ความคิดเห็นที่ 1 โมลอันนี้ไม่ค่อยได้ใช้ เพราะ หกก้อนเท่านั้น ทำกระดาษไขมันรองก้น จะได้แกะง่ายๆ จากคุณ : มิสพิกกี้ - [ 21 ก.พ. 51 06:18:16 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ไลร์ หรือ โซดาไฟ เหมือนผงซักฟอกลักษณะ แต่อันตรายมาก ใส่ถุงมือ ที่ปิดจมูกถ้าจะใช้ เราใช้วิธีเทลงพวกน้ำ หรือ นมแพะ อ่านเยอะๆก่อนทำน้ำไลร์นี้ จากคุณ : มิสพิกกี้ - [ 21 ก.พ. 51 06:20:59 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ใช่ คะ ที่นี่หนาว และก็เก็บที่เบสเม้นท์ แข็งทุกอย่าง อิอิ Hard oils จากคุณ : มิสพิกกี้ - [ 21 ก.พ. 51 06:22:24 ]

ความคิดเห็นที่ 4 Soft Oils ไม่ต้องโพสภาพนะ เดี๋ยวเห็นในถังก็ปนกันเรียบร้อยแล้วคะ น้ำไลร์ ผสมไลร์ลงในน้ำ อย่าผสมน้ำลงไลร์! ใช้ภาชนะแข็งแรงหน่อยนะ โปรดระวัง จากคุณ : มิสพิกกี้ - [ 21 ก.พ. 51 06:24:47 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ค่อยๆเทน้ำผสมไลร์ ลง หาน้ำมันที่อุ่นๆ ตามอุณหภูมิที่กำหนดไว้ในวิธีทำสบู่คะ ระวังกระเด็น จากคุณ : มิสพิกกี้ - [ 21 ก.พ. 51 06:27:04 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ส่วนมากคนทีทำสบู่สักพักแล้วจะเร่งใช้ที่ปั่นไฟฟ้า แต่ถ้า นักสบู่ใหม่ๆ ก็ใช้พายคนน้ำมันจะดีกว่า พอเริ่มชำนาญ  go for it. จากคุณ : มิสพิกกี้ - [ 21 ก.พ. 51 06:30:11 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ผสมโซดาไฟใหม่ๆน้ำมันจะออกใสๆ ตอนคนก็คนด้วยความระมัดระวัง ใช้เวลานานเหมือนกันนะ เคยคนเองใช้เวลาเป็นชมก็มี เพราะใช้น้ำแบบ เต็มอัตราส่วนที่เขาบอก ถ้าเก่งขึ้นก็ลดน้ำได้แต่จะข้นเร็วขึ้น นักทำสบู่ใหม่ใช้น้ำแบบเขากำหนดจะดีกว่า มีเวลาคิด อิอิ ในภาพนี้เริ่มข้น แล้วสบู่ลากเป็นเส้น แสดงว่าถึงเวลาเริ่มคิดใส่กลิ่น และสีได้แล้ว จากคุณ : มิสพิกกี้ - [ 21 ก.พ. 51 06:33:15 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ใส่สี กลิ่นน้ำหอม จากคุณ : มิสพิกกี้ - [ 21 ก.พ. 51 06:34:14 ]

ความคิดเห็นที่ 9 สีในหม้อทำสบู่แล้ว จากคุณ : มิสพิกกี้ - [ 21 ก.พ. 51 06:35:03 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ส่วนนี้ตักใส่กระมัง ทำสีเขียวเสวิล จากคุณ : มิสพิกกี้ - [ 21 ก.พ. 51 06:35:59 ]

ความคิดเห็นที่ 11 เทสีเขียวใส่โมลสบู่ จากคุณ : มิสพิกกี้ - [ 21 ก.พ. 51 06:37:04 ]

ความคิดเห็นที่ 12 สีฟ้าจะเห็นได้ว่ากลายเป็นม่วง และขอให้สังเกตุลักษณะเนื้อน้ำสบู่ทีอยู่ในโมล ให้เปรียบเทียบกับ สีที่จะเจลเมื่ออบเขาให้ร้อน จะด้วยห่มผ้า อบเตา หรือ อย่างไรก็ได้ที่ทำให้เขาเจล จากคุณ : มิสพิกกี้ - [ 21 ก.พ. 51 06:39:23 ]

ความคิดเห็นที่ 13 สบู่ที่กลายเป็นเจล จะไม่คุยมากตอนนี้เรื่องนี้นะ เราว่าถ้าสบู่เจล ฟองจะเยอะดีคะ สีจะออกแบบนี้คะ สีม่วงซึ่งทำจากสีฟ้าก่อนผสมน้ำไลร์โซดาไฟ จากคุณ : มิสพิกกี้ - [ 21 ก.พ. 51 06:41:19 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ตัดเป็นก้อนแล้ว หลังจากเขาเจล และทิ้งไว้สักยี่สิบ ชม ได้ บางทีทิ้งไว้หนึ่งวัน ถ้าเกิดสบู่ยังไม่แข็งพอที่จะตัดได้ ก็ทิ้งให้นานอีกหน่อยก็ได้ ใจเย็นๆๆ จากคุณ : มิสพิกกี้ - [ 21 ก.พ. 51 06:43:28 ]

ความคิดเห็นที่ 15 ก้อนสีเขียว หวังว่าทุกท่านคงได้ความรู้บ้างนะ จะพยายามนำภาพออกที่บล๊อกคะ จะได้ไม่หายไปไหน ถ้ากระทู้หล่นไปด้านล่างคะ อิอิ อจ ทั้งหลาย ช่วยกันหน่อยคะ ถ้าเกิดคำถามตามมา ขอบคุณมา ณ ที่นี้ด้วยคะ จากคุณ : มิสพิกกี้ - [ 21 ก.พ. 51 06:46:00 ]

ความคิดเห็นที่ 16 สบู่สีเขียวสวยจังค่ะ สงสัยค่ะ คำว่าสบู่เจล นี่หมายความว่าไงหรอคะ จากคุณ : Rinsei - [ 21 ก.พ. 51 07:01:26 ]

ความคิดเห็นที่ 17 สวยๆทั้งนั้นเลย เห็นแล้วอยากกิน สีเขียวกลิ่นอะไรค่ะ อันนี้แบชล่าสุดที่ทำ ยังไม่ได้ตั้งชื่อ กลิ่นทิวลิปกับดอกโหระพารวมกัน กลิ่นทิวลิปมันเหลืออยู่หน่อยเลยเทผสมลงไป ฟังดูแปลกๆแต่หอมน่ะ จากคุณ : petunia lover - [ 21 ก.พ. 51 07:07:57 ]

ความคิดเห็นที่ 18 กลิ่นแตงกวาชาเขียวคะ แอม สบู่หนู่หล่อนก็งามซะมะมีเลยนะ หัวคิดดีจัง เริดจริงๆๆ เจลเหรอ เทลงโมลแล้วห่มผ้าปิดให้เขาทำปฎิกิริยาเต็มที่คะ บ้านเราคงง่าย เพราะเมืองไทยร้อนอยู่แล้ว ถ้าไม่เจล ก็ยังเป็นสบู่  พอตากแห้งแล้ว ก็ใช้ได้คะ จากคุณ : มิสพิกกี้ - [ 21 ก.พ. 51 07:27:07 ]

ความคิดเห็นที่ 19 แอมจ๋า สบู่สวยมากกกกกก เดี๋ยวจะเข้าไปในบล็อคแอมว่าทำอย่างอื่นไว้หรือเปล่า สวยจริงๆ ถ่ายรูปสวยด้วยล่ะ พี่เต่า ถามพี่เต่าหน่อยจ้ะ พี่เต่ากวนสบู่จนเฮวี่เทรซอย่างนี้เลยเหรอ เค้าไม่กล้าอ่ะ แต่น้ำมันปาล์มนี่เฮวี่เทรซง่ายมากนะพี่เต่า  แอนชอบไขวัวมากกว่าปาล์มพี่ ไขหมูว่าเลิศแล้วสู้ไขวัวไม่ได้ ทำสบู่ออกมาขาวจ๊วกแข็งโป๊กเลย จากคุณ : flymom - [ 21 ก.พ. 51 08:07:49 ]

ความคิดเห็นที่ 20 สีสวยน่าใช้จังค่ะกลิ่นคงต้องหอมมากๆเลยนะคะเนี่ย*----* จากคุณ : แมวมี่ - [ 21 ก.พ. 51 08:09:36 ]

ความคิดเห็นที่ 21 ขอบคุณมากๆ ค่ะพี่เต่าที่นำความรู้  และสละเวลามาแบ่งปัน จะค่อยๆ เก็บความรู้ไว้นะคะ   เห็นแล้วอยากทำมากๆ เลยค่ะ สีม่วงกะสีฟ้าสวยจังค่ะ... จากคุณ : dreamon - [ 21 ก.พ. 51 08:58:02 ]

ความคิดเห็นที่ 22 สวยน่าใช้จังค่ะ  น่ากินโด้ย อิ๊ๆๆ จากคุณ : กานพลูหอม (กานพลูหอม) - [ 21 ก.พ. 51 09:05:00 ]

ความคิดเห็นที่ 23 ขอบคุณมากๆ จากใจเลยค่ะ สำหรับภาพทั้งหมด ขอสารภาพว่าเคยอ่านวิธีทำสบู่มาหลายครั้งแล้วแต่ไม่เข้าใจเลย เพราะไม่เคยทำ ทำไม่เป็น และศัพท์ในการทำสบู่ค่อนข้างเป็นคำเฉพาะ สุดท้ายก็เลยนึกภาพไม่ออกว่าอะไรเป็นอะไร พอเห็นรูปแล้วเก็ทเลยค่ะ แม้จะยังงงนิดหน่อยว่าสบู่ "เจล" คืออะไร เดาว่าหมายถึงการที่เนื้อสบู่เปลี่ยนแปลงหลังจากห่มผ้า เนื้อจะใสขึ้นนิดหน่อย ใช่หรือเปล่าคะ ชอบก้อนสีเขียวมากเลยค่ะ สวยจริงๆ สบู่ของคุณ petunia lover ก็ทำสวยมากเลย ถ้าเป็นเราคงทำใจอยู่นานกว่าจะกล้าใช้ ไม่อยากให้ดอกกุหลาบละลาย เสียดายค่ะ จากคุณ : หนูปูน - [ 21 ก.พ. 51 10:53:14 ]

ความคิดเห็นที่ 24 Gel Phase Description Gel phase occurs after you've poured your soap into the molds (when doing cold process soap). The soap will become super hot (reaching temperatures up to a full 190 degrees F) and get a translucent, jelly-like look to it. This is a normal part of the soapmaking process. However, gel phase is not necessary to make your cold process soap turn out. If your soap doesn't go through gel phase, don't despair. While the look and feel of non-gel phased soap is slightly different than soap that has gone through the gel phase, it is mostly a personal preference thing. Either type of soap looks and feels great once it is fully cured คำตอบของหนปูน อย่างที่อธิบายมาแล้วข้างบน จะเจลหรือไม่เจลสบู่จะแตกต่างกันที่ตัวสบู่ว่าสีสันหรือเนื้อสบู่ไม่เหมือนกัน แต่คุณภาพก็เป็นสบู่เช่นกัน หลังจากตากแห้งตามระยะเวลา หนึ่งเดือน ถ้าใช้สักสองวีคก็ได้ แต่สบู่แห้งเท่านั้นจะเปลือง นี่สังเกตุเองจากการใช้คะ จากคุณ : มิสพิกกี้ - [ 21 ก.พ. 51 11:32:25 ]

