ความคิดเห็นที่ 1 เดานะคะ พวก ที่จ้องจะมางัดบ้าน ขโมยของ คือเขาจะกดกริ้งตามบ้านเพื่อเช็ค ว่ามีคนอยู่ไหม ถ้าไม่มีเสียงหรือเงียบ ก็อาจจะโดนงัดบ้านได้ พวกชอบมากดกริ่งเพื่อขายของ มาไม่เป็นเวลาล่ำเวลา พวกนี้ บางทีจะใช้ โทรเข้ามาเช็ค ก็มีนะคะ ก็ระวังตัวไวนิดๆๆก็ดีค่ะ ถ้าเขามกดอีก ตะโกนออกไปเลย แบบไม่ต้องเปิดประตูนะคะ ถามไปเลย ว่ามีอะไร..... แล้วก็แกล้งทำเป็น ฉันกำลังโทรไปบอกตำรวจ คือยืนพูดตรงหน้าประตูนั่นแหละ จากคุณ : maguro - [ 14 มี.ค. 50 11:12:17 A:202.248.88.180 X: TicketID:132552 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ขอบคุณ  คุณmaguro มากคะ สำหรับคำแนะำนำ ตอนแรกที่เจอคนมากดออด ดูแล้วไม่มีใคร ก็ยังนึกอยู่เลยว่า คนหรือผีหว่า...???... (อายจัง) เลยไม่กล้าตะโกนออกไป แต่ถ้าเป็นอย่างที่คุณเดา คราวหน้า เราต้องทำเสียงเอะอะ ให้รู้ว่ามีคนอยู่ซะแล้ว น่ากลัวเหมือนกันนะคะ จากคุณ : Bo Mama - [ 14 มี.ค. 50 13:18:48 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ยินดีค่ะ เรื่องนี้ เคยออกทีวี นานแล้วนะคะ คือ เขาไปแอบถ่ายมาค่ะ ก็ส่งเสียงพอให้รู้ว่า บ้านนี้มีคนนะ เขาจะได้ไม่กล้า ขโมย ที่ญี่ปุ่น มันมีมารยาท อ่ะ ไม่เหมือนที่ไทย มีคนมันก็จะเข้า ?!!?? อ้อ อีกเรื่องนึง ถ้ามีคนโทรศัพย์ มาบอกว่า สามี หรือลูกคุณ อยู่ รพ ต้องการเงินสด อะไรประณนี้ ตัดสายทิ้งไปได้เลย แล้ว พยามโทรติดต่อ สามี หรือ ให้เร็วที่สุด นะคะ เมื่อปีก่อนมีคนญี่ปุ่น เสียค่าโง่ ไปเยอะค่ะ พวกนี้มันจะสืบ ข้อมูล ประวัติคร่าวๆๆและจะเฝ้าตาเหยื่อ ทุกฝีเก้า และ จะโทร ไปโกหก ภรรยา หรือญาติๆๆว่า สามีคุณ โดนรถชน หรืออะไรก็แล้วแต่ ให้โอนเงินเข้าบัญชีนี้ด่วนอะไรประมาณนั้น ก็มีคนหลงเชื่อ โอนเงินเข้าไป สุดท้าย ก็ต้องเสียค่าโง่ ที่บ้าน ถ้าโทรมา จะไม่รับ กัน ส่วนใหญ่ ถ้า เพื่อน แฟน มีธุระจะโทรเข้ามือถือ โทรศัพย์บ้าน เดี๋ยวก็จะโทรมาขายของ อยู่นั่นแหละ ถ้าเรารับสาย คุยด้วยนิดหน่อยงานนี้แหละ เขาจะโทรมาตื้นอยู่นั่นแหละ จากคุณ : maguro - [ 14 มี.ค. 50 14:18:19 A:202.248.88.180 X: TicketID:132552 ]

ความคิดเห็นที่ 4 55555 คุณmaguro ขำมากๆคะ ที่บอกว่า `ขโมยที่ญี่ปุ่นมันมีมารยาท` ฟังอย่างนี้แล้ว ก็ต้องระมัดระวังตัวหน่อยแล้วล่ะคะ ขอบคุณสำหรับข้อมูลนะคะ ^_^ จากคุณ : Bo Mama - [ 14 มี.ค. 50 15:22:51 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ทู้นี้มีเราคุยกันอยู่สองคนเนอะ ชาวเกาะ(อยู่เกาะ ญี่ปุ่น) ก็งี้แหละ อิอิ แต่ก็ ญี่ปุ่น ไม่ยักกะมีต้นมะพร้าวเลย มาเรื่องเดิม ก่อนค่า คุณ Bo Mama เคยพักแถวๆๆโตเกียวไหมคะ?? ถ้า เคยเห็นป้าย ที่ตามสถานีตำหนวดเขียนไว้ จะจี้ กว่านี้อีกค่า คือ ป้ายให้ ผู้คนถือกระเป๋า คือถ้าทางขวา เป็นถนน ที่รถวิ่งใช่ไหมคะ เขาจะให้เราถือกระเป๋า ด้านซ้าย เพื่อความปลอดภัยค่ะ ประมาณว่าจะได้ไม่โดนกระชากกระเป๋า???!!?? แม๊ะๆๆๆๆ แล้วจะให้เราว่าโจร ญี่ปุ่นไม่มีมารยาทได้งัย ใช่ไหม? แต่ถ้าเป็นที่ไทยนะหรอ มันได้ลงมาตบบบตบแล้วตบอีกแล้วถีบซ้ำด้วยนะ เห็นแฟนเราว่า พวกที่ลักขโมยในญี่ปุ่น จะเป็นคนจีน นะ ขนาดเหล็กปิดฝาท่อน ยังขโมยเลย และที่วิ่งราวในสถานีรถไฟ นั่นก็ ทำเป็นขบวล เลยหล่ะคือ ไม่ได้ ลงมือ ทำครั้งละคนเดียว อยู่บ้าน ก็ต้องระวัง ออกนอกบ้าน ก็ต้องระวังมากยิ่งขึ้น เดี๋ยวนี้ คงไม่เหมือนเมื่อก่อน จากคุณ : maguro - [ 14 มี.ค. 50 17:59:42 A:202.248.88.180 X: TicketID:132552 ]

ความคิดเห็นที่ 6 เมื่อตอนเย็นก็มีคนมาเคาะประตูบ้านดังๆ แบบรัวๆ แต่สามีสั่งไว้แล้วว่า ไม่ต้องเปิดให้ใครเด็ดขาด ถ้าเขาไม่อยู่ เราก็ปล่อยให้เขาเคาะไปไม่สนใจ เพราะใกล้เวลาสามีกลับบ้านแล้ว ถ้าเขาเจอกันก็คุยกันเองแล้วกัน สักพักก็เงียบไป พอสามีกลับบ้านมาเราก็บอกว่า มีคนมาเคาะประตู เราไม่เปิดให้ เขาบอกดีแล้ว อันตราย สักพักก็มีคนมาเคาะประตูดังอีก สามีตะโกนออกไปคุย ปรากฎว่า เป็นคนมาขายของ สามีก็ตอบกลับไปว่าไม่ซื้อ เดี๋ยวนี้มีการขโมยกันแปลกๆ กรณีป้ายสแตนเลสบริษัทยังหายไปเจ็ดแผ่น เขาว่ามีการเอาสแตนเลสไปขาย รวมทั้งแท่งขึงโซ่ที่ทำจากสแตนเลส จากคุณ : พนอจัน - [ 14 มี.ค. 50 18:30:41 ]

ความคิดเห็นที่ 7 จะออกเน๊ต แล้ว แวะมาคุยต่ออีกติ๊ด.......... เรื่องขโมยของที่ญป ประหลาดๆๆแปลกๆๆดีนะคะ ที่ว่าประหลาดนี่ขโมย ตัดต้นข้าวในนา ขโมย แอบเปิ้ล ในไร่ แบบนี้ ที่แปลก ที่เจอมากับตัวเอง ขโมย เบาะรองนั่งจักรยาน พอได้จักรยานไปแล้วมันคงนึกขึ้นได้ จะเอาไปทำอะไร พอวันรุ่งขึ้นมันมาขโมย ไปทั้งคันเลย5555 และขโมย พวกชุดชั้นใน (แต่พวกนี้ น่ากลัวกว่าเยอะ)เพราะพวกนี้มันไม่มีมารยาท ก็คนมันบ้า ไง เราเคยโดนขโมยชุดชั้นในไปทั้งราว พอ 2-3 รู้สึกมีคนเดินตามเราด้วย บอกแฟนแฟนก็ไม่ค่อยเชื่อ ประมาณ คิดไปเองเปล่า ก็เป็นอยู่อย่างนี้ประมาณ 2-3 ครั้ง ที่ออกจากบ้าน จากนั้นก็ระวังตัวมากขึ้นเปลี่ยนเวลา ออกไปซื้อของ หรือ ออกไปคนละเส้นทาง สับเปลี่ยนกันไป กรณีจำเป็นถ้าออกไปคนเดียว อย่างบ้านน้า พนอจัน ต้องติดกล้อง วิดีโอ แล้วหล่ะค่า เอาให้อยู่หมัดไปเลย พวกนี้ ต้องเจอ ด่าเป็นภาษไทยซะให้เข็ด จากคุณ : maguro - [ 14 มี.ค. 50 19:19:38 A:202.248.88.180 X: TicketID:132552 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ฮ่าฮ่าฮ่า คุยกันอยู่สองคนจริงๆด้วย ยังดีมีน้าพนอจัน มาช่วยแชร์ความเห็น คุยไปคุยมาชักสนุกแล้วคะ คุณmaguro เราไม่เคยอยู่ที่ญี่ปุ่นเลยคะ แต่เคยมาเที่ยวทุกปี  ปกติจะได้รับฟังแต่ด้านดีๆของญี่ปุ่น แต่เราว่า ข้อมูลที่ได้ในกระทู้นี้ เป็นประโยชน์สำหรับคนที่พึ่งมาอยู่ญี่ปุ่นอย่างเรามากเลยคะ ถ้าเจอคนมาขายของ แล้วเรื่องเคาะประตูบ้านดังๆ แบบบ้านน้าพนอจัน เราคงเหวอนะคะ คงตกใจว่ามีอะไรเกิดขึ้นรึเปล่า เพราะเราไม่เข้าใจภาษาญี่ปุ่นด้วย อ้อ! เรื่องติดกล้องวิดีโอ คนที่ออฟฟิสสามี บอกว่ามีกล้องปลอมที่ไว้ติดหลอกโจรด้วย ราคา 2000 เยน ตลกดีนะคะ ไอเดียเค้า ยังงัยก็ขอฝากเนื้อ ฝากตัวกับเพื่อนๆชาว @japan ด้วยนะคะ จากคุณ : Bo Mama - [ 14 มี.ค. 50 19:58:10 ]

