ความคิดเห็นที่ 1 " Love me Love my family " แต่งงานกับคนไทยก็หมายถึงแต่งกับครอบครัวด้วย คงต้องบอกเขาแบบนี้แหล่ะค่ะ ถ้าเขายังไม่เข้าใจก็อยู่ด้วยกันยากเหมือนกันนะคะนี่ ...... จากคุณ : ป้ามะลิกับลุงมะระ - [ 24 พ.ค. 52 03:36:35 ]

ความคิดเห็นที่ 2 Sinsod Traditionally, what might be called a dowry is paid by the groom to the bride’s family. The groom is in effect paying for ‘the mother’s milk’ or the upbringing of his bride. If the bride has had a good upbringing then the amount of sinsod will be higher. If the bride has not been married before, has no children, is well-educated, has a good career and stable family life, then this will be reflected in the amount of sinsod asked for. It also goes to show that the groom is financially capable of looking after his wife and indeed, his wife’s family if needs be. It is important to stress how crucial the concept of family is in Thai life. If you are marrying a Thai, you are also marrying in to that person’s family and everything that may entail. It’s impossible to say how much is the right price to pay for sinsod because there are so many variables involved. Some Thai families may see their daughter marrying a foreigner as the equivalent of winning the lottery. Despite the fact that the groom may not be a rich man in his home country, he will be deemed to be a rich man in Thailand and a vast amount may be asked for. By contrast, some Thai families may appreciate that the prospective son-in-law comes from a different culture and may not ask for sinsod in return for a solemn promise to take care of their daughter. In some cases sinsod is accepted by the bride’s parents and is given back the following day as a wedding present to the newlyweds. It can be quite a thorny issue for Western men marrying Thai women, but it should be understood that if you are marrying in Thailand it is something you will very likely have to come to terms with. If you are considering marriage to a Thai national you should already be aware that Thai culture is very different and should not feel insulted if asked for sinsod. One thing that many Thai grooms do is to pay the sinsod in small denominations (i.e. 100 Baht notes) so that the amount on show looks even more impressive when it is spread out. The most important aspect is ‘face’. This can’t be stressed enough. Keep your cool and liaise with your wife-to-be and her family to reach a mutually agreeable amount. Sometimes the amount paid in sinsod will be returned by the bride’s family to the wedding couple. By having a large amount of sinsod paid, the Thai family don’t lose face with their friends and peers. It might not be important to you what other people think of you, but it matters to Thai people and that should never be forgotten in any aspect of Thai culture. แหล่งที่มาจากเวปไซด์ข้างล่าง  มีข้อมูลเกี่ยวกับวัฒนธรรมไทย และการแต่งงานแบบไทย และอื่นๆ ในภาคภาษาอังกฤษค่ะ... http://www.watdee.com/sinsod.html เวปไซด์นี้จะเป็นความคิดเห็น และคำถามต่างๆ ของฝรั่งเกี่ยวกับเรื่องสินสอด ภาคภาษาอังกฤษค่ะ http://www.stickmanweekly.com/Weekly/weekly239.htm แก้ไขเมื่อ 24 พ.ค. 52 04:07:56 จากคุณ : BluemirroR - [ 24 พ.ค. 52 04:02:15 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ก้ต้องคุยกันให้เข้าใจอ่ะนะ ทำแบบเรามั้ยล่ะ เปิดเวปไฃ้ส์ พิธีแต่งงาน ขนบประเำพณีไทยๆ เช่นการแต่งาน วัฒนธรรมการเลี้ยงดูพ่อแม่ ให้สามีดูเลย เราพูดคำเดียว อ่านฃะ ถ้ายังไม่เข้าใจว่านี่คือวัฒนธรรมของฉัน นี่เป็นหน้าที่ของฉัน ก้หวังว่า ฝรั่งนี่จะไม่ขี้เหนียวนะ ถ้าเขารักจริงหวังแต่ง เขาคงยอม ตามที่คุณชี้แจงไป โชคดีนะ จากคุณ : สมหวัง - [ 24 พ.ค. 52 04:04:52 A:77.248.160.110 X: TicketID:216847 ]

ความคิดเห็นที่ 4 แนะนำให้อ่านหนังสือของคุณ วิธิดา วสันต์ นะคะ ชื่อ ไทยแลนด์ฟีเวอร์ ในเล่มเขียนคู่กันสองภาษาทั้งไทยและอังกฤษควบคู่กัน ซื้อให้เขาอ่าน คุณก็อ่านด้วยนะคะ จะได้เข้าใจในเรื่องของวัฒนธรรมความต่างของวัฒนธรรมของเราและของเขา หนังสือเล่มนี้เขียนเขียนและอธิบายไว้ได้ดีเลยแฟนเราอ่านแล้วบอกว่าเป็นหนังสือที่ดีมาก เขาเคยสงสัยเหมือนกันทำไมวัฒนธรรมเราเป็นอย่างงั้นอย่างงี้ พออ่านจบแล้วเขาว่าเข้าใจแล้วล่ะ ในหนังสือเขียนเกี่ยวกะเรื่องเงินๆทองๆและการอุปถัมภ์ค้ำจุน สินสอดทองหมั้น และการส่งเสียเลี้ยงดู การกำหนดมูลค่าของสินสอด เกี่ยวกะพ่อแม่ และค่านิยมพื้นฐานของคนตะวันตกและของไทยซึงตรงนี้สำคัญมาก เปรียบเทียบค่านิยมฝรั่งกับไทย เซ็ก มีหมดเลยค่ะ ไปวื้อมาให้เขาอ่านนะคะ หรือคุณเข้าไปที่ thailandfever.com ลายละเอียดเกี่ยวกะหนังสืออยู่ในนั้นมีค่ะ จากคุณ : ดอกไม้ - [ 24 พ.ค. 52 04:42:17 A:68.145.188.153 X: TicketID:198978 ]

ความคิดเห็นที่ 5 เพิ่มเติมนึดนึง ในหนังสือท้ายเล่ม สัมพันธ์รักข้ามวัฒนธรรมเป็นปริศนาที่น่าประหวั่น แต่ก็เป็นมนต์เสน่ห์ที่เย้ายวนใจ ไม่ว่าคุณกำลังคิดจะหา เพิ่งพบ หรือมีแฟนฝรั่งมานานแล้ว ไทยแลนด์ฟีเวอร์ . เป็นแผนผังนำทางที่เขียนขึ้นสำหรับคุณ .ถอดความสองภาษาควบกันตลอด เพื่อส่งเสริมให้คู่รักอ่านไปคุยไป .ไขปัญหาหัวใจให้ทั้งหญิงไทยชายฝรั่ง ด้วยการนำเที่ยวทัศนาจรไปตามหลืบผาประเพณีของผู้ที่ครองหัวใจ .สอนให้แฟนฝรั่งเข้าใจเรื่องน้ำใจและความกตัญญูแบบไทย ไม่มีส่วนได้อะไรกะหนังสือนะคะ เพียงแต่ว่าเห็นว่าเป็นหนังสือที่ดีเลยแนะนำค่ะ จากคุณ : ดอกไม้ - [ 24 พ.ค. 52 05:27:42 A:68.145.188.153 X: TicketID:198978 ]

ความคิดเห็นที่ 6 เราว่าคนเยอรมันมีเหตุผลน่ะ การแต่่งงานที่เยอรมันครอบครัวฝ่ายหญิงก็ต้องออกด้วย เราว่าแบบนี้สายกลาง ทุกอย่างหารหมด ประเพณีสามารถจัดเปลี่ยนได้ตามเหมาะสมน่ะ   เขาไม่ได้ห่วงทรัพย์สินหรอกการที่เขาไม่อยากจะจ่ายมากเพราะเวลาคุณมาที่ประเทศนี้เขายังต้องจ่ายอีกมาก   คนยุโรปส่วนมากจะรู้จักการใช้เงินและระวังการจับจ่ายมาก อะไรที่เขาเห็นว่าไม่มีเหตุต้องเสียก็ไม่ควรจะเสีย กลับกันถ้าเขาบอกคุณต้องเสียค่าสินสอดให้ครอบครัวเขาคุณจะรู้สึกยังไง คนรักกันอยากจะอยู่ด้วยกันแต่ต้องมาทำพิธีที่มานยุ่งยากและเสียเงิน วิธีง่ายๆก็มีไปจดทะเบียนทานเลี้ยงในบ้าน ถ้ารักกันจริงเราว่าคุณควรจะไปพูดกับครอบครัวคุณให้ตัดพิธีไปบ้าง ไม่งั้นต้องช่วยแฟนเก็บเงินค่าสินสอด ฝรั่งไม่ได้มีเงินมากมายทุกคนน่ะ ถ้าเขารู้สักโดนเอาเปรียบแต่แรก ชีวิตคู่ไม่รอดแน่ๆ แก้ไขคำผิด แก้ไขเมื่อ 24 พ.ค. 52 06:49:11 จากคุณ : jsd_t - [ 24 พ.ค. 52 06:45:46 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ขนบธรรมเนียมแตกต่างกันมากน่ะจ๊ะ ถ้าคิดจะมาอยู่เยอรมันแล้วต้องอดทนน่ะจ๊ะ เรื่องความคิดเป็นใหญ่นั้นไม่สามารถ โดยรวมได้ แต่สามารถดูได้ภายในตัวบุคคลจ่ะ     เรื่องสินสอดทองหมั้นนั้น ต้องบอกตามตรงกว่า คนเยอรมันเขาเข้าใจดีน่ะว่าทำไมเราต้องให้ทำแบนั้น แต่ติดตรงที่ว่าบ้านเขาไม่มี แล้วกรูจะต้องทำทำไม แต่งกะคนไทยยุ่งยากแต่งกะชาติอื่นอย่างนิโกรง่ายกว่า     ถึงจะได้สินสอดทองหมั้นไปแล้ว แต่ก็ยากน่ะที่จะหามาจากตัวชาวเยอรมันนั้นได้อีก เพราะชาว ด้อยช ค่อนข้างจะแอนตี้กะพวกเห็นแก่เงินน่ะจ่ะ     ทางที่ดี การได้มาใช้ชิวิตที่เยอรมัน ถ้าคุณได้ทำงานทำการ และมีความสุข เท่านั้นเท่านี่ มันยิ่งใหญ่กว่า สินสอดทองหมั้นที่เขาให้มาอีก เพราะหลังจากนี้แล้ว การงาน เงินที่เราหามาได้ มันมากมายกว่าสินสอดแน่นอน อย่าคิดเอาแต่ได้ แล้วจะเสียไม่น้อย ฝรั่งเยอรมันแต่งกะหญิงชาวไทย เหตุผลแรก คือ เรื่องเซ็กส์ เรื่องอย่างอื่นมาทีหลัง เพราะฉนั้นคิดให้ดี เพราะฝรั่งเยอรมัน ค่อนข้างหัวแข็ง น้อยคนที่จะยอมรับเหตุผลที่เห็นแก่ตัว โดยเฉพาะเรื่องเงินๆ ทองๆ แก้ไขเมื่อ 24 พ.ค. 52 06:56:22 จากคุณ : เด็กไลป์ซิก (satchapot) - [ 24 พ.ค. 52 06:53:21 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ขอออกความคิดเห็นหน่อยนะคะ อย่าว่าเป็นคนขวางโลกเลย เราก็เป็นอีกคนนึงที่แต่งงานกับชาวต่างชาติ, ก็ต้องทำความเข้าใจว่าฝรั่งก็เป็นคนทำมาหากินเหมือนกัน คือไม่ได้มีิเงินถุงเงินถังค่ะ ไอ้ประมาณว่าให้เงินภรรยาไว้ใช่จ่ายช็อปปิ้งตลอดเวลานี่มีน้อยนะคะ คือก็ต้องช่วยกันทำมาหากินค่ะ ตัวเราเองก็ช่วยสามีทำงานจนสัปดาห์สุดท้ายของการต้องครรถ์จึงลาออกมาคลอดลูก ซึ่งตอนนี้ลูกอายุสี่เดือนบางทีที่ทำงานเก่าก็เรียกให้เราไปเอางานมาทำที่บ้านเราก็ทำค่ะ เพื่อเป็นค่ากับข้าว หรือของเล่นลูก ทางบ้านเราก็เป็นบ้านตาสีตาสา ทำนาทำไร่ แต่เผอิญว่าตัวเรานั้นส่งเสียตัวเองเรียนตั้งแต่จบปอหก จนจบปริญญาตรี พอจะมีเงินซื้อบ้านอยู่เองแถวชายแดนกรุงเทพ ที่บ้านนอกเขารู้ว่าเราต้องทำงานหนักเพื่อผ่อนบ้าน เขาก็ไม่เคยเรียกร้องอะไรนอกจากว่าเราจะให้เขาบ้างมากกว่า กลับมาเรื่องแต่งงานอีกครั้งนะคะ เราแต่งงานแบบไทยค่ะ จัดพิธีที่บ้านเราเองในกรุงเทพ พี่น้องเราเหมารถมาจากต่างจังหวัดก็ประมาณสิบกว่าึคน จัดงานเช้าที่บ้าน โดยดอกไม้แล้วก็อาหารที่บ้านเราเป็นคนจัดการทั้งหมดค่ะ โดยดอกไม้แล้วก็อาหารที่บ้านเราเป็นคนจัดการทั้งหมดค่ะ. ค่ำจัดที่โรงแรม ส่วนค่าใช้จ่ายก็เป็นเงินที่แขกช่วยมาในซองก็พอดีกับงานเลี้ยงค่าสินสอดนั้นเราก็เรียกพอประมาณ ส่วนทองหมั้นเราก็ช่วยสามีออกคนละครึ่ง คนต่างจังหวัดส่วนใหญ่จะคาดหวังว่าเมื่อลูกสาวแต่งงานกับฝรั่งแล้วจะต้องมีเงินทองเยอะแยะ จริง ๆ แล้วในปัจุบันมันไม่ใช่ค่ะ ความเห็นของเราอาจจะไม่ถูกใจใครหลาย ๆ คน แต่เราว่ามันน่าจะเป็นเหตุเป็นผลที่สุดค่ะ ขอเป็นกำลังใจให้นะคะ จากคุณ : nui@melbourne - [ 24 พ.ค. 52 08:21:01 ]