ความคิดเห็นที่ 25 พี่เต่า ถึงว่าสิได้กลิ่นหหอมเย็นๆ กลิ่นชาเขียวนี่เอง ชอบกลิ่นชาเขียวชอบอะไรๆที่เป็นชาเขียว นี่มีนมถั่วเหลืองชาเขียวออแกนิคอยู่สองกล่อง จะเอามาทำสบู่ดีไหมหนอ พี่แอน ขอบคุณค่ะ สบู่พี่แอนก็สวยเคยเข้าไปดูที่บล๊อคเหมือนกัน นี่สบู่ชาเขียวอีกแบชค่ะhttp://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=iamamm&month=01-2008&date=16&group=9&gblog=11 คุณหนูปูน ถ้าทำได้เองแล้ว มีเยอะ ไม่เสียดายที่จะใช้หรอกค่ะ แต่ละวันใช้สบู่ไม่ซ้ำกัน อยากลองให้หมด จากคุณ : petunia lover - [ 21 ก.พ. 51 12:09:28 ]

ความคิดเห็นที่ 26 คุณเต่า : เริ่ดมากครับ 555 เปิดคอร์สสอนในนี้เลยนะ ดีดี ขอฝากตัวเป็นลูกศิษย์ด้วยคนครับ แต่แก้ไขให้นิดหน่อยครับ พายที่ใช้คนสบู่นั้น "ห้าม" ใช้พายไม้ครับ เพราะในสบู่ขณะนั้นจะมีไลน์เยอะ มันกัดไม้กร่อนหมด ถ้าใช้พายไม้ ก็จะมีเศษไม้อยู่ในสบู่ด้วยครับ ไม่ดี ๆ ใช้พวกสแตนเลส หรือพลาสติกจะดีกว่าครับ คุณแอน : จะเทสบู่ตอนเทรซมากหรือเทรซน้อยขึ้นอยู่กับแบบที่จะทำครับ  ถ้าเทรซมาก ๆ ทำสเวิร์ลได้สวยครับ แต่ก็ต้องมีความชำนาญมาก ๆ โดยเฉพาะแบชใหญ่ ๆ ถ้าทำล็อกโมล์ดแบบแถวเดียวก็ไม่ยุ่งยากครับ ทำง่าย ๆ สบาย ๆ ลายสบู่จะสวยกว่าเพราะสีมันจะไม่ไปปนกันวุ่นวายครับ สบู่คุณแอมสวยมาก ๆ ครับ น่าใช้ ดีไซน์สวย เก่งจังครับ สบู่เจลนี่มีทั้งข้อดีและข้อเสียนะครับ บางคนก็ไม่ชอบให้สบู่เจล เพราะสีมันจะไม่สวยเท่าสบู่ที่ไม่เจล แต่สบุ่เจลจะให้เนื้อแข็งกว่า ฟองมากกว่า แต่ก็เสียเวลาครับ ยิ่งถ้าทำขายด้วยแล้ว จะไม่สามารถมาพิถีพิถันมาก ๆ ได้ เพราะต้องคำนึงถึงเวลาและต้นทุนด้วยครับ หัดทำสบู่ใหม่ ๆ อย่าใช้สีดีที่สุดครับ ทำให้เก่ง ๆ ก่อนค่อยเล่นสีน่าจะดีกว่านะครับ เฉพาะเรื่องสีในสบู่นี่ ก็มีปัญหาให้ปวดขมองเยอะแยะไปหมดครับ จากคุณ : sakchai splash - [ 21 ก.พ. 51 12:11:20 ]

ความคิดเห็นที่ 27 เข้ามาขอบคุณอีกรอบค่ะ ทีนี้เข้าใจแล้วค่ะพี่เต่า แอบเข้าไปดูบล็อกคุณแอมแล้วด้วยค่ะ สบู่สวยมากๆเลย สวัสดีค่ะคุณศักดิ์ชัย แอบรู้จักคุณข้างเดียวในห้องสีลมมานาน วันนี้มาแบ่งปันความรู้ถึงห้องงานฝีมือด้วย ขอบคุณนะคะ จากคุณ : หนูปูน - [ 21 ก.พ. 51 12:32:03 ]

ความคิดเห็นที่ 28 กรี๊ดดดดดดดดดดด หนูอยากทำเป็นมั่ง อืมมมมมมมมมมมม แต่เห็นแล้ว ขอพี่แอนใช้ต่อไปดีกว่ามั้ง ท่าทางแนนนี่จะไม่รอด กลัวโซดาไฟ กลัวอะไร ๆ ที่ต้องระวัง ยิ่งให้หัดทำเองนี่ไม่กล้าค่ะ อยากเรียนแบบมีครูกำกับใกล้ ๆ จากคุณ : madam_ozzy - [ 21 ก.พ. 51 13:03:04 ]

ความคิดเห็นที่ 29 มานั่งเกาะขอบจอคอมพ์ รอดูจนจบค่ะ สรุปคือคงไม่สามารถแน่ๆ คง "ขอ" ใช้ตามเดิมค่ะ แหะ แหะ อย่างไรก็จะรอคำตอบจากคุณแอนนะคะ ขอบคุณค่ะคุณพิกกี้  แล้วจะตามไปที่บล็อกอีกตามเคย... จากคุณ : ป้าเเอ๊ด (addsiripun) - [ 21 ก.พ. 51 13:44:24 ]

ความคิดเห็นที่ 30 โอ้ ดีจริงค่ะกระทู้นี้ อ่านแล้วไปตามเสิร์ชจนพบว่าร้านที่ขายวัตถุดิบพวกนี้ มีสาขาอยู่แถวรังสิตด้วย ดีจริง ใกล้ที่ทำงาน คือว่าอยากจะลองทำกับเค้าดูบ้างค่ะ รอกลับเมืองไทยก่อน ต้องลองๆๆๆ แต่ไม่รู้ว่าของที่ขายในเมืองไทย คุณภาพจะดีเท่ากับเมืองนอกหรือเปล่า ขอบคุณพี่เต่ามากๆ นะคะ ดูรูปเพลินเลย ทำสบู่นี่คล้ายๆ ทำขนมเลยนะคะ จากคุณ : Pattylala - [ 21 ก.พ. 51 14:29:17 ]

ความคิดเห็นที่ 31 สุดยอดเลยค่ะ ชอบดูมากๆ ถ่ายรูปก็สวย อธิบายเข้าใจง่ายค่ะ :) จากคุณ : แพนด้าหน้าใส - [ 21 ก.พ. 51 14:52:02 ]

ความคิดเห็นที่ 32 มีคำถามเรื่องการ cure สบู่ค่ะ เวลาทำสบู่ ไม่ว่าอากาศจะร้อนจะเย็น เราก็ควรห่มผ้าให้มันด้วยใช่ไหมคะ ทิ้งไว้อย่างน้อย 24 ชั่วโมงแล้วค่อยตัด...? ที่ลองทำไปเที่ยวแรก เอาโมลด์สบู่ (กล่องพลาสติกใสธรรมดา)ไปใส่ไว้ในกล่องโฟม...แบบที่ไว้แช่อาหารทะเลน่ะค่ะ เอากระดาษแข็งปิดหน้าสบู่ไว้ แล้วก็เอาผ้าคลุมไว้อีกทีก่อนปิดฝา ทำเสร็จตอน 5 ทุ่ม ทิ้งไว้ข้ามคืน สายๆ วันถัดมา แอบดู...สบู่ที่ทำด้านบนเป็นสีขาวประมาณ 1 ซม ส่วนด้านล่างยังเป็นเหมือนสังขยา (ทั้งสีและลักษณะ) ค่ะ ทิ้งเอาไว้จนครบ 24 ชั่วโมง เคาะออกมาตัด ด้านล่างยังไม่แข็ง ด้านบนแข็งแล้ว เลยวางตากไว้ในห้องเฉยๆ... ที่ทำไปนี่เป็นวิธี cure สบู่ที่ถูกต้องหรือยังคะ จากคุณ : Minutius Hora - [ 21 ก.พ. 51 15:08:10 ]

ความคิดเห็นที่ 33 ขอบคุณพี่เต่า(แอบเนียน)และทุกท่านค่ะ  ว่าจะหัดทำเองค่ะ  เพราะส่วนตัวชอบใช้สบู่ก้อนมากกว่าสบู่เหลว  เคยทราบว่าสบู่เหลวเนี่ยะฟองที่เยอะมาจากสารเดียวกะน้ำยาล้างจานอ่ะค่ะ  คนใกล้ตัวก้อเป็นภูมิแพ้ผิวหนังด้วยอ่ะค่ะ  ทีนี้ด้อยภาษาอังกฤษเหลือเกิน  อยากให้ผู้รู้บางท่านช่วยบอกส่วนผสมแบบคร่าวๆ  ให้หน่อยอ่ะค่ะ  และวิธีการอ่ะค่ะ  ขอบคุณล่วงหน้าคร้าบ.....  ถ้าในนี้มันโจ่งแจ้งเกิน  หลังมือได้มั๊ยค่ะ จากคุณ : ก้าวก้าว - [ 21 ก.พ. 51 15:10:10 ]

ความคิดเห็นที่ 34 พี่เต่าคะ เราจำเป็นต้องใช้ distilled water หรือเปล่าคะ จากคุณ : madam_ozzy - [ 21 ก.พ. 51 15:45:49 ]

ความคิดเห็นที่ 35 สุดยอดเลยค่ะ อ่านแล้วไม่กล้าทำก็ตรงที่มีโซดาไฟด้วยเนี่ยแหละค่ะ อยากลองทำมากๆๆๆๆเลย มีเพื่อนคนไหนจะมาลองทำด้วยกันไม๊ อิอิ ลองทำด้วยกันแล้วถ้าสำเร็จค่อยแบ่งกันไปลองใช้ อิอิ จากคุณ : monkey_bone - [ 21 ก.พ. 51 16:55:18 ]

ความคิดเห็นที่ 36 อ๊ะ ลืมไป ขอบพระคุณพี่เต่ามากๆๆๆๆๆค่ะ (เนียนอีกคน) ได้ความรู้มากๆเลยค่ะกระทู้นี้ มีประโยชน์สำหรับทุกท่านเลย เย้ๆๆ จากคุณ : monkey_bone - [ 21 ก.พ. 51 16:56:29 ]

ความคิดเห็นที่ 37 ขอบคุณพี่เต่าที่มาอธิบายให้เข้าใจแจ่มแจ้ง เคยทำอยู่ครั้งนึงนานมากแล้วจำได้ไหมพี่ที่เราคุยกัน ไม่สำเร็จเละไปหมดเลยเลิกทำอุปกรณ์ยังอยู่ครบ น้ำมัน กลิ่น สียังอยู่ครบไว้ใจกล้าๆจะไปลองทำอีกที จากคุณ : จิงโจ้/ออสซี่ - [ 21 ก.พ. 51 18:10:42 ]

ความคิดเห็นที่ 38 ขอบคุณมากค่า ดีใจจริงได้เห็นอะไรที่ทำง่ายๆ อ่านภาษาอังกฤษไม่ค่อยแตก .. เจอแต่ recipe และวิธีทำเป็นอังกฤษ อ่านไปงงไป .. แบบนี้ค่อยพอไหวหน่อย จะลองทำนะคะ จากคุณ : FeLiNY - [ 21 ก.พ. 51 18:17:32 ]