ความคิดเห็นที่ 9 แฟนเคยเล่าให้ฟังแบบที่คุณกุ้งบอกเลยค่ะ ที่แฟนเล่าให้ฟังคือ เขาจะโทรไปหาคนแก่ ๆ หน่อย แล้วก็ทำเป็นเสียงไม่ได้ค่อยชัด พอคนแก่ถามว่าใครก็บอกว่าลูกไง คนแก่ก็ถามอีกว่าใคร แล้วก็เอ่ยชื่อลูกตัวเองขึ้นมาว่าใช่ไม๊ มันก็เลยได้ทีสวมรอยเป็นชื่อลูก แล้วก็บอกว่ากำลังเดือดร้อนให้โอนเงินมาให้ แต่ตอนนี้ได้ข่าวว่าติดคุกไปเรียบร้อยแล้ว ตอนมาอยู่เดือนแรก มีคนมากดออด แต่ไม่เปิดเหมือนกันค่ะ เพราะเปิดไปถึงไม่ใช่ขโมยก็คุยกันไม่รู้เรื่องอยู่ดี พอแฟนกลับมาก็เล่าให้ฟัง ซักพักก็มากดอีก แฟนเลยเปิดประตูไปคุย ปรากฏว่าเขามาถามว่า ทำไมเดือนนี้ใช้น้ำเยอะจัง มีอะไรผิดปกติหรือเปล่า !! เมื่อวันก่อนดูในโทรทัศน์ที่เจ้าของแมนชั่นเข้าไปขโมยเงินซะเอง ขนาดเจ้าของแมนชั่นยังไว้ใจไม่ได้ แล้วจะไปไว้ใจใครได้ แต่ตำรวจที่บอกคุณBo Mama นี่ก็แปลกจริง ๆ นะคะ จริงของแก ตัดสายซะคนมากดจะได้ ไม่ได้ยิน พูดถึงออดแล้วนึกถึงเคสที่บ้านแฟนเลยค่ะ เอเจนซี่โทรมาบอกว่า ออดที่บ้านเสีย ช่างสงสัยว่าสายไฟ ระหว่างทางที่ออกไปตรงรั้วจะขาด ช่างเลยจะย้ายออด จากรั้วเข้ามาติดตรงตัวบ้าน !!!! งง มั้ยคะ แบบนี้เวลาคนมาหา ก็ต้องเดินเข้าในบ้านแล้วกดออดซิ แล้วจะมีรั้วไว้ทำไม  คิดได้ไง งง จริง ๆ จากคุณ : Ssachiy - [ 14 มี.ค. 50 20:29:51 ]

ความคิดเห็นที่ 10 จะมีคนมาคุยต่อไหม แต่อยากเล่า กรณีบ้านเพื่อน อยู่ติดถนน วันหนึ่งมีควันไหม้บ้าน เขาทำอะไรไม่ถูก แต่เพียงไม่กี่นาที มีคนขายเครื่องดับเพลิงมาพอดี ช่วยดับไฟ แล้วก็ขายเครื่องดับไฟเสียเลย เขาก็จำเป็นต้องซื้อ ทั้งๆที่ไม่อยากซื้อ มันน่าแปลกที่พอไฟไหม้ปุ๊บ คนขายเครื่องมาทันที  เขาได้แต่สันนิฐานว่า มันคงโยนวัสดุจุดไฟเข้ามา สักพักพอเห็นว่าไฟเริ่มลุก มันก็เข้ามาช่วย น่ากลัวจริงพวกหากินกับความเดือดร้อนคนอื่น จากคุณ : พนอจัน - [ 15 มี.ค. 50 05:13:04 ]

ความคิดเห็นที่ 11 สวัสดีคะ คุณSsachiy เรื่องที่คุณเล่า ที่มีคนโทรไปหลอกเงินคนแก่นะคะ พอสามีเราฟังข่าวนี้ ก็จัดการเทสแม่ตัวเองทันที โดยโทรทางไกลไปหา  พอแม่เค้ารับ สามีก็พูด `โอเหระ โอเหระ` อะไรเนี้ยแหละคะ แล้วแม่สามีก็ เอ่ยชื่อสามีออกมา สามีก็เลยบ่นแม่เค้ายาวเลย ว่าไม่ได้ดูข่าวเหรอ  พูดชื่อออกไป ถ้าเป็นพวกโจรโทรมาจะทำยังงัย แม่เค้าบอกว่า `ก็ชั้นจำเสียงแกได้ ชั้นไม่โง่นะ` ฮ่าฮ่า สงสารสามีโดนแม่ตอกกลับ ส่วนเรื่องออดที่บ้าน เห็นด้วยสุดๆคะ ที่ว่า คิดได้ไง งง จริง ๆ ........................................................................ สวัสดีคะ คุณพนอจัน เรื่องวิธีขายเครื่องดับเพลิงเค้าโหดจริงๆ ถ้ามีใครได้รับอันตรายจากเหตุการณ์นี้ มันไม่คุ้มกันเลยกับเงินค่าเครื่องดับเพลิง ที่เขาได้รับ ถ้าเป็นเมืองไทย เซลแมนถูกจับส่งตำรวจแน่เลยนะคะ ข้อหาผู้ต้องสงสัย จากคุณ : Bo Mama - [ 15 มี.ค. 50 06:21:23 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ยังไม่เคยมีประสบการณ์แบบคุณBo Mamaนะคะ แต่ขอ ฟันธงว่าไม่ใช่คนมาขายของ / คนมาสอนศาสนา ส่วนจะ เป็นขโมยหรือไม่ 2 จิต 2 ใจค่ะ เพราะช่วงเวลาที่คนมากดออดถี่ ๆ นั้นหลัง 4 ทุ่มไปแล้ว พนักงานขายของคงไม่ทีOTดึกขนาดนั้นค่ะ ส่วนใหญ่ที่ เจอขายของก็จะมาช่วงกลางวัน (สมัยอยู่บ้านเก่า) มากกว่า หรือไม่ก็เป็นโทรศัพท์ ก็มีช่วงกลางคืนบ้าง แต่ที่ ดึกมาก ๆ เนี่ย ไม่ค่อยเจอค่ะ หากเป็นขโมย ไม่น่าจะใช้ลูกไม้ตื้น ๆ แบบนั้นแน่ ๆ เพราะ ขโมยน่าจะมากดออดก็ต่อเมื่อบ้านดูเงียบสงัด ไม่มีคนอยู่ แจ่คุณBo Mamaอยู่กับลูก และสามียังไม่กลับ ไฟที่บ้าน น่าจะเปิด ซึ่งดูก็รู้ว่ามีคนอยู่ ซึ่งดิฉันคิดว่าตอนกลางวันมี ความเป็นไปได้ที่คนจะออกไปธุระปะปังข้างนอกมากกว่า กลางคืน ที่ผู้พักอาศัยส่วนใหญ่กลับบ้านเพื่อพักผ่อนกัน หมด (แม้กระทั่งเพื่อนบ้าน) ขอสันณิษฐานว่าเป็นคนที่อยู่ละแวกเดียวกับคุณค่ะ อาจจะ เป็นเพื่อนบ้าน(ซึ่งไม่ใช่ห้องติดกัน) คนญปบางคนมีอคติ กับชาวต่างชาติมาก อาจจะแกล้งทำสงครามจิตวิทยา หลอนประสาทเล่น ๆ / หรือไม่ก็เป็นเด็กนร.ม.ปลายมือ บอน เพราะพวกนี้ต้องไปติวหนังสือหนังหาที่cram school และกลับดึกมากกว่าเด็กชั้นอื่น คุณBo Mamaลองให้สามีสอบถามกับทางlandlord / management office / เพื่อนบ้านดูนะคะว่าอพาร์ตเม้นท์นี้ เคยมีประวัติถูกขโมยบ้างหรือเปล่า จากคุณ : fudge-a-mania - [ 15 มี.ค. 50 08:19:53 ]

