เจ้าลูกโป่ง ที่บ้านเป็นเหมือนกันค่ะ เห็นหลายๆ คนถามเรื่องเชื้อรากันเยอะ ถ้าพาไปหาคุณหมอแล้ว ..งง.. ที่คุณหมออธิบาย จะอธิบายให้เข้าใจง่าย ๆ รักษาแบบไม่แพง เพราะเคยหมดไปเยอะ เดือนนึงเกือบ 5000 บาทแต่ก็ไม่มีอะไรดีขึ้น เพราะไม่เข้าใจโรค ลองดูนะคะ.. เผื่อเป็นประโยชน์ค่ะ เข้าใจว่าเจ้าของเมื่อเห็นน้องหมาป่วย ต้องทุกข์ใจแน่นอน เราเองก็แย่มาก ทายาไปก็ร้องไห้ไป ไม่รู้จะทำไงดี
(เป็นข้อมูลที่ค้นคว้ามาเอง ตามความเข้าใจ จากการสอบถามสัตวแพทย์และหนังสือค่ะ)
1. ต้องดูก่อนว่าอาการเริ่มมาจากอะไร ถ้าไม่แก้ต้นเหตุก็ไม่มีทางดีขึ้นแน่ ๆ เช่น แพ้อาหารพวกโปรตีนจากสัตว์ แพ้ดอกไม้ เป็นต้น ตอนนี้มีอาหาร-ขนมของน้องหมาออกมาขายกันเกลื่อนกลาด ส่วนผสมหรือวัตถุดิบที่บรรจุภัณฑ์บอก เราก็ไม่ค่อยเข้าใจเพราะไม่มีความรู้ ที่บอก ว่า วัตถุดิบแปรรูปจากสัตว์ อะไรประเภทนี้เราก็ไม่รู้จัก ส่วนใหญ่แล้วก็มาจากส่วนต่าง ๆ ของสัตว์ประเภทต่าง ๆ ที่ไม่มีประโยชน์สำหรับคน ซึ่งสุนัขสามารถทานได้มา บด ๆ ปน ๆ กัน เติมกลิ่น สี และปรุงแต่ง น้องหมาปัจจุบันนี้มีการขยายพันธุ์หลากหลาย ผสมสายกันมั่วมั่ง ความอ่อนแอระหว่างสายพันธุ์ก็ติดข้ามรุ่นกันมา เลยเกิดอาการที่เราเรียกว่าภูมิแพ้ กันเยอะ ภูมิแพ้ที่น้องหมาเราเป็น เป็นภูมิแพ้โปรตีนสัตว์ค่ะ คือ ถ้าทานอะไรก็ตามที่เป็นผลิตภัณฑ์จากสัตว์แล้วล่ะก็จะมีอาการทันที
รักมากไป? เจ้าลูกโป่งไม่ค่อยได้เท้าแตะพื้นนอกบ้านเลยค่ะ กลัวสกปรก กลัวเห็บ กลัวเชื้อโรค ก็เรานอนด้วยกัน กินด้วยกัน ไม่เคยรังเกียจเลย แรก ๆ ตอนอยู่ด้วยกันใหม่ ๆ เช็ดตัวก่อนนอนทุกวัน แล้วก็ปล่อยให้วิ่งเล่นในบ้าน ไม่รู้เลยว่า การที่ปล่อยให้ตัวเค้าเปียกนาน ๆ จะเป็นแหล่งเกิดเชื้อรา กระตุ้นให้มันเพาะพันธุ์บนตัวน้องหมา ต้องให้ตัวแห้งโดยไวนะคะ จำไว้
