ความคิดเห็นที่ 1 เขาว่า ช ญี่ปุ่นให้เงินเดือนเมียดุแลหมดจริงไหมครับ จากคุณ : x - [ วันจักรี 13:35:37 A:58.9.178.171 X: ]

ความคิดเห็นที่ 2 ไม่แน่ใจนะครับแล้วแต่ความประสงค์ของผู้ชายมากกว่านะครับ สวนตัวผมไม่ได้ให้ภรรยาดูแลเรื่องเงินครับ ผมเป็นคนจัดการเรื่องเงินเองครับ จากคุณ : OSAKA_BOY - [ วันจักรี 13:49:32 ]

ความคิดเห็นที่ 3 เราว่าผู้ชายที่แต่งงานกับคนญี่ปุ่นต้องปรับตัวและผ่านช่วงที่ยากลำบากมากๆ มากกว่าผู้หญิงที่แต่งงานกับคนญี่ปุ่น ในฐานะผู้นำครอบครัว เขาต้องต่อสู้ทั้งด้านเศรษฐกิจและความคาดหวังของสังคมญี่ปุ่น ขอชื่นชมและเป็นกำลังใจให้ค่ะ ปล เราให้สามีจัดการเรื่องเงินค่ะ เพราะเค้าเป็นคนละเอียดดดดดดด มากกกกกกกกและเก็บเงินเก่งกว่าค่ะ จากคุณ : เจด้า@เจแปน - [ วันจักรี 15:47:21 ]

ความคิดเห็นที่ 4 เข้ามาแสดงความคิดเห็นด้วยคะ แฟนเราเป็นคนให้เราถือเงินทั้งหมดคะ เป็นตั้งแต่อยู่เมืองไทยแล้วคะ เพราะแฟนบอกว่าถ้าแกถือเงินหมดแน่ๆ (อ้าวเป็นงั้นไป) แต่ถ้าเป็นเงินที่แฟนเก็บก่อนแต่งงาน เราจะไม่ได้ถือเลยล่ะ พ่อแม่แฟน จะรู้คะ แต่เราก็แย็บถามนะว่าเท่าไร แฟนไม่บอกคะ ฮิ ฮิ กลัวเราใช้หมดคะ ตามความคิดเรานะคะ ผู้ชายไทยที่แต่งงานกับผู้หญิงญี่ปุ่นน่าจะปรับตัวเยอะ มากกว่านะคะ แต่ก็ไม่เกินกำลัง ถ้าเราปรับตัวเข้าหากันทั้งคู่คะ เป็นกำลังใจให้นะคะ จากคุณ : Kana Jan - [ วันจักรี 18:27:08 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ไม่ค่อยเกี่ยวกับแต่งงาน แต่ก็ใกล้เคียงค่ะ สมัยอยู่หอใน uni เรามีเพื่อนคนญี่ปุ่นมาก เพราะแฟนเราก็ญี่ปุ่นไง เรามีเพื่อนสาวคนนึงเขาก็ถือว่าเก่งมาก จบจาก Kyoto Uni พูดไทยได้มากกว่า 50% เพราะเรียนภาษาไทยมา เคยมีเเฟนคนไทย แต่ตอนนั้ยเลิกกันแล้ว ตอนมาเรียนที่นี่ เขาก็ไปคบคนนึงมาจากโมซัมบิค แบบจรืงจะง อยู่ด้วยกัน ว่าจะแต่งงานกัน แล้วไปอยู่ญี่ปุ่น แต่พอผู้ชายเรียนจบก่อน ผู้ชายก็ขอเลิก แล้วก็มีข่าวเม้าท์สะพัดไปทั่วหอ (ก็หอนักเรียนน่ะ ใครทำอะไรก็รู้หมด) ว่าผู้ชายไม่อยากทนผู้หญิงคนนี้ เพราะ 1. แต่งหน้าเป็นชั่วฌมง 2. ชอบว่าผู้ชายแรงๆ 3. ไม่ยอมรับความคิดแฟนเท่าไหร่ 4. ชอบข่มผู้ชาย 5. ขี้หึง เต่ก็รักกันมากน่ะ เพื่อนคนเราคนนึงที่สนิทกับกับคู่นี้บอกว่า ผู้ชายมาปรุกษาตลอด ว่าทำไมผู้หญิงคนนี้ชอบข่ม ทำเหมือนเขาเป็นคนใช้ สักพักผู้หญิงก็มาปรกษาอีกว่า ผู้ชายดูไม่ค่อยรักเขา ดูอืดๆ ไม่ active ไม่ค่อย romantic.. อต่อันนี้ อาจจะ case ที่เพื่อนเราคนนี้เรียนสูง เรียนเก่งมากไป คงไม่ใช่เพราะคิดว่า เป็นคนญี่ปุ่น ก็เลยข่มผู้ชาย แต่ตอนนี้ผู้หญิงมีแฟนใหม่ เป็นคนนามิเบีย รักมากถงยอมเปลี่ยนศาสนาจากพุทธเป็นคริสเตียน แล้วก็ยอมผู้ชาย (ต่างจากคนแรกลิบลับ) แต่มีข้อแม้ว่าแต่งงานแล้วต้องอยู่ญี่ปุ่น ไม่นามิเบีย จากคุณ : My Town - [ 7 เม.ย. 50 06:40:20 A:68.167.88.162 X: TicketID:131100 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ผมอยากจะแต่งงานมากเลยครับ คนแฟนญี่ปุ่นนี่มาสักพักแล้ว แต่ทางบ้านเค้าอยากให้ผมได้งานที่ญี่ปุ่นก่อน แฟนอยู่โอกายาม่า แต่ตอนนี้ภาษาญี่ปุ่นผมยังไม่ได้ แฟนก็ไม่รู้ภาษาไทยเลยๆ ทุกวันนี้ก็โทรคุยกัน กับ Msn แต่ปัญหาว่าแฟนผมทำงานพิเศษมาตลอดตั้งแต่ ม ปลาย แต่ผมยังไม่เคยทำงานเลย ความแตกต่างตรงนี้ชัดมาก ถ้าผมไปอยู่ญี่ปุ่นคงต้องปรับตัวอย่างหนัก อยากทราบว่าค่าจัดงานแต่งงานที่ญี่ปุ่นเท่าไหร่ครับ ช่วยกันออกรึว่าฝ่ายชายครับ ถ้าเป็นภาษาไทยกับอังกฤษ ญี่ปุ่นได้นิดหน่อย หางานทำยากไหมครับๆ ปัญหาใหญ่ของการปรับตัวเข้ากันมีอะไรบ้างครับ สำหรับผมไม่ค่อยมีอะไรเป็นปัญหาเท่าไหร่เลยๆ [คลิกเพื่อชมภาพขนาดจริง] จากคุณ : ... (อะบู๊ๆ) - [ 7 เม.ย. 50 14:03:31 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ขอแจมด้วยคนค่ะ คนเรามีขีดความอดทนไม่เท่ากันนะคะ เขาคนนั้น อาจจะเจอหนักกว่าที่มาตั้งกระทู้ระบายไว้ก็ได้ เรื่องเลิกกัน สำหรับเรา เฉยๆๆ ในเมื่อ อยู่ด้วยกันแล้วไม่มีความสุข จะอยู่ด้วยกันไปทำไม... อย่ามาอ้างเลยว่าทนอยู่เพื่อลูก เด็กๆๆ เขาไม่รับรู้ปัญหาตรงนี้หรอก ถ้าเป็นเด็ก ที่โตหน่อย เขาก็ต้องเข้าใจ ในสิ่งที่พ่อ กับแม่ กำลังตัดสินใจ ไม่ใช่พ่อแม่เลิกกัน แล้วลูกจะเป็นเด็กมีปัญหา เด็กๆๆเขาก็ ปกติดี มีแต่ผู้ใหญ่ชอบยัดเยียดโนนนี่ให้เขา ชอบล้อ ชอบพูดให้เด็ก คิดมาก เคยอ่านเจอในหนังสือ ผู้หญิง ญี่ปุ่นเขาว่า ผู้ชาย ญี่ปุ่น ที่แต่งงานกับคนต่างชาติ เป็นผู้ชาย ที่ ผู้หญิง ญี่ปุ่น ไม่เลือก (ประมาณ ว่าไม่หล่อ ไม่รวย หรือไม่ดีประมาณนี้แหละ) น่าน้อยใจเนอะ ผู้ชายกลายเป็นตัวเลือก ส่วนผู้หญิง ญี่ปุ่นคนไหน ที่อายุ 30 แล้ว และยังไม่ได้แต่งาน ก็จะมีคนมองแบบไม่ค่อยดี คือประมาณ เธอ นิสัยไม่ดีหรือเปล่า ถึงไม่มีคนเลือกแต่งงานด้วย?? ผู้หญิง ญป บ้างคน ก็บ้าแบรนเนม ชอบข่ม สามีตัวเอง บางครั้ง ข้างนอกก็ยังไม่วาย ( เจอบ่อย) อย่าแม้แต่ ญาติฝ่ายสามีเลย ขนาด สามียังเอาตัวแทบไม่รอด แต่ผู้ชาย ญป ถ้าเงินเดือนน้อย จะกลัวเรื่องการหย่า เพื่อนแฟนเรา ที่หย่ากับภรรยา ป่านนี้ยัง ตั้งตัวไม่ได้เลย เพราะเงินเดือน ส่งลูกเมีย แทบหมด นอกจากถูกหวย คงจะได้ลืมตาอ้าปากได้ ขนาดเรามาอยู่ ญป เราบอกแฟนเรา ทำไมไม่เอาแม่มาอยู่ที่บ้านด้วยกัน เขา งง มาก เขาบอก ถ้าเป็นผู้หญิง ญี่ปุ่น นี่ไม่ได้เลย(แค่นี้เราก็พอเข้าใจแล้ว) แต่คนดีๆๆ เขาก็มีนะ ที่ญป ถ้าเราเห็นวัยรุ่นๆๆเดินประคองย่ายาย หรือเข็นรถเข็นให้คนแก่ เราจะมองนานมากๆๆ เพราะแปลกใจ ภาพนี้ ไม่ค่อยได้เห็นกันบ่อยนัก ก็คิดดูเอาแล้วกัน ว่าผู้หญิง ญป เขาเลี้ยงลูกกันแบบไหน ถ้าคุณ มาอยู่ ญี่ปุ่น นานๆๆแล้วคุณ จะรู้จักนิสัย ผู้หญิง ญี่ปุ่นดียิ่งขึ้น สำหรับเรา ที่เห็นบ่อยๆๆ ทั้งข่มสามีตัวเอง ทั้งเห็นแก่ตัว เพื่อนแฟนเรา เขาไปไทยบ่อยมากกก แฟนเราถามว่าถ้าถูกหวยรางวัล ที่ 1 จะเอาเงินไปทำอะไร เขาตอบแบบ ไม่ได้คิดเลย คือจะหย่ากับภรรยาคน ญี่ปุ่น แล้วไปอยู่ไทย 55555 เขาอยู่ในญป หน้าตาเศร้ามาก ถ้าไปเจอกันที่ไทยนี่ หน้าตาสดใส เปลี่ยนเป็นคนละคนเลย เขาว่า ช ญี่ปุ่นให้เงินเดือนเมียดุแลหมดจริงไหมครับ ถ้าเป็นสมัยก่อน เราว่าใช่นะ เพราะเงินเดือน เขาจะใส่ซองน้ำตาล พอรับมาก็ส่งให้ภรรยาดูแล แต่เดี๋ยวนี้ เงินเดือน ถ้าเป็นพวกบริษัทใหญ่ๆ จะโอนเข้า บัญชี กันหมด ของเราก็เช่นกัน เข้าบัญชีเขา ก็ตัดค่าใช้จ่าย ผ่านบัญชีไป (เงินจะใครถือก็เหมือนกันสำหรับเรานะ) เพราะค่าใช้จ่ายมันตายตัวแทบทุกเดือน ส่วน เรา ก็ รูดบัตร เอา ถึงสิ้นเดือนค่อยมาเคลียบิล จากคุณ : maguro - [ 7 เม.ย. 50 15:55:00 A:202.248.88.170 X: TicketID:132552 ]