ความคิดเห็นที่ 13 คุณ fudge พูดถึง เรื่องทำสงครามจิตวิทยา หลอนประสาทเล่น ๆ แล้วทำให้คิดถึง เรื่องของตัวเอง ที่อยู่อาพาร์เม้น เก่าเลยค่ะ คือ เมื่อก่อนจักรยาน จะจอดไว้ ที่จอดข้างตึก ทั้งตึก มีแต่คนญี่ปุ่น มี กุ้งคนเดียว ที่เป็น ชาวต่างชาติ วันดีคืนดีจะมี ขยะมาวางไว้ตระกร้าจักรยาน!!! เป็นอย่างนี้ 2-3 ครั้ง บางทีก็ยกจักรยาน ออกไปตั้งที่อื่น ทั้งๆๆที่เราล๊อกล้อ นะ แรงดีจริงๆๆ ที่แรงสุด เอาแมว ที่ตายแล้ว มาวางวันที่ เราต้อง ทำความสะอาด ที่ทิ้งขยะ คนญี่ปุ่น นี่ ร้ายแบบเนียนๆๆดีเหมือนกัน จากคุณ : maguro - [ 15 มี.ค. 50 08:36:14 A:202.248.88.142 X: TicketID:132552 ]

ความคิดเห็นที่ 14 สวัสดีคะ คุณfudge-a-mania โอ้โห! คุณfudge วิเคราะห์ละเอียดมาก ถ้าไม่ใช่คนมาขายของ / คนมาสอนศาสนา หรือขโมย งั้นก็เหลือแต่พวกโรคจิตล่ะคะ ซึ่งน่ากลัวที่สุด และทุกคนที่เรารู้จักที่นี่ ก็เฟลนลี่มากๆ ถ้าคนที่มากดออดบ้านเราคือ ใครสักคนที่เรารู้จัก มันคงน่ากลัวพิลึกนะคะ อย่างไรก็ดีคงต้องจำเอาไว้ว่า คนญี่ปุ่นบางคนไม่ชอบคนต่างชาติ อ้อ! เราก็คิดเหมือนกันคะว่า เป็นคนที่อยู่ละแวกเดียวกัน เพราะครั้งหลังๆนี้ พอมีคนมากดออด เราจะรีบวิ่งไปดูที่หน้าต่าง ว่ามีรถอะไรจอดอยู่แถวๆหน้าบ้านรึเปล่า ซึ่งไม่มีนะคะ เลยคิดว่าต้องเป็นใครซักคน ที่อยู่แถวนี้แน่ๆ .......................................................................... คุณmaguro เราว่าที่คุณโดนสงครามประสาท ที่อาพาร์เม้นเก่า มันเล่นกันแรงไปนะคะ สามีคุณรู้เรื่องนี้ไหมคะ คืออยากรู้คอมเม้นของคนญี่ปุ่น ว่าเค้าคิด และจะแนะนำให้เราทำอย่างไร ส่วนบ้านเรา วันนี้ก็พฤหัสแล้ว อาทิตย์นี้ (โรค) จิต ยังไม่มากดออดเลย ก็ขอให้อย่ามาอีกเล้ย สาธุ....จริงอยากซื้อออดตั้งโต๊ะ ที่อยู่ตามร้านอาหาร ให้เค้าสักอัน ให้เอาไปกดให้หนำใจเลย...เฮ้อ... จากคุณ : Bo Mama - [ 15 มี.ค. 50 10:24:55 ]

ความคิดเห็นที่ 15 เข้ามาอ่านแล้วค่ะ โชคดียังไม่เจอเหตุการณ์อะไรแบบนี้ จากคุณ : เจด้า@เจแปน - [ 15 มี.ค. 50 10:34:54 ]

ความคิดเห็นที่ 16 เคยเจอแต่พวกส่งหนังสือพิมพ์คะพวกนี้จะมีวิธีกวนใจมากกมายทุกรูปแบบ แล้วจะเราบอกไม่รับหนังสือพิมพ์วันต่อมาบริษัทส่งหนังสือพิมพ์ใหม่ก็มากวนตื้อสุด เหมือนกับเขาบอกพรรคพวกเขาว่าบ้านนี้ยังไม่รับหนังสือพิมพ์ บางทีมากดออดเราไม่เปิดก็มาดักรอตอนวันทิ้งขยะ น่ากลัวคะ เคยมีพี่คนไทยมาอยู่ใหม่เราให้ฟังว่า มากดจนแล้วบอกว่าเป็นไปรษณี พอเปิดประตูเท่านั้น มันขยำอกทันทีเลย ผู้ชายแกแล้วพี่เขาร้องให้คนช่วยมันก็วิ่งหนีไป มารู้ทีหลังว่าเป็นพวกส่งหนังสือพิมพ์(พวกพี่ๆ คนไทยเลยพูดติดตลกกันว่าน่าอกเราเล็กเลยรอดตัว ของพี่เขามันใหญ่ท้าทายจริงๆ นะ) ทางที่ดีอย่าเปิดประตูทั้งหมดคะ เปิดแบบล็อคครึ่งหนึ่งพอ หรือพูดภาษาไทยใส่เลยคะ เรื่องแปลกมีเยอะคะ แบบหมายศาลยังมีเลยบอกสามีไปทีเรื่องผิดกฎหมายให้โทรกลับหรือโอนเงินเข้าบัญชีนี้ไม่งั้นเขาจะฟ้อง น่ากลัวคะ มีเยอะคะ)))))))))))))))ป จากคุณ : แม่ปุ้ม (มีมีมากุโระ) - [ 15 มี.ค. 50 11:46:55 ]

ความคิดเห็นที่ 17 เพื่อนสนิทของเรา เค้าดันหลงพลาดไปเปิดประตูให้คนขายหนังสือพิมพ์ ตื้อๆๆๆ จะให้รับหนังสือพิมพ์ เพื่อนเราก็บอกไม่เอาๆๆ จนเลิกรา กลับไป.. ที่ไหนได้ พี่แก วกกลับมาอีกที บอกว่าขาดอีกแค่คนเดียว จะออกเงินให้ ช่วยรับหน่อยเถอะ -*- แล้ว ก็ควักสามพันเยนออกมาให้-"- แล้วพอผ่านไปสามเดือน กำลังจะหมดสัญญา พี่แกก็เอามาให้อีกสามพัน..-"- อย่างงี้ก็มีด้วยค่ะ^^" จากคุณ : kdancer - [ 15 มี.ค. 50 12:28:52 ]

ความคิดเห็นที่ 18 เข้ามาอ่านกระทู้นี้ยังไม่เคยเจอแบบนี้เคยเจอแต่คนแปลกหน้ามามองๆแถวๆอาพาสเม้นแต่เห็น2หรือ3ครั้งตอนย้ายมาใหม่ๆตอนนี้ไม่มี พวกหนังสือพิมพ์พวกนี้ชอบตื้อจริงๆที่บ้านมานะแต่เราไม่เปิดประตูเพราะว่าที่บ้านดีหน่อยคนมากดออดหน้าห้องจะเห็นหน้าใครมาถ้าเป็นผู้ชายนะจะไม่เปิดเลยบางครัง้คิดว่าปณ.แต่เป็นพวกหนังสือพิมพ์เราบอกเลยอ่านไม่ออกแล้วไม่อ่านด้วยมากี่ครั้งๆก้จะบอกเหมือนเดิมจนเบื่อแล้วไม่มาเลย คุณmaguro เจอคนยป.เล่นแรงนะแบบนี้น่ากลัวเคยดูทีวีเหมือนกันพวกป้าๆชอบแกล้งนะค่ะบางวันเอาขยะมาทิ้งบ้านคนอื่นหรือบางวันจะมาแกล้งเอาจดหมายห้องอื่น ตอนนี้เราก็เจอคนญป.โรคจิตอยุ่ห้องข้างล่างเหมือนกันเพราะเรามีลุกอยุ่ห้องข้างบนแล้วกลางวันบอกห้าลุกเราเดินเพราะเสียงดังเราไม่สนใจนะเพราะเด็กอายุแค่ยังไม่ถึง2ขวบใครจะห้ามได้ขนาดลุกเรายังไม่ได้เล่นอะไรแบบเด็กคนอื่นเล่นเลยตอนนี้สามีบอกให้ระวังใว้นะเพราะอาทิตย์ที่แล้วเจอเราไปส่งลุกชายไปร.รห้องข้างล่างเขาเอาขยะไปทิ้งแล้วไปแอบข้างถุงขยะกลัวเหมือนกนักลัวมันจะมาทำอะไรลุกเราเพราะวันก่อนเราพาลุกไปเล่นข้างล่างเห็นห้องข้างล่างจะไปข้างนอกเขานัง่ในรถแล้วมันมองลูกเราตั้งนานกลัวเหมือนกันกลัวมันจะขับรถชนลูกเรา เพราะคนญปสมัยนี้มันยิ่งแปลกๆอยุ่นะ จากคุณ : ฮารุกะ (ฮารุกะ) - [ 15 มี.ค. 50 12:40:56 ]