ความคิดเห็นที่ 39 ต้องขอบคุณพี่เต่านะค่ะที่นำความรู้ดีๆมาให้เพื่อนได้ดูดกันไปอิอิ ตอนนี้ก็กำลังลองทำอยู่ค่ะทำไปสองแบชแล้วละแต่คงได้แบบธรรมดาๆค่ะ เอาไว้ให้รู้มากกว่านี้หน่อยจะหัดทำแบบเล่นสีเหมือนของพี่บ้างค่ะ จากคุณ : มามี้น้องหงอย - [ 21 ก.พ. 51 19:20:57 ]

ความคิดเห็นที่ 40 ขอบคุณค่ะไม่เคยเห็นมาก่อนเลยค่ะ    เห็นแล้วอยากทำมากกว่าเดิมเป็นความรู้ใหม่ที่สุดยอดค่ะ จากคุณ : ตาสก๊อตสีส้ม - [ 21 ก.พ. 51 19:25:12 ]

ความคิดเห็นที่ 41 มาปะติดปะต่อ ไลร์ หรือโซดาไฟ ที่บอกให้ว่าระวัง ก็ระวังไม่ใช่ให้กลัวมัน เอิ๊กๆๆ การทำอะไรก็ตามที่เกียวกับความร้อน สารเคมี เราทราบการใช้ถี่ถ้วนแล้ว ความอันตรายก็จะหายไปหมดคะ ถ้าเกิดไม่ได้อ่านอะไร คิดว่าไม่มีอะไรน่า แค่นี้เอง ความประมาทจะทำให้ เกิดขึ้น ซึ่งพี่เต่าเกิดมาแล้ว และอีกหลายคนในห้องนี้ หรือ พวกฝาหรั่งนั่นแหล่ะคะ เกิดกันมาแล้วเขาก็นำมาเล่ากันให้ฟัง แนนนี่ทำเลยคะ ที่คนไม่ทำไม่ใช่เพราะกลัวไลร์นะ แต่หาไลร์ หรือ น้ำมันบางอย่างไม่ได้คะ จริงๆๆ ลองทำน้อยๆคะ ห้าหกก้อน ใช้หม้อที่เราไม่ใช้แล้ว พายกวน ทัพพีกวน ช่างมัน ไม้ พลาสติก เอามาใช้ได้ ไม่งั้นเราก็ทิ้งของเก่า น้ำเหรอ ฮืมม์ เขาว่ากันว่าเอาน้ำดีๆๆ กรองๆๆ มั่ง เราก็ไม่คิดมาก ใหม่ๆก็ตามเขา ตอนนี้ก็เอาที่ที่เรากรองแบบเราซื้อจากตลาดมากรองน้ำใช้ เอาน่าอย่าคิดมาก หาวัตถุดิบมาได้หมด เริ่มบรรเลงเลย ก่อนบรรเลงก็เปิดกระทู้ก่อนก็ได้ เอาที่มันข้องอยู่ในใจ ถามกูรู้ไปข้างๆๆ เชื่อไหม ถ้าลองทำและจะทำต่อไปเรื่อยๆๆ คะ ป้าแอ๊ด เดี๋ยวทำวาฟเฟิลกัน ที่บล๊อก เอาแบบแปะๆๆๆนะ ไม่เสียเวลาดี ทำสบู่ไม่ยากหรอก แอนไปสาธิต แล้วก็จะทำไม่หยุด เหมือนทำขนม ทำเค็กให้สวย ยากกว่า ทำสบู่คะ ได้มาแล้ว เทๆๆ กวนๆๆ ใส่ราง รุ่งขึ้น เห็นสบู่แล้ว สีเหรอ จะไปกังวลทำมายยยย เอาผงอะไรก็ได้ใส่ไป เช่น ผงใบมะกรูด ตำละเอียด อะไรอีกล่ะ ที่ตำง่ายๆหน่อยใบโหระพาอ้าว ข้าวโอ๊ตที่ดื่มกิน ตำป่น ใส่สักชัอน ต่อสบู่สีห้าก้อนพอ จะบอกนะว่าคุณเธอทั้งหลายจะรักการทำ เหมือนอย่างเรา ซึ่งหาวัตถุดิบยากมาก ขับรถเป็นชมๆๆๆ กว่าได้มา แพงไม่ต้องพูด เหมือนทองเลยคะที่นี่ เร็วๆๆมีคำถามอะไรขุดออกมา มีคนหลายคน รอตอบอยู่แล้ว เวลาทองอยู่ที่นี่ กะทู้นี้คะ จากคุณ : มิสพิกกี้ - [ 21 ก.พ. 51 21:08:47 ]

ความคิดเห็นที่ 42 น่าทำมากๆเลยครับ จากคุณ : buaravong - [ 21 ก.พ. 51 21:52:34 ]

ความคิดเห็นที่ 43 พี่เต่าคะ (ขออนุญาตเรียกพี่นะคะ...) สงสัยเรื่องการ cure สบู่ค่ะ ถามไว้ในความคิดเห็นที่ 32 ค่ะ รบกวนขอความรู้ด้วยค่ะ ขอบคุณมากค่ะ จากคุณ : Minutius Hora - [ 21 ก.พ. 51 22:08:43 ]

ความคิดเห็นที่ 44 curing แปลจากหนังสือเขาว่างี้ ๑ ทำให้ปฎิกริยาในทางเคมีครบส่วน ครบวงจร ส่วนมากใช้เวลาในการตากสบู่ หรือหมักสบู่ ภาษาเราเอง (curing) จะเกิด ภายใน 24-48 ชม.  แต่หลายคนคิดว่าสบู่นี้สามารถใช้อาบน้ำได้เลยในสองหรือสามวันคะ ส่วนตัวคิดว่าใช่ เพราะเขาผสมกันจนกลายเป็นสบู่และกลีเซอรีนแล้ว แต่น้ำในตัวก้อนสบู่นี้ยังเยอะอยู่ จะละลายน้ำเร็ว ใช้แล้วเปลืองสบู่ ในเวพหนังสือยังกล่าวว่า เขาก็คิดตามตำราว่า ยิ่งตากสบู่ให้แห้งมากยิ่งขึ้น จะทำให้สบู่ดีขึ้น mild อ่อนขึ้น PH changing เกิดภายในสองวันนี้เท่านั้นที่เกิดขึ้น 99% เกือบครบร้อย ที่เหลือนิดหน่อยจะเปลียนครบร้อยเปอร์เซนต์เมือตากสบู่ยาวขึ้น ๒ การที่ตากหรือหมัก หรือ curing นั้นๆเพื่อให้น้ำระเหยออกไป ทำให้สบู่แข็งขึ้น ใช้ได้นานขึ้น ไม่เปลืองต่อการละลายน้ำมากไป ฟองเยอะมากขึ้น รวมแล้วสบู่นี้จะดีขึ้นมาก เพราะฉนันการตากสบู่ สักสองสามอาทิตย์จะดีกว่า และถ้าคุณทำเก่งขึ้น ลดน้ำกว่าอัตราที่สูตรบอกไว้ สบู่นี้จะแห้งเร็วกว่าเก่าอีก แก้ไขเมื่อ 21 ก.พ. 51 23:31:18 จากคุณ : มิสพิกกี้ - [ 21 ก.พ. 51 23:27:13 ]

ความคิดเห็นที่ 45 โอ๊ยๆ เห็นสบู่สวยๆแล้วใจมันละลาย ถ้าอยากให้ อ.ย. ตรวจ ก็ส่งมาทาง นี้ได้เลยนะเคอะ เอาเรื่องสบู่มาคุยกัน เดี๋ยวก็เกิดมวยหมู่กันอีกหรอก ไม่เข็ดซะที ตอบเรื่อง cure หน่อยนึง ขั้นตอนนี้น่าจะหมายถึงขั้นตอนหลังจาก ตัดสบู่แล้วมากกว่านะคะ  คือตัดแล้ววางในที่ไม่อับชื้น น้ำจากสบู่ จะระเหยออก  วางไว้สามอาทิตย์ก็ใช้ได้แล้ว แต่ระหว่างนั้น กลับมาพลิกด้านบ้างครั้งหนึ่งก็ดี   แต่ตอนที่สบู่อยู่ในโมล ลืมไปแล้วว่าเรียกขั้นตอนนี้ว่าอะไร หรือว่า  cure  ด้วย? ถ้าสงสัยว่าทำไมสบู่ถึงยังไม่แข็งทั่วถึงในเมื่อเราทิ้งไว้ในแม่พิมพ์ นานแล้ว 1. ให้ตรวจสูตรดูอีกครั้งค่ะ ดูว่าน้ำมันอัตราน้ำมันอ่อน แข็ง มันบาลานซ์กันไหม คร่าวๆคือ น้ำมันอ่อน 40 แข็ง 60 2. ตรวจดูว่าเราใส่น้ำมากไปหรือเปล่า 3.ตรวจดูว่าเราใส่ไลน์น้อยไปหรือเปล่า 4. ตอนกวนเรากวนให้เทรซดีๆหรือเทรซปลอมหรือเปล่า ถ้ามือใหม่ๆ พี่เต่ายังบอกเลยว่าต้องกวนด้วยทัพพีก่อน นานเชียวล่ะคุณ เพื่อให้มั่นใจ แต่ถ้ามันไม่เทรซซักทีก็เอา สากไฟฟ้าลงได้ ปล. บางทีการที่เราใส่น้ำพอดี ไม่ลดน้ำมากนัก แต่พอใส่กลิ่น ซึ่งเป็นของเหลว และ สีที่เป็นของเหลวอีกเหมือนกันเพิ่ม มันก็กลายเป็นใส่น้ำมากไปก็ได้นะคะ กลิ่นอีก ถ้าได้ เอฟ โอ แบบไม่ดี สบู่ก็เจ๊งได้ แบบนี้ล่ะ บางตัวมันมีแอลกอฮอล์สูง แล้วใครอย่าได้ริอ่านเอา กลิ่นทำขนมพวกมะลิ ใบเตยมาใส่เชียว เจ๊งสนิท ถามเราดิว่าเรารู้ได้ไง เหอๆ จากคุณ : ปรารถนา - [ 21 ก.พ. 51 23:28:27 ]

ความคิดเห็นที่ 46 ดีคะ มาเสริมกันเยอะๆๆ แหมน่ารักกันทุกคน น่าภูมิใจๆ จากคุณ : มิสพิกกี้ - [ 21 ก.พ. 51 23:34:26 ]

ความคิดเห็นที่ 47 เฮ้อ....อ่านจบแล้วก็ถอนใจ ชาตินี้เราคงไม่มีวันที่จะทำได้หรอก (ถ้าอ่านอย่างเดียวนะ) รอให้คุณแอนกลับไปสาธิตให้ดูจะ จะ กันดีกว่าเนอะ ขอบคุณคุณพิกกี้มากค่ะ ที่อดทนโพส และตอบคำถามต่างๆ อย่าลืมลงสูตรวาฟเฟิลให้ป้าแอ๊ดด้วยนะคะ จากคุณ : ป้าเเอ๊ด (addsiripun) - [ 21 ก.พ. 51 23:52:58 ]

