ความคิดเห็นที่ 1 ผมเคยมาที่นี่ครั้งแรกเมื่อ 4 ปีก่อน จากคุณ : น้าโหด - [ 6 ต.ค. 48 13:05:09 ]

ความคิดเห็นที่ 2 กลับมาอีกครั้งจึงพบว่ามันเปลี่ยนแปลงไปแล้ว (ไปในทางเลวร้าย) จากคุณ : น้าโหด - [ 6 ต.ค. 48 13:06:11 ]

ความคิดเห็นที่ 3 หากใครพอจำเรื่อง "จากหาดทรายขาว สู่ตะนาวศรี" ที่ผมเขียนลงใน E newsletter มันหมายถึงที่นี่ครับ จากคุณ : น้าโหด - [ 6 ต.ค. 48 13:07:31 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ที่ที่บอกว่าม้าวิ่งขึ้นละลานตาจนน้องที่ไปร้องเตือนผมว่า "พี่โหด ระวังเหยี่ยบ" จากคุณ : น้าโหด - [ 6 ต.ค. 48 13:09:01 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ต้นเดือนตุลาคม ปี 2548 ความจริงเป็นปลายฤดูการออกดอกของม้าวิ่งแล้วล่ะครับ จากคุณ : น้าโหด - [ 6 ต.ค. 48 13:10:17 ]

ความคิดเห็นที่ 6 เพราะมันเริ่มออกดอกมาตั้งแต่ต้นฝน ประมาณเดือนมิถุนายนของทุกปี จากคุณ : น้าโหด - [ 6 ต.ค. 48 13:11:19 ]

ความคิดเห็นที่ 7 แต่ความอึดของมันทำให้มันเบ่งดอกมาจนถึงเดือนตุลาคม จากคุณ : น้าโหด - [ 6 ต.ค. 48 13:12:20 ]

ความคิดเห็นที่ 8 แล้วดอกมันก็สวยมากด้วยครับ จากคุณ : น้าโหด - [ 6 ต.ค. 48 13:13:19 ]

ความคิดเห็นที่ 9 มากมายหลายสีเหลือเกิน จากคุณ : น้าโหด - [ 6 ต.ค. 48 13:14:25 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ทั้งหมดนี้จึงน่าจะเป็นคำตอบที่ดีที่คุณ abman ถามว่าดอกม้าวิ่งมีกี่สี ทั้งหมด 10 กว่าภาพนี้ถ่ายจากป่าเดียวกันครับ จากคุณ : น้าโหด - [ 6 ต.ค. 48 13:15:55 ]

ความคิดเห็นที่ 11 มาดูต้นกันบ้างครับ จุดนี้อยู่ห่างจากทะเลไม่มากนัก จากคุณ : น้าโหด - [ 6 ต.ค. 48 13:17:16 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ครั้งที่ผมมาครั้งแรก ที่นี่ยังพอเห็นมีไม้สูงประมาณ 3-4 เมตร จากคุณ : น้าโหด - [ 6 ต.ค. 48 13:18:55 ]

ความคิดเห็นที่ 13 แต่นั่นมันเป็นอดีต เพราะไม้ใหญ่ๆ คนตัดเผาถ่านทำเชื้อเพลิงหมดแล้ว จากคุณ : น้าโหด - [ 6 ต.ค. 48 13:20:16 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ปัจจุบันก็เหลือไม้ขนาดสูงกว่าหัวเราไม่เท่าไร จากคุณ : น้าโหด - [ 6 ต.ค. 48 13:21:26 ]

ความคิดเห็นที่ 15 และที่น่าใจหายคือทุกวันนี้ ม้าวิ่งเมื่อ 4 ปีก่อนเหลืออยู่ที่นี่ไม่ถึงครึ่ง จากคุณ : น้าโหด - [ 6 ต.ค. 48 13:22:51 ]

ความคิดเห็นที่ 16 มันขึ้นได้ทุกที่ทั้งที่โดนแดดจัดๆ และหลบอยู่ตามโคนต้นไม้ จากคุณ : น้าโหด - [ 6 ต.ค. 48 13:24:09 ]