ความคิดเห็นที่ 19 สวัสดีค่ะ ขอเข้ามาคุยด้วยคนนะค่ะ เคยมีประสบการณ์เหมือนกันค่ะ คือดิฉันเช่าอยู่อพาร์ทที่ญี่ปุ่นคนเดียว ห้องที่เช่าอยู่ชั้นล่าง วันหนึ่งชุดชั้นในหายทั้งราวเลยค่ะ เจ็บใจสุดๆ ช่วงกลางวันดิฉันต้องไปเรียน ตกเย็นก็ทำงานอีก กลับห้องที่ก็มืด รู้สึกกลัวเหมือนกัน ว่าแถวๆที่พักจะมีโรคจิตหรือเปล่า ตรงหน้าอพาร์ท มีร้านของคนเกาหลี ส่วนชั้นบนเป็นร้านของพวกนิโก้( ขอโทษที่ใช้คำนี้นะค่ะ) และผ่านไปประมาณเดือนหนึ่ง ช่วงกลางวันก็มีตำรวจเข้ามากดออด มาสอบถามรายละเอียดต่างๆ และก็ขอชื่อเรา หมายเลขบัตรเอเลี่ยน เจ้าหน้าที่ตำรวจบอกว่าช่วงนี้มีคนร้าย มาอาศัยอยู่แถวนี้ เพื่อนบ้านดิฉันก็โดนทำนองนี้เหมือนกันเลยโทรไปแจ้งตำรวจ ที่แรกดิฉันก็อยากจะแจ้งความเรื่องชุดชั้นในหายนะ แต่กลัวว่าเรื่องมันจะต้องไปแจ้งที่โรงพัก ต้องไปให้ปากคำ และอะไรต่างๆและอะพาร์มเม้นท์ที่ดิฉันเช่า พี่เขยเป็นคนค้ำประกันด้วยกลัวมีปัญหา ดิฉันก็ไม่ค่อยมีเวลาด้วย ก็เลยว่าปล่อยไปก่อน และก็ยังดีที่ ตำรวจเข้ามาสอดส่องดูแล ก่อนหน้านี้ดิฉันเคยไปอาศัยอยู่บ่านพี่สาว แถวๆบ้านพี่สาวดิฉันค่อนข้างเงียบ ชนบทนิดๆ เราสองคนเคยออกไปช๊อปปิ้ง(ในห้างฯ) ตั้งแต่เช้าจนถึงมืด โดยที่เปิดประตูหน้าบ้านทิ้งไว้ (เปิดโล่ง) ประตูหลังก็ไม่ได้ล๊อค อีก กลับมาถึงบ้านใจหายเลยค่ะ คิดว่าโดนขโมย ที่แท้ พี่สาวดิฉันลืมปิดเอง เข้าไปดูของในบ้านก็ไม่มีอะไรหาย (พี่สาวดิฉันเป็นพวกขี้หลงขี้ลืม ลืมปิดประตูบ้านนี้บ่อยมาก บางทีคิดว่าไปชื้อของแป๊ปเดียวก็ทิ้งเด็กๆอยู่บ้านกันตามลำพัง น่ากลัวมาก หรือว่ามันแล้วแต่สถานที่ แล้วแต่สังคมค่ะ แถวๆนั้นเพื่อนบ้านนิสัยดีมากๆ คอยช่วยเหลือ บางครั้งมีพวกมาขายของ เข้ามาก็กดออดแล้วก็ยืนคุยอยู่หน้าบ้าน ไม่มีที่ท่ารุ่มร่ามอะไรเลยค่ะ แต่พอย้ายมาอยู่อีกสังคมหนึ่ง เข้ามาอยู่ในเมือง ทุกอย่างกรายต้องระวังตัว ...นี้ก็เป็นประสบการณ์ที่เกิดขึ้นกะดิฉัน จากคุณ : ยูน่า - [ 15 มี.ค. 50 13:05:31 A:124.120.12.3 X: TicketID:140292 ]

ความคิดเห็นที่ 20 สวัสดีคะ คุณเจด้า@เจแปน โชคดีคะ ยังไม่เจอเหตุการณ์อะไรแบบนี้ และขออย่าให้เจอเลยนะคะ ......................................................................... สวัสดีคะ คุณแม่ปุ้ม (มีมีมากุโระ) ถึงขั้นขยำอกนี่ ตำรวจคงต้องจัดการอะไรซักอย่างแล้วนะคะเนี้ย ทำไมเค้าช่างกล้าขนาดนี้นะ หรือคิดว่าคนต่างชาติไม่กล้าเอาเรื่องนะ ......................................................................... สวัสดีคะ คุณkdancer กรณีนี้ก็ได้อ่านหนังสือพิมพ์ฟรีไป ตอนนี้เชื่อแล้วคะ ว่าที่นี่มีอะไรแปลกๆอีกเยอะ ......................................................................... สวัสดีคะ คุณฮารุกะ น่ากลัวนะคะ อะไรที่จะเป็นอันตรายถึงลูกได้เนี้ย ลูกเราก็วิ่งกันเสียงดังในบ้านเหมือนกัน ต้องดุ ต้องฟาดอยู่เรื่อยๆ แต่ก็ไม่เข็ด เดี๋ยวก็วิ่งกันอีกแล้ว กลัวเพื่อนบ้านว่าคะ บ้านญี่ปุ่นยิ่งเป็นกระดาษๆอยู่ด้วย เรื่องกลัวเพื่อนบ้านว่า ทำเอาเราวิตกจริตเลย ด้วยความที่เพิ่งมาอยู่ใหม่ เวลาทิ้งขยะนะคะ เรางี้แยกขยะแบบละเอียดยิบ แต่พอเอาไปทิ้งที่ทิ้งขยะรวมนะคะ ปรากฎว่า เพื่อนบ้านซะอีก ที่ขยะกระดาษปนกับขยะเปียก...เฮ้อ... ......................................................................... สวัสดีคะ คุณยูน่า ตอนนี้เราก็อยู่บ้านนอกคะ ถ้าไม่นับรวมพี่จิตที่ชอบมากดออด เราก็ว่าที่นี่ดีทีเดียว แต่ถึงกระนั้นก็คงต้องระวังตัวไว้บ้าง เมืองที่เราอยู่ มีคนต่างชาติน้อยมากๆ คนญี่ปุ่นที่นี่ก็เลย ถือว่านี่เป็นโอกาสอันดี ที่เขาจะได้ใช้ภาษาอังกฤษ ไอ้เรารึก็อยากฝึกภาษาญี่ปุ่น  ก็เลยไม่รู้เมื่อไหร่จะพูดได้ซักทีนะคะ จากคุณ : Bo Mama - [ 15 มี.ค. 50 14:15:32 ]

ความคิดเห็นที่ 21 เมื่อวานที่บ้านพึ่งมีคนมาขายหนังสือพิมพ์เองค่ะ แต่แฟนบอกว่าไม่ซื้อเพราะไม่ได้อ่าน เค้าก็ไม่ตื้อนะคะ เอาตั๋วดูเบสบอลที่โตเกียวโดมให้สองใบ แล้วก็แฟ้มกับผ้าเช็ดหน้า แล้วก็ไปเลย สงสารเค้าเหมือนกัน หน้าจ๋อย ๆ ไปเลย ถ้าอ่านออกคงจะรับแล้วหละค่ะ เพราะตอนอยู่เมืองไทยก็ชอบอ่านหนังสือพิมพ์ จากคุณ : Ssachiy - [ 15 มี.ค. 50 15:16:59 ]

ความคิดเห็นที่ 22 กระทู้ดีมีประโยชน์มาก ๆ โหวตค่ะ โหวต มีเว็บมาให้ดูคะ คิดว่าน่าจะดีนะคะ อ่านไม่ออกหรอกคะ แต่ดูรูปแล้วก็พอเข้าใจคะว่าเขาบอกวิธีป้องกันโจรในแต่ละประเภทค่ะ http://www17.ocn.ne.jp/~bouhan/bouhan-taisaku.htm แก้ไขเมื่อ 15 มี.ค. 50 18:20:32 จากคุณ : ^_^ (annz kiku) - [ 15 มี.ค. 50 17:40:44 ]

ความคิดเห็นที่ 23 เคยเจอแบบมีคนมากดกริ่ง ปกติผมจะไม่เปิดทันที แต่จะไปส่องก่อนว่าเป็นใคร (กลัวเป็น NHK มาเก็บตังค์) ถ้าดูแล้วเป็นพวกมาส่งของถึงจะเปิด ปรากฎมีวันนึง ดึกพอสมควร น่าจะเลยสองทุ่ม ผมก็กลับมาจากที่ทำงานแล้ว มีคนมากดกริ่ง ผมก็ย่องเบาๆ ไปส่องดูเหมือนเช่นเคย เจอผู้ชายสองคน (เท่าที่เห็น) คนนึงใส่สูทสีเหลืองพร้อมแว่นกันแดด (Men in Yellow!!) กะอีกคนจำลักษณะไม่ได้ ตัวใหญ่พอควร ผมเห็นแต่งตัวแปลกๆ ดูท่าทางเหมือนยากูซ่าทีเดียวเชียว ก็เลยทำเป็นไม่สนใจ กลับเข้าห้องไป ซักพักมีเสียงเคาะประตูเหล็กอย่างดัง ซักสองสามรอบ ใจเต้นต่อมๆ เลย คราวนี้ปิดไฟทุกดวงในบ้าน ทำตัวเงียบๆ เหมือนไม่มีใครอยู่ รอซักพักก็เงียบไป วันนั้นกะว่าถ้าเจออีกรอบจะไปแจ้งตำรวจแล้ว น่ากลัวจริงๆ จากคุณ : Oakyman - [ 15 มี.ค. 50 17:43:43 ]