ความคิดเห็นที่ 48 "Curing" อาจจะเรียกอีกอย่างว่า "Aging" หมายถึงการเก็บสบู่ให้ครบถ้วนตามกำหนด หลังจากการตัดแล้ว สบู่ควรจะเก็ยเรียงไว้ในที่ที่มีลมพัดผ่านสม่ำเสมอ เพื่อจะให้ลมช่วยระบายความชื้นออกจากตัวสบู่ เทคนิคการเรียงสบู่นี่ก็ต้องมีกันนะครับ ถ้าทำน้อย ๆ จะมานั่งกลับ นั่งเรียง ไม่มีปัญหาครับ แต่ถ้าใครคิดจะทำเป็นธุรกิจ ขืนมานั่งจับเรียงกันบ่อย ๆ ตายสนิทครับ แต่ถ้าทำน้อย ๆ ครั้งละสิบยี่สิบก้อน ก็วางเรียงกันได้ตามสบายให้มันห่าง ๆ กันหน่อยพอให้มีลมระบายได้ทุกด้าน ส่วนด้านล่างถ้าวางติดพื้น ก็พลิกเค้ากลับด้านบ้างก็ดีนะครับ โดยปกติสบุ่จะเอจจิ้งประมาณ 2 อาทิตย์ก็น่าจะพอแล้ว ตำราฝรั่งบางเล่มเค้าว่า 12-14 วัน แต่เคยเอามาอาบน้ำ ก็อาบได้อยู่ ไม่เป็นไร ไม่รู้ว่าหนังหนาหรือเปล่า แต่พอเอามาล้างหน้า คันยิบ ๆ ทันที รีบล้างออกด้วยน้ำส้มสายชูเจือจาง ก่อนอาบน้ำอีกรอบ เข็ด ๆ ๆ ๆ สบู่ที่ทำเสร็จใหม่ ๆ ไม่ควรนำมาใช้ โดยเฉพาะสบู่โคล์ดโปรเซสนี่ ไม่ได้เด็ดขาด มีผู้ผลิตสบู่หลายรายบอกว่าของเค้าใช้ได้ เพราะมีการปรับค่า PH ให้บาลานซ์แล้วทันที.... แต่ปฏิกิริยาการเกิดสบู่ที่เรียกว่า "Sponification Process" นั้นมันจะยังเกิดต่อเนื่องไปเรื่อย ๆ อีกประมาณ 2 สัปดาห์ ซึ่งระหว่างนั้นจะมีค่าด่างสูงอยู่มาก  หากเราเอากรดไปเติมเพื่อให้มันบาลานซ์  ปฏิกิริยานี้มันจะเกิดขึ้นต่อเนื่องได้อย่างไรครับ  ดังนั้นผมว่าเรื่องการปรับค่า PH ของการทำสบู่แบบนี้ ไม่ถูกต้องครับ ในวงการอุตสาหกรรมที่ผลิตเกล็ดสบู่นั้น เค้าจะมีการเติมเกลือ และเติมกรมซิตริคเข้าไปในกระบวนการ แต่วัตถุประสงค์ของเค้าไม่ได้ใส่เข้าไปเพื่อปรับค่า PH นะครับ ดังนั้น ใครที่แนะนำให้ปรับค่า PH แบบนี้ อย่าไปเชื่อเด็ดขาด ยังไม่เคยอ่านตำราฝรั่งเล้มไหนสอนแบบนี้สักที... หรือว่าเราจะโง่ เลยอ่านไม่เจอสักที...555 มันยังไงกันหว่า แต่เอาเป็นว่า เราทำกันแบบนี้ปลอดภัยดีกว่าล่ะกัน คงไม่ต้องกระหายอยากใช้สบู่ที่ทำจนตัวสั่น ทำปุ๊บจะใช้ปั๊บ เก็บไว้ชื่นชม เอาไว้อวดเพื่อนฝูงสักเดือนละกัน ค่อยหยิบมาใช้ 555 คุณปรารถนาครับ ตอนสบู่อยู่ในโมล์ด คงไม่เรียกว่า Curing ครับ เพราะตอนนั้นสบู่ยังไม่เซ็ทตัวเต็มที่ น่าจะอยู่ในขั้น Mouldng หรือไม่ก็ Saponification  แต่พอสบู่เซ็ทตัวเต็มที่เราก็จะตัดสบู่เป็นก้อน ๆ แล้วนำมาผึ่ง อันนี้ถึงจะเริ่มกระบวนการ Curing นะครับ ตอนหัดทำสบู่ใหม่ ๆ ดันทำด้วยน้ำมันมะกอก 100% แล้วก็กวนด้วยทัพพีครับ กวนกันเป็นชั่วโมง ๆ มันยังไม่เทรซเลยครับ เพราะน้ำมันมะกอกเป็น soft oil เทรซช้ามาก แต่ก็กวนเมื่อยจนกวนไม่ไหว ก็เลยจับเค้าเทใส่โมล์ด ทิ้งไว้อย่างนั้น หลายวันมากครับ กว่าเค้าจะเซ็ทตัว  แต๋ก็เป็นสบู่ให้ได้ลองใช้ เนียนสุด ๆ ครับ ถ้าอยากจะหัดทำสบู่กันจริง ๆ คงต้องรู้ข้อควรระวังในการทำสบู่ก่อน จะได้ไม่ผิดพลาด จะบาดเจ็บได้ รอให้พี่เต่า มาบรรยายต่อดีกว่า พี่เต่าเค้าเป็นอาจารย์ตัวจริง เก่งสารพัดครับ  แต่ถ้าใครอยากทำแล้วติดขัดเรื่องเครื่องไม้เครื่องมือ ก็หลังไมด์มาได้ครับ พอจะแนะนำให้ได้บ้าง แต่ก็ไม่ได้รอบรู้เชียวชาญแบบพี่เต่าเค้า นั่นเค้าทำมาเป็นสิบ ๆ ปีแล้ว ตั้งแต่ผมยังวัยซะรุ่นอยู่กระมัง 555 จากคุณ : sakchai splash - [ 22 ก.พ. 51 00:05:50 ]

ความคิดเห็นที่ 49 ข้อควรระวังในการใช้โซดาไฟและน้ำด่าง โซดาไฟเป็นสารอันตรายที่ก่อให้เกิดอันตรายต่อผู้ใช้โดยการสัมผัสและการสูดดม โดยสามารถทำให้ผิวไหม้และมีอาการแสบร้อนได้จากการสัมผัส    การผสมโซดาไฟลงในน้ำนั้น ก่อให้เกิดปฏิกิริยาทางเคมี โดยมีควันพวยพุ่งขึ้น การสูดดมควันเหล่านี้เข้าไป ก่อให้เกิดอันตรายต่อประสาทสัมผัส แม้เพียงน้อยนิด ก็สามาถทำลายประสาทการรับกลิ่นได้เช่นกัน มีผู้ผลิตสบู่ไม่น้อย ที่ไม่เคยตระหนักถึงอันตรายที่อาจจะเกิดขึ้นจากการสูดดมควันพิษนี้เข้าไปในร่างกาย  ซึ่งต่อมาประสาทการดมกลิ่นของเขาก็ถูกทำลายจนเสื่อมสภาพในระยะต่อมา ทั้งนี้จะช้าหรือจะเร็ว ขึ้นอยู่กับปริมาณควันพิษและความถี่ที่เขาได้รับ   ดั้งนั้นผู้ผลิตสบู่ทุกท่านจะต้องทราบถึงอันตรายที่อาจจะเกิดขึ้นระหว่างการผลิต  ข้อควรระวัง และการแก้ไขเมื่อสัมผัสถูกโซดาไฟโดยไม่ได้ตั้งใจ 1. เมื่อซื้อโซดาไฟมา หากทางร้านไม่มีภาชนะมาให้  เราจะต้องรีบหาภาชนะที่เก็บโซดาไฟได้เป็นอย่างดีมาบรรจุทันที และติดฉลากระบุชื่อสารเคมี และมีสัญลักษณ์ระบุว่าเป็นสารอันตราย เช่น สัญลักษณ์หัวกะโหลกไขว้ เพื่อผู้พบเห็นจะได้ทราบได้ทันทีว่าเป็นสารอันตราย  หลังจากนั้นให้นำภาชนะดังกล่าวเข้าเก็บยังสถานที่ หรือบริเวณที่เก็บรักษาสารเคมีอันตราย โดยทันที 2. เมื่อเตรียมวัตถุดิบในการผลิต จะต้องสวมเสื้อแขนยาว สวมแว่นตา สวมหน้ากากปิดปากจมูก และสวมถุงมือยาง เพื่อป้องกันการสัมผัสกับโซดาไฟโดยไม่ตั้งใจ 3. เมื่อหยิบโซดาไฟมาใช้ จะต้องสวมถุงมือและสวมหน้ากากปิดปากและจมูกทุกครั้ง เพื่อป้องกันการสัมผัสและดูดดมฝุ่นที่อาจจะเกิดจากการตักเทโซดาไฟได้   4. หลังการชั่งตวงวัดโซดาไฟตามปริมาณที่ต้องการ  จะต้องรีบเก็บภาชนะที่บรรจุโซดาไฟดังกล่าวเข้าที่ที่ปลอดภัยเดิมทันที  เพื่อป้องการความผิดพลาดที่อาจจะเกิดขึ้นโดยไม่ตั้งใจได้   การป้องกันย่อมดีกว่าการแก้ไข เพราะหากผิดพลั้งจนยากต่อการแก้ไข ก็จะนำมาซึ่งความโศกเศร้าได้ 5. เมื่อจะผสมน้ำด่าง  ให้ชั่ง/ตวงปริมาณน้ำที่ต้องการลงในในภาชนะสแตนเลส หรือภาชนะประเภทพลาสติก แล้วค่อย ๆ เทเกล็ดโซดาไฟลงไปในน้ำทีละน้อย ๆ แล้วค่อย ๆ คนให้ละลายด้วยด้ามสแตนเลส หรือด้ามพลาสติก 6. ห้ามใช้ภาชนะพวกอลูมิเนียม สังกะสี ที่อาจจะก่อให้เกิดปฏิกิริยาทางเคมี  ซึ่งโลหะพวกนี้จะถูกทำลายโดยโซดาไฟ และปนเปื้อนไปในน้ำด่าง อันจะก่อให้เกิดอันตราย  อนึ่ง ควรหลีกเลี่ยงการใช้วัสดุพวกโถแก้วในผสมน้ำด่างด้วยเช่นกัน เพราะความร้อนที่เกิดขึ้นอาจทำให้แก้วแตกร้าวได้ อันจะก่อให้เกิดอันตรายจากน้ำด่างที่หกเลอะเทอะจากอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นได้ 7. การผสมโซดาไฟกับน้ำ จะต้องเทเกล็ดโซดาไฟ ลงในน้ำทีละน้อยเสมอ เพราะเมื่อเกล็ดโซดาไฟถูกน้ำจะเกิดความร้อนสูงขึ้นมาก เราจึงต้องค่อย ๆ เทโซดาไฟลงในน้ำทีละน้อย ๆ แล้วใช้พายพลาสติกคนให้ละลาย  หากเทน้ำลงในโซดาไฟ อาจจะก่อให้เกิดความร้อนสูงจนขั้นระเบิดได้ ซึ่งจะก่อให้เกิดอันตรายได้โดยไม่ตั้งใจ 8. วัสดุที่ใช้คนโซดาไฟ ควรทำจากสแตนเลสเ หรือพลาสติก เท่านั้น ซึ่งวัสดุกลุ่มนี้จะไม่ก่อให้เกิดปฏิกิริยาทางเคมีใด ๆ   การใช้วัสดุที่ทำจากไม้ เช่น พายไม้   เนื้อไม้จะถูกน้ำด่างกัดเซาะทำลาย ทำให้สบู่ที่ได้จะมีส่วนผสมของเศษไม้ปะปนอยู่ได้  ดังนั้นจึงไม่ควรใช้พายไม้ในการคนโซดาไฟและสบู่โดยเด็ดขาด 9. ภาชนะที่ใช้ผสมโซดาไฟ จะต้องแช่น้ำ และปล่อยให้น้ำไหลริน ก่อนจะล้างเก็บ  ซึ่งควรจะสวมถุงมือยางไว้ตลอดการล้างภาชนะดังกล่าวเช่นกัน เพื่อป้องกันการสัมผัสโซดาไฟโดยไม่คาดฝัน 10. ภาชนะที่ใช้ผสมสบู่  ยังไม่ควรล้างทันที เพราะภาชนะเหล่านั้นจะยังคงมีคราบน้ำมัน อันจะทำให้ท่อน้ำอุดตันได้หากมีการสะสมไขมันเหล่านี้ในท่อไปนาน ๆ ควรทิ้งภาชะพวกนี้ไว้ข้ามคืน เศษไขมันที่เกิดจะกลายเป็นเนื้อสบู่ ทำให้ล้างออกได้ง่ายกว่า และไม่ก่อให้เกิดการอุดตันของมันในท่อน้ำด้วย ไหน ๆ ก็ไหน ๆ แล้ว เลยเอามาโพสต์ให้เลยล่ะกันครับ จากคุณ : sakchai splash - [ 22 ก.พ. 51 00:12:21 ]

