ความคิดเห็นที่ 1 ทีนี้มาดูกันครับ ว่าสารเคมีที่เราใช้หลักๆในการเลี้ยงกล้วยไม้มีอะไรบ้าง 1 ปุ๋ยเคมี  อยู่ในรูปแบบปุ๋ยเกร็ดละลายน้ำ เป็นปุ๋ยที่มีธาตุหลักที่พืชต้องการ คือ N P K  มีสูตรต่างๆมากมาย ให้ได้เลือกใช้ตามความเหมาะสม และยังจะมีพวกคีเลด หรือพวกธาตุอาหารรอง ธาตุอาหารเสริมต่างๆอีก 2 สารป้องกัน กำจัด เชื้อรา กลุ่มนี้จะมีมากมายหลายชนิด อย่างน้อยๆที่ต้องมีไว้ใช้ก็ 3 ตัวแล้ว เอาไว้ป้องกันเชื้อราต่างๆ เช่น เน่าดำ แอนแทรกโนส ราเม็ดผักกาด ซึ่งการใช้สารพวกนี้ต้องให้เป็นประจำอย่างน้อยๆเดือนละครั้งก็ยังดี 3 สารป้องกันกำจัดแมลง กลุ่มนี้เป็นกลุ่มที่อันตรายมากที่สุด สารบางตัวแรงมาก คนได้รับเข้าไปเพียงเล็กน้อยก็สามารถตายได้ เ รามีไว้เพื่อป้องกัน กำจัดพวกแมลงต่างๆ มด เพลี้ยไฟ เพลี้ยแป้ง ไรแดง สารพวกนี้เราต้องให้อย่างน้อยๆเดือนละครั้ง ทั้งหมดที่กล่าวมาคือเรื่องจำเป็นที่จะต้องทำ การให้ปุ๋ย การป้องกันกำจัด แมลง เชื้อราศัตรูกล้วยไม้ แล้วถ้าเราไม่ต้องการใช้สารเคมีล่ะ เราจะต้องทำอย่างไรบ้าง จะหาอะไรมาทดแทนได้บ้าง แก้ไขเมื่อ 15 พ.ค. 52 19:28:53 จากคุณ : ปุ้ม ครับ - [ 15 พ.ค. 52 19:25:16 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ในท้องตลาด ลองไปเดินดูได้ครับ จะมีสารชีวภาพมากมาย ไม่ว่าเป็นพวกน้ำหมัก สาร EM สารชีวภาพกำจัดแมลง สมุนไพรกำจัดแมลง สารชีวภาพป้องกันเชื้อรา มีขายกันอยู่มากมาย แล้วทราบไหมครับว่าที่ขายๆกันอยู่นั้นคืออะไร มีที่มาอย่างไร มันสามารถให้ธาตุอาหารจริงหรือไม่ สามารถป้องกันเชื้อรา หรือแมลงได้จริงหรือ ซึ่งถ้าไปดูกันให้ดีๆแล้ว สรรพคุณต่างๆนั้น เป็นเหมือนคำบอกเล่า เป็นภูมิปัญญาชาวบ้าน บอกเล่าต่อๆกันมา ผมเชื่อว่าของพวกนั้นสามารถใช้ได้จริง แต่อย่าลืมนะครับว่า กล้วยไม้ของเรานั้นมันต่างจากพืชอื่นๆทั่วไป แล้วทีนี้จะทำอย่างไรดีล่ะ จะเอาอะไรมาใช้ดี เรามาหาสิ่งที่จะมาทดแทนสารเคมีกันครับ ผมจะแยกให้ดูตามสิ่งที่เราต้องการคือ 1 ปุ๋ย 2 ป้องกันกำจัดเชื้อรา 3 ป้องกันกำจัดแมลง แก้ไขเมื่อ 15 พ.ค. 52 19:33:10 แก้ไขเมื่อ 15 พ.ค. 52 19:32:41 จากคุณ : ปุ้ม ครับ - [ 15 พ.ค. 52 19:25:44 ]