ความคิดเห็นที่ 24 แวะมาอ่านคะ มีเรื่องมาแจม ตอนนั้นเราเพิ่งย้ายจากบ้านนอกมาอยู่โตเกียวใหม่ๆ สามีไปทำงาน เราอยู่กะแม่สามี ตอนบ่ายๆ วันหนึ่งมีคนมากดออด  แม่สามีรับคุยกันสักพัก แล้วก็เล่าให้เราฟังว่า คนแปลกหน้ามากดออดบอกว่าไม่สบาย ขอเข้าไปพักในบ้านหน่อย แม่สามีไหวตัวทันคะ บอกว่ารอตรงนั้นแป็บหนึ่งนะ จะโทรเรียกรถอัมบูแรนท์มารับไปโรงพยาบาล  พูดเท่านั้น คนแปลกน่าคนนั้นก็เดินหนีไปเลยคะ  ฟังดูแล้วน่ากลัวนะคะ  ยังไงก็ระมัดระวังคนแปลกหน้าไว้หน่อยนะคะ รับเข้ามาไม่รู้จะเป็นไง ยิ่งเห็นข่าวในทีวีบ่อยๆ ด้วยว่าคนร้ายเข้ามาแทงถึงในบ้านได้ กลัวๆๆๆคะ จากคุณ : aoiyuki - [ 15 มี.ค. 50 19:53:11 ]

ความคิดเห็นที่ 25 ตอนสมัยดิฉันอูยู่บ้านเก่า เคยเจอโทรศัพท์บอกรัก คือ เรียกให้ดูโรแมนติกไปงั้นแหล่ะค่ะ แต่จริง ๆ คือผู้ชายโรค จิตที่ชอบโทรศัพท์มาระบายความใคร่ พร้อมกับช่วยตัวเอง โทรมาครั้งแรก ตอนแรกก็พูดจาดีค่ะ ประมาณว่าอยู่คน เดียวเหงา ดิฉันก็เลยถามว่าไม่มีเพื่อนคบเหรอ (เวลาเหงา นี่น่าจะนึกถึงเพื่อนมากกว่าคนแปลกหน้านะเออ) เค้าว่าไม่ มี ดิฉันเลยบอกให้เค้าโทรไปหาแม่ตัวเอง เพราะ หากระบายให้แม่ฟังเนี่ย ท่าจะหายเหงากว่า แต่พ่อหนุ่มพยายามยืดเยื้อบทสนทนา ดิฉันจึงต้องขอรีบ วางสาย เพราะซักผ้าค้างอยู่ แต่ก็พูดไปนิ่มนวลว่าตอนนี้ ไม่ว่าง เพราะกำลังซักผ้าอยู่ แค่นี้นะ....ก็วางสายไป อีก สักพักพ่อหนุ่มนี่โทรมาอีก (ตื้อแฮะ) คราวนี้ทำเสียงกระเส่า บอกว่าจะตายอยู่แล้ว ดิฉันก็บอกว่า เรียกรถพยาบาลดีมั้ย...พี่แกคงกำลังได้ที่(ไม่ฟังเลยว่าคู่ สนทนาจะว่าไง) ดิฉันก็เลยช่วยสงเคราะห์ บอกว่าเดี๋ยวเปิด เพลงให้ฟังแล้วกัน แล้วดิฉันก็ไปเปิดซีดีFaye Wong (สุด เลิฟ) เอาโทรศัพท์ไปจ่อลำโพง (ไม่วางสายด้วยนะ ดูสิ ดิฉันออกจะมีมารยาท) แต่ตัวก็เดินไปซักผ้าต่อสบายใจ เฉิบ จนเกือบลืมว่า เฮ้ย...ติดสายโทรศัพท์ ก็เดินกลับมา ฟัง...อ้าวพ่อหนุ่มวางหูไปแล้ว และไม่โทรมาอีกเลย...สรุป สำเร็จความใคร่ได้ หรือว่าหดหายดิฉันก็ไม่ทราบเหมือนกัน แต่ดิฉันละชอบจริง ๆ โทรศัพท์แบบนี้ ยิ่งค่าโทรศัพท์คิด เป็นนาทีนี่ โทรมาเถอะ เพราะคนรับไม่ต้องจ่าย -------------------------------------------------------- แล้วหากมีคนโทรมาขายของทางโทรศัพท์ อันนี้ดิฉันก็ ชอบ (ดูจะเป็นคนโซเชียลไลส์มั่ก ๆ) แต่ก็ขึ้นอยู่กับ อารมณ์ หากกำลังยุ่งก็จะบอกไปว่าหาคนพูดอังกฤษ เก่งกว่านี้มาคุยกันเถอะ เพราะดิฉันไม่มีเวลา แต่หากอยู่ใน อารมณ์อยากคุยด้วย ก็จะต่อล้อต่อเถียง....(ตามประสา คนรักกัน) ประมาณว่ามีคนโทรมาขายบ้าน โอ้ว....ชอบ ๆ ดิฉันก็บอก ตามความจริงไปเลยว่า อยากได้อยู่ แต่ติดที่ว่าซื้อบ้านไป แล้ว ก็ไม่มีเงิน บ๋อแบ๋...ทำไงดี ช่วยดิฉันหน่อย หาคนให้ ดิฉันกู้เงินได้มั้ย หากได้ก็ฝันคงจะเป็นจริง แต่ตอนนี้หนี้ บานแบะ หรือไม่ก็อีก 20 ปีให้หลัง โทรมาขายใหม่นะ ตอนนั้นอาจจะมีเงินบ้าง พี่แกก็รีบวางสาย และไม่โทรมาอีกเลย (ปล่อยดิฉันเหงา อยู่คนเดียว....อีกแระ) -------------------------------------------------------- ดิฉันเคยมีเรื่องกับตาลุงโรคจิตในรถไฟ 2 ครั้งค่ะ เสียดาย วันนี้หมดเวลา เอาไว้วันหน้าจะมาเล่าให้ฟังใหม่ นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า....อย่าไปกลัว อย่าไปเกรงอะไรที่ เกิดขึ้น คนพาลขี้ขลาดเท่านั้นที่จะระรานคนอื่น(พวกโรค จิตทั้งหลาย) คนกล้าและเอาจริงไม่มาทำท่าหมาเห่า ใบตองแห้งหรอกค่ะ ชกเลย จากคุณ : fudge-a-mania - [ 15 มี.ค. 50 20:52:17 ]

ความคิดเห็นที่ 26 ตอนย้ายเข้าบ้านใหม่ พลาดท่าเปิดประตูให้พวกมาขายของทีนึงค่ะ เค้าตื้อให้ซื้อพวกอุปกรณ์ทำความสะอาด ตอนแรกไม่รู้ ดูบางอันมันก็เข้าท่าดีเลยซื้อแผ่นกรองอากาศไปไม่กี่แผ่น (มารู้ทีหลังว่าแพงกว่าซื้อตามห้างอีก) แต่เค้าก็ยังไม่ยอมกลับซะที ตื้อให้เคลือบพื้นและอื่นๆ อีก (หลักแสนเยน) เริ่มรำคาญเลยบอกให้เค้าทำใบเสนอราคาทิ้งไว้ แล้วสามีกลับมาจะลองถามดู ปรากฎว่าเค้าถามเราว่าสามีดุมั้ย เราก็งงๆ ว่าถามอะไรแปลกๆ พอเล่าให้สามีฟัง สามีบอกว่าทีหลังไม่ต้องซื้อ พวกนี้มักจะหลอกขายอุปกรณ์ที่ไม่จำเป็นในราคาแพงๆ ให้ไล่กลับไปได้เลย (แต่เค้าสุภาพมากๆ เราเลยไม่ติดใจอะไรเท่าไหร่) ถ้าใครจำใจซื้อของพวกนี้มาโดยไม่ได้ตั้งใจหรือเพื่อตัดรำคาญ ตามกฏหมายท่านสามารถรับเงินคืนได้ ถ้าท่านคืนของไปภายในหนึ่งอาทิตย์นะคะ จากคุณ : Tokyo DeLight - [ 15 มี.ค. 50 21:38:27 ]

ความคิดเห็นที่ 27 อีกอย่างนึงคือพวกโทรเข้ามือถือ (โดยเฉพาะของ Docomo) ประเภทโทรมาครั้งเดียวแล้ววางตอนดึกๆ ดื่นๆ นี่ไม่ต้องโทรกลับเลยนะคะ ไม่งั้นมันจะมาชาร์ทเราทีหลังได้ว่าไปใช้บริการมัน ไม่ก็พวกโทรมาทวงค่าเข้าเว็ปไซด์ (ส่วนใหญ่พวก adult website) ห้ามบอกที่อยู่มันไปเด็ดขาด เดี๋ยวมันส่งใบเสร็จเก็บเงินมาได้ บอกมันไปเลยว่าอ่านภาษาญี่ปุ่นไม่ออกโว้ย แล้วตรูจะไปเข้าเว็ปเอ็งทำเบื้อกอะไรฟะ จากคุณ : Tokyo DeLight - [ 15 มี.ค. 50 21:56:26 ]

