ความคิดเห็นที่ 1 คุยกันให้เข้าใจดีกว่านะคะ ใจเย็นๆค่ะ จากคุณ : kungchan เขียนเมื่อ : 2 ธ.ค. 52 22:37:23

ความคิดเห็นที่ 2   ต้องบอกให้สามีเข้าใจค่ะ เพราะว่ายังไงถึงจะแต่งหรือไม่แต่ง เราก็ควรจะต้องตอบแทนบุพการีค่ะ  ถ้าเค้ายังไม่เข้าใจจุดนี้แย่มากค่ะ พ่อแม่เลี้ยงดูเราจนโต พอเค้าแก่ไม่มีงานทำ เราก็ยังคงต้องเลี้ยงดูท่านจนวาระสุดท้ายค่ะ จากคุณ : ส่งเสียแม่ตลอด (waterpook) เขียนเมื่อ : 2 ธ.ค. 52 22:56:20

ความคิดเห็นที่ 3 เงินเราหามาเองทำไมให้ไม่ได้ครับ เรื่องบางอย่างก็อย่าให้รุกล้ำสิทธิส่วนตัวเกินไป จากคุณ : Megrim เขียนเมื่อ : 2 ธ.ค. 52 23:01:25

ความคิดเห็นที่ 4 บางครอบครัวมีความเชื่อว่า ผู้ชายที่ไม่จุนเจือ หรือไม่สามารถจุนเจือพ่อตาแม่ยายบ้างก็นับว่าบกพร่องแล้ว กำ นี่ตัวเองไม่จุนเจือ ยังมาขัดขวาง ยกเว้น พ่อแม่ จขกท มีลูกหลายคน แล้วที่ผ่านมามีแต่จขกทคนเดียวที่ส่งเสียเลี้ยงดู ก็ไม่แปลกที่เค้าอาจจะต้องน้อยใจหรือหงุดหงิดว่าทำไมต้องให้เป็นภาระแต่กับลูก คนที่เป็นภรรยาเค้า น้อยใจได้ แต่ก็ไม่ควรขัดขวางอยู่ดี จากคุณ : ม่วยถ่าว เขียนเมื่อ : 2 ธ.ค. 52 23:22:41

ความคิดเห็นที่ 5 นั่นสิค่ะ แล้วถ้าลูกทุกคนไม่ได้ให้เงินพ่อแม่ ..........หรือพ่อแม่ไม่มีเงินออม ไม่อดตายกันหรือค่ะ นี่แสดงว่า สามีก้อไม่ได้ให้พ่อแม่เค้าเหมือนกันสิ... สมควรต้องให้ค่ะ ลองคุยกับสามีนะค่ะ จากคุณ : งุนงง เขียนเมื่อ : 2 ธ.ค. 52 23:47:44

ความคิดเห็นที่ 6 มันขึ้นอยู่กับสามีคุณแล้วล่ะครับ ผมเองให้ที่บ้านแฟน และบ้านตัวเองมาตลอด จากคุณ : QDora เขียนเมื่อ : 3 ธ.ค. 52 00:00:12

ความคิดเห็นที่ 7 แล้วเค้า ให้แม่เค้ารึป่าวววววววว  ? จากคุณ : aoh-light เขียนเมื่อ : 3 ธ.ค. 52 01:32:53

ความคิดเห็นที่ 8 ก็ให้ทั้งสองบ้านสิครับ  คิดว่าช่วยลดปัญหาได้ จากคุณ : คุณสมดี เขียนเมื่อ : 3 ธ.ค. 52 06:48:31

ความคิดเห็นที่ 9 ต้องพูดกับสามีว่า ถ้าเค้าอยู่ในฐานะพ่อแม่ ก็คงไม่ได้อยากได้เงินลูกนักหรอก  แต่คุณอยู่ในฐานะลูก...หน้าที่หลักของความเป็นลูกที่ดีคือความกตัญญู ส่งเสียเลี้ยงดูพ่อแม่เท่าที่พึงกระทำได้ ดีกว่าไปทำบุญร้อยวัดเสียอีก เราให้เงินพ่อแม่มาตลอดมากบ้างน้อยบ้างแต่ก็ให้ตลอด เพราะคิดว่ามันเป็นหน้าที่ พ่อแม่ไม่เอาเราก็บอกเอาไปซื้อหวยละกัน บางทีเทศกาลติดต่อกันมาก ๆ เราให้ซะจนเทกระเป๋าเลย ถึงตอนนี้ไม่ได้ทำงานมาหลายปีแล้ว ก็ยังให้พ่อแม่ค่ะ โดยที่เอาเงินสามีนั่นแหละให้ สามีเองก็เต็มใจเพราะว่าเป็นหน้าที่ ๆ ลูกเขยพึงกระทำได้.... คุยกับสามีอย่างเปิดอก...ให้เค้าเข้าใจ ไม่อย่างนั้นกลายเป็นว่าเราแอบให้พ่อแม่เค้ามารู้ทีหลังก็เป็นเรื่องอีก  ไม่ให้พ่อแม่ก็ไม่สบายใจอีก.... เงินหน่ะ ถึงให้พ่อแม่จนหมดตัวหมดตูด...ก็ยังมีวันหาใหม่ได้ แต่หมดพ่อ หมดแม่เล้ว ตอนนั้นมีเงินแสนเงินล้าน เคาะโลงเรียกท่าน ๆ ก็ไม่ได้ใช้หรอกค่ะ เป็นกำลังใจให้ลูกกตัญญูค่ะ แก้ไขเมื่อ 03 ธ.ค. 52 14:02:23 จากคุณ : NN2704 เขียนเมื่อ : 3 ธ.ค. 52 07:30:11

