ความคิดเห็นที่ 1 เรื่องยังไม่จบแค่นี้ คราวนี้ถึงทีเจ้าเต่ามา "หาจุดบกพร่องของตัวเอง"บ้าง และมันก็พบว่า เป็นไปไม่ได้เลยที่มันจะชนะกระต่ายในเส้นทางการวิ่งแบบที่เป็นอยู่นี้ มันก็คิดอยู่ซักครู่หนึ่งก็ไปท้ากระต่ายแข่งใหม่ แต่ขอเปลี่ยนเส้นทางวิ่งซะหน่อย เจ้ากระต่ายก็ว่าย่อมได้อยู่แล้วเพ่ พอการแข่งเริ่มปุ๊บ เจ้ากระต่ายก็ใส่เกียร์ห้อออกไปเต็มสปีดเลย จนกระทั่งไปถึงระหว่างทาง “เฮ้ย!!!..เวรกรรม ต้องข้ามแม่น้ำ ทำไงล่ะตู...” เส้นชัยอยู่ไม่ห่างจากฝั่งตรงข้ามเท่าไหร่เลย เจ้ากระต่ายมัวแต่เง็งว่าจะทำไงดี จนเจ้าเต่าคืบคลานมาทันแล้วก็จ๋อมลงน้ำว่ายข้ามฝั่งไปเข้าเส้นชัย นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า.... พิจารณาจุดแข็งของตนให้ดีแล้วพยายามเปลี่ยนสนามการแข่งขันให้ ตนเองได้เปรียบมากที่สุด จากคุณ : ท่านขุนเดชา เขียนเมื่อ : 17 ก.ค. 54 14:33:22

ความคิดเห็นที่ 2 ย๊างงง ยังไม่พอ มีต่อ.... ด้วยน้ำใจนักกีฬา ครั้งนี้เจ้าเต่ากับกระต่ายเป็นเพื่อนที่ที่ดีต่อกันแล้ว ต่างคนต่างมาระดมสมองคิดด้วยกัน หากทั้งสองร่วมมือกัน การแข่งแบบเมื่อครั้งล่าสุดจะช่วยให้ทำเวลาได้ดีขึ้น ดังนั้น พวกมันจึงคิดจะแข่งอีกครั้ง แต่แข่งคราวนี้เป็นแบบทีมเวิร์ค เริ่มต้นเจ้ากระต่ายก็แบกเต่าวิ่งไปด้วยความเร็วสูง จนถึงริมแม่น้ำแล้วเจ้าเต่าก็ให้กระต่ายขี่หลังว่ายข้ามไป พอข้ามฝั่งเจ้ากระต่ายก็แบกเจ้าเต่าวิ่งต่อจนเข้าเส้นชัยด้วยกัน ผลการแข่งครั้งนี้ "สร้างความพึงพอใจให้กับทั้งสองฝ่าย(ตัว)" มากกว่า การแข่งครั้งก่อนๆหน้านี้ นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า.... การมีจุดแข็งและความสามารถโดดเด่นเฉพาะตัวเป็นสิ่งที่ดี แต่หากไม่รู้จักทำงานร่วมกับผู้อื่น ยังไงก็ไปไม่รอด เพราะมันจะมีบางสถานการณ์ที่เราเจ๋งคนอื่นเจ๊ง ในขณะที่บางสถานการณ์เราเจ๊งแต่คนอื่นเจ๋ง ทีมเวิร์คสำคัญตรงที่การกำหนดผู้นำให้เหมาะกับสถานการณ์ ให้ผู้ที่มีความถนัดกับสถานการณ์นั้นๆเป็นผู้นำกลุ่มในแต่ละช่วง สถานการณ์ที่เหมาะกับความสามารถของเขา นอกจากนี้เรายังได้บทเรียนอีกอย่างหนึ่งด้วยว่า ไม่ว่าเต่าหรือกระต่าย ไม่มีใครที่คิดเลิกล้มหรือท้อแท้หลังจากความล้มเหลวที่ได้เกิดขึ้น กระต่ายแก้ไขจุดบกพร่องของตนเองโดยการทำงานที่หนักขึ้น และเพิ่มความมุมานะในงานของตนเองหลังจากพบความล้มเหลว ส่วนเต่าได้ปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ของตนใหม่ เพราะตัวมันเองได้ทำงานหนักที่สุดเท่าที่มันจะสามารถทำได้แล้วในชีวิต เมื่อเราพบกับปัญหาหรือความล้มเหลว บางครั้งเราก็ควรจะทำงานให้หนักขึ้นและมีความเอาใจใส่ในงานมากกว่าเดิม บางครั้งก็ควรเปลี่ยนแผนการทำงานและทดลองในสิ่งใหม่ๆที่แตกต่างออกไป และในบางครั้งก็จำเป็นต้องทำทั้งสองอย่างเลย นอกจากนั้น กระต่ายกับเต่าก็ได้บทเรียนที่สำคัญอีกอย่างคือ เมื่อเราหยุดการแข่งขันกับตัวบุคคล แล้วหันมาแข่งขันกับสถานการณ์แทน พวกมันจะทำงานได้ดีขึ้นมาก เครดิต -  จาก FWD Mail  เพื่อนมันส่งมาให้ครับ อ่านสำนวนแล้ว  เข้าสไตล์การเขียน กระผมเลย แก้ไขเมื่อ 17 ก.ค. 54 15:09:18 จากคุณ : ท่านขุนเดชา เขียนเมื่อ : 17 ก.ค. 54 14:42:59