ความคิดเห็นที่ 28 แวะมาอ่านอีกรอบเห็นแล้วน่ากลัวเหมือนกันนะค่ะตอนนี้ เห็นคุณ fudge-a-mania พูดเรื่องพวกโรคจิตบนรถไฟเคยเจอเหมือนกันไม่รู้ว่าใช่พวกโรคจิตหรือเปล่า ตอนก่อนปีใหม่จะไปโตเกียวนั่งรถไฟขึ้นไปแล้วเจอเหมือนคนเมาแล้วนอนเยียดยาวตรงที่นั่งนำหรับคนพิการหรือเด็กแล้วพอดีเราไปนั่งฝั่งตรงข้ามพอครอบครัวเรานั่งปุ๊บพี่ทั่นมองลอดแว่นมาทันทีเลยเราก็เอะทำไมคนนี้มองเราแปลกๆพอดีลูกชายเล่นเกมส์แต่มีเสียงแต่แทบจะไม่ได้ยินเสียงด้วยนะพอนั่งไปประมาณ10นาทีพี่ท่านลุกขึ้นมาเลยว่ารำคาญเล่นเกมน่ารำคาญเราเลยบอกลุกชายว่าหยุดเล่นเลยลุกก็หยุดเล่นแต่ที่ท่านไม่ยอมเตะประตูรถไฟไป2ครั้งคนทั้งตู้เริ่มหันมามองเราทั้งครอบครัวเงียบสามีก็เงียบไม่พูดอะไรแต่คนจะหาเรื่องนะมันต้องทำนะพอเราเงียบมันก้จะตบหัวลุกชายเราทีนี้เลยโมโหใจเย็นไม่ใหวแล้วโยนลุกสาวให้สามีอุ้มเลยลลุกขึ้นชี้หน้ามันถามเลยว่า....จะเอาอย่างไรบอกมาแต่พูดภาไทยมันก้ทำหน้างงแบบว่าฟังไม่ออกคนนี้พูดอะไรทำนองนั้นทีนี้คนทั้งตู้หันมามองเราเป็นจุดเดียวเลยเลยถามมันอีก...จะว่าเอาอย่างไรไม่มีสิทธิมาจะตบลุกเรานะมันเงียบทีนี้คิดว่ามันจะตอบโต้อะไรพอรถไฟถึงป้ายมันรีบลงทันทีเลยพอรถไฟออกเราไปยืนมองมันก็ยืนอยู่แต่ไม่เห็นไปใหนคงจะรอขบานต่อไปทีนี่เราโดนสามีบ่นบอกอย่าทำแบบนี้นะถ้าคนมันบ้าจะเป็นอย่างไรเราเลยตอบว่าถ้ามันไม่ตายฉันก็ตายแค่นั้นเองจะเป็นอย่างไรนี่เป็นอีดประสบการหนึ่งที่เราเคยเจอมาแต่แค่ครั้งนี้ครั้งเดียวตัง้แต่อยู่ญปมา จากคุณ : ฮารุกะ (ฮารุกะ) - [ 15 มี.ค. 50 23:06:47 ]

ความคิดเห็นที่ 29 โอโห แต่ละคนเจอแบบแปลกๆเนอะ เราไม่เคยเจอเลย ชีวิตนี้ไม่มีอะไรตื่นเต้นเลยอ่ะ (อยุ่บ้านนอกค่ะnagano)ชอบกระทุ้นี้จังมีอะไรแปลกๆดี โหวตให้นะ จากคุณ : a.miyazaki - [ 16 มี.ค. 50 07:55:51 ]

ความคิดเห็นที่ 30 คุณฮารุกะคะ ที่ดิฉันเจอไม่ใช่โรคจิตค่ะ แต่เป็นลุงแก่มี อายุ วัยทองแล้วหงุดหงิด คิดว่าตัวเองเป็นศูนย์กลางของ โลกนี้ ทั้งสองครั้งที่เจอ ค่อนข้างดึกกลับจากทำงาน ประมาณ 4- 5 ทุ่มแล้ว (ปกติดิฉันกลับบ้านเวลานี้ประจำ หากมีสอน) ครั้งแรกพอก้าวขึ้นรถไฟ ดิฉันก็ยืนหน้าลุงคนหนึ่ง คือในใจ เนี่ยไม่ได้เลือกเลยว่าหน้าตาใครบอกบุญไม่รับ ไม่ควรไป ยืน คิดอย่างเดียวใกล้ประตูทางออกมากที่สุด พอยืนไป สักพักก็มองไปรอบ ๆ ใส่หูฟัง ๆ เพลงเหมือนเคย เพียงแต่ ไม่ได้หยิบหนังสือขึ้นมาอ่าน สักพักลุงตรงหน้า(นั่งอยู่) ก็ถามขึ้นมาว่ามองหน้าเค้า ทำไม ดิฉันฟังไม่ถนัดก็ถอดหูฟัง ถามว่าทำไม มีอะไร ลุง ก็เริ่มพูดเสียงดัง (คนในรถไฟไม่มาก มีคนยืนในตู้นั้น 10 กว่าคน) ดิฉันก็เลยถามไปว่านึกว่ามีคนมองเหรอ ลุงก็จับ สำเนียงได้ว่า ดิฉันไม่ใช่คนญป คราวนี้ลุงเลยบอกว่า เป็น คนต่างชาติ มาจากประเทศไหน กลับประเทศตัวเองไป เลย....ก็เริ่มเสียงดังกันขึ้น ลุงไล่ดิฉันไปยืนที่อื่นที่ไม่ใช่ หน้าลุง ดิฉันไม่ไป แล้วก็เริ่มจ้องลุง (หลังจากเถียงสู้ไม่ ทัน เพราะภาษาญประดับเด็กอนุบาล) ใช้วิธีจ้อง ๆ ๆ ลุงก็ จ้องกลับ จ้องไปจ้องมาลุงหลบสายตา ดิฉันก็ยังยืนปัก หลักอยู่หน้าลุง ไม่เขยื้อนไปไหน แล้วก็ฟังหูฟังต่อ สุดท้ายก่อนลงจากรถไฟ ดิฉันก็มองหน้าลุงอีกครั้ง แล้วก็ ชูนิ้วกลางข้างขวาให้ต่อหน้าลุง (จริง ๆ เป็นกิริยาที่ไม่ สมควรทำ) แต่ตอนนั้นดิฉันโกรธมาก รู้สึกได้ว่าหน้าตัวเอง ร้อนไปหมด...ระดับโกรธถึงขีดสุด ตอนที่เกิดเหตุการณ์คิดในใจว่าหากลุงลุกขึ้นมาทำร้ายร่าง กาย ดิฉันจะเอากระเป๋าที่ใส่อุปกรณ์การเรียนหนัก ๆ ตบหัว ลุงให้คว่ำเลย  ถามว่ากลัวไหม....กลัวค่ะ แต่เรื่องอะไรจะ ให้ลุงรู้ว่าเรากลัว พอกลับบ้านเล่าให้ผบทบ.ฟัง เค้าก็ว่าไม่ควรไปแลกกับลุง ให้เลี่ยงซะ พร้อมกับเทศนายาวว่าคนที่เก่งนั้น ต้องรู้จักวิธี เอาตัวเองให้รอดในเมืองใหญ่ ที่มีผู้คนมาจากร้อยพ่อพัน แม่ ไม่ควรไปปะทะด้วย (แต่ดิฉันประเมินกำลังแล้ว...ยัง ไงหากสู้กันดิฉันชนะลุงแน่ ๆ แฮ่ะๆๆ) แต่กระนั้นก็ตาม ดิฉันก็จดศัพท์จากผบทบ.มาหลายคำ ประเภท - นี่กระจก เอาส่องหน้าตัวเองซะ - อย่าใช้เงินบำนาญที่มาจากภาษีที่สามีกรูจ่ายนะเฟร้ย ฯลฯ (แต่ก็ภาวนาไม่ให้ตัวเองต้องใช้ศัพท์พวกนี้) ----------------------------------------------------------- พอไปถามเพื่อนสนิท เค้าก็บอกว่าเวลาเค้าขึ้นรถไฟ เค้าจะ เลือกที่จะยืนต้องหน้าคน เช่นระหว่างผู้ชายกับผู้หญิง - ก็ จะเลือกยืนหน้าผู้หญิง / ระหว่างผู้ชายขาสั้น กับขายาว - ก็ จะเลือกยืนหน้าคนขาสั้น ดิฉันว่าเพื่อนดิฉันฉลาดเป็นบ้า เลย จากนั้นดิฉันก็รู้จักเริ่มมองหน้าตาคนที่เราจะไปยืนข้างหน้า บ้าง (เลือกที่หล่อ และดูดี 555) จากคุณ : fudge-a-mania - [ 16 มี.ค. 50 08:02:31 ]

