ความคิดเห็นที่ 1 นี่เป็นลักษณะระเบียงจากหอพักฝั่งตรงข้าม เป็นลูกกรงปูนดามเหล็ก ลักษณะเหมือนระเบียงของเรา แต่ของเราจะมีพื้นที่ระเบียงยาวแค่ครึ่งหนึ่งของระเบียงตึกฝั่งตรงข้ามนะคะ บริเวณลูกกรงเดิมของเรามันเป็นจุดที่พอจะได้แดดบ้าง ดังนั้นเราจะใช้ตำแหน่งนี้ให้ได้ประโยชน์สูงสุด และจะใช้พื้นที่นอกตัวอาคารอีกนิดหน่อยเพื่อให้ได้ประโยชน์สูงสุดในการปลูกต้นไม้เช่นกัน เพราะหลายห้องต่อโครงเหล็กดัดยื่นออกไป และบางห้องติดตั้งหม้อแอร์อยู่นอกอาคาร ดังนั้นเราขอใช้สิทธิ์นอกระเบียงเหมือนห้องอื่นบ้าง เพียงแต่มันต้องแข็งแรงที่จะไม่ทำความเดือดร้อนไปยังผู้คนและรถที่จอดอยู่เบื้องล่างในเวลาที่มีลมแรง หรือมันจะไม่ร่วงหล่นลงไปในวันที่ไร้ลม ซึ่งการขอใช้สิทธิ์นี้ผ่าน พรบ. จากฝ่ายผู้ดูแลหอพักเรียบร้อยแล้วนะคะ จากคุณ : ซาไปรส์ - [ 27 ต.ค. 50 22:39:50 ]

ความคิดเห็นที่ 2 เราจะทำการทุบลูกกรงเก่าทิ้งไป แล้วก่อกำแพงหลุมขึ้นมาใหม่ให้สูงกว่าลูกกรงเดิมเล็กน้อย และด้านล่างของกำแพงหลุมจะเจาะช่องสี่เหลี่ยม 3 ช่อง เพื่อให้หย่อนกระถางขนาดเล็ก 10 ซม. ลงไปบนหลุมด้านบนและด้านล่างได้พอดี จากนั้นจะทำโครงไม้เลื้อยหรือสำหรับไม้ห้อยโหนขนาดเล็ก  เราเลือกวัสดุน้ำหนักเบาเป็นท่อนอลูมิเนียมกลมสีชาขนาด 1” เป็นโครงคู่กันไปทั้งด้านบน-ด้านล่าง ด้านซ้าย-ด้านขวาอย่างละ 2 เส้น ใช้ท่อ PVC เป็นตัวต่อช่วงหักมุมแล้วทาสีโอ๊คให้เข้ากับสีชาของโครงอลูมิเนียม ส่วนกำแพงหลุมที่สร้างขึ้นจะติดกระเบื้องแผ่นเล็กสีขาว และติดโดยรอบที่ผนังด้านในอีก 3 ด้าน แต่กำแพงหลุมจะต้องมีความกว้างกว่าฐานลูกกรงเดิม เพื่อใส่กระถางขนาด 10 ซม. ได้พอดี จึงต้องยอมเสียพื้นที่ภายในระเบียงไปนิดนึง มีการฝังท่อระบายน้ำที่หลุมด้านบนและหลุมด้านล่าง เมื่อสร้างเสร็จแล้วพบว่าท่อระบายน้ำที่ฝังไว้ที่หลุมด้านบนและหลุมด้านล่างใช้งานได้ดีมาก ภายในหลุมทั้งหมดโรยกรวดไว้ที่ชั้นล่าง ขอบด้านในของหลุมทั้งหมดละเลงกันซึม แล้วปูทับด้วยตาข่ายสีเขียวค่ะ จากคุณ : ซาไปรส์ - [ 27 ต.ค. 50 22:40:37 ]

ความคิดเห็นที่ 3 เสร็จเรียบร้อยกับผลงานออกมาดอย ๆ สมใจนึกบางลำพูเลยค่ะ คราวนี้ก้อเข้าสู่ยุคที่ 1 ของการปลูกต้นไม้ที่ระเบียงสีขาวของเราแล้วค่ะ ความตั้งใจเดิมที่จะหย่อนต้นไม้ทั้งกระถาง (ขนาด 10 ซม.) ไว้ที่หลุมด้านบนและด้านล่าง แต่บังเอิญว่ายุคที่ 1 จะทดลองปลูกไม้เลื้อยขนาบซ้าย-ขวาที่หลุมด้านบนก่อน ดังนั้นการใส่ต้นไม้ทั้งกระถางสำหรับไม้เลื้อยจะไม่ได้ เพราะกระถางมีขนาดเล็กเกินไป เราจึงต้องนำดินลงหลุมทั้งหมดทั้งด้านบนและด้านล่าง ส่วนไม้ที่จะนำมาปลูกบนหลุมด้านบนตลอดแนวในยุคที่ 1 เราเลือก “พรมออสเตเรีย” เช็คสเปคแล้วพบว่าเค๊าน่าจะอยู่ได้ในสภาพแวดล้อมที่อึมครึมในลักษณะนี้ จากคุณ : ซาไปรส์ - [ 27 ต.ค. 50 22:41:30 ]

