ความคิดเห็นที่ 43
ไม่ทราบภาษาไทยแข็งพอหรือยังคะ เพราะถ้าอ่านเขียนได้ไม่มาก แนะนำว่าอย่าเพิ่งเลยค่ะ เพราะถ้าจบไป กลับมาไทย ก็ใช้ทำงานไม่ได้
เมื่อก่อนมีเพื่อนที่จบมัธยมจากสิงคโปร์เยอะค่ะ ภา๋ษาอังกฤษดีไม่เท่าพวกที่เรียนเมกา เด็กไทยที่นี่เยอะค่ะ เพราะเป็นประเทศเล็กๆ พอเลิกเรียนก็จะจับกลุ่มกะคนไทย พูดไทย ก็เลยไม่ได้ภาษากัน บางคนถึงขั้นไม่เป็นเลย พวกที่ไม่จับกลุ่มกะคนไทย ก็จะได้ Singlish แทนที่จะเป็น English สำเนียงก็จะแตกๆ พูดแยกเป็นคำๆ เหมือนคนไทยเช่นประโยค i can speak american english คนสิงจะพูดว่า ไอแคนสปีค-อะเมริกัน-อิงลิช ฝรั่งจะพูดไม่แยกคำ ไอแคนสปีค'คะ'เมริกัน'นิง'ลิช ส่วนแกรมม่าจะเป็นแบบเอาจีนมาปนมาเลค่ะ เช่น go where? eat what? have meh? where got? ok lah. I want to go out walk walk, so sian (boring) here.
ส่วนภาษาจีนก็ได้ไม่ดีเท่าจีนแผ่นดินใหญ่ แต่ฟังออก พูดได้ พอไปได้ค่ะ
เรื่องภาษาเอาเป็นว่าถ้ามาเรียนที่นี่ อาจจะถูกกว่าที่อื่น แต่ภาษาก็ได้ครึ่งๆ ค่ะ ไม่เต็มร้อย ปัญหาคือ ถ้าโตขึ้น กลายเป็น ภาษาไทยไม่แข็งแรง อังกฤษไม่ดีมาก จีนได้ไม่มาก มันจะครึ่งๆ กลางๆ ค่ะ แต่ถ้าเทียบกะคนไทยที่เรียนโรงเรียนไทย ก็ดีแน่นอนค่ะ เพราะโอกาสได้ใช้เยอะกว่า
เรื่องอื่นๆ
1. ใกล้เมืองไทย คุณพ่อบินมาเยี่ยมได้บ่อยๆ ได้ ตอนนี้มีสายการบิน budget airlines ยิ่งถูกเข้าไปใหญ่
2. ปลอดภัย ปล้นจี้ ข่มขืนน้อยมาก ผู้หญิงเดินคนเดียวตอนกลางคืนได้สบายๆ แทกซี่ก็ไม่น่ากลัวถ้านั่งคนเดียว กระเป๋าตังค์วางไว้ไกลตัวก็ไม่มีคนหยิบ
3. เรื่องวัฒนธรรม ไม่ต่างมากเท่าเมืองฝรั่งค่ะ เพราะคนจีนก็หน้าตาเหมือนไทย เรื่องการดูถูกสีผิวมีไม่มาก เพราะหน้าตาเหมือนๆกัน
4. อาหารก็พอใช้ได้ค่ะ ไม่ใช่พวกเบอร์เกอร์ เฟรนช์ฟรายทุกวันเหมือนประเทศฝรั่ง
- แต่อาหารที่นี่ไม่เน้นผักค่ะ อย่างก๋วยเตี๋ยวมีถั่วงอกอยู่สองสามเส้น เด็กๆที่นี่เลยใส่แว่นกัน 90% เป็นปัญหาระดับชาติของเขาเลยนะคะ อาจจะเป็นเพราะอ่านหนังสือมากไปหรือกินผักน้อย ทำให้ขาดวิตามินเอ
- ส่วนเรื่องผงชูรส กินกันเป็นเล่นเลยค่ะ เคยไปเปิดตำราทำอาหารของสิงคโปร์ มีใส่ผงชูรสทุกเมนูเลยค่ะ เคยอยู่ home stay ค่ะ เวลาเขาทำอาหารที่บ้านก็ใส่ผงชูรสกัน เคยถามคนที่นี่ว่ารู้ไหมว่ามันไม่ดี ไม่มีใครทราบเลยค่ะ เพราะโรงเรียนไม่ได้สอนเรื่องอาหารการกินเท่าไหร่