ความคิดเห็นที่ 10 บอกสามีนะคะว่า เงินที่แม่ควรที่จะเก็บได้เป็นกอบเป็นกำไว้ใช้ซื้อข้าวของจำเป็นในยามที่แม่ไม่สามารถทำงานได้  มันหมดไปกับการเลี้ยงดูและส่งเสียฉันเรียน  จนกระทั่งฉันทำมาหากินได้ และมาเจอกับเธอ แต่งงานกับเธอ และยังสามารถมีเงินเก็บรวมกับเธอ  เธอไม่คิดว่าฉันไม่ควรจะส่งเสียเลี้ยงดูแม่ เหมือนที่แม่เคยส่งเสียเลี้ยงดูฉันหรือไง? แก้ไขเมื่อ 03 ธ.ค. 52 08:21:32 จากคุณ : แม่บ๊ะจ่าง เขียนเมื่อ : 3 ธ.ค. 52 08:20:55

ความคิดเห็นที่ 11 วันนี้เป็นสามี วันหน้าอาจไม่ใช่ แต่พ่อกับแม่เนี่ย ตั้งแต่คุณเกิดยันคุณตาย เค้าก็ยังเป็นพ่อกับแม่อยู่ดีครับ จากคุณ : keab (keab_h) เขียนเมื่อ : 3 ธ.ค. 52 08:57:32

ความคิดเห็นที่ 12 เหตุผลของสามีคืออะไรครับ หรือแต่งงานแล้วมีภาระหนี้สินมากขึ้น บ้านและรถ หรือยังไงครับ จากคุณ : ตาชิโบ เขียนเมื่อ : 3 ธ.ค. 52 09:02:17

ความคิดเห็นที่ 13 ลองเปิดใจคุยกับสามีค่ะ แจ้งไปชัดเจน ว่าเราจะเอาเงินเราให้แม่เราทุกเดือน เดือนละเท่าไหร่ว่าไป และเก็บส่วนนึง ไว้เป็นของตัวเองด้วยนะอย่าลืม ชีวิตเรา  ถึงจะรับบทภรรยา แต่ก็ใช่ว่าจะต้องยอมทุกสิ่งที่สามีต้องการ ดูเราเป็นตัวอย่าง ของเราหนักกว่าค่ะ ก่อนแต่ง เราดูแลครอบครัว ค่าใช้จ่าย พาแม่กินเที่ยว เราจ่ายเองหมด พอแต่งแล้ว คชจ มากขึ้น สามีใช้เงินเก่ง เงินไม่พอใช้ จนปัจจุบัน นอกจากจะไม่มีเงินพอส่งให้แม่มาหลายปีแล้ว ยังต้องขอเงินแม่เราใช้ หลายยยยล้านแล้ว โดยที่ เวลาเงินเราไม่พอ ขอยืมแม่เราญาติเราได้ง่ายดาย สามีไม่เคยรู้สึกเป็นบุญคุณ แต่พอเริ่มเก็บเงินได้ จะขอเอาเงินไปคืนแม่บ้าง กลับถูกมองว่าไม่ดี  เอาเงินเค้าไปให้แม่ตัวเอง ทุกวันนี้ ได้แต่เซ็งสามีเป็นอย่างยิ่ง ทั้งหมดนี้เกิดเพราะความใจอ่อน ยอมเอาเงินที่แม่ตัวเองต้องทำงานอย่างหนัก จนถึงทุกวันนี้ก็ยังต้องทำงานอยู่มาให้สามีใช้   ถ้าย้อนเวลาได้ จะไม่ยอมเด็ดขาด ถ้าจขกท  ยังพอมีเวลาให้แก้ไขสถานะการณ์  ก็ลองพิจารณาดูนะคะ แม่เรา ครอบครัวเราก็สำคัญนะคะ   แก้ไขเมื่อ 03 ธ.ค. 52 09:18:58 จากคุณ : อืดกลมขนมล้วนๆ เขียนเมื่อ : 3 ธ.ค. 52 09:15:29

ความคิดเห็นที่ 14 ถ้าดิฉันเจอสามีแบบนี้ ดิฉันคงขอแยกทางค่ะ เพราะเงินดิฉัน ดิฉันจะเอาไปทำอะไรก็ได้ โดยเฉพาะให้บุพการีดิฉันเอง ขอโทษนะคะ ที่ค่อนข้างเซนซิทีฟกะเรื่องแบบนี้ สามีหาใหม่ได้ แต่คุณพ่อคุณแม่หาใหม่ไม่ได้อีกแล้วนะคะ ปล. ความเห็นส่วนตัวนะคะ :) จากคุณ : sunshine (นอริโกะ) เขียนเมื่อ : 3 ธ.ค. 52 09:41:38