ความคิดเห็นที่ 17 และทนความเค็มได้ดี ดูสิครับขึ้นบนทรายทะเลยังอยู่ได้เลย จากคุณ : น้าโหด - [ 6 ต.ค. 48 13:25:20 ]

ความคิดเห็นที่ 18 นอกจากมันจะสามารถขึ้นบนหินได้แล้วต้องจัดมันให้อยู่ในกลุ่มพืชทนเค็มด้วยครับ จากคุณ : น้าโหด - [ 6 ต.ค. 48 13:26:40 ]

ความคิดเห็นที่ 19 ความสวยงามทำร้ายตัวเองเมื่อมีคนหมายปองมัน เมื่อมี demand จากที่ต่างๆ มันจึงจำต้องลาจากบ้านเกิด ทิ้งญาติพี่น้องซึ่งก็ไม่รู้ว่าจะเผชิญชะตากรรมเดียวกับมันวันไหน จากคุณ : น้าโหด - [ 6 ต.ค. 48 13:29:02 ]

ความคิดเห็นที่ 20 มันกำลังถูกรุกรานอย่างหนัก ผมสังเกตเห็นรอยกระชากดึงเป็นแผงๆ ไม่ต้องเชิญคุณหญิงหมอพรทิพย์มาดูก็มั่นใจได้ว่า มันถูกขโมยออกจากพื้นที่เป็นจำนวนมาก จากคุณ : น้าโหด - [ 6 ต.ค. 48 13:31:35 ]

ความคิดเห็นที่ 21 ในบริเวณนั้นมีซากเจ้าม้าวิ่งตกอยู่เกลื่อน บ้างก็แห้งตายไปแล้ว บางส่วนที่โชคดีอาจได้น้ำได้ท่ารอดตาย แต่อีกหลายต้นก็พิกลพิการด้วยแรงทึ้งของมนุษย์ จากคุณ : น้าโหด - [ 6 ต.ค. 48 13:34:04 ]

ความคิดเห็นที่ 22 พ่อแม่พี่น้องเพื่อนฝูงทิ้งไปแล้ว ที่เหลืออยู่ก็เปล่าเปลี่ยวยิ่งนัก จากคุณ : น้าโหด - [ 6 ต.ค. 48 13:35:44 ]

ความคิดเห็นที่ 23 ถึงเวลาหรือยังครับว่าเราต้องตัดสินใจทำอะไรซักอย่างเพื่อทรัพยากรธรรมชาติของเรา จากคุณ : น้าโหด - [ 6 ต.ค. 48 13:37:01 ]

ความคิดเห็นที่ 24 ให้ที่เหลือได้มีชีวิตรอดต่อไป จากคุณ : น้าโหด - [ 6 ต.ค. 48 13:37:54 ]

ความคิดเห็นที่ 25 และให้ชีวิตใหม่ได้กำเนิดในบ้านที่แท้จริงของพวกเขา จบแล้วครับ หากไม่เป็นการรกสายตาเกินไปติดตามอ่านเรื่องยาวๆ ใน bloggang นะครับ จะเขียนให้เสร็จภายใน 2 สัปดาห์ เพื่อนๆ ท่านใดทำงานด้านอนุรักษ์หรือเกิดอ่านกระทู้นี้แล้วซึ้งจับใจอยากจัดกิจกรรมเพื่อการอนุรักษ์ช่วยเรียกใช้ผมด้วยครับ ยินดีเต็มที่จริงๆ จากคุณ : น้าโหด - [ 6 ต.ค. 48 13:41:43 ]

ความคิดเห็นที่ 26 ไม่ทราบว่าม้าวิ่งถ้าเราเอามาปลูกในกทม.จะออกดอกให้เห็นไหมครับ ผมเห็นที่ลานปลูกขายกันพรึบ จากคุณ : รักษ์ไม้ - [ 6 ต.ค. 48 13:50:26 A:10.3.3.183 X:203.146.6.101 TicketID:109098 ]

ความคิดเห็นที่ 27 อืม ทำค่ายฯ อยู่เหมือนกัน เดี๋ยวลองคิดดูว่าจะทำไงได้ต่อไปนะครับ เมล์คุยกันนะน้า จากคุณ : เสือจุ่น - [ 6 ต.ค. 48 13:54:01 ]

