ความคิดเห็นที่ 1 มีผู้หญิงไทยหลายคนค่ะที่ไม่เคยขอเงินผู้ชาย (หรือ ณ ที่นี้ฝรั่ง) ใช้ ... ตอนดิฉันทำงานหาเงินเองอยู่เมืองไทยก็ไม่เคยขอ ไม่เคยเล่าว่าตัวเองมีอะไร มีเงินเดือนเท่าไหร่ แต่ว่าที่สามีตอนนั้นเขาสนใจชีวิตฉันมาก เขาสอดรู้สอดเห็นมาก ว่าดิฉันจะกินจะอยู่อย่างไร มีบ้านมีรถต้องผ่อนเดือนเท่าไหร่ ... คืออยากรู้สารทุกข์สุกดิบเกี่ยวกับเราไปซะทุกเรื่อง ดังนั้นการที่เขาอยากรู้อยากเห็นชีวิตเรา ดิฉันถือว่าเขาสนใจในตัวเรา เมื่อเขาสนใจในตัวเรามากขึ้นๆ จนถึงท้ายสุดเขาก็อยากจะรับผิดชอบชีวิตเรา เรื่องเงินๆทองเลยเข้ามาเกี่ยวข้องทีหลังเมื่อคน 2 คนพร้อมแล้วที่มีคอมมิทเม้นท์ต่อกัน ดิฉันเชื่อว่าผู้หญิงไทยหลายๆคนที่มีศักดิ์ศรีในตัวเอง มีงานการทำเป็นหลักแหล่ง มีชีวิตที่สมบูรณ์พูนสุขไม่เดือนร้อนอะไรอยู่เป็นทุนเดิมแล้ว ย่อมไม่เคยขอเงินแฟน/สามีใช้ แต่การคบหาดูใจกันเฉยๆนั้นสำหรับฝรั่งถือว่ายังไม่ใช่การผูกมัด แม้ว่าเขาจะชื่นชมโสมนัสว่าเราเก่ง เลิศ ประเสิรฐศรีแค่ไหน มันก็เป็นแค่ความภูมิใจของเขา แต่มันก็ยังไม่มีอะไรที่เขาจะต้องเข้ามารับผิดชอบชีวิตคุณ แฟนคุณเขาเคยถามอะไรเกี่ยวกับชีวิตการทำงาน/การเงินของคุณบ้างหรือเปล่าละคะ ? เขาเคยพูดถึงเรื่องการแต่งงาน/การอยู่ร่วมกันในอนาคตข้างหน้าบ้างหรือเปล่า ? หรือว่าคบหากันมา 2 ปี ก็ยังคงความรู้สึกแค่เพื่อนไปมาหาสู่กัน ไม่มีการวางแผนอนาคตร่วมกันมาก่อนเลย ... เพราะหากเป็นอย่างหลังดิฉันเข้าใจดีว่ามันก็น่าอายที่จะไปขอเงินเขาเฉยๆ ... แต่หากจะขอยืมกันก่อนก็คงจะดูดีกว่า เพราะหากเขารักคุณจริงๆอยากร่วมชีวิตกับคุณ อยากแต่งงานกับคุณให้เป็นเรื่องเป็นราวไป เมื่อเขารู้ว่าคุณกำลังไม่สบายและตกที่นั่งลำบากเขาย่อมต้องการช่วยเหลือคุณอยู่แล้ว และอาจจะยกเงินจำนวนนี้ให้ในภายหลังโดยไม่ต้องคืนเขา ... มีฝรั่งหัวหมอมากมายที่คบหาผู้หญิงไทยเก่งๆไว้เป็นเครื่องประดับ เพราะเขาไม่จำเป็นต้องมารับผิดชอบชีวิตของผู้หญิงที่เขาสนใจอย่างเต็มที่ คบๆกันไปเพราะว่าต่างคนต่างมี ต่างคนต่างไม่เคยเรียกร้องอะไรจากกัน ... แต่ลองคนใดคนหนึ่งได้เอ่ยปากขออะไรสักอย่างที่เขาให้ไม่ได้ หรือ ยังไม่พร้อมที่จะให้สิ่ ตอนนั้นแหละเราถึงจะรู้ว่าเวลาที่เสียไปคบหากันนั้น มันก็แค่ช่วงเวลาของ Play time เท่านั้นเอง คุณลองถามตัวเองดูดีๆ ว่าที่ผ่านมานั้น .. คุณและเขาคบกันแบบไหนกันแน่ จากคุณ : กุศโลบายจากความจริง เขียนเมื่อ : 3 มี.ค. 53 20:06:45