ความคิดเห็นที่ 8 มาแจมครับ ผมแต่งงานกับภรรยา ตอนแรกเราอยู่เมืองไทยกัน จนมีลูกคนที่สอง เพราะแม่แฟนให้มาอยู่ญี่ปุ่น สงสารลูกกับหลาน แกบอกว่าอยู่เมืองไทยฉันช่วยอะไรเธอไม่ได้ มาอยู่ญี่ปุ่นเถอะ ผมจึงทิ้งงานจากเมืองไทยมาอยู่ญี่ปุ่นกับครอบครัวแฟนที่ญี่ปุ่น โชคดีที่พ่อแม่แกใจดีมาก รักหลายมากๆ มาอยู่ที่นี่ ภาษาผมยังไม่ค่อยได้ หางานไม่ได้ อีกอย่างแฟนชอบทำงานมากกว่าเป็นแม่บ้าน ผมก็เลยต้องเป็นพ่อบ้านเลี้ยงลูก อายุ ห้าเดือนจนถึงปัจจุบันลูกสองขวบแล้ว ช่วงแรกๆเครียดมากๆครับ เพราะภาษายังไม่ค่อยได้ ทั้งเน็ตยังไม่ได้ติด พ่อแม่ยังไม่อยากให้ขับรถ อยู่ฮอกไกโด หน้าหนาวก็หนาวสุดๆ ต้องปรับสภาพทั้งร่างกาย และปรับทั้งจิตใจ จากต้องทำงานมาเป็นพ่อบ้าน ต้องทำความสะอาดบ้าน ขัดห้องน้ำ กับเลี้ยงลูกสามหน้าที่หลัก แต่ถึงแม้ว่าพ่อ แม่แฟนจะดีมาก แต่ก็ต้องมีเรื่องต้องให้ขัดใจกันอยู่วันยังค่ำ เรามาอยู่บ้านเขา คือไม่อยากมีปัญหาด้วย ดีที่แฟนเราเป็นกลาง แฟนบอกว่า  เขาเข้าใจจิตใจ เหมือนตอนที่เขาอยู่เมืองไทยไม่มีใครมีแต่เราคนเดียว อยู่ไปซัก8เดือน เครียดอย่างแรง เหงา อาหารอีก  เลยบอกกับแฟนว่า อยากทำงาน แฟนก็พูดกับพ่อ แม่ให้ เขาไม่อยากให้เราทำงาน เพราะต้องเลี้ยงลูก  แต่โชคดีที่ได้งานที่เวลาไม่ตรงกับแฟนวันละ สามชั่วโมง เลยสลับกันเลี้ยงลูกได้หลังจากนั้น ชีวิตมีความสุข ไช้อินเตอเน็ตได้ ขับรถไปนู้นไปนี่ได้ พาลูกไป park ไปนู้นนี่ได้ ปรับตัวเข้ากับพ่อแม่ได้ดี ไม่มีปัญหาอะไร โชคดีปีนี้อากาศไม่หนาวจัดเท่าปีที่แล้ว ส่วนเรื่องค่าไช้จ่ายก็ให้แฟนจัดการ ส่วนเราก็ได้รับเงินเป็นรายเดือนเก็บไว้เที่ยวบ้าน แฟนอนุญาตปีละครั้ง (ขอบ่น ค่าตั๋วจากฮอกไกโดแพงมากๆ) ตอนนี้ชีวิตมีความสุข สไตร์ญี่ปุ่น มีเวลาก็เข้ามาห้อง @japan มาแลกเปลี่ยนความรู้ ขอบคุณ จขกท ที่ตั้งกระทู้นี้ขึ้นมา เหมือนได้มาระบาย จากคุณ : Aon_loe - [ 8 เม.ย. 50 09:19:06 ]

