ความคิดเห็นที่ 1 รูปใหญ่ไป ลบครับ แก้ไขเมื่อ 21 ส.ค. 53 15:50:18 จากคุณ : ดนตรีสายพันธุ์ดุร้าย เขียนเมื่อ : 20 ส.ค. 53 20:34:16

ความคิดเห็นที่ 2 ปลั๊ก 3 รู ก็จริง แต่หัวปลั๊ก มี 2 ขา ก็จบข่าวแล้วครับ จากคุณ : CTRL System เขียนเมื่อ : 20 ส.ค. 53 20:42:25

ความคิดเห็นที่ 3 เอาใหม่ รูปใหญ่ไป จากคุณ : ดนตรีสายพันธุ์ดุร้าย เขียนเมื่อ : 20 ส.ค. 53 20:47:47

ความคิดเห็นที่ 4 อีกรูป จากคุณ : ดนตรีสายพันธุ์ดุร้าย เขียนเมื่อ : 20 ส.ค. 53 20:50:47

ความคิดเห็นที่ 5 อีกรูป จากคุณ : ดนตรีสายพันธุ์ดุร้าย เขียนเมื่อ : 20 ส.ค. 53 20:51:14

ความคิดเห็นที่ 6 ไขควงจิ้ม จากคุณ : ดนตรีสายพันธุ์ดุร้าย เขียนเมื่อ : 20 ส.ค. 53 20:52:25

ความคิดเห็นที่ 7 อีกรูป จากคุณ : ดนตรีสายพันธุ์ดุร้าย เขียนเมื่อ : 20 ส.ค. 53 20:53:02

ความคิดเห็นที่ 8 รูปสุดท้าย จากคุณ : ดนตรีสายพันธุ์ดุร้าย เขียนเมื่อ : 20 ส.ค. 53 20:53:59

ความคิดเห็นที่ 9 ใช้ของถูก ก็ไม่แปลกครับ ที่จะได้รางปลั๊กคุณภาพ เยี่ยงนั้น จากคุณ : คุณหนูจอมเจ้าชู้ เขียนเมื่อ : 20 ส.ค. 53 20:54:45

ความคิดเห็นที่ 10 ที่เอามาให้เห็นเพราะหลายคนคิดว่าการซื้อปลั๊กแบบนี้ก็ใช้กันทั้งบ้านทั้ง เมืองไม่เห็นเป็นอะไร สาเหตุที่ไม่เป็นไรเพราะโชคดีครับ ปลั๊กแบบนี้ผิด มาตรฐานครับ อย่าคิดว่าไม่อันตราย ที่ผมเห็นมานักต่อนักคือชอบกองกับ พื้นแล้วปิดสวิทช์คิดเอาเองว่าไม่มีไฟ ก็ทำนู่นทำนี่ ถูบ้านบ้างอะไรบ้าง หารู้ ไม่ว่าจริงๆแล้วปลั๊กสองขาแบบนี้ หากเสียบสลับไลน์ นิวทรอล จะมีอันตราย ร้ายแรงได้ บางคนไม่สนเพราะคิดว่าใช้ได้เหมือนกัน ดังนั้น ขอให้ทุกท่านใช้ อุปกรณ์ไฟฟ้ามาตรฐานถูกต้อง เพื่อให้มีความปลอดภัยสูงสุดนะครับ จากคุณ : ดนตรีสายพันธุ์ดุร้าย เขียนเมื่อ : 20 ส.ค. 53 21:01:23

ความคิดเห็นที่ 11 ยังไม่เข้าใจอยู่ดีค่ะ แต่ขอบคุณที่เอามาบอกนะคะแล้วตอนซื้อเราจะรู้ได้เยี่ยงไรล่ะคะ ว่ามีมาตรฐานป่าว จากคุณ : wasapos77 เขียนเมื่อ : 20 ส.ค. 53 21:10:06

ความคิดเห็นที่ 12 แล้วที่ถูกคือ ปิดสวิทซ์แล้ว จิ้มไขควงวัดไฟแล้วต้องไม่ขึ้นทั้งสองฝั่งเลยหรือเปล่าครับ  แล้วบางรุ่นปิดสวิทซ์แล้ววัดไฟขึ้นข้างเดียวเพราะอะไร จากคุณ : Jesus2000 --=AnThraX=-- เขียนเมื่อ : 20 ส.ค. 53 21:11:34