ความคิดเห็นที่ 15 ปัญหาแบบนี้ มักเกิดกับคู่ที่ใช้เงินกระเป๋าเดียวกัน เอาเงินมาเก็บไว้ที่ใครคนใดคนหนึ่งเพียงคนเดียว ของเราต่างคนต่างใช้ คนละกระเป๋า แต่ขอกันได้ถ้าไม่มี สิ่งทีได้คือ เรายังคงสามารถส่งเงินให้ทางบ้านได้อย่างอิสระ เพราะเราหามาได้ด้วยตัวเอง ความกตัญญูไม่ได้มีข้อแม้ว่า ต้องเฉพาะก่อนแต่งงาน หลังแต่งงานก็ทำได้ และเราทำมาตลอด ทุกเดือนเราจะให้เงินที่บ้าน เดือนละ ประมาณ 4000 บาท (เรายังคิดว่าน้อยเพราะตอนนี้เรามีภาระบ้าน+รถ) และทุกสิ้นปี ก็แบ่งเงินโบนัสให้พ่อทุกปี อาจจะน้อยแต่ก็ดีกว่าไม่ได้ให้ สามีเรา ส่งเงินให้ทางบ้าน เดือนหนึ่ง 3 หมื่น สิ้นปีก็ให้โบนัสอีกเหมือนกัน แต่เราก็ไม่ได้ห้าม เพราะความกตัญญู ลูกเค้าอยากตอบแทนพ่อแม่ที่เลี้ยงดูมา เราจะไปห้ามทำไม แต่แน่นอนว่า ต้องอยู่บนพื้นฐานความพอดี ไม่ใช่ให้จนตัวเรงเองลำบาก บางคนอาจจะมองว่า ทำไมแฟนให้แม่เค้ามากกว่า แต่เราให้ทางบ้านเราน้อยกว่า ก็เพราะว่า เราไม่คิดว่า เงินของสามีคือ เงินเราอ่ะ ถึงเค้าจะมีเงินมาก แต่ไม่ได้หมายความว่า เค้าต้องมาแบกภาระรับค่าใช้จ่ายในส่วนของครอบครัวเราอ่ะ ครอบครัวเรา เราก็จะดูแลเอง ตามกำลังที่เรามี ทำแบบนี้ สบายใจหมดทั้ง 2 ฝ่าย และไม่เคยมีปัญหาครอบครัวด้วย จากคุณ : แมวสีขาวขนปุย เขียนเมื่อ : 3 ธ.ค. 52 10:00:33

ความคิดเห็นที่ 16 ได้เงินมา แบ่งเป็น 3 ส่วน 1.เก็บ(บอกกับสามีว่า จะเก็บด้วยกันหรือ ต่างคนต่างเก็บ) 2.ใช้ (บอกกับสามีว่า  จะใช้ด้วยกันหรือ ต่างคนต่างใช้ (คนละกระเป๋า) 3.ให้บุพการี(บอกสามี ของเธอก็ให้ของเธอ ของฉันก็ให้ของฉัน  หรือถ้าของเธอเสียหมดแล้ว จะมาช่วยฉันให้ก็ได้ และก็เหมือนกันในทางตรงกันข้าม) จากคุณ : cccrong เขียนเมื่อ : 3 ธ.ค. 52 10:28:58

ความคิดเห็นที่ 17 เป็นเราเราจะเลือกให้เงินเดือนแม่นะ ไม่ว่าจะยังไง เราก็จะต้องให้ ยิ่งถ้าแม่ต้องพึ่งพาเราด้วย เงินของเรา เราหามาได้เอง ไม่ได้เอาไปใช้สุรุ่ยสุร่าย แต่เอาไปดูแลบุพการี สามีน่าจะเข้าใจนะคะ ตรงนี้เราว่าคุณต้องคุยกับสามีนะ และต้องเด็ดขาด เพราะเป็นเรื่องที่เรามองว่ายอมไม่ได้ค่ะ เพราะเราไม่ได้เกิดจากกระบอกไม้ไผ่นี่นา ถ้าเค้าไม่ยอม เราคงจะทนอยู่ด้วยไม่ได้ ไม่ได้หมายความว่าให้เลิกกันนะคะ เพราะแต่งกันมาแล้ว แต่คงอยู่กันด้วยความรู้สึกไม่ดีอ่ะค่ะ จากคุณ : แบ๊น แบน เขียนเมื่อ : 3 ธ.ค. 52 10:32:20

ความคิดเห็นที่ 18 ต่างมุมนิด สมมุติ ทางบ้านพอมีฐานะอยู่แล้ว พอส่งเงินกลับไปให้พ่อแม่ ก็เอาไปถวายพวกทรงเจ้าเข้าผี วัดที่ดูดเงิน แต่ละปีหมดเป็นหลายหมื่นเกือบแสน หากผมเป็นสามีคงจะขัดขวางเหมือนกัน เพราะเคยเจอแบบนี้ลูกหาเงินเกือบตายเอาไปให้พวกทรงเจ้าหมด หากปกติทั่วไป นับเป็นสามีที่ใช้ไม่ได้มากๆ แทนที่จะช่วยเหลือกลับทำแบบนี้ใช้ไม่ได้เลยครับคนแบบนี้ จากคุณ : dib2000 เขียนเมื่อ : 3 ธ.ค. 52 11:24:15