ความคิดเห็นที่ 50 การตรวจสอบคุณภาพสบู่ ก่อนการลงมือผลิตสบู่ เราต้องมีสูตรสบู่ที่ดี ซึ่งโดยปกติ ผู้ที่ผลิตสบู่อยู่ประจำ จะมีสูตรการผลิตดี ๆ ไว้อยู่แล้ว ดังนั้นเขาเพียงแต่ปรับปรุงเปลี่ยนแปลงสูตรดั้งเดิมที่มีเพียงเล็กน้อย  ก็จะได้สูตรสบู่ที่ดีได้อย่างง่ายดาย  อย่างไรก็ตาม สำหรับผู้ผลิตเริ่มต้น เราสามารถออกแบบสุตรสบู่ได้โดยพิจารณาจาก :- • ประเภทและสัดส่วนของไขมันที่ต้องการใช้ ตามที่ได้กล่าวแล้ว ไขมันแต่ละชนิดแต่ละประเภทมีคุณลักษณะแตกต่างกัน ดังนั้นสบู่ที่ดีควรจะมีน้ำมันอย่างน้อย 3 ประเภท ที่มาช่วยเสริมคุณสมบัติซึ่งกันและกัน โดยเสริมจุดเด่น ลบจุดด้อยของกันและกันไป อันจะทำให้ได้สบู่ที่มีเนื้อแกร่ง แต่ให้ฟองเนียนนุ่ม 3 ระดับ ทั้งฟองใหญ่ กลาง และฟองละเอียด อันจะทำให้ฟองคงทน ไม่แตกตัวง่ายอีกด้วย • อัตรา superfat หรืออัตรา lye discount ที่ต้องการ โดยปกติแล้ว เราจะผลิตสบู่ที่ lye discount ที่ 3-8 %  ซึ่งถือว่าเหมาะสมดี  อย่างไรก็ตาม นักผลิตสบู่หลายท่านนิยมผลิตสบู่น้ำมันมะพร้าว 100% ที่ lye discount ที่ 15-20% ซึ่งนิยมกันมากในหมู่นักทำสบู่ทั่วโลกระหว่างปลายปี 2550 • เครื่องเทศ สมุนไพร พืช ผัก หรือส่วนผสมอื่น ๆ ที่จะกำหนดคุณสมบัติของสบู่เพิ่มเติม ซึ่งสิ่งเหล่านี้สามารถเรียนรู้เพิ่มเติมได้จากตำราแพทย์แผนไทย หรือตำราเกี่ยวกับสุคนธบำบัด ตลอดจนเวปไซต์ต่าง ๆ ทั้งในและต่างประเทศ • น้ำมันหอมระเหย และ/หรือ น้ำหอม ที่ต้องการเพื่อแต่งกลิ่นนั้น มีหลากหลายให้เลือก อีกทั้งยังสามารถนำมาผสมผสานกันได้ตามหลักสุคนธบำบัด เพื่อให้ได้กลิ่นที่หอมและมีสรรพคุณที่ดีต่อประสาทสัมผัสต่าง ๆ  อย่างไรก็ตาม น้ำมันหอมระเหยที่เป็นทอปโนตนั้น เช่น พวกกลิ่นตระกูลส้มนั้น จะระเหยเร็วมาก ไม่เหมาะที่จะใช้ในการผลิตสบู่โดยลำพัง เพราะจะทำให้กลิ่นสบู่ไม่คงทน ความรู้เหล่านี้จะต้องศึกษาค้นคว้าเพิ่มเติมจากตำราอื่น ๆ เพื่อใช้ประกอบการผลิตสบู่ธรรมชาตินี้ • สีที่ใช้ มีให้เลือกหลากหลายมาก และเป็นเรื่องที่น่าปวดหัวที่สุดสำหรับคนทำสบู่ เพราะต้องอาศัยประสบการณ์จากการลองปฏิบัติจริง ๆ จึงจะรู้แจ้งครับ  และโปรดระลึกไว้เสมอว่า สีธรรมชาติอาจจะไม่ปลอดภัยเสมอไป เพราะมีสีจากธรรมชาติบางอย่างเป็นพิษเช่นกัน ดังนั้นสี ที่ใช้ในส่วนของของอาหาร ยาและเครื่องสำอาง จะดีที่สุดครับ เราเรียกว่า FD&C Colorants • รูปแบบสบู่ที่ต้องการ อันนี้เป็นเรื่องที่ถนัดที่สุดครับ ชอบทำสบู่แบบแปลก ๆ แต่ต้องผลิตได้เป็นแมส แบบที่ทำแล้วเสียเวลาจะไม่ชอบครับ แบบที่ทำต้องคำนึงถึงโมล์ดด้วย นี่แหละสำคัญมาก ๆ ครับ   ข้อกำหนดเบื้องต้นเหล่านี้ จะเป็นตัวกำหนดคุณสมบัติทางกายภาพ ประสิทธิภาพ และคุณภาพของสบุ่ว่าเป็นอย่างไร  ซึ่งเราจะพิจารณาลักษณะของสบู่ที่ดีได้จากปัจจัยเหล่านี้ • เนื้อสบู่ : ไขมันที่ใช้ในการผลิตสบู่จะมีคุณลักษณะต่างกันตามแต่ชนิดของไขมันนั้น ๆ ซึ่งเราแบ่งไขมันออกเป็น 2 กลุ่มหยาบ ๆ ได้แก่ ไขมันที่ให้สบู่เนื้อแข็ง  (hard oils) กับ ไขมันที่ให้สบู่เนื้อนิ่ม  (soft oils) การกำหนดสัดส่วนน้ำมันที่ดี ย่อมทำให้ได้เนื้อสบู่ที่แข็งมากถึงแข็งปานกลาง สบู่จะไม่เละยุ่ยง่าย  เว้นแต่สบู่บางประเภทที่ผลิตจากไขมันที่มีความนิ่มมาก เช่น พวกน้ำมันมะกอก ซึ่งสบุ่ที่ผลิตจากน้ำมันมะกอกอย่างน้อย 72% ที่เรียกว่า Castile Soap นั้น จัดเป็นสบู่เกรดพิเศษที่ให้ความชุมชื้นสูงและมีราคาแพง ซึ่งเนื้อสบู่จะนิ่มกว่าสบู่ธรรมชาติทั่วไป  อย่างไรก็ตามนักผลิตสบู่ที่เก่ง จะสามารถกำหนดสัดส่วนของน้ำมันอีก 28% ที่เหลือได้อย่างเหมาะสม ทำให้สบู่ Castile Soap ของผู้ผลิตบางรายมีเนื้อที่แข็งข้น และให้ฟองครีมเนียนนุ่ม • สี : • ความคงทนของเนื้อสบู่  : • ปริมาณและลักษณะของฟอง • ประสิทธิภาพในการทำความสะอาด • ความนุ่มนวลต่อผิว • ความเหนอะของผิวหลังการอาบ : • กลิ่นหอม : • อายุของสบู่ : ชักขี้เกียจครับ เลยจั่วหัวไว้อย่างนี้ก่อน รอให้ท่านกรูรูมาต่อให้ล่ะกันครับ จากคุณ : sakchai splash - [ 22 ก.พ. 51 00:43:27 ]

ความคิดเห็นที่ 51 แปะแปะ ขอบคุณๆๆๆ จะพยายามนะ ทำเวพแผ่นนี้ ด้วยข้อความในกะทู้นี้คะ ขอให้ได้กุศลกันทุกท่าน วิทยาทานนี้ เสริมคุณแอ๊ด และน้องใหม่ๆ อย่าคิดกังวล อจ เขาบอกหมดเปลือก เราไม่จำเป็นต้องรู้หมดเปลือกไปซะหมด พอทำแล้วไอ้เปลือกๆนี่หล่ะ มันมาเอง มันเข้าหัวเราเองคะ รับประกัน โปรดดูภาพที่โพส และหาสูตรง่ายๆๆ ลายละเอียดอ่านผ่านตาเป็นพอ อย่าคิดมาก แต่ให้รู้ไว้ สิ่งเขาให้ระวัง ระวังซะ กลิ่นไม่ต้องใส่ สีเอาในครัวมาใช้ เท่านั้นแหล่ะ แล้วทำเลย ทำแรกๆเอามันแค่น้ำมันแข็ง เกินห้าสิบเปอร์เซนต์ อ่อนที่เหลือ คำนวณสักห้าก่อน เทใส่ถ้วยน้ำพริก ก่อนเททาวาสลีนหน่อย ใส่ไปเลย นำไปวางในกล่องกระดาษ เอาฝาถังขยะปิด ในที่ล่มๆนอกบ้านไม่มีแดด รับรอง ได้สบุ่แน่ๆๆ คะ แก้ไขเมื่อ 22 ก.พ. 51 00:59:10 จากคุณ : มิสพิกกี้ - [ 22 ก.พ. 51 00:51:17 ]

ความคิดเห็นที่ 52 ข้อมูลจากปรมาจารย์มาเพียบเลย ^_^ แวะมาบอกว่าตอนหัดทำครั้งแรกใช้กล่องกระดาษแข็งเล็กๆ เป็นแม่พิมพ์ค่ะ  โดยใช้ถุงพลาสติกใส่ของจากซุปเปอร์ฯ ตัดเป็นแผ่นแล้วเอามาปูรองอีกที  หัดทำแรกๆ หาวัสดุจากในบ้านนี่แหละมาใช้ได้  ยังไม่ต้องไปหาซื้อแพงๆหรอก แก้ไขเมื่อ 22 ก.พ. 51 01:12:36 จากคุณ : Kidnapper - [ 22 ก.พ. 51 01:07:30 ]

