ความคิดเห็นที่ 1 เริ่มเรื่องกันเลยดีกว่า เดี๋ยวจะเย็น-ค่ำเสียก่อน  ถามไม่จบ ................................................................................. มีไม้อยู่ตัวหนึ่ง  ที่ญาติเราหลายๆท่านได้เคยเอามาแปะ  เอามาโพสต์กัน เป็นไม้ที่  มีชื่อเรียกไทยๆว่า........ เอื้องคำป๊อก เนี่ย...ตัวนี้เลย  เป็นตัวปัญหา ลองเข้าไปในเน็ต  ลองสืบค้นดู  ปรากฏว่า  มีไม้ที่มีดอกคล้ายกัน  หรือพูดง่ายๆว่า  ดอกเหมือนกันเลยทีเดียว มีอยู่สองตัว  แล้วชื่อภาษาอังกฤษ  ก็ไม่เหมือนกัน ..................................................................................................................................................... ลองชม   "เอื้องคำป๊อก"  ตัวแรกก่อน นี่เลยขอรับ  ภาพดอกของมัน จากคุณ : ก๋งแก่(หง่อมจริงๆ) - [ 27 มี.ค. 51 14:19:16 ]

ความคิดเห็นที่ 2 สำหรับตัวนี้.......................... ลองสืบค้นในเน็ตแล้ว  ปรากฏว่า  ได้รายละเอียดมากมาย  เป็นต้นว่า........ เอื้องคำป๊อก Dendrobium capillipes Rchb. f. 1867 Flower Size 1 to 1 1/2" + [2.5 to 4 cm] This miniature, epiphytic, cool to warm growing species occurs in India, Nepal, Myanamar, Thailand, China, Laos, Vietnam, in montane forests with spindle-shaped, 6 noded pseudobulbs arising in a cluster and having red-edged sheaths that yellow with age and carry ligualte, or lanceolate, acuminate, rather laxly held leaves has an axillary, pendant, 3 to 6" [6 to 15 cm] long, racemose, few to several flowered inflorescence with the racemes arising from the nodes near the apex of the canes that appears in the later winter and spring and is widespread in S E Asia at elevations of 800 to 1300 meters in dry, deciduous forests in exposed locations. Synonyms Callista acrobatica (Rchb. f.) Kuntze 1891; Callista capillipes (Rchb. f.) Kuntze 1891; Dendrobium acrobaticum Rchb.f 1871; Dendrobium braianense Gagnep. 1938 ดูภาพต่อไปเลย   แสดงให้เห็น  ลำต้นสั้นๆ  ป้อมๆ  และทิ้งใบยามออกดอก ภาพนี้  นำมาจากเว็ปกล้วยไม้ของรัสเซีย จากคุณ : ก๋งแก่(หง่อมจริงๆ) - [ 27 มี.ค. 51 14:23:07 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ในหนังสือของไทย   ไม่ว่าจะเป็น ๑.  หนังสือกล้วยไม้เมืองไทย  ของ  อ.อบฉันท์  ไทยทอง ๒. หนังสือ  wild  orchids  of  thailand  ของ  nantiya  vaddhanaphuti ๓. หนังสือคู่มือกล้วยไม้  ของ  สลิล  สิทธิสัจจธรรม ......................................................................................................................... ต่างก็ใช้  ภาษาอังกฤษ  ชื่อนี้  คือ Dendrobium  capillipes  Rchb.f. สำหรับต้นนี้ จากคุณ : ก๋งแก่(หง่อมจริงๆ) - [ 27 มี.ค. 51 14:28:08 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ดีคับก๋ง... แวะมาปาดก๋ง...........แว๊ปปปปปปปปปปปปป คำป๊อก = capillipes ลำสั้นๆเล็กๆ คำป๊อกลาว = sukhakulii ลำอวบๆยาวหน่อย จากคุณ : เสือเจ้าถิ่น - [ 27 มี.ค. 51 14:30:56 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ************************** และแล้ว   มาชมอีกต้น   คนไทยเราก็เรียกว่า......................."เอื้องคำป๊อก"   เหมือนกัน ลองมาชมดอกกันก่อน ..................................................................................................................................................... จากคุณ : ก๋งแก่(หง่อมจริงๆ) - [ 27 มี.ค. 51 14:31:40 ]

ความคิดเห็นที่ 6 เย้ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ เจอผู้รู้แล้ว   เจอผู้ให้ความกระจ่างแล้ว เจอผู้ไขปัญหาแล้วววววววววว อย่าเพิ่งไปไหนนะขอรับ ?? เดี๋ยวจะมีคำถาม  ข้างท้าย   ที่ก๋ง  อยากทราบจริงๆ ************************************************************************* คำป๊อก ต้นที่สอง   ลักษณะต้น  ลำลูกกล้วยยาว  ต้นกลมยาว เวลาออกดอกไม่ทิ้งใบ จากคุณ : ก๋งแก่(หง่อมจริงๆ) - [ 27 มี.ค. 51 14:35:27 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ที่บ้านก๋ง  มีต้นนี้ ต้นยาวๆ  ไม่ทิ้งใบ   .................................................................................................................................. ก๋ง  ลองสืบค้นในเว็ปทั้งหลาย  ตลอดจนในหลายๆแหล่ง ปรากฏว่า  ไม่มีรายละเอียดใดๆทั้งสิ้น งง เลยขอรับ  ไม่ทราบว่า  จะไปเอามาจากตรงไหน ?? ในหนังสือ  ดังรายชื่อที่แจ้ง  ใน  คห.ที่ ๓   ก็มีอยู่เล่มเดียว  คือ....... ของ  nantiya  vaddhanaphuti แต่ไม่มีรายละเอียดอะไรมากนัก   เพียงแต่บอกว่า.............. Dendrobium  sukhakullii  Hort. Distribution  :  North Flowering  period  :  February Characteristic  :  Bright  yellow  flower,  lip  large  with  golden  base. Size  :  2.5 - 3  cm Number  of  flower  :  6 - 7 ................................................................................................ จากคุณ : ก๋งแก่(หง่อมจริงๆ) - [ 27 มี.ค. 51 14:44:36 ]

ความคิดเห็นที่ 8 รายละเอียดต่างๆ รายละเอียดเกี่ยวกล้วยไม้ต้นนี้ ในเว็ปที่เกี่ยวข้องกับกล้วยไม้ทุกเว็ป  ของต่างประเทศ  ยังไม่มีรายละเอียดใดๆทั้งสิ้น ............................. ............................. จะมีก็แต่เพียง  เว็ปของไทย  ซึ่งมีรายละเอียดน้อยมาก  พูดง่ายๆก็คือ  แทบไม่ใช่รายละเอียดเลย และที่มีรูปก็อยู่ตาม  Blog  ทั่วๆไปนั่นเอง จากคุณ : ก๋งแก่(หง่อมจริงๆ) - [ 27 มี.ค. 51 14:48:48 ]

ความคิดเห็นที่ 9 รอโยนคำถามสุดท้ายให้คนข้างล่างต่อ.คับก๋ง..อิอิอิ จากคุณ : เสือเจ้าถิ่น - [ 27 มี.ค. 51 14:49:46 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ก๋ง  ลองสืบค้นดู  โดยเขียน  คำว่า............. Dendrobium  sukhakulii   ลงไป ผลการสืบค้นจะออกมาเป็นกล้วยไม้เหมือนกัน  แต่จะเป็น  รองเท้านารี  สุขขะกุล  ไม่ใช่กล้วยไม้สกุลหวาย เหอ  เหอ  เหอ จากคุณ : ก๋งแก่(หง่อมจริงๆ) - [ 27 มี.ค. 51 14:51:37 ]

ความคิดเห็นที่ 11 เอาละขอรับ ต่อไปนี้  จะเป็นคำถามแล้วละ........................................ ..................................................................................................................................................... จากการที่  ก๋ง  ลองสืบค้นไปเรื่อยๆ สำหรับเรื่อง  "เอื้องคำป๊อก"  ตัวนี้  ปรากฏว่า  ในไทยเราสามารถพบได้ในป่าทางด้านภาคเหนือติดต่อกับทางภาค อีสานตอนบน   ซึ่ง  แถบนั้นน่าจะเป็น  แถวๆจังหวัดน่าน  จังหวัดเลย  ตลอดทางหนองคาย  และเลยออกไปยังประเทศ ใกล้เคียง การที่เรามาตั้งชื่อว่า   เอื้องคำป๊อกลาว อาจจะเป็นเพราะว่า  พบครั้งแรกใน สปป.ลาว  หรือนำเอามาจาก  สปป.ลาว  หรือ ตั้งชื่อให้มันแยก  แตกต่างไปจาก  เอื้องคำป๊อก  ตัวเดิม จากคุณ : ก๋งแก่(หง่อมจริงๆ) - [ 27 มี.ค. 51 14:57:44 ]

ความคิดเห็นที่ 12 คำถาม....คำถาม....คำถาม ****************************** ก๋ง  ได้ทราบข่าวมาว่า ได้มีการ  ยื่นคำขอ เกี่ยวกับชื่อของ   "เอื้องคำป๊อกลาว"  Dendrobium  sukhakulii  Hort.  ตัวนี้  เพื่อให้มีการบันทึก ตลอดจนรายละเอียดต่างๆ ถามว่า................................. ได้มีการบันทึก  แล้วหรือยัง ?? และใน  Kew Checklist และ IPNI  ได้มีรายละเอียดลงแล้วหรือยัง  ?? (ก๋งอยากทราบ  ก๋งไม่มี หนังสือพวกนี้......ไม่มีปัญญาซื้อ  อิอิอิ) ........................................................................................................................... เนี่ย !!   อยากทราบแค่นี้แหละ จริงๆนะเนี่ย  อยากรู้   อยากรู้ ขอขอบคุณ จากคุณ : ก๋งแก่(หง่อมจริงๆ) - [ 27 มี.ค. 51 15:06:26 ]

ความคิดเห็นที่ 13 น่าจะลงรายละเอียดบันทึกได้แล้วนะขอรับ จะได้เป็นเกียรติประวัติ  กับคนไทย   ในกล้วยไม้อีกสักต้น เหอ  เหอ  เหอ ............................................................................................................................................... ก๋ง  และทีมงานฯ ขอขอบพระคุณ  ในทุกคำตอบ โชคดี/มีทรัพย์/แข็งแรง/กระทำดี/มีความสุข  นิรันดร์กาล จากคุณ : ก๋งแก่(หง่อมจริงๆ) - [ 27 มี.ค. 51 15:09:22 ]

ความคิดเห็นที่ 14 เข้ามาร่วมรับความรู้ครับ  แต่ไม่สามารถแสดงความคิดเห็นอะไรเลยครับ  นอกจากมาแจมภาพกับก๋งอะครับ จากคุณ : หนุ่มแม่ริม - [ 27 มี.ค. 51 15:23:56 ]

ความคิดเห็นที่ 15 เหอเหอ รู้จักทั้ง 2 ตัวแต่..... ตอบก๋งไม่ได้เลย เพราะความรู้มีแค่ หางเกสรของเอื้องคำป๊อกเองค่ะ รอคนข้างล่างนะคะ ข้าน้อยขออภัย จากคุณ : Marychild - [ 27 มี.ค. 51 16:29:24 ]

ความคิดเห็นที่ 16 อยากตอบจังเลยว่า "ไม่รู้ครับ" จากคุณ : แดงอุบล - [ 27 มี.ค. 51 17:03:30 ]

ความคิดเห็นที่ 17 มาป่วนเฉยๆๆๆ จากคุณ : ไม่รู้เป็นไร - [ 27 มี.ค. 51 18:21:19 ]

ความคิดเห็นที่ 18 ป๊อก 9 2 เด้ง เจ้ามือก๋งจ่ายมาซะดีๆ จากคุณ : น้าโหด - [ 27 มี.ค. 51 18:44:01 ]

ความคิดเห็นที่ 19 มาซึมซับความรู้ แต่รู้สึกจะปิ่มๆๆไงไม่รู้ จากคุณ : ฉัตรวาริน - [ 27 มี.ค. 51 19:44:19 ]

ความคิดเห็นที่ 20 มาอยากรู้ด้วยคนครับ จากคุณ : ST.Exsodus - [ 27 มี.ค. 51 19:46:51 ]

ความคิดเห็นที่ 21 ไม่ทราบเหมือนกันครับเคยมีแต่ตอนนี้กลับบ้านเก่าไปแล้วเหลือแต่ลูกผสมผาเวียง+คำป๊อก จากคุณ : mr.orchid - [ 27 มี.ค. 51 20:38:11 ]

ความคิดเห็นที่ 22 ก็เพิ่ง เคยเห็นต้นลำยาวๆ ในนี้แหละครับ ทีแรกยังเดาว่า เป็นคำปอน จากคุณ : ลุงหนวด (ลุงหนวด๒๕๔๗) - [ 27 มี.ค. 51 20:49:28 ]

ความคิดเห็นที่ 23 ต้องสงสัยว่าเป็นญาติสนิทกันแน่เลย จากคุณ : ยุ่น..ดิ - [ 27 มี.ค. 51 22:24:20 ]

ความคิดเห็นที่ 24 มาเก็บข้อมูลค่ะ จากคุณ : ซาไปรส์ - [ 27 มี.ค. 51 23:00:27 ]