ความคิดเห็นที่ 3 1 ปุ๋ย หรือธาตุอาหาร สิ่งที่จะมาทดแทนสารเคมีหรือปุ๋ยเคมีได้ก็คือปุ๋ยที่หมักออกมาเป็นน้ำ และจะต้องมีธาตุอาหารเพียงพอต่อความต้องการของพืช ปุ๋ยน้ำหมักที่น่านำมาใช้คือปุ๋ยที่หมักจากปลาหรือหอย ซึ่ง ประกอบด้วยธาตุอาหารหลัก ได้แก่ ไนโตรเจน ฟอสฟอรัส โพแทสเซียม นอกจากนี้ปุ๋ยปลายังประกอบด้วยธาตุอาหารรองได้แก่ แคลเซียม แมกนีเซียม และกำมะถัน และธาตุอาหารเสริมได้แก่ เหล็ก ทองแดง และแมงกานีส   นอกจากนี้ปุ๋ยปลายังประกอบด้วยโปรตีนและกรดอะมิโน ซึ่งเกิดจากกระบวนการย่อยสลายของโปรตีนในตัวปลา ซึ่งจากข้อมูลทางวิชาการบ่งชี้ชัดว่ากรดอะมิโนสามารถจับตัวกับธาตุอาหารปุ๋ยทำให้ ปุ๋ยสามารถดูดซึมเข้าสู่ต้นพืชได้เร็วขึ้น วิธีทำปุ๋ยปลานั้น เราสามารถทำเองได้ง่ายๆ โดยการนำปลาหรือเศษปลา ผลไม้สุก กากน้ำตาล สารเร่งหรือหัวเชื้อ EM เอามาหมักรวมกันไว้ เมื่อได้ที่ก็เอามากรอง นำน้ำหมักที่ได้ไปผสมน้ำฉีดกล้วยไม้ ข้อดีของปุ๋ยปลาคือ มีธาตุอาหารครบถ้วน ไม่เป็นอันตรายต่อผู้ใช้และสัตว์เลี้ยง ข้อเสียการใช้ปุ๋ยปลานั้นมีเล็กน้อย - มีกลิ่น หอมหรือเหม็นนั้นขึ้นอยู่กับผู้ใช้และการหมัก ถ้าใส่ผลไม้สุกลงไปด้วย กลิ่นก็จะไม่เหม็น แต่ถ้าใช้ปลาอย่างเดียวกลิ่นจะแรงมาก - เครื่องปลูกพังเร็วกว่าปกติ เนื่องจากในปุ๋ยปลาจะมีจุลินทรีย์ที่มีชีวิตอยู่ มันจะไปย่อยสลายกาบมะพร้าวให้ผุพังเร็ว เมื่อกาบมะพร้าวผุ ระบบรากก็จะเสียหาย ทางแก้ก็คือคอยเปลี่ยนเครื่องปลูกก่อนที่มันจะผุพัง กับเปลี่ยนเครื่องปลูกเป็นของแข็ง แต่ถ้าเลี้ยงไม้รากอากาศก็จะหมดปัญหาเรื่องนี้ไป แก้ไขเมื่อ 15 พ.ค. 52 19:34:43 จากคุณ : ปุ้ม ครับ - [ 15 พ.ค. 52 19:26:07 ]