- สังเกตว่าคนที่นี่กินไม่ครบห้าหมู่ แต่เขาจะเน้นเรื่องวิตามินเสริมแทนอาหารแบบธรรมชาติ ไปดูตามวัตสัน อาหารเสริมเม็ดมีเป็นร้อยๆ อย่าง
- ส่วนเรื่องปริมาณอาหาร คนที่นี่กินเยอะค่ะ ซื้อก๋วยเตี๋ยวมาหนึ่งถุง เอาชามมาตรฐานไทยใส่ไม่พอค่ะ คนไทยต้องแยกกินเป็นสามมื้อ
- ส่วนอาหารเช้า คนที่นี่เล่นของหนักค่ะ ไปตาม hawker center หรือศูนย์อาหาร ตอนเช้ามีแต่คนกินมื้อหนักๆ
- น้ำมันเยอะมากคะ เขาจะชอบกินพวกของทอดๆ มันๆ
เอาเป็นว่าถ้าคุณแม่ตามไปด้วย ก็ช่วยน้องเขาดูแลเรื่องการกินด้วยค่ะ
5. หลักสูตรการสอน ไม่เน้นคิดนอกกรอบ ตามตำราเป๊ะ ทำให้มีปัญหาว่าคนที่นี่ไม่ creative เท่าคนไทย ทำอะไรตามกฎเป๊ะๆ ถ้ากลับไปเมืองไทยอาจเอาตัวรอดอยากค่ะ เพราะอย่างเรื่องเล็กๆ น้อยๆ เช่นข้ามถนน คนที่นี่จะรอไฟแดง ถึงไม่มีรถแต่ไฟเขียวก็ไม่ข้ามค่ะ กลับไปกรุงเทพกลายเป็นว่าข้ามถนนไม่เป็น
6. สาวๆ ที่นี่ไม่แต่งตัวกันค่ะ ออกนอกบ้านไม่แต่งหน้า ทำผม ใส่ขาสั้นลากแตะเดินห้าง เคยแต่งหน้า ใส่ส้นสูงออกไปกินข้าว โดนสามีว่าแต่งตัวเกินไป
7. อยู่ไปนานจะเกิดอาการไม่มีที่ไปค่ะ เมืองเป็นระเบียบเกินไป ทุกเมืองหน้าตาเหมือนกันเป๊ะ มีตึก Flat, Central, Shop Houses, Library,ห้างเล็กๆ ทุกเมืองค่ะ ร้านค้าขายของเหมือนๆกัน ไปที่ไหนก็เจอแต่ Giordano, Hand Ten, U2, The Body Shop, Bossini คือไปไกลเท่าไหร่ก็มีของเดิมๆ หน้าตาเดิมๆกันค่ะ
8. ถนนหนทางจำยากหน่อยค่ะ เพราะชื่อเปลี่ยนทุกๆ ซอย ไม่มีการรันเลขเหมือนถนนเมืองไทยเช่นเพชรบุรี 1 2 3 4 คนที่นี่เลยต้องพึ่งแผนที่เวลาขับรถ เพราะไม่อาจทราบได้ว่าซอยข้างหน้าจะชื่ออะไร หรือขับเลยไปหรือยัง
9. ส่วนเรื่องการเดินทาง รถไฟ รถเมล์ สะดวกค่ะ ไม่ต้องมีรถก็ไปไหนมาไหนได้สบายๆ
10. เกือบทุกอย่างเกี่ยวกับสิงคโปร์ มีข้อมูลทางเน็ตค่ะ เช่นเรื่องสมัคร Student pass ให้น้อง, Dependant pass ของคุณแม่ สามารถเช็คหรือบางทีอาจสมัครทางเน็ตได้ค่ะ สะดวกดี
11. สุดท้าย ถ้าเอาสิงคโปร์เป็นก้าวแรก เพื่อไปเรียนต่อประเทศอื่นก็ดีค่ะ เพราะได้ภาษาไปนิดนึงแล้ว ไปต่อมหาลัยประเทศอื่น จะได้ไม่ช็อคเรื่องภาษากับการปรัีบตัวมากเรื่อง accent, gramma ก็ไปเสริมเอาจากประเทศอื่นค่ะ
โชคดีค่ะ
จากคุณ :
glorynights
- [
10 พ.ค. 50 14:24:31
]
|
|
|