ความคิดเห็นที่ 13 มีประโยชน์จริงๆๆ ครับ จากคุณ : wishsine (wishsine) เขียนเมื่อ : 20 ส.ค. 53 21:22:17

ความคิดเห็นที่ 14   คุณ wasapos77  ตอบแบบง่ายๆครับสายไฟเส้นสีเทาผ่านฟิวส์และสวิทซ์ ถ้าเอาไฟเข้าทางนี้เมือเราปิดสวิทซ์ในรูเสียบปลั๊กก้จะไม่มีไฟ  แต่ถ้าเราเอาไฟเข้าทางเส้นสีดำไม่ผ่านสวิทซ์เวลาปิดสวิทซ์ไฟก็ยังมีในรูเสียบปลั๊กครับ     ถ้าอยากรู้ว่าผ่านสวิทซ์ไหมเวลาเสียบปลั๊กไฟก้นำไขควงเช็คไฟเสียบลงในรูปลั๊กแบบในรูป คห 6 หากเจอรูปลั๊กที่มีไฟขึ้นที่ไขควงเช็คไฟก็ให้ปิดสวิทซ์ถ้าไฟในไขควงดับก้แปลว่าเสียบปลักพ่วงถูกไลน์ไฟ ผ่านสวิทซ์     ถ้าปิดสวิทซ์แล้วไฟในไขควงไม่ดับแปลว่าไฟผ่านมาในไลน์นิวตรอน     ให้ดึงปลั๊กพ่วงออกจากปลั๊กไฟบ้านแล้วกลับข้างของขาเสียบปลั๊กแล้วเสียบใหม่  หวังว่าคงพอจะเข้าใจครับ จากคุณ : boxbo เขียนเมื่อ : 20 ส.ค. 53 21:41:12

ความคิดเห็นที่ 15 แล้ว ToShino OK ไหมครับ จากคุณ : mkl_tagc เขียนเมื่อ : 20 ส.ค. 53 21:55:03

ความคิดเห็นที่ 16 ทำไมเราอ่านไม่เข้าใจ... T T จากคุณ : Toom-bs เขียนเมื่อ : 20 ส.ค. 53 21:55:27

ความคิดเห็นที่ 17   ถ้าไม่กลับข้าง มันจะเกิดอะไรขึ้นครับ งง จริงๆ จากคุณ : กระปุกออมใจ เขียนเมื่อ : 20 ส.ค. 53 21:57:02

ความคิดเห็นที่ 18 กว่าจะอ่านเข้าใจ ทำเอาเหนื่อยเลย สรุปก็คือ เจ้าของกระทู้จะบอกว่า 1. ปลั๊กพ่วงที่ขายๆกันอยู่ ต้องรู้จักใช้ให้ถูกต้อง ไม่เกี่ยวกับยี่ห้อ แต่เกี่ยวกับการนำไปใช้งานของผู้ใช้ 2. เมื่อใช้ปลั๊กแบบที่มีแค่ 2 ขาต้องคอยระวังเรื่องการเสียบปลั๊กผิดด้าน 3. หากเสียบปลั๊กพ่วงเข้ากับไฟบ้านได้ถูกต้อง ปลั๊กพ่วงก็จะทำงานปลอดภัย คือ เมื่อปิดสวิตซ์ของปลั๊กพ่วงแล้ว ก็จะไม่มีกระแสไฟวิ่ง 4. แต่หากเสียบปลั๊กพ่วงเข้ากับไฟบ้านและพบว่าเมื่อปิดสวิตซ์แล้ว ยังมีกระแสไฟวิ่งอยู่ (ใช้ไขควงวัดไฟ) ก็ให้เสียบปลั๊กพ่วงเข้ากับไฟบ้านใหม่อีกครั้ง โดยกลับด้านของหัวปลั๊ก แต่จริงๆแล้ว มันผิดตั้งแต่ปลั๊กพ่วงมีรู 3 รู แต่ขาปลั๊กมีออกมาแค่ 2 ขาแล้วล่ะครับ ซึ่งก็คือไม่ได้ต่อสายกราวน์ ความปลอดภัยก็น้อยลงแล้วล่ะครับ จากคุณ : ar เขียนเมื่อ : 20 ส.ค. 53 22:25:07