ความคิดเห็นที่ 2 เป็นเรา นี่คือโอกาสที่เราจะเทสต์เค้าค่ะว่า จริงใจ หรือไก่กา ก่อนที่จะตกสินใจอะไรลึกซึ้งไปมากกว่านี้ จากคุณ : เพนนี (MiniPenzman) เขียนเมื่อ : 4 มี.ค. 53 00:20:17

ความคิดเห็นที่ 3 คนที่คบหาเพื่อดูใจกัน ยังไม่ถึงขั้นผูกมัดเป็น นาย และ นาง (แต่งงานกัน) ยังถือว่าเป็นแค่เพื่อนสนิท เพื่อนใจ ฯลฯ ถามใจคุณเองก่อนว่า คุณเคยหยิบยืม หรือ ขอเงิน เพื่อนสนิทหรือเปล่า ถ้าเคย ... ก็คงทำได้ไม่ยาก แต่ถ้าไม่เคย ... ก็คงทำยาก (เพราะบางคนก็รักศักดิ์ศรีมาก เกินกว่าจะไปออกปากกับใครในเรื่องพวกนี้ ยอมเสียดอกเบี้ยกับธนาคนหรือ บุคคลอื่น ดีกว่าเป็นบุญคุณกับญาติ หรือเพื่อน ที่เราอาจจะไม่มีวันชดใช้ได้หมด ถึงแม้เงินต้น หรือรวมดอกเบี้ยนั้นได้ใช้คืนไปแล้ว) โดยปรกติคนทั่วไป จะหยิบยืมเงินทอง จากคนในครอบครัวเดียวก่อน เช่น พ่อ แม่ พี่น้อง แล้วค่อยไปถึง ญาติ เพื่อนสนิท คือจากวงกลมชั้นในสุด แล้วค่อยออกไปถึงรอบนอกสุด ส่วนแฟน(ฝรั่ง) คงไม่ได้ขึ้นอยู่ที่จำนวนปีที่คบ หรือจำนวนเงินที่เขามี หรืออายุของเขา แต่อยู่ที่ว่าแฟนฝรั่งคนนั้น คุณและเขาคบกันอยู่ในสถานะใดแล้ว การคบหานั้นสนิทชิดเชื้อ เข้าไปถึงวงชั้นในระดับเครือญาติหรือยัง หรือแค่วงห่าง ๆ ลองคิดดูให้ถี่ถ้วน แล้วคุณจะได้คำตอบเองค่ะ จากคุณ : บีพี เขียนเมื่อ : 4 มี.ค. 53 01:47:09

ความคิดเห็นที่ 4 ส่วนตัวนะ...ที่นอกเหนือไปจากสถานภาพของเขาและเรา 1) คือ จขกท กะ'ขอ'หรือ'ขอยืม' ต่างกันมากนา หากตั้งใจ'ขอยืม' ว่าไม่เห็นแปลก เพียงแต่ตั้งใจใช้คืนจริงๆละกัน 2) *จำเป็น*แค่ไหน ศักดิ์ศรีนี่ว่าส่วนหนึ่งมันเป็นทฤษฎีน่ะ ชีวิตคนเรายามตกอับ เห็นอะไรที่พอเป็นทางออกได้ คว้าไว้ก่อนแหละ จุดต่างมันอยู่ที่ว่า พอเลิกตกอับ ก็ระลึกถึงคนที่เคยช่วยเหลือเราและทำดีตอบ ส่วนตัวแนะนำให้ลองขอ (ก็มีความจำเป็นมากไม่ใช่หรือ) ได้ไม่ได้อีกเรื่องนึง ถ้าไม่ได้ ก็move on หาทางอื่นกันต่อไป มองซะว่า"ฝรั่ง"คนนี้เป็นเพียงทางออกหนึ่งเท่านั้น ซึ่งอาจworkหรือไม่work มองให้กว้างๆ หาแหล่งเงินที่อื่นด้วย มองซะอย่างนี้ น่าจะช่วยให้การ(ลองขอ)ยืมคนเพียงคนเดียว ไม่หนักหนาจนเกินไป จากคุณ : Overseas เขียนเมื่อ : 4 มี.ค. 53 04:01:17