ความคิดเห็นที่ 28 โอ้อนาจใจ... จากคุณ : buaravong - [ 6 ต.ค. 48 13:58:57 ]

ความคิดเห็นที่ 29 ..... จากคุณ : อินถวา - [ 6 ต.ค. 48 14:16:32 ]

ความคิดเห็นที่ 30 ลงต่อนะคะ  ก้อยากให้มีที่เก็บรักษาเป็นแหล่งที่อนุรักษ์  เป็นเขตหวงห้ามประมาณนั้น...ทั่วทุกภาค จะได้มีครบคิดง่าย...แต่ทำยาก จากคุณ : anlee - [ 6 ต.ค. 48 14:33:36 ]

ความคิดเห็นที่ 31 โอ้......มายก็อด จากคุณ : บุหงากะสุต - [ 6 ต.ค. 48 14:54:47 ]

ความคิดเห็นที่ 32 ที่เหลืออยู่จะทำยังงัย จากคุณ : ยุ่น..ดิ - [ 6 ต.ค. 48 14:55:22 ]

ความคิดเห็นที่ 33 สะท้อนใจครับ ม้าวิ่งแถวภูเขาบ้านผมโชคดีหน่อยหลบเร้นสายตาผู้คน จึงไม่ค่อยโดนลอบนำไปขายเท่าไหร่ แต่เห็นด้วยอย่างยิ่งที่จะทำอะไรสักอย่างก่อนที่จะสายเกินไปครับ จากคุณ : สิงโตอ้วน (สิงโตอ้วน) - [ 6 ต.ค. 48 15:04:03 ]

ความคิดเห็นที่ 34 ...... จากคุณ : Rath - [ 6 ต.ค. 48 15:18:52 ]

ความคิดเห็นที่ 35 แต่ผิดกับที่นี้ครับ การทำลายม้าวิ่งส่วนใหญ่ไม่ได้มีการกระทำโดยการเก็บออกมาขาย แต่เป็นการทำลาย ทั้งระบบเลยด้วยซ่ำ คือการตัดป่าบุกรุกป่าในตอนแรก ๆเป็นการตัดไม้ใหญ่ ออกมา ขายคงเคยได้ยินข่าวมาบ้างเกี่ยวกับ "ป่าท่าชนะ" ในการตัดช่วงแรก ๆ ก็ไม่ค่อยมีผลกระทบมากเท่าไร เพราะม้าวิ่งเองทนต่อป่าที่ไม่ค่อยสมบูรณ์(อย่างที่น้าโหดบอก)แต่หลังจากนั้นไม่ กี่ปีก็มีการรุกเข้าไปเพิ่มแต่คราวนี้ไม่ได้ตัดเฉพาะไม้แต่เป็นการไถ่ทิ้งทั้งแปลงเพื่อปลูกยางและปาล์มน้ำมัน เคยมีคนแถวนี้ไปเก็บมา ได้ก่อนที่บริเวณนั้นจะถูกไถ(เขาบอกว่าเก็บมาได้แค่กระสอบเดียว ส่วนที่เหลือเอามาไม่หมดยังเหลืออีกเยอะมากมาย) แล้วเอามาปลูกรอดบ้างไม่รอดบ้างแจกจ่ายไปทั่ว ตอนนี้เท่าที่ถามและเดินสำรวจ มีน้อยมากในบริเวณป่าที่ถูกทำลายแต่ยังไม่ได้ไถ และยังมีอยู่ในเขตที่ มีการดูแลเข็มแข็ง (พอมีแต่ไม่มากเหมือนเมือก่อน) แก้ไขเมื่อ 06 ต.ค. 48 15:22:51 จากคุณ : cha_srt - [ 6 ต.ค. 48 15:19:19 ]

ความคิดเห็นที่ 36 เห็นแล้วสะเทือนใจมากเลย... จากคุณ : ปูไต่ - [ 6 ต.ค. 48 15:21:36 ]