ความคิดเห็นที่ 25 ม่ายรู้เลยครับ จากคุณ : buaravong - [ 27 มี.ค. 51 23:28:37 ]

ความคิดเห็นที่ 26 ขออนุญาต มาตอบก๋งนะครับ ยังไม่เคยเจอก่งสักทีนะครับ ไว้ถ้าปีไหนไปเที่ยวงานเหลืองจันท์ คงได้เจอกันครับ คำถามของก่ง น่าจะแบ่งเป็นสองส่วนนะครับ 1. ชื่อไทย 2. ชื่อวิทยาศาสตร์ 1. ชื่อไทย คำว่าลาว นั้น ไม่ได้ หมายเฉพาะถึง เฉพาะประเทศลาวเท่านั้น แต่คนไทย สยาม หรือ ภาษาไทยมาตรฐาน (ภาษาไทยกลาง, ภาษาไทยกรุงเทพ)  ใช้คำว่า ‘ ลาว’ หมายถึง ชนชาติที่พูดภาษาตระกูลใหญ่ไทย – กะได Tai-Kadai Language Family โดยเฉพาะ กลุ่มย่อย ภาษาไต Tai Language โดยเฉพาะในกลุ่ม ภาษาไต ตะวันตกเฉียงใต้ Southwestern Tai languages ที่มักจะตกเป็นเมืองขึ้นของ ไทยสยาม อย่างเช่น ภาษาไทยเหนือ (คำเมือง ล้านนา) ภาษาไทยอีสาน ภาษาลาว เป็นต้น ยกเว้น ภาษาไทยปักษ์ใต้ และภาษาไทยใหญ่ การจัดชนิดภาษา นี้ จัดตาม Edmondson & Solnit (1997) ซึ่งต่างจากความเข้าใจของคนไทยส่วนใหญ่ ที่เชื่อว่าภาษาไทยในประเทศนี้เป็นภาษาเดียวกันทั้งหมด ซึ่งเป็นผลสืบเนื่องทางการเมืองและสังคมแบบรวมศูนย์ ส่วนการใช่คำว่าภาษาถิ่นนั้น สำหรับภาษาไทย คงต้องแยกย่อยไปเป็นแต่ละจังหวัดและอำเภอไปครับ ถ้าอยากทราบความเป็นมาของคำว่าลาว  ลองหาอ่าน งาน ของ จิตร ภูมิศักดิ์ ดูนะครับ ถ้าไม่เชื่อ การแยกภาษาของนักภาษาศาสตร์ ก็มีวิธี ทดสอบง่ายๆครับ หากใครพูด ภาษาไทยอีสาน ไทย เหนือ หรือ ไทยปักษ์ใต้ ได้ พูดตั้งแต่เด็ก และเป็นสำเนียงท้องถิ่นจริงๆ ไม่มีสำเนียงกลางไปปน  ลองหาเพื่อนที่เป็นคนภาคกลาง หรือ คน กรุงเทพ แต่กำเนิด และไม่เคยได้สนใจเรียนรู้ภาษาถิ่นใดๆมาก่อน ลองพูด ภาษาไทยเหนือ ไทยอีสาน หรือ ไทยปักใต้ ใส่เค้าดู แบบไม่ยั้ง ด้วยความเร็วในการพูดปกติ ถ้าเค้าสามารถ พุดตอบโต้ได้ทั้งหมด แสดงว่าเป็นภาษาเดียวกัน แต่ถ้าไม่สามารถพุดคุยกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ หรือคุยกันรู้เรื่องน้อยมากก็เป็นข้อพิสูจน์ครับ ปล. ต้องกราบขอโทษไว้ก่อนนะครับ สำหรับ หลายท่าน ที่ถูกระบบการศึกษาไทย สอนสั่งให้ ครั่งชาติโดยไร้เหตุผล (ชาตินิยมแบบเกินพอดี)  และถูกสอนให้ดูถูกเพื่อนบ้านครับ ผมว่ามันหมดสมัยแล้วครับ คนลาว ประเทศลาว อาจจะดูด้อยทางวัตถุสมัยใหม่ แต่เท่าที่เคยไปเที่ยวมา เค้าเป็นคนที่น่ารักมากครับ และทำให้นึกถึงภาพเมืองไทย ในสมัยก่อนครับ 2. ชื่อวิทยาศาสตร์ มันเป็นเรื่องความสับสน ของการตรวจสอบข้อมูลและเปรียบเทียบตัวอย่างครับ สำหรับหนังสือภาษาไทยทั้งสามเล่มที่ ก๋ง เอามา แม้ว่าจะเพิ่งจัดพิมพ์ได้ไม่นาน หากแต่หนังสือทั้งสามเล่มนั้น ได้ยึดอ้างอิง แต่เฉพาะผลงานการค้นคว้า ของ Gunnar Seidenfaden เอกอัครราชทูตเดนมาร์ก ประจำพระราชอาณาจักรไทย ที่รักและหลงใหล ในงานทางด้าน Orchid Taxonomy ซึ่งเป็นผลงานชุดยิ่งใหญ่ เป็นการบุกเบิก ความรู้เกี่ยวกับกล้วยไม้ ในอุษาคเนย์ แต่สำหรับปัจจุบัน ข้อมูล และความรู้ที่เพิ่มขึ้นทุกวัน ทำให้ เอกสารเหล่านี้ ล้าสมัยไปในหลายส่วนแล้วครับ จึงไม่น่าแปลกใจที่หนังสือภาษาไทยดังกล่าวที่อ้างอิงตามนั้น จะมีความล้าสมัยทางด้าน อนุกรมวิธานไปด้วยครับ ความเข้าใจ ณ ขณะนี้ กล้วยไม้ทั้งสองตัวที่ก๋งสนใจ เท่าที่เข้าใจกันในตอนนี้คือ เป็น กล้วยไม้ในสกุลเอื้องหวาย Dendrobium Sw. ใน   Dendrobium    sect.   Dendrobium   หรือ   Dendrobium   sect.   Holochrysa  Lindl. ทั้งสองชนิดมีลักษณะดอกที่เหมือนกันจนแยกไม่ออก มีความซ้อนเหลือมของลักษณะดอกเกือบทั้งหมด แต่มีลักษณะของ Vegetative part คือ Pseudobulbs ที่แตกต่างครับ สำหรับนักกอนุกรมวิธานก็จะแยกเป็นสองแนวคือ พวกนวมไว้ก่อน Lumper พวกแยกไว้ก่อน Splitter ซึ่งทำให้บ้างก็จัดให้เป็นชนิดเดียวกันเลย Synonym, Forma, Vairties, Subspecies หรือ species แล้วแต่แนวคิดของแต่ละคน และแม้จะเป็น spceies ก็ถือว่าเป็น  Cryptic species ครับ 2.1 หากแบ่งแบบ Lumper จะถือว่าเป็นชนิดเดียวกันครับ โดยชื่อที่ยอมรับคือ Accepted Name Dendrobium capillipes   Rchb.f. (1867) Sensu lato และมีชื่อซ้ำดังนี้ครับ Synonym Dendrobium acrobaticum  Rchb.f. (1871) Dendrobium capillipes   var. elagans   Rchb.f. (1880) Callista capillipes   (Rchb.f.) Kuntze (1891) Callista acrobatica   (Rchb.f.) Kuntze (1891) Dendrobium braianense   Gagnep. (1938) Dendrobium sukhakulii   Hort. 2.2 หากแบ่งแบบ Splitter จะแยกเป็นสองชนิดครับ คือ 2.2.1 เอื้องคำป๊อก โดยชื่อที่ยอมรับคือ Accepted Name Dendrobium capillipes   Rchb.f. (1867) Sensu stricto และมีชื่อซ้ำดังนี้ครับ Synonym Dendrobium acrobaticum   Rchb.f. (1871) Callista capillipes   (Rchb.f.) Kuntze (1891) Callista acrobatica   (Rchb.f.) Kuntze (1891) 2.2.2 เอื้องคำป๊อกลาว โดยชื่อที่ยอมรับคือ Accepted Name Dendrobium braianense Gagnep. (1938) และมีชื่อซ้ำดังนี้ครับ Synonym Dendrobium capillipes  var.  elagans   Rchb.f. (1880) Dendrobium sukhakulii   Hort. ชื่อ   Dendrobium sukhakulii   Hort. เป็นเพียงชื่อที่ใช้กันในทางพืชสวนและการค้าครับ ไม่เคยได้รับการตีพิมพ์ถูกต้องตามหลัก ICBN ครับ จริงๆแล้วสำหรับนักพฤกษศาสตร์แบบเคร่งครัด จะไม่นับเป็น Synonym เลย เพราะเป็นชื่อที่ไม่เข้ากฎ ICBN จึงไม่นำมาพิจารณา เพราะถือเป็นชื่อที่ไม่สามารถใช้ได้ สำหรับตอนนี้สำนัก Kew Botanical Garden และ Royal Horticultural Society (RHS) ราชพฤกษชาติสมาคมแห่งอังกฤษ ถือว่ามันเป็นคนละ species กันครับ และสามารถจดทะเบียนลูกผสมแยกต่างหากกันได้ครับ ส่วนรายละเอียดว่ามันต่างกันยังไง ต้องรบกวนเซียนหวาย อย่างพี่โบ๋ Magnificum มาตอบนะครับ ผมไม่เคยสนใจไม้สกุลนี้เท่าไหร่ เพราะมันเยอะเกินไป ขี้เกียจอ่านครับ อิๆ ผิดพลาดประการใดไม่รู้เหมือนกันครับ ไม่เคยเลี้ยงหวายเลยครับ ส่วนการจัดจำแนกภาษาไต ต้องขอความกรุณา ลุงบัวระวง buaravong ช่วยอธิบายเพิ่มเติมด้วยครับ © 2008 Prapanth Iamwiriyakul จากคุณ : Paphmania - [ 28 มี.ค. 51 02:23:53 ]

ความคิดเห็นที่ 27 ลืมข้อมูลอีกนิดหน่อยครับ ไม้ที่ขายกันในชื่อ   Dendrobium sukhakulii   Hort. นั้น เก็บครั้งแรกจาก จ. น่านครับ แล้วจึงมีไม้จากประเทศลาวมาในภายหลังครับ คำว่าลาว ใน เอื้องคำป๊อกลาว อาจจะหมายถึง ประเทศลาวจริง แต่ คำว่าลาวไม่จำเป็นต้องหมายถึง ประเทศลาวอย่างเดียวครับ จากคุณ : Paphmania - [ 28 มี.ค. 51 02:36:17 ]

ความคิดเห็นที่ 28 ^ l l l l  โอ๊ววว...น้าพันสุดยอด... ไม่รู้มีใครคิดเหมือนผมป่าว  แรก ๆ ที่เริ่มเลี้ยงคิดว่ากล้วยไม้คงไม่มีไรมาก เลี้ยงไปสักหน่อย ต้องหาชื่อ ต้องมีสายพันธุ์ ต้องมีพ่อมีแม่  ต้องมีพี่น้อง ต้องมีวงษ์ศาคณาญาติ  เกี่ยวข้องกับถิ่นที่อยู่  ภูมิประเทศ  ภาษา..บลา..บลา ๆ ๆ ๆ     มึนตึ๊บ..ฮ่า ๆ ขอบคุณก๋งที่มีความรู้มาฝากทุกวันด้วยครับ จากคุณ : snowboy - [ 28 มี.ค. 51 04:05:47 ]

ความคิดเห็นที่ 29 สุดยอดทั้งคนตอบ และ จขกท. จากคุณ : นพนะลิน - [ 28 มี.ค. 51 04:14:22 ]

ความคิดเห็นที่ 30 ************************************************************************** ขอขอบคุณ...ขอขอบคุณ...ขอขอบคุณ **************************************************************************         ก๋ง  และผองสมาชิกในเรือนกล้วยไม้         ขอกราบขอบพระคุณ   คุณ  Paphmania         เป็นอย่างสูง ขอรับ............................        จากคำตอบดังกล่าว        ให้ความกระจ่างมากขอรับ  ทำให้ทราบอะไรๆมากขึ้น        และ ก๋ง  ตลอดจนสมาชิกในเรือน  ก็ยังคอยคำตอบ  ในส่วนอื่นๆด้วย  เพื่อความเข้าใจ  เพื่อความรู้        ...................................................................        ก๋ง  และสมาชิกจะคอย  เซียนหวาย  กูรูหวาย  อย่าง        คุณ  Magnificum        มาอธิบาย  ให้ฟังอีกต่อไป        ขอขอบคุณ  อีกครั้ง จากคุณ : ก๋งแก่(หง่อมจริงๆ) - [ 28 มี.ค. 51 07:13:46 ]

ความคิดเห็นที่ 31 ... สวัสดี ค่ะ คุณก๋งฯ. เป็น แฟน ..น้องป๊อก.. เหมือนกันค่ะ จากคุณ : BananaWood. - [ 28 มี.ค. 51 07:20:41 A:151.24.26.208 X: TicketID:108206 ]