ความคิดเห็นที่ 31 5555คุณ fudge เจ๋งมากค่า ขอบอก..... กุ้งเคยเห็น คนต่างชาติ ไม่แน่ใจ ว่าคนจีน หรือคนเกาหลี พอนั่งในรถไฟได้โทรศัพย์ เสียงดังมาก นี่ขนาด ผู้หญิงนะคะ เนี่ย ก็เจอตาลุง นั่งข้าง ทำหน้าไม่พอใจ และบ่นพึมพำ แต่ ผู้หญิงคนนั้นก็ไม่สนใจ แม้แต่มองคุณ ลุง5555 จนคุณ ลุงเหนื่อย และหยุดไปเอง *****คุณmaguro เราว่าที่คุณโดนสงครามประสาท ที่อาพาร์เม้นเก่า มันเล่นกันแรงไปนะคะ สามีคุณรู้เรื่องนี้ไหมคะ คืออยากรู้คอมเม้นของคนญี่ปุ่น ว่าเค้าคิด และจะแนะนำให้เราทำอย่างไร รู้ค่า เราจะบอก แฟนเรา ทุกครั้ง เขาเลยถามว่าไปคุยอะไรไม่เข้าหูใครหรือเปล่า????กำ....อยู่ด้วยกัน ยังไม่รู้อีกว่าฉันเป็นคนยังไง เราก็เลยบอกว่า ภาษา ญี่ปุ่น ฉันยัง อ้อแอ้ อยู่เลย จะให้ไปคุยกับใครเขาล่ะ แค่ อยู่ในบ้าน และ ออกไปซื้อของ ถ้าเจอ คนที่พักข้างบน ก็จะโค้งและ กล่าวคำว่าสวัสดีเท่านั้นเอง เราคิดว่า แฟนเรารู้นะว่าใครทำ.....เขาเลยบอกไปหยิบมันออก ซะ และเอาแมวไปขุดฝัง แค่นั้นเอง คือไม่ต้องไปต่อล้อต่อเถียง จบ....(มันเหมือนกำลังเล่นสงครามประสาท กับเราหน่ะพอเราไม่เล่นด้วยมนก็เลิกลาไปเอง) ก็หลังจาก ที่เราโดนมา พอถัดมาอีก 1-2 เดือน รถ ฮอนด้า ของแฟนเรา ที่จอดไว้ ที่ลานจอดรถของเอกชน ก็ใกล้ๆๆอาพาร์เม้น นะ โดน ทุบ กระจก ด้านข้าง เราให้แฟนไปแจ้งตำรวจก็ไม่ยอมไป ก็เลยเอารู้เข้าศูนย์ ซ่อม จ่ายตังค์ ตามระเบียบบ และสุดท้าย ก่อนออกมาจากอาพาร์เม้น รถ โดน ขูด ข้างรถ เป็นรอยทางยาวเลย ก็เหมือนเดิม แหละเสียตังค์ซ่อมมันอีกรอบ คนญี่ปุ่น แถวบ้านเก่า ที่เราเคยอยู่ ร้ายแบบเนียนๆๆ ต่อหน้า พูดอย่างรับหลังอย่าง (ถ้าเป็นที่ไทยรียกว่า นกสองหัวนั่นแหละ) แฟนกุ้งเขาก็พอรู้ฤทธิ์ เดช อยู่ แต่มีแต่คนอายุ รุ่นแม่ ทั้งนั้น มีใครจะไปเสียเวลาต่อล้อ ต่อเถียง ขนาด ร้ายๆๆ กันนะ แฟนกุ้งบอก ถ้า แผ่นดินไหว หนักๆๆ อย่าวิ่งออกมาคนเดียว นะ ยังไงก็ขึ้นไปช่วย ยายๆๆป้าๆๆห้องข้างบนด้วย อืมมมม ตัวฉันเองยังไม่รู้จเอาตัวรอดหรือเปล่า เลย *****คุณmaguro เจอคนยป.เล่นแรงนะแบบนี้น่ากลัวเคยดูทีวีเหมือนกันพวกป้าๆชอบแกล้งนะค่ะบางวันเอาขยะมาทิ้งบ้านคนอื่นหรือบางวันจะมาแกล้งเอาจดหมายห้องอื่น ใช่ค่ะ คุณ ฮารุกะ เราว่าเขาเหงาแหละ แต่ละคนนี่ร้ายๆๆทั้งนั้นๆๆ ขนาดแม่แฟนรา เขายังไม่อยากคุยด้วยเลย ก็เพราะอย่างนี้ แหละ ลูกๆๆหรือญาติๆๆ ถึงไม่ค่อยได้สนใจ ก่อนที่เราจะย้าย ออก ประมาณ 1 อาทิตย์ เราออกไปซื้อของ กลับเข้ามา มีรถมารับศพ ห้องข้างบน คือ ห้องนี้ แกอดอาหารตาย แกแก่แล้ว เดินไม่ได้ ลูกๆๆก็ไม่สนใจ หาอาหาร ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ บางทีก็สงสารเขานะ แฟนเรานะหรือ จะมีอะไร.....เถียงคนเป็นที่ไหน มีเรื่องฮามาเล่าหน่อย สมัยที่แฟนเรายังไม่ย้ายตำแหน่ง คือ เธอขับรถไฟ ทีนี้ เหล็กด้านหลังมันหลุด และรถที่ขับตามหลัง ไม่ยอมเบรค ก็ไปชนเหล็กนั่นเข้า แต่คนขับรถ เก๋งไม่เป็นอะไรหรอก รถก็ยุบมานิดหน่อย เขาก็เรียกตำรวจมา ตำรวจถามแฟนเราว่า คุณ ขับรถไฟ ไม่รู้หรอว่าเหล็กมันร่วง แฟนเราก็บอกไม่ทราบ เพราะเสียงมันดัง ตำรวจ ก็ ถามคำถามบ้าๆๆ รถไฟ นะเฟ้ย ไม่ใช่ รถจักรยานซะหน่อย กุ้งเลยบอกย้อนไปเลย แล้วไอ้คนที่ขับรถเก๋งหน่ะ มันขับกี่กิโล ต่อ ชม ล่ะ พื้นที่ นั่น เขาห้ามขับรถเร็ว ถ้าขับระยะ 40-60 ยังไงมันก้ต้องเบรคทัน แต่นี่ไม่ยอมเบรค จะหาเงินค่าประกันหรือเปล่า และเหล็กมันหลุดจะมาโทษคนขับรถได้ไง โน่น ไปถาม คนที่อยู่แผนกซ่อมบำรุ่งโน่น...... แฟนเรา แค่เกิดเรื่องแค่นี้ก็เล่นแบบกินข้าว กินปลาไม่ได้แล้ว เราบอกไม่ต้องไปกลัวมันหลอก เดี๋ยวเจ้านายเขาก็ยื่น ทนายไปจัดการเองแหละ พูดถึงเรื่องขายของ เมื่อวานก็มาอีกแล้ว กดออ๊อด แล้วเดินหนี ไปกดอีกห้องนึง พวกนี้ ที่จริงตำรวจน่าจะ ปราบๆๆเนอะ เยอะจริงๆๆ จากคุณ : maguro - [ 16 มี.ค. 50 09:34:50 A:202.248.88.183 X: TicketID:132552 ]

ความคิดเห็นที่ 32 คุณกุ้งคะ ไม่เจ๋งหรอกค่ะ เพราะหากลุงคนนั้นเป็นลูกน้อง ยากูซ่า ป่านนี้ดิฉันคงม่องไปแล้ว....พอมานั่งคิด ๆ ดู ก็ รู้สึกว่าตัวเองก็หุนหันพลันแล่นไม่เบา หากเป็นคนอื่น ก็คง เลี่ยงเดินไปยืนที่อื่นแทน... ไม่รู้มีใครคิดเหมือนกันป่ะ ด้วยความที่ญปไม่ใช่เมืองไทย ดิฉันทำอะไรไม่ค่อยเกรงใจใคร (หากเป็นที่ไทยดิฉันอาจ จะไม่ทำแบบนี้ เพราะเรามีสังคมที่นั่น) ที่ญปเรอะ...คน ญปจะเกลียดจะโกรธ ดิฉันไม่ค่อยแคร์ (ยกเว้นคนใน ครอบครัว) เพราะถือว่าเป็นคนอื่น ไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของ สังคมที่นี่ ใครร้ายมาดิฉันร้ายหนักกว่าอีก... เดี๋ยวนี้แก่แล้วค่ะ หมดเรี่ยวแรง อะไรยอมได้ก็ยอม ๆ ไป สมัยก่อนนะคะ มีกลุ่มเด็กม.ปลายขึ้นรถไฟมา 6 -7 คน ทั้งหญิงและชาย คุยกับเสียงดังลั่น แล้วก็มีเด็กผู้หญิงคน หนึ่งงัดเอามือถือขึ้นมาคุย....คุย คุย คุยตั้งแต่รถไฟออก ยันรถไฟจอดอีกสถานีนึง...ดิฉันทนไม่ไหวเลย (เหมือน คันในร่มผ้า) ก็เลยสะกิดเด็กผู้หญิงคนนั้น แล้วชี้ป้ายที่ติด ในรถไฟให้ดู แต่ดิฉันไม่พูดอะไรสักคำเดียว กลุ่มเพื่อนที่ กำลังคุยกันอย่างออกรส เงียบกริบฉับพลัน แล้วเธอก็วาง สาย ส่วนผบทบ.นี่ สมัยก่อนชั่วโมงเร่งด่วน หากมีคนอ่าน หนังสือพิมพ์ในรถไฟแล้วคลี่กางอะร้าอร่าม พี่แกสะกิด บอกเลย ทนไม่ไหวเหมือนกัน (ดิฉันคงติดโรคมาจากพี่ แก) แต่เดี๋ยวนี้เรา 2 คนเป็นคนดีแล้วค่ะ >_< กลับเนื้อกลับใจ ทำตัวตามพลเมืองที่ดีของสังคมญป คือ อดทน อดกลั้น และอดใจ (แต่โรคเครียดถามหากันมากมาย) จากคุณ : fudge-a-mania - [ 16 มี.ค. 50 11:14:37 ]