ความคิดเห็นที่ 37 ขอบคุณมากครับที่นำความสลดใจมาให้กับพวกเราได้รับทราบ แต่จริงๆ แล้วในผืนป่าที่ผมมีโอากาสเข้าไปก็เป็นอย่างนี้ทั้งนั้นแหละครับ ที่เห็นชัดๆ ก็คงต้องยกให้ภูหลวงแห่งเมืองเลย ที่ได้รับการคุกคามอย่างหนัก จนพรรณไม้หลายชนิดแทบสูญพันธุ์ไปจากธรรมชาติ ม้าวิ่งก็เป็นหนึ่งในนั้น เพราะสมับไม่ต้องนานก็ได้ครับประมาณ 7 - 8 ปี ที่แล้วยังสะพรั่งบานบนลานหินอย่างทรนง แต่ปัจจุบันเจอสักกอก็ลำบากเต็มที เมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมาได้ขึ้นไปสำรวจกล้วยไม้บนยอดเขาของภูหลวงแล้วก็ต้องใจหาย เพราะพื้นที่ๆ เข้าไปก็เป็นป่าลึกแต่ก็มีร่องรอยการลักลอบนำมาจำหน่ายอย่างมากมาย และในอีกหลายพื้นที่เหลือเกินที่ปัญหานี้เกิดขึ้น จึงวอนขอเพื่อนเลือกซื้อไม้มาปลูกเลี้ยงที่ทำลายพวกเขาให้น้อยที่สุดนะครับ อยากให้มีโครงการรณรนรงค์สร้างจิตสำนึกมากกว่าการนำกล้วยไม้สู่ป่าครับ แต่จะมีวิธีการอย่างไรนั้นก็น่าสนใจไม่น้อย ผมพร้อมที่จะเผยแพร่ผ่านสื่อสิ่งพิมพ์ให้ครับ รักษาที่มีอยู่ ฟื้นฟูที่ขาดหาย และใช้ให้ยั่งยืน จากคุณ : JUNGLE MAN - [ 6 ต.ค. 48 15:37:50 ]

ความคิดเห็นที่ 38 ปล่อยให้อยู่กะธรรมชาติ ................. จากคุณ : จอร์จ (เตมูจิน1999) - [ 6 ต.ค. 48 15:49:11 ]

ความคิดเห็นที่ 39 เห็นแล้วก็สลด ...ใจครับ อันนี้ก็ เมื่อมนุษย์ผู้ไขว่คว้าหาธรรมชาติ กลุ่มนึงที่ไม่สามารถเดินไปหาธรรมชาติได้ก็เลย ทำให้ธรรมชาติมาหา ก็เป็นแบบที่น้าแกว่า เจ้าม้าเลยต้องจากบ้านมา....ต้องช่วยสนับสนุนโครงการ อนุรักษ์ ดีๆ ที่จะเกิดกันนะครับ จากคุณ : cyberkob - [ 6 ต.ค. 48 16:20:38 ]

ความคิดเห็นที่ 40 ขอบคุณน้าโหดนะครับ ที่มาแบ่งปันประสบการณ์ให้ผมและเพื่อนๆ ได้รับทราบสถานการณ์ของไม้ป่าในธรรมชาติครับ เมื่อมี demand ก็ต้องมี supply จริงไหมครับ น้า..... จากคุณ : KEITH - [ 6 ต.ค. 48 16:48:31 ]

ความคิดเห็นที่ 41 เรื่องมันดูเศร้าจังค่ะ.... สลดใจจัง.... งั้นเราก็จะต้องงด demand  จะได้ไม่มี supply จริงไหมอาจารย์ .............*******................. จากคุณ : ปราวตรี - [ 6 ต.ค. 48 19:27:45 ]

ความคิดเห็นที่ 42 น่าเสียดายความสวยตามธรรมชาติมากครับ มนุษย์เป็นผู้ทำลายอย่างแท้จริง จากคุณ : ปุ้ม ครับ - [ 6 ต.ค. 48 19:57:28 ]

ความคิดเห็นที่ 43 น่าเสียดายนะคับ จากคุณ : t'pong2 - [ 6 ต.ค. 48 20:35:43 ]

ความคิดเห็นที่ 44 สลดใจครับ......... สนับสนุนโครงการเต็มที่เลยครับ........ จากคุณ : abman - [ 6 ต.ค. 48 21:45:29 ]