ความคิดเห็นที่ 32 สุดยอดดดดดดดดดดดดดดดดดดด สุดยอดดดดดดดดดดดดดดดดดดด  ในคำตอบขอรับ ขอขอบคุณ ..................................................................................................................................................... ก๋ง   มีคำถามต่อเลย  ขอรับ คำถามมีอยู่ว่า......... ก๋ง  เข้าไปสืบค้นดูใน   Jay's  Internet  Orchid  Species  Photo  Encyclopedia ปรากฏว่า   ไปเจอ  ต้นกล้วยไม้อีกต้น  ที่มีดอกเหมือนกันทั้ง                     ...เอื้องคำป็อก   Dendrobium  capillipes                     ...เอื้องคำป๊อกลาว  Dendrobium  sukhakulii โดย  เค้าบอกไว้ว่า   ต้นนี้   พบในเวียตนามตอนใต้ และจดทะเบียนโดย  ชาวญี่ปุ่น และตั้งชื่อว่า...................... Dendrobium ejirii  T.Yukawa 1997 ................................................................................................. ปัญหา  ของก๋ง  มีอยู่ว่า 1. ใครเคยเห็นต้นจริงๆบ้างว่า  ต้นมันคล้ายคำป๊อก  หรือคำป๊อกลาว  มั๊ย ?? 2. และเป็นไปได้มั๊ยว่า  ไม้ต้นนี้  มันจะเป็นต้นเดียวกับ  คำป๊อกลาว 3. อดคิดไม่ได้ว่า  ไทยเราจะสายไปรึป่าว  เกี่ยวกับเรื่องจดทะเบียน  จน  ญี่ปุ่นเอาไปจดซะแล้ว  ถ้ามันเป้นต้นเดียวกัน นี่  ขอรับ  รูปดอกของมันเลย    Dendrobium ejirii T.Yukawa 1997 จากคุณ : ก๋งแก่(หง่อมจริงๆ) - [ 28 มี.ค. 51 07:35:23 ]

ความคิดเห็นที่ 33 นี่เลย ขอรับ  ต้นของมัน ................................................................... Dendrobium ejirii จากคุณ : ก๋งแก่(หง่อมจริงๆ) - [ 28 มี.ค. 51 07:45:34 ]

ความคิดเห็นที่ 34 นี่เลย ขอรับ  ต้นของมัน  ๒ ................................................................... Dendrobium ejirii จากคุณ : ก๋งแก่(หง่อมจริงๆ) - [ 28 มี.ค. 51 07:46:28 ]

ความคิดเห็นที่ 35 นี่เลย ขอรับ  ต้นของมัน  ๓ ................................................................... Dendrobium ejirii จากคุณ : ก๋งแก่(หง่อมจริงๆ) - [ 28 มี.ค. 51 07:47:15 ]

ความคิดเห็นที่ 36 นี่เลย ขอรับ  ต้นของมัน  ๔ ................................................................... Dendrobium ejirii จากคุณ : ก๋งแก่(หง่อมจริงๆ) - [ 28 มี.ค. 51 07:48:27 ]

ความคิดเห็นที่ 37 นี่เลย ขอรับ  ต้น - ดอก ของมัน   ๕ ................................................................... Dendrobium ejirii ***โอววว   แล้วมันจะใช่  เอื้องคำป๊อกลาวมั๊ยเนี่ย ?????????? ***ถ้ามันเกิดใช่  ขึ้นมา  ญี่ปุ่นเค้าเอาไปจดทะเบียน ซะแล้ว จากคุณ : ก๋งแก่(หง่อมจริงๆ) - [ 28 มี.ค. 51 07:51:15 ]

ความคิดเห็นที่ 38 ************************************************************************************** อยากรู้เรื่อง   อยากทราบรายละเอียดต่อจังเลย กำลังสนุกเลยขอรับ   เรียนเชิญ  กูรู  เซียนหวายมาอธิบายกันต่อเหอะ  อยากทราบๆๆๆๆๆๆ ************************************************************************************** แก้ไขเมื่อ 28 มี.ค. 51 11:02:42 จากคุณ : ก๋งแก่(หง่อมจริงๆ) - [ 28 มี.ค. 51 07:54:45 ]

ความคิดเห็นที่ 39 ขอบคุณครับสำหรับความรู้ จากคุณ : เจ้าพระยาสุราบาน (เจ้าชายเคโระ) - [ 28 มี.ค. 51 08:41:05 ]

ความคิดเห็นที่ 40 ขอฟังด้วยคน ขอบคุณมากค่ะ จากคุณ : กะปอมค่ะ - [ 28 มี.ค. 51 09:34:50 ]

ความคิดเห็นที่ 41 อืม.......ยังมาติดตามรับความรู้เหมือนเดิมครับ   น่าสนใจและ น่าติดตามมาก ๆ  แต่ตัวเองไม่มีความรู้เลย  ขอบคุณอีกครั้งครับ ก๋ง  และ ท่านผู้รู้ทุก ๆ ท่าน จากคุณ : หนุ่มแม่ริม - [ 28 มี.ค. 51 11:40:38 ]

ความคิดเห็นที่ 42 ว้าว.....เยี่ยมเลยน้าพัน......แม่นเปรี๊ยะ จากคุณ : สำเภางาม - [ 28 มี.ค. 51 12:02:09 ]

ความคิดเห็นที่ 43 โอวววววว มึนตึ๊บ สุดยอดมากๆ นานๆจะเจอการแจกจ่ายความรู้ แบบเต็มๆอย่างนี้สักที ขอบคุณคุณ Paphmania และก๋งมากๆครับ จากคุณ : ST.Exsodus - [ 28 มี.ค. 51 19:47:17 ]

ความคิดเห็นที่ 44 มาไขข้อข้องไขก๋งอีกข้อนะครับ Dendrobium ejirii T.Yukawa (1997) เป็นชื่อที่ตั้ง ถูกต้อง ตามกฎ ICBN ครับ  จึงเป็นชื่อที่ใช้ได้ แต่ว่าเผอิญว่า ไม้ตัวนี้ก็คือตัวเดียวกับ เอื้องคำป๊อกลาว  Dendrobium braianense Gagnep. (1938) ครับ จึงถือเป็นชื่อซ้ำอีกชื่อหนึ่งครับ ดังนั้น เอื้องคำป๊อกลาว จึงมีชื่อที่ยอมรับคือ Accepted Name Dendrobium braianense Gagnep. (1938) และมีชื่อซ้ำดังนี้ครับ Synonym Dendrobium capillipes var.  elagans   Rchb.f. (1880) Dendrobium sukhakulii  Hort. Dendrobium ejirii T.Yukawa (1997) อีกประเด็นที่อาจจะต้องอธิบายก๋งคือ การตั้งชื่อพืชในโลกนี้แบ่งออกเป็นสองส่วนใหญ่ๆครับ คือ 1. พืชและกล้วยไม้ที่เกิด ขึ้น ตามธรรมชาติครับ รวมถึง Natural hybrids ด้วยครับ การตั้งชื่อจะขึ้นกับ กฎ ICBN  International Code of Botanical Nomenclature ครับ สำหรับวิธีการในการตั้งชื่อ เค้าเรียกว่าการบรรยายพรรณไม้ชนิดใหม่ครับ Description ไม่ใช่การจดทะเบียนครับ Register 2. พืชและกล้วยไม้ที่มนุษย์ ผสมและปรับปรุงพันธุ์ ขึ้นครับ นั้น จะขึ้นอยู่กับกฎ ICNCP The International Code of Nomenclature for Cultivated Plants ซึ่งจะต้องมีขั้นตอนในการตั้งชื่อ โดยต้องมีการจดทะเบียน Register ต่อ เจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบ ที่ IRA The International  Registration Authority of Orchid Hybrids ซึ่งอยู่ในสังกัดของ ราชพฤกษชาติสมาคมแห่งประเทศอังกฤษ ณ มหานครลอนดอน RHS Royal Horticultural Society, London สรุปก็คือ ไม้ที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ จะตั้งชื่อ ตามหลัก ICBN โดยการบรรยาย Description ลงในวราสารทางวิชาการทางพฤกษศาสตร์ ครับ ไม้ลูกผสมที่มนุษย์เพาะพันธุ์ขึ้น จะตั้งชื่อโดยยึดหลัก ICNCP โดยการจดทะเบียน Register ผ่านทาง IRA ซึ่งสังกัด RHS ของอังกฤษครับ แต่การจดทะเบียนของไม้ Man–made Hybrids ตามหลัก ICNCP นั้น ไม่ใช่การจดลิขสิทธิ์สายพันธุ์ หรือลิขสิทธิ์ใดๆในสารประกอบทางชีวภาพของกล้วยไม้ดังกล่าวครับ ถ้าอยากจะจดลิขสิทธิ์หรือทรัพย์สินทางปัญญา เกี่ยวกับพันธุ์กล้วยไม้ หรือสารประกอบ หรือการใช้ประโยชน์ของกล้วยไม้นั้น จำต้องไปจดทะเบียนตามกฎหมายลิขสิทธิ์และทรัพย์สินทางปัญญา ของแต่ละประเทศครับ และขณะผู้จดลิขสิทธิ์และทรัพย์สินทางปัญญารอการรับรอง ซึ่งจะมีระยะเวลาตามแต่ละประเทศกำหนดครับ คิดว่าประมาณ 6เดือน – 1ปีครับ  และลิขสิทธิ์หรือทรัพย์สินทางปัญญานี้ก็จะมีอายุแล้วแต่ชนิดของลิขสิทธิ์และแต่ละประเทศ ประมาณ10-50ปีมั้งครับ ความร็ด้านนี้ต้องรอนักกฎหมายมายืนยันนะครับ ผมเคยอ่านผ่านๆ จำไม่ได้แล้วครับ จากคุณ : Paphmania - [ 29 มี.ค. 51 00:39:14 ]

ความคิดเห็นที่ 45 ไม่ค่อยแน่ใจว่าก๋งห่วงเรื่องลิขสิทธิ์ หรือว่า ห่วงเรื่องการตั้งชื่อ วิทยาศาสตร์ โดยใช้ชื่อคน ไทย ฝรั่ง หรือ ญี่ปุ่น อะไรประมาณนี้หรือเปล่าครับ ถ้าเป็นประเด็นนี้เค้าก็จะมีหลักมารยาทของกฎต่างกันไปครับ สำหรับการตั้งชื่อลูกผสม Man–made Hybrids ตามหลัก ICNCP นั้น ส่วนใหญ่แล้วก็คืออยู่ในวงการการเพาะเลี้ยงและวงการค้า ซึ่งสามารถใช้ชื่อคนหรือชื่อทางการค้าได้อย่างไม่น่าเกียจ แต่สำหรับ ไม้ที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ จะตั้งชื่อ ตามหลัก ICBN นั้น จะมีหลักมารยาทอันดีที่ซับซ้อนกว่าครับ ซึ่งชื่อส่วนใหญ่ก็มาจาก 3 ส่วนครับ 1. ลักษณะของไม้ชนิดนั้น 2. สถานที่พบ 3. ชื่อคนเพื่อให้เกียรติ สำหรับการใช้ชื่อคนเพื่อให้เกียรติทางพฤกษศาสตร์ ก็จะมีหลักมารยาทอยู่คือ ควรจะเป็นนักพฤกษศาสตร์ ที่ทำคุณประโยชนืให้แก่วงการพฤกษศาสตร์ หรืออย่างน้อย ก็ควรจะเป็นนักวิทยาศาสตร์ในวงการ Natural Science  ครับ ไม่ใช่ว่านึกจะชื่อให้ใครก็ได้ อย่างเช่นตั้งชื่อญาติ ตั้งชื่อพ่อแม่ หรือตั้งชื่อเจ้านาย หรือคนที่มีอำนาจเหนือกว่าเพื่อหวังประจบ ซึ่งผิดหลักมารยาทอันดีของนักพฤกษศาสตร์ครับ ซึ่งสามารถเรียงลำดับความเหมาะสมในการตั้งชื่อวิทยาศาสตร์ให้เกียรติบุคคลได้ตามลำดับ จากสมควรมากไปหาไม่สมควรได้ดังนี้ 1. นักพฤกศาสตร์ที่ทำงานทางด้าน อนุกรมวิธานมาตลอดชีวิตและมีผลงานเป็นที่ยอมรับ 2. นักพฤกษศาสตร์ท้องถิ่นที่ทำงานภาคสนาม ซึ่งได้ค้นพบตัวอย่างพรรณไม้ใหม่ๆแต่ตนเองไม่มีคามเชี่ยวชาญพอที่จะบรรยายเอง แต่ได้นำตัวอย่างเก็บไว้ในหอพรรณไม้ และต่อมาในภายหลัง นักอนุกรมวิธานที่เชี่ยวชาญใยพืชสกุลนั้นได้มาศึกษาและตั้งชื่อตาม 3. นักวิทยาศาสตร์แนวธรรมชาติที่มีผลงานที่มีประโยชน์ต่อส่วนรวม อย่างเช่นนักอนุรักษ์เป้นต้น 4. นักเพาะเลี้ยง ซึ่งได้ค้นพบพรรณไม้ชนิดใหม่ในการเพาะเลี้ยง กลุ่มนี้อาจจะถือว่าเป็นสีเทา  สำหรับนักพฤกษศาสตร์ที่เคร่งครัด เพราะอาจจะเกี่ยวข้องกับตัวอย่างไม้ผิดกฎหมายครับ แต่ในโลกของความเป็นจริงมีการตั้งชื่อให้นักเพาะเลี้ยงทั่วโลกครับ เป้นชื่อที่ตั้งได้ครับ แต่ต้องระวังเรื่องกฎหมายด้วยครับ เพราะเคยมีการฟ้องร้องกันมาแล้วครับ 5. นักการเมือง หรือสาขาอาชีพที่ไม่ได้เคยทำประโยชน์ให้กับวงการพฤกษศาสตร์ หรือ Natural Science เป็นชื่อที่ไม่ควรตั้งครับ 6. ตั้งชื่อให้พ่อแม่พี่น้อง หรือตนเอง ถือว่าเป็นมารยาทที่ไม่ควรทำครับ เป็นชื่อที่ไม่ควรตั้งครับ จากคุณ : Paphmania - [ 29 มี.ค. 51 01:02:29 ]