ความคิดเห็นที่ 19 อยากให้รบกวนแกะตัวที่ได้มาตรฐานเปรียบเทียบได้ไหมครับ กรณีนี้หมายถึงว่า จริงๆมันไม่ครบวงจร แต่สามารถดูดได้ใช่หรือไม่ครับ หากเราไปแตะเข้าก็จะครบวงจร เข้าใจถูกไหมครับ จากคุณ : Tamจัง เขียนเมื่อ : 20 ส.ค. 53 23:05:23

ความคิดเห็นที่ 20 ชี้แจงเพิ่มดังนี้ครับ 1. อุปกรณ์ที่ถูกต้องต้องเป็นชนิดสามขา (สามขาทั้งตัวเสียบและเต้ารับ สามรู) ไลน์ นิวทรอล กราวด์ 2. ถ้าไม่ยอมเปลี่ยนมาใช้แบบถูกต้อง ก็ต้องมาเสียบเต้ารับให้ถูกขั้ว 3. ถ้าไม่กลับข้างก็จะเป็นอย่างที่เห็นในรูป 6 และ 7 นั่นแสดงให้เห็นว่ามี กระแสไฟฟ้าวิ่งอยู่ (ที่ถูก ต้องไม่มี) แม้คุณปิดสวิทช์ก็โดนไฟดูดได้   4. ในส่วนของรูป 7 แสดงให้เห็นถึงว่าถ้าเสียบปลั๊กอุปกรณ์ เช่น พัดลม DVD เป็นต้น คาไว้ทั้งปีทั้งชาติแบบที่ชอบทำกัน อาจมีการวิ่งของกระแสผ่าน ไปทั้งสองบาร์ (ทุกรูมีไฟ) แม้จะปิดสวิทช์ ทำให้มีความเสี่ยงถูกไฟดูดเพิ่ม 5. การจะรู้ว่าด้านไหนไลน์ นิวทรอล ต้องใช้ไขควงวัดไฟครับ อันละไม่กี่ บาท ซื้อติดบ้านไว้ครับ 6. การนำปลั๊กพ่วงแบบสามขามาใช้ จะเป็นการบังคับตำแหน่ง ไลน์ นิวทรอ ล กราวด์ ที่ถูกต้อง ทั้งนี้การเดินสายไฟในบ้านต้องเดินถูกต้องด้วย บางครั้ง ช่างไฟไม่ใส่ใจ ต้องคอยกำชับ เพราะเต้ารับติดผนังจริงๆแล้วมันจะมีบอก ตำแหน่งสายด้วยว่าอันไหนไลน์ อันไหนนิวทรอล 7. ปกติการเดินสายไฟจะมีรหัสสี แต่ก็อีกนั่นแหละ อย่าเชื่อสีที่เห็น เพราะ มันอาจสลับไลน์ นิวทรอลได้ 8. อย่าเสียบอุปกรณ์มากเกินไปเพราะเมื่อมีการใช้กระแสมาก เกิดความร้อน สูง อาจทำให้ไฟไหม้ได้ จากคุณ : ดนตรีสายพันธุ์ดุร้าย เขียนเมื่อ : 20 ส.ค. 53 23:28:32

ความคิดเห็นที่ 21 ตอบคุณ Tamจัง แม้ไม่ครบวงจรแต่มีกระแสหากเกิดรั่วแทนที่จะลงกราวด์ กระแสก็ไหลผ่าน ตัวคนลงดิน(เป็นสายกราวด์แทนซะเลย) เรียกว่าโดนไฟดูดแหละครับ ยิ่งไม่มี Earth Leak CB ก็หมดทางช่วย ส่วนแบบมาตรฐานถูกต้อง ผมไม่มีครับ (ไม่ช่วยเลยนะ) แต่โครงสร้างภายในจะมี สายกราวด์ต่อมากับรูต่อกราวด์ครับ ดูที่สายสีเขียวสลับเหลืองครับ แก้ไขเมื่อ 21 ส.ค. 53 00:01:37 จากคุณ : ดนตรีสายพันธุ์ดุร้าย เขียนเมื่อ : 20 ส.ค. 53 23:48:54

