยู่ที่ 0.0054% สำหรับแกส 500 กรัมรั่วใน 12  ชั่วโมงน่ะผิดตรงไหน   แล้วแกสความเข้มข้น 0.0054% น่ะมันอยู่ต่ำกว่าจุดที่จะติดไฟได้ 2.1% อยู่ 388 เท่าจริงหรือไม่    นี่เป็นตัวเขจริงที่ทำให้ผมสรุปว่าความเสี่ยงต่ำมาก อย่าลืมว่าเรากำลังถกกันอยู่ว่า propane มันปลอดภัยเพียงพอสำหรับการใช้งานกับแอร์ตามบ้านหรือไม่    เรื่องอื่นไม่ใช่ประเด็น  แสดงข้อเท็จจริงให้ตรงประเด็นเท่านั้น จากคุณ : คนปากช่อง (super yellow bird) - [ 2 ก.ย. 50 21:44:58 ]

ความคิดเห็นที่ 19 อะไรกันฟะเนี่ย จากคุณ : bookiekid - [ 2 ก.ย. 50 22:00:50 ]

ความคิดเห็นที่ 20 เจ้าหน้าที่พูดว่า ---> แต่แล้วก็พบว่า COLD22 หรือ PROPANE มีอันตรายถึงขั้นอาจทำให้เสียชีวิตได้ถ้าเกิดการรั่ว จึงได้เปลี่ยนมาใช้ R22 แทน   คนปากช่อง----> บทความที่คุณยกมาตอนแรกพูดว่า propane ถ้ารั่วอาจทำให้เกิดอันตรายรุนแรง (ผมคำนวนให้เห็นแล้วว่ามันมีความเสี่ยงที่ต่ำมากๆ)     ตอนหลังยังพูดว่า Unileverและบริษัทรายอื่นได้เริ่มใช้ตู้ไอศครีมที่ใช้ สาร propane เป็นตัวทำความเย็นซึ่งเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และยังได้ประโยชน์จากการประหยัดพลังงาน    นั่นหมายถึงบทความนี้กำลังบอกว่าทางบริษัทรายใหญ่ๆของโลก กำลังให้การยอมรับ propane เข้ามาใช้งานแล้ว    ถ้ามันไม่มีความปลอดภัยสำหรับการใช้งานทั่วไปอย่างที่คุณกำลังกลัว  ทำไมบรรดาผู้ผลิตสินค้าอุปโภครายใหญ่ของโลกอย่าง Unilever และบริษัทอื่นๆถึงนำ propane มาใช้  อย่าลืมว่ากฏหมายความปลอดภัยของอเมริกาเข้มงวดและปรับแพงมาก  ชื่อเสียงของ Unilever เองก็มีค่ามหาศาล เขาจะกล้าเอาชื่อเสียงเขามาเสี่ยงกับ Propane ที่คุณเจ้าหน้าที่คิดว่าไม่ปลอดภัยเพียงพอหรือ? จากคุณ : คนปากช่อง (super yellow bird) - [ 2 ก.ย. 50 22:01:23 ]

ความคิดเห็นที่ 21 ตอบ คห 19 กำลังมีการถกเถียงกันทางวิทยาศาสตร์นิดหน่อยครับ  จริงๆมันน่าจะอยู่ห้องหว้ากอจะเหมาะกว่า   คราวนี้คุณ เจ้าหน้าที่ เขาตั้งกระทู้ที่นี่ เลยต้องคุยห้องนี้    ถ้ายกไปคุยที่หว้ากอได้จะสนุกกว่านี้เยอะ  ผมก็อยากดูว่าคนที่หว้ากอเขาจะเห็นด้วยกับคุณเจ้าหน้าที่ไหม   เพราะถ้าข้อมูลไม่แน่นแล้วไปโพสต์แบบนี้ที่หว้ากอ มีหวัง............. ไปไหมคุณเจ้าหน้าที่ ไปคุยต่อที่หว้ากอให้มันรู้กันไปเลยว่าใครคิดถูก   ใช้ login จริงด้วยครับ  ลูกผู้ชายตัวจริง  ถ้าไปตั้งเมื่อไหร่ส่ง link มาให้ด้วยนะ ผมจะตามไป จากคุณ : คนปากช่อง (super yellow bird) - [ 2 ก.ย. 50 22:08:22 ]