ความคิดเห็นที่ 53 อีกหน่อยจะเรียกคุณเต่าว่า Mrs. Miller of Thaland ผู้สร้างตำนานสบู่ในเมืองไทยละกัน 555.. ที่จริงผมกำลังเขียนตำราสบู่อยู่ครับ ยิ่งเขียนมันยิ่งเยอะ มีเรื่องให้เขียนเยอะมาก ๆ ยิ่งอ่านมันยิ่งเจอ ยิ่งทำก็ยิ่งได้ประสบการณ์ครับ  แต่ตอนนี้หยุดพัฒนาสูตรสบู่ cold process แล้ว เพราะกำลังลองเล่นสีที่จะเอามาใช้กับสบู่กลีเซอรีนครับ  พยายามจะใช้สีที่มี CI Number แต่ต้องไม่ซึมปนกับสีอื่น ตอนนี้กำลังทดลองอยู่ครับ  แต่ราคาสีพวกนี้ก็แพงมาก ๆ ๆ ๆ ถ้าซื้อยกถุง ราคาจะตกประมาณโลละ 2,500 แต่พอขอซื้อปลีกเป็นกิโล ราคามันพุ่งขึ้นไปเป็นโลละหมื่นกว่า ๆ เลยครับ   แต่ไม่เป็นไรครับ ผมสามารถสืยเสาะหาคนที่เค้าสั่งซื้อสียกถุงได้ครับ  ผมจะไปเจรจาขอซื้อต่อจากเค้าเป็นกิโลอีกทีครับ คงไม่มีปัญหาอะไร ซี้ ๆ กัน ดีไม่ดี อีกหน่อยสั่งซื้อมาแล้วเอามาขายต่อให้แฟนคลับคุณเต่าก็ได้ครับ มีสารพัดสี สด ๆ สวย ๆ ไม่ต้องกลัวสีเพี้ยนเหมือนสีที่ใช้ ๆ กันอยู่ ใส่สีฟ้ากลายเป็นสีม่วง ใส่สีแดงกลายเป็นสีส้ม 555  น่าสนุกดีนะครับ จากคุณ : sakchai splash - [ 22 ก.พ. 51 01:14:45 ]

ความคิดเห็นที่ 54 สุดยอดค่ะกระทู้นี้ ขนาดไม่รู้เรื่องอะไรมาก่อนเลย อ่านแล้วยังนึกภาพออกตั้งเยอะ ขอบคุณทุกๆ ท่านนะคะ พี่เต่า พี่แจง พี่แอน แล้วก็คุณ sakchai splash (ถ้าเขียนหนังสือ ขอจองเล่มนึงค่ะ) เดี๋ยวเก็บเข้าคลังกระทู้ให้นะคะ จากคุณ : Pattylala - [ 22 ก.พ. 51 05:32:48 ]

ความคิดเห็นที่ 55 ก้อนสีเขียว เทยังไงให้มันเป็นวงๆ เเบบนั้นอะคะ สวยดีอะ มือใหม่สบู่ค่า ทำไป 5 เเบชเเล้ว ได้ใช้ 3 อีก 2 ยังไม่ถึงเวลา จากคุณ : Chocolate Junkie - [ 22 ก.พ. 51 06:04:56 ]

ความคิดเห็นที่ 56 ขอบคุณทุกท่านที่ให้ความรู้นะคะ อยากทำมานานแล้ว แต่ยังไม่เข้าใจขั้นตอนซักกะที คราวนี้น่าจะได้ฤกษ์แล้วค่ะ รอให้งานหายยุ่งก่อน แล้วคงได้ทำแน่ ๆ ค่ะ จากคุณ : SununseT - [ 22 ก.พ. 51 08:18:01 ]

ความคิดเห็นที่ 57 โอ้ววว ขอบคุณทุกท่าน ที่ให้ความรู้ค่ะ น่าเล่นมากกกก จากคุณ : Craft Collector - [ 22 ก.พ. 51 09:00:08 ]

ความคิดเห็นที่ 58 สบู่ที่ไม่แข็งใน 24 ชั่วโมง ตามสูตรที่ทดลองทำไป (sudsy all-vegetable จากเว็บของ kathy miller ทำแค่ครึ่งเดียว) คิดว่าน่าจะเกิดจากสัดส่วน lye ค่ะ เพราะ superfat อยู่ที่ 5 - 6.5% เป็นสูตรทดลองค่ะ น้ำมันมะพร้าวที่ได้มาไม่ชัวร์ว่าผสมปาล์ม เคอร์เนิลหรือเป็นน้ำมันมะพร้าว 100% เลย เลือก superfat มากขึ้นเพื่อความชัวร์ค่ะ งั้นขอถามต่อเรื่อง saponification ค่ะ เวลาทำสบู่ ในเมืองไทยเนี่ย 1. จำเป็นไหมคะว่าเราจะต้องห่มผ้าให้โมลด์ 2. ถ้าห่ม ปิดตอนเทใส่โมลด์เสร็จ เปิดตอนไหนคะ อ่านตามเว็บแล้วสับสนค่ะ เข้าใจว่าปิดไว้ 24 ชั่วโมง แล้วก็เปิดได้หลังจากนั้น ... เข้าใจถูกต้องไหมคะ หรือว่าขึ้นอยู่กับว่าสบู่แข็งตัวแล้วหรือยัง ถ้ายังไม่แข็งตัวก็ให้ปิดไว้ต่อไปจนกว่าจะแข็ง 3. จริงๆ แล้วการห่มผ้าให้สบู่ก็คือการรักษาอุณหภูมิขณะที่เกิดปฏิกิริยาเคมี ดังนั้นถ้าเราไม่ห่มผ้าให้มัน เราจะใช้วิธีการใดก็ได้ ที่จะทำให้อุณหภูมิลดลงช้าที่สุดใช่ไหมคะ ไม่ว่าจะเป็นการเอาไปใส่ไว้ในเตาอบที่ไม่เปิดไฟ ใส่กล่องไว้ ฯลฯ จากคุณ : Minutius Hora - [ 22 ก.พ. 51 09:39:32 ]

ความคิดเห็นที่ 59 คห. 54 คุณ pattylala ขอบคุณครับ ตอนนี้เพิ่งเขียนได้ไม่กี่บทครับ ทำแค่โครงไว้ เขียนไปเรื่อย ๆ เมื่อว่างครับ เขียนละเอียด เพราะเก็บไว้เป็นตำราของตัวเองด้วยครับ แค่เรื่องน้ำมันอย่างเดียวก็หนึ่งบท การตั้งสูตรก็หนึ่งบท การใส่สมุนไพรอะไรนี่ก็อีกหนึ่งบท รวม ๆ แล้ว 16 บทได้กระมังครับ และจะมีบทที่เกี่ยวกับปัญหาในการทำสบู่ตลอดจนการแก้ไขด้วยครับ    หนังสือคงจะหนาหลายร้อยหน้าล่ะครับ  เพราะได้รวบรวมเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยของคนทำสบู่หลาย ๆ คนหลาย ๆ ชาติ าไว้ด้วยครับ  แต่กว่าจะเขียนเสร็จ พวกเรา ๆ คงจะทำสบู่กันเก่งหมดแล้วล่ะครับ ผมว่าทำสบู่ตามคุณเต่าแหละครับ ดีสุด  เค้าทั้งสวย เก่ง  ใจดี และมีน้ำใจครับ คห. 55 คุณ chocolate junkie การเทสบู่แบบนั้นเราเรียกว่า "Swirl" หรือ "Marble" ครับ จะเกิดจากการเทสบู่ 2 สีขึ้นไปในแบชเดียวกัน เพื่อให้เกิดลวดลายครับ ซึ่งจะมีหลายเทคนิคมาก ๆ และขึ้ออยู่กับโมล์ดที่ใช้ด้วยครับ พวกฝรั่งเค้ามักจะใช้ Slab Mould ซึ่งเป็นโมลด์แนวราบ แล้วเค้าจะเทสบู่สี่ 2 และ/หรือ สีที่ 3 และ/หรือ สี่ที่ 4 ในส่วนบนของสบู่ ซึ่งจะทำให้กำหนดลายและสีได้ง่าย ทำง่ายกว่าแบบที่คุณเต่าทำครับ แบบนี้ลายสบู่จะจมอยู่ด้านใน มองไม่เห็นว่าเป็นอย่างไร ได้แต่กะ ๆ เอาด้วยความชำนาญ พอตัดสบู่เป็นก้อนจึงจะเห็นลวดลายของสบู่ครับ ผมก็ชอบทำสบู่สเวิร์ลแบบนี้ มันได้ลุ้นดีว่า ตัดสบู่ออกมาแล้วสวยหรือไม่สวยตามที่ออกแบบไว้ในใจครับ คห. 58 คุณ Minutius Hora เวลาเอาสูตรมาจากเวป จะต้องเช็คสูตรทุกครั้งครับว่าถูกต้องไหม เพราะการคำนวณค่าด่างนั้น มันก็แล้วแต่คนที่ทำด้วยนะครับ ถ้าเช็คดีแล้ว สบู่น่าจะโอเคนะครับ ไม่น่าจะแข็งช้าปานนั้น ถ้าไม่ชัวร์ว่าน้ำมันนั่นจะเป็นน้ำมันมะพร้าวแท้หรือเปล่าก็อาจจะทำ superfat ไว้ก็ดีครับ ปลอดภัยดี แต่โดยส่วนตัวแล้ว ผมไม่ค่อยชอบสบู่ที่มีน้ำมันเกิน เวลาอาบแล้วฟองมันเหนียว ๆ อาบน้ำไม่สะอาด ตัวจะเหนอะ ๆ ดังนั้นผมว่า Superfat ที่ 3% น่าจะกำลังดีสำหรับสบู่ที่ใช้ในเมืองไทยนะครับ แต่หากทำสบู่ไปเรื่อย ๆ ก็จะได้เทคนิคใหม่ ๆ ไปเรื่อย ๆ เองแหละครับ เวลาทำสบู่ในเมืองไทยนี่ จะห่มผ้าหรือไม่ ก็ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่างเช่นกัน แต่โดยส่วนใหญ่คนทำสบู่ใช้เอง ก็จะห่มผ้าให้สบู่กันทั้งนั้นครับ เพราะมันทำให้ควบคุมดูแลง่าย แต่ถ้าทำครั้งละมาก ๆ คงไม่สามารถห่มผ้าให้สบู่ได้ และจะเอาสบู่เข้าอบในเตาก็คงลำบากด้วยเช่นกัน  อากาศเมืองไทยร้อนตับแลบแบบนี้  ก็คงไม่จำเป็นนักหรอกครับที่จะต้องให้ความร้อนกับเค้า  แต่ถ้าทำได้ ก็ทำเถอะครับ สบู่จะได้สวยสดงดงามตามที่หวัง ปัญหาเรื่องจะเปิดผ้าห่มให้สบู่ตอนไหนนี่ ผมว่าเปิดตอนสบู่เซ็ทตัวแข็งแล้วก็ได้ หรือจะเปิดตอนที่เค้าเจลแล้วก็ได้ ขึ้นอยู่กับความต้องการของเราครับว่าต้องการสบู่เนื้อไหน แต่ผมไม่เคยห่มผ้าให้สบู่สักที และไม่เคยอบสบู่ด้วยครับ  ซึ่งผมจะตัดสบู่หลังการเทประมาณ 5-6 ชั่วโมงครับ ไม่เคยทิ้งสบู่ไว้ตัดนานขนาด 24 ชั่วโมงเลยสักทีครับ แต่ถ้าทิ้งไว้นานขนาดนั้นแล้ว ยังสามารถตัดสบู่ได้ ก็ไม่มีปัญหาครับ เรื่องการรักษาอุณหภูมิในข้อ 3 ที่ถามมานั้นถูกต้องแล้วครับ เตาอบในเมืองนอกเค้าเป็นระบบแก้ส มีตัวไพล็อทที่จะจุดเอาไว้ตลอดเวลาอยุ่ใต้เตา  ทำให้อุณหภูมิในเตาอบของฝรั่งเค้าสูงกว่าปกติเพราะไอ้เจ้าไฟไพล็อทนั่นแหละครับ  ถ้าจะเอามาประยุกต์ในเมืองไทย ก็คงต้องเปิดเตาทิ้งไว้ก่อนสักหน่อยครับ ไม่งั้นคงจะไม่มีไฟในทรวง เอ๊ย ไฟในเตาที่ให้ความร้อนหรอกครับ แต่อุณหภูมิเท่าไหร่ ผมก็ไม่ทราบเหมือนกัน เพราะไม่เคยใช้วิธีนี้ครับ รออาจารย์ท่านอื่นมาตอบดีกว่า จะได้กระจ่างแจ้งไปทีเดียวครับ พิมพ์ผิดเยอะจัง ต้องกลับมาแก้คำผิด อิอิ ทำงานไป พิมพ์ไปครับ ขอโทษที แก้ไขเมื่อ 22 ก.พ. 51 11:55:31 แก้ไขเมื่อ 22 ก.พ. 51 11:32:15 จากคุณ : sakchai splash - [ 22 ก.พ. 51 10:35:36 ]

