ความคิดเห็นที่ 1 ที่เมืองนี้ไม่ค่อยมีเยอะน่ะค่ะ อาจจะเป็นเพราะเป็นเมืองที่ค่อนข้างมีการผสมระหว่างเชื้อชาติพอสมควร แต่จะว่าไม่เคยเจอเลยก็ไม่ใช่ ก็เคยเจอบ้างในห้องเรียน แต่ดิฉันใช้วิธีเป็นตัวของตัวเอง ยอมรับตัวเอง อาศัยว่าใจแกร่งแล้วน่ะ ความเป็นตัวตนของเรานี่แหละจะทำให้เค้ายอมรับเราไปในตัวเอง จากคุณ : JC2002 เขียนเมื่อ : 22 ก.ย. 53 00:48:21

ความคิดเห็นที่ 2 เราอยู่ไอร์แลนด์มานานหลายปีแล้ว  ไม่เคยเจอการดูถูก หรือ เหยียดผิวจากคนที่นี่เลย  อาจจะเป็นเพราะ  คนไอริชเอง ชื่นชมคนเอเซีย  ตามสถานที่ทำงานต่างๆ  ถ้าคนเอเซียไปสมัครงาน เค้านิยมให้งานคนเอเซียก่อนคนโปแลนด์   เค้าบอกว่าคนเอเซียตั้งใจทำงานกว่าคนยุโรปตะวันออก   ส่วนตามท้องถนน ไม่เคยเจอเลยนะ   แต่เมืองที่เราอยู่คนจีนกับคนไทย คนมาเลย์เยอะมาก   แต่แยกไม่ค่อยออก  ถ้ามองผิวเผินนึกว่ามาจากชาติเดียวกัน แต่โดยพื้นฐานคนไอริช จะมีนิสัยคล้ายคนไทย คือเป็นมิตร ยิ้มแย้มแจ่มใส  ให้การยอมรับนักท่องเที่ยว ที่เข้ามาเที่ยวในไอร์แลนด์ จากคุณ : คุณนายก้อ เขียนเมื่อ : 22 ก.ย. 53 03:13:26

ความคิดเห็นที่ 3 ไม่เคยเจอเลยค่ะ   อยากเจอเหมือนกันจะได้ฟ้องให้รวยไปเลย.. จากคุณ : ป้าฟู เขียนเมื่อ : 22 ก.ย. 53 03:34:15

ความคิดเห็นที่ 4   ส่วนตัว เราอยู่เยอรมัน ตอนแรกก็กลัวเรื่องนี้เหมือนกันแต่ไม่เจอเลย คือจะบอกตัวเองเสมอว่า ถ้าเฟรนด์ลี่จะไร้ปัญหา แล้วก็จะไม่มีปัญหาจริงๆ ยกเว้นบางโซนในเยอรมันก็ยอมรับว่าของเขามีจริง คนเอเชียเจอกันจริงๆ และมีมาเล่าให้ฟังเยอะ คนไทยน่ารัก อยู่ในมหาลัยฯก็พูดภาษาไทยเหมือนคนร้องเพลง น่าเอ็นดู อันนี้ัเพื่อนรัซเซียบอกมา จากคุณ : Kaetzchen เขียนเมื่อ : 22 ก.ย. 53 04:13:02

ความคิดเห็นที่ 5 เห็นหัวกระทู้นึกว่าท่านไปโดนใครเหยียดมา :P โดนคนทักว่า หนีห่าว นี่ถือว่าโดนเหยียดเปล่า ถ้าไม่นับก็ไม่เคยเจอนะ จากคุณ : Roby เขียนเมื่อ : 22 ก.ย. 53 04:43:41

ความคิดเห็นที่ 6 ส่วนใหญ่ที่ได้ยินจะเป็นโดนคนไทยด้วยกันเองเนี่ยแหละครับ แต่ผมเองไม่เคยเจอครับ จากคุณ : Giuseppe เขียนเมื่อ : 22 ก.ย. 53 05:58:25

ความคิดเห็นที่ 7 ไม่เคยโดนนะคะ มีแต่คนไทยนี่แหละที่เจอมากระแหนะกระแหน แบบทั้งๆ ที่ไม่รู้จัก แต่สามารถเอาเราไปนินทาได้ เลิศมากก จากคุณ : Scooterella เขียนเมื่อ : 22 ก.ย. 53 06:27:58

ความคิดเห็นที่ 8   เจอที่ออสเตรเลียมากกว่าอเมริกา ที่อเมริกา ถ้านั้งรถเมล์ จะไม่มีฝรั้งมานั้งข้างหรือคู่กับเรา เท่านั้นเอง ที่ออสเตรเลีย ประปราย ตะโกนด่า ทำท่าจะขับรถชน กดแตรไล่ อย่างอื่นไม่มี เกิดนอกมหาวิทยาลัยทั้งหมดนะ ดีครับ ทำให้ผมขยันเรียน และได้กลับไทยเร็วขึ้น แก้ไขเมื่อ 22 ก.ย. 53 07:21:08 จากคุณ : newcomer (gpvtu2009) เขียนเมื่อ : 22 ก.ย. 53 07:06:42

ความคิดเห็นที่ 9 ผมอยู่ออสเตรเลียมา 8 ปี ผมเคยเจอเหตุการที่เรียกว่าเหยียดจริงๆ อยู่สามครั้ง ส่วนที่พวกตะโกนใส่ ปานั่นนี่ใส่ ผมไม่เรียกว่าเหยียด เพราะพวกนี้มันไม่เลือกหรอกว่าเป็นใคร ถ้าเดินอยู่ข้างทางในที่ๆ มันแกล้งได้ มันแกล้งหมดแหละ ทั้งฝรั่งออสซี่เองก็โดน ที่โดนเหยียดนั้น ครั้งที่ 1 - คนขับรถเมล์แกล้งทำเป็นฟังพวกเด็กนักเรียนต่างชาติพูดปลายทางไม่รู้เรื่องแล้วก็ทำหน้าหงุดหงิดใส่ แรกๆ ก็นึกว่าไม่ออกจริง แต่ผ่านไปสามคนสี่คน ก็ยังเป็นอยู่อีกทั้งๆ ที่มันไปที่เดียวกัน ผมก็เลยรู้แล้วว่าไอ้นี่ต้องมีซัมติงรอง พอถึงคิวผม ผมบอกว่าไปไชน่าทาวน์ คนขับก็แบบ ว้อทๆๆๆๆ ผมก็เลยปั้นหน้าเข้มๆ แล้วก็พูดเสียงดังๆ ให้ได้ยินกันทั้งคันรถว่า "I am going to China Town, the place where your route ends. And how many China Towns do you have in this TINY city? You are just being racist. Don't you know it is very much against the Law? I will report it to Brisbane Transport and we will see how it goes!" คนขับรถหน้าเสียแล้วก็รีบขอโทษบอกว่าไม่ได้ racist แค่ฟังไม่ออกจริงๆ ผมก็เลยบอกว่า "I don't believe you, but it's alright this time. At least you say sorry" พูดจบพวกเด็กๆ ญี่ปุ่นที่โดนแกล้งและเพื่อนๆ กับพวกคนออสซี่อื่นๆ ที่เห็นเหตุการณ์ พากันตบมือเกรียวกราวประหนึ่งพึ่งเสร็จสิ้นการฟังสุนทรพจน์ก็ไม่ปาน อิอิ จากคุณ : ดอส เขียนเมื่อ : 22 ก.ย. 53 08:37:12