ความคิดเห็นที่ 22 ต่อๆ เจ้าหน้าที่ ----> นั่นก็หมายถึงว่าทางผู้ที่จำหน่ายน้ำยาแอร์ COLD22 หรือ PROPANE ในปัจจุบัน ได้นำเทคโนโลยีที่ได้มีการเลิกใช้ไปเมื่อ 80 ปีที่แล้วมาใช้ใหม่ โดยไม่ได้คำนึงถึงความปลอดภัยต่อผู้บริโภคอย่างเราๆเลย เพียงแต่หวังผลกำไรทางการค้าเท่านั้น คนปากช่อง ------> บทความที่ให้ไป ไม่มีสักที่ที่บอกว่า propane เป็นเทคโนโลยีที่เลิกใช้ไป 80 ปีที่แล้ว    คุณสรุปจากไหน? แล้วการที่ Unilever และบริษัทอื่นๆหันมาใช้ propane เป็นสารทำความเย็นน่ะ มันหมายความว่า propane ไม่ปลอดภัยเพียงพออย่างนั้นหรือ จากคุณ : คนปากช่อง (super yellow bird) - [ 2 ก.ย. 50 22:13:11 ]

ความคิดเห็นที่ 23 คุณเจ้าหน้าที่ไปอ่าน paper พวกนี้ให้หมดก่อน แล้วค่อยมาคุยกันต่อ  อ่านให้เข้าใจ อย่าตีความผิดหรือหลงประเด็น หรือตีความเกินกว่าที่ paper กล่าวถึงอีกล่ะ REsearch ของฝรั่งเรื่องความปลอดภัยของการใช้ propane และสารในตระกูลติดไฟเป็นสารทำความเย็น  ละเอียดมาก http://www.es-refrigerants.com/repor...FRIGERANTS.pdf การทดสอบการรั่วของสารทำความเย็นในตระกูลเดียวกัน ยืนยันว่าแม้มันจะติดไฟ แต่ความเสี่ยงถือว่ามีน้อยมากในการใช้ในระบบทำความเย็นขนาดเล็กถึงขนาดกลาง อ่านใน link ข้างล่างนี้ ให้ดูที่หน้า 4 ตรง conclusion http://www.autofrost.com/peoples/ghg/ghg-ternary.pdf ถ้าข้อมูลไม่จุใจ ยังอยากอ่านอีกล่ะก็ ตาม link ข้างล่างนี้ไปครับ http://www.cuts-international.org/sc98-1.htm http://www.sciencedirect.com/science...98811af06e9f9c http://cat.inist.fr/?aModele=afficheN&cpsidt=14941709 http://www.advgas.com/hydrocarbons.asp http://www.fluorocarbons.org/en/deba...igeration.html The solution the impact In 1992, Greenpeace (Germany) campaigned for an alternate technology, which would be both ozone friendly and without GWP. The technology which re-emerged as the most suitable for these purposes was an old one, which used hydrocarbons. At present hydro carbon technology makes use of one of the two compounds, viz. isobutane (R600a) or a blend of propane and isobutane (R290/R600a) as refrigerant and usually cyclopentane for insulation. The most important advantage is their compatibility with mineral oils as against HFCs, which require synthetic lubricants. Additional advantage is of retrofitting in old units without much incremental costs. Most importantly, the HC technology provides an economically viable option to the Article 5 countries to leapfrog from CFCs to HCs rather than to invest in HCFCs or HFCs which would soon have to be phased out. In 1994, German manufacturer dkk/FORON, along with Greenpeace, launched the first HC based refrigerator using a blend of propane and isobutane. This ‘greenfreeze’ technology made a soaring impact on the German market forcing established manufacturers such as Bosch-Siemens, Liebherr, AEG/Electrolux and Whirlpool to adopt the HC technology. These manufacturers opted for pure isobutane (R600a) as a single component refrigerant, which is easy to handle and is of advantage while designing two temperature refrigeration appliances (refrigerator-freezer combines). Liebherr was the first company in 1994 to convert their foaming lines to Pentane as a blowing agent replacing CFC11. Over the years the HC based refrigerator has captured more than 10% of CFC free domestic refrigerator market, mainly in Germany, Austria, Switzerland, the Netherlands and other Scandinavian countries. Companies