ความคิดเห็นที่ 60 คุณsakchai อธิบายได้กระจ่างเข้าใจง่ายดีจัง สมควรแล้วค่ะที่จะทำหนังสือ พิมพ์เมื่อไหร่บอกด้วยน่ะค่ะ จากคุณ : petunia lover - [ 22 ก.พ. 51 11:07:41 ]

ความคิดเห็นที่ 61 เข้าใจแล้วค่ะ ขอบคุณทุกคนมากๆ ค่ะ ทำสบู่นี่มันเป็นทั้งศาสตร์และศิลป์จริงๆ เลยนะคะเนี่ย...ปาดเหงื่อๆ สงสัยต้องไปฝึกแล้วก็อ่านให้มากกว่านี้ จากคุณ : Minutius Hora - [ 22 ก.พ. 51 14:01:55 ]

ความคิดเห็นที่ 62 มารอหนังสือคุณศักดิ์ชัยด้วยคนค่ะ ระหว่างนี้ ยังไม่ทำสบู่เองค่ะ จะยังคงขอสบู่พี่แอน flymom ใช้ต่อไป ฮี่ฮี่ พี่เต่าคะ แนนนี่ยังไม่กล้าทำค่ะ กลัวเจ้าโซดาไฟนี่แหละ ถ้าพี่เต่ามากำกับข้าง ๆ อาจจะยอมทำ อิอิ แก้ไขเมื่อ 22 ก.พ. 51 15:49:36 จากคุณ : madam_ozzy - [ 22 ก.พ. 51 15:48:46 ]

ความคิดเห็นที่ 63 ^_^ จากคุณ : ซัน ค่ะ (Forever In LoVE) - [ 22 ก.พ. 51 16:11:05 ]

ความคิดเห็นที่ 64 ตามมาเก็บความรู้รอบสอง ขอบคุณทุกๆ ท่านที่กรุณามาตอบกระทู้ เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ความรู้กันหมดเปลือก อยู่ที่ใครสามารถจะนำความรู้นี้ไปใช้ให้เกิดประโยชน์เท่านั้นค่ะ จากคุณ : ป้าเเอ๊ด (addsiripun) - [ 22 ก.พ. 51 18:18:50 ]

ความคิดเห็นที่ 65 มาอีกรอบค่ะ ที่จริงเราก็ใช้โซดาไฟทำแล็ปอยู่บ่อยๆ นะคะ น้ำมันจะร้อนขึ้นจริงๆ อย่างที่ว่า ก่อนเททิ้งลงท่อ อาจารย์เรากำชับเสมอว่าให้เอากรด Hydrochloric ผสมในความเข้มข้นเท่าๆ กัน จะได้กลายเป็นกลาง จากคุณ : Pattylala - [ 22 ก.พ. 51 18:33:38 ]

ความคิดเห็นที่ 66 วีคนี้ประชุมเยอะมาก วันนี้อีกสองแห่ง ทั้งวันเลย ขออำภัยคะ มีกูรู้มาทะยอยตอบดีจังเนอะ ทานโอ๊ตมีลและก็จะเผ่นไปทั้งวันเลย หิมะตกพรำๆ เฮ้ออ สวัสดีทุกๆคน คุณแอ๊ด กำลังหาสัดส่วนทำเบลเยี่ยมวาฟเฟิล ได้มาล่ะ เอาแบบแยกไข่แดง ไข่ขาว เลย เคยทำแต่พวกเร็วๆๆ ตอนนี้ทำแบบดีขึ้นมาหน่อย แต่คงเพอร์เฟ็คเพราะแยกตี จะทำให้วาฟเฟิลกรอบนอก นุ่มใน ไอ้อ้วนเนี่ย คือของโปะหน้ามากกว่าคะ เราจะไม่รับทานอย่างนั้น อิอิ จากคุณ : มิสพิกกี้ - [ 22 ก.พ. 51 20:10:43 ]

ความคิดเห็นที่ 67 ต่อไปนี้ผมจะทำสบู่ขายใครกันล่ะ ทำใช้กันเองหมดแล้ว จากคุณ : sakchai splash - [ 22 ก.พ. 51 20:42:10 ]

ความคิดเห็นที่ 68 อิอิ  เดี๋ยวซื้อเองค่ะ  เพราะดูแล้วจะได้ใช้เร็วกว่าทำเองแหงๆ จากคุณ : SaGitt@riuS GiRL - [ 23 ก.พ. 51 04:25:19 ]

ความคิดเห็นที่ 69 เค้ากะคิดเหมือนตะเองเล๊บพี่จุ๋ม ใช้เร็วกว่าทำแยะเลย อิอิ แต่ก็อยากลองทำนะ จากคุณ : monkey_bone - [ 23 ก.พ. 51 17:42:30 ]

ความคิดเห็นที่ 70 จะว่าไปแล้ว ถ้าทำสบู่ใช้เองได้ มันก็ดีครับ เพราะเราจะรู้ว่า เราใส่อะไรลงไปบ้าง เพื่อให้เหมาะสมกับผิวของเราครับ การทำสบู่แต่ละครั้งมันก็ไม่ได้ยุ่งยากมากมาย สนุกด้วยอีกต่างหาก แต่พอลงมือทำครั้งแรกแล้ว มันต้องทำต่อไปเรื่อย ๆ ครับ ไม่งั้นก็ไม่ได้ประหยัดสตางค์อะไร เพราะวัตถุดิบที่ซื้อหามานั้น มันไม่ได้แบ่งขายเล็ก ๆ น้อย ๆ สำหรับสำนิดทำหน่อยครับ ทำไปทำมา ซื้อไปซื้อมาวัตถุดิบเต็มบ้านครับ พอขี้เกียจไม่ทำนาน ๆ พวกวัตถุดิบเหล่านั้นจะพาลหมดอายุขัย ก็ต้องลุกขึ้นมาทำอีกจนได้แหละ เพราะความเสียดาย พอจะทำอันนี้ ขาดวัตถุดิบอันโน้น ก็ต้องวิ่งไปซื้อหามา พออันนี้เหลือ อันโน้นหมด 55 ก็ชวนปวดหัวดีครับ ไป ๆ มามา ก็ต้องทำสบู่ใช้เองเรื่อยไป หรือถ้าไม่รักการทำสบู่จริง ๆ ก็ต้องยอมตัดใจทิ้งวัตถุดิบนั้น ๆ ไปครับ การทำสบู่ก็เหมือนกับการปรุงอาหารนั่นแหละครับ มันต้องการทั้งศาสตร์และศิลป์ ต้องทำให้สบู่ใช้ดีและมีความสวยงาม มีกลิ่นหอมชวนใช้ และที่สำคัญต้องปลอดภัย และไม่เสียหายเมื่อเก็บไว้ ซึ่งเรื่องพวกนี้จะเป็นเรื่องของการศึกษาเพิ่มเติมและการสังเกตุของเราเองครับ  ทำสบู่แต่ละครั้งต้องจด ๆ นะครับว่าใช้อะไรบ้าง เท่าไหร่ และใส่ไปตอนไหน อย่างไร ทำแล้วได้ผลอย่างไร เป็นอย่างไร ควรปรับปรุงอะไรบ้าง ถ้ามีปัญหา ปัญหานั้น ๆ เกิดจากอะไร จะแก้ไขอย่างไร บางครั้งความผิดพลาด ก็อาจจะกลายเป็นสูตรลับใหม่ ๆ ให้เราได้เหมือนกันครับ ยังไม่ได้ลอง อย่าเพิ่งถอดใจครับ ลองทำสักหน่อยก่อน แล้วจะรู้ว่าทำสบู่มันสนุกแค่ไหน ทำแล้วไม่แพ้พวกเบเกอรี่หรอกนะครับ  ยิ่งสมัยนี้มีสบู่ที่ทำออกมาสวย ๆ เป็นขนมเยอะมาก ทำก็ไม่ยาก สนุก ๆ ครับ ผมมีตำรา มีแบบอยู่ แต่มันเป็นภาษาญี่ปุ่นครับ ฝากเพื่อนซื้อมา ได้แต่ดูรูป อ่านไม่ออก แต่นั่งดู ๆ แล้วก็ลองทำครับ คิดเอาจากประสบการณ์ ก็ลองทำ สนุกครับ แต่เสียเวลามาก แล้วทำแต่ละที ได้ทีละนิด ทีละหน่อย หืดขึ้นคอ แต่ก็เหมาะกับคนที่ทำใช้เองเล่น ๆ สนุก ๆ ครับ เอาตัวอย่างไปดูสักรูปสองรูปนะครับ จะได้ตื่นตาตื่นใจ ทำให้หึกเหิมครับ อ้อ.. รูปสบู่พวกนี้ ไม่ใช่สบู่ที่ผมทำนะครับ ผมเอารูปจากญี่ปุ่นมาให้ดู ไม่ได้ค่าโฆษณา คงไม่ต้องบอกว่าเอามาจากไหน โปรดเข้าใจด้วยนะครับ เดี๋ยวพวกปากหอยปากปูจะมาค่อนขอดอีก รำคาญใจครับ  ผมทำสบู่ขาย ไม่ชอบแนวแบบนี้ครับ เพราะมันเสียเวลา ค่าแรงจะสูง ไม่นิยมครับ เลือกทำในสิ่งที่ชอบและถนัดดีที่สุดครับ รูปนี้จะเป็นสบู่เค็กง่าย ๆ มีการแต่งหน้าเล็กน้อย ถ้าทำแบบง่าย ๆ ก็ทำสบู่สีเดียวกันนี่แหละ ทำแล้วก็ทำสบู่ปริมาณน้อย ๆ อีกจำนวนหนึ่ง เอามาบีบแต่งหน้าสบู่แบบแต่งหน้าเค็กนั่นแหละครับ วิธีการแต่งหน้าสบู่ก็มีหลากหลาย ขึ้นอยู่กับความรู้และประสบการณ์ของแต่ละคนครับ อันนี้ฝึก ๆ ไป ก็จะเป็นเอง พอเห็นสบู่ปุ๊บ ก็จะรู้ปั๊บครับว่าต้องทำอย่างไร จากคุณ : sakchai splash - [ 24 ก.พ. 51 12:01:37 ]