ความคิดเห็นที่ 45 อ่านแล้วนึกถึงตัวม้าบินแท้ๆที่สมัยก่อน(ไม่นานมานี้เอง)พบได้แหล่งเดียว แต่มันสูญพันธุ์ไปจากธรรมชาติแล้ว ไม่ได้เพราะโดนเก็บมาจนหมดหรอกครับ พื้นที่ที่เค้าอยู่โดนบุกรุกถากถางทำสวนปาล์มนี่แหละ...ถ้าจะพอมีก็โดนยา โดนไถโดนกลบ...ผมเป็นเด็กคนนึงไม่สามารถที่จะหยิบยื่นมือเข้าไปช่วยได้ ถ้าตอนนั้นมีเงินมากมายพอจะซื้อที่ก็คงดี...แต่คงมีไม่กี่คนที่จะซื้อทิ้งไว้เฉยๆ จากคุณ : บานาน่า - [ 6 ต.ค. 48 21:59:34 ]

ความคิดเห็นที่ 46 เศร้าใจครับ จากคุณ : หมอกฝน - [ 6 ต.ค. 48 22:10:40 ]

ความคิดเห็นที่ 47 ยากมากและนานมากที่จะพัฒนาคนให้มีจิตสำนึกหวงแหนทรัพยากรธรรมชาติ  ยิ่งในสมัยนี้แล้วยิ่งแย่ลงๆ ทุกที  อาศัยพวกมากลากไปทำอะไรตามๆ กัน  ทำผิดให้เป็นถูก....เซ็ง จากคุณ : TKM (หม่าม้าเสียะเซียะ) - [ 6 ต.ค. 48 23:56:17 ]

ความคิดเห็นที่ 48 อ่านแล้วนึกถึงตอนผมไปเดินสำรวจพรรณไม้ในป่า ผมจะเห็นซากกล้วยไม้ที่โดนทิ้งหลังกระชากลงมาแล้วคัดออกไม่เอา ผมก็พยายามเอาเจ้าต้นนั้นไปแปะกับต้นไม้เพื่อหวังว่าให้อยู่รอดต่อไป แต่สถานการณ์ลักกล้วยไม้ในป่าที่ผมไปดูว่ามันก็ยังมีต่อไป ซึ่งผมก็ไม่รู้จะทำอะไรได้ครับเพราะผมก็ไม่ใช่เจ้าหน้าที่ในส่วนนั้น ได้แต่ขอภาวนาให้กล้วยไม้อยู่รอดต่อไป เหมือนกล้วยไม้กอนี้ที่ยังไม่มีใครมารบกวน [คลิกเพื่อชมภาพขนาดจริง] จากคุณ : skyby - [ วันเกิด PANTIP.COM 08:29:05 ]

ความคิดเห็นที่ 49 แย่จัง..... จากคุณ : Buta Jung - [ วันเกิด PANTIP.COM 11:00:57 ]

ความคิดเห็นที่ 50 ผมคิดว่า ลำพังตัวเราเองสนับสนุนการไม่ซื้อกล้วยไม้ป่ามาเลี้ยง คงไม่เพียงพอ ต่างคนต่างทำ power คงมีไม่มากนัก ถ้าร่วมกันดำเนินการเป็นกลุ่ม ก็คงจะมีความหวังบ้าง ในบ้านเรา ผมเห็นมีชมรมกล้วยไม้ต่างๆมากมาย ทั้งในกรุงเทพและต่างจังหวัด ในส่วนนี้ผมว่าน่าจะมี power มากพอสมควร แต่ถ้าหวังพึ่งไม่ได้ ก็ควรจะจัดตั้งกลุ่มขึ้นมาใหม่ เพื่อวัตถุประสงค์นี้โดยเฉพาะ หรือใน meeting คราวหน้า ก็ add เรื่องนี้เข้าไปด้วย ผมว่าน่าจะมีอะไรที่เป็นรูปธรรมมากขึ้น ขอบคุณครับ จากคุณ : Hexter - [ วันเกิด PANTIP.COM 11:21:13 ]