like Matsushita and Sharp of Japan have gone half-way by converting to pentane blown insulation foam. Similarly in Australia, Fisher & Paykel, a refrigerator manufacturer are blowing foam with cyclopentane. Table 2: Comparison of Ecofrig technology (column 1 & 2) with HFC134a technology (column 3). Parameter Isobutane R600a Propane/Isobutane R290/R600a Hydrofluorocarbon HFC134a ODP 0 0 0 GWP* 3 3 3400 Energy efficiency of Compressor Higher than mixture and HFC134a Retrofitting CFC12 refrigerator without changing compressor No Yes No Flammability Yes Yes No Safety Provisions Yes Yes No Noise level of of compressors Higher than mixture and HFC134a Higher than isobutane Sensitivity to contamination and manufacturing process conditions Insensitive: Production standard same as CFC12. Insensitive: Production standard same as CFC12. Highly sensitive: Major Manufacturing changes required ผลการทดสอบว่า R290+R600a ใช้ทดแทน R12 ได้ A computational model with the objective of simulating the performance of an ideal automotive air conditioning system, working with several refrigerants, is presented. The main function of this model was to determine the most suitable alternative refrigerant for R-12. Some assumptions about the losses and irreversibilities were embodied in this model for more realistic results. The effects of several parameters on system performance and compatibility were investigated, including evaporating temperature, condensing temperature and compressor rotational speed. Five refrigerants were studied by this model, including R-12, R-134a, R-290, R-600a and a mixture of propane and isobutane R290/R600a (62/38, molar percentage). The model predicted that the mixture (R290/R600a) was the most suitable alternative for R-12 and that several modifications should be performed when the other alternative refrigerants are used in the R-12 system. The major part of this work was an experimental investigation for the use of R290/R600a as a drop-in alternative for R-12 in a prototype automotive air conditioning system. Ninety-two (92) tests were conducted on both refrigerants to study the effect of four parameters on system performance. These were outdoor air temperature, cooling load, compressor rotational speed and the soaking temperature. Three outdoor air temperatures were considered, 35, 40 and 50 °C. Six rotational speeds were employed, 700, 1000, 1500, 2000, 2500 and 3000 rpm, whereas four cooling loads were simulated in the evaporator chamber, 1000, 2000, 3000 and 3500 W. The evaporator chamber was soaked at five temperatures, 45, 50, 55, 60 and 65 °C. Two types of tests were performed, including single operation mode tests and multi-operation modes tests. There was close similarity between the performance of the R290/R600a mixture and R-12 with superiority for R-12 in the working pressures, energy consumption and the COP values, whereas the mixture (R290/R600a) outperformed R-12 in the subcooling, superheating, evaporator discharge air temperature and the cooldown time. The results of this work showed good agreement with the experimental and theoretical results available in the literature จากคุณ : คนปากช่อง (super yellow bird) - [ 3 ก.ย. 50 08:09:09 ]