ความคิดเห็นที่ 71 หนังสือเล่มนี้แหละครับ ที่ฝากเพื่อนซื้อมา 555 กลัวจะไม่ได้ ฝากเพื่อนไปทั่ว ผลที่ได้ก็คือ ได้มาพร้อม ๆ กัน 3 เล่ม ถ้าซื้อที่ญี่ปุ่นราคาเล่มละ 1,500 เยนครับ ตกราว ๆ 500 บาทเองครับ ถูกมาก หนังสือเล่มเล็ก ๆ มีขั้นตอนอธิบาย แต่ผมอ่านไม่ออก วานให้เพื่อนชาวญี่ปุ่นแปลให้ เค้าก็แปลไม่ค่อยเข้าใจ เพราะศัพท์เทคนิคบางอย่าง ต้องนั่งอ่านกันไปแปลกันไป เสียเวลาครับ ก็เลยขนหนังสือกลับมานั่งพลิก ๆ ดูเอง ดูไปดูมา ก็เข้าใจเองครับว่าต้องทำอย่างไร จากคุณ : sakchai splash - [ 24 ก.พ. 51 12:05:33 ]

ความคิดเห็นที่ 72 แต่เชื่อไหมครับว่า สบู่พวกนี้ดูสวยงามจริง แต่ถ้าทำขายแล้วล่ะก็ มันแค่ได้ความหวือหวาครับ ยังไงซะสบู่ก็ต้องเป็นก้อน ๆ เหลี่ยม ๆ กลม ๆ อยู่ดี เพราะใช้งานได้คล่อง หยิบจับสะดวก ถ้าทำเล่น ๆ เป็นงานอดิเรกก็ดีครับ แจกจ่ายเพื่อนฝูงได้ชื่นใจดีนักแล จากคุณ : sakchai splash - [ 24 ก.พ. 51 12:10:39 ]

ความคิดเห็นที่ 73 เอาเค็กอีกสักแบบครับ จากคุณ : sakchai splash - [ 24 ก.พ. 51 12:12:40 ]

ความคิดเห็นที่ 74 ผมถนัดทำเป็นก้อน ๆ แบบนี้มากกว่าครับ แบบที่เห็นนี่จะเป็นแบบง่าย ๆ ไม่ได้ใช้สีครับ แต่จะใช้ไททาเนียมไดออกไซด์มาทำให้เกิดสีขาวในส่วนบนจะได้ตัดกับสบู่ส่วนที่ไม่ใส่สี ทำให้เป็นสองชั้น ดูน่าใช้กว่าครับ  จะเห็นเนื้อสบู่ส่วนล่างที่เป็นสีธรรมชาติเกิดจากน้ำมันที่เลือกใช้ผสมกับสีของสมุนไพรที่ใส่เข้าไป  ถ้าเริ่มทำสบู่ใหม่ ๆ ทำออกแนวนี้ก็พอแล้วครับ ไม่ต้องวุ่นวายครับ จากคุณ : sakchai splash - [ 24 ก.พ. 51 12:19:11 ]

ความคิดเห็นที่ 75 สบู่ตัวนี้ทำแบบเลเยอร์ครับ คือทำเป็นชั้น ๆ ก็ค่อย ๆ เททีละชั้นไป ผมเลือกใช้สีเดียวคือสีเขียว แต่เพิ่มลูกเล่นของการทำให้มีสีแก่ สีอ่อน สร้างมิติให้สบู่ครับ ตอนทำน่ะกะสียากมากครับ เพราะเราใช้สีน้อยมาก ตอนใส่สีในสบู่จะบอกไม่ได้เลยครับว่าจะได้สีขนาดไหน จนกว่าสบู่จะเซ็ทตัวเรียบร้อย แล้วแบบนี้ก็เพิ่งทำครั้งแรกครับ แต่พอตัดสบู่ ก็ชอบมากครับ สีสวยถูกใจ ดูเป็นธรรมชาติดีมาก มีผงสมุนไพรอยู่ในเนื้อประปรายพอให้รู้ว่าเป็นสบู่สมุนไพรครับ จากคุณ : sakchai splash - [ 24 ก.พ. 51 12:23:16 ]

ความคิดเห็นที่ 76 สบู่ของผมที่ทำในเดือนพฤศจิกายนปีก่อน มีสีสันสารพัดครับ  สีเป็นเรื่องที่ยากที่สุดเรื่องหนึ่งของการทำสบู่ครับ  ในการทำสบู่นั้น ช่วงที่เราใส่สีลงไป ค่าของด่าง (ค่าพีเอช) ในสบู่จะสูง ดั้งนั้นพวกสีธรรมชาติทั้งหลายที่ใช้อาจจะก่อปฏิกิริยาทำให้สีเพี้ยนไป อย่างที่คุณเต่าอธิบายไว้ตอนต้น ๆ นั่นแหละครับ  ดังนั้นหัดทำสบู่ใหม่ ๆ ไม่ต้องตื่นตกใจครับ ทำไปเรื่อย ๆ ก็จะได้เทคนิคใหม่ ๆ ไปเรื่อย ๆ เช่นกัน พวกเปลือกพวกนี้มันจะมาเองครับ  ไมต้องรอให้ใครมาบอกหรอกครับ ฝึกฝนเอาเองก็จะได้เองครับ พวกสีผสมอาหารบางกลุ่มจะไม่คงทนต่อสภาพความเป็นด่าง สีจะเพี้ยนไป สีพวกนี้ยังซีดจางลงได้ตามกาลเวลา และจะซีดจางมากขึ้นเมื่อถูกแสงครับ ยกเว้นสีทีใช้ในวงการเครื่องสำอางครับ ซึ่งแพงมาก ๆ และต้องทดลองใช้ดูเองเท่านั้นครับ บางครั้งสีชนิดเดียวกันแท้ ๆ คนใช้แต่ละคนก็ทำสีที่แตกต่างกันได้ครับ.... ตอนนี้ฟัง ๆ จำ ๆ ไว้เท่านี้ก่อนก็พอครับ เปลือก ๆ ทั้งนั้น อีกหน่อยพอได้ทำ ก็จะรู้กันไปเรื่อย ๆ เองแหละครับ จากคุณ : sakchai splash - [ 24 ก.พ. 51 13:03:41 ]

ความคิดเห็นที่ 77 โอ แต่ละก้อนเห็นแล้วใจละลาย หนังสือสวยน่ากินมาก อยากได้จัง ขอ ISBN ได้ไหมค่ะ เวปไหนมีขายบ้างไม่รู้ จะเอามาดูให้เกิดกิเลส จากคุณ : petunia lover - [ 26 ก.พ. 51 07:09:20 ]

ความคิดเห็นที่ 78 คห. 77 คุณ petunia lover ผมเอาลิงค์มาแปะเลยล่ะกันครับ http://item.rakuten.co.jp/book/4381415/ โดยส่วนตัวแล้ว ผมอ่านไม่ออก ก็เลยไม่ค่อยจะได้ประโยชน์นัก นอกจากเปิดดูรูปน่ะครับ  แต่ถ้าจะทำกันจริง ๆ แล้ว ผมว่าไม่จำเป็นต้องซื้อก็ได้ครับ ผมมีรูปสบู่สวย ๆ แปลก ๆ เก็บไว้เยอะมาก ๆ ครับ ซึ่งบางแบบสวยกว่าในหนังสือเสียอีกครับ  ถ้าอยากได้ก็ส่งอีเมลล์มาหลังไมค์ได้ครับ ผมไม่หวง ตอนนี้น้ำมันขึ้นราคากันน่าดูครับ น้ำมันรำข้าวลิตรละ 70 เข้าไปแล้ว ปวดหัวมาก เพราะราคาขายมันขยับขึ้นไม่ได้ครับ จะเปลี่ยนสูตรก็ไม่ได้อีก เพราะสูตรถูกส่งไปให้ลูกค้าหมดแล้ว ถ้าเปลี่ยนแปลงจะต้องแก้ไขสัญญากันใหม่ เซ็งจริง ๆ ครับ ตอนนี้จะลองเปลี่ยนมาใช้ palm kernel butter ดูครับ เพราะพอดีที่บ้านนำเข้ามาจากต่างประเทศเพื่อทำชอคโกแลต   ราคาค่อนข้างดีครับ กิโลกรัมละ 32.50 ไม่รวมค่าขนส่งและค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ทำสบู่แล้วได้เนื้อสวยขาวดีครับ จากคุณ : sakchai splash - [ 26 ก.พ. 51 15:03:45 ]

ความคิดเห็นที่ 79 เซ็งเลยน่ะค่ะ น้ำมันดันมาขึ้นราคาทีหลัง ขอบคุณมากสำหรับลิ้งค์หนังสือน่ะค่ะ อ่านไม่ออกเหมือนกันแหล่ะค่ะ แต่เห็นรูปหน้าปกมันสวยเหลือเกิน ถ้าคุณศักดิ์ชัย(หรือเปล่า)ว่างเมื่อไหร่ส่งรูปสบู่สวยๆมาให้ก็จะขอบคุณมากค่ะ แต่เราก็มีเก็บไว้บ้างเหมือนกัน เรามาแลกกันก็ได้ค่ะ amm315@gmail.com จากคุณ : petunia lover - [ 26 ก.พ. 51 15:21:23 ]

ความคิดเห็นที่ 80 เดี๋ยวจะส่งรูปไปให้นะครับ แล้วถ้าว่าง ๆ จะสแกนหนังสือบางหน้าให้ครับ ดูรูปสวย ๆ หาเทคนิคใหม่ ๆ ทำดีไซน์สวย ๆ ครับ ตอนนี้เริ่มเอาเทคนิค ของสบู่กลีเซอรีนมาใช้กับสบู่โคล์ดโปรเซสครับ อาศัยทำสบู่แฟนซีได้เยอะ ก็เลยมีเทคนิคเยอะครับ ได้แบบออกมาสวย ๆ ทั้งนั้น แต่ไม่กล้าโพสต์ครับ มีพวก C&D เยอะมาก ๆ ครับ จากคุณ : sakchai splash - [ 26 ก.พ. 51 17:15:04 ]

ความคิดเห็นที่ 81 น่าสนใจมากเลยค่ะ จดๆจ้องๆอยู่นานแสนนานแล้ว ... เห็นด้วยกะหลายๆคนว่า ถ้ามีเพื่อนร่วมชะตากรรม กะมีคุณครูกำกับ จะช่วยเสริมความมั่นใจได้มากเลยค่ะ เปิดคอร์สเมื่อไหร่ จะขอไปเรียนด้วยคนนะคะ^^ จากคุณ : Omomama - [ 26 ก.พ. 51 17:45:33 ]