ความคิดเห็นที่ 10 ครั้งที่สอง มีตาลุงคนนึงนั่งอยู่บนรถเมล์แล้วพอรถวิ่งผ่านหน้าโรงเรียนภาษาก็หยุด แล้วเด็กเอเชียก็กรูกันขึ้นมามากมาย ตาลุงก็ทำหน้าโกรธเกรี้ยวเป็นอย่างยิ่ง แล้วก็ตะโกนด่าว่า "Bloody Asian! Bloody Japanese. Go away. Go back to your country! You're not welcome!" คนขับมัวแต่ขายตั๋วเลยไม่ได้ยิน แต่พวกที่เดินขึ้นมาแล้วก็พากันช็อคเพราะส่วนใหญ่เป็นเด็กใหม่ ผมก็เลยหันไปแล้วก็ยิ้มให้ลุงแล้วก็พูดว่า "You may not like us, sir. But I'm so sorry you will have to see us more and more every day because we are taking over your country! If you don't like us you move away from Australia!" พวกเด็กนั้นก็พากันหัวเราะ ส่วนลุงก็โกรธหัวเสียมาก แต่ทำอะไรไม่ได้ เพราะพวกผมอยู่กันหลายคน อิอิ จากคุณ : ดอส เขียนเมื่อ : 22 ก.ย. 53 08:41:42

ความคิดเห็นที่ 11 ส่วนอีกครั้งนึง อันนี้ผมก็มีส่วนผิดอยู่เหมือนกัน เพราะผมคุยโทรศัพท์ในรถเมล์ แต่มันก็เป็นเรื่องธรรมดาที่คนทำกันทั่วไปที่นี่ ซึ่งถ้าจะบอกว่ามันรบกวน มันก็ไม่ได้ต่างอะไรกับคนนั่งคุยกันบนรถ ถ้าอนุญาตให้คุยกันบนรถได้ คุยโทรศัพท์ก็ไม่ต่างกัน แถมลดเสียงรบกวนไปครึ่งนึงเสียอีกเพราะคนอื่นจะถูกรบกวนจากการพูดเพียงคนเดียว อันที่จริงรถเที่ยวนั้น มีเด็กๆ มัธยมอยู่หลายคนส่งเสียงเจี๊ยวจ๊าวอยู่ข้างหลัง ถ้าใครเคยนั่งรถพร้อมเด็กๆ จะรู้ว่ามันโกลาหลแค่ไหน ผมก็ไม่ใช่คนคุยโทรศัพท์เสียงดังอะไร โดยเฉพาะถ้าอยู่ในที่สาธารณะเพราะไม่ได้ต้องการให้คนไทยด้วยกันแอบฟัง อิอิ ในรถตอนนั้นนอกจากเด็กเสียงดังแล้วก็ยังมีคนคุยโทรศัพท์อีกห้าหกคนซึ่งเป็นฝรั่งทั้งหมด คุยไปเรื่อยๆ แล้วตาลุงแก่คนนึงก็ลุกขึ้นมาชี้หน้าด่าผม บอกให้ผมหยุดคุยโทรศัพท์ "You! Stop talking on phone!" ผมก็ยังอึ้งอยู่เพราะลุงมาด่าแบบเซอร์ไพรซ์แล้วผมมัวแต่คุยกับเพื่อนเลยยังไม่สำนึกเต็มที่ว่าโดนด่า กำลังจะอ้าปากพูด ก็มีฝรั่งผู้หญิงคนนึงตะโกนตอบกลับไปว่า "Why not? He's allowed to talk on mobile phone!" ตาลุงก็ตะโกนตอบว่า "No, he's not!" ผมก็เลยพูดว่า "I can see the sign saying 'No food', 'No drink', 'No cigarett', 'No skettboard', but I can't find 'No mobile phone' sign. Show me the sign and I will stop talking, otherwise shut up and go back to your seat!" ลุงก็เลยด่างึมงำในคอ แล้วก็เดินกลับที่นั่งไป และลุงก็ไม่ได้แสดงทีท่าจะด่าคนอื่น ทั้งๆ ที่คนที่คุยกันอยู่ห่างจากลุงแค่สองเบาะแล้วก็คุยเสียงดังกว่าผมหลายเท่า ดังนั้นผมจึงสรุปว่าลุงไม่พอใจผมเพราะลุงฟังไม่ออกเลยรำคาญเลยมาด่าผม จริงๆ ผมก็คุยใกล้จบแล้วล่ะ คือถ้าลุงไม่มาด่า ผมก็คงจะวางไปแล้ว แต่พอลุงด่า ผมก็เลยอยากแกล้งลุง พอลุงกลับไปนั่งที่ ผมก็เลยย้ายที่นั่งไปนั่งใกล้ๆ ลุง แล้วก็คุยต่อให้เสียงภาษาไทยมันเสียดทะลุโสดประสาทของลุงให้ลุงขาดใจตายคารถไปเลย ฮ่าๆๆ อันนี้แอบนิสัยไม่ดีนิดนึง ไม่ควรเอาเป็นเยี่ยงอย่าง แต่ตอนนั้นยังเด็กไง ยังมีความเป็นวัยรุ่นอยู่ ก็เลยแอบ "ขิว" คนง่ายนิดนึง อิอิ แต่ถ้าเป็นตอนนี้ ก็คงจะไม่ไปด่าลุงตอบ คงจะเฉยๆ ไป แก้ไขเมื่อ 22 ก.ย. 53 08:55:25 จากคุณ : ดอส เขียนเมื่อ : 22 ก.ย. 53 08:53:33

ความคิดเห็นที่ 12 เข้ามาอ่านค่ะ ^  ^ จากคุณ : radiergummi เขียนเมื่อ : 22 ก.ย. 53 09:43:33