ความคิดเห็นที่ 51 ผมขอเพิ่มเติมอีกนิดนะครับ ในเรื่องแนวทางอนุรักษ์ เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการอนุรักษ์กล้วยไม้ในป่าธรรมชาติ (คงต้องให้ใช้หลายวิธีรวมกัน) 1. ทำการสำรวจกล้วยไม้ในป่าธรรมชาติ ทั้งในแง่คุณภาพ และปริมาณ ในแง่คุณภาพได้แก่ความหลากหลายทางสายพันธุ์ เป็นต้น อย่างเช่นคุณ น้าโหด (ขออนุญาตเอ่ยนาม)  ที่ได้ทำการสำรวจ และเขียนเป็นเรื่องราวมาให้พวกเราได้อ่านกัน (เป็นกิจกรรมที่ดีมากๆ และผมตั้งใจว่าจะทำตามด้วย) 2. หาแหล่งเงินทุนหรือรายได้อื่นๆ อันนี้สำคัญมาก และก็ยากที่สุดด้วย 3. พัฒนาโครงการอนุรักษ์ โดยร่วมมือกับกรมป่าไม้ เนื่องจากป่า(อุทยานแห่งชาติต่างๆ และอื่นๆ) มีพื้นที่กว้างขวาง เจ้าหน้าที่ดูแลไม่ทั่วถึง ถ้าเราแบ่ง Zone ขึ้นมาเป็นแปลงๆ แปลงละ 10 ไร่ + นำกล้วยไม้คืนสู่ธรรมชาติ + ทำการตรวจสอบ และนับจำนวนทุกปี + นำเงินทุนที่ได้จากข้อ 2 มาจ้างชาวบ้านให้ดูแล 4. และอื่นๆอีกมาก ปล. 1. ทั้งหมดนี้อาจจะถูกบ้างผิดบ้าง ก็คงต้องแก้ไขกันไป สามารถเปลี่ยนแปลงได้ ขึ้นอยู่กับสถานะการณ์ ไม่ยึดติด แต่ต้องยึกหลักการที่ดีครับ จากคุณ : Hexter - [ วันเกิด PANTIP.COM 11:42:31 ]

ความคิดเห็นที่ 52 แย่จังนะคะ ที่จริงพวกเราน่าจะรวมตัวกัน ทำอะไรได้บ้างนะคะ เพื่อกล้วยไม้ที่สวยงามจะได้อยู่คู่กับป่าและธรรมชาติได้ตลอดไป (หรือได้นานกว่านี้ก็ยังดีคะ จะได้มีเหลือให้คนรุ่นหลังได้ดูบ้าง) จากคุณ : pink elephant - [ วันเกิด PANTIP.COM 15:09:27 ]

ความคิดเห็นที่ 53 หนับหนุนอย่างแรง  อยากให้มีการเพาะ(พันธ์แท้)ให้หลายๆชนิด ที่หายากๆยิ่งดี ค้นหาแหล่งที่เค้าเหล่านั้นเคยอยู่ และหาวิธีคืนเค้าเหล่านั้น..กลับบ้าน ...ครับ จากคุณ : สิงโตสยาม (สิงโตอ้วน) - [ วันเกิด PANTIP.COM 16:20:03 ]

ความคิดเห็นที่ 54 ขอบอกตรงๆ เลยว่าไม่ได้คาดหวังอะไรมากนักหรอกครับ เพราะทราบดีว่าการจัดงานอนุรักษ์ของรัฐเป็นเพียงฉากและไฟไหม้ฟาง และไม่ได้ดัดจริตต่อว่าและต่อต้านคนซื้อไม้ป่ามาเลี้ยง บ้านผมไม้ป่าก็เยอะแยะ หวังให้กระทู้นี้เพียงจุดประกายเล็กๆ ให้ผู้รักกล้วยไม้ได้ศึกษาพิจารณาเสียก่อนว่าไม้ตัวนั้นชอบอะไร  ไม่ชอบอะไร และด้วยสิ่งที่เรามีสามารถเลี้ยงดูให้เขารอดได้มั้ยเท่านั้นเองครับ ถ้าไม่รอดแน่ๆ ก็อย่าพยายามหามาเลี้ยงเลย ผมหงุดหงิดทุกทีที่เห็นสายวิสูตร กระดิ่งภู มณีไตรรงค์ ..... มาวางขายตามตลาดนัดในกรุงเทพ มันแทบไม่มีโอกาสรอดเลย แต่มันก็ยังขายได้เพราะคนซื้อละเลยว่าด้วยสภาพที่อยู่ตามธรรมชาติของมันไม่มีโอกาสที่จะปรับตัวได้ภายใต้อากาศแบบเตาอบในกรุงเทพ ซื้อเพราะไม่รู้ แค่คนขายโชว์ว่าดอกมันสวยและบอกว่าเลี้ยงได้ เลี้ยงง่ายก็เชื่อเขา ขอบคุณทุกท่านที่แสดงความคิดเห็นครับ ทั้งบนบอร์ดและหลังไมค์ อย่างน้อยผมอดชื่นใจไม่ได้ว่ายังมีกลุ่มคนที่ยังกังวลเรื่องนี้อยู่เหมือนๆ กันครับ จากคุณ : น้าโหด - [ วันเกิด PANTIP.COM 19:23:43 ]