ความคิดเห็นที่ 9 พ่อแม่อิชั้นก็เรียกสินสอดค่ะ แต่พองานเสร็จพ่อแม่รีบวิ่งไปธนาคาร เอาเงินคืนเข้าบัญชีเจ้าบ่าวเขาไป คืนหมดทุกบาททุกสตังค์ เพราะเจตนาคือการทำตามประเพณีจริงๆ ทั้งๆที่ครอบครัวเราก็ฐานะปานกลางนะ ไม่ใช่คนรวย อิชั้นมีความภูมิใจในตัวพ่อแม่ และภูมิใจในตัวเองมากๆค่ะ จากคุณ : พรพรรณ - [ 24 พ.ค. 52 09:34:24 A:61.90.18.166 X: TicketID:185524 ]

ความคิดเห็นที่ 10 มีหลายคู่ที่มีปัญหาเรื่องสินสอด เพราะในความหมายของสินสอด ฝรั่งเขาจะคิดว่าทำไมไอจะต้องใช้เงินซื้อเมีย  ทำไมต้องใช้เงินซื้อ นี่แหละค่ะที่เมื่อก่อน สามีของดิฉันก้ไม่เข้าใจเหมือนกัน แต่กลังจากที่ได้เพื่อนดิฉัน เขาเก่งเรื่องภาษา  สามารถอธิบายให้เขาเข้าในในวัฒนธรรมของคนไทย เขาก็ไม่มีปัญหาค่ะ จัดทุกอย่างตามประเพณีไทย  ค่าสินสอดเราก็ไม่ต้องไปเรียกมาก เอาให้เหมาะตามความเหมาะสม จากคุณ : bonniejee - [ 24 พ.ค. 52 09:50:04 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ผมไม่มีความเห็นหรอกนะ แต่ขอเล่าเรื่องส่วนตัวให้ฟังแทน ผมและภรรยาเป็นคนไทย สนใจประเภณีไทยเหมือนกัน แต่ไม่สดวก เงินทองไม่มี พ่อแม่ก็ไม่บังคับว่าต้องให้เงินเท่านั้นเท่านี้จึงจะแต่งกับลูกสาวเขาได้ และเขาก็ไม่เดือดร้อนอะไร แต่งงานที่เมืองนอก มีแขกไม่ถึงยี่สิบ เต็มอพาร์ทเม้นต์ เลย มีพระไทยสององค์ จบ ก่อนแต่งงานน้าชายซึ่งโดยบังเอิญรับราชการอยู่ศาลากลางจังหวัดเดียวกันกับพ่อตา เป็นคนไปขอปากเปล่า ไม่มีสินสอดทองเท่าหนวดกุ้งก็ไม่มีแต่อย่างใด หลังจากนั้นหกปี พาหลานมาเยี่ยม ผ่านมาไปหลายสิบปีแล้ว ถ้าจขกทเลือกอยู่ตรงกลาง เขารับได้ไม่คิดมาก จขกทก็ตัดประเภณีไทยไปได้บ้าง เอาประเภณีเขามาแทนบ้างได้ไหมละ จากคุณ : อิสวาสุ - [ 24 พ.ค. 52 10:10:17 A:71.114.54.31 X: TicketID:146114 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ถูกทุกความคิดเห็น จขกท ลองคิดทบทวนดูใหม่อันนี้เราไม่ได้เข้าข้างฝรั่งนะ แฟนเราก็เยอรมันเหมือนกัน เราจะแต่งกันเดือนกันยายนที่จะถืงนี้ เรื่องสินสอดทางบ้านเราไม่ได้เรียก อีกอย่างตั้งแต่คบกันมาแฟนเราก็ส่งเสียเราตลอดทุกๆเดือน ไปพบปะกับครอบครัวเราสองครั้งแม่เราไม่เรียกร้องอะไร แม่บอกเราว่าแล้วแต่เรา ยังงัยก็ขอให้ผ่านไปได้ด้วยดีนะค่ะ ตอนนี้เราก็อยู่ กรุงเทพค่ะ กำลังเรียนภาษาเยอรมัน มีอะไรจะคุยก็เขียนเมลล์ของ จขกท ทิ้งไว้เดี๋ยวเรากลับมาอ่านแล้วจะ แอ็ดไป โชคดีค่ะ จากคุณ : piladrad - [ 24 พ.ค. 52 11:10:43 A:203.144.180.65 X: TicketID:181869 ]

ความคิดเห็นที่ 13 แค่ทำเอกสารอย่างเดียวก็จ่ายไปตั้งแยะแล้ว ต้องจ่ายค่าสินสอดอีก ฝรั่งบางคนลมจับแน่ๆ ดูเงินเดือนเขาดีๆเถอะ เศรษฐกิจแบบนี้ โดนหักภาษีโน่นนี่แล้วเค้าก็คงจะไม่ไหวเหมือนกันมั้ง แต่งเมียจะได้เอามาลดภาษีด้วยนะ เค้าอยากลดภาระ พอรู้ว่าต้องดูแลครอบครัวเราอีก ก็คงเหมือนมีภาระเพิ่ม สินสอดมีแค่พอเป็นพิธีก็ได้มั้งคะ ช่วยกันทำมาหาเก็บกันดีกว่า จากคุณ : Netzumi_Gokusen - [ 24 พ.ค. 52 11:41:17 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ผ่านมาอ่าน...   จากคุณ : ชายยอดนักทดลอง - [ 24 พ.ค. 52 14:14:40 ]

ความคิดเห็นที่ 15 หากไม่รู้จะอธิบายฝั่งพ่อแม่เราอย่างไร ก็ปริ้นกะทู้นี้ให้พ่อแม่อ่านเลย บอกว่าเป็นความคิดเห็นจากคนภายนอก ส่วนไหนไม่เหมาะก็ลบออกบ้าง คืออิชั้นว่าอธิบายฝ่ายเราก่อนไหม และลองเลิกพยายามให้เขาเข้าใจ หรือทำตามเราอย่างเดียว เริ่มต้นที่เรื่องสินสอดนะ เดี๋ยวพอคุณแต่งงานแล้ว คุณก็ต้องการส่งเงินให่พ่อแม่คุณอีก ซึ่งคนไทยเราก็ทำกันอยู่ด้วยความกตัญญู แต่คนชาติอื่นเขาอาจจะไม่เข้าใจ และมันจะกลายเป็นว่าชีวิตคู่ของคุณจะเต็มไปด้วยประเด็นที่เกี่ยวข้องกับเงิน เงิน เงิน ... ไม่สนุกนะจ๊ะ จากคุณ : พรพรรณ - [ 24 พ.ค. 52 14:59:15 A:58.8.175.241 X: TicketID:185524 ]

ความคิดเห็นที่ 16 เต็มไปด้วยประเด็นที่เกี่ยวข้องกับเงิน เงิน เงิน ... ไม่สนุกนะจ๊ะ จากคุณ : พรพรรณ - .............. น่าฟังนะนี่ จากคุณ : อิสวาสุ - [ 24 พ.ค. 52 15:09:24 A:71.114.54.31 X: TicketID:146114 ]

ความคิดเห็นที่ 17 เรากำลังจะจดทะเบียนสมรสกับแฟนคนเยอรมัน เราเซ็นซื่อไม่รับทรัพย์สินใด ๆ ทั้งสิ้นหลังสมรส หากมีอันต้องหย่ากันในภายหลัง ไม่มีการส่งเสียเลี้ยงดูคนทางเมืองไทยจากเงินของสามี จากคุณ : B - [ 24 พ.ค. 52 15:15:50 A:79.201.95.12 X: TicketID:216283 ]

ความคิดเห็นที่ 18 เออ ... ชอบคุณ B จัง (คห.17) ดูเป็นการเมืองมากเลยอ่ะ แต่นี่เป็นการเริ่มต้น อิชั้นเดาว่าพอคุณอยู่ด้วยกันจริงๆ เดี๋ยวในทางปฏิบัติทุกอย่างก็คงซอฟๆลงเองแหละ ... เอาใจช่วยนะ จากพรพรรณ (แต่เริ่มเบื่อชื่อนี้แล้ว หลังจากนี้อิชั้นจะเปลี่ยนชื่อเป็น "คนกรุงเทพฯ"แล้วนะคะ) จากคุณ : พรพรรณ - [ 24 พ.ค. 52 15:37:50 A:58.8.175.241 X: TicketID:185524 ]