ความคิดเห็นที่ 13   เดาว่าคุณ newcomer (gpvtu2009) คงอยู่ซิดนีย์ เพราะเราเคยเจอพวกเหยียดผิวที่ซิดนีย์ เพื่อนเราก็เจอ ตอนยุคพอลลีน แฮนสันกำลังโด่งดัง เจอเด็กฝรั่งไล่บอกให้กลับไปบ้านเอ็งซะไป แต่เพื่อน (คนเวียตที่เกิดที่ออสฯ) สวนกลับว่า เมิงไม่ใช่เจ้าของบ้าน มีสิทธิ์อะไรมาไล่ เมิงก็พวกโจรปล้นบ้านเขาแหละ พอย้ายมาเมลเบิร์นนี่คนละเรื่องเลยนะ ผู้คนเป็นมิตรมาก ไม่ค่อยเจอพวกเหยียดเอเชียเท่าไหร่ เจอก็แต่พวกวัยรุ่นบางคนที่มองด้วยสายตาไม่ค่อยเป็นมิตร เคยได้ยินว่าพวกนี้อิจฉาพวกเอเชียน่ะ เพราะเด็กเอเชียที่มาเรียนที่ออสฯ ส่วนใหญ่จะรวย บางคนพ่อแม่มาซื้อบ้านซื้ออพาร์ทเม้นท์ให้อยู่ แต่งตัวกันดีๆ มีรถขับ ไม่ทราบนะว่าเท็จจริงยังไง แต่เราพบว่าถ้าเป็นพวกผู้ใหญ่หรือคนแก่นี่จะเป็นมิตร บางทีเดินสวนกับพวกนี้ เขาจะทักทายเราทั้งที่ไม่รู้จักกัน บางคนก็ยิ้มให้ เราไม่มีวิธีป้องกันหรือแก้ปัญหาหรอก ถ้าเจอคนนิสัยแย่ๆ แบบนั้น ได้แต่ปลงน่ะ ไปถือสาก็หนักเปล่าๆ อีกอย่าง ตอนที่เขาทำท่าดูถูกหรือเหยียดหยาม จิตใจเขาเองก็ไม่ได้เบิกบาน หรือเป็นกุศลแต่อย่างใด ตายไปตอนนั้นก็ไปอบายลูกเดียว น่าสงสารออก จากคุณ : กระปุกตังฉ่าย เขียนเมื่อ : 22 ก.ย. 53 09:44:10 A:220.237.171.180 X: TicketID:188044

ความคิดเห็นที่ 14   เรียน ความคิดเห็นที่ 13 กระปุกตังฉ่าย: ผมอยู่ UQ Brisbane ช่วง 1983-1988 ครับ ที่นี้จะน้อยกว่าที่อี่นๆนะในสมัยนั้น เพียงอยากบอกว่า สิ่งนี้มันเกิดมานานแล้ว ทั้งที่อเมริกาและออสเตรเลีย ไม่เป็นอุปสรรคสำหรับพวกเราที่มาเรียนเลย ชุดนั้นมาสิบกว่าคน จบปริญญาเอกหมดครับ แก้ไขเมื่อ 22 ก.ย. 53 10:35:58 จากคุณ : newcomer (gpvtu2009) เขียนเมื่อ : 22 ก.ย. 53 10:07:03

ความคิดเห็นที่ 15 ผมเคยเจอ แบบจะๆ ครั้งหนึ่งตอนทำงานในฟาร์ม ฟาร์มสับปะรด ก็จะมีหลายเชื้อชาติรวมกันคือ มีพวกแบคเพคเกอร์มาทำด้วย แต่ส่วนมากก็จะเป็นฝรั่งที่เป็นคนเอเชียก็มีผมกับชาวญี่ปุ่นสองคน..แล้วเจอ ฝรั่งออสซี่ที่ทำงาน ในฟาร์ม แล้วพูด แบบเหยียดๆว่าที่ประเทศตัวเองไม่มีงานทำหรือ  แถมมีการเหยียดผิว  พูดว่า  Only white  man   can  work  here !   ได้ยินแล้วฉุนเหมือนกัน.ผมเลยสวนกลับไป  I ‘m a Muay Thai boxer   in Thailand   ซึ่งจริงๆแล้วเคยต่อยเหมือนกันสมัยเป็นวัยรุ่นบ้านนอกนานแล้ว แต่ก็เสี่ยงเหมือนกันถ้ามันเกิดอยากลองดีขึ้นมา แต่ทำใจดีสู้เสือไว้ก่อน ปรากฏ มันเงียบไป.....แต่ ก็แอบๆเช็ครูปร่างแล้ว มันสูงกว่าผมเกือบ10 เซนติเมตรได้.  ความล่ำสัน.ไม่เสียเปรียบคิดว่า ถ้าโดนหาเรื่องต่อยผมก่อน..ผมเตรียมตัวสวนแล้ว  ..แต่ก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น  หลังจากนั้นฝรั่งคนนั้นช่วงหลังก็มาคุยดีด้วย.. (จริงๆแล้วผมไม่ชอบใช้กำลังนะครับถ้าไมโดนรังแกก่อน) เดี๋ยวเข้าใจผิดกันอีก จากคุณ : jayaus (jayaus) เขียนเมื่อ : 22 ก.ย. 53 12:34:34

ความคิดเห็นที่ 16 พอลลีน แฮนสัน ไม่ได้เหยียดผิวหรือเกลียดเอเชียตามที่ถูกคนเอาไปว่า ถ้าได้อ่านงานเขียนของเค้าจะพบว่า จริงๆ เค้าต่อต้านการนำเข้าประชากรจากประเทศอื่นในภาพรวม เค้ามองว่าน่าจะเอาเวลาเอางบประมาณมาพัฒนาบุคลากรในประเทศก่อนเพื่อให้คนในประเทศเข้มแข็ง แล้วค่อยนำเข้าเฉพาะส่วนที่จำเป็นจริงๆ ไม่งั้นจะกลายเป็นว่าให้คนนอกเข้ามาแต่คนในกลับแย่ลงๆ แต่ด้วยการที่ถูกโจมตีทางการเมืองทำให้โดนเอาเรื่องนี้ไปตีแผ่ขยายความทำให้คนมองว่าพอลลีนเกลียดเอเชีย ถ้าพอลลีนเกลียดเอเชียจริง คงไม่มานั่งกินข้าวร้านอาหารไทยที่ผมทำงานอยู่ตั้งหลายครั้งหรอกครับ มาแบบส่วนตัวด้วยไม่ได้มาเพราะเรื่องงานบังคับ ปัจจุบัน พอลลีนหอบข้าวของอพยพหนีไปอยู่อังกฤษแล่ว เลยโดนนักข่าวกระแนะกระแหนว่า ไหนต่อต้านการอพยพของต่างชาติ แต่ทำไมเป็นผู้อพยพซะเอง จากคุณ : ดอส เขียนเมื่อ : 22 ก.ย. 53 13:49:51

ความคิดเห็นที่ 17 อยู่แอลเอ มีแต่คนเอเชียกับเม็กซิกัน ถ้าคนขาวมาเหยียด อาจจะโดนกระทิบได้ .... จากคุณ : คุณชินโซ เขียนเมื่อ : 22 ก.ย. 53 14:49:00