ความคิดเห็นที่ 9 maguro ทำไมเจอแต่เรื่องไม่ดีเลยครับ ส่วนตัวผมไม่เคยเจอเรื่องพวกนี้เลยที่บอกว่า ภรรยาข่มสามี เพื่อนผมที่เป็นผู้ชายไทย(ตอนนี้เป็นเจ้าของร้านแล้ว) แต่งกับสาวญี่ปุ่นได้ 11 ปี คนนี้ก็บอกเหมือนกันไม่เคยเจอภรรยาข่มสามี (ผมว่านะก็คงเหมือนเมืองไทยผู้หญิงไทยบางคนก็ข่มสามี ตัวอย่างที่เห็นๆ มาญาติผมแต่งกับลูกคนมีตระกูล ฝ่ายชาย(ก็มีเงินนะครับ) ภรรยาก็ข่มสามี แต่ก็ยังทนได้เลยนะครับ  ส่วนผู้หญิง ญี่ปุ่นคนไหน ที่อายุ 30 แล้ว และยังไม่ได้แต่งาน ก็จะมีคนมองแบบไม่ค่อยดี คือประมาณ เธอ นิสัยไม่ดีหรือเปล่า  ผมว่าไม่จริงนะครับแทบแถวโอซาก้า และ โตเกียวเพื่อนผมบางคนอายุ ก็ 30 ยังไม่ได้แต่งงานก็ไม่เห็นมีใครว่าหรือนิทาอะไรเลยนะครับ ถ้ามีคงจะเป็นแทบบ้านนอกหรือป่าวครับในตัวเมืองส่วนใหญ่จริงๆ จะแต่งประมาณ 30 ขึ้นไปเพราะว่าไม่มีเวลาต้องทำแต่งงาน ถ้าเป็นแทบบ้านนอกๆ หน่อย จะแต่งงานกันเร็วมากนะครับ ผู้หญิงญี่ปุ่น บ้าแบนเนม อันนี้ไม่ต้องผู้หญิง ผู้ชายก็เป็นนะครับดีที่ไม่บ้าของก๊อป เหมือนเมืองไทย คนไทยบ้าของก๊อปแบนเนม(ฐานนะปานกลาง) ถ้าฐานะดีหน่อยจะบ้าของแท้แบนเนม ผมว่าเป็นเหมือนกันหมดทั่วโลกนะครับเรื่องแบนเนม ผมยังชอบของแบนเนมเลยนะครับ5555 ก็คิดดูเอาแล้วกัน ว่าผู้หญิง ญป เขาเลี้ยงลูกกันแบบไหน  อันนี้ยิ่งยืนยันได้เลยว่า ผู้หญิงญี่ปุ่นเข้าเลี้ยงลูกได้ดีก่าผู้หญิงไทยเลี้ยงลูกอีกครับ ดูตัวอย่างที่เห็นๆ และภรรยาผมเลี้ยงลูก มีอยู่วันนึงผมเห็น ลูกใครก็ไม่ได้อายุประมาณ 3 ขวบวิ่งหกล้มไม่ร้องไห สักแอะ ส่วนแม่ก็ไม่ได้เข้าไปโอ๋ แสดงให้เห็นว่าที่ญี่ปุ่นสอนให้ลูกรู้จักช่วยตัวเองได้ดีมากสอนให้มีความเข้มแข็งดีมากๆ ผมชอบมากต่างจากเมืองไทย พ่อแม่จะเข้าไปโอ๋ซึ่งแสดงให้เห็นว่าคนไทยเป็นลูกแห้งจนป่านี้พ่อแม่ผมยังเลี้ยงผมเป็นลูกแหง้อยู่เลยภรรยาก็แซวผมบ่อยๆ (อาย) จนป่าวนี้พ่อแม่ผมยังส่งเงินมาให้ใช้ส่งนู่นส่งนี้มาให้ (ก็ดีแต่ทำให้ผมรู้สึกว่าไม่โตสักที ทั้งๆ ที่มีลูกเป็นของตัวเองแล้ว)  ก็ลองคิดเอาเองนะครับว่าเลี้ยงแบบให้ลูกโตเป็นผู้ใหญ่สมอายุ หรือว่าเลี้ยงแบบลูกแห่ง ผมมีเพื่อนคนญี่ปุ่นคนนึงพ่อแม่เลิกกัน(เพื่อนรุ่นน้องผู้ชาย ตอนนี้เป็นโรค เมนทอดคือโรคหลายบุคคลิก ผลมาจากพ่อแม่เลิกกันแต่เด็ก ก็คิดเอานะครับสงสารลูกผมว่าผู้ชายไทยที่แต่งกับคนญี่ปุ่นที่เจอปัญหานิดๆ หน่อยแล้วหนี้ก็เหมือนลูกแห้งจริงๆ นะครับไม่สู้ (สาเหตุที่พ่อแม่เพื่อนเลิกกันผมดันไปรู้คือว่าฐานนะที่บ้านจัดว่ารวยมากพ่อเจ้าชู้เลยเลิกกัน) คุณ ... (อะบู๊ๆ)  ครับผมจัดงานที่เมืองไทยหนะครับไม่ได้จัดที่ญี่ปุ่นถ้าจัดที่ญี่ปุ่นต้องเตรียมเงินเอาไว้ ประมาณน่าจะ 4-5 แสนบาทไทย ถ้าเป็นเพื่อนผมแต่งคราวที่แล้วเพื่อนคนญี่ปุ่นทั้งคู่ หมดไปประมาณ เกือบล้านกว่าบาท เพราะต้องออกค่าที่พักค่าตั๋วเครื่องบินให้แขกด้วย เพราะเป็นเจ้าภาพต้องออกหมด ที่ถามว่าใครออกค่าแต่ง ผมว่าก็แล้วแต่จะคุยกับเจ้าสาวนะครับ ส่วนตัวผม พ่อแม่ผมออกให้555 ช่วงแรกๆ ผมภาษาก็ไม่ได้เครียดเหมือนกันเรื่องงานอยากทำงานอยากเป็นหัวหน้าครอบครัวจริงๆ มาอยู่ได้ซักประมาณ 4 เดือนก็ได้งานทำทุกคนเป็นคนญี่ปุ่นหมด(และมีผมเป็นผู้ชาย คนเดียวคือทั้งหมดเป็นผู้หญิงญี่ปุ่นหมด พอทำได้ 5 เดือนก็ย้ายบริษัท ผมก็ดันเป็นผู้ชายคนเดียวอีกนอกนั้นผู้หญิงหมด ผมเลยรู้จักนิสัยผุ้หญิงญี่ปุ่นเป็นอย่างดีว่าเป็นอย่างไรทั้งในเรื่องการทำงานและเรื่องส่วนตัว 555 ผมคิดว่าคงไม่มีใครจะรู้ดีเท่าผมแน่ๆ เพราะผมเป็นผู้ชายในฝูงผู้หญิงญี่ปุ่น มีอะไรสงสัยเรื่องส่วนตัวผมก็ถามหมดทุกคนทุกคนก็ตอบเหมือนๆ กันหมดอย่างเรื่องที่ห้องนี้ผู้ชายบางคนจะเลิกกับแฟนหรืออะไรผมก็ถามคำตอบก็เหมือนๆ กันกับที่แฟนผมบอก Aon_loe   ดีใจมากที่มีคนปรับตัวได้เหมือนกัน ยินดีที่ได้รู้จักผมอยู่โอซาก้าถ้าไงก็มาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันตอนนี้ชีวิตผมก็มีความสุขสบายตาม สไตร์ญี่ปุ่นเหมือนกัน คือผมทำงานคนเดียวให้ภรรยาเลี้ยงลูก ผมอยากให้ทุกคนมองแบบใจเป็นกลางนะ ผู้หญิงญี่ปุ่นดีๆ นั้นมีเยอะ ส่วนที่ไม่ดีก็มีแต่ยังไม่เคยเจอ ส่วนผู้หญิงไทยดีๆ ก็มีเยอะส่วนที่ไม่ดีก็มีเพราะเคยเห็นพอต่างชาติมานินทาเรื่องผู้หญิงไทยให้ฟังผมรู้สึกอายๆ และโกรธ ก็เลยอยากจะบอกว่าถ้ารู้ไม่จริงหรือรู้จริงหรืออะไรก็ตามอย่าพูดในทางที่ไม่ดี ถ้าคนญี่ปุ่นเค้าเข้ามาอ่าน(คนญี่ปุ่นก็เรียนภาษาไทยก็มีนะหรือถ้ารู้ว่ามีคนพูดในแง่ลบ เค้าคงจะเสียความรู้สึกไปเลยนะ) จากคุณ : OSAKA_BOY - [ 8 เม.ย. 50 13:25:06 ]