ความคิดเห็นที่ 19   ของเราแย่กว่าอีกนะ ไม่ได้ให้ตั้งแต่ยังไม่แต่งงาน "  เพราะว่าเรียนจบปุ๊บ ก็เอาทุนเรียนต่อเลย แล้วเงินเดือนคนเพิ่งจบแถมลาศึกษาต่อก็น้อยนิด พ่อบอกว่า ไม่ต้องให้พ่อหรอก อย่ามาขอเพิ่มก็พอแล้ว ฮ่าๆ  แต่ถึงไม่ได้ให้เป็นรายเดือน ก็จะให้เป็นลักษณะของขวัญ ของฝาก ค่าไปเที่ยวเมืองนอก อะไรแบบนี้ ตอนพ่อซื้อบ้าน ก็ช่วยออกบ้างนิดหน่อย (หน่อยจริงๆ แค่ 10%) พ่อเลยยกห้องนอนให้ห้องนึง  ตอนนี้แต่งงานแล้ว มีภาระมากมายก็เลยยังไม่ได้ให้อยู่ดี พอคุยกะพ่อด้วยความรู้สึกผิด พ่อบอกไม่ต้องห่วงหรอกเค้าอยู่ได้สบาย  เก็บตังค์ให้หลานดีกว่า  อ้อ ส่วนเรื่องฝ่ายไหนจะให้ญาติใครรึเปล่าเราว่าไม่น่ายุ่งนะ แหม พ่อแม่เลี้ยงกันมาแต่เด็ก ส่วนเราแต่งงานกันได้เท่าไหร่เอง ถ้าไม่สนใจดูแลพ่อแม่เลยสิแปลก มีมากให้มาก มีน้อยให้น้อย ไม่มีก็ยังไม่ให้ จากคุณ : นุ่มนิ่มขนปุกปุย เขียนเมื่อ : 3 ธ.ค. 52 11:29:35

ความคิดเห็นที่ 20   แต่งงานมาได้เกือบปีแล้ว แล้วตอนนี้ไม่ได้ทำงานแล้วเป็นแม่บ้านอย่างเดียว แต่เราตกลงกับแฟนเราเลยว่าต้องให้เงินเดือนแม่เหมือนเดิม ส่วนของพ่อแฟนก็ให้เหมือนเดิมเช่นกัน แต่บางครอบครัวอาจมีเหตุผลไม่เหมือนกัน เช่น แต่งงานเป็นครอบครัวของเราแล้วทำไมต้องให้อีก  ค่าใช้จ่ายที่เยอะขึ้น  ฯลฯ คิดว่าคงต้องเปิดใจคุยกันค่ะ จากคุณ : thesassygirl เขียนเมื่อ : 3 ธ.ค. 52 11:48:42

ความคิดเห็นที่ 21 เราก็ไม่ได้ให้ท่านทั้งคู่  แต่สามีก็ให้ทางบ้านเขาประจำ พ่อกับแม่ก็ไม่อยากได้ เพราะที่จะให้ก็น้อยกว่าที่ท่านมีอยู่แล้ว เราก็ออกเงินให้แม่กับพ่อทุกครั้งที่ท่านไว้วานไปซื้อของ พาไปเที่ยวต่างประเทศถ้าทำได้ หรือในประเทศบ่อยๆเท่าที่เราจะทำได้ เราพยายามเก็บเงินไว้อีกบัญชีนึง  เผื่อท่านแก่มากๆไปไหนมาไหนไม่ได้แล้วเราต้องดูแลท่าน จะได้มีเงินส่วนนี้มาใช้จ่าย เราว่า ส่งเงินหรือไม่ส่ง  มันไม่เท่ากับความเอาใจใส่หรอกค่ะ สมมติว่าคุณมีกำลังส่งไปเดือนละ ห้าพันบาท  แต่แม่ต้องใช้จ่ายเดือนละแปดพันบาท ยังไงมันก็ไม่พอ แต่ถ้าพ่อแ ม่ มีปัญหา ดูแลตัวเองไม่ได้ หรือมีเดือดร้อนเรื่องอะไร แล้วมีลูกคอยอยู่ช่วยท่านตลอดเวลา แบบนี้เราว่าดีกว่าอีก บางบ้านก้มีปัญหาเหมือนคุณดิปบอกนะคะ พ่อแม่บางบ้านก็มีปัญหาเรื่องส่วนตัว แบบลูกคนนี้ส่งมาทุกเดือน  ลูกอีกคนไม่ยอมทำงานก็มาขอแม่ประจำ  แต่พอแม่ไม่สบายเงินที่ส่งให้ไปก็หมด ก็เป็นภาระลูกคนที่มีรายได้อีก แบบนี้ก็สร้างปัญหามาก บางทีเราต้องประเมินปัญหาในบ้านตัวเองและวางแผนการเก็บเงินสำหรับรายจ่ายส่วนแบบนี้ด้วย สรุป ลองดูปัญหาให้ดีก่อนดีกว่าค่ะ ถ้าแม่ต้องการใช้และจำเป็น คุณก็ต้องมีหน้าที่หามาให้และดูแลท่านตามหน้าที่ของลูกที่ดี แต่ถ้าแม่เดือดร้อนแล้วสามียังทำไม่รู้ไม่ชี้...อันนี้ก็สุดแล้วแต่จะพิจารณากันไป ความคิดส่วนตัวนะคะ  ถึงพ่อแม่จะขอและเรารู้ว่าพ่อแม่เอาไปใช้ในทางที่เราไม่ชอบ  เราก็เฉยๆ เพราะความสุขของแม่ เป็นเรื่องที่เราพอใจ นอกจากไปทำอะไรที่มีอันตรายกลับเข้ามา  คงต้องคุยตกลงกัน จากคุณ : anavrin เขียนเมื่อ : 3 ธ.ค. 52 12:01:56