ความคิดเห็นที่ 24 สำหรับคุณเจ้าหน้าที่ อ่านมาให้หมดทุก paper อย่างที่ผมอ่านมาก่อน แล้วค่อยมาคุยต่อ   ที่ผ่านมาข้อมูลคุณอ่อนมาก ไม่มี reference   คุณพึ่งจะเอาบทความใน wikipedia ที่ผมให้ไป เพื่อยกมาอ้างว่ามันไม่ปลอดภัย  ซึ่งคุณก็ตีความจาก wikipedia ไม่ครบถ้วน และกล่าวอ้างเกินกว่าที่ wikipedia ระบุ ที่สำคัญคุณแค่ อ่าน wikipedia เป็นบทความสั้นๆแค่ไม่กี่บรรทัดแล้วสรุปทันทีว่าคุณคิดถูก  ซึ่งนั่นผิดมหันต์   ลองคิดดูว่าถ้านักศึกษาสักคนทำการบ้านเรื่องนี้ส่ง อาจารย์ในระดับปริญญาตรีในสาขา เคมีอินทรีย์ โดยสรุปความเห็นอ้างอิง wikipedia แค่ 5 บรรทัดน่ะ  จะโดนไล่กลับไปทำใหม่ไหม? ของผมก่อนจะสรุปน่ะ อ่าน paper เป็นเล่มๆ อ้างอิงหลายที่ จากหลายแหล่งข้อมูล ประมวลความคิดจากหลายแหล่งเข้าด้วยกัน   และต้องเห็นความสอดคล้องกันของข้อมูล ก่อนจะทำการสรุปความเห็นครับ เคยทำปริญญานิพนธ์ หรือวิทยานิพนธ์ไหมครับ? ปล1  ถ้าอ่าน paper ทั้งหมดแล้ว มีย่อหน้าไหนที่ไม่เข้าใจ หรือไม่มั่นใจ  อย่าเดาครับ  ถามมา ผมจะช่วยอธิบายให้ ปล2 ผมไม่ได้เรียนทางด้านเคมีอินทรีย์ แต่เรื่อง paper แค่นี้น่ะพออ่านทำความเข้าใจได้ ปล3 ถ้าต้องการคำแนะนำเรื่อง กระบวนการค้นคว้าข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ การทำวิทยานิพนธ์ วิธีคิดและสรุปข้อมูลทางวิทยาศาสตร์  ผมจะช่วย search หาข้อมูลให้ไปอ่านก่อน จากคุณ : คนปากช่อง (super yellow bird) - [ 3 ก.ย. 50 08:34:47 ]

ความคิดเห็นที่ 25 หุหุ โนคอมเม้นต์ มาอ่านเฉยๆ จากคุณ : ต้นโพธิ์ต้นไทร - [ 3 ก.ย. 50 09:28:06 ]