ความคิดเห็นที่ 4 2 การป้องกันกำจัดเชื้อรา โดยใช้เชื้อราไตรโคเดอร์ม่า (Trichoderma spp.) เป็นเชื้อราชั้นสูงที่เจริญได้ดีในดิน เศษซากพืช ซากของสิ่งมีชีวิตต่างๆ และวัสดุอินทรีย์ตามธรรมชาติ จัดเป็นเชื้อราปฏิปักษ์ที่สามารถใช้ควบคุมโรคพืช ซึ่งเกิดจากเชื้อราสาเหตุโรคพืชในดินได้อย่างมีประสิทธิภาพ เช่น โรคโคนเน่า โรคเน่าระดับดิน โรคเน่าดำ โรคราเม็ดผักกาด โรคแอนแทรคโนส การใช้เชื้อราตัวนี้ ต้องมีการเลี้ยงเชื้อเสียก่อน แล้วจึงนำมาละลายน้ำให้สปอร์หลุดมาปนกับน้ำ แล้วกรองเอาแต่น้ำไปฉีดกล้วยไม้ โดยในสภาพโรงเรือนปกตินั้นจะมีความชื้นพอเพียงที่เชื้อราตัวนี้จะดำรงชีวิตอยู่ได้ตลอดไป (ถ้าไม่ถูกสารเคมี) เชื้อราตัวนี้จะเป็นเชื้อราที่ไปกินหรือทำลายเชื้อราต้นเหตุของโรคต่างๆ และตัวของมันก็ไม่เป็นอันตรายกับกล้วยไม้ด้วย การเลี้ยงขยายเชื้อเราสามารถทำได้เองโดยง่ายๆ โดยนำหัวเชื้อบริสุทธิ์ มาเลี้ยงในข้าวสวยหรือปลายข้าวที่หุงเป็นตากบ หรือสุกๆดิบๆ เลี้ยงไว้ประมาณ 7 วัน ข้าวนั้นจะมีเชื้อราสีเขียวๆเกิดขึ้น เราก็สามารถนำไปละลายน้ำใช้ได้เลย สามารถทำเก็บไว้ได้นาน 1 เดือน โดยเก็บไว้ในตู้เย็น ข้อดีของเชื้อราไตรโคเดอร์ม่าคือ สามารถขยายเชื้อได้ง่าย ปลอดภัยต่อผู้ใช้ เมื่อเชื้อไปอยู่ในสภาพที่เหมาะเชื้อไม่หมดฤทธิ์ สามารถอาศัยอยู่ในเครื่องปลูกลึกๆได้ ป้องกันกำจัดโรคได้หลากหลายกว่าสารเคมี ข้อเสียของเชื้อราตัวนี้ก็คือ แพ้สารเคมี และยังจะทำให้เครื่องปลูกผุพังเร็วกว่าปกติเช่นกัน เนื่องจากเชื้อตัวนี้จะชอบอยู่กับอินทรีย์วัตถุ แก้ไขเมื่อ 15 พ.ค. 52 19:36:07 จากคุณ : ปุ้ม ครับ - [ 15 พ.ค. 52 19:26:25 ]