ความคิดเห็นที่ 46 กำลังเขียนเรื่องลงใน Blog ของตัวเองเกี่ยวกับหวายลูกผสม Golden Aya ซึ่งจะต้องท้าวความโยงกลับไปหาไม้พันธุ์แท้ที่เกี่ยวข้องด้วยคือ ผาเวียง, คำป๊อก, คำป๊อกลาว และ Dendorbium aphrodite อยู่พอดี  ก็ได้จังหวะที่ก๋งมาตั้งกระทู้เกี่ยวกับเรื่องคำป๊อกและชื่อต่างๆ เช่น Dendrobium capillipes, ejirii, sukhakulii พอดีเลยครับ ขอพูดคุยประเด็นต่างๆ ในความคิดของผมละกันครับ ชื่อในท้องตลาด, ชื่อสามัญ, ชื่อ ชื่อเอื้องคำป๊อก, เอื้องมิ้น, เอื้องเฮี่ย ทั้ง 3 ชื่อนี้เป็นชื่อพื้นเมืองที่มีอยู่แล้ว ตามที่ ศ.เต็ม สมิตินันท์ บันทึกไว้ในหนังสือ ชื่อพรรณไม้แห่งประเทศ (ชื่อพฤกษศาสตร์ - ชื่อพื้นเมือง), 2523 ซึ่งกล้วยไม้ที่มีชื่อพื้นเมืองที่ว่ามานี้ต่างพบในแถบภาคเหนือฝั่งตะวันตก, ภาคเหนือตอนกลาง (หรือใครจะเรียกว่าล้านนาตะวันตก, ล้านนาตอนกลางก็แล้วแต่) ตลอดจนภาคตะวันตกของไทยเรา ส่วนชื่อเอื้องคำป๊อกลาว ถ้าจะว่าไปก็คงถือเป็นชื่อในท้องตลาด จะมาจากแม่ค้าเรียกหรือคนซื้อเรียกหรือฟาร์มกล้วยไม้เรียกก็แล้วแต่จะคิดกันไปเพราะถ้าให้หาหลักฐานที่เป็นลายลักษณ์อักษรคงไม่มีมาแสดงน่ะครับ แต่ถ้าให้เดาในความคิดของผม ชื่อนี้น่าจะเกิดจากแม่ค้า เพื่อสื่อให้ผู้ซื้อรู้ว่า กล้วยไม้ที่หน้าตาคล้ายเอื้องคำป๊อกทางภาคเหนือของไทยชนิดนี้น่ะ ไม่ได้มาจากป่าภาคเหนือนะ แต่ข้ามมาจากประเทศลาว (จะด้วยวิธีการใดก็แล้วแต่) ผมคิดว่าคำว่า "ลาว" ที่ขยายอยู่ท้ายชื่อ "เอื้องคำป๊อกลาว" ไม่ได้มีนัยใดๆ ในด้านประวัติศาสตร์, ชาติพันธุ์วิทยา, ชาตินิยมแบบล้าหลังคลั่งชาติอะไรเลยแม้แต่น้อย นอกจากมีนัยด้านภูมิศาสตร์แหล่งกำเนิดเท่านั้น  ไม่ต่างจากคำว่าสายหลวงลาวที่ทำให้เรารู้ว่าเป็น Dendrobium anosmumi] ที่พบทางฝั่งซ้ายของแม่น้ำโขงในประเทศลาว ซึ่งมีหน้าตาต่างจากสายหลวงใต้ ที่เป็น Dendrobium anosmum เช่นกันแต่พบในภาคใต้ของประเทศไทย ถ้าจะเทียบเคียง ก็อาจจะเหมือนที่ฝรั่งเรียกแมววิเชียรมาศ/แมวโคราชของไทยว่า Siamese Cat (ส่วนจะไปแตกประเภทยิบย่อยเป็น Blue point, Seal Point, Chocolate Point อะไรนั่นก็อีกเรื่อง) หรือแมวขาวมณีของพม่าว่า Burmese Cat ทั้งที่แมวเหล่านี้ก็เป็นชนิดพันธุ์เดียวกันในทางวิทยาศาสตร์ แต่คำขยาย Siamese, Burmese, Egptian อะไรต่อมิะไรก็เป็นแค่การระบุถึงแหล่งกำเนิดและความพิเศษที่ทำให้ต่างจากแมวที่พบในประเทศอื่น ถ้าชื่อที่มีนัยเชิงชาตินิยม ก็คำว่า "ไทย" ที่เราเรียกต่อท้าย "กล้วยไม้" กลายเป็น  "กล้วยไม้ไทย" นี่แหละครับ แต่ไม่ได้เหมารวมในทุกกรณีนะครับ ตัวอย่างที่เห็นชัดก็เช่น ลูกผสมซิมบิเดี้ยมดอกโตๆ ที่ฝรั่งผสมขึ้น ซึ่งมีเชื้อสายของ Cymbidium insigne (เอื้องสำเภางาม) ซึ่งพบที่ภูหลวงของไทยเราด้วย เราก็สรุปเอาทันทีว่าฝรั่งเอากล้วยไม้ของเราไปพัฒนาใช้ประโยชน์ ซึ่งอันที่จริงแล้วไม่ใช่ เพราะ Cymbidium insigne พบครั้งแรกที่เวียดนามก่อนไทยร่วม 100 ปี ตอนที่มาเจอสำเภางามในบ้านเรา ลูกผสมซิมบิเดี้ยมก็พัฒนาไปถึงไหนต่อไหนแล้ว แต่ถ้ากล่าวว่าฝรั่งเอากำเบ้อ (Cymbidium tracyanum) จากภาคเหนือของไทยเราไปใช้ประโยชน์ อันนี้กล่าวได้เต็มปาก รายละเอียดซิมบิเดี้ยมให้พี่สำเภางามอธิบายเพิ่มแล้วกันครับ 5555 หรืออีกกรณีหนึ่งคือ หวายลูกผสมในกลุ่มโนบิเล่ (Nobile-typed Hybrids หรือ Soft cane hybrids) ซึ่งส่วนมากผสมมาจากหวาย 4 ชนิดหลักๆ ใน Section Dendrobium ได้แก่ Dendrobium nobile (หรือชื่อพื้นเมืองคือเอื้องเก๊ากิ่ว), พวงหยก, สีตาล และ คำกิ่ว (signatum) + 1 ชนิดเสริมคือ Dendrobium moniliforme หวาย 4 ชนิดแรกพบในไทยเรา แต่ขณะเดียวกันก็พบในประเทศอื่นๆ ด้วย  ถ้าจะกล่าวอ้างว่าฝรั่งเอากล้วยไม้ของเราไปใช้ประโยชน์อาจกล่าวได้ค่อนข้างเต็มปากในกรณีของคำกิ่ว (signatum) หรืออาจรวมถึงพวงหยก (findlayanum)  แต่กรณีของสีตาลนี่เรา (หรือผมนั่นแหละ) ไม่รู้ว่าฝรั่งแต่ก่อนใช้สีตาลจากแหล่งไหนในการผสม  เพราะพบตั้งแต่ศรีลังกาจนถึงฟิลิปปินส์ (ไม่สนใจว่าจะใช้ชื่อ aureum, heterocarpum, rhombeum) และสีตาลในแต่ละที่ก็มีลักษณะที่ไม่เหมือนกัน ยิ่งเก๊ากิ่ว (nobile) ด้วยแล้ว ซึ่งพบต้งแต่อินเดีย พม่า จีน เวียดนาม และมีบ้างในไทยนั้น โดยส่วนตัวผมไม่เชื่อว่าฝรั่งอังกฤษใช้เก๊ากิ่วจากป่าไทยในการผสม เพราะต้นที่พบในอินเดีย, หิมาลัย ดอกใหญ่ สีเข้มสวยกว่าของบ้านเรามาก  nobile variety ต่างๆ ที่ตีพิมพ์ในหนังสือกล้วยไม้ยุค 100 ปีก่อนอย่างเช่น Lindenia เชื่อว่าไม่ได้มาจากป่าไทยแน่นอน และการขนทรัพยากรจากอินเดียซึ่งเป็นอาณานิคมอยู่ในขณะนั้นกลับไปประเทศแม่ น่าจะเป็นเรื่องง่ายกว่าขนออกไปจากบ้านเรา สำหรับการตั้งชื่อวิทยาศาสตร์ให้กับกล้วยไม้ชนิดใหม่ โดยส่วนตัวแล้วผมเฉยๆ มากไม่ว่าฝรั่งหรือคนไทยจะตั้งชื่อ จะเอาไปตั้งชื่อเป็นเกียรติแก่ใครก็แล้วแต่เขา (สิ่งสมมติทั้งนั้น) ขอให้ตั้งมาแล้วชัดเจน, ถูกต้อง ไม่ต้องมาแก้ไข ยกเลิก ยุบ ย้ายกันทีหลังให้ปวดหัว (ขี้เกียจนั่งจำใหม่ครับ) แก้ไขเมื่อ 29 มี.ค. 51 04:31:42 จากคุณ : Magnificum - [ 29 มี.ค. 51 03:49:48 ]

ความคิดเห็นที่ 47 นอกเรื่องไปไกลมาก กลับมาที่เรื่องเอื้องคำป๊อกต่อนะครับ คราวนี้เรายังไม่สนใจเรื่องชื่อวิทยาศาสตร์แต่เรามาดูประวัติของกล้วยไม้ที่ก๋งสงสัยกัน  โดยขอเรียกรวมๆ ว่าเอื้องคำป๊อกไปก่อนละกันครับ - ราวปี 1867 ซึ่งตอนนั้นพม่าตกเป็นอาณานิคมของอังกฤษเรียบร้อยแล้ว Charles Parish อนุศาสนาจารย์ประจำกองทัพอังกฤษซึ่งประจำอยู่ที่เมืองมะละแหม่ง ( (Mawlamyine or Mawlamyaing, formerly Moulmein or Maulmain) รัฐมอญ ประเทศพม่า ได้คำป๊อกครั้งแรกมาจากภูเขาทางตอนเหนือของเมือง Thayetmyo ริมฝั่งแม่น้ำสะโตง ต่อมาก็พบแถบเมือง Yanzalin (อยู่ตรงไหนของพม่าหาไม่เจอเหมือนกันครับ)  และใกล้เมือง Taok (ไม่ทราบว่าชื่อเมืองอะไร) ซึ่งอยู่ใกล้กับชายแดนสยามด้านจังหวัดตาก - ต่อมาราวปี 1890 Sir H. Collet พบคำป๊อกที่มีดอกใหญ่*** จากภูเขาในเขตรัฐฉาน ที่ระดับความสูงราว 3000 ฟุต (ประมาณ 1000 ม.) แต่พิกัดที่แน่นอนว่าตรงไหนของรัฐฉานอันนี้ไม่ทราบเหมือนกันครับ - ปี 1898  M.E.Finet ตีพิมพ์ในวารสาร Bulletin de la Societe botanique de France ว่า Prince Henri d'Orleans พบคำป๊อกที่บริเวณเมือง Szemao (ซือเหมา?) มณฑลยูนนานทางตอนใต้ของจีนเมื่อวันที่ 8 เมษายน 1892 หมายเหตุ: Szemao or Simao is the former name of Pu'er It is a city in the Yunnan province of southwest China. It is near the border with Vietnam, Laos, and Myanmar (Burma). The urban administrative center of Pu'er is Simao District, which is also the former name of the city itself. - Parry พบคำป๊อกที่ภูเขา Lushai (ปัจจุบันคือ Mizo Hills) ที่กั้นระหว่างชายแดนอินเดียกับพม่า ในรัฐไมซอรัม (Mizoram) เดาว่าอย่างน้อยต้องพบก่อนปี 1890 เพราะว่ามีการกล่าวถึงในหนังสือ The Flora of British India ตีพิมพ์ปี 1890 ของ Sir Joseph Dalton Hooker - Tixier พบคำป๊อกจากเชียงขวางในประเทศลาว - Eugene Poilane พบคำป๊อก***จากภูเขา Braian (Massif du Braian) ในเขตที่ราบสูง Di Linh (Di Linh Plateau) ในเวียดนามใต้ - ในหนังสือ 'คู่มือภาคสนามต้นดอกผึ้งธรรมชาติที่อยู่ใน ส.ป.ป.ลาว' (Field Guide The Wild Orchids of Lao P.D.R.) (ขอถอดชื่อเป็นตัวสะกดตามภาษาไทยละกันครับ)  ของมหาวิทยาลัยแห่งชาติ ส.ป.ป.ลาว ปี 2005 ให้ข้อมูลไว้ว่า พบคำป๊อกตั้งแต่ภาคเหนือจนถึงภาคใต้ของลาว (น่าจะครบทุกแขวง ตั้งแต่พงสาลี, หลวงน้ำทา,อุดมไชย, ภูเขาควาย, นครหลวงเวียงจันท์, บริคำไชย, น้ำเทิม, คำม่วน, สะหวันเขต, จำปาสัก) - ส่วนในประเทศไทยเอง พื้นที่ที่มีรายงานคำป๊อกก็เช่น เชียงดาว, บ่อหลวง, ดอยสุเทพ, ดอยอินทนน์แม่สะเรียง, แม่แจ่ม, ขุนตาล, ป่าแป๋, น่าน***, ภูพาน, ศรีสวัสดิ์ (กาญจนบุรี) และอีกแหล่งที่ดูค่อนข้างประหลาดกว่าใครเพื่อนก็คือ เขาช่อง จ.ตรัง - ปี 2538 (1995) คุณประสงค์ สุขกุล ส่งตัวอย่างกล้วยไม้หน้าตาคล้ายคำป๊อกให้กับ Prof.Seidenfaden จำแนกชนิด หลังจากนั้นคุณชนินทร์ โถรัตน์ ช่วยตามหาแหล่งที่มาให้จนทราบว่าแม่ค้าที่เก็บมาขาย เก็บมาจาก อำเภอปัว จ.น่าน  ต่อมาก็มีรายงานว่ากล้วยไม้หน้าตาคล้ายเอื้องคำป๊อกนี้มีขายที่ตลาดช่องเม็ก จากคุณ : Magnificum - [ 29 มี.ค. 51 03:55:30 ]