ความคิดเห็นที่ 26 แล้วคำตอบจากคุณคนปากช่องตามด้านล่าง มันหมายความว่ายังงัยครับ และที่ผมชี้ว่าทางบริษัทยูนิลิเวอร์ นำ PROPANE มาใช้ ก็เพื่อบอกให้ทราบว่า PROPANE ยังมีประโยชน์ถ้านำมาใช้อย่างถูกวิธี และนั่นเค้าใช้ในอุตสาหกรรมนะครับ ซึ่งทางยูนิลิเวอร์ ก็จะต้องมีระบบการป้องกันการรั่วที่มีประสิทธิภาพสูง เพราะเค้ารู้ว่ามันติดไฟ ระบบไฟฟ้าที่เกี่ยวข้องก็จะต้องใช้อุปกรณ์ที่ป้องกันการระเบิดหรือการเกิดประกายไฟได้ (Explosion proof) แต่ในระบบแอร์บ้านนั้นไม่มีระบบนี้อย่างแน่นอนครับ เพราะเค้าใช้สารทำความเย็นที่ไม่ติดไฟครับ คุณคนปากช่องทำไมคิดตื้นๆจังว่า เมื่อบริษัทฯใหญ่เค้าใช้แล้ว คุณก็จะนำมาใช้กับอะไรก็ได้ คิดอย่างนี้เค้าเรียกว่าคิดเข้าข้างตัวเองนะครับ แล้วผมก็ได้เข้าไปดูข้อมูลที่คุณให้มาหมดแล้ว แต่ผมยังไม่เห็นมีแม้แต่เว็บเดียวเลยว่ามีการใช้ PROPANE (R290) กับแอร์บ้าน เห็นมีแต่ใช้กับแอร์ในรถยนต์ ซึ่งเค้าเน้นเรื่อง Green house effect ซึ่งผมก็เห็นด้วยนะครับ ว่าควรใช้ เพราะปจจุบันในรถยนต์ก็มีการใช้ PROPANE (R290) ซึ่งเป็นส่วนผสมที่มีอยู่ในก๊าซ LPG ที่ใช้กันอยู่อย่างแพร่หลาย และผมก็จะขอใช้ด้วยคน ถ้ารถผมใช้ R12 แต่มันใช้ R134A ซึ่งก็ไม่มีผลในเรื่อง Green house effect อยู่แล้ว ขอข้อมูลที่มีการใช้ PROPANE (R290) หรือ COLD22 กับแอร์บ้านหน่อยสิครับ ถ้ามีก็จะเป็นเรื่องดีและทำให้ผู้ที่ใช้ COLD22 อยู่มีความมั่นใจมากขึ้นด้วย เพราะการใช้ PROPANE (R290) ในแอร์รถยนต์ ผมก็ว่ามีความปลอดภัยอยู่ในระดับที่สูง เพราะถึงแม้จะเกิดการรั่วก็ยังมีพื้นที่อีกมากบนพื้นถนนให้มันกระจายตัวไปได้ และคนทำงานส่วนใหญ่ก็จะใช้เวลาอยู่ในรถยนต์เพียงไม่นานคือในช่วงเวลาที่ขับรถไปทำงานและกลับบ้าน และก็จะมีใช้สำหรับในเรื่องส่วนตัวอีกแต่ก็ไม่มาก ไม่เหมือนแอร์บ้านซึ่งเราก็ต้องใช้เวลาอยู่กับมันอย่างน้อยก็ 8-10 ชม.เป็นอย่างน้อยต่อวัน ซึ่งถ้าคำนึงถึงความปลอดภัยย่อมน้อยกว่าแอร์รถยนตร์แน่นอนครับ คุณคนปากช่องเห็นด้วยมั้ยครับ คำอธิบายตาม คห 45 อย่านี้หนักแน่นครับ มีแหล่งข้อมูลชัดเจน เสนอข้อมูลครบถ้วนตามจริง ไม่เข้าข้างใคร และยังเสนอน้ำยาทางเลือก R410A ไว้ให้พิจารณาอีก 1 ตัวด้วย ข้อมูลแบบนี้แหละครับที่ผมมองหาอยู่ R410A เป็นน้ำยาตัวใหม่ที่ผมสนใจศึกษามาก ยังไม่ค่อยมีคนใช้ในเมืองไทย กำลังหาข้อมูลให้ครบถ้วนในทุกแง่มุมก่อนจะนำออกเผยแพร่ครับ รอบหน้า Propane (R290) ปะทะ Puron (R410A) ตัวไหนดีกว่ากัน มีข้อดีข้อเสียยังไง มีความเสี่ยงมากไหม ตัวไหนน่าใช้กว่ากัน ผมจะไปหามาให้ดูกัน แต่รอหน่อยนะครับ ผมมาให้ข้อมูลเพราะอยากรู้คุณสมบัติของน้ำยาแอร์แต่ละตัว ที่สำคัญผมยังไม่เคยเห็นใครมาให้ข้อมูลอย่างละเอียด หรือเปรียบเทียบน้ำยาแต่ละตัวให้ดูสักที ไม่มีใครทำแต่อยากรู้เลยต้องทำเอง ลองเอง น้ำยาที่เอามาลองก็ซื้อเอง อุปกรณ์ที่เอามาทดลองก็แอร์ของตัวเอง พังก็พังเอง ใช้ดีก็เอามาบอกต่อ ไม่ได้เชียร์ใครทั้งสิ้น ต่อไปรับรองว่าถ้าเปรียบเทียบ Propane กับ Puron แล้วผลออกมาว่า Puron มันประหยัดไฟพอๆกัน ไม่ติดไฟ ไม่ทำลายชั้น Ozone ผมก็จะบอกว่า Puron มันดีกว่า โดยไม่ดันทุรังเชียร์ Propane ครับ เพราะผมไม่ได้ผลประโยชน์จากใคร สิ่งที่อยากได้คือน้ำยาแอร์ที่ดีที่สุดสำหรับทุกคน ในราคาที่สมเหตุผล ปัญหาอย่างเดียวคือ ยังไม่รู้จะหา Puron จากไหนมาลอง ได้ยินมาว่าไม่สามารถเติม Puron ลงในแอร์เดิมที่มีอยู่ได้ มันต้องซื้อแอร์ใหม่ เท่านั้น ซึ่งผมคงไม่ลงทุนขนาดนั้น สงสัยทำได้เฉพาะภาคทฤษฎี จากคุณ : คนปากช่อง (super yellow bird) - [ 31 ส.ค. 50 07:36:51 ] จากคุณ : เจ้าหน้าที่ - [ 3 ก.ย. 50 10:07:38 A:125.26.64.196 X: TicketID:153696 ]