ความคิดเห็นที่ 22 ขอให้ จขกท เจริญรุ่งเรืองนะคะ คุยกับสามีตรงๆและอ่อนโยนกับเค้าด้วยนะคะ.. ชีวิตคู่บอบบางค่ะ อย่างที่หลายๆความเห็นได้ว่าไว้ หากคุณสองคนต่างคนต่างเดิน อาจจะไม่หันหลังกลับมาใยดีกันอีก แต่พ่อแม่..ไม่ว่าคุณจะเป็นอย่างไร..ท่านจะไม่เคยหันหลังให้คุณเลยค่ะ เราได้บอกกับสามีตั้งแต่แรกว่า ระหว่างสามีและแม่.. หากมีปัญหาไม่ว่าใครจะผิดหรือถูก.. และถ้าจะต้องเลือกเราเลือก "แม่" ค่ะ (แต่ทุกวันนี้ไม่เคยทะเลาะกันเรื่องบุพการีนะคะ) จากคุณ : เฒ่าอนุบาล เขียนเมื่อ : 3 ธ.ค. 52 12:18:23

ความคิดเห็นที่ 23   เห็นด้วยค่ะ คุยกันให้เข้าใจ แม่ใคร ๆ ก็รัก เลี้ยงมาแต่เกิด ทำไมเราจะให้เงินท่านใช้บ้างไม่ได้ ถ้าเค้าเลี้ยงแม่เค้าเราก็ไม่ได้ว่าอะไรนี่ใช่มั้ยค่ะ คนโบราณบอกว่าแต่งงานแล้ว ให้รักแม่สามีเหมือนแม่ตัว ก็บอกให้คุณสามี รักแม่เราเหมือนแม่เค้าบ้าง อย่างที่ คห.22 บอกว่า ถ้าต้องเลือก ดิฉันก็เลือก แม่ ค่ะ เพราะแม่มีคนเดียว จากคุณ : หัวอกลูกผู้หญิง เขียนเมื่อ : 3 ธ.ค. 52 13:02:13 A:60.56.229.9 X: TicketID:237617

ความคิดเห็นที่ 24 คุณ คห.4 เรากลับคิดว่า คุณสามีไม่ควรแม้แต่จะคิดน้อยใจเลยค่ะ จริงๆ เค้ากลับควรภาคภูมิใจที่มีโอกาสได้ทดแทนพระคุณมากกว่า พี่น้องคนอื่นด้วยซ้ำไปค่ะ จากคุณ : p_natsaran เขียนเมื่อ : 3 ธ.ค. 52 13:09:13

ความคิดเห็นที่ 25 เป็นหน้าที่ ที่ลูกๆทุกคนต้องดูแลท่าน มีมากก็ให้มาก มีน้อยก็ให้น้อย ช่วยกัยอุ้มชูดูแลท่าน ไม่ว่าพ่อแม่ฝ่ายไหน  ของผม...พ่อ แม่ผม  แฟนผมคือลูกสะใภ้จะเป็นคนให้ รวมทั้งซื้อเสื้อผ้า กับข้าวกับปลาให้ อะไรขาดเหลือเขาจะดูแลทุกอย่าง  กลับกัน ผมจะดูแลแม่ยาย ให้เงิน  พาไปเที่ยวไปทานข้าวหหากแฟนผมไม่ว่าง  ท่านก็อายุ 80กว่าแล้ว  และตกลงกันไว้ว่า  หากผมหรือแฟนผม  หากเกิดอะไรขึ้น คนที่อยู่ต้องรักท่านให้เหมือนกับพ่อแม่ตัวเอง....ผลที่ได้คือทุกวันนี้พ่อกับแม่ผมรักลูกสะใภ้ เหมือนกับลูกสาวตัวเอง  ....ตั้งใจทำความดีต่อบุพการีทั้งสองฝ่ายให้ดีที่สุด....ผมแค่เห็นท่านทานข้าวได้เยอะ และยิ้มอย่างมีความสุข......ผมก็มีความสุขแล้ว.. จากคุณ : wenlax199 เขียนเมื่อ : 3 ธ.ค. 52 13:38:53

