ความคิดเห็นที่ 1 เพลี้ยกับต้นไม้เป็นของคู่กันครับ มันระบาดเพราะแมลงศตรูธรรมชาติ ของมันอย่างพวกเต่าทองไม่มีแ้ล้ว ใน ตจว หากปลูกที่บ้านก็ไม่ควรใช้ยา แต่จะเน้นกำจัดมด แบบใช้เหยื่อล่อทำลายมด แบบตายยกรังจะดีกว่า เพราะว่าเพลี้ยคือฟาร์มปศุสัตว์ของมด ไม่มีมดก็ไม่มีเพลี้ยครับ ถ้าใช้ยา จะยิ่งทำให้แมลงศตรูของศตรูพืชยิ่งหายไปด้วย แล้วถ้าฉีดพ่นสารไล่แมลง ธรรมชาติได้ก็ดีครับ พวกสารสะเดา หรือน้ำส้มควันไม้ แต่ถ้าอยู่ กทม แมลงที่ควบคุมเพลี้ยหาไม่ได้แล้ว ก็ใช้ยาบางตัวที่อันตราย น้อยๆ ก็ได้ครับ อย่างยาชนิดใหม่ๆ ที่ไม่ต้องฉีดพ่นก็มีครับ อย่างสตาร์เกิ้ลจี ก็ใช้ใส่ในดิน พืชดูดซึมเข้าไป ทำให้แมลงที่ดูดน้ำเลี้ยงจากพืชเป็นอัมมพาต เขาว่าพวกนี้มีความปลดภัยสูงนะครับ แต่ได้ผลแค่ลดจำนวนในระดับที่รับได้ครับ ไม่หมดไปเสียทีเดียวแบบยาพ่น แต่เท่าที่ลองใช้ดู สตาร์เกิ้ลจี ให้ผลกับพืชชนิด ต่างๆไม่เท่ากันครับ อย่างพวกจำปีจำปา ไม่ได้ผลเลยครับ แต่พวกถั่ว ชบา ให้ผลชัดเจนมากๆ 100% พวกพุดก็ให้ผล 50/50 แต่กับพืชตะกูลหญ้าบางชนิด ยานี่ทำให้ต้นไม้ถึงตายได้ครับ เจอมาแล้วครับ ใส่ปุ๊บรดน้ำเช้ามาต้นไม้ตายเป็นแถบ หากใช้ก็ค่อยๆทดลองทีละน้อยนะครับ ระวังต้นไม้ตาย แก้ไขเมื่อ 28 ม.ค. 52 11:00:37 จากคุณ : endless man - [ 28 ม.ค. 52 10:57:42 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ยาดูดซึมไม่ควรใช้กับพืชที่คนรับประทาน....หรือเปล่าครับ จากคุณ : _007 - [ 28 ม.ค. 52 11:24:12 ]

ความคิดเห็นที่ 3 เท่าอ่านๆดูจากหลายๆที่ ยาตัวนี้เป็นสารสกัดจากใบยาสูบ มีพิษต้อระบบประสาทของแมลง ทำให้สูญเสียการสั่งการ แต่ยังไม่พบพิษต่อสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมโดยตรงครับ ฉลากบอกว่า ตกค้าง 45 วัน ก็ถ้าใช้กับไม้ทาน อาจรอ ให้ถึงระยะสลายตัวก่อนนะครับ แต่เพราะว่าผลการศึกษา ยังไม่ออกมาว่ามีพิษอะไร แต่ผมก็ตอบไม่ได้ว่าต่อไปจะ ศึกษาเจอผลอะไรไหม แต่จริงๆแล้วยาที่ฉีดพ่น มันก็ดูดซึม ผ่านระบบรากของพืชเป็นส่วนใหญ่นะครับ มีค่าเท่ากัน เพียงแต่ยาที่ใส่ในดิน มันสะดวกผู้ใช้ตามบ้าน และไม่ต้อง ฉีดพ่นให้เกิดการฟุ้งกระจายมาโดนร่างกายโดยตรง ที่สำคัญในทางพิษวิทยานั้น สารที่ต้องกินแล้วทำให้ตาย มีพิษ น้อยกว่า สารที่แค่โดนตัวแล้วตาย หลายเท่าตัวนักนะครับ ไอ้ยาตัวนี้ มันก็มาจากสารธรรมชาติ ก็เหมือนน้ำส้มควันไม้ สะเดา กับอื่นๆ นะครับ จริงๆก็มีพิษ น้ำส้มควันไม้ก็ก่อมะเร็ง แต่ว่า มันก็ปลอดภัยกว่าเคมี ที่เกษตรกรใช้ๆ มากมายมหาศาล นะครับ เท่าที่ผมใช้ดู ใส้เดือนในดิน ก็ยังมีอยู่ปกตินะครับ แต่แมลงในดินหายไป เลยคิดว่ามันออกฤทธิ์เจาะจงกับพวก แมลงมากๆพอสมควร ท้ายสุดอย่ากลัวพวกนี้มากนักก็ได้ครับ ให้ศึกษาเป็นตัวๆ ไปใช้ให้ ถูกวิธีก็ดีครับ อย่างยาฆ่าหญ้า จำชื่อเคมีไม่ได้อีก ตัวที่แรงที่สุดนะครับ ได้ชื่อว่ามีพิษสูงมาก นิยมนำมาฆ่าตัวตาย เพราะกินแล้ว หมอก็ช่วยไม่ได้ ตาย 99% แต่ทำไมยาที่มีพิษรุนแรงขนาดนี้ถึงปล่อยให้ขายกันเกร่อ คนในห้องต้นไม้ก็ชอบพูดถึงยาฆ่าหญ้าตัวนี้ว่าน่ากลัว แต่จริงๆก็คือ ยาตัวนี้ มีความเสถียรในสภาพแวดล้อมต่ำ หลังจากราดลงสัมผัสพื้นดิน ภายในไม่กี่นาที ยาตัวนี้จะหมดสภาพความเป็นพิษทันที จึงมีความปลอดภัย ในการใช้สูง หากไม่ไปสัมผัสยาโดยตรง และไม่มีพิษสะสมเลยแม่แต่น้อย แต่ก็อย่างว่า ในไม่กี่นาที ตัวอะไรโดนเข้าไป ก็ตายไปเช่นกัน แก้ไขเมื่อ 28 ม.ค. 52 11:53:07 จากคุณ : endless man - [ 28 ม.ค. 52 11:44:28 ]