ความคิดเห็นที่ 5 3 การป้องกันกำจัดแมลงต่างๆโดยใช้เชื้อรา ในส่วนของแมลงนี้จะต้องใช้เชื้อราหลายตัว เชื้อราบิวเวอเรีย  เป็นเชื้อจุลินทรีย์ที่จัดเป็นพวก "เชื้อราทำลายแมลง" สามารถทำลายแมลงได้หลายชนิด เช่น เพลี้ยไฟ ไรแดง เพลี้ยแป้ง หนอนศัตรูพืช เชื้อรามีคุณสมบัติเป็นเชื้อราปฏิปักษ์ คือ สามารถทำลายแมลงได้หลายชนิด ทำลายแมลงโดยผลิตเอสไซม์ที่เป็นพิษต่อศัตรูพืช และเป็นเชื้อราที่อาศัยและกินเศษซากที่ผุพัง   เชื้อราเขียวเมตาไรเซี่ยม  เชื้อราเขียว เป็นเชื้อราที่ทำลายด้วง ปลวก โดยเชื้อราจะแทงเข้าทางผนังลำตัวโดยผ่านเข้าผนังบาง ๆ เยื่อรอยต่อระหว่างปล้องหนอน เส้นใยเชื้อราเขียวจะแทงผ่านขั้นต่าง ๆ ของตัวแมลงเข้าขยายปริมาณในเลือด แมลงที่ถูกทำลายโดยเชื้อราเขียว จะเคลื่อนไหวช้า เบื่ออาหาร ซากของแมลงจะถูกปกคลุมด้วยสปอร์สีเขียว ตัวเข็งเหมือนมัมมี่ การเลี้ยงขยายเชื้อก็ทำได้โดยการนำเชื้อไปเลี้ยงในเมล็ดธัญพืช เช่นข้าวฟ้าง ข้าวโพด เมื่อเชื้อราเจริญเต็มที่ก็นำมาละลายในน้ำให้สปอร์ผสมกับน้ำแล้วนำน้ำนั้นไปฉีดพ่นโดยจะต้องพ่นให้ถูกตัวแมลงหรืออยู่ในช่วงที่แมลงเข้าทำลายจะดีที่สุด ข้อดีคือปลอดภัยต่อผู้ใช้ ป้องกันกำจัดแมลงได้หลายชนิด ข้อเสีย ต้องใช้ที่ๆมีความชื้นพอเพียง ไม่ถูกความร้อน และแพ้เชื้อราไตรโคเดอร์ม่า แก้ไขเมื่อ 15 พ.ค. 52 19:37:34 จากคุณ : ปุ้ม ครับ - [ 15 พ.ค. 52 19:26:50 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ที่กล่าวมาทั้งหมด เป็นทางเลือกของผู้ที่ไม่ต้องการใช้สารเคมีในการเลี้ยงกล้วยไม้ และเป็นวิธีที่ได้ผลจริง ผู้ที่ต้องการใช้จะต้องเรียนรู้ คิด ศึกษาให้จริงและต้องทำความเข้าใจ ทำใจไว้ด้วยว่า สารชีวภาพที่บอกมานั้น จะต้องใช้เวลาและอดทน มีความยุ่งยากในการใช้ มีข้อจำกัดบางอย่าง และที่สำคัญ ไม่สามารถให้ผลได้เท่ากับสารเคมีครับ ที่มาของข้อมูลต่างๆในการหาวิธีการเลี้ยงกล้วยไม้โดยไม่ใช้สารเคมี - จากการเรียนในวิทยาลัยเกษตร - จากการคุย สอบถาม เกษตรอำเภอบ้านบึง จังหวัดชลบุรี - จากนักวิชาการของสำนักงานพัฒนาที่ดินจังหวัดชลบุรีและจังหวัดปราจีนบุรี - จากนักวิชาการของศูนย์บริหารศัตรูพืชจังหวัดชลบุรี - จากสมาชิกเรือนกล้วยไม้หลายๆท่าน - และจากที่อื่นๆอีกหลายๆที่ครับ แก้ไขเมื่อ 15 พ.ค. 52 19:27:56 จากคุณ : ปุ้ม ครับ - [ 15 พ.ค. 52 19:27:42 ]

ความคิดเห็นที่ 7 เพื่อนๆพี่ๆน้องๆท่านใดมีข้อคิดเห็นที่แตกต่าง หรือมีวิธีอื่นใดก็เอามาโต้แย้งหรือเสริมเพิ่มเติมกันนะครับ ข้อมูลจะได้สมบูรณ์มากยิ่งขึ้น จากคุณ : ปุ้ม ครับ - [ 15 พ.ค. 52 19:39:30 ]

ความคิดเห็นที่ 8 สงสัย ปุ๋ยปลานี่ ธาตุอาหาร ครบ หรือครับ แล้ว ผสม ไข่ไก่ เข้าไป ดีไหม ( สมัยก่อน เคยมีคนทำปุ๋ยกล้วยไม้ใช้เอง) อันที่จริง ปุ๋ยนี่ ถ้าไม่ต้องนำเข้า ไม่แพงมหาโหด ก็ไม่น่รังเกียจเท่าใดนัก ถ้า ปุ๋ย ยา น้ำมัน มันแพง เกษตรกรก็ บอยคอต มันซะ จากคุณ : ลุงหนวด (ลุงหนวด๒๕๔๗) - [ 15 พ.ค. 52 19:56:49 ]