ความคิดเห็นที่ 26 ถ้าไม่สามารถให้ได้จริงๆ (เนื่องจากสาเหตุ บลา บลา..) ก็เปลี่ยนเป็นหมั่นไปเยี่ยมเยียน ซื้อของฝาก พาไปเดินสวนสาธาระณะ ออกกำลังยามเช้าแทนซิครับ.. ผมว่าบางทีมันดีกว่าให้เงินเสียอีก.. ... จากคุณ : นายแว่นธรรมดา เขียนเมื่อ : 3 ธ.ค. 52 14:19:43

ความคิดเห็นที่ 27 แสดงว่าทางสามี ก็ไม่ได้ให้ พ่อ-แม่ เขาด้วยสินะครับ อย่างไรก็ต้องคุยกัน เพราะ เป็นสิ่งที่ ลูก พึงกระทำครับ เว้นเสียแต่ว่า มีภาระ เดือดร้อนจริงๆ หกได้ไม่พอใช้ จากคุณ : kitz เขียนเมื่อ : 3 ธ.ค. 52 15:01:00

ความคิดเห็นที่ 28 ของเราไม่เหมือน จขกท บ้านสามีเคยมีเงิน แต่ทั้งพ่อและแม่สามีเก็บเงินไม่เป็น ใช้จ่ายสุรุ่ยสุร่ายหมด พ่อมาติดการพนันตอนสามีอยู่ประถมสี่ เงินหมด บ้านหมด ทรัพย์สินขายใช้หนี้พนันหมด สามีต้องหาเงินเรียนตั้งแต่เป็นนักเรียนมัธยม ทุกปิดเทอมก็ต้องหางานทำหาเงินเพื่อช่วยแม่ ให้น้อง โดยที่พี่น้องสามีไม่มีใครทำงานช่วยสามีเลย ดีว่าสามีเรียนเก่ง ได้ทุนบ่อย อาจารย์รัก การทำงานหาเงินให้ที่บ้าน เป็นความภาคภูมิใจของสามี ที่ได้ดูแลครอบครัวตัวเอง จนกระทั่งทำงาน แต่งงาน ก็เหมือนเดิม แม่สามีและน้องน้องขนกันมาอยู่ด้วย ดิฉันต้องช่วยแบ่งเบาภาระสามีบ้าง แต่ก็ไม่ไหวจะเคลียร์เหมือนกัน พึ่งอยู่คนเดียว เหนื่อยแทน ก็ไม่เคยถาม ปล่อยให้เขาช่วยครอบครัวเขาไป ใช้กันคนละกระเป๋า ส่วนตัวดิฉัน ฐานะที่บ้านไม่ลำบาก จึงไม่ค่อยส่งเงินให้แม่ใช้ และไม่เคยเอาเงินสามีให้ครอบครัวตัวเองเลย แต่พาแม่กับหลานหลานไปกินข้าว ซื้อของไปให้ พาไปเที่ยวบ้าง พาไปกินข้าวนอกบ้าน เพิ่งจะส่งเงินให้แม่ ก็ไม่เยอะหรอก แม่ไม่เคยขอ ไม่อยากได้ กลัวลูกลำบาก ให้เงินไปก็ไม่ยอมใช้อีก แม่เห็นลูกกลับไปเยี่ยมก็ดีใจแล้ว ปัจจุบัน ค่อยยังชั่ว น้องน้องสามีมีครอบครัวกันหมดแล้ว และได้ช่วยแบ่งเบาภาระบ้างแล้ว แต่สามียังต้องผ่อนให้พ่อต่อ ก็ปล่อยเขาไป บุญกุศลก็ส่งผลให้เขาได้สุขสบายทุกวันนี้ค่ะ ดิฉันคิดว่า คนที่รักครอบครัวแบบนี้ หากแต่งงานด้วย เขาคงต้องทำทุกอย่างเพื่อให้ครอบครัวอยู่ดีกินดี ไม่ลำบากค่ะ จากคุณ : Funnyfamily เขียนเมื่อ : 3 ธ.ค. 52 17:00:17

ความคิดเห็นที่ 29   แล้วสามีเค้าให้ที่บ้านเค้าบ้างรึป่าวคะ ถ้าไม่ให้ก็น่าคิดนะ พ่อแม่เค้ายังไม่รัก แล้วเค้าจะรักเราตลอดมั๊ยเนี่ยะ เอ...รึว่าตอนนี้มีภาระเยอะกันอยู่รึป่าวคะ แต่ก็ให้น้อยหน่อย พ่อแม่ท่านก็น่าจะเข้าใจนะคะ จากคุณ : ป้าอ้วน เขียนเมื่อ : 3 ธ.ค. 52 18:09:20 A:58.137.175.82 X: TicketID:092733

ความคิดเห็นที่ 30   แม่้เรานะครับ   สามีมันก็แค่สามีนั้นแม่นะครับ จากคุณ : ชัดเจน25 เขียนเมื่อ : 3 ธ.ค. 52 21:03:04