ความคิดเห็นที่ 18 ฝรั่งหรือออสซี่ส่วนใหญ่ไม่มีอะไรหรอกครับ มันเป็นสันดานของเค้าในการทำตัวกร่าง หรือกวนตีน .. ถ้าเจอแข็งๆใส่ ก็อ่อนไปเอง พวกนี้มันจะเก่งเรื่องทำลายข้าวของชาวบ้านทีเผลอมากกว่า มาอยู่ห้าปี ไม่เคยมีปัญหาจังๆ จะมีแต่กรณีคล้ายๆกับคุณดอสน่ะครับ คือการให้บริการหรือการปฏิบัติตัวกับเราจะออกแนว โคตรไม่เต็มใจ ตามผับตามบาร์จะเจอบ่อยนะครับ ไม่อยากขายเท่าไหร่ ทั้งที่ไม่ได้ทำอะไรกันอยู่จริงจัง เช็ดแก้วบ้าง เรียงเบียร์อยู่บ้าง มันก็บอกมันไม่ว่าง เห็นมั้ย ถ้ามันว่างเมื่อไหร่มันจะมาให้บริการนะ .. ก็เรียกผู้จัดการมาคุยบ้าง บางทีครับ ถ้ามีเวลา ถ้าไม่มีเวลาก็ด่าๆกระทบๆมันไป(ไปเที่ยว ก็อยากสนุกสนานนะครับ ไม่อยากจะโดนการ์ดมาหิ้วออกไป ๕๕๕) แล้วก็ไปหาสั่งกับคนอื่น ซื้อของมัน จ่ายตังมัน ยังต้องง้อมันอีก ฝรั่งไม่เท่าไหร่หรอกครับ ที่มันน่าโมโหคือไอ้พวกเอเชียด้วยกันที่กวนตีน เคยเจออยู่ที ไปเที่ยวมา กำลังเดินกลับบ้านกับเพื่อน ก้อเดินไปคุยไป มีไอ้หน้าตี๋ๆตัวนึงเดินสวนมาคนเดียว แล้วมันทำท่าเหมือนจะพุ่งใส่ผมแล้วฉากหลบไป แล้วมันก็เดินไปมุดๆต่อไป ผมก้อหันหลังกลับไปตะโกนด่ามัน WTF !##@$#%@# มันก็เดินมุดๆผ่าฝูงคนไปแบบไม่หันกลับมา ลักษณะนี้คิดว่าเป็นพวก ABC เกิดและโตที่นี่ กึ่มๆแล้วก็ทำตัวกร่าง เหมือนพวก ออสซี่ อีกหน่อยก็ไม่มีแล้วล่ะครับที่ออสเนี่ย เพราะเดี๋ยวเอเชียก็ยึดหมดแล้ว จากคุณ : Ddt เขียนเมื่อ : 22 ก.ย. 53 14:54:28

ความคิดเห็นที่ 19 ไม่เคยเจอนะ หรืออาจจะเคยเจอแต่ไม่ได้สนใจก็เป็นไปได้สูงเพราะปกติไม่ค่อยใส่ใจเท่าไรว่าคนอื่นจะคิดอะไรหรือพูดอะไร  และดิฉันคิดว่าคนพวกนี้พวกที่ไม่ชอบต่างชาติน่าจะเป็นคนที่ใจแคบ โลกแคบและคงไม่มีอะไรทำหรือให้คิดมากไปกว่าคอยจ้องที่จะรังเกียจชาวบ้าน   ถ้ามีคนมากวนประสาทใส่หรือพูดจาไม่ดีกับดิฉัน สิ่งแรกที่ทำคือควบคุมอารมณ์ให้ได้ก่อน แล้วคำพูดมันจะไหลออกมาเองและจะเลือกใช้คำที่สุภาพ มีเหตุผลและไม่แสดงสีหน้า แต่ถ้าเป็นเด็กวัยรุ่นวิธีที่ดิฉันใช้คือจะกัดให้ได้อายเพื่อนๆในกลุ่มที่มาด้วยกัน เพราะเด็กๆพวกนี้ไม่ได้มีเจตนาอื่นใดนอกจากจะทำตัวเด่นต่อหน้ากลุ่มเพื่อนๆด้วยการแซวต่างชาติ ไม่ได้มีอะไรมากไปกว่านั้น ยิ่งเห็นเราโต้ตอบอย่างเผ็ดร้อนก็ยิ่งทำให้พวกเค้าขำและสถานะการณ์เปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น ดิฉันเคยไปเดินถนนสายช้อปปิ้งดังๆของที่นี่แล้วมีเด็กนักศึกษาผู้ชายแกล้งตรงรี่มาสัมภาษณ์ พร้อมกล้องและไมค์ คงกะจะแกล้งหยอกเล่นเพราะดิฉันมาคนเดียว มาเปิดฉากถามว่า What do you think about penis enlargement? โอ้ หนูจ๋าถามได้ถูกคนเลย ดิฉันรีบตอบว่ามันเป็นไอเดียที่เริ่ดมากสำหรับคุณผุ้ชาย เพราะยิ่งใหญ่เนี่ยมันยิ่งดี    พูดจบอิเด็กฝรั่งอ้าปากค้าง ทำหน้าเหวอไปเลย นึกไม่ถึงไงคะว่าจะได้คำตอบแบบนี้ สงสัยจะหวังว่าดิฉันจะทำท่าอายม้วนแก้มแดงแล้วบิดตัวสามตลบหัวเราะคิกๆกระมัง   ตอบเสร็จดิฉันก็ทำหน้าเชิดสะบัดผมไปช้อปปิ้งต่อ โธ่ถามมาได้เดี๋ยวป้าถามกลับไปว่า have you got any pubic hair? แล้วแกจะหนาว จากคุณ : Gisele เขียนเมื่อ : 22 ก.ย. 53 15:22:22