ความคิดเห็นที่ 10 เมื่อสักครู่เนื่องมาจาก คุณmaguro บอกว่าผู้หญิงญี่ปุ่นบ้าแบนเนม ผมเลยถามภรรยาผมว่าทำไม ภรรยาเลยตอบกลับมาว่าทำไมคนไทยบ้าใส่ทองกันไม่ว่าจะฐานะจน กลาง สูง รวยมาก คนไทยทำไมใส่ทองกัน คิดตามกันนะครับว่าทำไม เหตุผลที่ผมคิดได้ คือคนไทยชอบโอ่(ผมก็ใส่ทองตอนอยู่เมืองไทย เพราะผมชอบโอ่555 และใส่เพื่อความสบายใจด้วย อีกอย่างที่บ้านแม่บอกให้ใส่(อะไรๆ ก็แม่ ภรรยาก็แซวผู้ชายไทยติดแม่ ลูกแหง่) แต่พอมาอยู่ญี่ปุ่นผมทอดหมดไม่ว่าจะแหวนเพชร สร้อยทอง ที่ญี่ปุ่นผู้ชายจะไม่นิยมใส่เพชรกันเพราะเพชรผู้หญิงเป็นคนใช้ส่วนใหญ่  ทีนี้คำตอบที่คนหลายๆ คนบอกว่าคนญี่ปุ่นบ้าแบนเนม ต้องลองหันกลับไปมองว่าทำไมคนไทยบ้าทอง5555   คำถามกับคำตอบมันก็มีอยู่ในตัวของมันเอง ภรรยาผมสาเหตุที่ชอบของแบนเนม คำตอบง่ายๆ ใช้แล้วสบายใจ และก็ใช้นานไม่เสียง่าย (เพราะญี่ปุ่นมีแต่ของแบนเนมขายเยอะมาก ของก๊อปก็มีขายเคยเห็นที่นัมบะ ส่วนของถูกๆ ไม่แบนเนมใช้ได้ไม่นานก็เสีย) นี้ก็เป็นอีกคำตอบนึงนะ จริงๆ แล้วผมว่าน่าจะเป็นเรื่องค่านิยมมากกว่านะ คนไทยบ้าทอง คนญี่ปุ่นเค้าไม่ใช้ของที่ไม่มีคุณภาพและไม่ค่อยใช้ของก๊อป จากคุณ : OSAKA_BOY - [ 8 เม.ย. 50 13:54:03 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ยินดีได้รู้จักเช่นกันครับ ว่างๆหลังไมค์มาคุยกันนะครับ เห็นด้วยอย่างยิ่งกับคุณ OSAKA_BOYที่ว่า "ผู้หญิงญี่ปุ่นดีๆ นั้นมีเยอะ ส่วนที่ไม่ดีก็มีแต่ยังไม่เคยเจอ ส่วนผู้หญิงไทยดีๆ ก็มีเยอะส่วนที่ไม่ดีก็มีเพราะเคยเห็นพอต่างชาติมานินทาเรื่องผู้หญิงไทยให้ฟังผมรู้สึกอายๆ และโกรธ ก็เลยอยากจะบอกว่าถ้ารู้ไม่จริงหรือรู้จริงหรืออะไรก็ตามอย่าพูดในทางที่ไม่ดี ถ้าคนญี่ปุ่นเค้าเข้ามาอ่าน(คนญี่ปุ่นก็เรียนภาษาไทยก็มีนะหรือถ้ารู้ว่ามีคนพูดในแง่ลบ เค้าคงจะเสียความรู้สึกไปเลยนะ) " จากคุณ : Aon_loe - [ 8 เม.ย. 50 13:57:28 ]