ความคิดเห็นที่ 4 สำหรับไม้เลื้อยด้านซ้ายมือของหลุมด้านบน เราตกลงใจเลือก “คุณนายพวงวิวาห์” ให้ดอกขนาดเล็กสีขาว ออกดอกตลอดปี แถมมีกลิ่นหอม ตรงสเปคถูกใจใช่เลยค่ะ ซื้อมาต้นสูงไม่มาก จับเค๊าพันไปกับโครงอลูมิเนียมสีขา ในช่วงแรกดูเหมือนว่าน่าจะไปได้ดี ให้ดอกออกมาถึง 2 รอบ ยอดพุ่งสูงขึ้นไปเรื่อย ๆ ค่ะ จากคุณ : ซาไปรส์ - [ 27 ต.ค. 50 22:42:10 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ส่วนไม้เลื้อยทางด้านซ้ายมือ เราตกลงใจเลือก “คุณนายพวงแส” ให้ดอกขนาดเล็กสีม่วง ไม่มีกลิ่น แต่ออกดอกได้ตลอดปี นำเข้ามาพร้อมกับ “คุณนายพวงวิวาห์” ขนาดต้นเท่า ๆ กัน ให้ดอกออกมาถึง 2 ยก และยอดพุ่งสูงไปเรื่อย ๆ อีกเช่นเดียวกัน ได้แต่ฝันว่าวันหนึ่งทั้ง 2 คุณนายจะร่วมด้วยกันเลื้อยไปจบกันที่ด้านบนของโครงอลูมิเนียมด้านบนที่ตรงกลาง โดยฝั่งหนึ่งจะเห็นดอกสีขาว และอีกฝั่งจะเห็นดอกสีม่วงนะคะ จากคุณ : ซาไปรส์ - [ 27 ต.ค. 50 22:42:37 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ก่อนที่คุณนายพวงวิวาห์และคุณนายพวงแสจะเลื้อยขึ้นไปชนกันที่โครงอลูมิเนียมด้านบน เราได้นำไม้กลุ่มทิลแอนด์เซียมาห้อยโหนเล่น ๆ อีกนิดหน่อย เนื่องจากเค๊ามีน้ำหนักเบา ไม่ต้องใช้ดิน จึงห้อยด้วยสายไฟแล้วนำไปห้อยโหนอยู่บนโครงอลูมิเนียมด้านบนไปพลาง ๆ ก่อน ที่ห้อยอยู่กลางอากาศทั้งหมดคือกลุ่ม ทิลแอนด์เซีย ประกอบไปด้วยหนวดแป๊ะ 2 พวง และพันธุ์อื่นอีก 6 ต้น ในช่วงแรก ๆ มองไปดูโหรงเหรงมากมาย แต่การปลูกต้นไม้ต้องใจเย็น เรารอได้ค่ะ จากคุณ : ซาไปรส์ - [ 27 ต.ค. 50 22:43:27 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ส่วนด้านล่างของกำแพงหลุมที่เจาะช่องไว้ 3 ช่อง เราเลือกบอนขนาดเล็กมาลง ชอบที่ขนาดเล็กกระทัดรัดและใบมีสีขาวแซม และให้ความสูงที่สมดุลกับความสูงของช่องที่เจาะไว้ แต่ไม่ค่อยเวิร์ค  นับวันมีแต่ละหดลงไปเรื่อย ๆ แม้ว่าจะมีการงอกใหม่เกิดขึ้น แต่ไม่พองฟูสวยงามเป็นพุ่มหนาตาขึ้นสักทีค่ะ สรุปก้อคือในยุคที่ 1 พันธุ์ไม้ทั้งหมดประกอบไปด้วยไม้เลื้อย 2 ชนิด และไม้ห้อยโหนกลางอากาศกลุ่มทิลแอนด์เซีย มีพรมออสเตรเรียที่หลุมด้านบน และบอนใบด่างขนาดเล็กที่หลุมด้านล่าง เมื่อเวลาผ่านไปพบว่าเราไม่ประสบความสำเร็จกับกลุ่มไม้ทั้งหมด ยกเว้นกลุ่มทิลแอนด์เซียที่ยืนยงคงกะพันรอดมาจนถึงปัจจุบันค่ะ จากคุณ : ซาไปรส์ - [ 27 ต.ค. 50 22:44:09 ]

