ความคิดเห็นที่ 1 มารอฟังด้วยคนครับ จากคุณ : แมงเม่าติดลมบน - [ 4 ก.พ. 48 13:21:40 ]

ความคิดเห็นที่ 2 วันก่อนดูทีวี อาจารย์ที่ มก แสดงการใช้ตัวไร(พันธ์อะไรไม่รู้ สีขาว)ซึ่งเป็นตัวห้ำของไรแดง น่าสนใจดีมากเลยครับ แต่ไม่รู้จะไปหาตัวมันมาปล่อยในสวนเราได้อย่างไร จากคุณ : กาย - [ 4 ก.พ. 48 15:04:51 A:61.90.91.251 X: ]

ความคิดเห็นที่ 3 มารอฟังอีกคนครับ จากคุณ : EasternCoast - [ 4 ก.พ. 48 20:05:33 ]

ความคิดเห็นที่ 4 มีคนรู้จักที่ทำสารสกัดชีวภาพใช้เองฝากน้ำสมุนไพรชีวภาพมาให้ลองกับกล้วยไม้ ได้ผลดีจริงๆ เพราะโรคแอนแทรกโนสกับใบจุดหายไปเลยจริงๆ แต่ต้องใช้ความเข้มข้นต่ำๆค่ะ จากคุณ : วิฬาร์ - [ 4 ก.พ. 48 22:33:56 A:61.91.75.187 X: ]

ความคิดเห็นที่ 5 สารเคมีทางการเกษตรเป็นเพียงปัจจัยการผลิตปัจจัยหนึ่งที่ช่วยคุ้มครองพืช ทำให้พืชสามารถให้ผลผลิตสูงและมีคุณภาพตามที่ต้องการของผุ้บริโภค  ถ้าโดยปรกติแล้วถ้าปราศจากปัญหาศัตรูพืชก็ไม่จำเป็นต้องนำสารเคมีเกษตรเพื่อป้องกันศัตรูพืชมาใช้  ในกรณีที่หลีกเลี่ยงไม่ได้เช่นการผลิตเพื่อการค้า ขาดแคลนกำลังคนและแรงงานมาคอยกำจัดด้วยวิธีกล  จึงต้องนำสารเคมีเข้ามาใช้  ผุ้ใช้ก็ควรศึกษาถึงคุณสมบัติของสารเหล่านั้น ให้เข้าใจถึงวิธีการใช้  ข้อควรระมัดระวังว่าต้องระวังอะไรเป็นพิเศษ   สารเคมีก็เปรียบเหมือนเครื่องมือของเกษตรกรผุ้ใช้   เพื่อยับยั้งการเข้าทำลายของศัตรูพืชได้อย่างรวดเร็วและทันต่อเหตุการณ์ ในกรณีที่ไม่สามารถใช้วิธีการอื่นๆได้ ผลเสียของการใช้สารเคมีเกษตรและผลกระทบที่เกิดขึ้น  ส่วนใหญ่มักเกิดจากฟฤติกรรมการใช้ของเกษตรกรที่มีมากเกินความจำเป็น  ใช้พร่ำเพรื่อ  และการใช้อย่างผิดๆ  ผลการกระทำดังกล่าว ทำให้การใชสารเคมีเกษตรได้รับการโจมตีและเป็นที่รังเกียจของผุ้คนที่อยู่วงนอกการเกษตรและผู้ที่ไม่มีความจำเป็นต้องใช้ สำหรับผุ้ที่อยู่ในวงการเกษตร  สารเคมีเกษตรได้รับการยอมรับทั้งในอดีตและปัจจุบัน ว่ามีประโยชน์มหาศาล   แต่ในขณะเดียวกันก็มีโทษมากเมื่อนำไปใช้ไม่ถูกต้อง  ถ้าเปรียบเทียบกับด้านเวชภัณฑ์แล้ว สารเคมีเกษตรเปรียบเหมือนยาที่รักษาตามแพทย์แผนใหม่  แพทย์ที่รักษาเป็นคนวินิจฉัยโรคที่เกิดขึ้นกับคนไข้  เพื่อให้ทราบสาเหตุที่เจ็บป่วยแล้วก็ให้ยารักษา    ยาแผนโบราณหรือยาสมุนไพรที่เป็นภูมิปัญญาชาวบ้าน ที่คนทั่วไปใช้อยู่เป็นประจำในกรณีที่เจ็บป่วยเล็กน้อย ก็เปรียบเสมือนสมุนไพรน้ำหมัก หรือสารชีวภาพที่มีการโฆษณาชวนเชื่อเพื่อนำมาทดแทนสารเคมีทุกวันนี้  หากมีอาการรุนแรงแล้วอาจจะมีประสิทธิภาพไม่เพียงพอที่จะแก้ปัญหาได้ สารเคมีเกษตรคงจะไม่น่ารังเกียจหากรู้จักดีแล้วและนำมาใช้อย่างถูกต้องเมื่อถึงคราวจำเป็น  สารเคมียังเป็นเพื่อนที่วางใจได้ของเกษตรกร  ที่จะเฝ้าดูแลพืชผลของเกษตรกรให้ผลิตดอกออกผลและมีชีวิตยืนยาว   แต่ที่น่ารังเกียจน่าจะเป็นคนที่ผลิตสารมหัศจจรย์หากินหลอกลวงชาวบ้านไปวันๆ  หรือผู้ที่ผลิตสารเคมีไม่ได้คุณภาพมาตราฐานและผิดกฏหมายมากกว่า จากคุณ : เค้าว่าฉันค้ายาพิษ (เหลืองจันท์) - [ 5 ก.พ. 48 09:28:30 ]