ความคิดเห็นที่ 12 maguro ทำไมเจอแต่เรื่องไม่ดีเลยครับ มันอยู่ที่สังคม คนละแบบกันด้วยมั้งคะ เราไม่ได้มีอคติ กับผู้หญิง ญี่ปุ่น ทุกคนหรอก คนดีเขาก็มี เราก็แจงไว้แล้ว ถ้าใครที่ไม่ใช่ไม่เห็นต้องมาเดือดร้อนเลย เราพูดในสิ่งที่เราเห็น และสัมผัสมา ก็เท่านั้น ส่วนผู้หญิง ญี่ปุ่นคนไหน ที่อายุ 30 แล้ว และยังไม่ได้แต่งาน ก็จะมีคนมองแบบไม่ค่อยดี คือประมาณ เธอ นิสัยไม่ดีหรือเปล่า อันนี้เป็นกลุ่มหมู่ผู้เหญิง เขานินทากันค่ะ เราอยู่โตเกียวค่ะ สำหรับเราว่ามันค่อนข้างโบราณไปหน่อย กับความคิดนี้ เพราะ สมัยนี้ ผู้หญิง มีการศึกษา และทำงานหาเลี้ยงตัวเองได้แล้ว ไม่เหมือนกับสมัยก่อน ที่ต้องคอยให้ผู้ชายหาเลี้ยง ส่วนเรื่องเลี้ยงลูกนั้น ของญี่ปุ่น เขาสอนให้เด็กเข้มแข็งนั่นก็ใช่ อันนี้ไม่เถียงค่ะ แต่ ความเข้งแข็ง ปนความก้าวร้าว ไม่รู้จักบุญคุณผู้ใหญ่ที่เลี้ยงมา เราว่า ข้อนี้คนไทย ได้เปรียบกว่าเห็นๆๆคนไทยดูน้อมน้อมกว่า รู้จักคุณคน ถึงใครจะว่าเป็นลูกแหง๋ ก็ยังดีกว่าคนที่ทิ้ง ผู้ให้กำเหนิด ที่ญี่ปุ่น บ้านพักคนชราแน่นเอี๊ยด ต้องรอคิวเข้า จะเข้าไปก้ไม่ใช่เรื่องง่ายๆๆ เมื่อ 2-3 ปี อาพาร์เม้น ที่เราพัก มีคนแก่นอนตายคาห้อง !!!คือลูกหลานไม่ยอมมาดูแล เท่าที่เราสังเกต นานๆๆลูกหลานจะมาเยี่ยมสักครั้งนึง เห็นแล้วสะเทือนใจมากก ที่ไทย แบบนี้ก็มี ก็ใช่ว่าจะไม่มี แต่เราว่า น้อยกว่า ญี่ปุ่น นะ เพราะ สภาพสิ่งแวดล้อม การเลี้ยงดู ไม่เหมือนกัน เราเคยอ่านคำให้สัมภาษ์ ของคนที่เกษียร แล้วไปพัก ที่เชียงใหม่ คนญี่ปุ่น เขาบอกว่า เขาอยู่ญี่ปุ่น เขา เหมือนขยะ คน ที่วัยทำงาน วัยเรียน ไม่เห็น คุณค่าเขา ถ้าซื้อของหิ้วของขึ้นรถไฟ พะรุงพะรัง จะเจอมองด้วยหางตา ประมาณยายเพ้ง เขาว่าอยู่เมืองไทย สบายใจกว่า ไปไหนมีแต่คนทักทายเขา ยกมือไหว้เขา ให้ความสำคัญกับเขา พอจะเห็นภาพบ้างแล้วใช่ไหมคะ? คนไทยทำไมใส่ทองกัน คิดตามกันนะครับว่าทำไม เหตุผลที่ผมคิดได้ คือคนไทยชอบโอ่(ผมก็ใส่ทองตอนอยู่เมืองไทย เพราะผมชอบโอ่555 และใส่เพื่อความสบายใจด้วย คนไทยใส่ทองกันเป็นประเพณี ไปแล้วมั้งคะ อันนี้เขาใส่กันตั้งแต่สมัยเรายังไม่เกิด มันไม่ใช่เรื่องฮอตฮิต ทองมีความหมายดีๆๆในตัวของมัน หลายๆอย่าง บางคนซื้อทองเพราะเก็งกำไร บางคนซื้อไว้เป็นสินสอด ให้ลูกให้หลาน คนที่นิยมใส่ก็มี ถือเป็นเครื่องประดับ อย่างหนึ่ง สำหรับเคสที่เราเรียกว่าบ้า นั่นคือ ขายตัว ซื้อของแบรนเนม หรือพวกนักเรียนที่ยังหาเงินใช้เองไม่ได้ ขอตังค์พ่อแม่ซื้อ ถ้าในส่วนคนที่มีเงินเหลือใช้แล้ว มันก็ไม่เกี่ยวกัน เราเองก็ใช้ เหตุผลก็คล้ายๆๆ ภรรยา คุณ หน่ะค่า เรื่องคนญี่ปุ่นเข้ามาอ่าน เราเฉยๆๆ เพราะ รู้อยู่แล้ว ว่าที่นี่มันที่สาธารณะ มันก็เหมือน คนญี่ปุ่นว่าคนไทยให้เราฟัง เช่นคนไทยไม่มีมารยาท คนไทยขายตัวเยอะ นั่นมันก็ใช่ ก็ยอมรับไม่เถียง แต่ไม่ใช่เรา เพราะฉะนั้นก็แค่รับฟัง เฉยๆๆ อย่างคนญี่ปุ่น อยู่ไทยนานๆๆ เรียกว่าเขียนภาษาไทยได้อ่านภาษไทยออก เขารับจ้างเขียนคอลัมตามนิตรสาร เขาว่า ว่าคนไทย ยิ่งกว่านี้อีก มีคนไทยจำนวนไม่น้อยบอยคอต เขา แต่สำหรับเรา อ่านก็ขำดี ไม่ได้โกรธ นะเขาก็เขียนตามความจริง ที่เขาได้พบและเจอ ในช่วงเวลา ที่อยู่ในไทย เราว่ามันเหมือนกระจกส่องตัวเอง ได้ดีทีเดียว มันดีกว่าคำชมเป็นไหนๆๆ เมื่อยนิ้ว ปกติจะไม่พิมพ์ชอบพิมพ์อะไรยาวๆๆแบบนี้นะเนี่ย...... จากคุณ : maguro - [ 8 เม.ย. 50 17:20:21 A:202.248.88.183 X: TicketID:132552 ]