ความคิดเห็นที่ 8 เข้าสู่ยุคที่ 2 ของการเปลี่ยนแปลงพันธุ์ไม้ที่มีปัญหาเกือบทั้งหมด สำหรับหลุมกำแพงด้านบนหลังจากล้มเหลวกับการปลูกพรมออสเตรเรีย และอกหักกับบอนใบด่างที่หลุมด้านล่าง เราจึงรื้อดินทั้งหมดในหลุมออก จากนั้นซื้อตุ๊กแกใบด่างที่กระถางขนาด 10 ซม. แล้วหย่อนทั้งกระถางไว้ตลอดแนวหลุมด้านบน ส่วนหลุมล่างก้อเปลี่ยนจากบอนใบด่างเป็นตุ๊กแกใบด่างเช่นเดียวกัน การเลือกใช้กระถางสะดวกที่สุดสำหรับเรา สามารถเคลื่อนย้ายสับเปลี่ยนที่จุดแดดส่องไม่ถึง และยกต้นไม้ที่หลุมล่างมาสับเปลี่ยนที่หลุมข้างบนได้ หรือในฤดูหนาวที่ไม่มีแดดแว็บเข้ามาเลยก้อยกไปชิมแดดในห้องตรงหน้าต่างบานคู่บ้าง และเวลาเราไม่อยู่หลายวันก้อนำกระถางทั้งหมดมาไว้ที่พื้นด้านล่าง วางบนจานรอง ใส่น้ำให้เอ่อไว้ มันก้อจะอยู่ได้หลายวันโดยไม่ต้องรดน้ำ ไม่มีอะไรยุ่งยากเลยค่ะ จากคุณ : ซาไปรส์ - [ 27 ต.ค. 50 22:44:43 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ส่วนด้านบนของโครงอลูมิเนียม เราถอนไม้เลื้อยที่ขนาบซ้าย-ขวาออกไป โดยกลุ่มทิลแอนด์เซียในยุคที่ 1 ยังคงมีชีวิตอยู่ทั้งหมดมาจนถึงยุคที่ 2 จากนั้นซื้อไม้ดินลงกระถางมาเพิ่มคือ ไอวี่ใบด่าง เดรป และต้นหม้อค่ะ การห้อยโหนไม้กระถางใช้ดินทั้ง 3 ชนิด จะถูกติดไว้ที่โครงด้านข้างโดยมีตัวยึดกระถางไว้อย่างดีหลายชั้นชนิดขยับไม่ได้ และป้องกันการร่วงหล่น แต่ภาพที่ถ่ายมีการเคลื่อนย้ายตำแหน่งและปลดตัวยึดกระถางไว้ชั่วคราวค่ะ จากคุณ : ซาไปรส์ - [ 27 ต.ค. 50 22:45:14 ]

ความคิดเห็นที่ 10 เป็นภาพที่มองออกจากหน้าต่างบานเดี่ยวภายในห้องตรงจุดเตียงนอนนะคะ พอลุกจากเตียงขึ้นก้อจะเห็นต้นไม้ที่ระเบียงเลย พอจะล้มตัวลงนอนก้อกู๊ดไนท์กับต้นไม้ก่อนนอนค่ะ นั่งลุ้นนอนลุ้นรอดูผลความคืนหน้าทุกวันเลยค่ะ จากคุณ : ซาไปรส์ - [ 27 ต.ค. 50 22:45:48 ]

ความคิดเห็นที่ 11 เมื่อเข้าสู่ยุคที่ 2 ตอนกลาง เราได้ซื้อกลุ่มทิลแอนด์เซียมาเพิ่มคือหนวดแป๊ะ เพราะเห็นว่ามันอยู่ได้อย่างมีสุขภาพดี ซื้อยกแผงมาเลยค่ะ แรก ๆ จะดูหรอมแหรมยังไม่พองฟูและครึ้มตามที่อยากได้นะคะ ส่วนทิลแอนด์เซียชนิดเดิมและซื้อเพิ่มมาอีกนิดหน่อยยังคงห้อยโหนด้วยสายไฟบนโครงอลูมิเนียมค่ะ จากคุณ : ซาไปรส์ - [ 27 ต.ค. 50 22:46:19 ]

ความคิดเห็นที่ 12 จากนั้นเข้าสู่ยุคที่ 2 ตอนปลาย หนวดแป๊ะเริ่มพองฟูและยาวขึ้น ส่วนทิลแอนด์เซียที่มีมาแต่ยุค 1 และซื้อเพิ่มในยุคที่ 2 นี้ ถือว่าประสบผลสำเร็จเหมือนเช่นเคย สำหรับหม้อเติบโตได้ดี ไอวี่และเดรปก้อถือว่าประสบผลสำเร็จเป็นที่น่าพอใจ แต่ตุ๊กแกใบด่างที่กำแพงหลุมด้านบนและด้านล่างกลับโทรมลงเรื่อย ๆ ไม่สวยเหมือนซื้อมาตอนแรก เมื่อตัดตกแต่งกิ่งมันก้องอกขึ้นมาใหม่ แต่ไม่สวยใสปิ๊ง ๆ เหมือนเดิมนะคะ เมื่อตุ๊กแกใบด่างที่หลุมด้านบนมีปัญหา ดังนั้นจึงมีการเปลี่ยนแปลงพันธุ์ไม้อีกครั้งจากตีนตุ๊กแกเป็นกลุ่มเฟิร์นค่ะ จากคุณ : ซาไปรส์ - [ 27 ต.ค. 50 22:47:11 ]