ความคิดเห็นที่ 19 คุณlucyคะ ดิฉันก้อเคยเจอปัญหาเดียวกับคุณ อธิบายยังไงก้อไม่เข้าใจ แต่ก้อได้มีพิธีหมั้นไว้ก่อน จนทุกวันนี้มีลูกด้วยกัน ไม่เคยถามเรื่องแต่งงานอีกเลย คนเยอรมนีไม่ชอบคุยเรื่องเงินกันคะ เอาง่ายๆขนาดแม่ลูกกันคุยกันทุกเรื่องยกเว้นเรื่องเงิน ก้อลองเอาความเห็นของแต่ละคนไปวิเคราะห์เอาคะ เอ่ออยากทราบว่าพี่ๆคอมเม้นท์อยู่เมืองไหนกันบ้างคะ จากคุณ : kika - [ 24 พ.ค. 52 16:03:45 A:79.210.80.152 X: TicketID:214337 ]

ความคิดเห็นที่ 20 มาขอบคุณ คุณพรพรรณ(คนกรุงเทพฯ) ที่เอาใจช่วยนะคะ เราทำสัญญาสมรสกันก่อนจดทะเบียนค่ะ ทำที่สำนักงานทนายความตามกฎหมายเยอรมันถ้าเรายังไม่สามารถอ่านและเข้าใจสัญญาในภาษาเยอรมันได้ ก็จะต้องมีล่ามคนไทยมานั่งแปลสัญญาทุกข้อเป็นภาษาไทยให้ฟัง ล่ามจะต้องมีไลเซ่นเป็นที่ยอมรับของศาลด้วยนะคะ ระหว่างที่ล่ามแปลสัญญาแต่ละข้อที่ทนายอ่านนำ ก็รู้สึกอายนิด ๆ เหมือนกันว่า คู่นี้แต่งงานกันยังไงดูเหมือนไม่มีความรักหรือความไว้วางใจกันเลย ยังไม่ทันแต่งก็ทำสัญญาหลังหย่าร้างกันเสียแล้ว และก็ดูเหมือนดิฉันจะโง่มากเลย ที่เซ็นชื่อไม่ขอรับหรือเรียกร้องสิทธิใด ๆ จากการจดทะเบียนสมรส ซึ่งตามกฎหมายเยอรมันฝ่ายชายจะต้องส่งเสียเลี้ยงดูจากรายได้ที่เค้ามีถึงครึ่งหนึ่ง หากคู่สมรสฝ่ายหญิงไม่มีความผิดใดๆ ในการหย่า สรุปสุดท้ายเมื่อออกมาจากสำนักงานทนายความ ว่าที่สามีก็บอกว่า เพราะเค้าไม่คิดจะหย่ากับดิฉันเลยถ้าดิฉันไม่เป็นฝ่ายเรียกร้องเอง และถ้าดิฉันเป็นฝ่ายอยากจะหย่า ก็ไม่ยุติธรรมที่เค้าต้องส่งเสียเลี้ยงดูหรือแบ่งทรัพย์สินให้ โดยเฉพาะถ้าดิฉันอยากหย่าเพราะไปเจอใครใหม่ ที่แฟนว่ามาดิฉันก็ว่า มันก็ยุติธรรมดีค่ะ บอกตัวเองเสมอว่า เราจะต้องพยายามยืนด้วยลำแข้งของตัวเองให้ได้ ไม่ใช่แต่งงานเพราะหวังให้สามีฝรั่งเลี้ยงดู กับทางครอบครัวในเมืองไทยก็บอกทุกคนว่า ขอให้รอจนกว่าเราเลี้ยงตัวเองได้และมีเหลือพอแบ่งปัน จะไม่ขอเงินสามีมาส่งเสียให้ใครเป็นอันขาด ไม่มีการแต่งงาน ไม่มีสินสอดเป็นเงินแสนเงินล้าน มีบางคนบอกเหมือนกันว่าให้แฟนมาตกแต่งตามประเพณี แต่เราก็บอกว่าที่สามีไม่ยอมรับประเพณี อันนี้ ซึ่งบางคนก็บอกว่า ถ้าเค้ารักเราจริง เค้าก็ต้องยอมรับได้สิ ซึ่งเราว่ามันไม่เกี่ยวกันกับคำว่ารักจริงหรือไม่ สำหรับเราความรักหรือความจริงใจ มันเคียงคู่กับเหตุผลและพฤติกรรม ถ้าเราไม่ยอมรับฟังเหตุผลของว่าที่สามี เราก็ว่าเค้าคนนึงละ ที่เป็นคนหัวแข็งและเอาแต่ความคิดของตัวเองเป็นใหญ่ อย่างที่ คุณ จขกท. มองแฟนเยอรมันของตัวเอง ยอมรับวัฒนธรรมของเค้าด้วยค่ะ ไม่ใช่จะให้แต่ทางฝ่ายเค้ามารับวัฒนธรรมของเราแต่ฝ่ายเดียว อย่าไปมองคนอื่นที่เค้าโชคดีได้สามีต่างชาติที่ยอมรับวัฒนธรรมไทย ยอมมาตกแต่งให้สินสอดทองหมั้นเป็นแสนเป็นล้าน หรือเพื่ออวดชาวบ้านว่าได้สามีฝรั่งรวย ทำให้สาวๆ หลายคนฝันอยากจะได้แบบนั้นบ้าง ขอบคุณสำหรับพื้นที่ร่วมแชร์ความคิดค่ะ จากคุณ : B - [ 24 พ.ค. 52 16:49:35 A:79.201.95.12 X: TicketID:216283 ]

ความคิดเห็นที่ 21 พ่อแม่ดิฉันไม่ได้เรียกสินสอดทองหมั้นเลยค่ะ แต่สั่งให้เลือกแหวนแต่งงานที่ดูสมน้ำสมเนื้อหน่อย เพราะมันจะเป็นสมบัติติดตัวลูกสาวท่านไปตลอด ส่วนงานแต่งงานดิฉันกับสามีก็ช่วยกันออกเงิน พ่อแม่บอกว่าแค่มีคนมาดูแลลูกสาวแทนก็ดีใจจะแย่ ท่านไม่ได้มองว่าสามีเป็นฝรั่งหรือคนไทย เพราะยังไง ถ้าคนสองคนแต่งงานกันแล้วจะอยู่กันรอด ทัศนคติและความคิดของทั้งคู่จะต้องใกล้เคียงกัน หรือถ้าต่างกัน ก็ต้องเข้าใจและยอมรับกันให้ได้ โชคดีไปที่สามีเป็นคนรักพ่อแม่ตัวเอง เลยเข้าใจประเพณีไทยเรื่องการรักและดูแลพ่อแม่ ดิฉันเลยเห็นว่าคุณจขกท.ควรจะคุยกับว่าที่สามีและพ่อแม่ให้รู้เรื่อง โดยทำตามที่หลายท่านข้างบนแนะนำมาก็ได้ค่ะ พิมพ์กระทู้นี้ไปให้พ่อแม่อ่าน หาหนังสือและค้นข้อมูลให้สามีอ่าน น่าจะช่วยได้นะคะ จากคุณ : Crazy Victoria - [ 24 พ.ค. 52 17:13:56 ]

ความคิดเห็นที่ 22 สงสารคุณ B อ่ะ และซาบซึ้งจริงๆที่คุณแชร์เรื่องส่วนตัวขนาดนี้ ดิฉันว่าคุณเป็นคนฉลาด และเป็นคนดีทีเดียว เอางี้ .... ทุกอย่างมันเสร็จไปหมดแล้ว มองไปข้างหน้า ไม่ต้องคิดอะไรในประเด็นนี้อีกแล้ว สามีคุณเป็นคนโชคดีจริงๆค่ะ และดิฉันขออวยพรให้คุณโชคดีค่ะ จากคุณ : คนกรุงเทพฯ - [ 24 พ.ค. 52 19:09:58 A:58.8.175.241 X: TicketID:185524 ]

ความคิดเห็นที่ 23 อ่านแล้วได้ประโยชน์จากความคิดเห็นทุกคนมากๆเลย ค่ะ ส่วนหนึ่งก็คือ อธิบายให้แฟนก็เข้าใจลำบาก อธิบายให้พ่อแม่ตัวเองฟัง ก็ลำบาก เหนื่อยที่เป็นคนกลาง แต่ต้องขอบพระคุณทุกคนอย่างยิ่ง ที่ไกด์สิ่งดีๆให้ค่ะ จะได้ซื้อหนังสือมาให้แฟน พ่อแม่ และคอมเมนต์จาก topic ให้อ่านดูเผื่อความไม่เข้าใจที่มันครุนเครืออยู่จะดีขึ้น และเปลี่ยนเป็นความเข้าใจกันในที่สุดค่ะ และที่สำคัญต้องขึ้นอยู่กับตัวดิชั้น แฟน และพ่อแม่ด้วยค่ะ ขอขอบคุณทุกความเห็น ค่ะ หากใครอยากเพิ่มเติม ก็ไม่ว่ากันนะคะ ยินดีที่จะรับฟัง เพื่อประโยชน์ต่อไปค่ะ ขอบคุณค่ะ จขกท (Lucy) จากคุณ : lucy - [ 24 พ.ค. 52 19:43:25 A:117.47.134.51 X: TicketID:188120 ]

ความคิดเห็นที่ 24 ประทับใจทุกความคิดเห็นเลยค่ะ จากคุณ : lucy - [ 24 พ.ค. 52 19:44:01 A:117.47.134.51 X: TicketID:188120 ]

ความคิดเห็นที่ 25 ทุกปัญหา มีทางออก เพียงแต่ค่อยๆคิด แงะมันออกที่ละด้าน และพอถึงเวลา ทุกอย่างก็จะลงตัวเอง บางครั้งปัญหาที่เราคิดว่า มันคือปัญหา แต่พอถึงเวลาจริงๆ มันกลับไม่ใช่ปัญหา เป็นเพียงเรื่องที่เราวิตกไปเอง กดดันตัวเองก็เท่านั้น โชคดีค่ะ.... จากคุณ : BluemirroR - [ 24 พ.ค. 52 20:12:05 ]

ความคิดเห็นที่ 26 มาเป็นกำลังใจให้ จขกท. อีกครั้ง ขอให้พบทางออกที่ลงตัวนะคะ และขออนุญาต ใช้พื้นที่คุยกับคุณพรพรรณ(คนกรุงเทพฯ) อีกนิด ขอบคุณในกำลังใจและความปรารถนาดีอีกครั้งค่ะ ถ้าไม่รังเกียจเป็นเพื่อนคุยทางเมล์สักคน นี่นะคะ narawan2009@googlemail.com ตอนนี้อยู่เยอรมันค่ะ จากคุณ : B - [ 24 พ.ค. 52 20:57:03 A:79.201.95.12 X: TicketID:216283 ]