ความคิดเห็นที่ 22 บ้านที่เก่าหน่อย ก้ไม่มีสายดินมาให้ เป็นแค่ปลั๊กสองตา เวลาเสียบกับเต้าก็เลยพลิกไปพลิกมาได้ แต่ถ้าเป็นบ้านใหม่หน่อยที่เดินสายตามที่การไฟฟ้ากำหนด ก็จะไม่พลาดเพราะมีสายดิน มาค้ำให้เสียบถูกตำแหน่งละครับ จากคุณ : น้องปลาดาว เขียนเมื่อ : 21 ส.ค. 53 00:01:32

ความคิดเห็นที่ 23   ถึงว่าวันนั้นผมเสียบปลั๊กไมโครเวฟอยู่แต่ปิดสวิตไว้ และผมก็เอาอาหารเข้าไปมือไปโดนข้างๆดูดซะสะดุ้งเลย ทั้งๆที่ปิดสวิตแล้ว ขอบคุณมากๆครับที่มาบอก ที่บ้านมีไขควงวัดไฟอยู่แล้วเดี๋ยวจะไปจัดการ จากคุณ : นี่ ห รื อ ม นุ ษ ย์ (>> นี่ ห รื อ ม นุ ษ ย์ ? <<) เขียนเมื่อ : 21 ส.ค. 53 00:04:06

ความคิดเห็นที่ 24 โอ้ววว  ขอบคุณมากค่ะ...... เป็นประโยชน์จริงๆ  เดี๋ยวจะไปลองเช็คดู   (ไม่เคยรู้จริงๆ ว่าสายไฟที่ข้างใน2เส้น  2 สี  มันไม่เหมือนกัน TTOTT  ) จากคุณ : enjoy1113 เขียนเมื่อ : 21 ส.ค. 53 16:38:53

ความคิดเห็นที่ 25 มาเพิ่มเติมอีกข้อ  เจ้าสวิทซ์แบบที่มีไฟแสดงสถานะอีกจุดที่เป็นอันตราย  เมื่อใช้กระแสมากๆ หน้าสัมผัสจะไหม้หรือร้อนจัด  จนสปริงข้างในหมดสภาพ  หรือไม่ก็ความร้อนที่มากจนปลาสติดละลายติดแน่น  คราวนี้จะเปิด จะปิดไม่ไม่ได้  บางทีสปริงตัวที่ว่า ยังหลุดจากเบ้าเข้าไปลัดวงจร  พอเสียบปลั๊กปุ๊บ  ถ้าแบบมีฟิวส์ ฟิวส์ก็จะขาด  ถ้าแบบไม่มีฟิวส์  ไม่เบรคเกอร์ในบ้านกระเด้งก็  ตองมีอะไรบางอยางที่เป็นปัญหาให้แก้ไขแน่ๆ  ครับ จากคุณ : ขอนเก่า เขียนเมื่อ : 21 ส.ค. 53 17:43:38

ความคิดเห็นที่ 26 #15 "แล้ว ToShino OK ไหมครับ" ToShino  ออกแบบมาสำหรับปลักไฟของยี่ปุ่นครับ เอามาใช้ในไทย  เวลาปิดสวิต ก็ยังมีไฟอยู่เหมือนกัน ผมเองก็ซื้อใช้อยู่เพราะ รู ปลั๊ก มันแน่นดี   ก็ใช้ได้ไม่มีปัญหาอะไร ขอแค่ให้ผู้ใช้รู้ไว้ว่า ถึงแม้ปิดสวิตก็ยังมีไฟอยู่ จะทำอะไรแถวๆปลักจะได้ระวัง จากคุณ : madcatzz เขียนเมื่อ : 21 ส.ค. 53 20:55:07

ความคิดเห็นที่ 27 สลับปลั๊กดูสิ แล้วจิ้มดูใหม่ว่ามีไฟหรือไม่ จากคุณ : ควนโส เขียนเมื่อ : 22 ส.ค. 53 17:42:26

ความคิดเห็นที่ 28 ขอเพิ่มเติม คห.4 สักนิดครับ จากรูปจะเห็นได้ว่าผู้ผลิตปลั๊กเองก็ยังมีความรู้เกี่ยวกับสีของสายไฟที่ไม่ถูกต้องเลย ตามมาตรฐานจริงๆ แล้วสายไฟเส้นสีดำจะต้องเป็น L ส่วนสายสีเทาจะต้องเป็น N ครับ จากคุณ : อินทัช เขียนเมื่อ : 22 ส.ค. 53 18:04:44