ความคิดเห็นที่ 13 เข้าสู่ยุคที่ 3 กันแล้ว หลังจากไม่ประสบผลสำเร็จกับตุ๊กแกใบด่างที่หลุมด้านบนตลอดแนวและหลุมด้านล่าง ก้อเลยต้องหันไปพึ่งเจ้าเฟิร์นตามคำแนะนำของคุณพี่ชาย เขามั่นใจพวกมันจะอยู่ได้ดีบนระเบียงสีขาวของเรา แถมไม่ต้องซื้อ อิมปอร์ตมาจากบ้านนอกเลยค่ะ เฟิร์นที่คุณพี่ชายเอามาจากบ้านนอกรวม 3 ชนิด ชนิดแรกเป็นเฟิร์นขนนก เอามาให้เราแบ่งใส่กระถางได้แค่ 2 กระถาง และในตอนนั้นทั้ง 2 กระถางมันหรอมแหรมเต็มที เราก้อได้แต่บ่น แบกมาทั้งทีเอามาแค่เนี๊ยะ คุณพี่ชายก้อบอกว่าปลูกต้นไม้ต้องใจเย็น จะขนมามากมายหาพระแสงปฏักทำไม เดี๋ยวก้อแยกมันได้เต็มห้องแล้ว จริงอย่างที่คุณพี่ชายบอก อยู่ต่อไปมันบานพองฟูเป็นหัวผักกาด เขาสอนให้เราหัดแยกเพิ่ม จาก 2 กระถางอันหรอมแหรมในอดีต ปัจจุบันเราแยกได้เป็น 9 กระถางแล้ว และแต่ละกระถางมันบานเป็นหัวผักกาดเต็มที่ยึดพื้นที่หลุมด้านบนตลอดแนวเลยค่ะ ทุกวันนี้ยังคงแยกมันต่อไป แต่ต้องคอยแหวกดูข้างใน กิ่งไหนเริ่มแห้งต้องตัดทิ้ง คือให้มันโปร่งพอหายใจได้บ้าง เพราะเค๊าจะขึ้นแบบหนาแน่นมาก จากคุณ : ซาไปรส์ - [ 27 ต.ค. 50 22:47:48 ]

ความคิดเห็นที่ 14 เฟิร์นบอสตันขนาดเล็ก เป็นอีกชนิดหนึ่งที่นำมาจากบ้านนอก เอามาลงได้แค่กระถางเดียว ปัจจุบันเราแยกได้รวมเป็น 4 กระถางแล้วค่ะ จากคุณ : ซาไปรส์ - [ 27 ต.ค. 50 22:48:39 ]

ความคิดเห็นที่ 15 เฟิร์นบอสตัน เมื่อบานเป็นกระโปรงเต็มที่จะมีหน้าตาแบบนี้นะคะ แต่จากภาพยังบานไม่เต็มที่นะคะ ปัจจุบันมันบานและโตจนดินหายไปหมดแล้ว อีกไม่นานคงต้องผ่าตัดใหญ่เพื่อแยกกอแล้วค่ะ ส่วนอีก 3 กระถางที่แยกได้ก้อบานเป็นกระโปรงมีขนาดลดหลั่นกันตามลำดับ เฟิร์นชนิดนี้เราเอาไว้ติดตั้งที่ผนังด้านข้าง และประดับไว้ตามมุมห้อง ไม่ได้เอาไว้ที่หลุมด้านบนและด้านล่างค่ะ เพราะเค๊าต้องใช้พื้นที่แยะ ถ้าเอามาวางใกล้กันใบจะชนกัน ทำให้หงิกงอไม่บานเป็นกระโปรงสวย ๆ แบบในภาพนะคะ จากคุณ : ซาไปรส์ - [ 27 ต.ค. 50 22:49:25 ]

ความคิดเห็นที่ 16 เฟิร์นใบมะขาม เป็นชนิดสุดท้ายที่นำมาจากบ้านนอก เป็นชนิดที่ขี้เหร่ที่สุด แต่ด้วยที่เขาจะมีความสูงเหมาะสำหรับหลุมด้านล่าง เราจึงแยกให้ได้ 6 กระถางสำหรับวางหลุมด้านล่างได้ครบพอดี จากภาพถ่ายไว้ในช่วงแรก ๆ ที่นำมาปลูก ยังไม่พองฟูมาก พออยู่ไปใบก้อฟูเต็มที่ กิ่งก้านจะหนาแน่นและยื่นเข้ามาในเขตระเบียงมากกว่านี้ สรุปในยุคที่ 3 นี้ เป็นยุคของเฟิร์นที่เข้ามายึดครอบครองพื้นที่ตลอดแนวหลุมด้านบนและด้านล่าง ผ่านร้อน ผ่านฝน และผ่านหนาวจนครบ 1 ปีเศษ พบว่าเฟิร์นทั้ง 3 ชนิดมันเหมาะกับสภาพแวดล้อมที่ระเบียงสีขาวของเรามาก และไม่ต้องเสียเงินอีกต่างหาก แค่คอยตัดแต่งกิ่งแห้ง ๆ ตลอดเวลา มีใส่ปุ๋ยธรรมชาติบ้าง ใส่ปุ๋ยเม็ดบ้าง แต่ไม่เน้นการใส่ปุ๋ยเป็นหลัก นาน ๆ ใส่ครั้งหนึ่ง เลี้ยงโดยยึดหลักฝึกให้เค๊าอดทนน่ะค่ะ จากคุณ : ซาไปรส์ - [ 27 ต.ค. 50 22:51:54 ]

