 |
บทความเกี่ยวกับรองเท้านารี ( เรื่องเครื่องปลูก )
หอมกลิ่นกล้วยไม้: กล้วยไม้ในกลุ่มรองเท้านารี (17) การปลูกกล้วยไม้รองเท้านารี
กล้วยไม้รองเท้านารีส่วนมากเป็นกล้วยไม้ที่เราสามารถปลูกบำรุงให้เจริญงอกงามและออกดอกได้ไม่ยากนักในภาคกลางของประเทศไทย มีบางชนิดซึ่งมีแหล่งกำเนิดตามธรรมชาติอยู่สูงจากระดับน้ำทะเลหลายพันฟุตและมีอุณหภูมิค่อนข้างต่ำ เช่น รองเท้านารีอินทนนท์ (paph.villosum) ที่มีแหล่งกำเนิดอยู่บนดอยอินทนนท์ใน จ.เชียงใหม่ ซึ่งได้เคยนำมาทดลองปลูกในภาคกลางของไทย ปรากฏว่าอ่อนแอลงไปและเน่าตายในที่สุด
แต่ถ้าผู้สนใจกล้วยไม้สกุลนี้ได้คัดเลือกเอาชนิดที่สามารถเจริญงอกงามได้ที่สภาพธรรมชาติของบริเวณที่จะทำการปลูกนั้น ก็จะปลูกได้เป็นผลสำเร็จ เนื่องจากกล้วยไม้รองเท้านารีที่มีอยู่หลายชนิดจากแหล่งกำเนิดตามธรรมชาติซึ่งมีสภาพแวดล้อมต่างๆ กัน นอกจากนั้นเราอาจนำเอาเกสรจากชนิดซึ่งเลี้ยงยากแต่ดอกมีความสวยงามมาก มาผสมกับชนิดที่เลี้ยงง่ายๆ ลูกผสมที่ได้ใหม่ก็อาจมีนิสัยเลี้ยงง่ายขึ้น และยังได้ดอกซึ่งมีลักษณะความงามในแบบที่แปลกออกไปอีก
เครื่องปลูก
เครื่องปลูกกล้วยไม้รองเท้านารีมีอยู่หลายอย่าง ในต่างประเทศมักจะนิยมใช้ออสมันดาผสมกับมอสขาวเล็กน้อย อัดลงไปในระหว่างราก วิธีการนี้คงจะเหมาะสำหรับใช้การปลูกกล้วยไม้รองเท้านารีที่พบขึ้นบนต้นไม้ตามธรรมชาติ ซึ่งมีอยู่เพียงสองชนิดเท่านั้นคือ รองเท้านารีกาญจนบุรี (Paph.parishii) และ รองเท้านารีอินทนนท์ (Paph.villosum) ซึ่งข้าพเจ้าได้เคยทดลองเครื่องปลูกประเภทนี้ โดยใช้หลักเกณฑ์ในการทำปุ๋ยหมักอย่างง่ายๆ และเป็นวิธีประหยัดสำหรับประเทศเราด้วย
การเตรียมปุ๋ยหมักสำหรับกล้วยไม้รองเท้านารีนี้ ขั้นต้นใช้ไม้กระดานเก่าๆ ซึ่งเหลือใช้จากการก่อสร้างมากั้นเป็นกรอบสี่เหลี่ยม กว้างยาวประมาณ 5 ฟุต และสูง 16 นิ้วฟุต หรือใช้กระดาษหน้า 8 นิ้ว สองแผ่นซ้อนกันตามตั้ง ถ้าประสงค์จะทำขนาดกรอบไม่ได้กว้างยาวและสูงกว่าที่ได้กล่าวไว้ในที่นี้ก็ย่อมกระทำได้ สุดแล้วแต่ความต้องการปริมาณปุ๋ยหมักและสถานที่จะอำนวยให้ ส่วนกรอบไม้กระดานที่ทำขึ้นให้นำไปตั้งไว้ข้างรั้วบ้านหรือที่หนึ่งที่ใดซึ่งไม่ทำให้เกะกะและสามารถรับน้ำฝนในฤดูฝนได้สะดวก
ถึงฤดูแล้งซึ่งมีใบก้ามปูหรือใบทองหลางร่วงหล่นผลัดใบ ให้เก็บใบไม้แห้งเหล่านี้มาใส่ในกรอบไม้ใส่ลงไปชั้นหนึ่ง รดน้ำให้ชุ่มแล้วใช้เท้าย่ำจนแน่น เสร็จแล้วเอาปุ๋ยขี้วัวโรยทับสลับกันเป็นชั้นๆ เรื่อยไปจนเต็มกรอบไม้ และพูนขึ้นมาพ้นขอบเล็กน้อย จำนวนขี้วัวไม่ควรจะเกินหนึ่งในห้าส่วนของใบไม้แห้ง เมื่อกองเสร็จแล้วจำเป็นต้องรดน้ำให้ชุ่มทุกๆ วัน
เมื่อปุ๋ยหมักมีอายุได้ประมาณหนึ่งถึงสองเดือน ให้ใช้จอบคลุกเอาด้านล่างขึ้นข้างบนและรดน้ำต่อไปเรื่อยๆ การคลุกจำเป็นจะต้องปฏิบัติประมาณ 1-2 เดือนต่อครั้ง การรดน้ำก็จำเป็นจะต้องปฏิบัติอย่างสม่ำเสมอ ในระยะที่ปุ๋ยกำลังผุจะสังเกตเห็นว่าภายในกองปุ๋ยก่อนการคลุกจะมีความร้อนขึ้นสูงมาก เมื่อการผุของปุ๋ยค่อยๆ เบาบางลง ความร้อนก็จะลดลงด้วย ในที่สุดก็จะลดลงสู่ระดับปกติ และเนื้อของปุ๋ยทั้งหมดก็จะร่วนและเปื่อย เก็บไว้ใช้ประโยชน์ได้
ปุ๋ยหมักนี้นอกจากกล้วยไม้รองเท้านารีแล้ว ยังสามารถนำไปใช้ปลูกกล้วยไม้ดินอื่นๆ และต้นไม้กระถางได้เป็นอย่างดี
สำหรับกล้วยไม้รองเท้านารีนั้น ก่อนการใช้ ควรเอาทรายหยาบประมาณหนึ่งส่วนผสมลงในปุ๋ยหมัก 8-9 ส่วน คลุกให้เข้ากันจนทั่ว ถ้าเป็นกล้วยไม้รองเท้านารีประเภทขึ้นบนภูเขาหินปูน เช่น Paph.bellatulum, Paph.niveum, Paph.godefroyae, Paph.concolor, Paph.exul ฯลฯ ควรจะเอาปูนขาวเก่าๆ หรืออิฐก่อสร้างเก่าๆ ที่มีปูนติดมาทุบละเอียดผสมลงไปสักเล็กน้อย
อย่างไรก็ตาม เครื่องปลูกที่ได้เตรียมเสร็จแล้วนี้ ถ้าหากจะได้รับการอบหรือนึ่งเพื่อฆ่าเชื้อโรคได้ก็จะเป็นการดียิ่งขึ้น
คิดว่าคงเป็นประโยชน์สำหรับผู้ที่ทำการปลูกใหม่นะครับ
*** แหล่งที่มา นสพ. คม ชัด ลึก ***
จากคุณ :
modelunicorn
- [
12 ม.ค. 48 11:20:29
]
|
|
|
|
|