ความคิดเห็นที่ 20        ไม่เคยเจอค่ะเพราะปกติไม่สนใจใคร ทำตัวเป็นหญิงมั่น ( จริงไม่ค่อยมั่นเท่าไหร่ )        เคยเจอเด็กผู้ชายทำซ่าในรถบัสกับเรา เรานั่งอยู่คนเดียว เขามากับเพื่อน 2 คน แต่นั่งคนล่ะที่      ก็นั่งและมองเราแบบกวนๆ  ที่เราเห็นเพราะเค้ายืนคล้ำหัวเรา เราเลยมองกลับ ทำเป็นคุยและหัวเราะกับเพื่อน      ส่วนผู้ใหญ่หลายคน เปลี่ยนไปนั่งหน้า   หนีพวกวายร้าย     สักพักเราก็ เอามือถือ nokia ร่น e71      มาเล่น ebay แก้เซ็งทั้งที่ใจอยากเดินไปเบริด์กระโหลกเด็กสองคนนั้น     หนึ่งในสองเริ่มเปิดฉากยวนกับเรา       bad boy : มือถือสวยนิ      ขโมยใครมา       เรา       :  เปล่า สามีเด็กซื้อให้ ( จริง ตูซื้อเองว่ะ )     bad boy: ชอบเด็กหรือ อายุเท่าไหร่ สามีเราน่ะ       เรา      : ชอบมาก เขาอายุ 20 กว่าๆ   bad boy: คงรวยสิ         เรา       ; ไม่รวยไม่เอา        แม้....แต่อีกคำถาม เหมือนคุณ Gisele         เด็กเวรถามน่าตบ  แต่เมื่อเล่นไปแล้วต้องเอาให้จบ เอาให้ตายไปข้างหนึ่ง      bad boy : เด็กน่ะ มันเล็กน่ะ     (  ไม่เป็นไร อาชีพเราเห็นและทำงานจนชิน )  อายก็อายแต่ต้องดัดเด็กเปรตเสียให้เข็ด   เรา   :       ไม่เป็นไร ได้ทุกอย่าง           ขอเบอร์โทรหน่อยสิ ( หันไปมองเลย )  bad boy : ถึงบ้านแล้ว วิ่งหางจุกตูดเลย ไม่หันมามองเราเลย  คงกลัวเราจะกินจริงๆ      ตอบเสร็จก็นั่งขำและอมยิ้ม          ผู้ชายและผู้หญิงที่นั่งอีกมุมหนึ่ง อมยิ้มและหันมายิ้มกับเรา       เออ ?  ดีหน่อยคนอื่นเข้าใจเรา  โถ ก็เด็กนั้นนั่งถีบเก้าอี้เราตั้ง 20 ไมล์ บอกให้หยุดก็แล้ว เลยผูกมิตรซะเลย     ตั้งแต่นั้นมา ก็นั่งไกลๆ เด็กๆทั้งกลาย ปวดหัว       กลับมาเล่าให้สามีฟัง ยิ้มใหญ่เพราะเราบอกอายุ 20 ต้นๆ จากคุณ : โค้งหักศอก เขียนเมื่อ : 22 ก.ย. 53 19:26:54

ความคิดเห็นที่ 21 ถ้าเจออีกกรณีคือตอนที่จะลงชื่อเรียนเมื่อโปรแกรมทีสอง คือลงทะเบียนเสียค่าเทอมครบแล้ว เรารอแค่คิวเวลาคอร์สจะเปิด ทีนี้ก็พยายามติดต่อเจ้าหน้าที่ซะตั้งหลายครั้งหลายครา แต่ก็ยังไม่ประสบผลสำเร็จ เรียกว่าโอนสายโยนกันไปกันมา ทีนี้เหลืออดเลยพูดไปเลยว่า "นี่คือการกระทำแบบเลือกปฏิบัติใช่ไหม" คืออาจจะเป็นเพราะเรานั้นเป็นนักเรียนที่ลงทะเบียนอบรมจากมหาวิทยาลัยเดิม คือตอนแรกสถาบันนี้ดูแลโดยอีกมหาวิทยาลัย แต่ต่อมาเค้าเปลี่ยนไปเป็นอีกมหาวิทยาลัยมารับช่วงแทน เราเลยเป็นช่วงต่อ โปรแกรมสองเลยกลายเป็นนักเรียนของมหาวิทยาลัยเดิม แต่ต้องอบรมรวมกับนักเรียนมหาวิทยาลัยใหม่ อาจจะด้วยเหตุนี้มั๊งเลยเจอการปฏิบัติแบบแปลก ๆ น่ะ คือจากเหตุการณ์นั้นดิฉันก็ไม่ได้ปล่อยไปเฉย ๆ น่ะ พอได้เข้าเรียนคลาสแรก โรงเรียนมีการให้นักเรียนประเมินผลทั้งอาจารย์ และการบริการต่าง ๆ ในทุก ๆ ครั้งที่มีการจบแต่ละคลาสน่ะ ทีนี้คลาสแรกจบดิฉันก็เลยแสดงความเห็นนี้ไป ว่าเจออะไรบ้าง คือก็พูดตรง ๆ ไปเลยว่าจริง ๆ แล้วชอบหลักสูตรของโรงเรียนนะ ชอบการสอนของอาจารย์ ชอบการบริการของฝ่ายดูแลคอมฯ ให้กับห้องเรียน และชอบการบริการของเจ้าหน้าที่เดิม ๆ แต่พอเปลี่ยนเป็นเจ้าใหม่มาดูแล กลับกลายเป็นได้รับปฏิบัติแบบเลือกปฏิบัติ เลยเสริมไปว่า "จริง ๆ แล้วสถาบันนี้มีหลักสูตรที่ดี มีอาจารย์ที่ดี ตั้งใจสอน จริงใจในการสอน ดูเป็นมืออาชีพ ถ้าปรับปรุงเรื่องการบริการให้กับนักเรียน โดยไม่ทำให้นักเรียนรู้สึกว่าโดนเลือกปฏิบัติ รับรองว่าสถาบันนี้จะเพอร์เฟคเลย และรู้สึกว่าไม่เสียแรงที่ได้ใส่คอมเม็นต์ตอนประเมินผลไปแบบนั้น เพราะอย่างน้อยในเวลาต่อ ๆ มาเราเห็นป้ายที่หน้าห้องล็อบบี้เลยว่า "Students come first." ก็ถือว่าอย่างน้อยเค้าก็แคร์กับความรู้สึกนักเรียนอยู่ คือเท่าที่ฟังจากอาจารย์เล่าในห้องเรียนนั้นไม่ได้มีแค่เราที่ใส่คอมเม็นต์แบบนั้น มีนักเรียนคนอื่นใส่ไปหนักกว่านั้นอีก คือคงจะมีนักเรียนคนอื่น ๆ เจอมาบ้างเหมือนกันกับการบริการที่ไม่จริงใจจากเจ้าหน้าที่น่ะ อันนี้คงจะไม่เกี่ยวกับสีผิว คงจะเกี่ยวกับว่าเราเป็นนักเรียนกลุ่มเก่าที่เสียค่าเทอมให้มหาวิทยาลัยเก่าน่ะ จากคุณ : JC2002 เขียนเมื่อ : 22 ก.ย. 53 19:36:36

ความคิดเห็นที่ 22 เคยเข้าไปลองเรียนพวกคอร์สสั้นๆ อยากรู้ว่าภาษาอังกฤษเราพอไปวัดไปวาไปไหม ปรากฎว่า โดนหัวเราะเรื่องสำเนียงการพูด หาว่าเราพูดไม่ชัดมั่ง มีปัญหาที่ลิ้นบ้างล่ะ บอกสงสัยอยู่บ้านพูดภาษาอื่นกะพ่อ แม่บ้างล่ะ สุดท้าย ครูถามว่าพูดภาษาอังกฤษแบบนี้ เป็นคนอเมริกันหรือเปล่า คนอื่นๆในห้อง หัวเราะกันหมดเลย เราบอกเปล่า เพิ่งย้ายมา เรียนภาษาอังกฤษได้ 5 เดือน เงียบกันหมดเลย..........สุดท้าย เขามาขอโทษกัน บอกนึกว่าเราเป็นพวกเด็กเอเชียที่เกิดที่นี่ แบบนี้เรียกว่าโดนดูถูกไหมอ่ะ จากคุณ : ตุ๊กตาดุ๊กดิ๊ก เขียนเมื่อ : 22 ก.ย. 53 20:25:11