ความคิดเห็นที่ 17 ต่อมาในยุคที่ 3 ตอนกลาง เราได้ยกไม้กระถางทั้งหมดกลับบ้านนอก (ไอวี่+เดรป+หม้อ) คงเหลือแต่หนวดแป๊ะ ปัจจุบันมันกลายเป็นม่านบังตึกฝั่งตรงข้ามได้ดี สาเหตุที่ต้องยกไม้กระถางกลับบ้านทั้งหมด เพราะคุณพี่ชายไม่อนุมัติให้ห้อยโหนไม้ดินบนโครงอลูมิเนียมมากเกินไป แม้ว่าระบบยึดติดมันแน่นหนาพอและโครงอลูมิเนียมสามารถรับได้ แต่เค๊าไม่สบายใจที่เห็นเราห้อยโหนมากมายขนาดนั้น และอาจมีสักวันที่จะเกิดอุบัติเหตุต่อชีวิตและทรัพย์สินที่อยู่เบื้องล่างได้ แต่เรายังไม่วายจะซื้อไม้กระถางมาเพิ่มอีก 2 ชนิด (รายละเอียดไปอยู่ด้านล่างค่ะ) โดยเปลี่ยนจากกระถางเป็นกรวยแทนค่ะ และติดตั้งข้างละกรวยก้อแล้วกัน คืออยากให้มีความแปลกใหม่ทางสายตาบ้างที่นอกเหนือไปจากหนวดแป๊ะนะคะ จากคุณ : ซาไปรส์ - [ 27 ต.ค. 50 22:53:01 ]

ความคิดเห็นที่ 18 สำหรับกลุ่มทิลแอนด์ชนิดอื่นที่นอกเหนือจากหนวดแป๊ะ จากเดิมที่ห้อยโหนอยู่บนโครงอลูมิเนียมในยุคที่ 1 และยุคที่ 2  เราได้อัญเชิญลงมาติดกับแผ่นไม้น้ำหนักเบา แล้วนำไปแปะที่โครงอลูมิเนียมด้านขวามือแทน คืออยากจะแยกให้อยู่กันเป็นกลุ่ม ๆ น่าจะดูดีกว่า เพราะพวกนี้มีขนาดเล็ก พอนำไปห้อยโหนอยู่บนโครงอลูมิเนียมดูว่ามันกระจัดกระจายไปหน่อย และนี่เป็นช่วงแรกของการหัดแปะนะคะ แต่ปัจจุบันมีการแปะเพิ่มมากกว่านี้ค่ะ จากคุณ : ซาไปรส์ - [ 27 ต.ค. 50 22:53:54 ]

ความคิดเห็นที่ 19 กลุ่มทิลแอนด์เซียถือเป็นไม้ที่ปลูกได้ดีบนระเบียงสีขาวของเรา ในยุคที่ 3 จึงซื้อมาเพิ่มอีก ที่เห็นทั้งหมดอยู่ในระหว่างรออัญเชิญขึ้นแปะบนโครงอลูมิเนียมต่อไป ถือเป็นพันธุ์ไม้เลี้ยงง่าย ตายยาก แต่ละพันธุ์มีหน้าตาหลากหลาย น้ำหนักเบา ไม่ต้องใช้ดิน มีความเป็นอยู่ง่าย ๆ วางได้ในทุกภาชนะ หลังจากติดมันลงบนแผ่นไม้แล้ว รากจะไปติดที่แผ่นไม้ หากต้องการแกะออกไปไว้ที่อื่น ก้อสามารถทำได้ทันที แม้ว่าดึงแล้วรากจะขาดก้อตาม เพราะรากมีหน้าที่แค่ยึดเกาะ ไม่ได้ทำหน้าที่ดูดอาหารนะคะ กลุ่มที่เราซื้อมาเมื่อออกดอกแล้วจะได้หน่อใหม่ ส่วนหน่อแม่ก้อจะค่อยแฟบลงไป ถ้าแยกออกมาก้อจะได้เป็นต้นใหม่ จะไม่แยกให้ติดกันเป็นพวงก้อได้ค่ะ แต่ละชนิดให้หน่อมากน้อยแตกต่างกันค่ะ แต่พวกเค๊าจะโตช้า และถึงว่าจะโตขึ้นก้อไม่มากมายเท่าไหร่ จากคุณ : ซาไปรส์ - [ 27 ต.ค. 50 22:54:42 ]