ความคิดเห็นที่ 27 ได้ความรู้ดีครับ อ่านมาทั้ง 2 กะทู้เลย ส่วนตัวตอนนี้ทดลองใช้น้ำยาแอร์ Cold12 อยู่ครับ ก็ไม่เห็นมีปัญหาอะไรเลย รถใช้มา 20 กว่าปีแล้ว ตามความเห็นส่วนตัวผมว่าถ้ามันติดไฟง่ายขนาดนั้นเค้าคงไม่ผลิตออกมาขายหรอกมั้งครับ ถึงถ้ามันรั่วในห้องจริงๆผมว่ามันก็คงผสมกับอากาศและไหลออกไปภายนอกจนหมดแระครับ เพราะผมคิดว่าคงไม่มีใครที่นอนหรืออาศัยอยู่ในห้องที่ปิดตาย 100% หรอกนะครับ จากคุณ : หนึ่ง - [ 3 ก.ย. 50 15:43:01 A:210.246.80.10 X: TicketID:154413 ]

ความคิดเห็นที่ 28 ผมอ่านครบแล้วได้ข้อมูลดีมากๆ เลยครับ ขอบคุณสำหรับข้อมูลที่หามาให้อ่านกัน ที่เหลือก็ให้คนอ่านตัดสินใจเองละกันนะครับ ผมคิดเองได้ว่าจะใช้ไม่ใช้ ผมลองหาข้อมูลเล่นๆ ใน google ดูครับ เห็นว่ามีหลายๆ ประเทศเขาก็จัดจำหน่ายกันนิครับ อ่านมาทั้งหมด ก็สรุปว่า มันเป็นสินค้าทางเลือก ถ้าคุณเห็นว่าดีคุณก็ใช้  ถ้าคุณเห็นว่ามันไม่ดี คุณก็ไม่ต้องไปใช้ ก็เท่านั้นเอง... งง... - ทำไมตั้งกระทู้เกี่ยวกับน้ำยาแอร์ตัวนี้ ทำไมเยอะแยะจังว่ะ? - แล้วดูข้อความที่คุณเขียนนั้น ก็ออกแนวยุยงให้คนที่เข้ามาอ่านไม่ให้ไปใช้สารความเย็นตัวดังกล่าว (ข้อความที่คุณเขียนบอกมา...มันบ่งบอกไม่ใช่แค่คำเตือนนิคับ) - แล้วอีกอย่าง ร้านเจริญแอร์เขาบริการลูกค้าไม่ดีอย่างนั้นเลยหลอครับ...แต่ผมได้เข้าไปดูในเวปของทางเจริญแอร์แล้ว ก็ไม่เห็นลูกค้าเขาจะโพสท์กลับมาต่อว่าเลยนิคับ Link บางส่วนนะคับ ขี้เกียจหาเพิ่ม ขายที่ UK http://www.care-refrigerants.co.uk/hmpg/hmpgdisplaylev1.asp?catid=3&idofuser= ประเทศเกาหลี http://www.mkchemical.co.kr/ ประเทศสิงค์โปร์ http://www.coldtechnik.com/index.htm ที่ประเทศไทยมี 2 บริษัทฯ ที่จัดจำหน่าย สาร HC Refrigerant http://www.aplubricants.com/ http://www.coolmangroup.com/coolman_catalog_list.php?t_category=p11 (บริษัทฯนี้ที่คุณกล่าวอ้างถึงสินค้าเขาอยู่) ที่อเมริกา http://www.redtek.com/index.html จากคุณ : enforce (enforce) - [ 3 ก.ย. 50 21:14:31 ]