ความคิดเห็นที่ 6 หลังยุคปฏิวัติเขียว การผลิตสินค้าเกษตรได้ปรับเปลี่ยนรูปแบบจากการผลิตเพื่อบริโภคภายในครัวเรือนมาเป็นการผลิตเพื่อการค้าหรือแลกเปลี่ยน ทำให้ขนาดการผลิตใหญ่ขึ้น การใช้ปัจจัยการผลิตต่างๆ มากขึ้น เพื่อให้ได้ผลผลิตที่มีปริมาณและคุณภาพ ภายในเวลาที่ต้องการ และภายใต้ต้นทุนที่ต่ำที่สุด การใช้สารเคมีเพื่อส่งเสริมการเจริญเติบโตของพืช ลดการระบาดของแมลงศัตรูและโรคพืชต่างๆ ก็มีมากขึ้นตามลำดับ ผมเห็นด้วยกับคุณเหลืองจันท์ที่ว่า "สารเคมีเกษตรคงจะไม่น่ารังเกียจหากรู้จักดีแล้วและนำมาใช้อย่างถูกต้องเมื่อถึงคราวจำเป็น" แต่ต้องยอมรับว่าผู้ใช้จำนวนมากยังขาดความรู้และวางแผนในระยะยาวว่าเขาจะได้รับผลผลิตนั้นในระยะยาวโดยส่งผลกระทบกับสิ่งแวดล้อมน้อยที่สุดได้อย่างไร "กล้วยไม้ของหนูเป็นอะไร ใช้ยาอะไรดีคะ" คำถามที่เรามักพบบ่อยมาก ทั้งที่ผู้ถามอาจมีกล้วยไม้แค่ 10 20 ต้น ผมกำลังจับประเด็นให้เห็นว่า เมื่อเกิดปัญหาเพียงเล็กน้อย เรามักนึกถึงสารเคมีที่ใช้รักษา โดยมิได้กลับมาคิดว่ามีวิธีอื่นที่ดีกว่า คุ้มค่ากว่า และปลอดภัยกว่าหรือไม่ หลักการควบคุมโรคและแมลงศัตรูพืชโดยชีววิธีควรสนับสนุนครับ ใครมีประสบการณ์เด็ดๆ ที่ใช้กับกล้วยไม้อยากเล่าให้เพื่อนๆ ฟังผ่าน e newsletter ได้จะขอบคุณมากเลยครับ แก้ไขเมื่อ 05 ก.พ. 48 10:32:58 จากคุณ : น้าโหด (น้าโหด) - [ 5 ก.พ. 48 10:32:03 ]

ความคิดเห็นที่ 7 โอ้....พระเจ้า..จอร์จ.........สาระล้วนๆเลยก่า.......อ่านแล้วอิ่มเลย...เป้นอาหารสมองอย่างดีเลยคับพี่...........พี่เหลืองคับ.......แล้วการที่ใช้อย่างดีที่สุด ให้ก่อให้เกิดมลพิษน้อยที่สุดทำอย่างไรคับ....บ้างรังที่ผมเห็น...ต้องใช้ยาคุมทุกอาทิตย์เลยคับ....มันจำเป็นขนาดนั้นหรือป่าวคับ จากคุณ : แซนเดอเรียน่า - [ 5 ก.พ. 48 20:19:04 ]

ความคิดเห็นที่ 8 พี่เหลืองจันท์อย่าเพิ่งน้อยใจครับ โถ่สารเคมีก็เหมือนยารักษาโรคที่มีประโยชน์มากมายหากแต่ต้องใช้ให้เหมาะสม แต่การแพทย์เค้ายังมีแพทย์ทางเลือกเลย ทำไมเราจะมียาอินทรีย์และชีวภาพเป็นทางเลือกบ้างไม่ได้เหรอ ผมคิดว่าหากเป็นการเลี้ยงสำหรับการค้าสารเคมีคงเหมาะสมกว่าทั้งความรู้ความเข้าใจของผู้ดูแล และปริมาณของต้นไม้ รวมถึงประสิทธิภาพย่อมสูงกว่าแน่นอน แต่สำหรับมือสมัครเล่นอย่างผมเนี้ย ซึ่งเลี้ยงในบ้านใกล้ๆห้องนอน เราอยากดูแลอย่างใกล้ชิดเมื่อมีเวลา เราจึงอาจได้รับสารพิษได้มากพอดูครับ การใช้สารชีวภาพจึงน่าเป็นทางเลือกในการป้องกันใช้ได้เป็นประจำ แต่หากมีโรคระบาดขึ้นรุนแรงก็คงยังต้องพึ่งสารเคมีซึ่งมีประสิทธิภาพดีกว่า ผมตั้งกระทู้นี้เพียงอยากขอความรู้จากผู้ที่มีประสบการณใช้สารชีวภาพ ไม่ได้ต่อว่าร้ายสารเคมีที่มีประโยชน์เหมือนยารักษาโรคที่ช่วยลูกๆเราให้หายป่วยครับ จากคุณ : ไม่ใช่ยาพิษแต่เป็นยาวิเศษต่างห (Paphmania) - [ 6 ก.พ. 48 00:03:58 ]

ความคิดเห็นที่ 9 เรื่องนี้ยาวครับ  ถ้าปลูกไม่มากและไม่เป็นการค้าก็ไม่จำเป็นต้องใช้ก็ได้ครับ  เรื่องนี้นาๆจิตตังครับ  ทุกอย่างล้วนมีสองมุมมองเสมอ(อย่างต่ำสุด) จากคุณ : พีแพท47 - [ 6 ก.พ. 48 05:20:13 ]