ความคิดเห็นที่ 20 นี่เป็นซิลเวอร์ฟอล เป็นไม้ดินที่ให้ความห้อยย้อย เห็นแล้วถูกใจจึงนำมาห้อยไว้ที่โครงด้านซ้ายในยุคที่ 3  พี่ชายเคยสั่งงดห้อยกระถางไม้ดิน แต่เราจะบอกว่าเราไม่ใช้กระถางแล้ว แต่เป็นกรวยใยมะพร้าวแทน และใช้ระบบยึดติดกับโครงอลูมิเนียมด้านข้างไว้อย่างดี และที่แขวนด้านบนก้อติดระบบล็อคแน่นหนา เมื่อลมแรงไม่มีขยับให้เห็น ท่านพี่ชายจึงอนุโลมให้ห้อยโหนได้ แต่ต้องข้างละ 1 ต้นเท่านั้นนะคะ ทั้งนี้เพื่อความสบายใจค่ะ จากคุณ : ซาไปรส์ - [ 27 ต.ค. 50 22:55:19 ]

ความคิดเห็นที่ 21 มีห้อยข้างซ้ายก้อต้องมีห้อยข้างขวาอีก 1 ต้น เป็นเฟิร์นอีกชนิดหนึ่ง จำชื่อไม่ได้แล้วค่ะ ใส่กระถางกรวยอีกเช่นกัน แต่สุดท้ายไปไม่รอดทั้ง 2 กรวยล่ะค่ะ จากคุณ : ซาไปรส์ - [ 27 ต.ค. 50 22:56:02 ]

ความคิดเห็นที่ 22 เริ่มมองเห็นภาพกว้างขึ้นนะคะ ในวันฟ้าสีสวยจะได้อารมณ์หวาน ๆ ประมาณเนี๊ยะค่ะ จากคุณ : ซาไปรส์ - [ 27 ต.ค. 50 22:56:44 ]

ความคิดเห็นที่ 23 ให้เห็นแนวกว้างเต็มที่เท่าที่ทำได้แล้วนะคะ พอใจกับผลที่ออกมาในระดับหนึ่ง แต่ยังไม่พอใจที่สุดค่ะ จากภาพยังขยายเฟิร์นขนนกได้ไม่ตลอดแนว แต่ปัจจุบันมันบานฟูเต็มหมดแล้วค่ะ แก้ไขเมื่อ 27 ต.ค. 50 23:11:32 จากคุณ : ซาไปรส์ - [ 27 ต.ค. 50 22:57:50 ]

ความคิดเห็นที่ 24 มองลงที่พื้นด้านล่างกันบ้าง ผนังด้านในที่ติดกระเบื้องแผ่นเล็กสีขาวรอบ 4 ทิศทางเดิมบานประตูที่ระเบียงเดิมเป็นไม้เปอร์เซีย (ชอบสีของไม้เปอร์เซีย และราคาเอื้ออาทร) แต่หลังจากทำระเบียงใหม่ จึงต้องแบกมันไปเก็บที่บ้านนอก เพราะเกะกะ เวลาเปิดมันจะปิดทับไปที่ผนังด้านใน ขวางหูขวางตา จึงเปลี่ยนเป็นบานประตูพับพีวีซี ปกติเราจะเปิดประตูที่ระเบียงไว้ตลอด 24 ชม. (ไปทำงานก้อจะเปิดทิ้งไว้) แต่มีประตูมุ้งลวดปิดแทนอยู่ (แค่กันยุง) ไม่ต้องกังวลเรื่องความแข็งแรง เพราะไม่จำเป็นต้องมีความแข็งแรง การใช้งานผ่านมาแล้ว 2 ปี พบว่าบานประตูพับ PVC เหมาะกับสภาพที่ระเบียงของเรามาก ไม่มีใครจะปีนข้ามเข้ามาในห้องค่ะ (ตกลงไปตายก่อน) และระเบียงเราเป็นห้องมุมไม่ชนกับระเบียงของห้องอื่น มั่นใจว่ามีความปลอดภัยแน่นอนสำหรับสภาพแวดล้อมของเรานะคะ จากคุณ : ซาไปรส์ - [ 27 ต.ค. 50 22:58:27 ]

ความคิดเห็นที่ 25 พอบานประตูไม้เปอร์เซียหายไป ก้อไม่มีอะไรมาบดบังที่ผนังด้านในอีก เหมือนได้พื้นที่อันน้อยนิดเพิ่มขึ้นมา แต่ให้ความสำราญทางสายตาได้อย่างมาก กรอบภาพไม้ตาลจะถูกเปลี่ยนภาพไปเรื่อย ๆ อยากได้ดอกอะไรก้อเลือกที่ถ่ายไว้มาใส่ในกรอบ เพราะปลูกไม้ดอกไม่ได้ ก้ออาศัยดูจากภาพแทนนะคะ เป็นการมองภาพรวมผ่านหน้าต่างบานเดี่ยวตรงหัวนอนค่ะ ส่วนต้นไม้ที่เห็นอยู่ด้านในติดผนัง (ใต้รูปภาพ) ปัจจุบันไม่อยู่นะคะ เป็นกลุ่มที่ได้มาเพื่อนำกลับไปปลูกที่บ้านนอก เราเน้นความเรียบง่าย สบายตา สะดวกต่อการเคลื่อนย้ายและเปลี่ยนแปลง จากคุณ : ซาไปรส์ - [ 27 ต.ค. 50 22:59:35 ]