ความคิดเห็นที่ 23 ขำ คคห ที่  10  ของคุณดอส    ประโยคนี้นะคะbecause we are taking over your country! If you don't like us you move away from Australia!   ขอบคุณที่แบ่งปันนะคะ  ทำให้ยิ้มเลยค่ะ จากคุณ : ดาวเหนือเมื่อยามฟ้าสาง เขียนเมื่อ : 22 ก.ย. 53 20:34:23

ความคิดเห็นที่ 24 โดนคนดำที่เมกาครับ ถ้าเป็นผู้ใหญ่เค้าจะพูดเร็วๆให้เราฟังไม่รู้เรื่อง ทำหน้าขรึมๆ ถ้าเป็นเด็ก จะชูนิ้วกลางให้ เคยเจอ เดินๆอยู่ชะโงกหน้าออกมาจากรถนักเรียน ตะโกนด่าใหญ่เลย จากคุณ : Juneboyz เขียนเมื่อ : 22 ก.ย. 53 20:50:32

ความคิดเห็นที่ 25 เออ นึกขึ้นมาได้อีกอย่างนึง ตอนสมัยผมเรียนมหาลัย ผมโดนยามแขกมันเหยียดชนชาติ!!!! ในห้องคอมจริงๆ เขาห้ามใช้มือถือหรือเปิดเพลงเสียงดัง แต่พวกแขกมันเอาหมดทั้งมือถือ ทั้งเปิดเพลง เปิดคลิป นั่นนี่นู่นเสียงดัง ยามเดินผ่านมาทักทายตามประสาคนรู้จักกันแล้วก็เดินหนี พอดีผมมีปัญหาทำรายงานแล้วไม่เข้าใจเลยโทรไปหาเพื่อนถามเพื่อนแบบนั่งดูหน้าจอไปถามไป สักพักอียามแขกปรี่มาเลย "ยูคุยโทรศัพท์ในห้องคอมไม่ได้นะ ยูไม่เห็นเหรอ เค้ามีป้ายติดไว้" ผมก็เลยบอกว่า เห็น แต่นี่สำคัญเร่งด่วนเพราะเป็นเรื่องรายงาน เห็นมั้ยนี่หน้าจอรายงานชั้น ยามบอกว่า ไม่ได้ๆๆ ยังไงก็ไม่ได้ ห้ามก็คือห้ามกฎต้องเป็นกฎ ผมเลยบอกว่า "อย่ามาทำเป็นเข้มงวดไปหน่อยเลย นี่ตอนนี้พวกนั้นก็ยังเสียงดัง ทั้งคุยโทรศัพท์ ทั้งดูคลิป เปิดเพลง ทำไมยูไม่ไปบอกให้เลิก เมื่อกี้ชั้นยังเห็นยูเดินไปทักกับพวกนั้นอยู่เลย เพื่อนยูใช่มั้ยล่ะยูเลยไม่ว่า นี่ชั้นทำงานแท้ๆ ยูกับมาด่า แบบนี้มัน discrimination นี่ ถ้ายูไม่เลือกปฏิบัติยูไปบอกพวกนั้นให้เลิกก่อนเลย แล้วชั้นจะหยุดคุย แต่ถ้ายูไม่ไปบอกพวกนั้นแต่บังคับให้ชั้นเลิก ชั้นจะร้องเรียนมหาลัยว่ายู discriminate" ยามเลยบอกว่า "เออ งั้นไม่เป็นไร คุยเบาๆ ละกัน จะได้ไม่รบกวนคนอื่น" เสร็จแล้วก็เดินหนีไม่โผล่มาอีกเลย (แล้วก็ไม่เห็นจะกล้าไปบอกพวกนั้นสักแอะ หนอย เห็นว่าเราไม่ใช่แขกเข้าหน่อยละจะมากดขี่นะ) จากคุณ : ดอส เขียนเมื่อ : 22 ก.ย. 53 20:55:39

ความคิดเห็นที่ 26 ตอนเด็กๆ ( เจ็ด แปดขวบ) ไปเที่ยวอเมริกา โดนคนตะโกนใส่ว่า   Chinese Chinese ! อีกครั้งก็ตอนที่ ขากลับ เราบินกลับกับน้องสองคน ( เด็กสองคน มีน้ามาส่งที่สนามบิน) ตอนเช็คอิน โดนพนักงานกราวน์ ให้คนอื่นแซงเรา ไปเฉยเลย เราก็ไม่ค่อยรู้ตัวว่าโดนเยียดหรอกค่ะ เพราะเด็กมากๆ แต่น้าเราเค้าบอก  ( เล่าแล้วยังยังๆ ว่าดนจริงป่าว ) พอโตแล้ว มาอเมริกาอีก.... ไม่เคยเจออ่ะค่ะ หรือเพราะความรู้สึกช้า ก็ไม่รู้ จากคุณ : cardiogenic เขียนเมื่อ : 22 ก.ย. 53 21:54:57

ความคิดเห็นที่ 27 ตอนไปเรียนที่ออส อยู่ห่างไกลจากเมืองใหญ่มาก ผู้คนใจดี เป็นมิตรเลยไม่โดน พอมาช๊อบของที่ซิดนีย์หรือบริสเบนก็มีคนมองบ้าง ตอนหลังสะพายกล้องเก่าๆ อย่างเดียวเลย ใครมาทักก็บอกแจแปนนีส อะฮา ต้อนรับดีเป็นบ้าเลย กล้องช่วยไว้ ตอนไปอะดีเลทไม่เคยมีคนกวน แต่มีคนขอตัง ทำนองว่ามีสแปร์บักไหม ก็ให้ไป 2 เหรียญ ถือว่าเอาเงินทุนที่ออสให้เราให้เขากลับไปก็แล้วกัน ไปเพอร์ทก็ไม่เจอเหยียด ไปดาร์วินก็มีแต่คนใจดี เมลเบิร์นนี่ชอบมาก เมืองน่าอยู่ คนก็ดีนะ โดยรวมออสส่วนใหญ่ดีมาก ส่วนใหญ่ก็จะเจอคนไทยด้วยกันนี่แหละที่แสบกว่า จากคุณ : Feline เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 53 01:07:23