ความคิดเห็นที่ 29 ตอบคห  26 คุณเจ้าหน้าที่ คุณยังทำตัวหลบๆ ซ่อนๆเหมือนเคย   บอกแล้วไงครับ ว่าลูกผู้ชาย กล้าทำ กล้ารับ ทำอะไรเปิดเผย ไม่ต้องแอบใช้บัตรผ่าน ที่ผมเห็นด้วยคือสิ่งที่คุณแปลบทความใน wikipedia มา ซึ่งแปลออกมาตรงๆ   แต่สิ่งที่คุณสรุปในกระทู้ที่ตั้งขึ้นใหม่นี้ผมไม่เห็นด้วยครับ  ในกระทู้นี้คุณได้พูดฟันธงในหลายๆเรื่อง ที่บทความใน wikipedia ไม่ได้พูดถึง ซึ่งผมไม่เห็นด้วย คุณยกบทความมาอ้างแต่กล่าวสรุปเกินกว่าที่บทความพูดไว้ คุณควรจะตอบคำถามใน คห 16, 18 , 21, 24 ที่ผมถามให้ได้เสียก่อน   ที่ผ่านมาทั้งหมด คุณยังไม่สามารถหักล้าง ข้อพิสูจน์ของผมได้นะครับ เอาแต่อ้างเรื่องผมรู้จักคนอื่น หรืออ้างเรื่องติดไฟ  ยังไม่มีการแสดงข้อพิสูจน์จากฝ่ายคุณมาหักล้าง  นี่น่ะหรือการถกเถียงแบบที่ให้ข้อมูลครบถ้วน   ใครกันแน่ที่เป็นฝ่ายให้ข้อมูล   ข้อมูลที่คุณเอามาอ้างถึงก็มาจากที่ผมค้น  แถมคุณยังพูดเกินจริงจากในบทความไปอีก   ตรงไหนที่คุณค้นมาเอง??? ไหนพิสูจน์มาสิว่าที่ผมคำนวนน่ะถูกไหม? ต่อมา ที่ผมแสดงการคำนวนไปตั้งเยอะในกระทู้เดิม และยกมาที่กระทู้นี้ คุณบอกมาสิครับว่ามันผิดไหม    ถ้ามันไม่ผิด สิ่งที่ผมสรุปจากการคำนวนว่า ถ้าpropane เกิดรั่วในห้องตามที่คุณกล่าวมา  มันรั่วน้อยมากจนไม่ติดไฟเพราะความเข้มข้นต่ำกว่าจุดติดไฟ 388 เท่า  ตอบมาครับ ? ถ้าคุณอ่านบทความทั้งหมดจริง  บอกมาสิว่าในบทความนั้น อ้างถึงหลายบริษัทในยุโรป และญี่ปุ่น เปลี่ยนมาใช้ propane แล้ว มีบริษัทอะไรบ้าง แล้วบริษัทพวกนั้นผลิตสินค้าอะไร  ? ผมถามคุณไปเป็นสิบคำถาม คุณไม่ตอบสักคำถาม  เวลาผมแย้งคุณน่ะ ผมจับมาแย้งทีละประเด็นเลย แล้วจนป่านนี้คุณก็ไม่สามารถแย้งคำถามผมได้เสียที คุยแบบนี้  น่าเบื่อ เพราะคุณเลื่อนลอย ไม่สามารถแย้งผมได้ ผมจะยังไม่ research เพิ่มให้เสียเวลาจนกว่าคุณจะตอบคำถามทั้งหมด  ให้ครบทุกข้อ  ซึ่งจะทำให้คุณต้องไปคิด 18 ตลบมาก่อน  หลังจากคุณคิดมากๆแล้วเราค่อยมาคุยใหม่ อ่านทุก link ใน คห 28 ด้วย มันจะตอบคำถามที่คุณถาม จากคุณ : คนปากช่อง (super yellow bird) - [ 3 ก.ย. 50 22:53:49 ]

ความคิดเห็นที่ 30 ส่วนเรื่องคุณไปป่วน web ของร้านแอร์นั้น คิดง่ายๆครับ ถ้ามีใครก็ไม่รู้ เข้ามายืนในบ้านของคุณ แถมว่าลูกคุณ หรือคนในครอบครัวของคุณ   คุณจะนั่งฟังเฉยๆไหม ???? เอาไว้คุณเปิด web ขายของบ้าง แล้วมีคนไปป่วนอย่างที่คุณทำ คุณจะทำอย่างไร??? จากคุณ : คนปากช่อง (super yellow bird) - [ 3 ก.ย. 50 22:59:47 ]