พวกนี้ต้องสังเกตค่ะ สังเกตมากๆ ที่บ้านจะแพ้อาหาร ถ้าให้พวกเนื้อสัตว์เช่นเนื้อไก่ ไข่ นม เนี่ยจะมีอาการ ขึ้นผื่นคัน กลายมาเป็นปื้นหน้า ผิวหนังนูน ๆ เหมือนโดนยุงกัด คันมาก ต่อมาก็จะนูนๆ แห้ง ๆ มีสะเก็ดขาว ๆ ตรงกลางสีแดง ขนร่วงเป็นหย่อม และกระจายไปเรื่อย ๆ ถ้ารู้ว่าแพ้อาหารล่ะก็ หยุดอาหารเดิมทันที หรือจะลองหยุดดูก่อนก็ได้ เวลาหยุดอาการจะไม่หยุดตามเพราะร่างกายเค้าย่อยและดูดซึมไปใช้ ฉะนั้นกว่าอาหารตัวที่แพ้จะหมดไปจากร่างกายก็เป็นอาทิตย์หรือเป็นเดือนทีเดียว ให้อย่างอื่นแทน เช่นผลไม้ ผัก เต้าหู้ พวกนี้ก็ให้ได้ไม่นานเพราะไม่เหมาะกับน้องหมา ต้องใช้อาหารสำหรับ sensitive skin ถ้าเป็นพวกแบรนด์เนม จะแพงสุด ๆ ลองมาหลายยี่ห้อแล้ว(จริง ๆ) ตอนนี้ใช้เป็นของคนไทยผลิตสูตรเจไม่แพงเลย กระสอบ10กก.ประมาณ400บาท บอกไม่ได้ว่าดีเลวต่างกันยังไง แต่Eucanuba (กล่องสีชมพูขาว บรรจุประมาณ 0.5กก. ซื้อในกรุงเทพแต่ไม่รู้ที่ไหนพี่ชายซื้อให้) และ Science Diet (มีขายทั่วไป) ไม่ยอมกินเพราะเม็ดใหญ่เกินไป ไม่ชอบ ทั้งๆที่หอมน่ากิน กลิ่นยังกะหมูหยอง เราลองกินเองยังว่ารสดีเลย ให้กินแบบกระป๋อง หอม น่าตาก็เหมือนเนื้อหมูชิ้น ๆ ก็ยังไม่ยอมกินอีก อาจเพราะมีกลิ่นข้าวโพดแรงไปหน่อย กระป๋องนึงเกือบร้อยนะยะ ..เฮ้อ.. พอมาเจอยี่ห้อนี่ เค้ายอมกิน เลยดีใจมากเรยย ทั้งถูกด้วย จากที่เคยซื้อ ครึ่งกิโล ร้อยกว่าบาท กับที่ 3 กก.450 มาแล้ว สรุปว่า ไม่จำเป็นต้องเป็นแบรนด์เนมค่ะ ไม่จำเป็นเรย
จะลองเปลี่ยนเป็นอาหารสุนัขที่ทำมาจากเนื้อแกะ หรือเนื้อปลา ก็ได้นะคะ จากที่ถามคุณหมอสุพจน์ (ประจำคลินิกสุวรรณชาด แต่เราถามผ่านเวบไซต์นะ) อาจจะไม่แพ้ เนื่องจากธรรมชาติน้องหมาจะรับแต่อาหารที่ทำมาจากเนือ้ไก่ เนื้อหมู พอมาเจอเนื้อแกะ หรือเนื้ออาหารทะเล ร่างกายมันยังตอบไม่ได้ว่าแพ้ เพราะไม่เคยได้รับมาก่อน แต่ก็อาจเป็นได้ที่จะแพ้ในอนาคต ซึ่งที่ดีที่สุดคือให้ อาหารเจ
2. อาบน้ำบ่อย ๆ ด้วยแชมพูยา ที่เคยใช้แล้วได้ผลคือ แชมพู MalAcetic สัญลักษณ์ตัวอักษรสีแดง ขวดเล็กๆประมาณ 100-120บาท ใช้คู่กับสเปรย์ MalAcetic ขวดละประมาณ 500 บาท (บอกแล้วว่าเปลืองมาก สองอย่างนี้ ใช้1-2 อาทิตย์ก็หมดแร่วว) ยี่ห้อนี้ใช้หลัก เมื่อผิวหนังเป็นกรด จะช่วยให้เชื้อราหรือยีสต์เจริญเติบโตได้ลำบากขึ้น เพราะแพงเราจึงเปลี่ยนมาเป็นอีกยี่ห้อที่ใช้อยู่คือ Chitocure ราคาไม่แพงนะ เมื่อเทียบกับปริมาณ เราใช้ ขนาด 1000 cc. อาบทุก 3 วัน ตามด้วยไคโตซานเข้มข้นผสมน้ำ แล้วถูตัวทิ้งไว้ ซับหมาด ๆ ตามด้วยสเปรย์ยี่ห้อเดียวกัน เป่าขนให้แห้ง ห๊อม...