ความคิดเห็นที่ 27 สวัสดีค่ะ ดิฉันก็มีสามีเป้นคนเยอรมันค่ะ ก่อนแต่งงานก็อธิบายให้เค้าฟังโดยละเอียดว่าสินสอดคืออะไร มีไว้เพื่ออะไร ในกรณีของเราพ่อแม่คืนให้หมดค่ะ สินสอดมี แหวนเพชร 1 วง เงิน 2 แสน ทอง 3 บาท แต่เจ้าบ่าวเพิ่มทองไปเป็น 13 บาท แหวนแต่งานอีก 1 คู่ เค้าไม่เคยหัวเสียกับประเพณีที่เรียกสินสอดเพราะเราอธิบายให้เค้าเข้าใจ เลยไม่มีปัญหาแบบคู่ของคนอื่นๆ อาจจะเป็นเพราะทางพ่อแม่ของเราคืนสินสอดทั้งหมดก็เป็นได้เค้าเลยไม่ซีเรียสอะไรอ่ะค่ะ แฟนเป้นคนมีเหตุผลค่ะเราก็ต้องใช้เหตุผลในการอธิบายสิ่งต่างๆให้เค้าฟัง เค้าก็รับได้ทุกอย่างตามที่พ่อแม่เราขอ ขอให้ทุกอย่างราบรื่นนะคะ ปล. เค้าไปคุยกับสะใภ้อินเตอร์ได้ที่ www.ladyinter.com จากคุณ : nini - [ 24 พ.ค. 52 20:58:43 A:212.84.96.228 X: TicketID:066157 ]

ความคิดเห็นที่ 28 มีหลายต่อหลายคู่ที่มีปัญหาเรื่องเงินๆทองๆ เริ่มไปตั้งแต่ค่าสินสอดนี่แหละค่ะ มันเป็นประเพณีไทยที่จะต้องมีสินสอดทองหมั้นเพื่อแต่งงานแต่ก็ใช่ว่าจะต้องทำตามทุกคู่นี่คะ ๕ุ่ดิฉันเป็นคู่หนึ่งที่ไม่มีค่าสินสอดทองหมันและไม่มีพิธีการแต่งงานใดๆ เราเพียงแต่จดทะเบียนสมรสกันแล้วก็อยู่ด้วยกันเลย ตอนนี้ลูกสองแล้ว ประเพณีตชนชาติตะวันตกไม่เหมือนของไทยเราเขาไม่มีค่าสินสอดทองหมั้นในการแต่งงาน ฝรั่งบางคนอาจจะเข้าใจในประเพณีของเรา แต่บางคนก็ไม่เข้าใจว่าทำไมต้องมีซึ่งการที่เขาไม่เข้าใจและไม่ยอมรับนี้ก็ไม่แปลกนะคะเขาต่างจากเราในเรื่องประเพณีของเขา ไม่ใช่ว่ารักกันแล้วจะให้แต่ฝรั่งฝ่ายชายมายอมรับประเพณีของเรา แล้วเราล่ะยอมรับประเพณีของเขาไหมคะ ยอมรับไหมว่าบ้านเขานี่แต่งงานกันเขาไม่มีค่าสินสอดทองหมั้นเลย คิดไหมว่าเราก็เห็นแก่ตัวนะจะให้แต่เขามายอมรับของเราอย่าเดียว สินสอดก็ต้องจ่าย พอแต่งแล้วยังต้องมีเรื่องการส่งเสียเลี้ยงดูพ่อแม่ พี่น้องที่เมืองไทยอีก ซึ่งตรงนี้การเลี้ยงดูส่งเสียงพ่อไม่ประเพณีฝรั่งเขาไม่ทำนะ แต่ของไทยเราเราทำเป็นการกตัญูต่อพ่อแม่ เขาก็ไม่เข้าใจตรงนี้อีกแหละ มีแต่เงินๆ เงินๆ แล้วก็เงิน บางคู่เลิกกันเพราะเรื่องเงินๆนี่แหละค่ะ เพราะความต่างของเราไงคะ ต่างชาติ ต่างภาษา ต่างวัฒนธรรม เราต้องเรียนรู้ทั้งวัฒนธรรมของเขา และให้เขาเรียนรู้วัฒนธรรมของเรา มันต่างกันอย่างไรทำไมถึงต่าง แล้วเราจะทำยังไงล่ะก็มันต่างนี่นา เขาก็ไม่ยอมรับของเรา เราก็ไม่ชอบของเขาเลย เขาเหมือนหังแข็งเลยแล้วเราก็คงเป็นเช่ยนั้นเหมือนกันในความคิดเขา เรียนรู้เรียนรู้ในความต่างของวัฒนธรรมของกันและกันแล้วก็มาช่ายกันคิดวิว่าเราจะเดินสายกลางอย่างไร ให้ชีวิตคู่ของเรามีความสุข และเราก็ต้องอธิบายให้พ่อแม่ของเราเข้าใจด้วยนะคะว่าวัฒนธรรมของเขาเป็นเช่นไร ท่านจะได้เข้าใจและเดินสายกลางกะเราด้วย ไม่ใช่ว่าลูกเขยเป็นฝรั่งแล้วเรียกสะปั้นหั่นแหลก ตั้งแต่ค่าสินสอดยันค่าเลี้ยงดู ฝรั่งไม่ได้รวยทุกคนนี่คะ เขาก็เดินดินหาเงินใช้เหมือนคนบ้านเราเช่นกัน ซึ่งตรงนี้พ่อแม่เราต้องเข้าใจด้วยนะ ไปซื้อหนังสือ ไทยแลนด์ฟรเวอร์ มาอ่านเลยค่ะ มีเขียนเกี่ยวกะการอธิบายให้พ่อแม่เราด้วยว่าจะบอกท่านอย่างไรว่าวัฒนธรรมเราต่างกัน มีตัวอย่างให้ด้วยว่าบางคู่แต่เป็นพีธีแล้วพ่แม่ฝ่ายหญิงก็คืนให้ฝ่ายชายทั้งหมดหลังพิธีเสร็จ แบบว่าจัดพีธีเพี่ยไม่ให้ชาวบ้านนินทาว่างั้นเถอะก็ลงเอยด้วยการสุขสมทั้งสองฝ่าย ฝ่ายชายไม่ได้เสียค่าสินสอดทองหมั้น ฝ่ายพ่อแม่หญิงก็ไม่เสียหน้า เห็นไหมคะว่าปัญหามันมีวิธีแก้ ในสังคมไทยเรื่องการมีหน้ามีตาในสังคมนี่มาเป็นอันดับต้นเลยนะคะ หนังสือเล่มที่บอกช่วยคุณได้ค่ะรับรอง อย่างเรากะแฟนนี่เขาไม่แต่งสินสอดให้พ่อแม่เรานะ แต่เขาให้ค่าเลียงดูพ่อแม่เราต่อปีให้เราได้ทำตรงนี้ในเรื่องของการกตุญญูต่อพ่อแม่เราก็สบายใจ แฟนเราก็สบายใจที่จะให้เพราะมันไม่ได้มากมายจนเขาให้ไม่ไหวไง แค่นิดๆหน่อยให้แกได้ใช่ตลอดปีเท่านั้นเองค่ะ โชดดีนะคะ เขียนซะยาว อิๆ จากคุณ : ดอกไม้ - [ 24 พ.ค. 52 21:51:55 A:68.145.188.153 X: TicketID:198978 ]

ความคิดเห็นที่ 29 อยากรู้ว่า ถ้าต้องการแต่งงานกับแฟนชาวออสเตรีย แฟนต้องใช้เอกสารอะไรบ้างคะ และต้องแปลเอกสารอะไรบ้าง เขาให้โทรถามทางอำเภอ แต่ลองมาหาข้อมูลที่นี่ก่อน จากคุณ : masati - [ 24 พ.ค. 52 23:30:15 A:124.121.97.44 X: TicketID:217406 ]

ความคิดเห็นที่ 30 เห็นใจเจ้าของกระทู้จังค่ะ ฝรั่งบางคน เขาไม่เข้าใจ และไม่ยอมรับเลยก็มีนะคะ หากไม่เข้าใจจริงๆ ก็คงให้คุยกับพ่อแม่นะคะ ว่าเขารับไม่ได้กับเรื่องนี้ ขอให้ทางพ่อแม่เราเข้าใจ เพราะคุณกับเขา ยังต้องอยู่ด้วยกันอีกนาน อย่าให้เรื่องเงิน มาทำให้ชีวิตคู่มีปัญหา ตั้งแต่เริ่มต้นเลยค่ะ อีกอย่าง มันจะเป็นลางไม่ดีในชีวิตคู่ค่ะ ****ถึง คุณบี คิดได้ดีจังค่ะ ขอแสดงความชื่นชมค่ะ น่าภูมิใจจังนะคะ ที่หวังพึ่งตนเองเป็นสำคัญ สามี ก็มีเหตุผลของเขา ดีจังที่เข้าใจกันได้ ขอให้รักกัน นานๆ หวานชื่นนะคะ โชคดีค่ะ จากคุณ : มด2002 - [ 25 พ.ค. 52 00:04:59 ]

ความคิดเห็นที่ 31 คู่ดิฉัน ง่ายๆค่ะ พ่อแม่ไม่ได้เรียกสินสอดค่ะ แต่ท่านบอกแต่เพียงว่า ขอให้ทำพิธีให้ถูกต้องก่อนแค่นั้นเอง คือท่านไม่ให้พวกเราอยู่กันก่อน โดยที่ไม่มีพิธีแต่งงาน เพราะท่านจะซีเรียสเรื่องนี้มาก ไม่เน้นเรื่องเงินทอง ขอให้ทำให้ถูกต้อง และขอให้เลี้ยงดูกัน มีความรับผิดชอบต่อกันตลอดไป แค่นี่พ่อแม่ก็พอใจแล้วดิฉันกับแฟนก็ทำตามค่ะ ในพิธี มีเงินนิดหน่อยเองค่ะ เกินครึ่งแสนแต่ไม่ถึงแสน และทองสี่บาท แค่นี้เองค่ะ และหลังแต่งเสร็จ แม่เอาเฉพาะค่าใช้จ่ายในการจัดงานแค่นั้นเองค่ะ ที่เหลือแม่คืนให้ แต่เราไม่เอา และให้ทองแม่สองบาท เราเก็บใว้เองสองบาท แต่เราก็ภูมิใจที่อย่างน้อยเราก็ได้ทำพิธีให้ถูกต้อง และพ่อแม่ก็ไม่ว่าอะไร พ่อแม่รับได้ ขอแค่เค้าเป้นคนดี ดูแลเลี้ยงดูเรา มีความรับผิดชอบ ชาวบ้านคงคิดว่าแต่งกับฝรั่งคงจะได้เงินมากมายนะ แต่ไม่ใช่ ภูมิใจในตัวพ่อแม่มากค่ะ ทุกวันนี้จะครบสี่ปีแล้วที่เราอยู่ด้วยกัน และมาอยู่อเมริกาได้สองปีแล้ว ครอบครัวก็มีความสุขดี เรื่องส่งเสียพ่อแม่ เราก็ทำตามอัตภาพ ดูแลท่านเท่าที่เราทำได้ มีน้อยให้น้อย มีมากให้มาก ยามพ่อแม่เดือดร้อน หรือเจ็บไข้ได้ป่วย เราก็ช่วยตามที่เราจะช่วยได้ สามีก็ไม่ว่าอะไำรค่ะ เพราะเค้่าก็คงคิดว่า ตอนแต่งพ่อแม่ไม่ได้เรียกร้องเงินทองเหมือนคู่อื่นที่เค้าเคยได้ยินมา เราอยู่ดีมีสุข พ่อแม่ก็สุขใจไปด้วย แต่เรื่องแบบนี้ก็ขึ้นอยู่ของแต่ละครอบครัวค่ะ ทางที่ดี ก็ทำให้ถูกต้องเป็นดีที่สุด จากคุณ : สาวไทย - [ 25 พ.ค. 52 00:05:55 A:71.171.150.212 X: TicketID:181710 ]