ความคิดเห็นที่ 3 . จากคุณ : ท่านขุนเดชา เขียนเมื่อ : 17 ก.ค. 54 15:07:24

ความคิดเห็นที่ 4 ขอบคุณค่ะท่านขุนที่เล่านิทานให้ฟัง กิฟท์หมดแล้วค่ะ คิคิ จากคุณ : iSsAbElLaคนเดิมแหละ เขียนเมื่อ : 17 ก.ค. 54 15:25:58

ความคิดเห็นที่ 5   สวัสดีค่ะ คุณลุงท่านขุนฯ ที่เคารพ :)  ขอบพระคุณมากค่ะ กลยุทธ์ปิดจุดอ่อน ใช้จุดแข็ง แข่งผลงาน อ่านแล้วหนูชอบมากค่ะ โดยเฉพาะการช่วยกันระดมสมอง ดึงจุดแข็งของแต่ละคนมารวมพลัง นอกจากนั้น กระต่ายกับเต่าก็ได้บทเรียนที่สำคัญอีกอย่างคือ เมื่อเราหยุดการแข่งขันกับตัวบุคคล แล้วหันมาแข่งขันกับสถานการณ์แทน พวกมันจะทำงานได้ดีขึ้นมาก ถ้าหน่วยงานไหนทำได้เช่นนี้...รับรองว่า ไปโลด แน่ๆ เจ้าค่ะ อิอิ ^_^ ป.ล. เข้ามาเพิ่มเติมข้อความอีกนิดนึง และขออนุญาตส่ง FW.ให้เพื่อนนะคะ (( อยากให้กี้ฟเช่นกัน...แต่กี้ฟก็หมดไปแล้วอ่ะค่ะ..มอบเพลงนี้ให้แทนนะคะ )) แก้ไขเมื่อ 17 ก.ค. 54 16:11:56 จากคุณ : แสนดีเหมือนทราย เขียนเมื่อ : 17 ก.ค. 54 15:40:12

ความคิดเห็นที่ 6 สวัสดีครับ ลุงขุนฯ เมื่อก่อนใช่ครับ ตอนยังหนุ่มแน่น ไฟแรง ชอบที่สุด คือการแข่งขัน ทั้งกับ ตัวเอง และผู้อื่น มากมาย จนกลายเป็น คล้าย แก่งแย่ง ชิงดี ชิงเด่น ให้ได้มา ซึ่งชัยชนะ ที่ตัวเอง คิดเข้าข้างตัวเองว่า ชอบธรรม การร่วมมือกัน กลับกลาย เป็นแค่ สิ่งลวง แท้จริง ต่างคอย ทิ่มแทง ทั้งต่อหน้า และ ลับหลัง เดี๋ยวนี้ น่ะหรือครับ เมื่อ คิดได้ ปล่อยวาง ไม่ อินัง ขังขอบ จนดูเหมือน เฉื่อยชา หมดไฟ กลับมีความสุข ไม่ต้องคอยระแวง จะมีใครแอบแทง ข้างหลัง ไม่ต้องกลัวว่าใครจะชนะ ไม่ต้องอาย ว่าเราจะแพ้ เพียงแต่ ทำงานที่ได้รับ มอบหมายมาให้ บรรลุผล และ ดีที่สุด ผมว่า ผมมีความสุข มากกว่า ตอน หนุ่มๆ อีกครับ จากคุณ : XXLGiant เขียนเมื่อ : 17 ก.ค. 54 15:47:45