ความคิดเห็นที่ 9 เยี่ยมจริง ผมใช้ปุ๋ยเคมีส่วนยาฆ่าแมลงกับเชื้อราพยายามไม่ใช้ ถ้าเจอจะเอายาใส่ฝักบัวรดไม่ฉีด ไม่อยากให้ฟุ้งกระจาย สงสัยต้องลองหาพวกเชื้อราที่เป็นปฏิปักษ์กับศัตรูพืชมาลองใช้ดูบ้าง จากคุณ : บัวเชด (บัวเชด) - [ 15 พ.ค. 52 20:27:59 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ดีจัง... ที่บ้านฝากเทวดาเลี้ยง นานๆ เจอปุ๋ยที แต่ยาไม่เคยเจอเลย หุหุ จากคุณ : ลูกปืน - [ 15 พ.ค. 52 20:44:41 ]

ความคิดเห็นที่ 11 มีมากเลยค่ะ  ขอบคุณมากๆกับสาระที่ให้มาค่ะ จากคุณ : ป้าฟ้าใส - [ 15 พ.ค. 52 21:01:20 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ขอบคุณสำหรับความรู้ ที่กล่าวมาทั้งหมดไม่เคยใช้เลยครับ จากคุณ : ST.Exsodus - [ 15 พ.ค. 52 21:32:12 ]

ความคิดเห็นที่ 13 ขอบคุณสำหรับ ความรู้กำลังคิดจะใช้อยู่เหมือนๆๆกัน ละครับ จากคุณ : ชายหยก - [ 15 พ.ค. 52 21:50:21 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ผมลองมาพักนึงได้.....ไม่ไหวแฮะ ใจมันร้อนเหมือนวัยรุ่น ตอนนี้เริ่มเคมีนิยมบ้างละ โดยเริ่มที่ยาเชื้อราเบาๆก่อน (ปุ๋ยเคมีใช้มาแต่แรกแล้ว) ยาฆ่าแมลงยังไม่กล้าใช้เลย ยังกลัวอยู่ ค.ปุ้มช่วยแนะวิธีการใช้เคมีทั้งหลายอย่างถูกวิธีและปลอดภัย (แบบประสบการณ์นะ เพราะแบบข้างซองยังพอใช้แว่นขยายอ่านได้อยู่) แล้วเคมีในระยะยาวล่ะครับ.......ผมยังกล้าๆกลัวๆเลยนะเนี่ย ฝากลุงหนวดช่วยระดมสมองด้วยครับ วันนี้ผมจิ้มดีดตาลายเลย ไปละ..... จากคุณ : zazee (zazee) - [ 15 พ.ค. 52 22:56:31 ]

ความคิดเห็นที่ 15 ขอบคุณคะ จากคุณ : betaro (หนูบู้บี้) - [ 15 พ.ค. 52 23:03:41 ]

ความคิดเห็นที่ 16 ยอดมากครับท่านประธาน จากคุณ : Pic-s - [ 15 พ.ค. 52 23:04:44 ]

ความคิดเห็นที่ 17 ขอบคุณพี่ปุ้มที่นำสาระดี ๆ มาฝาก ทำปุ๋ยปลาตาม HOW TO จากฺ Blog ของพี่ปุ้มแล้วค่ะ ใช้มาได้เกือบจะปีหนึ่งแล้วค่ะ กล้วยไม้ก็งามดี  แต่กลิ่นนี่สุดยอดไปเลย ดูช่อง PANYAPIWAT ที่เอาเทปจับเข่าคุย ลุงทองเหมาะเกษตรกร(ชาวนา)แห่งชาติ  พูดและทำได้ดีมากเลยค่ะ  ทำนาโดยไม่ใช้ปุ๋ยเคมีเลย อยากให้เพื่อน ๆลองเข้าไปดูค่ะ จากคุณ : มดแดงน้อย (มดแดงน้อย) - [ 15 พ.ค. 52 23:06:33 ]

ความคิดเห็นที่ 18 เอาน้ำปลามาฉีดเลยได้มั้ย ขี้เกียจหมัก จากคุณ : น้าโหด - [ 16 พ.ค. 52 08:01:06 ]