ความคิดเห็นที่ 32 คุณ B ตรงไหนครับที่ยุติธรรม? "สรุปสุดท้ายเมื่อออกมาจากสำนักงานทนายความ ว่าที่สามีก็บอกว่า เพราะเค้าไม่คิดจะหย่ากับดิฉันเลยถ้าดิฉันไม่เป็นฝ่ายเรียกร้องเอง และถ้าดิฉันเป็นฝ่ายอยากจะหย่า ก็ไม่ยุติธรรมที่เค้าต้องส่งเสียเลี้ยงดูหรือแบ่งทรัพย์สินให้ โดยเฉพาะถ้าดิฉันอยากหย่าเพราะไปเจอใครใหม่ ที่แฟนว่ามาดิฉันก็ว่า มันก็ยุติธรรมดีค่ะ" คุณบอกว่า "ซึ่งตามกฎหมายเยอรมันฝ่ายชายจะต้องส่งเสียเลี้ยงดูจากรายได้ที่เค้ามีถึงครึ่งหนึ่ง หากคู่สมรสฝ่ายหญิงไม่มีความผิดใดๆ ในการหย่า" ถ้าฝ่ายหญิงขอหย่าเอง ผมว่าเขาก็ไม่จำเป็นต้องจ่ายอะไรนะครับ จริงๆมองในมุมผู้ชายผมว่าเขาทำเพื่อตัวเขาเองมากกว่า แล้วอีกอย่างถ้าเกิดไม่คิดจะหย่า ก็ไม่ต้องทำก็ได้มั้งครับสัญญาฉบับนี้่ ส่วนตัวผมว่า ฝรั่งไม่ว่าชาติไหนก็เหมือนกันหมดครับ เงินของผมมีไว้ให้ผม เงินเธอก็ของเธอ ไม่มีเงินของเรา แปลกตรงที่หญิงไทยรับได้ถ้าแต่งกับฝรั่ง แต่รับไม่ได้ถ้าแต่งกับคนไทยแล้ว เงินเธอของเธอ เงินฉันของฉัน เรื่องสินสอดทองหมั้น บางคนแต่งกับต่างชาติเรายกให้ได้เพราะธรรมเนียมวัฒนธรรมไม่เหมือนกันต้องให้เข้าใจ แต่งกับคนไทยด้วยกันไม่ได้ ต้องมีสินสอดทองหมั้น แหวนเพชรผมว่าเกิดเป็นต่างชาติสบายใจกว่าเยอะๆครับ ทำไรถูก ได้ ดี .... แต่งทั้งทียอมเขาหมด แต่งกับคนไทยด้วยกันไม่เห็นยอมกันเท่าไหร่เลย เห็นแล้วอึดอัดมากๆ ทำไมมันกลับกันแบบนี้ละ เศร้าครับเกิดเป็นชายไทยแท้แสนลำบาก จากคุณ : ชายไทยน่าสงสารนะ - [ 25 พ.ค. 52 02:40:09 A:80.47.96.240 X: TicketID:204836 ]

ความคิดเห็นที่ 33 คุณจขกท.ขา ขออนุญาตตอบคุณชายไทยน่าสงสารนะในกระทู้คุณนิดส์นึงนะคะ คุณชายไทยน่าสงสารคะ ประเด็นที่คุณถามว่ามันยุติธรรมตรงไหน ในการที่คุณ B ทำสัญญาแต่งงาน เราว่าคุณ B คงอยากแสดงความบริสุทธ์ใจว่าในการแต่งงานครั้งนี้ เธอไม่ได้แต่งเพื่อหย่าแล้วหวังแบ่งสมบัติ (ที่เป็นสินเดิมของฝ่ายชาย) น่ะค่ะ ถ้าถามว่าแล้วมันช่วยอะไรมั้ย ก็คงทางด้านจิตใจ แต่จริง ๆ แล้วถึงจะไม่มีสัญญาแต่งงาน กฎหมายที่นี่เค้าก็ครอบคลุมไว้ดีแล้วค่ะ และถ้าสัญญานั้น ทำขึ้นมาแล้ว ขัดกับหลักของกฎหมายที่นี่ ก็จะถือเป็นโมฆะอยู่ดี กฎหมายเดิมทีคือ ถ้าคู่สมรสใดหย่าร้างกัน ถ้าอีกฝ่ายมีรายได้ไม่พอเลี้ยงดูตัวเอง อีกฝ่ายจะต้องจ่ายค่าเลี้ยงดูค่ะ (โดยมากฝ่ายชายจะเป็นคนจ่าย เพราะตามสถิติ ฝ่ายชายมีรายได้มากกว่า) โดยจะต้องจ่ายค่าเลี้ยงดูไปจนกว่าอีกฝ่ายจะแต่งงานไป จึงจะถือเป็นโมฆะ มันไม่ใช่เป็นการจ่ายเพราะอยากจ่าย แต่ต้องจ่าย เพราะไม่งั้นทางรัฐบาลก็ต้องแบกภาระเสียเอง ถ้าบุคคลนั้นไม่พอใช้แล้วไปขอเงินช่วยจากรัฐบาล ส่วนใครผิดใครไม่ผิด ไม่เกี่ยวค่ะ ต่อให้ผู้หญิงคนนั้นนอกใจหรือทำตัวไม่ดียังไง คนที่รายได้มากกว่าคือฝ่ายชายก็ต้องจ่ายให้ฝ่ายหญิงอยู่ดี โดยจะอ้างนู่นอ้างนี่ ศาลเค้าก็ไม่ฟัง ก่อนแต่งทำไมไม่ดูให้ดีซะก่อน (แต่ไม่ได้จ่ายครึ่งนึงของเงินเดือนอย่างที่คุณ B บอกค่ะ มันแล้วแต่กรณีไป แต่กฎหมายได้เปลี่ยนแปลงไปแล้ว ต่อไปนี้ถ้าหากหย่าร้างกัน ฝ่ายที่ต้องจ่ายค่าเลี้ยงดู จะต้องจ่ายติดต่อกัน เป็นเวลา ๒ ปี เท่านั้น เพราะจากที่แล้ว ๆ มา ผู้หญิงบางคน เปลี่ยนสามีไปแล้วสามสี่คน ก็ยังไม่ยอมแต่ง อาศัยกินเงินจากสามีเก่าไปเรื่อย ๆ คนจ่ายก็แหงกพอดี อย่าอึดอัดน้อยอกน้อยใจไปเลยค่ะ คนเราไม่เหมือนกัน คิดต่างกัน เราว่าผู้หญิงที่แต่งงานกับฝรั่งแล้วไม่เอาสินสอดนั้น เพราะเค้าคิดอย่างงั้นจริง ๆ ถึงแต่งกับคนไทยก็ทำเช่นเดียวกัน ผู้หญิงทุกคนรักใครก็อยากแต่งกับคนนั้น เรื่องสินสอดมันเป็นเรื่องของผู้ใหญ่ บางบ้านเคร่งหน่อย บางบ้านไม่ ถ้าพ่อแม่โอเค ก็ไม่มีปัญหา อย่าเศร้าไปเลยค่ะ เราซะอีกที่คิดว่าเกิดเป็นชายไทยสบายกว่าเป็นผู้หญิงอีก จากคุณ : Schnuckiputz - [ 25 พ.ค. 52 03:43:13 ]

ความคิดเห็นที่ 34 แต่งงานมีสามีเยอรมันเหมือนกันค่ะ ขอบอกเรื่องของขวัญเป็นเงินนี่ธรรมดามากค่ะ บางคนเขาจะระบุไว้ในการ์ดเลยว่าไม่เอาของ ขอเงินจ้ะ ทั้งงานแต่ง วันเกิด ย้ายบ้าน เพราะฉะนั้นคุณแฟนจขกท  ไม่เข้าใจไม่ได้นะคะ เรื่องสินสอด คงจะต้องคุยกันทั้งฝ่ายแฟนและพ่อแม่ หาทางสายกลางค่ะ เพื่อนๆแนะนำกันเยอะแล้ว มาคุยเรื่องนิสัยคนเยอรมันทั่วไปซักนิด คนที่นี่ส่วนใหญ่จะประหยัด ทำอะไรเองหมด เพราะจ้างเขามันแพง เป็นตัวของตัวเอง ลูกอีช่างเถียง แต่มีเหตุผลกันพอสมควร เพราะฉะนั้นจะต้องเถียงหรือพูดด้วยเหตุผล มีจุดยืน จะอะไรก็ได้แล้วมาบ่นทีหลัง เขาจะงงว่าทำไมไม่บอกตั้งแต่แรก เขาจะอ่านภาษากายกันไม่ค่อยออก เวลาเรางอน  เขาไม่ค่อยรู้ว่าเรางอน ต้องพูดแสดงความรู้สึกของตัวเราเองค่ะ อันนี้เท่าที่สังเกตนะคะ แต่เรื่องเงินควรจะพูดกันซะตอนนี้ เพราะช่วงที่ภาษาไม่เก่งต้องพึ่งสามีอย่างเดียวค่ะ เรื่องให้เงินพ่อแม่ ตัวเองก็มีปัญหาช่วงแรกค่ะ   เพราะคนที่นี่มีระบบกเษียณที่ดี แต่บ้านเราไม่มี ต้องบอกสามีถึงจุดนี้ และบอกถึงความผูกพันธ์ในครอบครัว เรื่องกตัญญู มันเป็นตัวต้นรากเหง้าของเรานะคะ เขาต้องเปิดใจรับบ้าง เพราะตัวเราเองก็ต้องมาปรับตัวที่นี่เหมือนกันค่ะ จากคุณ : พริกน้ำส้ม - [ 25 พ.ค. 52 03:58:35 ]

ความคิดเห็นที่ 35 ทำใจเหอะ ฝรั่งเยอรมันจ่ายยากสสสสส จากคุณ : satchapot - [ 25 พ.ค. 52 05:53:34 ]