ความคิดเห็นที่ 13 โทษทีนะครับ ผมอ่านแล้ว ผมรู้สึกว่าเจ้าของกระทู้นี้จะบ้าพลัง หลงตัว หรือว่าอวดตัวเองมากไปหรือเปล่า การที่คุณผ่านปัญหา(ของคุณ)มาได้ก็ไม่ใช่ว่าคุณจะรู้จักปัญหาเดียวกัน(ไปหมดทุกอย่าง) อย่าได้สร้างมาตรฐานของตัวเอง แล้วเอาไปวัดกับคนอื่น บอกว่าคนอื่นต่ำกว่า หรือว่าสูงกว่าตัวเอง ทุกคนมีปัญหาล่ะครับ ดังนั้นทุกคนก็ต้องแก้ไขปัญหาของตัวเอง ตอนนี้เราก็มีหน้าทีแค่ทำหน้าที่ของเราให้ดีที่สุดเช่นคุณมีงานมีครอบครัวที่คิดว่ามีความสุข ก็จงรักษามันให้ดี ครับ สำหรับปัญหาของคนก่อนที่เค้าอยากหย่าก็อย่าไปบังคับไปบอกว่าเค้าไม่ดี ไม่มีความอดทน (คุณรู้ได้ไงว่าเค้าไม่อดทน กินนอนกับเค้าเหรอ) ผมก็เป็นคนหนึ่งที่แต่งงานกับคนญี่ปุ่น ผมก็ผ่านเรื่องราวปัญหาต่างๆที่คุณเล่ามาหมดแล้วล่ะ แล้วผมก็มีประสบการณ์ที่เกือบจะหย่ามาแล้วเหมือนกัน แต่ผมก็ไม่เคยจะไปเขียนบอกเค้าว่าไม่อดทนเอาสักเลย ไม่ห่วงลูกกลัวมีปัญหา มองให้กว้างๆนะครับ ผมเห็นด้วยกับmaguro แต่ก็ใช่ว่าจะทั้งหมด มันก็มีความเห็นที่แตกต่างกันไป แต่ขอโทษเถอะครับผมว่าถ้าคุณอยู่ที่ญี่ปุ่นนานพอที่จะเปลี่ยนสัญชาติได้ก็เปลี่ยนเป็นคนญี่ปุ่นเถอะครับ อย่าถือพาสปอต ไทยให้มันเมื่อยตุ้มเลย ในเมื่อคุณมีคติกับสังคมไทย คุณลืมว่าสังคมที่คุณคิดว่ามันแย่ แต่ว่ามันต้องทำให้คุณโตจนมาได้ดิบได้ดีที่ญี่ปุ่นนี้ คุณมองว่าพ่อแม่คนไทยเลี้ยงลูกไม่ได้ดีเท่ากับพ่อแม่ญี่ปุ่น +++ผู้หญิงญี่ปุ่นเข้าเลี้ยงลูกได้ดีก่าผู้หญิงไทยเลี้ยงลูกอีกครับ+++ ++++พ่อแม่จะเข้าไปโอ๋ซึ่งแสดงให้เห็นว่าคนไทยเป็นลูกแห้งจนป่านี้พ่อแม่ผมยังเลี้ยงผมเป็นลูกแหง้อยู่เลยภรรยาก็แซวผมบ่อยๆ (อาย)+++ (ประโยคนี้ผมก็อายแทนคุณจริงๆๆ ที่เกิดมาเป็นคนไทย) ผมอ่านประโยคเหล่านี้แล้วรู้สึกเจ็บใจจัง(แทนพ่อแม่คุณอ่ะ) คุณลืมอะไรไปหรือเปล่าครับ คนไทยหรือเปล่า ตอบให้ชัดๆหน่อยสิครับ จากคุณ : รักเธอประเทศไทย - [ 8 เม.ย. 50 23:51:37 A:218.130.239.54 X: ]

ความคิดเห็นที่ 14 แต่ขอโทษเถอะครับผมว่าถ้าคุณอยู่ที่ญี่ปุ่นนานพอที่จะเปลี่ยนสัญชาติได้ก็เปลี่ยนเป็นคนญี่ปุ่นเถอะครับ อย่าถือพาสปอต ไทยให้มันเมื่อยตุ้มเลย ในเมื่อคุณมีคติกับสังคมไทย คุณลืมว่าสังคมที่คุณคิดว่ามันแย่ แต่ว่ามันต้องทำให้คุณโตจนมาได้ดิบได้ดีที่ญี่ปุ่นนี้ คุณมองว่าพ่อแม่คนไทยเลี้ยงลูกไม่ได้ดีเท่ากับพ่อแม่ญี่ปุ่น  คุณ รักเธอประเทศไทย ผมเป็นคนตรงๆ พูดตรงๆ ไม่ชอบพูดกระทบใคร เรื่องที่ผมบ้าพลังก็ใช่ความคิดเห็นออกแนวต่างประเทศหน่อยเพราะผมเรียนในโซนยุโรปมีความคิดที่กล้าจะแสดงออกจนอาจจะทำให้ คุณ : รักเธอประเทศไทย  เห็นว่าบ้าพลังหรือคิดอะไรต่างๆ นานา แต่จุดประสงค์ที่โพสเพื่อให้คนๆ นั้นไม่เลิกกับภรรยา เหตุผลที่เข้าตั้งกระทู้ผมอ่านแล้วมันไม่ใช่เรื่องใหญ่ที่จะถึงต้องหย่าก็เลยมาตั้งกระทู้เตือนสติเข้า แต่ไม่คิดว่าคุณ : รักเธอประเทศไทย   จะเดือดร้อนแทนเข้า  ผมไม่ได้บอกว่าประเทศไหนเลี้ยงลูกได้ดีกว่ากันแค่เป็นการตอบคุณ maguro เท่านั้นไม่คิดว่าการที่ผมตอบคุณ maguro  จะทำให้คุณ คุณ : รักเธอประเทศไทย เป็นเดือดเป็นร้อน  (ประโยคนี้ผมก็อายแทนคุณจริงๆๆ ที่เกิดมาเป็นคนไทย) ส่วนที่บอกว่า ผมอ่านประโยคเหล่านี้แล้วรู้สึกเจ็บใจจัง(แทนพ่อแม่คุณอ่ะ) คุณลืมอะไรไปหรือเปล่าครับ คนไทยหรือเปล่า ตอบให้ชัดๆหน่อยสิครับ  ไม่ต้องเจ็บใจหรอกครับพ่อแม่ ผู้ให้บังเกิดผมก็เป็นคนพูดเองว่าไม่หน้าเลี้ยงผมให้เป็นลูกแหง่แบบนี้เลยส่งให้ผมไปเรียนที่โซนยุโรป ไงครับ ขอบคุณนะที่เป็นเดือดแทนพ่อแม่ผม 555  ผมไม่เคยลืมว่าผมเป็นคนไทยสักวันนะ คิดอะไรมากไปหรือป่าวใครว่าประเทศไทยผมก็โกรธนะ ใครมาว่าประเทศภรรยาผม ผมก็เสียความรู้สึก เรื่องสันชาติเนี้ย คงไม่เปลี่ยนหรอกนะครับเพราะยังไงก็ต้องกลับไปดูแลธุรกิจที่เมืองไทยอยู่ดี ขอบคุณที่แนะนำ ผมไม่เคยหลงตัวเองเลยที่มีวันนี้ได้ก็เพราะพ่อแม่ผม ผมชอบคนญี่ปุ่นในการเลี้ยงลูกนั้นเพราะสอนให้เด็กมีความเข้มแข็งรู้จักกาละเทสะ ดูง่ายๆ ภรรยาผม และเพื่อนผม ก็มีนะส่วนเรื่องที่ลูกไม่เลี้ยงพ่อแม่นั้น อันนันขึ้นอยู่กับ วัฒนธรรม จากคุณ : OSAKA_BOY - [ 9 เม.ย. 50 11:26:49 ]