ความคิดเห็นที่ 29   จริงๆแล้ว ถ้าลองสังเกตดีๆ จะพบว่า รูเสียบปลั๊กที่เต้าเสียบทั้งสองรู มันจะมีขนาดไม่เท่ากันและ ขาเสียบของปลั๊กของอุปกรณ์ไฟฟ้าทั้งสองขา(ปลั๊กแบน) ยี่ห้อดีๆ มันก็จะมีขนาดไม่เท่ากัน ตัวเต้าเสียบส่วนใหญ่ ถ้าช่างมีความรู้ จะต่อสายถูกต้องอยู่แล้ว เพราะมันจะมี L และ N กำกับอยู่ ซึ่งถ้าต่อถูก มันก็จะทำให้ไฟที่ออกที่เต้าเสียบถูกต้องด้วย ที่นี้ก็มาอยู่ที่อุปกรณ์ไฟฟ้าที่เราใช้ รวมถึงปลั๊กพ่วงด้วย ถ้าจะซื้อมาใช้ ก็เลือกที่มันค่อนข้างมีคุณภาพหน่อย ของพวกราคาถูกๆ ตามห้าง ที่ขายกัน 79 หรือ 99 แต่ดีหน่อยก็มีนะครับ ก็ลองเลือกที่ขาของปลั๊กเสียบทั้งสองข้าง มันขนาดไม่เท่ากันละกัน เวลาเอาไปเสียบที่เต้าเสียบ ถ้าเสียบผิดด้าน มันจะได้เสียบไม่เข้า ถ้าเสียบไม่เข้าก็อย่าไปฝืนมันล่ะครับ กลับด้านซะ จากคุณ : ENV เขียนเมื่อ : 22 ส.ค. 53 19:23:49 A:125.26.185.77 X: TicketID:192894

ความคิดเห็นที่ 30 ขอเสริมด้วยสักนิดครับ ปลั๊กพ่วงราคาถูก ไม่ควรใช้งานแบบถอดเข้าถอดออกบ่อยๆ และต่อพ่วงอุปกรณ์ครั้งละมากๆ เพราะตัวขาปลั๊กจะไม่ใช่สปริง  เสียบหรือถอดบ่อยๆขาปลั๊กจะไม่คืนตัว ทำให้หลวม  เมื่อใช้งานจะร้อนจนพลาสติกละลาย  และสายไฟก็เล็กอาจจะเพียงพอต่อการใช้งาน แต่มันไม่ทนต่อแรงดึงหรือกดทับ (ตอนเก็บ) ปลั๊ก 2ขาสมัยนี้ ขาเล็กใหญ่ไม่เท่ากัน ขาเล็กเป็น Line ถ้าเราเสียบผิดมันจะเสียบยาก ก็สลับด้านก็จะเสียบง่าย และถูกด้วย  ถ้าเป็นบ้านใหม่ๆ เขาจะบังคับให้มีกราวด์ และเอาสายนิวตรอนกับกราวด์ต่อเข้าด้วยกัน เมื่อเอาปลั๊กพ่วงแบบ 2ขามาใช้แล้วต่อถูกด้าน ก็พอเซฟขึ้นอีกนิด อาจช่วยให้ไม่ถูกไฟดูดกับบางกรณีได้ ปลั๊กแบบมีสายกราวด์จะมีราคาแพง เต้าเสียบจะมีรูให้เสียบเครื่องใช้ไฟฟ้าแบบ 3ขา(มีกราวด์)  และด้านที่จะนำไปเสียบก็มี 3ขาด้วย  ถ้าด้านนี้ไม่มี 3ขา แสดงว่าเป็นปลั๊กพ่วงแบบไม่มีสายกราวด์ ที่บ้านผมซื้อของมาต่อเอง ตัวงาน ไม่สวย ไม่เรียบร้อย แต่ใช้สายใหญ่ และเต้าเสียบแพง  ชุดนึงหลายตังค์ ก็คิดซะว่าซื้อความสบายใจ จากคุณ : อรพิน เขียนเมื่อ : 22 ส.ค. 53 23:00:44

ความคิดเห็นที่ 31   ขอบคุณครับได้ประโยชน์จริงๆ จากคุณ : พี่กี้ร์ เขียนเมื่อ : 24 ส.ค. 53 11:51:59