ความคิดเห็นที่ 36 เห็นด้วยกับความคิดเห็นที่ 33 มากๆ ที่บอกว่าสัญญานั้นมันเป็นการแสดงความบริสุทธิ์ใจของคุณ B ส่วนตัวดิฉันมองว่าเป็นความเจ็บปวดของฝ่ายหญิงที่ต้องเซ็นต์สัญญากันขนาดนั้น ซึ่งเกิดมาดิฉันก็ไม่เคยได้ยิน แต่ก็ไม่รู้จะโทษฝ่ายชายอย่างไรในเมื่อเขาเองก็อาจจะได้ยินได้ฟังอะไรมาเยอะเกี่ยวกับภรรยาไทยที่เกี่ยวกับเรื่องเงิน เงิน เงิน ทั้งหลาย จริงเท็จแค่ไหนเราก็ไม่รู้ แต่ที่ต้องคิดคือพวกเราทำอะไรกัน จึงทำให้คนตะวันตกมองเราแบบนั้น และสิ่งที่เกิดขึ้นกับคุณ B ที่ถึงขนาดต้องเซ็นต์สัญญา ดิฉันว่าก็เกิดจากการที่สามีเธอได้ยินอะไรมานั่นเอง ดิฉันอยากให้ภาพการมองภรรยาไทยดีกว่านี้ สิ่งที่ดิฉันทำคือ 1. อย่างที่เล่ามาข้างต้น สินสอดหนึ่งล้านบาท พ่อกับแม่รีบวิ่งไปธนาคารโอนเงินคืนเจ้าบ่าวทันทีหลังงานเลิก (อันนี้เป็นการเริ่มต้นที่ดีที่สุด และดิฉันภูมิใจมาก) 2. ไม่ค่อยเอ่ยปากขอเงินสามี ทั้งที่บางช่วงเวลาธุรกิจเราตกต่ำ (เช่นช่วงนี้) อันนี้ก็รู้สึกภูมิใจค่ะ แต่จริงๆเขาก็แอบเอาเงินไปใส่ธนาคารเราไว้ให้ เพราะเขาให้เราก็ปฏิเสธว่ายังไม่เดือดร้อนมาก (ใช้เงินคนละกระเป๋า แต่เขารับผิดชอบรายจ่ายหลักของบ้าน) 3. ให้เงินพ่อแม่ตามโอกาส แต่ต้องเอาเงินตัวเอง และเล่าให้สามีฟัง อย่าแอบให้เด็ดขาด รวมถึงส่งของขวัญให้พ่อแม่สามีตามโอกาสเช่นกัน 4. ไม่เอาหลานๆ/ญาติๆมาเกี่ยวข้องมากเกินไป โดยเฉพาะในลักษณะการพึ่งพา 5. พยายามเป็นผู้จ่ายตามโอกาสหรือเท่าที่ทำได้ 6. ปรับปรุงตัวให้เป็นคนฉลาดเสมอ หาเงินให้ได้เยอะขึ้น ติดตามข่าวสารบ้านเมือง อ่านหนังสือ และสนใจเทคโนโลยี เพื่อให้มีประเด็นคุยกันมากขึ้น อย่าให้ใครว่าได้ว่าเก่งแต่ในครัวและบนเ-ียง 7. พยายามแสดงความคิดเห็นและโต้แย้งบ้าง อย่าเป็นแบบ "อะไรก็ได้ค่ะ" สิ่งนี้จะทำให้สามีเคารพนับถือคุณๆมากขึ้น 8. พ่อแม่/พี่น้องดิฉันส่งของขวัญวันเกิดให้สามี มูลค่าไม่กี่บาท แต่มันมีความหมายมาก ของขวัญกล่องเดียวนี่แหละ แต่มีการ์ด 1 ใบ เขียนกันทั้งบ้าน แรกๆพ่อแม่ก็ไม่เข้าใจ แต่ก็เป็นหน้าที่ที่ดิฉันต้องเปลี่ยนพ่อแม่บ้าง และเลิกพยายามทำให้สามีเข้าใจวัฒนธรรมไทยอย่างเดียว เริ่มแรกดิฉันก็โทรหาน้องที่เป็นคนรุ่นใหม่หน่อย ให้น้องเริ่มต้น และไปซื้อของขวัญมา และจัดการให้คนในครอบครัวช่วยเซ็นต์การ์ดให้ ตอนหลังก็เริ่มกลายเป็นปกติไปเลย แต่อันนี้ทำง่ายเพราะเราอยู่ประเทศไทยกันทั้งหมด จริงๆที่ดิฉันทำอยู่ข้างต้น ไม่ว่าแต่งงานกับไทยหรือฝรั่งดิฉันก็คงทำแบบนี้อยู่แล้ว แต่บางทีที่เราระลึกได้ว่าสามีไม่ใช่คนไทยนะ จะทำให้เราระแวดระวังมากขึ้น เพราะไม่ลืมว่าวัฒนธรรม/รากเหง้าต่างกัน อยากฝากถึง จขกท. เริ่มต้นดีๆนะ คนไทยเรียกว่าสินสอด แต่ฝรั่งมักง่ายมันใช้คำว่า "buy" นะคะ ลด ละ เลิก การ "อธิบาย" ซะบ้างก็ดี แต่ให้ "ปฏิบัติ" จะได้ไม่ต้องเจอปัญหาว่า "อธิบายเท่าไหร่ก็ไม่เข้าใจ" โชคดีค่ะ จากคุณ : คนกรุงเทพฯ - [ 25 พ.ค. 52 11:42:58 A:58.8.172.27 X: TicketID:185524 ]

ความคิดเห็นที่ 37 ยกมือ ยกมือ ...ข่อยอ่านแล้วมีคำถาม จาก คห. 32 แล้วต่อ ด้วย 33 1) ญ.ไทยแต่งงานกับ ช ไทย ต้องมีสินสอด เพราะ ช ไทยที่น่าสงสารต้องพิสูจน์ว่าจะสามารถเลี้ยง ญ.ได้ 2) ญ. ไทยแต่งกับฝรั่ง ไม่ต้องมีสินสอด ถ้าจะให้มั่นต้องเซนต์ prenup ด้วย เพราะ ญ ไทยผู้หยิ่งในศํกดิ์ศรีต้องพิสูจน์ว่า ญ รักจริง ไม่ต้องการอะไรของเขา ถามว่า 1) ถ้า ญ ข้อ 2 ไปเจอกับ ช ข้อ 1 : จะต้องมีการจ่ายสินสอดหรือเปล่า ฝ่ายไหนจะเป็นฝ่ายพิสูจน์ตัวเอง 2) ช ไทยก็พิสูจน์ตัวเองไปแล้ว ญ ไทยก็พิสูจน์ไปแล้ว ช ฝรั่ง จะพิสูจน์ตัวเองตอนไหน แกรก แกรก ...(เสียงเกาหัว) จากคุณ : ... - [ 25 พ.ค. 52 15:39:58 A:58.8.10.222 X: TicketID:098315 ]

ความคิดเห็นที่ 38 กำลังจะแต่งกับหนุ่มเยอรมันเหมือนกันค่ะ (อีก 2 วัน) แต่แต่งที่เยอรมันก่อนค่ะ เลยไม่มีสินสอด แต่ว่าแฟนเป็นคนจ่ายค่าจัดงานทั้งหมด จะกลับไปจัดงานแต่งที่ไทยเหมือนกันค่ะ แต่เป็นปีหน้า ที่คุยกันไว้ก็คือแฟนจะออกเงินจัดงาน ส่วนสินสอดก็คงมีแต่ขอคืนหลังจัดงาน :-P แต่จะเอาเงินช่วยที่ได้ทั้งหมดให้ครอบครัวเรา .... ส่วนเรื่องส่งเงินให้ที่บ้าน โชคดีที่เราตกลงกันไว้ตั้งแต่คบกันแรกๆแล้วค่ะ เพราะก่อนหน้าที่จะมาที่นี่ เราทำงาน เราก็จ่ายส่วนนี้เอง ... แต่หลังจดทะเบียน ถ้าเราไม่มีงานทำ แฟนเราบอกว่าเขาจะเสียภาษีน้อยลง ... โดยที่เงินอันนั้นจะยกให้เรา จะเอาไปใช้อะไรก็เรื่องของเรา ซึ่งก็โอเคสำหรับเรานะ เพราะปกติเราก็ให้ที่บ้านไม่มากอยู่แล้ว แค่เดือนละ 1-3 พัน แล้วแต่ความจนในแต่ละเดือน :-P (มีน้องสาวช่วยส่งอีกคน) จากคุณ : ฉันจะดีกับเธอตลอดไป~* - [ 25 พ.ค. 52 17:59:54 ]

ความคิดเห็นที่ 39 เห็นด้วยกับ คห6 อย่างยิ่งคะขอให้ จขกท อ่านและทบทวนให้ดีๆ วัฒนธรรมมันต่างกัน รักเขาและอยากใช้ชีวิตร่วมกันก็ต้องเข้าใจวัฒนธรรมเขาด้วย และไม่เห็นด้วย กับ คห7 เพราะชายเยอรมันบางคนแต่งงานกับหญิงไทยก็ไม่ใช่เพราะเรื่องเซ็กส์อย่างเดียว (รักกับเซ็กส์มันต่างกันคะ) ปล ถ้าครอบครัวคุณอยากให้มีค่าสินสอดจริงๆ คุณก็ลองช่วยกันทำงานเก็บเงินไว้เป็นค่าสินสอดกัน เดี๋ยวนี้คนไทยแต่งงานกับคนไทยกันเองก็ยังช่วยกันเก็บเงินไว้สร้างอนาคตร่วมกันเลยคะ และขอร้องคนไทยบางคนนะคะ อย่าคิดจะแต่งงานกับฝรั่งเพราะเห็นแก่เงิน!!! อายคะ และเบื่อ กับภาพลักษณ์ของผู้หญิงไทยแบบนี้ จากคุณ : CH - [ 25 พ.ค. 52 18:30:56 A:92.104.226.114 X: TicketID:174733 ]

ความคิดเห็นที่ 40 อ้าว... ไม่ได้เข้ามาดู มีคำถามจาก ชายไทยผู้น่าสงสารหรือคะ มาตอบช้าไปรึป่าวนี่ เราว่า กระทู้นี้เขาพูดกันเรื่องความไม่เข้าใจ หรือความไม่ยอมรับในขนบธรรมเนียมประเพณีไทยเรื่องสินสอดทองหมั้นและการแต่งงานนะคะ ซึ่งไม่น่าจะต้องมาแปลหรืออธิบายให้ชายไทยผู้น่าสงสาร(ตรงไหน) ไม่เข้าอกเข้าใจจริง ๆ หรือว่าแค่เกิดอาการหมั่นไส้มากกว่ากันแน่ ดิฉันไม่ได้เขียนอย่างละเอียดแต่แรก เพราะไม่คิดว่ามันจะเป็นประเด็นขึ้นมา ซึ่งรายละเอียดต่าง ๆ นั้น ตรงกับที่คุณ Schnuckiputz เข้ามาบอกไว้ เป๊ะเลยค่ะ ขอบคุณ คุณ Schnuckiputz มากมายที่มีความเข้าใจเป็นอย่างยิ่ง รวมทั้งความรู้สึกที่คุณ คนกรุงเทพฯ คาดเดานั้นก็ถูกต้อง แฟนดิฉันเค้าเห็นตัวอย่างมาเยอะแล้วค่ะ ในกรณีที่ก่อนแต่งรักกันมากมาย แบบว่ารักและเชื่อใจไม่ทำสัญญาใด ๆ ทั้งสิ้น แต่สุดท้ายเมื่อต้องหย่า ฝ่ายชายต้องจ่ายค่าเลี้ยงดูจากเงินเดือนของเขาตั้งครึ่ง(ในกรณีของเพื่อนร่วมงานแฟน) ซึ่งแฟนเราบอกว่า มันไม่ยุติธรรม เค้ารับไม่ได้ จะว่าเค้าเห็นแก่ตัว เค้าก็ยอมรับล่ะว่า ใช่ ในเมื่อเค้าเรียนมา สร้างอนาคตของเค้ามาด้วยตัวเค้าเอง แต่เพราะตัดสินใจผิดพลาดแต่งงานกับผู้หญิงคนนึง แล้วต้องมารับผิดชอบเลี้ยงดูฝ่ายหญิงไปตลอดชีวิตเหรอ แฟนเราเห็นแต่ตัวค่ะ แต่เรารับได้ และก็เห็นด้วยกับเค้า ว่าที่เค้าพูดมามันจริงหมด ไม่ใช่จะยอมไปหมดทุกอย่างขอให้ได้แต่งงานไม่ว่าจะเสียเปรียบยังไง เพราะดิฉันไม่ได้คิดว่า ดิฉันเป็นฝ่ายเสียเปรียบอะไรตรงไหนเลย 2 ปีที่คบกันกว่าจะตัดสินใจแต่งงาน ฝ่ายชายก็ดูแลอย่างดี ให้ความรู้ ให้การศึกษา ไม่ได้บังคับให้ไปแต่งงานจดทะเบียนกับเขาเสียหน่อย เพียงแต่อยากให้โอกาสเราได้เลือกใช้ชีวิต ไม่ใช่อยู่กับชีวิตที่เลือกไม่ได้ทนทำงานเดือน 8-9 พันบาท เลี้ยงตัวเลี้ยงลูกติดสามีเก่า(ชายไทย) ไปเดือนชนเดือนมองไม่เห็นอนาคต ถามคุณ ชายไทยผู้น่าสงสาร(รึป่าว) กลับหน่อย ว่าเป็นคุณ เป็นหนุ่มโสด เรียนจบปริญญาโท ทำงานรับราชการเงินเดือนสูง อายุยังไม่เยอะ รูปร่างหน้าตายังหาสาว ๆ วัยยี่สิบต้น ๆ ได้สบาย เป็นคุณ คุณจะมองผู้หญิงหม้ายลูกติด อายุเกือบสี่สิบ หรือไม่ อย่าว่าแต่จะคิดแต่งงานด้วยเลย อย่างนี้คุณคิดว่า มันยุติธรรมไหมล่ะ ที่แฟนดิฉันทำสัญญาขึ้นมาแบบนี้ การที่คุณอคติกับผู้หญิงที่แต่งงานกับฝรั่ง ผลมันก็ออกมาที่คุณประเมินค่าความคิดความรู้สึกคนอื่นแบบผิด ๆ ติดลบแบบนี้ นี่แหละ ดิฉันไม่แปลกใจหรอกกับความคิดผู้ชายไทยแบบคุณ เชื่อหรือไม่คะ ว่าดิฉันแต่งงานกับชายไทย ดิฉันเป็นฝ่ายหาสินสอดทองหมั้นให้พ่อแม่ดิฉันเอง ชายไทยอดีตสามี มีหน้าที่แค่มาเข้าพิธีค่ะ เสร็จพิธีแล้วดิฉันก็ตั้งหน้าตั้งตาหาเงินใช้หนี้ น่าสงสารมากเลยมั๊ยผู้ชายไทยแบบนี้ ....... จากคุณ : B - [ 25 พ.ค. 52 19:47:13 A:79.201.122.204 X: TicketID:216283 ]

