ความคิดเห็นที่ 1 เจ้าตัวอ่อนจะกัดกินภายในดอกตูม ซึ่งก็คือกลีบดอกด้านใน ทำให้เห็นลักษณะบิดเบี้ยวผิดปกติ เป็นสีน้ำตาล ฉ่ำน้ำ เน่า และหลุดร่วงไปในที่สุด จากคุณ : แดงอุบล - [ 15 ม.ค. 51 10:46:04 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ถ้าสังเกตภายในดอกตูมที่ถูกทำลาย จะพบตัวอ่อนเล็กๆ สีขาว หรือเหลืองอ่อน จนถึงเหลืองเข้ม ลักษณะเหมือนหนอนตัวเล็กๆ จากคุณ : แดงอุบล - [ 15 ม.ค. 51 10:51:44 ]

ความคิดเห็นที่ 3 จากนั้นจะออกจากดอกตูมเข้าดักแด้ลงไปอยู่ตามเครื่องปลูก จากคุณ : แดงอุบล - [ 15 ม.ค. 51 10:58:00 ]

ความคิดเห็นที่ 4 แล้วก็ออกจากดักแด้เป็นตัวเต็มวัยทำลายดอกไม้อีกเป็นวงจร จากคุณ : แดงอุบล - [ 15 ม.ค. 51 10:59:34 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ทำไมจึงเรียก "ไอ้ฮวบ" ????? เมื่อเราสังเกตเห็นอาการที่เกิดที่ดอกตูม นั่นหมายความว่าดอกไม้ถูกทำลายไปเกือบทั้งสวนแล้ว อีกสองสามวันต่อมาก็จะเห็นอาการทั้งสวน ก็คือเป็นที ฮวบไปทั้งสวน จากคุณ : แดงอุบล - [ 15 ม.ค. 51 11:04:02 ]

ความคิดเห็นที่ 6 วิธีการรักษา  ตัดช่อดอกเผาทำลายให้หมด แล้วฉีดพ่นด้วยยาดูดซึม พวกไซเปอร์เมทริน และคาร์โบซัลแฟน การจัดการโรงเรือนให้สะอาดก็เป็นการป้องกันที่ดี ขอให้โชคดีครับ อย่าได้เจอะเจอกับไอ้ฮวบเลย จากคุณ : แดงอุบล - [ 15 ม.ค. 51 11:09:50 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ขอบคุณมากค่ะ จากคุณ : กญ_12 - [ 15 ม.ค. 51 11:11:42 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ขอบคุณครับ จากคุณ : ROJIN - [ 15 ม.ค. 51 11:34:14 ]

ความคิดเห็นที่ 9 เยี่ยมครับ...รออ่านตอนที่สามครับ จากคุณ : เสือเจ้าถิ่น - [ 15 ม.ค. 51 11:46:47 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ขอบคุณครับ จากคุณ : buaravong - [ 15 ม.ค. 51 11:57:35 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ผมรออ่านถึงตอนที่ 10 ครับ จากคุณ : appendiculata191 - [ 15 ม.ค. 51 12:08:43 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ขอบคุณครับ จากคุณ : ยุ่น..ดิ - [ 15 ม.ค. 51 12:37:24 ]

ความคิดเห็นที่ 13 ต้องกำจัดตั้งแต่เป็นตัวอ่อนเลยป่าวคะ.. จากคุณ : เข้ามาชม (ภัสสรา) - [ 15 ม.ค. 51 12:57:43 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาชมครับ ถึงแม้ว่าจะเป็นการนำเสนอภาพที่ไม่เจริญหูเจริญตา ไม่เหมือนกระทู้ภาพกล้วยไม้สวยๆ แต่ก็หวังว่าจะเป็นประโยชน์ต่อชาวเรือนกล้วยไม้ครับ คุณ appendiculata191 : จะพยายามหามานำเสนอครับ พรุงนี้ว่างจะสะพายกล้องไปด้วย คุณเสือเจ้าถิ่น : ตอน 3 มาแน่นอนครับ อดใจรอหน่อย วันใหนว่างก็จะค่อยๆนำเสนอครับ คุณภัสสรา : เมื่อสังเกตเห็นอาการ ต้องรีบกำจัดโดยด่วนครับ ตัดช่อดอกเผาทำลายให้หมด และก็ฉีดพ่นยาเลย อย่าปล่อยไว้จนเข้าดักแด้ จะปราบยากมาก หมายเหตุ :  ผมไม่ใช่นักวิชาการนะครับ ไม่เคยเรียนมาทางด้านนี้ ผิดถูกอภัยด้วย จากคุณ : แดงอุบล - [ 15 ม.ค. 51 13:32:11 ]