ความคิดเห็นที่ 19 ปุ๋ยปลาดีค่ะ ปัญหาคือ ขี้เกียจเปลี่ยนเครื่องปลูกอะ ส่วนสารพัดยา ไม่เคยใช้ค่ะ ปลูกบนบ้าน ใช้เองคงตายก่อนแมลง ก่อนหน้านี้ใช้ยาฉุนผสมน้ำรดต้นไม้ทิตละหน ดีนะ ตอนนี้ขี้เกียจอะ แล้วที่บ้านก็อด จนไรแดงมันยังอยากจะย้ายบ้านเลย อิอิ จากคุณ : whilly - [ 16 พ.ค. 52 11:53:29 ]

ความคิดเห็นที่ 20 สาระดีมากกกกกกกกก ๆ ๆ ๆๆ เลยครับ จากคุณ : Dendmax - [ 16 พ.ค. 52 12:17:25 ]

ความคิดเห็นที่ 21 เยี่ยม ครับ ท่านประธานฯ จากคุณ : chairoj2000 - [ 16 พ.ค. 52 12:46:48 ]

ความคิดเห็นที่ 22 เป็น...  วิชาการทางเลือก  ที่ดีมาก ๆ  ครับ...  ขอบคุณครับ จากคุณ : ผู้ชายป้ายเหลือง (ผู้ชายป้ายเหลือง) - [ 16 พ.ค. 52 13:41:32 ]

ความคิดเห็นที่ 23 สองจิตสองใจครับ ใช้สารเคมีก็ได้ผลเร็วดีครับ ใช้พวกสารสกัดจากธรรมชาติได้ผลช้าครับ......... ขอบคุณที่มีข้อคิดดีๆ มาฝากครับ จากคุณ : แว่น (chaicha-um) - [ 16 พ.ค. 52 14:10:26 ]

ความคิดเห็นที่ 24 ขอบคุณสำหรับสาระดีๆ มีประโยชน์มากๆ ทั้งต่อสุขภาพเรา และสิ่งแวดล้อม ขอออกความเห็นเรื่องปัญหาเครื่องปลูกที่ผุไว สำหรับที่บ้านจะไม่ใช้กาบมะพร้าว ถ้าเป็นพวกแคทลียาจะใช้ถ่านกับโฟมค่ะ จากคุณ : nidbanlad - [ 16 พ.ค. 52 14:18:29 ]

ความคิดเห็นที่ 25 ขอบคุณครับ... จากคุณ : na_nin - [ 16 พ.ค. 52 16:51:18 ]

ความคิดเห็นที่ 26 มารับความรู้ครับ จากคุณ : jeabnun - [ 16 พ.ค. 52 16:54:09 ]

ความคิดเห็นที่ 27 ขอบคุณสำหรับข้อมูลค่ะ ละเอียดมากๆเลย สุดยอด แต่อยากทราบว่า .....เชื้อราบิวเวอเรีย  และ เชื้อราไตรโคเดอร์ม่า หาซื้อได้ที่ไหนค่ะ อยากเอามาทดลองบ้างเพราะไหนๆก็ไม่เคยฉีดยาอะไรอยู่แล้ว เอารามาปล่อยในเรือน เผื่อจะช่วยได้บ้าง vbvb ปุ๋ยปลาเคยลองทำมาฉีดเฟิร์นแล้วเหม็นมากๆ แล้วเด๋วนี้หาซื้อหัวปลายากด้วย เพราะเขาเอาไปเลี้ยงปลาดุกหมด  ตอนนี้เลยใช้ปุ๋ยคอกกับปุ๋ยละลายช้าแทนสะดวก จากคุณ : panmai - [ 16 พ.ค. 52 19:46:17 ]

ความคิดเห็นที่ 28 ข้อดีข้อเสียครบถ้วนเลยค่ะ แต่ถ้ามีจำนวนมากคงใช้แบบชีวภาพไม่ไหวค่ะ แพงและเหนื่อย ส่วนแมลงลองแบบชีวภาพดูทุกอย่างแล้วไม่มีอะไรป้องกันได้เลยค่ะ รดน้ำแล้วก็หายหมด จากคุณ : V.53 - [ 16 พ.ค. 52 21:53:15 A:124.120.238.81 X: ]