ความคิดเห็นที่ 28   มาอยู่ฝรั่งเศสได้ไม่นาน ก็ไม่เจอเลยครับ ถามทางทีให้ความช่วยเหลือกันอย่างดี เต็มที่กับชีวิตมากๆ อาจจะเป็นเพราะประเทศนี้เค้าเคยชินกัความหลายหลายทางเชื้อชาติมานาน ปล.ที่มหาวิทยาลัยมีห้องร้องเรียนเกี่ยวกับเรื่อง discrimination โดยเฉพาะ 1 ห้องเลย เจ๋งมากๆ จากคุณ : jedakyu เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 53 02:07:36

ความคิดเห็นที่ 29 คุณข้างบนอยู่ฝรั่งเศสเหมือนกันเลย ส่วนตัวเรายังไม่เคยเจอ ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน คงเป็นเพราะว่าเราไม่ค่อยเก็บมาใส่ใจ ไม่เคยเจอแบบแรงๆ เคยแค่ในห้องเรียนภาษาถ้าถกกันเรื่องรถติด เรื่องแนวคิดในการรักษาสิ่งแวดล้อม นโยบายรัฐบาล การท่องเที่ยว รวมถึงความเชื่อเรื่องดวงชะตาโหราศาตร์เทือกๆนี้ ครูก็จะหันมาถามเราเป็นคนแรกๆ เคยเจอแค่นี้ค่ะ แก้ไขเมื่อ 23 ก.ย. 53 02:38:00 จากคุณ : ##TUKTA## เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 53 02:37:07

ความคิดเห็นที่ 30   สรุปว่า Brisbane Queensland. นี่มีพวกเหยียดเยอะกว่า Melbourne หรอครับ กำลังเลือกจะไประหว่าง 2 ที่นี้ครับ จากคุณ : Cool เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 53 10:33:04 A:124.121.147.211 X: TicketID:207331

ความคิดเห็นที่ 31 เรื่องเหยียดผิวมันไม่ใช่ปัจจัยสำคัญหรอกครับ มันแทบไม่มีแล้วเรื่องเหยียดอะไรนี่ ทุกวันนี้คนต่างชาติเต็มออสเตรเลียไปหมด คนต่างชาติเป็นปัจจัยขับทางเศรษฐกิจมาก ตอนนี้ไม่มีอะไรให้เหลือต้องเหยียดแล้วครับ ส่วนเรื่องเด็กจังรัยนั่น มันมีอยู่ทุกเมืองนั่นแหละ จากคุณ : ดอส เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 53 10:48:59

ความคิดเห็นที่ 32 อ้อ สำหรับคนที่มาใหม่ ไม่ว่าคุณจะมาเมืองไหน คุณจะพบว่า คนที่เหยียดคนไทยมากที่สุด ก็คือคนไทยด้วยกันนี่แหละ จากคุณ : ดอส เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 53 10:51:06

ความคิดเห็นที่ 33 เท่าที่อ่านๆ ดูหรือได้ยินได้ฟังมานี่ รู้สึกที่ซิดนีย์นี่จะหนักสุดเลยนะครับ ... จากคุณ : Akadej เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 53 19:30:19

ความคิดเห็นที่ 34 เป็นธรรมดาของเมืองใหญ่ มีคนอยู่ร้อยพ่อพันแม่ แต่ละคนดูชีวิตช่างเร่งรีบแข่งกันทำมาหากิน ค่าครองชีพสูง จะมีเวลาผ่อนคลายได้อย่างไร มีแต่คนที่มีพอสมควรแล้วถึงจะเข้าสู่จุดที่สบายๆ ได้ ตอนเรียน ผมอยู่ชนบทเป็นหลัก ผู้คนมีน้ำใจ ชีวิตเรียบง่ายและสบายสุดๆ แม้งานหนักก็มีวันที่พักผ่อนได้เสมอๆ จากคุณ : Feline เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 53 23:51:34

ความคิดเห็นที่ 35 อยู่เคมบริดจ์ค่ะ  ที่นี่นักเรียนต่างชาติเยอะเลยไม่มีปัญหาหรือเว่าเราไม่เคยเจอก็ไม่รู้นะคะ ( แต่งงานติดตามสามีมาค่ะ )  เพื่อนๆหรือคนที่เพิ่งรู้จักก็น่ารักค่ะ  ซื้อของที่ไรฝรั่งที่เคยมาไทยก็มาพูดไทยด้วย ขำดีค่ะ ยังไม่เคยเจอคนดูถูกนะคะ  เพราะถ้าเจอคงไม่เลี้ยงไว้แน่นอนค่ะเหอๆ ก็ถ้าเจอว่าจะกระโดดถีบปากแล้วก็แจ้งตำรวจค่ะ ฮ่าาาา จากคุณ : Evana เขียนเมื่อ : 24 ก.ย. 53 07:39:19

ความคิดเห็นที่ 36 นาน 10 กว่าปีแล้ว เพื่อนสาวไทย เริ่มเรียนภาษาที่ CT โดน คนเวเน ตัวผู้ ร่างใหญ่ พูดจายียวน และพูด ว่าเธอขี่ช้างมาเรียน เยอะแยะมากมาย  เป็นอย่างนี้ทุกวัน เธอก็เฉย นิ่งไม่ตอบโต้อะไร จนมาวันหนึ่งไอ้คนนี้ก็พูดว่าอยากสนุกกะเธอ เมืองไทยเป็นแดนโสเภณี ของลองหน่อย สาวไทยเจ๋ง ได้ง่ายๆ แค่มีเงิน ว่าแล้วมันก็เดินเข้ามาจะคว้าหน้าอกเธอ เลือดไทยพุ่งปรี้ด เธออัฟคัทเข้าคางมัน 1 หมัด ขณะที่มันค้างตาลอย เธอก็เอาศอกกระแทกหัวมันขณะมันเซ  พอมันจะล้มคุกเข่า เธอก็เตะสวนเข้าคาง มันหลับไปเลย ไปฟื้นที่ โรงพยาบาล ตัวผู้ฟื้นแล้วไม่ยอมจะเอาผิดแจ้งความ อาจารย์ก็พาเธอไป เพื่อนๆ ช่วยกันใหญ่ เรื่องจบที่ โรงเรียนเชิญให้มันออกไป ตำรวจไม่ทำคดีให้ เธอก็สุดๆ ร้องไห้อย่างเดียว ผมผู้เห็นเหตุการณ์ กับเพื่อนๆ ก็ช่วยกันพูด แบบเด็กเพิ่งเรียน พูดไม่เก่ง มั่วๆ ไป กิตติศัพท์หญิงไทย และ มวยไทยดังใน CT,USA ช่วงหนึ่ง เธอบอกเธอเป็นคนไทย สายเลือดน้ำเค็ม เรื่องอื่นทนได้ แต่ดูถูกผู้หญิงไทย ทนไม่ได้ (เธอฟังรู้เรื่องแต่ ยังด่า ENG ยังไม่เป็น ) ไอ้ที่ร้องไห้ที่ โรงพักอย่างเีดียว เธอบอก คิดออกแค่นี้ ให้เค้าสงสารเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆ โดนทำร้าย และ ป้องกันตัวเอง อีกอย่างพูดไม่เป็น ก็เลยร้องไห้ มันซะเลย หญิงไทยนี่น่ากลัวนะ คุณว่าไม๊ หุหุหุ จากคุณ : CPOST เขียนเมื่อ : 24 ก.ย. 53 17:13:29