ความคิดเห็นที่ 15 สามารถใช้ยาฉีดพ่นบริเวณดอกที่ตูมได้หรือเปล่าครับ จากคุณ : mr.orchid - [ 15 ม.ค. 51 13:33:44 ]

ความคิดเห็นที่ 16 ขอบคุณสำหรับความรู้ครับ จากคุณ : Kevin Kaw - [ 15 ม.ค. 51 14:06:35 ]

ความคิดเห็นที่ 17 มาเก็บความรู้ ขอบคุณมากค่ะ จากคุณ : ฉัตรวาริน - [ 15 ม.ค. 51 14:17:18 ]

ความคิดเห็นที่ 18 ขอบคุณมากค่ะ   มีประโยชน์มากค่ะ จากคุณ : sunnyorchids - [ 15 ม.ค. 51 16:08:30 ]

ความคิดเห็นที่ 19 รับความรู้คะ ขอบคุณคะ จากคุณ : ดอกเอื้องลานนา - [ 15 ม.ค. 51 16:09:35 ]

ความคิดเห็นที่ 20 ขอบคุณครับ จากคุณ : jeabnun - [ 15 ม.ค. 51 16:14:00 ]

ความคิดเห็นที่ 21 ขอบคุณค่ะ จากคุณ : บุหงากะสุต - [ 15 ม.ค. 51 18:09:59 ]

ความคิดเห็นที่ 22 กระทู้ดีๆอย่างนี้ สุดยอดครับ ขอบคุณมากๆครับ จากคุณ : ปุ้ม ครับ - [ 15 ม.ค. 51 18:42:47 ]

ความคิดเห็นที่ 23 มันร้ายนัก จากคุณ : น้าโหด - [ 15 ม.ค. 51 18:44:55 ]

ความคิดเห็นที่ 24 ขอบพระคุณมากๆครับ จากคุณ : สิงโตอ้วน - [ 15 ม.ค. 51 18:45:35 ]

ความคิดเห็นที่ 25 ขอบคุณมากครับ จะรอเรื่อยๆนะครับ ปล.บอกยี่ห้อยาก็ดีครับ จะได้ตามใช้ด้วย จากคุณ : ลุงหนวด (ลุงหนวด๒๕๔๗) - [ 15 ม.ค. 51 19:55:02 ]

ความคิดเห็นที่ 26 ขอบคุณมาก ๆ ครับท่านพี่ จากคุณ : Pic-s - [ 15 ม.ค. 51 20:09:10 ]

ความคิดเห็นที่ 27 ขอเรียนแลกเปลี่ยน เพื่อเป็นความรู้ครับ คือ ช่วงฮวบระบาดในหน้าฝน ...เคยเห็นเกษตรกรหวายตัดดอก มือดีหลายๆท่าน.. ใช้ไซเปอร์พ่วงด้วยอะบาและแลนเนท... สลับกับ เมทามิโดฟอส (ยังหาซื้อได้)พ่วงแลนเนท หรือ คลอไพกับแลนเนท ฉีดถี่มากประมาณสามสี่วันครั้งเห็นจะได้ ...ซึ่งตามตำราโรคพืชไม่ได้บอกแบบนี้และยาบางตัวโดนแบนไปแล้วแต่ยังหาซื้อได้.. พอฉีดสวนนี้ มันก็มึนบินไปอยู่สวนฝั่งตรงข้ามที่ยังไม่ได้ฉีด ทำให้มันแข็งแรงขึ้นเรื่อยๆ... คุณแดงอุบลมีความเห็นกับวิธีการจัดการของเกษตรแบบนี้ยังไงครับ..ผมเองก็ไม่ทราบเหตุผลของเกษตรกรได้แต่รับทราบมาครับ... จากคุณ : เสือเจ้าถิ่น - [ 15 ม.ค. 51 21:08:55 ]