ความคิดเห็นที่ 4 สำหรับเพลี้ยเป็นเพราะว่าตอนเราตัดแต่ง ตัดแต่งไม่หมดครับ ต้องตัดไม่ให้มีใบเหลือ เอาไปเผาหรือทิ้งไกลๆ เพื่อกำจัดเพลี้ย ไม่ต้องเสียดายเดี๋ยวเขาก็งอกขึ้นมาใหม่เอง หลังจากนั้นหมั่นสำรวจ ถ้าพบรีบกำจัดด้วยการตัดก่อนแพร่กระจาย        ต้นไม้ที่ขาดปุ๋ยธรรมชาติ มักจะอ่อนแอต่อโรคและแมลง ลองใส่ปุ๋ยคอก รดราดด้วย em  สังเกตว่ามดไม่ชอบ em นัก  ยิ่งเราใช้สารเคมีฉีดฆ่าแมลงก็ยิ่งทำลายตัว ห้ำ ตัวเบียน เราก็ต้องเสพสารเคมีอยู่ร่ำไป เพราะธรรมชาติขาดสมดุลไปแล้ว        เวลาปลูกต้นไม้ให้ปลูกปน ๆ กันไป อาจจะดูรก ๆ หน่อย ไม่ใช่ปลูกชนิดเดียวกันหมดเป็นแถบ โล่ง ๆ เพลี้ย แมลง มันก็จะแพร่ระบาดได้เร็ว ถ้าปลูกปนกันแมลงจะเข้าทำลายได้ช้า เพราะแมลงจะต้องค้นหา ไม่สามารถวางไข่เป็นแถบติดกันได้ บางทีก็สับสนกับกลิ่นพืชอาหาร กับพืชอื่น ๆ แพร่ระบาดได้ช้า นอกจากนั้นก็จะทำให้แมลงหลายชนิดมาตอมต้นไม้ ตามมาด้วยตัวห้ำ ตัวเบียน มีที่หลบ ซ่อน อาศัยกระจายพันธุ์ คอยจับแมลง หนอน ที่มีมากเกินไป         พืชที่เพลี้ยชอบกิน ต้องปลูกให้โดนแดดซักหน่อย เพราะเพลี้ยมันจะร้อน ไม่ค่อยรบกวน พืชที่อยู่อับ ๆ หรือ ร่ม มักโดนเพลี้ยรุม         เมื่อก่อนที่บ้านก็เพลี้ยลงเหมือนกัน ตอนนี้แมลงเพียบ ผึ้ง ต่อ เต่าทอง ผีเสื้อ เพลี้ย กินกันไป กินกันมา ต้นไม้ใบก็อาจจะมีพรุน ๆ ไปบ้าง แต่ไม่โดนทำลายจนยอดกุด ดูงอกงามดีครับ เดี่ยวนี้แทบไม่ต้องทำบาปทำกรรมฆ่าเพลี้ยอีกเลย... จากคุณ : BigMooHuHu - [ 28 ม.ค. 52 12:03:46 ]

ความคิดเห็นที่ 5 อุ๋ย จริงเหรอคะ ที่ว่ามดไม่ชอบ em ตั้งแต่ใช้ em มานี่ เราก็ไม่ได้สังเกตด้วยสิว่ามดน้อยลงรึเปล่า แต่อืม.... เพลี้ยน้อยลงนะ หรือว่าเพราะอากาศไม่ค่อยเย็นแล้ว จากคุณ : gluhp - [ 28 ม.ค. 52 12:16:48 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ถ้าใช้อย่างถูกวิธี และมีความเข้าใจในตัวสารที่ใช้ ก็ไม่น่าจะกังวลอะไรนะครับ จากคุณ : อิฐมอญ - [ 28 ม.ค. 52 12:22:47 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ที่บ้านมีเพลี้ยแป้งเยอะเหมือนกัน โดยเฉพาะต้นพุด และกระดังงาสงขลา แต่ใช้สะเดาที่เขาขายกันนะแหละ ผสมน้ำแล้วฉีดๆ เขาบอกให้ฉีดในช่วงมีแดดแรงๆจะได้ผล ก็ทำงี้มาตลอด เพลี้ยก็หายไป โดยเฉพาะช่วงมีหมอกจัดๆ เพลี้ยจะตามมาทันที อยากถามผู้รู้ว่า สะเดาที่ฉีดนั้น ขณะฉีดก็เหม็นมากเหมือนกัน แต่มีโทษอะไรกะเราไหม..คนขายบอกว่า ไม่มีโทษต่อคน จากคุณ : พ่อลา (พ่อลา) - [ 28 ม.ค. 52 12:35:45 ]