ความคิดเห็นที่ 37 ที่เยอรมันเคยเจอเด็กๆ(เด็กมากๆประมาณ ป.2) ทักเรา ''โคนิชิวะ''เราตอบกลับไปว่า''ชั้นไม่ใช่คนญี่ปุ่น'' พวกเค้าอายรีบปั่นจักรยานหนีฉันสุดฤทธิ์ อีกครั้งตอนฟุตบอลโลก เด็กผู้หญิงตัวเล็กๆแถวบ้านตะโกนเชียร์ทีมเยอรมัน ตบท้ายว่า ''ต่างชาติออกไป'' แต่ก่อนที่แม่หนูจะพูดคำว่า..ออกไป.. แม่เด็กรีบเอามือมาปิดปากลูกแล้วลากตัวเข้าบ้าน เพราะตอนนั้นเราเดินไปกะสามีซึ่งตัวใหญ่มากและคนแถวนั้นรู้ว่าสามีมีอาชีพอะไร^^ การใช้ชีวิตในต่างประเทศให้มีความสุขเราว่าก่อนอื่นต้องเชื่อมั่นในตัวเอง เพราะหลายครั่งฝรั่งใจแคบจะชอบคิดว่าเราเป็นคนต่างชาติโง่ๆที่มาอาศัยบ้านเมืองเขาอยู่(พูดง่ายๆว่าไม่ทำประโยชน์ให้ประเทศเค้าเลย) ก็จะชอบระบายอารมณ์ใส่ ซึ่งถ้าเราเห็นว่าไม่ถูกต้องและเราไม่ได้ทำอะไรผิด ก็ต้องตอบกลับอันนี้ก็แล้วแต่สไตล์ของแต่ละคน อย่างล่าสุดเราจอดรถในโซนที่จอดได้ไม่เกิน 3 นาทีเพื่อเอาต้นไม้ขึ้นรถ แต่จังหวะที่ปิดท้ายรถคนขับรถเมล์ซึ่งเป็นผู้หญิงขับผ่านมาพอดีชูนิ้วชี้แล้้วแกว่งไปมา เพื่อจะบอกเราว่าจอดตรงนี้ไม่ได้นะเธอ เราเลยชี้มาที่นาฬิกาข้อมือตัวเองพร้อมโชว์สามนิ้ว เพื่อจะบอกว่า ''อินี่กรูจอดได้สามนาทีเชียวนะ'' หล่อนเลยลดนิ้วลงแล้วขับรถบัสผ่านเราไป แก้ไขเมื่อ 26 ก.ย. 53 06:06:49 จากคุณ : Brunnett เขียนเมื่อ : 26 ก.ย. 53 05:52:35

ความคิดเห็นที่ 38 เคยไปทำร้านอาหารจีนพาร์ทไทม์ที่นิวซีเเลนด์ ต้องแต่งกี่เพ้าเต็มยศแต่เฉพาะช่วงบนนะทำเป็นเสื้อกี่เพ้าสีแดง ช่วงล่างใส่กระโปรงดำ  ขากลับเดินทางม้าลายโดนตะโกนใส่ว่าให้กลับบ้านไปซะจากคนขับรถท่าทางวัยรุ่นที่จอดตรงไฟแดง  เค้าคงนึกว่าเราเป็นคนจีนน่ะ เราก็นะ น่าจะเปลี่ยนชุดก่อนออกจากร้าน  ไม่เฉพาะไทยหรอก เอเชียเกือบทั่วไปก็โดน แต่น่าจะยกเว้นญี่ปุ่น เป็นชาติเอเชียชาติเดียวที่จากประสบการณ์ส่วนตัวเห็นว่าฝรั่งชอบประจบประจ๋อประแจ๋ด้วย แก้ไขเมื่อ 01 ต.ค. 53 15:10:31 จากคุณ : sweetkiwi เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 53 15:05:11

ความคิดเห็นที่ 39 อ่านทุก คห เลย สนุกดีครับ จากคุณ : โปร่งใส เขียนเมื่อ : 2 ต.ค. 53 00:32:11

ความคิดเห็นที่ 40 อยู่อเมริกา ๘ ปี ไม่เคยโดนเหยียดผิว หรือพูดจาเสียดสีให้เจ็บช้ำน้ำใจ แต่กลับเมืองไทย โดนคนไทยทักว่า "ทำไมอ้วนจัง" "โห ทำไมไม่ลดน้ำหนัก" เรียกว่า ทุกวันนับตั้งแต่กลับไปเหยียบกรุงเทพเลย อยู่อเมริกา ๘ ปีไม่มีฝรั่งหรือคนเอเชียที่นี่ กระแนะกระแหน เรื่อง "อ้วน" ให้เจ็บช้ำน้ำใจ แถมบริษัทที่ทำงานอยู่ มีระเบียบเรื่อง "harrassment" ถ้ามีการพูดเหยียดหยามถึง สีผิว ศาสนา ความนิยมทางเพศ (เกย์) หรือรูปร่างของผู้ร่วมงานคนอื่น พนักงานคนที่ได้รับการเหยียดหยาม หรือพนักงานที่ได้ยิน สามารถนำเรื่องไปรายงานหัวหน้า แต่หัวหน้าไม่จัดการสอบสวน หัวหน้าคนนั้นก็จะโดนสอบสวนด้วย ไม่เคยเสียใจกับการเหยียดหยามจากคนจากประเทศอื่นเท่าคนจากประเทศไทยเราเลย http://www.law.ucla.edu/volokh/harass/breadth.htm#IA แก้ไขเมื่อ 03 ต.ค. 53 13:56:42 จากคุณ : silkywind123 เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 53 13:48:32

ความคิดเห็นที่ 41 เห็นด้วยกับคุณดอสว่าคนไทยเหยียดชนชาติตัวเองมากที่สุด บางทีนินทากันเสียๆหายๆ กับชาติอื่นๆก็ดูถูกจนน่าเกลียด ถ้าเค้าฟังภาษาไทยออกคงเข้ามาด่า แล้วชอบมีฉายาให้คนอื่นต่างๆนาๆ เบื่อมาก บางทีก็บอกเพื่อนไปนะว่าใครๆเค้าก็รักประเทศตัวเอง ไปว่าเขาเอาอย่างนี้ เวลาเขาว่าเรากลับทำเป็นโกรธเหมือนจะเป็นจะตาย น่ารำคาญค่ะ จากคุณ : SKlikor เขียนเมื่อ : 5 ต.ค. 53 08:33:09