ความคิดเห็นที่ 55 เห็นด้วยกะน้าโหดค่ะ  ยังอดนึกไม่ได้ว่าอีกหน่อยเราคงจะไม่เห็นกล้วยไม้สวยๆตามธรรมชาติแบบนี้อีก ถ้ายังไม่มีจิตอนุรักษ์ จากคุณ : noojew - [ วันเกิด PANTIP.COM 20:39:36 ]

ความคิดเห็นที่ 56 เฮ้อ ! เห็นแล้วรันทดหดหู่จังคับ จากคุณ : ศิระศิลา - [ วันเกิด PANTIP.COM 22:03:53 ]

ความคิดเห็นที่ 57 ขออนุญาตเพิ่มเติมของน้าโหดอีกสักนิด พวกกล้วยไม้พันธุ์แท้ที่มีการพัฒนาพันธุ์นานแล้ว เช่นช้าง ฟ้ามุ่ย รองเท้านารีหลายชนิด  ก็น่าจะหยุดซื้อของป่าได้แล้วล่ะ เพราะว่าของที่มาจากสวนกล้วยไม้สวยกว่าของป่าเยอะมากครับ ดอกใหญ่กว่า ฟอร์มดีกว่า สีสวยกว่า ช่อสวยกว่า เลี้ยงง่ายกว่าของป่าเยอะครับ ราคาก็อาจจะแพงกว่าสักหน่อย แต่ก็ได้ของสวยกว่าเยอะครับ หรือไม่ก็ลองหาลูกผสมชั้นแรก ๆ ของไม้พันธุ์แท้ก็สวยดีนะ หลายต้นที่ออกดอกเก่งกว่า บ่อยกว่า ดอกสวยกว่าพันธุ์แท้ก็เยอะนะครับ จากคุณ : บ้านค่าย - [ วันเกิด PANTIP.COM 22:40:23 ]

ความคิดเห็นที่ 58 เอาไงเอากันครับ จากคุณ : ลิงเล - [ 8 ต.ค. 48 10:38:47 ]

ความคิดเห็นที่ 59 ขออนุญาตแสดงความคิดเห็นครับ ผมมีความคิดเห็นในทางเดียวกันกับคุณHexterครับ หากเราสามารถสร้างจิตสำนึกให้กับคนในพื้นที่ให้เขาเกิดความรักความหวงแหนในสิ่งที่เขามี หากสามารถทำได้การอนุรักษ์ก็จะเป็นไปในทางที่ดีครับ แต่ที่พบเห็นแม้แต่ไม้ใหญ่ เช่น ป่าโกงกางแถวที่ทำงานผมยังโดนโค่นเผาถ่าน ปรับสถานที่ทำเป็นฟาร์มกุ้ง ถึงแม้ว่าจะมีโครงการของหน่วยราชการเข้ามาสนับสนุนการปลูกกล้าโกงกางก็ไม่เห็นได้ผล ป่าถูกโค่น บุกรุกไปเรื่อยๆ ปัจุบันก็เหลืออยู่เกาะเดียวแล้วครับ เศร้าครับ จากคุณ : แกลง - [ 9 ต.ค. 48 15:39:29 ]

ความคิดเห็นที่ 60 จากคุณ : เหมียวสินธร - [ 9 ต.ค. 48 20:08:39 ]