ความคิดเห็นที่ 48 ดูแผนที่ประเทศพม่าคั่นเวลาละกันครับ วงสีแดงคือเมือง Thayetmyo กับ มะละแหม่ง  ส่วนเมือง Taok จะอยู่ระดับเดียวกับแถบอำเภอพบพระ หรือไม่ก็อุ้มผาง หรือตรงไหนสักแห่งแถวจังหวัดตากมั้งครับ  ตรงที่แผ่นดินพม่ายื่นเข้ามาในแผ่นดินไทยน่ะครับ จากคุณ : Magnificum - [ 29 มี.ค. 51 03:58:42 ]

ความคิดเห็นที่ 49 ต่อมาเราจะมาดูเรื่องชื่อกันนะครับ - คำป๊อกของ Charles Parish ได้รับการตั้งชื่อโดย Reichenbach ว่า Dendrobium capillipes เมื่อปี  1867 ลงตีพิมพ์ในหนังสือ (หรือหนังสือพิมพ์ข่าวสารการเกษตรสมัยนั้นก็น่าจะว่าได้) The Gardener's Chronicle ตัวอย่างต้นแบบนี้เก็บรักษาอยู่ที่หอพรรณไม้ สวนพฤกศาสตร์คิว ประเทศอังกฤษ  จากนั้นก็ได้มีการตีพิมพ์ในหนังสือ Xenia Orchidacea โดย Reichenbach อีกในปี 1874 - ในปี 1880 Reichenbach ตีพิมพ์ชื่อคำป๊อกที่มีลักษณะต่างไปจากเดิม ใน The Gardener's Chronicle เหมือนเคย โดยจัดให้เป็น variety หนึ่ง โดยตั้งชื่อว่า Dendrobium capillipes var.elegans โดยบอกว่ามีลำต้นยาว 5-6 นิ้ว (อ้างจาก Annals of Tsukuba Botanical Garden 1997) และด้านโคนของกลีบปากเป็นสีส้มเข้ม (อ้างจาก Curtis's Botanical  Magazine 1899) ปัจจุบัน Holotype ของ Dendrobium capillipes var.elegans เก็บรักษาอยู่ที่หอพรรณไม้กรุงเวียนนา Dendrobium capillipes Rchb.f. จาก Xenia Orchidaceaม 1874 (ดูที่ตำแหน่ง 2 นาฬิกา) จากคุณ : Magnificum - [ 29 มี.ค. 51 04:03:17 ]

ความคิดเห็นที่ 50 - ในปี 1899 Sir Joseph Dalton Hooker ได้ลงเรื่องและภาพวาดของ Den.capillipes ในวารสาร Curtis's Botanical Magazine และยังได้กล่าวถึง Dendrobium capillipes var.elegans (แต่ไม่ได้บอกว่าเป็น var.elegans) ต่อมาในปี 1938 Gagnepain กล่าวว่า Den.capillipes ของ Sir Joseph Dalton Hooker (1899) ไม่ใช่ capillipes ที่แท้จริง จากการเปรียบเทียบตัวอย่าง capillipes ที่เก็บไว้ในหอพรรณไม้กรุงปารีส และรูปวาดของ M.E.Finet - ปี 1938 เช่นกัน Gagnepain ยังได้ตั้งชื่อกล้วยไม้ชนิดใหม่ซึ่ง Eugene Poilane เก็บมาจากภูเขา Braian (Massif du Braian) ในเขตที่ราบสูง Di Linh (Di Linh Plateau) ทางตอนใต้ของเวียดนามว่า Dendrobium braianense และอธิบายลักษณะต่างๆ ที่มันแตกต่างจาก capillipes ของ Hooker (1899) ปัจจุบันเก็บรักษาตัวอย่างไว้ที่หอพรรณไม้กรุงปารีส - ปี 1985 Seidenfaden ตีพิมพ์หนังสือ Orchid Genera in Thailand XII : Dendrobium จัดให้ Dendrobium braianense เป็นชื่อพ้องของ capillipes รูปของ Dendrobium capillipes ขอ Sir Joseph Dalton Hooker ใน Curtis's Botanical Magazine, 1899 จากคุณ : Magnificum - [ 29 มี.ค. 51 04:09:10 ]

ความคิดเห็นที่ 51 - ปี 1995 คุณประสงค์ สุขกุลได้กล้วยไม้ชนิดหนึ่งมาจากแม่ค้าซึ่งเก็บมาจากอำเภอปัว จังหวัดน่าน และส่งให้ Seidenfaden จำแนกชนิด และขอไว้ว่าหากกล้วยไม้ชนิดนี้เป็นกล้วยไม้ชนิดใหม่จริง ขอให้ตั้งชื่อว่า Dendrobium sukhakulii ซึ่งทางไซเดนเองหลังจากศึกษาแล้วก็ไม่สามารถให้ข้อสรุปได้ เพราะถึงแม้ลำต้นจะยาวกว่า ดอกใหญ่กว่า จำนวนดอกในช่อมากกว่าคำป๊อก capillipes แต่ดอกนั้นเหมือนกันจนแยกไม่ออก ไซเดนเองจึงเขียนชื่อกล้วยไม้ชนิดนี้ไว้ใน Contributions to Orchid Genera in Thailand XIII เพียงว่า Dendrobium sukhakulii Hort. (Hortorum = of Garden) พร้อมกับได้ระบุต้นที่ใช้ในการตรวจสอบไว้ แต่ไม่มีการบรรยายเป็นภาษาละตินแต่อย่างใด รูปของ Dendrobium sukhakullii Hort. จาก Contributions to Orchid Genera in Thailand XIII, 1997 จากคุณ : Magnificum - [ 29 มี.ค. 51 04:13:14 ]

ความคิดเห็นที่ 52 - ปี 1997 Tomohisa Yukawa บรรยายชื่อกล้วยไม้ชนิดใหม่ซึ่งมีหน้าตาคล้ายคำป๊อก capillipes แต่ว่ามีลำต้นยาวกว่า ดอกมากกว่า ดอกใหญ่กว่า และไม่ทิ้งใบตอนออกดอกว่า Dendrobium ejirii เพื่อเป็นเกียรติแก่ Koichi Ejiri นักกล้วยไม้ชาวญี่ปุ่น โดยตีพิมพ์ในวารสาร Annals of Tsukuba Botanical Garden  โดยได้มีการกล่าวถึง Dendrobium capillipes var.elegans พร้อมกับลงรูปตัวอย่างดอกของ capillipes var.elegans ที่เก็บรักษาอยู่ในหอพรรณไม้กรุงเวียนนาไว้ด้วย รูปของ [i]Dendrobium ejirii[i] Yukawa, Annals of Tsukuba Botanical Garden, 1997 จากคุณ : Magnificum - [ 29 มี.ค. 51 04:17:16 ]

ความคิดเห็นที่ 53 - ปี 2005 Leonid Averyanov ตีพิมพ์ในวารสาร Turczaninowia, RARE SPECIES OF ORCHIDS (ORCHIDACEAE) IN THE FLORA OF VIETNAM ยอมรับว่า braianense ต่างจาก capillipes แต่จัดให้เป็นแค่ variety เท่านั้น โดยเรียกว่า Dendrobium capillipes var.braianense - ราวปี 2002-2004 (จำไม่ได้แน่นอนครับ) ตอนที่เว็บของสวนพฤกษศาสตร์Kew เริ่มทำ World Orchid Checklist ซึ่งตอนนั้นยังเป็นแค่ฉบับร่างยังไม่เสร็จสมบูรณ์ (ในเว็บยังเป็นไฟล์ pdf ให้ดาวน์โหลดไปอ่านเล่น)  ทางสวนคิวยังจัดให้ braianense เป็นแค่ชื่อพ้องของ capillipes เท่านั้น  ต่อมาหลังจากชำระสะสาง World Orchid Checklist เสร็จ (ปีไหนไม่รู้ 2005-2006 น่าจะได้) คราวนี้ Govaert แห่งสวนคิวได้ยอมรับว่า braianense เป็นคนละชนิดกับ capillipes จากคุณ : Magnificum - [ 29 มี.ค. 51 04:22:58 ]

ความคิดเห็นที่ 54 คราวนี้มาถึงเรื่องชื่อสามัญ + ชื่อพฤกษศาสตร์ เมื่อยึดตามการจัดจำแนกของสวน Kew เราจะมีกล้วยไม้ 2 ชนิดด้วยกันคือ 1  Dendrobium capillipes Rchb.f., Gard. Chron. 1867: 997 (1867) ชื่อพ้อง: Dendrobium acrobaticum Rchb.f., Gard. Chron. 1871: 802 (1871). Callista acrobatica (Rchb.f.) Kuntze, Revis. Gen. Pl. 2: 654 (1891) Callista capillipes (Rchb.f.) Kuntze, Revis. Gen. Pl. 2: 654 (1891) คำป๊อก (หรือเอื้องมิ้น, เอื้องเฮี่ย) ที่มีต้นเล็กจิ๋ว ใหญ่เต็มที่ก็ไม่เกินหัวแม่โป้งผู้ใหญ่ (ส่วนมากเล็กกว่า) ปกติทิ้งใบตอนออกดอก ใบบางพอๆ กับใบของผาเวียง สีเขียวอ่อนคล้ายสีใบผาเวียง ถึงจะเอามาเลี้ยงในที่ปลูกเลี้ยงก็ทิ้งใบหมดหรือเกือบหมดอยู่ดี  ถ้าในเมืองไทยเราก็คือพวกที่มาจากทางเชียงใหม่ ตาก กาญจนบุรี  กลีบปากบางต้นก็เห็นขีดเรื่อแดง 2. Dendrobium braianense Gagnep., Bull. Mus. Natl. Hist. Nat., II, 10: 436 (1938) ชื่อพ้อง : Dendrobium ejirii T.Yukawa, Ann. Tsukuba Bot. Gard. 16: 25 (1997) [/i]Dendrobium capillipes[/i] var.elegans Rchb.f., Gard.Chron. 1880 Dendrobium capillipes Rchb.f var. braianense Averyanov, Turczaninowia 2005 ------------------------------------------------------------------------------ Dendrobium sukhakulii Hort.  (Seidenfaden in Contributions to Orchid Genera in Thailand XIII, 1995) คำป๊อกลาว (หรือถ้าไม่อยากให้มีชื่อประเทศ จะเรียกคำป๊อกใหญ่ก็น่าจะได้ ด้วยต้นและดอกที่มีขนาดใหญ่กว่า แต่ชื่อคำป๊อกลาวก็ถือว่าแพร่หลายในระดับนึง) ลำต้นใหญ่กว่า ยาวกว่าคำป๊อก  มีทั้งแบบลำอวบอ้วน (คล้ายเอื้องผาเวียง Dendrobium albosanguineum) และลำผอมยาว ใบสีเขียวเข้มกว่าคำป๊อก เนื้อใบหนากว่า และลำที่ออกดอกยังคงมีใบติดอยู่ (ทั้งจากไม้ที่นำมาขายในท้องตลาด หรือที่มีบรรยายไว้ในคำบรรยายของ Den.ejirii) ดอกในช่อดกกว่า ช่อดอกยาวกว่า (คำป๊อก ดอกอย่างมากสุดเท่าที่เคยเห็นคือ 5 ดอก แต่คำป๊อกลาวเคยพบมากที่สุด 12 ดอก)  ส่วนเรื่องขีดแดงที่โคนปาก ก็มีทั้งต้นที่มีและไม่มี สีของดอกก็มีทั้งเหลือง เหลืองเข้ม ปากบางต้นสีส้มเข้ม  ไม้ที่ขายกันในท้องตลาด เท่าที่สอบถามล้วนเป็นไม้ Import ถ้าจะว่าไปลักษณะที่แยกคำป๊อกกับคำป๊อกลาวได้ง่ายสุดคือดูขนาดต้น, ขนาดดอก, จำนวนดอกในช่อ    ดูแต่ดอกอย่างเดียว (โดยไม่รู้ขนาดเปรียบเทียบ) แยกไม่ออกเหมือนกันครับ เพราะถ้าจะเอาเรื่องทรงดอก ขนาดกลีบปาก การรวบที่โคบกลีบปากมาแยก  ผมว่ามันก็คล้ายกันมากๆ กรณีของการแยก capillipes กับ braianense เป็นคนละชนิดโดยที่ต้นต่างกันแต่ดอกคล้ายกันมากจนแยกแทบไม่ออก นี่ทำให้นึกถึงกรณีของสายน้ำผึ้ง (primulinum เดิม) กับสายน้ำนม (cretaceum) ที่ปัจจุบัน Kew ถือว่าเป็นชนิดเดียวกันและใช้ชื่อที่ถูกต้องคือ Dendrobium polyanthum แทน  ทั้งที่เรื่องลำต้นก็ต่างกันชัดเจน, ดอกก็ต่างกันชัดเจน, กลิ่นก็ต่างกันชัดเจน (หอมคนละแบบ) เลยไม่เข้าใจนักพฤกษศาสตร์เหมือนกันครับ (ทั้งหมดที่เขียนมานี้เป็นมุมมองของคนปลูกเลี้ยงกล้วยไม้คนนึงเท่านั้น) แก้ไขเมื่อ 29 มี.ค. 51 04:29:37 จากคุณ : Magnificum - [ 29 มี.ค. 51 04:28:26 ]