ความคิดเห็นที่ 15 เรามองสองแง่ เรื่องบุญคุณ คงไม่หลงประเด็นนะ เคยคุยกับเพื่อนญี่ปุ่นที่อเมริกานี่ เราบอกว่าของไทย ถ้าลุกมีงานทำ ส่วนใหฯของไทยมีการให้เงินเล็กน้อย ให้พ่อแม่ปนการตอบแทนที่พ่อแม่เลี้ยงมา ให้เท่าที่เราไม่ลำบาก แต่ไม่ให้ก๋ได้ เขาไม่เข้าใจ ถามเราว่า บ้านเธอรวยจะตาย (เขาคิดว่าคนไทยมาเรียนเมืองนอกได้ รวยมากๆ ทุหคน) ทำไมยังจะต้องให้เงินพ่อแม่ใช้อีก เขาบอกว่าเขาไม่มีการส่งเงินให้พ่อแม่ใช้ เพราะพ่แม่ก็มี social welfare ที่ดี แต่ที่เราคิดว่าแย่คือ เขาบอกว่า เขาไม่คิดว่ามันจำเป็นที่ต้องเลี้ยงพ่อแม่ ไปไหนหินข้าวที่ไหน พ่อแม่ก็ออกเวงินให้ เขาบอกวา ไม่เห็นจำเป็นต้องเลี้ยงข้าว เพราะพ่อแม่ยังมีเงินอยู่ เขาบอกว่าตอนไปเยี่ยมหายาย (ยายคงเป็นคนมีเงิน) ก็บอกยายว่าไม่มีเงิน (ตอนนั้นเขาทำงานแล้วนะ) ยายก็ให้เงินมาใช้ เออ อันนี้อาจเป็นแค่ญี่ปุ่นที่เราเคยเจอ case นี้ เราขอเรียก "งก" อย่างน้อยเเฟนเราก็ยังมีพาพ่อแม่ไปเลี้ยง แต่ไม่เคยส่งเงินให้นะ แต่ออกเงินให้พ่อแม่ ซื้อของให้ ทั้งๆ ที่พ่อแม่เขาก๋มีเงิน คิดว่าคนที่เป็นอย่างแฟนเราคงมีอยู่อีกมาก แต่เรื่องส่งเงินนี้ก็เป็นปัญหาของคนไทยที่แต่งงานกับญี่ปุ่นและชาติอื่นๆ โดยเอพาะผู้หญิง เคยไอ่นใน web board ผู้หญิงไทยที่แต่งงานกัยคนญี่ปุ่นหลายคน พ่อแม่ไทยบอกว่าต้องส่งเงินมาเป็นค่สใช้จ่ายที่บ้านทุกเดือน แต่ผู้หญิงเขาก็ยังไม่มีงานทำ แล้วคู่ก็เพิ่งแต่งงาน ก็ยังตั้งตัวไม่ได้ คือช่วยทางบ้านก็เป็นสิ่งดี แต่ก็ไม่ใช่ทำให้สามีเดือดร้อน เขาจะว่า งกน่ะ ปล ขอโทษที เราไม่มี Thai keyboard ดีงนั้น พิมม์ผิดมากหน่อย คำไหนใช้ภาษาอังกฤษได้ ก็ขอใช้นะคะ จากคุณ : My Town - [ 9 เม.ย. 50 12:15:25 A:68.167.88.162 X: TicketID:131100 ]

ความคิดเห็นที่ 16 ผมไม่รู้ว่า จขกท. เขียนคำแนะนำหรือประสบการณ์ได้ดีหรือแย่แค่ไหน ผมรู้แค่ว่า จขกท. เรียบเรียงหน้ากระดาษได้ไม่ดีมากๆเลยครับ ผมอ่านอันแรกสุดอันเดียวก็ปวดหัวแล้ว อันอื่นนี่ไม่อ่านเลย เป็นพรืดไปหมด คนญี่ปุ่นเค้าระเบียบจัดไม่ใช่เหรอครับ อยู่มานาน น่าจะติดมาได้ด้วยนะครับ รวมถึงการพิมพ์กระทู้ เอ่อ ดูเหมือนผมมาตำหนินะครับ แต่เราแค่ร่วมแบ่งปันความคิดเห็นนะครับ อย่าโกรธกันเลยเน้อ คนไทย (แล้วก็เขียนหนังสือให้ถูกด้วยก็จะดีมากเลยครับ) จากคุณ : teddyblooh - [ 9 เม.ย. 50 21:53:09 ]

ความคิดเห็นที่ 17 ผมก็เป็นคนนึงที่ได้แต่งงานกับสาวญี่ปุ่น เกี่ยวกับเรื่องวัฒนธรรมภาษา คิดว่าคงต้องปรับตัวกันเยอะมาก ขึ้นอยู่กับความรักความเข้าใจความอดทนของแต่ล่ะฝ่าย โดยเฉพาะนิสัยของแต่ละคน อันนี้เป็นประสบการณ์จากแฟนญี่ปุ่นคนแรก ที่เลิกกันไปเพราะนิสัยผมไม่ดี มีอีโก้สูงบวกกับการมองโลกแบบคนไทย<br><br> สำหรับแฟนปัจจุบันที่แต่งงานด้วยนั้น เธอพูดภาษาไทยได้รู้เรื่องเมืองไทยดี เพราะฉะนั้นก็ไม่ค่อยมีปัญหาอะไร ทางบ้านแฟนก็ใจดี ช่วยหลายๆอย่าง ตอนนี้แฟนเพิ่งคลอดลูกชายคนแรก ก็ได้ทางบ้านแฟนช่วยดูแลให้ในช่วงอยู่ไฟ <br><br> ก็คิดว่าไม่ว่าชาติศาสนาอะไรก็ตาม ถ้าแต่งงานด้วยกันมันก็ต้องใช้อะไรหลายๆอย่างมาก โดยเฉพาะความรักความอดทนที่ทั้งคู่ต้องมี เพราะฉะนั้นถ้ามีปัญหาอะไรคุยกันตรงๆดีกว่า จะเป็นการแก้ปัญหาที่ดีที่สุด จากคุณ : tsuchiura - [ 10 เม.ย. 50 12:13:14 A:124.155.38.61 X: TicketID:091344 ]