ความคิดเห็นที่ 29 ขอบคุณมากครับ จากคุณ : ช้างเมืองชล - [ 17 พ.ค. 52 09:19:44 ]

ความคิดเห็นที่ 30 ขอบคุณสำหรับความรู้ค่ะ จากคุณ : สายชลธี - [ 17 พ.ค. 52 09:53:38 ]

ความคิดเห็นที่ 31 เคยพบการวิจัยว่าสารเอธิลแอลกอฮอล์ ช่วยในการกระตุ้นการเจริญเติบโตได้เคย มีข่าวว่าเอาเบียก้นขวดผสมน้ำรดกล้วยไม้ ไม้ออกดอกเอาไปประกวดชนะมาแล้ว พอดีไปพบสารสกัดจากเปลือกมังคุดด้วย เอธิลแอลกอฮอล์ ป้องกันราและแบคที่เรีย ผมใช้มาจะเข้าปีที่สองแล้วยังไม่เคยต้อง ใช้ยากันราและแบคที่เรียที่เป็นสารเคมี น้ำส้มควันไม้ก็เป็นสารกระตุ้นการเจริญเติบโต ไปเจอที่เขาผสมกับสารสกัดสะเดา ก็เอามาทด ลองใช้ ก็ดีในระดับหนึ่ง สารสกัดจากพริก ข่า พริกไทยสด ยูคาลิปตัส ก็เอามาทดลองใช้ เพื่อขับไล่แมลง ไคโตซานสกัดจากเปลือกกุ้งเปลือกปู ก็เป็นสารกระตุ้นการเจริญเติบโต สารเร่งรากแต่ไม่แนะนำบี1 ผมใช้สองตัวสลับกัน พวกรากอากาศจะตอบสนองอย่างเห็นได้ชัดครับ รูสโกรกับรูเบิลครับ ผสมให้ไปพร้อมๆกับปุ๋ยเกร็ดละลายน้ำ ต้นไม้ก็งามดี คงเหลือสารสกัดสาหร่ายที่ผมยังไม่ได้ทดลองใช้ครับ จากคุณ : ชัดเจนน้องนาง - [ 17 พ.ค. 52 18:46:31 ]

ความคิดเห็นที่ 32 ท่านประธานนี่สุดยอดจริงๆ จากคุณ : ckoson - [ 18 พ.ค. 52 00:47:35 ]

ความคิดเห็นที่ 33 ..ขอบคุณมากค่ะ...             เป็นข้อมูลที่ดีสำหรับมือใหม่หัดเลี้ยงอย่างเรา...เพราะสับสนมาก             ทุกวันนี้เลยตุนไว้ทั้งปุ๋ยที่เป็นสารเคมีและปุ๋ยชีวภาพ...แต่ไม่ค่อยได้ใช้ค่ะ..อิอิ จากคุณ : ภัสสรา - [ 18 พ.ค. 52 08:57:44 ]

ความคิดเห็นที่ 34 ขอเตือนทุกๆ ท่านก่อนครับ ผมลองมาแล้วไม้งามจริง แต่ทุกๆ ท่านรู้หรือไม่ว่ามีสารบางอย่างย่อยสะลายอินทรีย์วัตถุ และเครื่องปลูกที่เราปลูกกันอยู่นะ เป็นประเภทไหนละ คิดให้ดีนะครับก่อนจะมาเสียใจในภายหลัง ปล.ตอนนี้กำลังเปลี่ยนมะพร้าวอัดไปเรื่อยๆ (ทั้งสวน) และระวังไม้จะน็อคด้วยนะครับ จากคุณ : เจ้าพระยาสุราบาน (เจ้าชายเคโระ) - [ 18 พ.ค. 52 16:20:19 ]

ความคิดเห็นที่ 35 เยี่ยมเลยครับ...ท่านปุ้ม....สาระดี ๆแบบนี้ขอสนับสนุนน่ะครับ..ขอบคุณสำหรับวิทยาทานน่ะครับ..ท่านปุ้ม จากคุณ : คัทลียา - [ 18 พ.ค. 52 21:17:01 ]