ความคิดเห็นที่ 31 ไม่ทราบว่าสามีได้ให้เงินพ่อแม่ตัวเองใช้ทุกเดือนบ้างหรือเปล่าคะ ถ้าให้เขาก็น่าจะเข้าใจจิตใจของเรานะ แต่ถ้าไม่ได้ให้เพราะฐานะดีอยู่แล้ว เขาก็น่าจะใจกว้างบ้าง หรือว่าครอบครัวมีภาระต้องผ่อนอะไรอยู่หรือเปล่า อธิบายให้เขาฟังว่าให้พ่อแม่มากน้อยแค่ไหนก็เป็นผลดีทั้งนั้น อย่างน้อย ก็เป็นตัวอย่างให้ลูกเราเห็นถึงความกตัญญูที่เรามีต่อบุพการี จากคุณ : Dolly (- b a l l s i g n -) เขียนเมื่อ : 3 ธ.ค. 52 21:42:38

ความคิดเห็นที่ 32 เราบอกกับสามีว่า แม่เรา เราส่ง แม่เค้า เค้าส่ง แม่ใครก็แม่ใคร เค้าจะให้แม่เค้าเท่าไหร่เราไม่ว่า เราให้แม่เราเท่าไหร่ เค้าก็ไม่ยุ่งเหมือนกัน ก็ประมาณ 10 เปอร์เซ็นต์ของเงินเดือนค่ะ ที่เหลือเค้าก็เก็บเข้าบัญชีเรา+เค้าค่ะ เป็นเงินเก็บอีกที อ้อ ลืมบอกไป แม่เราน่ะ มีรายได้จากค่าเช่าบ้าน 60 ห้อง เดือนนึงก็เยอะอยู่ (พี่ชายปลูกบ้านเช่าให้แม่เก็บตังค์) เรียกว่า เงินเราน่ะเศษเสี้ยวของแม่เลยแหละ แต่เราก็บอกว่า ให้แม่ไว้กินหนม พอแม่ได้จากเราที ก็พาหลาน ๆ ไปเอ็มเค ไปซักสองสามครั้งก็หมดแล้ว ก็ไม่เป็นไร ความสุขของแม่ค่ะ (ตอนนี้ แม่ไม่อยู่แล้ว ไปอยู่กับพ่อบนสวรรค์ค่ะ) ส่วนสามีเรา เค้าเคยโกรธกับแม่เค้า จะไม่ยอมส่งเงินให้แม่เค้าท่าเดียว แม่เราก็สอนว่า พ่อแม่น่ะจะทำผิดกับลูกก็ถือว่าทำถูกซะ เราจะได้สบายใจ แล้วก็ให้ส่งเงินให้แม่เค้าใช้ด้วย ให้ใช้ตอนเป็น ดีกว่าซื้อของไปไหว้ตอนตายแล้ว --> แม่เราสอนอย่างนี้แหละ แฟนเราก็เลยยอมส่งเงินรายเดือนให้แม่เค้าค่ะ แก้ไขเมื่อ 04 ธ.ค. 52 07:22:57 จากคุณ : ลาล่า (arunyach) เขียนเมื่อ : 4 ธ.ค. 52 07:17:56

ความคิดเห็นที่ 33 คุณก็คุยกับสามีซิคะ ของนก แฟนเขาก็ยังให้ที่บ้านเขาเป็นปกติเหมือนเดิม ^^ จากคุณ : akikosang เขียนเมื่อ : 4 ธ.ค. 52 07:59:37

ความคิดเห็นที่ 34 ผมก็ไม่ได้ให้พ่อกับแม่อ่าครับ ท่านบอกว่าไม่ต้อง เพราะท่านสองคนเองเป็นข้าราชการ มีเงินเดือน ว่าอย่างนั้น ส่วนของแฟนผมนั้นจะให้ผมก็ไม่ว่าครับ จากคุณ : pencom เขียนเมื่อ : 4 ธ.ค. 52 14:19:52

ความคิดเห็นที่ 35 พ่อ-แม่ ของเรา ถ้าเราไม่รักไม่ดูแล อย่าหวังว่าสามีจะมาดูเลยครับ ในเมื่อเราเป็นลูก ถ้ามีพี่น้องก็อย่าเกี่ยงพี่น้องเลยครับ กับพ่อ-แม่ ใครทำใครได้ครับ ไม่ว่าจะดูแลโดยวิธีใด เราไม่มีเงิน หมายถึง...ไม่มีเงินใช้ซื้อของฟุ่มเฟือย หรือ.... ไม่มีเงินกินข้าว หรือไม่มีเงินเที่ยว พ่อกับแม่ล่ะครับ ท่านมีเงินกินข้าวมั้ยหรือมีเงินรักษาตัวมั้ย เคยห่วงหรือเปล่า สามีเจอกันกี่ปีแล้ว เค้าเคยเช็ดขี้เช็ดเยี่ยวให้เรามั้ย หรือไม่เคยแม้กระทั่งเช็ดตัวให้เราเวลาเป็นไข้ ถ้าจะต้องแยกกันเพียงเพราะส่งเงินให้พ่อแม่ตามสมควร แก่กำลังและพอเพียง จะใส่ใจอะไรกับสามี และถ้าวันหนึ่งคุณมีลูก คุณทั้งสองก็อย่าหวังให้ลูกมารักคุณเลย ถ้าคุณไม่เคยรัก พ่อ-แม่ จากคุณ : thaitarzan (thaitarzan) เขียนเมื่อ : 4 ธ.ค. 52 14:49:07