ความคิดเห็นที่ 5 ลองตัดคำว่า ฝรั่ง ออกไป เหลือเพียงแต่เพื่อนสนิท แล้วคุณจะกล้าเอ่ยปาก"ขอ" ไหม จากคุณ : larata เขียนเมื่อ : 4 มี.ค. 53 05:10:55

ความคิดเห็นที่ 6 ถ้าคบกันเป็นเพื่อนหรือแค่แฟน ซึ่งยังไม่แต่งงาน ดิฉันคงไม่กล้าเอ่ยปาก เป็นคนขี้อายค่ะ ไม่เคยขอ หรือ ขอยืมเงินใครเลย คิดว่าคุณคงจะมีปัญหา ถ้าจะลองเอ่ยปากกับเค้าดูก็ไม่เสียหายค่ะ บางทีเค้าอาจจะรอให้คุณพูดก็ได้นะคะ คือหยั่งเชิงขอยืมไปก่อน ดูซิเค้าจะว่าอย่างไร เราไม่ได้ที่จะไปปอกลอก หรือเห็นแก่เงิน แต่เราเห็นเค้าเป็นแฟน เป็นคนรัก และกล้าที่จะเอ่ยปาก เพราะเรากำลังมีปัญหา (คุณเคยพูดเรื่องปัญหาให้เค้าฟังหรือเปล่า อันนี้สำคัญ) มันไม่แน่หรอกค่ะ เค้าอาจจะให้เรามาเฉยๆก็ได้ ถ้าไม่ให้ ก็ค่อยหาทางแก้ไขไปเรื่อยๆ หาทางอื่นค่ะ เข้ามาถามอีก ว่าเค้าเคยอยากรู้เรื่องส่วนตัวของคุณบ้างหรือเปล่า เค้าเคยใส่ใจเป็นห่วงเป็นใยคุณบ้างมั๊ย ในขณะคบกัน ถ้าเค้ารักและจริงใจกับคุณ เค้าควรจะอยากรู้อยากเห็นทุกๆเรื่องที่เกี่ยวของกับคุณ ถ้าคุณมีปัญหาลำบาก คุยกับเค้า เค้าก็คงจะต้องเป็นห่วง และคงจะช่วยคุณหาทางออก คือคุณสองคนคบกันมันลึ้กซึ้งแค่ไหนคะ ถึงขั้นจะแต่งงานอยู่ร่วมหัวจมท้ายด้วยกันหรือเปล่า แก้ไขเมื่อ 04 มี.ค. 53 05:55:53 จากคุณ : PoomPim..TMB เขียนเมื่อ : 4 มี.ค. 53 05:47:28

ความคิดเห็นที่ 7 คนเรารักกันต้ิองเข้าใจกัน เรามีปัญหาก็ช่วยกันแก้ จะลงเรือลำเดียวกันแล้ว จากคุณ : pim aloha เขียนเมื่อ : 4 มี.ค. 53 06:07:02

ความคิดเห็นที่ 8 คนรักกันลำบาก มีเหรอจะอีกคนจะไม่อยากช่วย ขอ "ยืม" สิคะ จากคุณ : ยุ้ยหัดเขียน เขียนเมื่อ : 4 มี.ค. 53 09:08:49

ความคิดเห็นที่ 9 คบหาดูใจกันมากว่า 2 ปี นี่ก็เสียเวลาเยอะแล้วนะคะ ตอนนี้คุณลำบากก็ลองปรึกษาเขาดูก่อนซิคะ ถ้า"ยืม" ก็ไม่ได้  คุยเรื่องเงินแล้วลาจาก ก็ถึงเวลาที่คุณน่าจะหาคนใหม่ได้แล้วค่ะ คนถ้าจะรักกันจริงจังล่ะก็ เขาต้องยินดีช่วยเหลืออยู่แล้ว . จากคุณ : น้านก (Aunti-นก) เขียนเมื่อ : 4 มี.ค. 53 16:06:10