ความคิดเห็นที่ 18 แปลกนะที่บ้านแฟนเรากลับว่า ทางบ้านเราเลี้ยงลูกออกมาดีมากๆ (ไม่ได้ชมตัวเองนะ แม่แฟนบอกน่ะ) เพราะเราอยู่กับที่บ้านแฟน เราจะบอกน้องชายแฟนหรือตัวแฟนเองเสมอว่า ให้รักพ่อแม่ให้มากๆ ท่านอยู่กับเราได้ไม่นานหรอก เวลาใครพูดกับแม่แล้วฟังดูฮ่วนๆเราจะให้พูดใหม่เลย เพราะกับพ่อแม่ถ้าคุณยังไม่รัก ไม่ดูแล ไม่ใส่ใจ คุณจะไปใส่ใจ คนอื่นที่ไม่ใช่เลือดเนื้อได้อย่างไร วันเกินแฟนเรา เค้าก็ถามว่า จะไปไหนหรือเปล่ากินอะไรหรือเปล่า เราเลยบอกไปว่า วันนี้ที่คุณเกิดน่ะ คนที่ดีใจที่สุดก็พ่อคุณ คนที่เจ็บปวดก็แม่คุณ พาท่านออกไปท่านข้าวเถอะ ชั้นเองก็เป็นเพียงผู้หญิงที่พึ่งจะผ่านเข้ามาในชีวิตคุณได้ไม่กี่ปี พ่อแม่เราสอนว่า รักพ่อแม่แฟนให้เหมือนกันที่เรารักพ่อแม่เรา คนไม่รู้คุณคน ไม่รู้จักรักคนอื่น ไม่มีวันเจริญหรอก เราเองก็เป็นเด็กนักเรียนในโซนยุโรปมาก่อน เหมือนกัน จากคุณ : 3L - [ 10 เม.ย. 50 16:02:07 ]

ความคิดเห็นที่ 19 เรื่องรู้บุญคุณคนที่บ้านก็สอนไว้เหมือนกันครับเป็นคนก็ต้องรู้จักบุญคุณคนและรู้จักอ่อนน้อมถ่อมตน อิอิ ผมมาอยู่ญี่ปุ่นได้ไม่นานก็มีแต่คนชมผมเหมือนกันเรื่องเวลานี้ถ้านัดผมจะไปก่อน 45 นาทีโดยประมาณคนญี่ปุ่นนี้ งง ทำไมมาเร็วเกินไป   (บางทีผมอาจจะพิมพ์ผิดเนื่องมาจากผมไม่ได้ใช้ภาษาเขียนบ่อยนะบางทีก็ลืมไปแล้วว่าสะกดอย่างไร )แต่ก็ไม่เคยทำให้ภาษาไทยวิบัติ 555 จากคุณ : OSAKA_BOY - [ 12 เม.ย. 50 02:39:41 ]

ความคิดเห็นที่ 20 มาศึกษาไว้เพื่ออนาคต  หึหึหึหึหึ จากคุณ : Rym รีมมาโร่ - [ 12 เม.ย. 50 22:27:53 ]

ความคิดเห็นที่ 21 สังคมที่ไหนก็มีทั้งดี และไม่ดี ปะปนกันไป ไม่ว่าที่ไทยหรือที่นี่ อะไรที่ดีเราก็รับไว้ อะไรที่ไม่ดีก็ดูไว้เป็นอุทาหรณ์ครับ แต่ส่วนใหญ่เป็นอย่างที่เมกูโระ พูดจริงๆนะ ชอบคำพูดคำนี้อ่ะ "ถ้าคุณ มาอยู่ ญี่ปุ่น นานๆๆแล้วคุณ จะรู้จักนิสัย ผู้หญิง ญี่ปุ่นดียิ่งขึ้น" แต่ผมขอเสริม ไม่ได้้แค่ผู้หญิงนะ ผู้ชายก็ด้วย และก็ต้องเสริมอีกไม่ได้เป็นกันหมดทุกคน คนดีๆ ก็คงมี แต่เผอิญเรายังไม่เคยเจอก็แค่นั้นเอง เอาเป็นว่าอย่าหลงประเด็นเลยนะครับ จขกท เขาต้องการให้กำลังใจคนที่มีปัญหา ให้่สู้ ไม่ท้อ และบอกเล่าสิ่งดีๆให้เราฟังกัน แม้บางเรื่องอาจฟังขัดหูไปบ้าง ก็ขนาดเราคนชาติเดียวกัน พูดภาษาเดียวในบางครั้งก็ยังมีความคิดเห็็นที่ไม่ลงรอยกันเลย ผมว่าบางเรื่องอย่าเอามาเป็นประเด็นดีกว่าเลยนะครับ สวัสดีปีใหม่ไทยครับ จากคุณ : john13 - [ วันมหาสงกรานต์ (13) 08:22:51 ]

ความคิดเห็นที่ 22 ขอแจมด้วยคน ครับ คิดจะกลับไทยหลายที่ แต่ลูกชายกำลังจะคลอดเดือนหน้าครับ มีปัญหากับภรรยาขนาดไหนก็ไม่เลิกเด็ดขาด เพราะคงยากที่จะได้ลูกเป็นของเรา กลับไทยตัวเปล่าไม่เอาแน่ครับ  ยุ่งมากๆ เหมือนกันครับ ส่วนเรื่องงาน ทำ พาร์ททาม มาหลายอย่างครับ ส่วนใหญ่เป็นครูสอนไทย และ สอน อักกฤษ ให้โรงเรียนเด็กเล็กก่อนเข้าประถม พักหลังๆ ต้องเปิดบริษัทโดยหุ้นส่วนและเพื่อนชาวญี่ปุ่น สนับสนุน ก็ต้องเลิกงาน พาร์ททาม มาเสี่ยงทำธุรกิจ เพราะความมั่นคงในอนาคตครับ มันบีบ ให้เราต้องทำอะไรสักอย่างสำหรับลูกและครอบครัว ก็พยายามเต็มที่ครับ อายุก็เริ่มมากแล้วครับเลย 30 มาแล้ว สู้เต็มที่ครับ จากคุณ : makun - [ วันมหาสงกรานต์ (13) 18:26:41 ]