ความคิดเห็นที่ 36 รักคนรักของเรา ให้เท่ากับที่เรารักตัวเราเอง และรักบุพการี ให้มากกว่าที่เรารักตัวเราเองครับ จากคุณ : ผมก็มีหัวใจนะครับ=> เขียนเมื่อ : วันพ่อแห่งชาติ 52 13:26:29

ความคิดเห็นที่ 37   การให้เงินพ่อแม่ เป็นการทำบุญอย่างหนึ่ง ที่ดีมาก ๆ นะคะ คุณควรจะคุยกับสามีให้เข้าใจค่ะ จากคุณ : noinachan เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 52 18:32:54

ความคิดเห็นที่ 38 คุณเรียงลำัดับความสำคัญของค่าใช้จ่ายผิดไปนะคะ จากคุณ : ป้าแมงฯ เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 52 10:11:51

ความคิดเห็นที่ 39   เคยมีแฟนแบบนี้ ค่าใช้จ่ายอะไร เราออกหมด ค่าข้าวผลัดกันแต่ถ้าเค้าต้องออกก็จะเป็นมื้อแบบถูกๆ  รถใช้ของเราน้ำมันเรา ขนาดกลับบ้านเค้าก็ยังค่าน้ำมันเราอีก รถเค้าเอาไว้ขับเท่ห์โชว์อย่างเดียว ไปเที่ยว ค่าที่พักก็เราอีก เราดูแล้วเค้าไม่เห็นจะเคยออกค่าอะไรให้พ่อแม่เค้าเลย กับทางบ้านเราก็พูดเอาแต่จะได้ คบแค่ 8 เดือน โชคดีที่เห็นแววก่อนเลยจบกัน หล่อแต่รูปจูบไม่หอมเลยจริงๆ เฮ้อ โล่งอกไปที ถ้าต้องใช้ชีวิตอยู่กับคนเห็นแก่ตัวแบบนั้นไปตลอดชีวิต เราคงอึดอัดตายอ่ะค่ะ เศร้าแค่ 2 อาทิตย์แล้วตอนนี้ย้อนมองไป โล่งอกค่ะ ขอโทษนะคะ ของคุณอาจไม่เลวร้ายเท่าของเราก็ได้ จากคุณ : เชียร์ไทยโอนลี (เชียร์ไทยโอนลี) เขียนเมื่อ : วันรัฐธรรมนูญ 52 21:24:18

ความคิดเห็นที่ 40 แฟนเราก็คล้ายกับคุณเชียร์ไทยโอนลี ค่ะ เวลาไปดูหนัง ทานข้าว (ตอนเป็นแฟน) จะผลัดกันออก เช่น คราวนี้ เราออกค่าหนัง พี่เค้าออกค่าข้าว (แต่เค้าจะพาไปกินข้าวแกงข้างทาง) คราวต่อมา เราออกค่าข้าว พี่เค้าออกค่าหนัง (แต่พี่เค้าจะเข้าร้านหรู -- ฉลาดซะ) แต่มันก็คือ การออกคนละครึ่ง รถนี่ไม่มี บ้านไม่เคยไปส่ง (อ้างว่าบ้านเราไกล เสียเวลา -- กลายเป็นว่าเราส่งเค้าที่ปากทางบ้านเค้า แล้วเราก็ขึ้นรถเมล์กลับเอง) ตอนหลังพี่ชายเราสงสาร เลยมารอรับส่งเรา มาได้ใจตอนเราไม่สบาย ริดสีดวงแตกค่ะ ต้องเข้าโรงพยาบาลกระทันหัน เลือดไหลไม่หยุด แล้วพี่เค้าก็คอยบี้ถุงเลือดให้ท้้งคืนเลยค่ะ (มันเป็นถุงเนื้อเลือดค่ะ แล้วตัวเราต้องแช่ freez เพื่อให้ตัวเย็น แล้วหมอเค้าก็ให้ยาห้ามเลือดแล้วค่ะ) ตอนหลังถึงรู้ว่า พี่เค้าเป็นคนมัธยัสถ์ (มั้ง หรือเรียกว่าขี้เหนียวดีหละ) เก็บเงินเก่งมาก แล้วก็ใส่บัญชีเป็นชื่อเราทุกบัญชีเลยค่ะ แต่พี่เค้าจะเอาไปให้แม่เค้าให้เท่าหร่ ใช้ยังไงก็ไม่ว่าค่ะ เพราะเป็นเงินของพี่เค้าค่ะ ส่วนของเราก็แยกอีกบัญชีมาค่ะ เพราะบัญชีไหนถ้าพี่เค้าเอามารวมด้วย อดถอนค่ะ) แก้ไขเมื่อ 12 ธ.ค. 52 08:47:26 จากคุณ : ลาล่า (arunyach) เขียนเมื่อ : 12 ธ.ค. 52 08:46:44