ความคิดเห็นที่ 26 ยุคที่ 4 กำลังจะเกิดขึ้นอีกไม่นานนี้ ซึ่งอยู่ในระหว่างการปรับปรุงพื้นที่สีเขียว ซึ่งโครงอลูมิเนียมเดิมจะต้องถูกถอดถอนออกไป เปลี่ยนเป็นโครงชนิดใหม่ที่ให้ประโยชน์ครอบคลุมมากกว่าเดิม แข็งแรงมากกว่าเดิม และสามารถขยายพื้นที่สีเขียวออกไปได้อีกเล็กน้อย จะมีระแนงไม้ขนาดเล็ก ๆ น่ารัก ๆ เข้ามาร่วมด้วยช่วยกันส่งเสริมให้สวนหย่อมลอยฟ้าของเราดูดีมีชาติตระกูลขึ้น ปัจจุบันอยู่ในระหว่างการออกแบบ และทดสอบปลูกไม้บางชนิดเพิ่มเติม เพื่อเพิ่มความหลากหลายค่ะ ขอบคุณที่แวะเข้ามาดูพื้นที่สีเขียวแบบดอย ๆ ของเรา อาจจะเป็นทางออกสำหรับผู้ที่อยากมีพื้นที่สีเขียวในบริเวณที่คับแคบและแสงแดดส่องมาน้อย ขอให้มีความสุขกับพื้นที่สีเขียวของตัวเองกันทุกคนนะคะ จากคุณ : ซาไปรส์ - [ 27 ต.ค. 50 23:00:25 ]

ความคิดเห็นที่ 27 โหวตให้ค่ะ และจะบอกว่า จขกท มีฝีมือถ่ายรูปมากกกกก  ถ่ายได้สวยสุดๆๆ  ใช้กล้องและเลนส์รุ่นไหนเนี่ย  ท่าทางอลังการมาก รับงานถ่ายภาพไหมอ่ะคะ  จากคนไม่สวยถ่ายให้สวยได้ไหมง่ะ ( รูปรับปริญญา)  อิอิ จากคุณ : Jikkoi - [ 27 ต.ค. 50 23:40:55 ]

ความคิดเห็นที่ 28 ภาพสวยมากครับ จากคุณ : HoKie - [ 28 ต.ค. 50 01:12:24 ]

ความคิดเห็นที่ 29 รูปสวยมากๆครับ..... จากคุณ : ฉันทั้งน้านนนน.... - [ 28 ต.ค. 50 03:00:55 ]

ความคิดเห็นที่ 30 จะมาบอกว่ารูปสวยมากคะ จัดสวนได้เก๋มาก ชอบคะ จากคุณ : Sam of Gang Bah - [ 28 ต.ค. 50 07:30:31 ]

ความคิดเห็นที่ 31 รูปได้อารมณ์ ดีครับ จากคุณ : งามหน้า - [ 28 ต.ค. 50 08:47:15 ]

ความคิดเห็นที่ 32 จัดสวนสวยจัง จากคุณ : ไผ่ดำ - [ 28 ต.ค. 50 09:43:31 ]

ความคิดเห็นที่ 33 โอ้ววว...สวยมาก ๆ ฝีมือการถ่ายภาพก็เจ๋งไปเลยค่ะ จากคุณ : biebie999 - [ 28 ต.ค. 50 11:18:36 ]

ความคิดเห็นที่ 34 ภาพสวยมากครับ จากคุณ : พ่อ@LLถุง - [ 28 ต.ค. 50 11:43:17 ]

ความคิดเห็นที่ 35 ไอเดียเก๋มากเลยค่ะ แล้วรูปที่ถ่ายก็สวยมาก.... จากคุณ : NongHome - [ 28 ต.ค. 50 13:25:04 ]

ความคิดเห็นที่ 36 มุมกล้อง และแสง กิ๊บๆเลยครับ จากคุณ : VirusB - [ 28 ต.ค. 50 17:53:24 ]

ความคิดเห็นที่ 37 จัดสวนได้แจ่มมาก มีหลักการ แถมนำเสนอดี ไม่โหวต ไม่ได้แล้ว จากคุณ : Farm Girl in High Sierra - [ 28 ต.ค. 50 22:34:11 ]

ความคิดเห็นที่ 38 ขอชมด้วยอีกคนค่ะ...รูปสวยมากๆ ได้บรรยากาศจริงๆ สวนก็น่ารักเหมาะกับพื้นที่ดีค่ะ จากคุณ : บัวน้อยในอ่างดิน - [ 29 ต.ค. 50 00:09:38 ]

ความคิดเห็นที่ 41 สวยมาก เลย ครับ จากคุณ : phopan - [ 29 ต.ค. 50 09:39:34 ]

ความคิดเห็นที่ 42 โหวตให้กับการความคิดสร้างสรรค์ครับ จากคุณ : n5540 - [ 29 ต.ค. 50 09:44:41 ]