ความคิดเห็นที่ 41 เราตัดสินใจเองเลยค่ะ บอกสามีแต่ต้น ทอง เงิน ทุกอย่างเราคืนหมด  เราทำให้ดูเป็นประเพณีพอน่ะค่ะ  คุณก้อคืนเค้าไปสิคะ บอกเค้าเอามาใช้ในงานพอ เราแต่งแบบจีนเช้า   ได้เงินช่วยจากค่ายกน้ำยามาตรึม   ลืมบอก ตอนนั้นเราแต่งกับญี่ปุ่นค่ะ จากคุณ : คนไทยก็ทำได้ - [ 26 พ.ค. 52 08:55:52 ]

ความคิดเห็นที่ 42 บอกทุกอย่างแล้วค่ะ ว่าจะเอาเงินคืน ไม่ได้บังคับว่าต้องให้พ่อกับแม่ มั้ย แต่เค้าเองบอกว่าจะให้และค่าซองที่ได้ทั้งหมดจะให้พ่อกับแม่ เค้าไม่เอา แต่เราบอกว่ามันไม่ใช่มีแต่เงินจะมีทองในพิธีด้วย ก็ดูเหมือนว่าเค้าไม่ค่อยพอใจเท่าไหร่ เพราะเอาเงินไปแล้วยังจะเอาทองอีก กรณีนี้จะทำยังไง เท่าที่อ่านๆมา ก็คงต้องออกแชร์กัน แต่กรณีดิชั้น สงสัยต้องซื้อเอง ดูท่าเค้าจะไม่ค่อยยอม เค้า บอกว่าการที่จำเอาเงินสกุลของเค้าเปลี่ยนมาเป็นเงินบาทไทย เพื่อมาโชว์ เสร็จแล้วก็แลกเงินกลับคืน ค่าเงินมันจะหายไปเยอะค่ะ ไม่เข้าใจเหมือนกัน เค้าบอกเค้าจะยอมทำ แต่โดยความจริงแล้วไม่ชอบค่ะ ดิชั้น ก็ไม่รู้จะพูดยังไง ที่จริงก็ไม่อยากทำอะไรขัดใจความรู้สึกใคร ทั้งพ่อแม่ และตัวแฟน เลยคิดจะเดินทางสายกลาง แต่แม่ดันไม่เข้าใจอีก อยากจะเรียกร้องจากเค้าอย่างเดียว (เลข 7 หลัก) ซึ่งไม่ใช่น้อยทั้งคนไทยและฝรั่ง แต่แม่บอกว่าต้องเข้าใจว่าเราอยู่ในสังคมทีรู้จักคนเยอะ (หน้าตา) แต่ไม่เคยคุยกันเลย ทุกอย่างคุยผ่านดิชั้นคนเดียวค่ะ อยากจะบ้า ตาย (คนไทยก็แปลกเหมือนกันจะเอาหน้า และทำให้ขายหน้าได้เหมือนกัน ว่าไปแล้วดิชั้นก็คนไทย อิอิ) คือแบบนี้ แม่ดิชั้น ได้ไปคุยกับคนอื่น ที่ญาติพี่น้องเค้าแต่งงานกับฝรั่ง การคุยมันก็ดูเหมือนง่ายค่ะ แต่แม่ดิชั้น ไม่ได้ไปรู้กับเค้าว่าการที่จะได้สินสอดนั้นมา บางคนเค้าก็อธิบายลำบากเหมือนกัน เข้าใจความรู้สึกแม่ค่ะ และแฟน เป็นอย่างดี แต่...... แคร์ความรู้สึกทั้งสองฝ่ายค่ะ ขอบคุณค่ะ จขกท จากคุณ : lucy - [ 26 พ.ค. 52 18:18:54 A:222.123.9.115 X: TicketID:188120 ]

ความคิดเห็นที่ 43 กลับมาอ่านอีกรอบเผื่อจะช่วยอะไรได้อีก แต่ .... รู้สึกเสียเวลา ขอโบกมือลากะทู้นี้ล๊ะกัน จากคุณ : คนกรุงเทพฯ - [ 26 พ.ค. 52 20:48:30 A:58.8.166.143 X: TicketID:185524 ]

ความคิดเห็นที่ 44 ว่าจะไม่พูดแล้ว มันอดไม่ได้คะ คำว่า (หน้าตา) มาอ้าง ถ้าครอบครัวคุณมีความคิดที่ดี มีมุมมองที่กว้าง.... น่าจะเข้าใจดี ส่วนตัวโชคดีที่ครอบครัวมีความเข้าใจเรื่องนี้มาก เลข 7 หลัก อย่าว่าแต่ฝรั่งเลย อย่างนี้คนไทยก็ส่ายหัวเหมือนกันคะ จากคุณ : CH - [ 26 พ.ค. 52 21:59:45 A:92.104.226.114 X: TicketID:174733 ]

ความคิดเห็นที่ 45 เอ่อ .... ที่บอกว่าเสียเวลาเพราะ จขกท. เป็นคนไม่เสร็จ เดี๋ยวหลังจากนี้เธอก็จะมีประเด็นเรื่องแหวนเพชรอีกว่าคุณหญิงแม่ให้เอากี่กะรัต และสุดท้ายขอชื่นชมสาวไทยที่ทำไม่เสียชื่อประเทศทุกท่านข้างต้นอีกครั้งค่ะ จากคุณ : คนกรุงเทพฯ - [ 26 พ.ค. 52 22:05:26 A:58.8.166.143 X: TicketID:185524 ]

ความคิดเห็นที่ 46 ปล. ถึงคุณ CH คห.44 จริงๆพวกเราหลงเข้ามาอ่าน เพราะเจ้าของกระทู้เขาคิดของเขาเสร็จตั้งนานแล้วหล่ะ เธอมาโพสเล่นๆเพื่อประกาศว่า "หนูขายออกแล้วค่ะ ได้ราคาดีด้วย" เราก็หลงว่าเธอมีปัญหา ดูจากการโพสครั้งแรกสุด กับครั้งที่ 42 ไม่กี่วันก่อนหน้านี้ยังบอกอยู่เลยว่า "อธิบายเท่าไหร่ก็ไม่เข้าใจ" พอมา คห.ที่ 42 ดูว่าที่สามีเธอจะเข้าใจทุกอย่าง และให้ทุกอย่างแล้ว เป็นคนละคนภายใน 2 วัน เสียเวลามาก ทำงานต่อดีกว่า จากคุณ : คนกรุงเทพฯ - [ 26 พ.ค. 52 22:14:52 A:58.8.166.143 X: TicketID:185524 ]

ความคิดเห็นที่ 47 จริงด้วยค่ะ คุณคนกรุงเทพฯ ไปนอนดีกว่าเรา จากคุณ : มด2002 - [ 26 พ.ค. 52 23:05:27 ]

ความคิดเห็นที่ 48 คนกรุงเทพฯ คะใจเย็นๆ น่า เราก็ควรดีใจกับ จขกท ด้วยที่แฟนคุณยอมทุกอย่างนั่นก็แสดงว่าเขาก็รักคุณจริงแล้วคะ ถ้าคุณมาอยู่ที่นี่คุณจะรู้ว่าทุกอย่างมันต้องช่วยกันทำช่วยกันเก็บ ที่พูดอยากให้แฟนคุณเก็บเงินไว้สร้างครอบครัวของตัวเองดีกว่าที่จะมาให้กับค่าสินสอด หลังจากแต่งงานแล้วคุณต้องใช้เงินอีกเยอะเพื่อสร้างครอบครัว นึกถึงเพื่อนเรา คุณเธออยู่เมืองไทยเป็นไฮซ้อ อยู่ที่นี่อย่างกับคุณแจ๋ว ทำทุกอย่างงานบ้าน งานนอก เลี้ยงลูก (บางทีเราก็เล่นมุขตลกๆกันเลย ว่าโชคดีของมัน แต่โชคร้ายของกูเรอะเปล่าวะ) ไอเรายังแอบชื่นชมมันเลยคะ ปล ค่าสินสอด การจัดงานที่ใหญ่โต ไม่ได้การันตีว่าคุณจะได้คู่ชีวิตที่รวย หรือคนดี หรือจะอยู่กันไปจนวันตายคะ จากคุณ : CH - [ 26 พ.ค. 52 23:21:31 A:92.104.226.114 X: TicketID:174733 ]