ความคิดเห็นที่ 31 อื่ม....ใช่ครับ เห็นด้วยกับ คห30 ครับ คุณเจ้าหน้าที่ (ชื่อนี้ก็อ้างมาจาก ผู้ดูแลเวปเจริญแอร์) คิดกลับกันดูละกันครับ ใจเขาใจเรา ทำยังงี้แล้ว.... ถ้าคุณยังมีความสุขก็เชิญเถิดครับ จากคุณ : ข้างๆ ก็บอกอยู่นิ (enforce) - [ 4 ก.ย. 50 00:22:45 ]

ความคิดเห็นที่ 32 ผมลองหาราคา น้ำยาแอร์ของ Dupont แท้ๆ ใน Google ดูนะครับ มันตกกิโลละ 193 บาทนิคับ น่าจะเป็นราคาที่ขายอยู่ในประเทศที่เขาผลิตนะครับ เอาราคา 75 x 35 = 2525 บาท หารน้ำหนักถัง 13.6 จะได้ก.ก.ละ 193 (ไม่รู้ผมคิดถูกหรือเปล่านะครับ ใครมีข้อคิดเห็นเพิ่มเติมก็ช่วยชี้แนะด้วยละกันคับ) http://business.search.ebay.com/r22_Other-HVAC-Parts_W0QQfasiZ0QQsacatZ42911 ถ้านำเข้ามาขายในประเทศไทย ผมว่าน่าจะมี + ค่าใช้จ่ายในการขนส่ง + กำไรของผู้นำเข้ามาจำหน่าย + บวกค่าดอกเบี้ยอีก + จิปาถะอีกเยอะแยะอ่ะคับ กิโลละ 125 บาท นั้นไม่น่าช่ายย ของแท้แล้วมั่งครับ จากคุณ : ตามมาให้ข้อคิดต่อคร้าบบ (enforce) - [ 4 ก.ย. 50 10:34:39 ]

ความคิดเห็นที่ 33 มาอ่านต่อ จากคุณ : ต้นโพธิ์ต้นไทร - [ 4 ก.ย. 50 22:44:44 ]

ความคิดเห็นที่ 34 เปนผมนัดมา ตัว ตัว เลย  ลำคาญเถียงกันอยู่ได้ จากคุณ : valentine14 (valentine14) - [ 13 ก.ย. 50 21:51:44 ]

ความคิดเห็นที่ 35 ความคิดเห็นที่ 34 เปนผมนัดมา ตัว ตัว เลย ลำคาญเถียงกันอยู่ได้ <<< พิมพ์ ผิด.. จากคุณ : valentine14 (valentine14) คิดได้แค่นี้อ่ะนะ -..- เป้นผมๆ ก็เลือก hc(cold) ครับ.. ทั้งหมดเลย 12 134 22 ถ้าให้เลือกก็ใช้ ตามนั้นทั้งหมดแหละ. ในรถใช้เพราะ แรงดันที่ต่ำ = กำลังที่ต้องใช้ไปในการอัดต่ำลง ประหยัดน้ำมัน. มากกว่า ส่วนแอร์ บ้าน ค่าไฟเดี๋ยวนี้แพงครับ . โดยความน่าจะเป็นแล้ว.. ถ้าดูแลระบบดี ไม่ได้ซ่อมกันบ่อยๆ หรอกครับ..แอร์น่ะ ที่สำคัญ ไอ้พวกนี้ผมทำเองได้หมดเลย ถ้ามีเครื่องมือ ดังนั้น ถ้าเรียกช่างมาทำ ผมคุมงานได้ครับ.. ระบบแอร์ทั้งหลายแหล่ที่มันมีปัญหากันน่ะ ช่างติดตั้งทำงานไม่ได้ มาตรฐานทั้งนั้น.. ถ้าทำตามขั้นตอน มาตรฐาน ไม่มีปัญหาหรอกครับ.. แม้แต่เรื่อง ผุ.. ก็มาจากการติดตั้ง.. เชื่อป่าว.. เหอะๆ จากคุณ : . ไม่สามารถใช้การได้ชั่วคราว . - [ 25 ก.ย. 50 07:40:28 A:124.120.3.163 X: TicketID:143768 ]