ความคิดเห็นที่ 55 ต่อไปจะขอพูดถึงหวายลูกผสมที่ชื่อ Golden Aya แต่ขออธิบายเรื่องการจดชื่อลูกผสมก่อนนะครับ (ถูกหรือผิดไม่ยืนยัน ไม่มีหลักฐานประกอบ ไม่ได้อ่านกฎระเบียบของ RHS  อธิบายตามความเข้าใจของตัวเอง) ยกตัวอย่างลูกผสมสีตาล-โนบิเล่ละกันครับ ปัจจุบันลูกผสมระหว่างเอื้องสีตาลกับโนบิเล่ ให้ใช้ชื่อ Ainsworthii เพียงชื่อเดียวเท่านั้น heterocarpum x nobile = Ainsworthii เนื่องจากสีตาลมีชื่อพ้องคือ aureum ด้วย ดังนั้นในสมัยก่อนจึงอาจมีคนจดชื่อลูกผสมระหว่าง aureum x nobile โดยตั้งชื่อลูกที่ได้ว่า XYZ (สมมติ) แต่เนื่องจากเดี๋ยวนี้ RHS ถือว่าสีตาลมีชื่อวิทย์ว่า heterocarpum เท่านั้น ดังนั้นลูกผสมที่จดโดยใช้ชื่อ aureum ทั้งหลายก็จะกลายเป็นชื่อพ้องไป  XYZ จึงกลายเป็นชื่อพ้องของ Ainsworthii ไป ถ้าไปค้นในเว็บ RHS ลูกผสมระหว่าง heterocarpum x nobile มีไม่รู้กี่ชื่อ ทั้ง Leechianum, Albense, etc. เพราะแต่ก่อนคนที่จะเลี้ยงกล้วยไม้ได้มีแต่คนรวยที่มีปัญญาสร้าง greenhouse ได้เท่านั้น เวลาได้ลูกผสมใหม่ จึงอยากตั้งชื่อตัวเองเพื่อเป็นเกียรติ (ฉันก็มีปัญญาทำได้ ทำไมฉันจะต้องใช้ชื่อตามคนอื่นด้วย) ตัวโนบิเล่กับสีตาลเองก็มีความแปรผัน (เช่น โนบิเล่เผือก, โนบิเล่สีชมพูอ่อน, สีชมพูเข้ม, ตาใหญ่, ตาเล็ก) เมื่อใช้ต้นพ่อแม่ที่ต่างไปจากต้นที่มีคนเคยใช้ ลูกผสมที่ออกมาจึงอาจมีหน้าตาต่างไปจากที่มีคนเคยทำไว้ แถมแต่ก่อนกฎระเบียบอาจจะยังไม่ชัดเจน ทำให้เกิดปัญหาชื่อเฟ้อ  ไม่เหมือนปัจจุบันที่ยึดหลักจดก่อนได้ก่อน คนอื่นต้องใช้ตามห้ามแย้ง แต่ที่ RHS ยังเก็บชื่อพ้องเหล่านี้ไว้ในระบบ ก็เพื่อไว้เป็นข้อมูลอ้างอิง  เหมือนเป็นข้อมูลประวัติศาสตร์  ตอนนี้ถ้าเราจะเอา Leechianum ไปผสมต่อ ก็ถือว่าเหมือนกับผสมโดยใช้ Ainsworthii อยู่ดี (เหมือนกับเป็นโมฆะไปโดยปริยาย) และ RHS ไม่สนใจว่าจะใช้ variety ไหนมาผสม จะใช้สีตาล x โนบิเล่เผือก หรือ สีตาล x โนบิเล่ชมพู หรือจะสลับพ่อแม่ ลูกที่ได้ก็ต้องใช้ชื่อ Ainsworthii ทั้งสิ้น แต่ในแบบฟอร์มยื่นจดทะเบียน เราจะแจ้งชื่อ variety ที่เราใช้ในการผสมไปด้วยก็ได้ เผื่อว่าวันนึงข้างหน้า variety นั้นได้รับการยกฐานะเป็น species จะได้ไม่มีใครมาแย่งชื่อลูกผสมเราได้ จากคุณ : Magnificum - [ 29 มี.ค. 51 04:38:24 ]

ความคิดเห็นที่ 56 กลับมาที่เรื่อง Golden Aya Golden Aya เป็นลูกผสมจดทะเบียนเมื่อปี 1982 โดย Toku Nagasaka โดยจดกับ RHS ไว้ว่าเป็นลูกผสมระหว่าง Dendrobium aphrodite กับ Dendrobium capillipes แต่ปัญหาเกิดขึ้นก็คือ Golden Aya เป็นลูกผสมระหว่างกล้วยไม้ 2 ชนิดที่กล่าวมาตามที่ Nagasaka แจ้งไว้จริงหรือไม่  เพราะใครๆ เห็นดอกที่มีสีเหลืองคล้ายคำป๊อก แถมมีตาดำเหมือนผาเวียง ก็ชวนให้สรุปหรือตั้งธงได้ว่า Golden Aya คงเป็นลูกผสมคำป๊อก-ผาเวียง นั่นแหละ (ผมก็คิดครับ) ซึ่งถ้าไม่ได้ไปตรวจสอบกับทะเบียน RHS ก็จะไม่รู้เลยว่า ที่จดทะเบียนไว้เนี่ย มันไม่ได้เกี่ยวข้องกับผาเวียงแม้แต่น้อย เรื่องนี้มี 3 ประเด็นด้วยกันคือ 1)  Golden Aya เป็นลูกผสมระหว่าง aphrodite x capillipes ตามที่ Nagasaka แจ้งไว้กับ RHS จริงหรือไม่ ? 2) หรือจริงๆ แล้ว Golden Aya เป็นลูกผสมระหว่างผาเวียง x คำป๊อก (albosanguineum x capillipes) ? ซึ่งถ้าเป็นคู่ผสมนี้ ไม่เคยมีใครจดทะเบียนไว้กับ RHS 3) คำป๊อกที่ Nagasaka ใช้ มันเป็น capillipes (คำป๊อก) หรือ braianense (คำป๊อกลาว) ? ซึ่งถ้าใช้คำป๊อกลาว albosanguineum x braianense ก็ไม่เคยมีใครจดชื่อกับ RHS อยู่ดี จากคุณ : Magnificum - [ 29 มี.ค. 51 04:42:17 ]

ความคิดเห็นที่ 57 ประเด็น 1 Golden Aya เป็นลูกผสมระหว่าง aphrodite x capillipes ตามที่ Nagasaka แจ้งไว้กับ RHS จริงหรือไม่? -- โดยส่วนตัวเชื่อว่า Golden Aya ไม่มีเชื้อสาย aphrodite (ดูจากลำต้น หน้าตาแล้ว ดูยังไงก็ไม่ได้มีส่วนสัมพันธ์กันเลย)   และ aphrodite เป็นไม้ที่พบเฉพาะในพม่า และน่าจะมีอยู่ในที่ปลูกเลี้ยงน้อยมากและไม่แพร่หลายเมื่อเทียบกับหวายชนิดอื่นๆ  เป็นไปได้ว่าผู้ผสมหรือผู้ยื่นจดชื่อ อาจเกิดความสับสนในเรื่องชื่อ เพราะมีหนังสืออย่างน้อย 2-3 เล่มที่ลงรูปผาเวียง แต่เขียนชื่อกำกับไว้ว่า aphrodite รูปของ Dendrobium nodatum ใน Curtis's Botanical Magazine (เป็นชื่อพ้องของ Dendrobium aphrodite ครับ) จากคุณ : Magnificum - [ 29 มี.ค. 51 04:45:38 ]

ความคิดเห็นที่ 58 ประเด็น 2 หรือจริงๆ แล้ว Golden Aya เป็นลูกผสมระหว่างผาเวียง x คำป๊อก (albosanguineum x capillipes)  ซึ่งถ้าเป็นคู่ผสมนี้ ไม่เคยมีใครจดทะเบียนไว้กับ RHS ??? --มีผู้คิดว่าคำป๊อกลาวก็คือตัวเดียวกันกับ Golden Aya หรือไม่ก็คำป๊อกลาวเป็นลูกผสมระหว่างผาเวียงกับคำป๊อก โดยส่วนตัวแล้วผมเชื่อว่า Golden Aya กับคำป๊อกลาว (braianense) ไม่ใช่ไม้ตัวเดียวกัน สีเหลืองของ Golden Aya เป็นสีเหลืองที่เจือด้วยสีขาว ต่างจากเหลืองของคำป๊อกลาว และเนื้อกลีบก็ไม่เหมือนกัน รูป Dendrobium Golden Aya จากคุณ : Magnificum - [ 29 มี.ค. 51 04:48:54 ]

ความคิดเห็นที่ 59 หมายเหตุ เรื่องสีที่พูดถึง อ้างอิงจากสีของดอกจริงๆ นะครับ ไม่ใช่สีในรูปจากเว็บ Dendrobium Golden Aya อีกรูปหนึ่ง รูปนี้ให้ความรู้สึกถึงผาเวียง (albosanguineum) ยังไงไม่รู้ จากคุณ : Magnificum - [ 29 มี.ค. 51 04:51:29 ]

ความคิดเห็นที่ 60 บางคนอาจบอกว่ามันอาจเป็นลูกผสมตามธรรมชาติจริงๆ ก็ได้  แต่ถ้าเป็นเช่นนี้จริง คำป๊อกลาวที่มีขาย ควรจะมีมาจากพม่าและภาคเหนือฝั่งตะวันตกหรือภาคตะวันตกบ้าง ไม่ใช่มีแต่ข้ามมาจากลาว (ลาวเหนือ/ลาวใต้) ถ้าดูตามแหล่งกำเนิดของผาเวียง (albosanguineum) ซึ่งปกติมีรายงานการพบเฉพาะในบริเวณรอยต่อระหว่างพม่าและไทยเท่านั้น  ถึงแม้ในหนังสือ  'คู่มือภาคสนามต้นดอกผึ้งธรรมชาติที่อยู่ใน ส.ป.ป.ลาว' (Field Guide The Wild Orchids of Lao P.D.R.) ปี 2005  จะเขียนว่าผาเวียงพบในลาวด้วย ในแขวงหลวงน้ำทา, อุดมไชย, ภูเขาควาย, นครเวียงจันท์, บริคำไชย, น้ำเทิน, คำม่วน, จำปาสัก แต่รายละเอียดที่ลงไว้ว่า ลำลูกกล้วยสีน้ำตาลเข้ม มีดอกในช่อ 5-10 ดอก (รูปที่ลงประกอบนำมาจากหนังสือไทยอีกทีหนึ่ง ไม่ใช่รูปของต้นจริงที่พบในประเทศลาว) ทำให้ผมเชื่อว่าผาเวียงที่หนังสือเล่มนี้กล่าวถึง น่าจะเป็น braianense  มากกว่า (ผาเวียงจริงๆ ลำต้นสีเขียว/เขียวอ่อน หรือถ้าเป็นเหลืองก็ยังเป็นเหลืองที่เจือด้วยเขียว แต่สีลำต้นนี่พูดยาก เพราะผาเวียงที่ต้นเหลืองๆ ก็มีถมเถ  แต่จำนวนดอกในช่อ 5-10 ดอกนี่เกินหน้าผาเวียงไปมาก)และสมมติถ้ามีผาเวียงในลาวจริงๆ ผมเชื่อว่าน่าจะพบในลาวเหนือบริเวณที่ติดกับพม่ามากกว่า ไม่ได้พบทั่วไปหมดจนถึงจำปาสักในลาวใต้ ถ้าให้แบ่งแยกคร่าวๆ (ไม่มีหลักฐานประกอบ ไม่เคยเห็นในป่า ทั้งหมดนี้ทึกทักเอาเอง)  ถ้ามองทั้งภูมิภาค braianense ควรจะพบทางฝั่งซ้ายของแม่น้ำโขง ส่วน capillipes ควรจะพบทางฝั่งขวาแม่น้ำโขง ถ้ามองเฉพาะในประเทศไทย เป็นไปได้ว่า braianense ในไทยพบทางฝั่งซ้ายของแม่น้ำยมหรือไม่ก็แม่น้ำน่าน  ส่วน capillipes พบทางฝั่งขวาของแม่น้ำยมหรือไม่ก็แม่น้ำน่าน แต่ไม่ได้หมายความว่าถ้าข้ามขวาแม่น้ำโขงไปแล้วจะไม่เจอ braianense หรือข้ามไปฝั่งซ้ายแม่น้ำโขงแล้วจะไม่เจอ capillipes เลยซักต้น เพราะมันย่อมมีจุดซ้อนทับกัน แต่จุดที่สองชนิดนี้แพร่กระจายซ้อนทับกันน่าจะอยู่ในเส้นรุ้งที่สูงขึ้นไป บริเวณรอยต่อพม่า-ลาว-จีน เพราะถ้าดูตามแผนที่จะเห็นว่ายึ่งขึ้นเหนือขึ้นไป เทือกเขาต่างๆ มันลู่เข้าหากัน แม่น้ำสายหลักๆ ทั้งอิระวดี, สาละวิน, โขง ก็ลู่เข้าหากัน (จำได้ไหมครับ Sir H.Collet บอกว่าพบ capillipes ดอกใหญ่ในเทือกเขาของรัฐฉาน เราอาจสรุปไม่ได้ว่ามันเป็น braianense หรือไม่ แต่มันก็มีความเป็นไปได้ และ Henri d'Orleans พบ capillipes ในเมือง Szemao มณฑลยูนนาน ซึ่งเท่าที่อ่านจากหนังสือแล้ว พอจะสรุป (เอาเอง) ได้ว่าทั้ง Seidenfaden และ Gagnepain ยอมรับ (อย่างน้อยก็ไม่เถียง) ว่ามันเป็น capillipes ต้นเล็กๆ ดอกเล็กๆ ปกติแน่ๆ) ในขณะที่เส้นรุ้งต่ำลงมาเรื่อยๆ จะมีลุ่มน้ำเจ้าพระยา กับแอ่งโคราช ขวางกั้นเทือกเขาของเวียดนามกับพม่าไว้ ยิ่งลงใต้จึงยิ่งพบเพียงชนิดใดชนิดหนึ่งเท่านั้น ไม่มีโอกาสเจอ 2 ชนิดขึ้นทับกันเหมือนในเขตเส้นรุ้งบนๆ หมายเหตุ: รูปของ Dendrobium capillipes ในเว็บไซต์ Preliminay Checklist of Orchids of Lao ผมก็คิดว่ามันเป็นรูปของ braianense นะ จากคุณ : Magnificum - [ 29 มี.ค. 51 04:54:42 ]