ความคิดเห็นที่ 10   ขอขอบคุณจากใจจริง สำหรับทุกๆคำแนะนำค่ะ จากคุณ : คิดหนัก เขียนเมื่อ : 4 มี.ค. 53 16:52:27 A:115.87.78.177 X: TicketID:255745

ความคิดเห็นที่ 11   เราเป็นฝ่ายขอเวลาเค้าเองค่ะ เรายังไม่พร้อมสำหรับการแต่งงาน 2ปี ที่ใช้เวลาเรียนรู้และศึกษากัน เค้าจัดว่า...เป็นผู้ชายที่ดีคนหนึ่ง แต่ตัวเราเองที่เกิดความลังเล เพราะมีครอบครัวและลูกที่ต้องดูแล เรากลัวความเปลี่ยนแปลงของชีวิต บอกตามตรงเราไม่อยากไปอยู่ต่างประเทศ เพราะเราได้มารับรู้และสัมผัสว่า " ความเหงา " ของคนที่อยู่ห่าง... ไกลบ้าน มันเหงา และว้าเหว่ ...ขนาดไหน อีกทั้งหน้าที่การงาน เราก็ไม่รู้จะเริ่มตรงไหน อายุก็มากแล้ว จะไปทำงานอะไรได้ รักก็รักนะ... ไม่เคยคิดหลอกลวงเค้าเลย แต่ความรักของเรา ตั้งอยู่บนพื้นฐานของความเป็นจริง ในเวลาที่ชีวิตเรา ไม่เหลืออะไร คนที่อยู่เคียงข้างเรา...คือ ครอบครัว นี่คงเป็นโอกาสที่เราจะได้รู้ว่า เค้าพร้อมมั้ย ที่จะอยู่เคียงข้างเรา จากคุณ : คิดหนัก เขียนเมื่อ : 4 มี.ค. 53 18:28:30 A:115.87.78.177 X: TicketID:255745

ความคิดเห็นที่ 12   ขอขอบคุณอีกครั้งสำหรับข้อคิดดีๆ ที่เพื่อนๆชาว " ไกลบ้าน " ได้กรุณาให้คำแนะนำ อย่างน้อยเราก็ยังรู้สึกว่า... มิตรภาพบนโลกอินเตอร์เนต มีความสวยงาม... และเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา... ไม่ว่าจะอยู่ห่างไกลกัน.. สักเพียงไหน นี่คือ น้ำใจ... ที่คนไทยมีให้กันเสมอ จากคุณ : คิดหนัก เขียนเมื่อ : 4 มี.ค. 53 18:46:51 A:115.87.78.177 X: TicketID:255745

ความคิดเห็นที่ 13 ...ผ่านมาเจอค่ะ แฟนรู้เห็นทุกอย่างนี่คะว่าที่ผ่านมาคุณไม่ได้งอมืองอเท้า หากินด้วยตัวเองได้  จริงไหม? ตอนนี้คุณมีปัญหาเรื่อการเงิน แต่ก็ไม่กล้าเอ่ยปากยืม งั้น..คุณก็ใช้วิธีเล่า "ปัญหา" ที่เกิดขึ้นกับคุณตอนนี้ให้เขาฟังสิคะ ดูสิว่าเขาจะบอกว่ายังไง ถ้าเขาออกความเห็นแบบเห็นอกเห็นใจ แต่ยังไม่เอ่ยปากให้ยืมเงิน คุณก็ต้องรวบรวมความกล้าหาจังหวะพูดตอนนี้ค่ะ ที่บอกแบบนี้เพราะว่าบางคนนี่ "ปากไม่ไว"  คือในใจน่ะคิดสงสารเห็นใจ  แต่ไม่รู้ว่าจะช่วยยังไง  ก็ได้แต่พูดปลอบไปโดยไม่เสนอตัว เพราะคิดว่า ถ้าให้ยืมนี่จะเป็นการ "ดูถูก" หรือเปล่า ..คนแบบนี้มีจริง ๆ ค่ะ ด้วยเหตุนี้..หากรอให้คนอื่นมานั่งเดาใจเรา ยอ่มเป็นไปไม่ได้นะ คุณต้องเป็นฝ่ายเอ่ยปากให้เขารู้ค่ะว่า "คุณต้องการอะไร" ..ลุยค่ะ จากคุณ : NATTI นัทตี้ เขียนเมื่อ : 5 มี.ค. 53 08:26:49