ความคิดเห็นที่ 49 อ่านแล้วก็พลอยงงไปกับเจ้าของกระทู้ ดิฉันว่าคุณแม่คุณคงไม่ได้เป็นอะไรไปมากมายหรอกนะคะกับการที่เขยฝรั่งไม่ได้โชว์เงินกองสูงเป็นถาดๆ แบบที่ประเพณีบ้านเราทำ แล้วก็ไม่เข้าใจว่าจริงๆ แล้วคุณอยากทำความเข้าใจกับแม่คุณ หรือว่าคุณอยากจะเอาใจแม่ โดยที่คุณเห็นด้วยกับแม่หรือไม่เห็นด้วยกับแม่กันแน่ ฮิฮิ จริงๆ กระทู้นี้น่าสนใจนะ แต่ที่น่าสนใจอีกอย่าง ก็คือ ผู้ชายไทยอาจน้อยใจคิดว่าลองถ้าเป็นเขยไทยแล้วต้องให้สินสอดแน่ๆ แต่เท่าที่รู้ดิฉันว่าไม่แน่เสมอไปค่ะ มันขึ้นอยู่กับว่าเขาคนนั้นไม่ว่าฝรั่งหรือไทย แต่งงานกับผู้หญิงแบบไหน และพื่นเพของครอบครัวผู้หญิงเป็นอย่างไรมากกว่า แล้วก็ ชัดเลยว่าสังคมไทยเนี่ยยังคงรักษาหน้ากันอย่างเมามันจริงๆๆๆ จากคุณ : meejaija (MEEJAIJA) - [ 27 พ.ค. 52 01:04:58 ]

ความคิดเห็นที่ 50 อ้าว ไปหมดแล้วหรอไม่รอเลย ดีใจกะ จขกท นะคะ ที่ผ่านไปทุกอย่าง แต่กรณี ของคุณ บี นี่ ดิชั้นว่า คุณ บี ตีค่าตัวเองต่ำไปค่ะ ดูแล้วคุณ บี คงจะรักเขามากนะคะ และคิดว่าถ้าไปอยู่กับเขาคุณ คงจะมีชีวิตที่ดีกว่าเมืองไทย ใช่ไหมคะ ถึงได้ยอมขนาดนั้น เหรียญ มี ๒ ด้านเสมอค่ะ แล้วสมมุติว่าถ้าเขาอยากเลิกกะคุณในอีก 10 ปี ข้างหน้า คุณแก่เหี่ยวแล้ว แต่เขายังฟ้ออยู่เลย แล้วโอกาส ที่คุณเสียไปใน10 ปีที่ผ่านมาล่ะคะจะทำอย่างไร สมมุติถ้าเขาคิดได้เขาจะต้องให้โอกาสเราบ้าง นึกถึงเราบ้าง ดิชั้นคิดว่า สามีคุณ โชคดีจังค่ะ ที่ได้คุณเป็นภรรยา แต่ดูจะเป็นการที่เห็นแก่ตัวมากๆๆ เลย เราต้องคิดว่า เขารักเรา เรารักเขา แต่ถ้าไม่มีกิน ก็เดือดร้อนนะคะ ยามรักน้ำต้มผักก็หวานละค่ะ พอนานๆๆ น้ำตาล มันก็ขมได้ คุณบีมีล่ามเสร็จเลย ตอนหย่าจะอ้างไม่รู้ไม่ได้แล้ว เฮ้อ สาวไทย หัวใจสิงห์เสียจริง อนาคต คือสิ่งที่มาไม่ถึงค่ะ อย่าได้ชื่อว่า อยู่เมืองไทยก็โดนชายไทยหลอก อยู่เมืองนอก ก็โดน บักสีดาหลอก เลยนะคะ น่าจะรักตัวเองมากกว่าเขาหน่อยนะคะ เพราะเราคงไม่ทิ้งเขาก่อน แต่เขาอาจจะไม่แน่ ขอให้คุณพระคุ้มครองคุณ บีนะคะ อยู่กันจนถือไม้เท้ายอดทองกระบองยอดเพรชนะคะ เอาใจช่วย ง จากคุณ : สาวชัยภูมิ - [ 27 พ.ค. 52 01:46:34 A:82.32.96.108 X: TicketID:217520 ]

ความคิดเห็นที่ 51 สงสารแฟนคุณจัง ที่มาเจอกะพ่อแม่ฝายหญิงแบบนี้อย่าว่าแต่ฝรั่งที่ไม่ยอมเลยค่ะ คนไทยด้วยกันกะขอบายเหมือนกันแบบนี้ จะเอาอย่างเดียวเลย แบบว่าโกยไว้ก่อน เชื่อว่าแฟนคุณก็ฝรั่งธรรมดานี่แหละ เพราะเท่าที่เราอยู่มานะคนเมืองฝรั่งส่วนใหญ่ฐานะธรรมดา คือฐานะปานกลางนี่แหละ หลังจากแต่งแล้วเราเชื่อว่าแฟนคุณมีปัญหากะเรื่องเงินๆทองๆในการส่งเสียเลี้ยงดูพ่อแม่คุณแน่นอน ฟันธง จะเอาเงินเท่านั้นเท่านี้ต่อเดือน ไม่งั้นจะไม่มีหน้ามีตาเหมือนคนอื่นในสังคม จะได้คุยได้ อวดชาวบ้านเขาได้ กำของแฟนคุณจริงๆ จากคุณ : ดอกไม้ - [ 27 พ.ค. 52 05:14:12 A:68.145.175.147 X: TicketID:198978 ]

ความคิดเห็นที่ 52 มาช้าไปรึเปล่าหว่า เรากำลังจะแต่งงานกับแฟนคนเยอรมันอีกประมาณสองอาทิตย์  สินสอดไม่มี พิธีไม่จัดค่ะ  วันแต่งงานที่ Standesamt ตกลงกันว่าจะไปกันสองคน  ตอนนี้นัดวันได้เรียบร้อยแล้วแต่ไม่ได้บอกใครที่นี่ พ่อแม่พี่น้องแฟนและเพื่อนสนิทเค้าก็ยังไม่มีใครรู้เลย  เรากะว่าจะบอกคนอื่นทีหลังค่ะ จะได้ไม่ต้องจัดอะไรเอิกเกริก  ง่ายดีไปจดทะเบียนกันสองคน ไม่ต้องหาชุดเจ้าสาวเจ้าบ่าวใส่  ไม่มีแลกแหวนแต่งงานเพราะเราไม่ชอบใส่เครื่องประดับ  ส่วนพ่อแม่เราเข้าใจเรื่องสินสอดเป็นอย่างดีและไม่เรียกร้องอะไรจากฝ่ายชาย เราคิดว่าหากเราแต่งงานกับชายไทย ก็คงไม่มีสินสอดและไม่มีพิธีอะไรเหมือนกัน  เพราะพ่อแม่บอกว่าการแต่งงานเป็นเรื่องของเรา ขอแค่ผู้ชายเป็นคนดีและไม่ทอดทิ้งเรายามตกยาก และจดทะเบียนให้เรียบร้อยก็พอ  ท่านยังสั่งสอนให้เราช่วยสามีทำมาหากิน ไม่งอมืองอเท้าให้สามีเลี้ยง  เรื่องสินสอดเจ็ดหลักเนี่ย หากไม่คืนให้แฟนคุณหลังแต่งงาน เราว่าเป็นการขายลูกสาวกินนะคะ   และถ้าคุณจะให้แฟนทำตามประเพณีไทยคือมีสินสอด คุณก็ควรยอมรับประเพณีของคนเยอรมันด้วยเช่นกัน  ตามธรรมเนียมเยอรมัน หากมีการจัดพิธีแต่งงาน ครอบครัวฝ่ายเจ้าสาวจะเป็นฝ่ายออกค่าใช้จ่ายค่ะ  เราว่ามันไม่ยุติธรรมนะที่ฝ่ายคุณจะเรียกร้องปาว ๆ จากผู้ชายว่าต้องทำตามธรรมเนียมไทยอย่างโน้นอย่างนี้ แต่ฝ่ายคุณไม่คิดจะศึกษาธรรมเนียมปฏิบัติของชาวเยอรมัน จากคุณ : Sonnenschein - [ 27 พ.ค. 52 06:07:29 ]

ความคิดเห็นที่ 53 เข้ามาอ่านเฉยๆค่ะ เพราะคงให้ความคิดเห็นอะไรไม่ได้ เนื่องจากคุณจขกท มีคำตอบให้กับตัวเองแล้ว แต่เลขเจ็ดหลักนี่มากมายจริงๆเนอะ แฟนเราเป็นคนจนค่ะ จนเงินทอง แต่ไม่จนความรัก น้ำใจ และความเอาใจใส่แม้ในยามที่เราไม่สบาย ทั้งๆ ที่เรายังไม่ได้แต่งงานกัน ดิฉันจะบอกคุณว่า เรื่องหน้าตา ความมีหน้ามีตาทางสังคมไม่ได้ช่วยให้ชีวิตคู่ของคุณยั่งยืนหรอกค่ะ ความมีน้ำใจ ความรัก ความเอาใจใส่ที่เค้าจะให้คุณและคุณมีให้เค้าหลังแต่งงานเท่านั้น ที่จะพาชีวิตคู่ของคุณไปตลอดรอดฝั่ง และไม่ว่าจะเป็นคนไทยด้วยกัน หรือคนต่างชาติ จากคุณ : pink daffodil - [ 27 พ.ค. 52 06:51:32 ]

ความคิดเห็นที่ 54 7 หลัก !!!!   สามีไม่จ่ายซักบาท พิธีแต่งงานก็ไม่มี แต่ทำไม ชีวิตแต่งงาน (ของดิฉัน) โดยปราศจากสินสอดนี่  มันมีความสุขจังก็ไม่รู้แฮะ เมื่อดิฉันได้ใจเขา  อย่างอื่นมันตามมาเองโดยไม่ต้องขอ แก้ไขเมื่อ 27 พ.ค. 52 12:47:10 จากคุณ : โจ๊กหมูไม่เอาชูรส - [ 27 พ.ค. 52 12:35:12 ]

ความคิดเห็นที่ 55 โชคดีค่ะ ที่เราไม่ต้องโชว์สินสอดมากถึงขนาด จขกท ของเราแค่เอาเป็นพิธีแล้วครอบครัวก็คืนให้ค่ะ แถมยังให้เงินเพิ่มเป็นของขวัญแต่งงานอีก ขอบอกว่าไม่ใช่เฉพาะฝรั่งค่ะ พี่น้องแต่งกะชายไทยก็ทำแบบเดียวกันค่ะ แถวบ้านมักยึดประเพณีคืนสินสอดให้เป็นของขวัญแต่งงานค่ะ ไม่เกี่ยงทั้งชายฝรั่งและชายไทย จากคุณ : poohgun - [ 28 พ.ค. 52 16:56:22 ]

ความคิดเห็นที่ 56 เราออกจะเห็นด้วยกะความคิดของผู้ชายต่างชาตินะคะ ที่เค้ามองการแต่งงานที่จะต้องขนเงินเป็นกองๆ ทองหลายๆบาท มาจัดงานแต่งเนี่ย เป็นการโชว์ออฟ โชว์พาว ไม่ได้ช่วยให้ชีวิตแต่งงานยืดยาวขึ้นเลย ไม่แปลกใจเท่าไหร่ที่เค้าจะไม่เข้าใจ ว่าทำไมต้องทำอย่างนั้น เคยคุยกับคุณแฟนค่ะ เราเองอยากให้มีคนสนิทๆ และครอบครัว มานั่งกินข้าวด้วยกัน ปาร์ตี้เล็กๆ สองครอบครัว อาหารอร่อยๆ ร้านอาหาร ริมทะเล หรือบนเกาะ อากาศดีดี แค่นั้นเอง แค่การประกาศอย่างเป็นทางการ ว่าคนสองคนจะเริ่มต้นการใช้ชีวิตคู่ จากคุณ : ~คุณมู๋ตุ๋น - [ 29 พ.ค. 52 07:26:11 ]