หอมม ต้องอาบน้ำถี่ ๆ นะ เพื่อกันไม่ให้เชื้อราสร้างสปอร์ได้อีก ประมาณ 3-4วันครั้ง พวกนี้จะแบ่งตัวเร็ว **ติดคนด้วยนะคะ โดนมาแล้ว เป็นกันทั้งบ้าน รามไปถึงเด็กข้างบ้านเพราะชอบมาเล่นด้วยกัน** รา นี่ตายยากค่ะ สังเกตจากที่ตัวเองเป็น จะเป็น ๆ หาย ๆ น้องหมาก็เหมือนกัน เวลามันกลับมามันก็จะขึ้นที่เดิมซ้ำ ๆ แชมพูยานี่จะไม่ช่วยระงับคัน ไม่เหมือนเวลาคนใช้ยาสระผมแล้วหายคันตั้งแต่ครั้งแรกที่สระ เคยใช้ไนโซรัล (แพงเหมือนกันนะ ขวดจิ๋วเดียว 120 บาท) ไม่ดีขึ้นเลย ไม่รู้ว่าเพราะหนังศรีษะกับผิวหนังมันต่างกันหรือเปล่า ที่ผิวหนังนี่เราต้องใช้ยาทาช่วยด้วย ถ้าไม่มีเวลามาก วันละครั้ง ก็พอตอนไหนก็ได้
3. ยากิน ยากินเนี่ย ตอนเราพาลูกโป่งหาหมอ ครึ่งปีติดต่อกัน ก็ให้ยา คีโตโคนาโซล มาตลอด พวกนี้มีผลต่อตับสุนัขระยะยาว เพราะตับจะดูดซับสารเคมีไว้ นานเข้าก็มีอาการเบื่ออาหาร ซึม อาเจียน เพลียหอบแห่ก ๆ ๆ ท้องบวม เบลอ ๆ แล้วก็อาการไวแสง อย่างเช่น ตื่นตระหนก ทำนองนี้ เราก็จะบอกหมอให้หยุดยา สัก 2 อาทิตย์แล้วเริ่มให้ จาก เสี้ยว เป็นครึ่ง เป็น1 เม็ด ต่อวัน อย่างนี้เรื่อย ๆ จนเราพบทางออกว่า ไม่มีทางหายแน่แร้ววววว และ ตังก์หมดแร้วววว นั่นแหละ เราก็อาศัยถามคุณหมอสุพจน์ทางเน็ต คู่กับดูอาการรักษาเอง ใครบอกก็ไม่เชื่อแว้วว เพราะมันใจว่า หาข้อมูลมาดี
มาดูเรื่องยากัน คีโตโคนาโซล รักษาราในคนได้ด้วย ส่งผลต่อคนและเด็กเหมือนกับที่น้องหมาเป็นนั่นแหละ คือร่างกายดูดซับ มีขายทั่วไปตามร้านขายยา ราคาถูก 10 เม็ด 40-50 บาท
กลิสซีโอฟูลวิน รักษาราเหมือนกัน ราคาแพงโ-ตร แคปซูลนึงหลายร้อยบาท ผลรักษาเหมือนกัน มีผลต่อร่างกายเหมือนกัน แต่น้อยกว่า ระยะเวลาการส่งผลกระทบต่อร่างกายนานกว่า ไม่ค่อยมีขาย ไม่นิยมใช้