ความคิดเห็นที่ 61 ลองเขียนเล่นๆ ครับเขตการกระจายพันธุ์ของ capillipes และ braianense จากคุณ : Magnificum - [ 29 มี.ค. 51 04:59:25 ]

ความคิดเห็นที่ 62 ประเด็นที่ 3  คำป๊อกที่ Nagasaka ใช้ มันเป็น capillipes (คำป๊อก) หรือ braianense (คำป๊อกลาว) ???  ซึ่งถ้าใช้คำป๊อกลาว albosanguineum x braianense ก็ไม่เคยมีใครจดชื่อกับ RHS อยู่ดี --ถ้ามองในแง่ผู้ผสมกล้วยไม้ ถ้าเป็นผม ผมก็เลือกใช้คำป๊อกลาว (braianense) มากกว่าจะใช้คำป๊อก (capillipes) เพราะคนส่วนใหญ่ย่อมชอบดอกใหญ่, ดอกดก แต่อันนี้ Nagasawa จะใช้คำป๊อกตัวไหนก็สุดจะคาดเดา  แต่เข้าใจว่าอย่างน้อยในญี่ปุ่นยุคนนั้นก็ต้องมี คำป๊อกลาวปลูกเลี้ยง เพียงแต่อาจจะเลี้ยงในชื่อ capillipes var.elegans (แต่อาจเขียนผิดเป็น elegance ซะงั้น) แก้ไขเมื่อ 29 มี.ค. 51 05:02:05 จากคุณ : Magnificum - [ 29 มี.ค. 51 05:01:17 ]

ความคิดเห็นที่ 63 แล้วถามต่อไปว่า ถ้า Golden Aya ไม่ใช่ลูกผสมระหว่าง aphrodite กับ albosanguineum ตามที่จดไว้กับ RHS แต่ดันเป็นลูกผสมระหว่างผาเวียงกับคำป๊อก (จะตัวไหนก็ช่าง) ซึ่งยังไม่เคยมีใครจดทะเบียนไว้เลย (ปวดหัวจริงๆ) แล้วจะทำไงล่ะ  จะโดนยกเลิกชื่อ Golden Aya งั้นเหรอ หรือว่า RHS ต้องกลับไปแก้ไขข้อมูลใหม่ หรือว่าทุกอย่างยังคงเหมือนเดิม เนื่องจากทั้ง aphrodite และ capillipes ต่างเป็นชื่อที่ถูกต้องทั้งคู่ ไม่ได้เป็นชื่อพ้องของกล้วยไม้ต้นอื่นๆ ดังนั้นลูกผสมที่เกิดจากกล้วยไม้ 2 ชนิดนี้ซึ่งใช้ชื่อว่า Golden Aya  จึงมีความสมบูรณ์ถูกต้อง ไม่ใช่ชื่อที่เป็นโมฆะแต่อย่างใด หน้าที่ของ RHS คือทำหน้าที่เป็นนายทะเบียนเท่านั้น เป็นผู้บันทึกชื่อลูกผสมกล้วยไม้ว่า ถ้า a กับ b ผสมกันลูกที่ได้จะชื่ออะไร (สมมติว่าชื่อ ab) ผสมโดยใคร จดทะเบียนเมื่อไหร่ แค่นี้เท่านั้น RHS ไม่ได้มีหน้าที่พิสูจน์ว่ากล้วยไม้ที่ผู้ยื่นจดทะเบียนระบุว่า เป็นกล้วยไม้ a นั้น ในความจริงมันใช่กล้วยไม้ a จริงๆ หรือเปล่า ถ้าผู้ยื่นจดทะเบียนเข้าใจผิดด้วยความไม่รู้ด้วยเหตุผลใดๆ ก็แล้วแต่ นึกว่ากล้วยไม้ c เป็นกล้วยไม้ a และยื่นจดทะเบียนลูกผสมระหว่าง c กับ b ไปในนามของ a กับ b RHS  ก็รับรู้เพียงว่าลูกผสมที่ได้จะต้องใช้ชื่อว่า ab  ถ้าในภายหลังมีคนมายื่นจดทะเบียนระหว่างกล้วยไม้ c กับ b ว่าชื่อ cb RHS ก็จะบันทึกไว้  ถึงแม้ว่าจะมีคนสงสัยว่า เอ๊ะ..ทำไมดอกของ ab กับ cb มันเหมือนกันเป๊ะ   RHS ก็ไม่ได้มีหน้าที่ที่จะต้องแก้ชื่อแต่อย่างใด (ไม่มีเหตุผลให้แก้ด้วย - นอกจากกรณีที่ว่า ไปๆ มาๆ a กับ c กลายเป็นชื่อพ้องกันก็เป็นอีกเรื่อง กรณีนี้จะเท่ากับว่า ab และ cb ก็จะเป็นชื่อพ้องกันด้วย ก็ต้องมาดูว่าใครจดก่อน จะได้เหลือแค่ชื่อเดียว) เราอาจจะมองว่า กรณีนี้ก็เหมือนกับมีคนไปยื่นจองชื่อลูกผสมของ a (ตัวจริง) กับ b ไว้ล่วงหน้าก่อนก็ได้ แต่จองชื่อทั้งที่ยังไม่ได้ทำลูกผสมนั้นขึ้นจริง (เพราะดันไปทำโดยใช้ c กับ b ด้วยความเข้าใจผิด) เพราะฉะนั้น ทางเดียวที่จะพิสูจน์ได้ว่า ลูกผสมของ a (ตัวจริง) กับ b หน้าตาจะเป็นยังไง ก็ต้องทำขึ้นมาดู และผสม c กับ b ขึ้นเปรียบเทียบด้วย ตอนนี้อาจจะมองกรณี Golden Aya ว่าก็เหมือนกับการขายไม้ผิดชื่อ ไม่ตรงกับชื่อก็ได้  โดยเป็นการเอาลูกผสมที่เกิดขึ้นแล้วแต่ยังไม่มีใครจดชื่อ (ถ้าเป็นลูกระหว่าง albosanguineum กับ คำป๊อกจริงตามที่คาดเดา) มาขายในชื่อของลูกผสมที่มีแต่ในนาม แต่ไม่เคยมีใครทำจริง (ส่วนตัวเชื่อว่ายังไม่เคยมีใครทำลูกผสมของ aphrodite จริงๆ) จากคุณ : Magnificum - [ 29 มี.ค. 51 05:05:30 ]

ความคิดเห็นที่ 64 มีอยู่กรณีนึง ไม่เหมือนกับกรณี Golden Aya ซะทีเดียว นั่นคือกรณีของไม้นิ้ว sanderianum ที่ Orchid Zone nursery เคยทำขาย จะด้วยความผิดพลาดอะไรก็แล้วแต่  หลังจากไม้นิ้วชุดนี้ออกดอก มันก็ฟ้องว่า มันไม่ใช่แซนแท้ แต่เป็น Prince Edward of York แต่กรณีนี้เรารู้แน่ชัด เพราะมันเป็นการเปรียบเทียบระหว่างพันธุ์แท้ซึ่งเรารู้อยู่แล้วว่าหน้าตาเป็นไง กับรูปลูกผสมที่เราก็รู้อยู่แล้วว่าหน้าตาเป็นไง (มีรูปวาด PEOY ในหนังสือยุคร้อยปีก่อนเป็นหลักฐาน) และคนก็เริ่มสงสัยตั้งแต่ที่ว่า ลูกไม้มันใหญ่โตและแข็งแรงกว่าที่ควรจะเป็นแซนแท้ๆ แต่ก็ได้แต่เก็บความสงสัยจนดอกบานนั่นแหละ แต่ทำไม Golden Aya ถึงไม่มีใครท้วงหรือสงสัยว่า ลูกผสมที่ได้มันสอดคล้องกับชื่อพ่อแม่จริงๆ หรือเปล่า ทั้งที่ไม้จดทะเบียนตั้งแต่ปี 1985  อาจเป็นเพราะ 1- คนไม่รู้ว่า aphrodite กับ albosanguineum เป็นคนละตัวกัน  (ต้องยอมรับว่าสมัยก่อน การเข้าถึงข้อมูลการตรวจสอบข้อมูลไม่สะดวกเหมือนเดี๋ยวนี้ที่มีอินเตอร์เน็ตให้ใช้) 2- ไม่มีใครเคยเห็นหรือเคยทำลูกผสมของ aphrodite มาก่อน จึงไม่รู้ว่าลูกที่ได้จะมีหน้าตายังไง aphrodite จะถ่ายทอดลักษณะอะไรให้ลูกบ้าง จบดื้อๆ ล่ะครับ นึกไม่ออกแล้ว ไม่เคยเขียนอะไรยาวเหยียดวกวนไปมาเท่านี้มาก่อน ปวดหัวดีแท้ **หมายเหตุ** ทั้งหมดนี้เป็นแค่การแสดงความเห็นส่วนบุคคลของคนชอบกล้วยไม้เท่านั้น ไม่ได้รู้จักใครเป็นการส่วนตัว ไม่ได้ประสงค์จะ discredit หรือสร้างความเสียหายแก่ผู้ใด  การแสดงความเห็นต่างๆ เป็นไปตามสิทธิที่บุคคลย่อมสามารถแสดงความเห็นใดๆ และเป็นไปตามมารยาทปกติของวิญญูชนโดยทั่วไป จากคุณ : Magnificum - [ 29 มี.ค. 51 05:11:01 ]

ความคิดเห็นที่ 65 ************************************* ปรบมือๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ *************************************  ด้วยความขอบพระคุณจริงๆนะขอรับ  ไม่นึกว่า ก๋ง และเพื่อนสมาชิกในเรือน จะได้รับทราบสิ่งดีๆมากมายเช่นนี้ ............................................................................  ขอบพระคุณ        คุณ  Magnificum  ขอบพระคุณ        คุณ   Paphmania  อย่างมากที่สุด ............................................................................  กระทู้นี้  ต้องเก็บเข้าคลังโดยไม่มีเหตุผล  กระทู้นี้  แม้กระทั่งท่านที่ไม่มีเวลาอ่าน  ก็ต้องหาเวลาอ่านจนได้  กระทู้นี้  มีคุณค่าสำหรับกล้วยไม้สกุลหวายจริงๆ ............................................................................  ขอบพระคุณ  ขอบพระคุณ  ขอบพระคุณ  ก๋ง พูดตรงๆว่า  ครั้งแรก  ก๋งคิดแต่เพียงสั้นๆว่า...........               เอื้องคำป๊อก  ทำไมมันมีสองแบบหว่า ??               เอื้องคำป๊อก  ของเราทำไมไม่เหมือนของท่านอื่นๆ  ??               เอื้องคำป๊อก  ดูในเน็ทแล้ว มีชื่อภาษาอังกฤษไม่เหมือนกัน  ??  นี่แหละ  ขอรับ !!  คือที่มา และที่ไป  ของการตั้งกระทู้นี้  ของก๋ง  ขอบพระคุณ    คุณ Magnificum/ คุณ Paphmania  ขอบคุณขอรับ/รักษาสุขภาพด้วย แก้ไขเมื่อ 29 มี.ค. 51 08:26:22 แก้ไขเมื่อ 29 มี.ค. 51 07:57:14 จากคุณ : ก๋งแก่(หง่อมจริงๆ) - [ 29 มี.ค. 51 07:45:44 ]