ความคิดเห็นที่ 43 เข้ามาบอกว่า...เยี่ยม...ค่ะ จากคุณ : แมวไร้เงา - [ 29 ต.ค. 50 09:54:23 ]

ความคิดเห็นที่ 44 โห ดูแล้วคิดถึงคอนโดเราเลย... เดี๋ยวจะไปไล่คนเช่าออกซะเลย อิ อิ   สวยมาก ๆ ค่ะ แบบนี้โดนเลยดูโปร่ง ๆ สบาย ๆ และได้ธรรมชาติมาก โหวตด้วยค่ะ จากคุณ : touch me - [ 29 ต.ค. 50 10:02:25 ]

ความคิดเห็นที่ 45 ภาพสวยมากค่ะ ไอเดียเยี่ยมมากค่ะ จากคุณ : porn.pet - [ 29 ต.ค. 50 11:22:31 ]

ความคิดเห็นที่ 46 เก่งจังค่ะ จากคุณ : kangjungku - [ 29 ต.ค. 50 11:45:09 ]

ความคิดเห็นที่ 47 จากคุณ : Jikkoi เป็นคอมแพ็คดิจิตอลของค่ายโซ ถอดเปลี่ยนเลนส์ไม่ได้ Sony DSC-F707 ตอนนี้ไม่มีขายในเมืองไทย (คือมันตกรุ่นไปนานมากแล้ว ขำ ขำ นะคะ) ................................................................................ นี่เป็นภาพพันธุ์ไม้ล่าสุดที่จะเข้ามาร่วมด้วยห้อยโหนและติดแปะในยุคที่ 4 อีกไม่นานโครงใหม่ที่แข็งแรงกว่า ใช้งานได้ครอบคลุมกว่ากับระแนงไม้ขนาดเล็กจะถูกยกเข้ามาแทนที่โครงอลูมิเนียมเดิม ตอนนี้กำลังอยู่ในช่วงออกแบบโครงอันใหม่กับระแนงไม้ขนาดเล็กอยู่ และกำลังหัดห้อยโหนเพื่อดูพฤติกรรมของกล้วยไม้ขนาดเล็กค่ะ ซึ่งพันธุ์ไม้เดิมถือว่าอยู่ตัวทั้งหมดแล้ว เมื่อยุคที่ 4 สำเร็จแล้วจะนำภาพมาให้เช็คเรทติ้งอีกครั้งนะคะ ขอบคุณที่แวะมาชมสวนหย่อมลอยฟ้าราคาประหยัดของเรา ขอให้มีความสุขกับพื้นที่สีเขียวของตัวเองกันทุกคนนะคะ แก้ไขเมื่อ 29 ต.ค. 50 13:38:44 จากคุณ : ซาไปรส์ - [ 29 ต.ค. 50 13:01:22 ]

ความคิดเห็นที่ 48 จัดได้เข้าท่าน่าเอ็นดูดีครับ รอชมตอนต่อครับ จากคุณ : HKK - [ 29 ต.ค. 50 16:04:05 ]

ความคิดเห็นที่ 49 สวยมากคร้าบ จากคุณ : นายคม - [ 29 ต.ค. 50 21:33:34 ]

ความคิดเห็นที่ 50 น่ารัก และก็อบอุ่นมากๆ ค่ะ จากคุณ : moonlover - [ 30 ต.ค. 50 18:11:20 ]

ความคิดเห็นที่ 51 cool จากคุณ : gaa - [ 31 ต.ค. 50 17:39:12 ]

ความคิดเห็นที่ 52 สวยจังค่ะ  ชอบมากๆ จากคุณ : ดอกโมกสีชมพู - [ 1 พ.ย. 50 12:55:30 ]

ความคิดเห็นที่ 53 มาชื่นชมอีกคน น่ารักมาก ขอยืมไอเดียไปจัดคอนโดบ้าง รอชมเพลสใหม่นะคะ จากคุณ : puipom - [ 1 พ.ย. 50 14:03:52 ]

ความคิดเห็นที่ 54 so coollllllllll!!!! จากคุณ : sivalee - [ 8 พ.ย. 50 21:01:49 ]

ความคิดเห็นที่ 55 อืม ไม่น่าเชื่อ แค่พื้นที่เล็กๆจะสามารถจัดให้มีพ.ทสีเขียวออกมาให้ดูดีได้ขนาดนี้ จะบอกว่าเห็นแต่ละภาพ อึ้ง คะ อึ้งมากกกกกก สวยทั้งภาพ แล้วก็การจัดวางต้นไม้  ชอบมากกกกกกกกกคะ ชอบหมดทุกภาพ แต่ภาพที่ชอบมากๆคือภาพ 25  17  13   3 ป.ล.  ถ้าไม่ได้เข้ากระทู้นี้คงเสียดายมากคะ จากคุณ : Enjoysweet - [ 18 พ.ย. 50 21:54:48 ]

ความคิดเห็นที่ 56 สวย ถ่ายภาพก็สวย จากคุณ : บางลำภูสแควร์ - [ 19 พ.ย. 50 11:49:25 ]