ความคิดเห็นที่ 7 นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า.... โลก... และมนุษย์โลก.. ย่อมมีการพัฒนาไปข้างหน้าอย่างไม่หยุดยั้ง แต่การพัฒนาจะโดยมนุษย์ หรือ เทคโนโลยี ใดๆก็ตาม ไม่มีสรรพสิ่งใด ถูกต้อง  ดีงาม  ชั่วร้าย...เต็มร้อยเปอร์เซ็นต์....!! จากคุณ : ~นายเฉิ่มศักดิ์~ เขียนเมื่อ : 17 ก.ค. 54 16:17:39

ความคิดเห็นที่ 8 ขอบคุณค่ะ พี่ขุน ฝันในอดีต หน้าที่การงานก็มีการแข่งขันกัน เหยียบกันขึ้นไป แม้แต่เพื่อนตัวเอง เห็นจนระอาใจ พี่ขุนนึกถึงองค์กรที่ฝันทำงานนะคะ แต่ฝันภูมิใจในตัวเอง เพราะทุกอย่างที่ได้มา ได้มาเพราะความสามารถของตัวเอง TEAM WORK บางวันก็ดี บางวันก็ไม่ดี เมื่อเจอ TEAM WORK ที่ไม่ดี เราจะทำอย่างไรให้มันดี เพราะเมื่อมันไม่ดี ผลลัพธ์ ตกอยู่ที่เราและผู้ใช้บริการ สร้าง TEAM WORK ที่ดี ตั้งแต่ได้เห็นหน้าตากันเลย มีความสุขกับสิ่งที่เราเป็น ไม่เบียดเบียนผู้อื่น น่าจะดีที่สุดค่ะ จากคุณ : ขอพบในฝัน เขียนเมื่อ : 17 ก.ค. 54 16:23:27

ความคิดเห็นที่ 9 ... จากคุณ : Resource of life เขียนเมื่อ : 17 ก.ค. 54 16:35:38

ความคิดเห็นที่ 10 ตอนนี้ก็ใช้หลักการนี้อยู่แล้วหลายแห่ง เพียงแต่ว่า  มันบีบคั้นพนักงานระดับปฏิบัติการ เสียหน้าเขียว การทำงานให้บรรลุเป้าหมาย  บีบคั้น กัน  เหงือกแห้ง นโยบายดี  แต่ถ้าเต่าเจ็บตีน  กระต่ายขาหัก   เพราะโหมแข่งขันไปมากๆเข้า  อาจไปแข่งต่อไม่ได้ ยังไงๆ  ก็อย่ามุแข่งกันหนักจนลืมดูแล  มือ เท้า ที่ใช้แข่งขันบ้างนะคร้าบบบ อิอิ อย่างน้อยก็จัดรองเท้า(สวัสดิการ) ยี่ห้อดีๆ  ให้ใส่ด้วยจะดีครับ   จากคุณ : หน้าต่างไร้กลอน เขียนเมื่อ : 17 ก.ค. 54 19:28:51

ความคิดเห็นที่ 11 ขอบคุณทุกท่านขอรับ เก็บมาแปะ  เพราะเห็นสำนวนเขียนคล้ายๆกระผมน่ะ วันหลังจะลองเขียนทำนองนี้มาให้อ่านกันขอรับ จากคุณ : ท่านขุนเดชา เขียนเมื่อ : 17 ก.ค. 54 20:14:55

ความคิดเห็นที่ 12 เท่าที่ผมเห็นมา พอถึงระดับปลายยอดหญ้า มีพื้นที่เหลือน้อยลง เห็นบรรดาฝูงมดเริ่มไต่ข้ามกันไป หรือถีบกันตกลงไปในน้ำข้างล่าง เป็นอาหารของปลาก็มีครับ จากคุณ : owl2 เขียนเมื่อ : 18 ก.ค. 54 11:16:30

ความคิดเห็นที่ 13 รับ แซ่บ.. จากคุณ : vr1428 เขียนเมื่อ : 18 ก.ค. 54 12:03:28

ความคิดเห็นที่ 14 ขอบคุณครับ  ท่านขุนเดชา จากคุณ : Gee Dai เขียนเมื่อ : 18 ก.ค. 54 12:12:12