ความคิดเห็นที่ 66 ไหนๆ  ก้อไหนๆแล้ว ...................................................................................... ก๋ง  เลยเอา  เอื้องคำป๊อก  ตัวนี้มาฝากกัน ...................................................................................... ดังนั้น เอื้องคำป๊อกลาว จึงมีชื่อที่ยอมรับคือ Accepted Name Dendrobium braianense Gagnep. (1938) และมีชื่อซ้ำดังนี้ครับ Synonym Dendrobium capillipes var.  elagans   Rchb.f. (1880) Dendrobium sukhakulii  Hort. Dendrobium ejirii T.Yukawa (1997) จากคุณ : ก๋งแก่(หง่อมจริงๆ) - [ 29 มี.ค. 51 08:43:13 ]

ความคิดเห็นที่ 67 ดังนั้น เอื้องคำป๊อกลาว จึงมีชื่อที่ยอมรับคือ Accepted Name Dendrobium braianense Gagnep. (1938) และมีชื่อซ้ำดังนี้ครับ Synonym Dendrobium capillipes var.  elagans   Rchb.f. (1880) Dendrobium sukhakulii  Hort. Dendrobium ejirii T.Yukawa (1997) ................................................................................................. อ่านจากข้อเขียน ของเซียนหวาย  กูรูหวาย คุณ  Paphmania    ทำให้ทราบว่า ตัวเดียวกัน อิอิอิ จากคุณ : ก๋งแก่(หง่อมจริงๆ) - [ 29 มี.ค. 51 08:45:52 ]

ความคิดเห็นที่ 68 ดังนั้น เอื้องคำป๊อกลาว จึงมีชื่อที่ยอมรับคือ Accepted Name Dendrobium braianense Gagnep. (1938) และมีชื่อซ้ำดังนี้ครับ Synonym Dendrobium capillipes var.  elagans   Rchb.f. (1880) Dendrobium sukhakulii  Hort. Dendrobium ejirii T.Yukawa (1997) ................................................................................................. จากคุณ : ก๋งแก่(หง่อมจริงๆ) - [ 29 มี.ค. 51 08:47:07 ]

ความคิดเห็นที่ 69 ดังนั้น เอื้องคำป๊อกลาว จึงมีชื่อที่ยอมรับคือ Accepted Name Dendrobium braianense Gagnep. (1938) และมีชื่อซ้ำดังนี้ครับ Synonym Dendrobium capillipes var.  elagans   Rchb.f. (1880) Dendrobium sukhakulii  Hort. Dendrobium ejirii T.Yukawa (1997) ........................................................................................ จากคุณ : ก๋งแก่(หง่อมจริงๆ) - [ 29 มี.ค. 51 08:49:11 ]

ความคิดเห็นที่ 70 ดังนั้น เอื้องคำป๊อกลาว จึงมีชื่อที่ยอมรับคือ Accepted Name Dendrobium braianense Gagnep. (1938) และมีชื่อซ้ำดังนี้ครับ Synonym Dendrobium capillipes var.  elagans   Rchb.f. (1880) Dendrobium sukhakulii  Hort. Dendrobium ejirii T.Yukawa (1997) ............................................................................................... จากคุณ : ก๋งแก่(หง่อมจริงๆ) - [ 29 มี.ค. 51 08:50:34 ]

ความคิดเห็นที่ 71 ไม่รู้จะขอบคุณยังไง ได้ความรู้มากมายจริงๆครับ จากคุณ : ST.Exsodus - [ 29 มี.ค. 51 08:54:02 ]

ความคิดเห็นที่ 72 ขอบคุณพี่โบ๋มากเลยครับ ที่อดหลับอดนอนมาให้ความรู้ที่มีคุณค่ามากเลยครับ บอกเลยว่าไม่ผิดหวังครับ พี่โบ๋อ่านพาสาลาวเก่งขึ้นแล้วนะครับ อิๆ ส่วนตัวแล้ว ก็ไม่ได้ศึกษาเอื้องหวายมากอย่างพี่โบ๋  และยังไม่มีใครทำ Monograph ของสกุล Dendrobium Sw. จึงยังไม่ตามสำนัก Kew ทั้งหมดในการจัดจำแนก คิดว่า คงต้องมีการทำวิจัยต่อไปครับ สำหรับตอนนี้ จึงขอมาสรุปการจำแนกสองตัวนี้ได้เป็น สามแนวครับ A. Lumper : 1 Species without any varieties or subspecies. Accepted Name คำป๊อก Dendrobium capillipes Rchb.f. (1867) sensu lato Synonym Dendrobium acrobaticum Rchb.f. (1871) Dendrobium capillipes var. elegans Rchb.f. (1880) Callista acrobatica (Rchb.f.) Kuntze (1891) Callista capillipes (Rchb.f.) Kuntze (1891) Dendrobium braianense Gagnep. (1938) Dendrobium ejirii T.Yukawa (1997) Dendrobium capillipes Rchb.f var. braianense Averyanov (2005) --------------------------------------------------------------------------------------------- Dendrobium sukhakulii Hort. sensu Seidenfaden (1995) nomen invalidum B. Intermediate : 1 Species with the varieties. (Averyanov, Leningard) Accepted Name คำป๊อก Dendrobium capillipes Rchb.f. (1867) sensu lato แบ่งเป็น varieties ดังนี้ B.1 Accepted Name คำป๊อก Dendrobium capillipes Rchb.f. (1867) var. capillipes Synonym Dendrobium acrobaticum Rchb.f. (1871) Callista acrobatica (Rchb.f.) Kuntze (1891) Callista capillipes (Rchb.f.) Kuntze (1891) B.2 Accepted Name คำป๊อกลาว Dendrobium capillipes var. elegans Rchb.f. (1880) Synonym Dendrobium braianense Gagnep. (1938) Dendrobium ejirii T.Yukawa (1997) Dendrobium capillipes Rchb.f. var. braianense Averyanov (2005) ------------------------------------------------------------------------------ Dendrobium sukhakulii Hort. sensu Seidenfaden (1995) nomen invalidum C. Spitter : 2 Cryptic Species. (R. Govaerts, Kew Botanical Garden) Accepted Name คำป๊อก Dendrobium capillipes Rchb.f. (1867)   sensu stricto Synonym Dendrobium acrobaticum Rchb.f. (1871) Callista acrobatica (Rchb.f.) Kuntze (1891) Callista capillipes (Rchb.f.) Kuntze (1891) Accepted Name คำป๊อกลาว Dendrobium braianense Gagnep. (1938) Synonym Dendrobium ejirii T.Yukawa (1997) Dendrobium capillipes var.  elegans Rchb.f. (1880) Dendrobium capillipes Rchb.f. var. braianense Averyanov (2005) ------------------------------------------------------------------------------ Dendrobium sukhakulii Hort.  sensu Seidenfaden (1995) nomen invalidum เนื่องจากการศึกษาด้านอนุกรมวิธานของกล้วยไม้สกุลหวายยังอยู่ในขั้นเบื้องต้นในโอกาสต่อไปอาจจะเห็นการปรับปรุงการจำแนกใหม่ๆ แต่ก็น่าจะวนเวียนอยู่ใน 3แบบนี้ หากจะมีอีกแบบก็คือมีการใช้ subspecies แทน varieties ครับ แก้ไขเมื่อ 29 มี.ค. 51 23:25:42 แก้ไขเมื่อ 29 มี.ค. 51 11:23:39 แก้ไขเมื่อ 29 มี.ค. 51 11:22:35 แก้ไขเมื่อ 29 มี.ค. 51 11:20:46 จากคุณ : Paphmania - [ 29 มี.ค. 51 11:12:48 ]

ความคิดเห็นที่ 73 สำหรับผม ถ้าจะให้จำแนก สองตัวนี้ผมต้องยึดแบบที่สองครับ เพราะไม่คิดว่าทั้งสองชนิดได้แยกชนิดกันสมบูรณ์แล้วครับ ซึ่งสามารถอธิบายได้ตามแนวคิดทาง Speciation ครับ Speciation ยังไม่สมบูรณ์ เพราะ 1. ลักษณะดอกยังเหมือนกันเกือบทั้งหมด ถามว่าแมลงจะแยกดอกสองชนิดนนี้ออกจากกันอย่างไร (There is No ethological or mechanical isolation) 2. และด้วยกล้วยไม้ส่วนใหญ่มี Pollinators  ที่ไม่จำเพาะ และทั้งสองมีการกระจายพันธุ์ที่ซ้อนเหลื่อมกัน จึงทำให้มีความเป็นไปได้ที่จะมีการผสมข้ามพันธุ์กัน จึงน่าจะยังคงมีการถ่ายเทพันธุกรมมระหว่างกัน (gene flow and share gene pool) (The geographical and Ecological isolation maybe not complete) Accepted Name คำป๊อก Dendrobium capillipes Rchb.f. (1867) sensu lato แบ่งเป็น varieties ดังนี้ 1. Accepted Name คำป๊อก Dendrobium capillipes Rchb.f. (1867) var. capillipes Synonym Dendrobium acrobaticum Rchb.f. (1871) Callista acrobatica (Rchb.f.) Kuntze (1891) Callista capillipes (Rchb.f.) Kuntze (1891) 2. Accepted Name คำป๊อกลาว Dendrobium capillipes var. elegans Rchb.f. (1880) Synonym Dendrobium braianense Gagnep. (1938) Dendrobium ejirii T.Yukawa (1997) Dendrobium capillipes Rchb.f. var. braianense Averyanov (2005) ------------------------------------------------------------------------------ Dendrobium sukhakulii Hort. sensu Seidenfaden (1995) nomen invalidum การจัดแบบนี้น่าจะเหมาะสมที่สุดครับ แต่อย่างไรก็ตามคงต้องรอนักพฤกษศาสตร์ที่ศึกษาสกุลนี้โดยตรงมาไขข้อข้องใจครับ แก้ไขเมื่อ 29 มี.ค. 51 23:28:41 แก้ไขเมื่อ 29 มี.ค. 51 12:10:52 จากคุณ : Paphmania - [ 29 มี.ค. 51 12:09:09 ]

ความคิดเห็นที่ 74 ก๋ง  เข้ามาตามติด  อย่างกระชั้นชิด ............................................................. สรุปว่า............. เป็นเรื่องที่น่าสนใจมากเลยนะขอรับ จากการที่ทั้งสองท่าน  ได้อธิบายมานั้น  ทำให้  ก๋ง  ซึ่งโดยปกติไม่ค่อยทราบอะไรเลย เลยทำให้ทราบบ้าง  เข้าใจบ้าง  แบบค่อยๆซึมซาบ  ค่อยๆรู้ขึ้นบ้าง ............................................................. และต้องขอขอบคุณอย่างจริงจัง ที่อุตส่าห์  ข่มตาหลับขับตานอน  อดหลับอดนอนเข้ามาอธิบายให้ได้ทราบกัน  ดึกๆดื่นๆ ขอบคุณในความรู้  ที่หาจากที่ไหนไม่ได้จริงๆ ขอบคุณๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ จากคุณ : ก๋งแก่(หง่อมจริงๆ) - [ 29 มี.ค. 51 13:20:02 ]

ความคิดเห็นที่ 75 ขอคารวะอาจารย์...... จากคุณ : สำเภางาม - [ 29 มี.ค. 51 15:36:32 ]

ความคิดเห็นที่ 76 ได้ความรู้ค่ะ  ขอบคุณมากๆ ค่ะ จากคุณ : จันผา - [ 29 มี.ค. 51 22:09:55 ]

ความคิดเห็นที่ 77 จานแมคสุดยอดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด จากคุณ : เสือเจ้าถิ่น - [ 29 มี.ค. 51 22:42:25 ]

ความคิดเห็นที่ 78 โอย กว่าจะอ่านจบ อิส มึนติ๊บ ต้องเก็บไป ตีความ + ทำความเข้าใจอีกกี่รอบละเนี่ย เก่ง เก๋า สุด ๆไปเลย ทุกท่าน นับถือจริง ๆ ค่ะ ปล.ขอบคุณด้วยคน เด็กใหม่ได้เรียนรู้เต็มๆ จากคุณ : rabbit_bp - [ 31 มี.ค. 51 00:10:56 ]

ความคิดเห็นที่ 79 ก๋ง  เข้ามาอ่านต่อ  อ่านทำความเข้าใจ กราบขอบคุณ ทั้งสองท่านและทุกคนที่เข้ามาเป็นกำลังใจ ................................ จากคุณ : ก๋งแก่(หง่อมจริงๆ) - [ 31 มี.ค. 51 17:39:00 ]

ความคิดเห็นที่ 80 อ่านจนจบ ไม่รู้จะซึมเข้าในหัวบ้างเปล่า ขอบคุณคนถาม และคนตอบ จากคุณ : มาดามนิบง - [ 5 เม.ย. 51 22:23:07 ]