ความคิดเห็นที่ 28 ขอบคุณครับที่ให้ความรู้ มีแนวคิดว่าถ้าป้องกันและขับไล่ ให้ดีๆก็พอเพียงแล้วสำหรับการ ปลูกเลี้ยงแบบไว้ดูเล่น ถ้ามีการ จัดการสวนให้โปร่งและสะอาดก็ จะมีปัญหาน้อยลงไปอีก จากคุณ : ชัดเจนน้องนาง - [ 16 ม.ค. 51 09:29:29 ]

ความคิดเห็นที่ 29 ขอบคุณสำหรับความรู้ดี ๆ ค่ะ จากคุณ : คนปากน้ำ - [ 16 ม.ค. 51 13:14:05 ]

ความคิดเห็นที่ 30 ขอบคุณค่ะ ได้ความรู้มากเลยค่ะ จากคุณ : เด็กปทุม - [ 16 ม.ค. 51 13:41:45 ]

ความคิดเห็นที่ 31 ชอบ ๆๆ ค่ะ กระทู้มีสาระ ประโยชน์ดีค่ะ จากคุณ : whilly - [ 16 ม.ค. 51 20:12:25 ]

ความคิดเห็นที่ 32 พอดีเมื่อวานไม่ว่าง ไม่ได้เข้ามาเรือนกล้วยไม้ mr.orchid : พ่นได้ครับ แต่มักไม่ค่อยได้ผล เจ้าตัวร้ายมันอยู่ข้างใน ไม่โดนยา บางส่วนก็เข้าดักแด้แล้ว และอีกอย่าง ถ้าเห็นอาการ แสดงว่ามันระบาดหนักแล้ว ต้องตัดช่อดอกเผาทำลายและฉีดพ่นยาติดต่อกันเป็นเดือน ลุงหนวด : ยาในท้องตลาดมีทั้งของแท้และของปลอม หรือบางทีเปอร์เซ็นต์ยาไม่ได้ตามสลาก ยาบางตัวใช้ได้ผลแต่โดนแบนไปแล้ว เลยไม่กล้าแนะนำครับ เสือเจ้าถิ่น : ไอ้ฮวบไม่ได้ระบาดเฉพาะหน้าฝน ช่วงเดือนธันวาคม ถึงกุมภาพันธ์ ก็เป็นช่วงระบาด สรุปว่าระบาดทั้งปี ถ้าการจัดการในสวนไม่ดี ที่สำคัญคือการรักษาความสะอาดของโรงเรือน  ส่วนเรืองยานั้นถูกต้องครับสำหรับเกษตรกรอาชีพ จะใช้ยาหลายตัวผสมกัน เพราะคำแนะนำตามตำราไม่ได้ผลร้อยเปอร์เซ้นต์สำหรับสวนใหญ่ๆ การระบาดแต่ละครั้งสร้างความเสียหายทั้งสวน ต้องอาศัยความร่วมมือระหว่างสวนใกล้เคียงด้วยในการฉีดพ่นยาพร้อมๆกัน เพราะหากตางคนต่างทำ ปัญหาการระบาดก็จะแก้ยาก สวนนึงฉีด อีกสวนไม่ฉีด มันก็จะบินย้ายไปสวนอื่น สลับกันไปมา และปัญกาสำคัญคือทำให้มันดื้อยา ยิ่งกำจัดยากเข้าไปใหญ่ ต้องมีการเปลี่ยน สลับยา และใช้ยาที่แรงขึ้น จากคุณ : แดงอุบล - [ 17 ม.ค. 51 09:43:52 ]

ความคิดเห็นที่ 33 ขอบคุณที่ให้ความกระจ่าง อีกครั้งครับ จากคุณ : เสือเจ้าถิ่น - [ 17 ม.ค. 51 12:05:06 ]

ความคิดเห็นที่ 34 ขอบคุณมากครับ จากคุณ : ลุงหนวด (ลุงหนวด๒๕๔๗) - [ 17 ม.ค. 51 21:02:06 ]

ความคิดเห็นที่ 35 ยาที่ฉีดในช่วงดอกได้ก็จะมีตัวอิมิดาคลอพริดนะค่ะปลอดภัย จากคุณ : @kataynoi@ - [ 28 ม.ค. 51 15:38:31 ]