เราเลือกใช้ คีโตโคนาโซล ให้ลูกโป่งกินเฉพาะตอนอาการมาก ๆ เช่นถ้าหาก คัน แต่มีสะเก็ดรังแค จะไม่ให้ ถือว่ายังไม่เป็นมาก แต่ถ้าเริ่มเการุนแรงจนเป็นหนอง ผิวหนังอักเสบ เอามือลูบผิวหนังแล้ว พบปุ่มนูน ๆ ตามตัวเยอะ ก็จะให้ยาทันที ยาจะช่วยระงับคันได้ด้วยนิดหน่อย เริ่มจากครึ่งเม็ด ถ้า หนักมากก็เป็น 1 เม็ด ให้ไปจนเห็นว่าทุเลา ก็หยุด ต้องทำคู่กับอาบน้ำ และเปลี่ยนอาหารนะ
4. ยาทา ยาทาเนี่ย มีหลายชื่อมาก พัฒนาไปเรื่อย ๆ อย่างที่เราได้ยินบ่อย ๆ โทนาฟ พวกนี้ก็ได้ ชื่อยา จะลงท้ายด้วย ...โคนาโซล หรือ นาโซลเฉย ๆ ตามการพัฒนายา เพราะรามันกันพัฒนาตัวเองไปเรื่อยๆ เหมือนกัน หลอดแรกอาจเห็นผลดี หลอดสองอาจไม่ได้ผลก็เปลี่ยนยี่ห้อซะ สรรพคุณ จะฆ่าเชื้อรา หรือยับยั้งเชื่อรา ได้เหมือนกัน เราใช้ phoenix หลอดสีขาวเหลือง ใช้แล้วดี ทั้งคนทั้งหมา หยุดคันทันทีเรยย
แนะนำ** ถ้าน้องหมาเป็นมาก เกาจนน้ำเหลืองกรัง ขนแข็งไปหมด ให้ใช้มีดโกน โกนขนตรงนั้นให้เตียนไปเลย แล้วล้างด้วยน้ำเกลือ ก่อนทายา ทุกวัน นะ ช่วยให้หายเร็วขึ้น ขนที่ขึ้นใหม่จะเปลี่ยนไป แสดงว่าผิวหนังตรงนั้นอักเสบรุนแรง รูขุมขนถูกทำลาย ผลิตเม็ดสีไม่สมบูรณ์แล้ว ขนใหม่จะแข็ง เปลี่ยนสี (น่าเกลียดมาก ๆ ลูกโป่งกลายเป็น schnauzer สีพริกไทย ที่มีขนสีทองแข็งยังกะแปลงทองเหลืองขัดส้วมโผล่เป็นวง ๆ ตามตัว) ไม่ต้องกลัวนะ หมอเคยบอกว่า ขนจะแก้ไม่หายแล้วครับ แต่ขนลูกโป่งก็เปลี่ยนไปนะ ตอนนี้กลับเป็นแบบเดิมแล้ว เราคิดว่าอยู่ที่อาหาร และกำลังใจมากกว่า อาการจะกลับมาเป็นที่เดิมซ้ำ ๆ ๆ ๆ ๆ เป็นช่วง ๆ ต้องดูให้ดี เหมือนที่เราติดเจ้าโป่ง ที่แก้ม เพราะชอบหอมกัน กอดกัน เอาหน้าไปถู ๆ ๆ กับที่ขา และก็แขน ขนแขนกะขาเราหายไปเป็นวงกลม เลยแหละ...
เอาล่ะ จบแล้ว เอาใจช่วยเจ้าของน้องหมาทุกตัวที่ป่วยเป็นเชื้อราน๊า ทำใจเหอะว่ามันไม่หายขาด เหมือนคนเป็นภูมิแพ้นั่นแหละ พอร่างกายอ่อนแอหน่อย มันก็จะกลับมาทันที รักนี่นา ก็ต้องดูแล โชคดีที่ลูกโป่งร่าเริง ป่วยแค่ไหนก็ยังวิ่งได้ กินได้ ไม่งั้นเราคงแย่แน่
... รักหมาตัวเองแล้ว เผื่อความรักให้หมาตัวอื่นด้วยนะ มีน้องหมาจรจัดข้างทางมากมายเลย ที่กินไม่เคยอิ่ม ...
ถามเพิ่มเติมได้นะ ที่ pintocute@hotmail.com อนุญาตให้เพื่อนจตุจักร add msn ได้ค่ะ
จากคุณ :
look-pong
- [
6 ก.พ. 49 12:42:07
]