ความคิดเห็นที่ 33 คุณ fudge ถ้าขึ้นรถรอบดึกๆๆประจำ กุ้ง ว่าหาซื้อเครื่องบันทึกเสียงเล็กๆๆ ติดกระเป๋า ก็ดีนะคะ อันนึงประมาณ หมื่นกว่าเยน (ของมีหลายราคาค่า )อยู่ที่ รูปทรง และ การบึนทึกน่านแค่ไหน และ เครื่องช๊อตไฟฟ้า แบบเวลามีอะไรฉุกเฉิน ยังไงมีไว้ก็อุ่นใจกว่าเยอะค่า น่าจะย้อน ตาลุง คนญี่ปุ่น กลับไปว่า คิดว่าตัวเองหน้าดีหรือยังไง ถึงได้มีคนอยากมอง.... และรู้ได้ไงว่าฉันมองคุณ.....แล้วคุณ ล่ะมามองหน้าฉันทำไม ถ้าคุณ ไม่มองหน้าฉัน แล้วคุณ จะรู้หรอว่าฉันมองคุณ ..... แบบคุยกันให้เมาไปข้างนึงเลย แล้วถ้า เถียงไม่ทันก็สะบัดก้นหนี 5555 จากคุณ : maguro - [ 16 มี.ค. 50 11:15:26 A:202.248.88.183 X: TicketID:132552 ]

ความคิดเห็นที่ 34 อ่านแต่ละคคห. เจอมาหนักๆทั้งนั้นเลยนะคะ แต่สะดุดที่เคสคุณฮารุกะ ในความคิดเรา เราว่าคุณทำถูกแล้วนะคะ ที่ปกป้องลูกชายจากคนขี้เมานั้น เราแค่ลองคิดว่า ถ้าเราเป็นลูก แล้วกำลังอยู่กับพ่อ-แม่ และมีคนมารังแกเรา แต่พ่อ-แม่เราช่วยอะไรเราไม่ได้ เราคงรู้สึกเจ็บปวดมาก เราว่าคุณ ต้องดูเท่มากๆในสายตาของลูกชายคุณแน่ๆเลยคะ แปลกใจอยู่อย่างหนึ่งคะ ทำไมคนญี่ปุ่นถึงกลัวการมีเรื่องจัง ทุกคคห. พอเหล่าภรรยาคนไทยวีนกลับพวกที่มารังแก เรากลับโดนสามีดุ ว่าให้เฉยๆซะ ในความคิดของเรา เราว่ามันไม่แฟร์ ถ้าอยู่ดีๆต้องโดนคนอื่นรังแก ซึ่งสามีเราก็เป็นคะ เค้าจะบอกไว้เลยว่า ถ้ามีใครมางี่เง่าด้วย ให้เงียบๆไว้ อย่าไปเถียง เพราะไม่รู้ว่าเป็นพวกยากุซ่ารึเปล่า โอ้ย! เศร้าคะ ไทยนี้รักสงบ แต่ถึงรบไม่ขลาด จากคุณ : Bo Mama - [ 16 มี.ค. 50 11:35:55 ]

ความคิดเห็นที่ 35 คุณ fudge มาแถวบ้านกุ้ง ซิ ยากูซ่า ตัวเป็นๆๆเยอะแยะไปหมดดด แต่พวกนี้จะไม่มีมาจ๊อแจะ อะไรหรอกค่า ตรงหน้าอาพาร์เม้น ที่อยู่ปัจจบัน มีพวกยากูซ่า ถ้า ตัวใหญ่ๆๆ มานั่งกินกันบ่อยมาก ถ้าพวกตัวใหญ่ๆๆมา จะมีลูกน้อง 4-5 คนยืนคุมหน้าร้าน แต่ปกติ จะมีเฉพาะลูกน้องมานั่งกินกันมากกว่า แถวบ้านกุ้ง ทั้ง คนฟิลิปิน เวียดนาม จีน เกาหลี เยอะมากกกก แต่ถ้า ปากเก่งหาเรื่อง โดยเฉพาะผู้หญิงนี่ ไม่ใช่แล้วค่า พวกนี้ ชอบอวดมากกว่าว่าข้านี่แน่ แต่ถ้าไปเจอ พวก ผู้ชายเหมือนๆๆกัน ล่ะหงอเลย แถบที่กุ้งอยู่นี่ เป็นพื้นที่สีแดง มาตั้งหลายปีค่ะ คือขโมย โจร เยอะแยะไปหมด เมื่อเร็วๆๆนี้ก็มียิงกันตายคาลานจอดรถ ที่ห้าง เพราะสาเหตุ แย่งที่จอดรถกัน ในรถไฟ กุ้งนะไม่ชอบพวกไว้ผมยาวแบบสยายยยเลย บางทีเรานั่งตรงสุดเบาะ ผู้หญิงที่มายืนพิงแล้วผม ยาวๆๆมาทิ่มหัว เนี่ย อย่างไม่ชอบเลย เรื่องกางหนังสือพิมพ์ กุ้งว่าพอทนนะ แต่เคยเจอแบบกลิ่นเหม็น ปิ นี่ไม่รู้จะสะกิดบอกยังไงดี กุ้มมม ก็พวกนักเรียน ที่ชอบนุ่งสั้น สงสัยเป็นเวลาเมนใกล้หมด หน่ะ กลิ่นนี้เหม็นคาวมากก หรือเขาไม่อาบน้ำเช้ากันก็ไม่รู้ จากคุณ : maguro - [ 16 มี.ค. 50 11:44:45 A:202.248.88.183 X: TicketID:132552 ]

ความคิดเห็นที่ 36 คุณฮารุกะ กับ คุณฟัดจ์เจ๋งมากๆ ค่ะ ... เห็นด้วยกับคุณ Bo Mama ทุกอย่างเลย... ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด... จากคุณ : LilyAi - [ 16 มี.ค. 50 12:12:18 ]

ความคิดเห็นที่ 37 เข้ามาอ่านเก็บข้อมูลอีกแล้วค่ะ... คุณฮารุกะเจ๋งจริงๆ ค่ะ  เป็นดิฉัน  ดิฉันก็คงฉุนทำแบบนั้นเหมือนกัน  ( ลูกเรา เราก็รักนี่เนาะ ) แต่ละคนมีประสบการณ์แก่กล้ากันทั้งนั้นเลยค่ะ  ส่วนตัวไม่เคยเจอและก็ไม่อยากเจอด้วยค่ะ   ไม่อยากให้ใครมาทำร้ายและก็ไม่อยากทำร้ายใครด้วยค่ะ (สังคมญี่ปุ่นว่าไปก็อันตรายนะคะเนี่ย  สงสัยลูกๆ โตคงต้องจับให้เรียนวิชาป้องกันตัวกันให้หมด  อย่างน้อยก็เอาไว้ใช้ป้องกันตัวเองได้ ) เห็นด้วยกับคุณ  Bo Mama ค่ะ  ไทยนี่รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด จากคุณ : LilyAi - [ 16 มี.ค. 50 12:26:55 ]

ความคิดเห็นที่ 38 โอ้ว ได้ใจอย่างแรงคะ เราก็มีเรื่องกับลุงบนรถไฟเหมือนกัน รถมันเบียด แล้วเราก็ดันติดขาลุงที่นั่งยืดแข้งยืดขาอย่างสบายใจเข้าด้านในไม่ได้ หลุดปากบ่นเป็นภาษาไทย ว่าทำไมอีตาลุงนี่นั่งไม่ดีเลย ปรากฏอีตาลุงที่ยืนข้างๆหันมาด่า บอกว่าด่ามันเหรอ เราก็บอกว่าไม่ได้ด่านะ มันก็ว่า แล้วบ่นทำไม รถมันแน่นนะ อีตานี่ด่าพ่อล่อแม่เลยคะ ปรี๊ดดดดด โกรธมาก โกรธจัดจนน้ำตาไหล โวยมัน จะเอายังไง ไปหาตำรวจไหม เรานี่ทั้งโกรธทั้งร้องไห้ คนก็มอง มันก็กลายเป็นผู้ผิด มาเดินตาม ผมขอโทษ ยกโทษให้ผมนะ คนมันแน่น ผมเลยหงุดหงิด แล้วมาลงที่เราเนี่ยนะ วันนั้นเซ็งไปทั้งวันเลย จากคุณ : ramillar (Ramillar) - [ 16 มี.ค. 50 19:25:39 ]

ความคิดเห็นที่ 39 เข้ามาโหวตคะ หญิงไทยรักสงบ แต่ถึงรบไม่ขาด(ขลาด) อันนี้เรื่องจริงคะ หยามไม่ได้ด้วยเนาะ จากคุณ : แม่ปุ้ม (มีมีมากุโระ) - [ 17 มี.ค. 50 11:01:15 ]

ความคิดเห็นที่ 40 กลับมาอ่านกระทู้ ขอขอบคุณทุกๆคคห. นะคะ จากใจ จขกท. จากคุณ : Bo Mama - [ 17 มี.ค. 50 18:43:15 ]

ความคิดเห็นที่ 41 อ่านแล้วดีมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ จากคุณ : meaw_1985 - [ 3 เม.ย. 50 18:24:33 ]