ความคิดเห็นที่ 1 ผมว่าประเทศที่คุณกล่าวแยกออกเป็น ๓ กลุ่มนะ ๑.ประเทศกำลังพัฒนา ได้แก่ จีน และ อินเดีย อันนี้ตอบได้ง่ายๆเลยว่า ก็มันไม่น่าอยู่อะครับ คุณภาพชีวิตต่ำ ๒.ประเทศพัฒนาแล้วในโลกเก่า ได้แก่ เยอรมนี และ อังกฤษ อันนี้สำหรับผม ต่อให้เป็น citizen แล้ว ก็จะมีความรู้สึกของความเป็น "คนนอก" อยู่ดี เพราะคนท้องถิ่นเขาสืบสายกันมาบนผืนดินนั้นเป็นหลายร้อยปีแล้ว แต่เราพึ่งไปอยู่ ๓.ประเทศพัฒนาแล้วในโลกใหม่ ได้แก่ แคนาดา ออสเตรเลีย สหรัฐอเมริกา อันนี้สำหรับผม อยากไปตั้งรกราก เพราะทุกคนล้วนเป็น immigrants หรือบรรพบุรุษก็เป็น ดังนั้น จะมีความรู้สึกเป็นเจ้าของประเทศร่วมกับพลเมืองคนอื่นๆได้ง่าย แต่ถ้าอยู่ได้ทั้งหมด จะตัดแคนาดาออกก่อน เพราะอากาศหนาวไป ไม่ไหว ตัดออสเตรเลียออกอันดับสอง เพราะค่าครองชีพสูงกว่าสหรัฐฯมากพอสมควร จากคุณ : สามีนุ่น เขียนเมื่อ : 30 ก.ย. 54 21:44:40 A:140.119.143.52 X: TicketID:324122

ความคิดเห็นที่ 2 ประเทศเสรี ถ้าคุณขยันมีความรู้มาทำงานก็จะมีความเป็นอยู่อย่างสุขสบาย บ้านรถยนต์ราคาถูกมากๆเมือเทียบกับเงินเดือนที่นี่ เช่นเงินเดือน๑แสนเหรียญต่อปี สามารถซื้อบ้านราคา ๒ถึง๓แสนเหรียญสบายๆ รถยนต์ราคาถูกกว่าเมืองไทย๓เท่าเพราะภาษีไทยแพงมากๆ เช่นมีคนรู้จัก ตอนนี้เขาอายุ๖๖เพิ่งได้เงินเกษียรจากรัฐบาลกลางเดือนละ๒๒๐๐เหรียญ ภรรยาเป็นแม่บ้านไม่เคยทำงานเลย อายุ๖๖เท่ากัน ได้เงินครึ่งหนึ่งคือ๑๑๐๐เหรียญต่อเดือนครับ นี่ยังไม่รวมเงินเกษียรที่ทำงานอีกเดือนละ๓๓๐๐เหรียญ ยังมีเงิน401K, Roth IRAเงินเก็บส่วนตัวอีก มีบ้านมีที่ดินและรถหลายคันไม่มีหนี้สินที่จะต้องผ่อน ลูกๆก็เรียนจบมีงานทำมีบ้านของตัวเองทุกคน เขาเกษียรแล้วจะไปทำงานอาสาTPAAช่วยคนจนเมืองไทยปีละหน ปีหน้านี้จะไปช่วยนครครี อเมริกาเรืองคอรับชั่นไม่มี เวลาเลือกตั้งซื้อเสียงก็ไม่มี ทำงานตรงไปตรงมา ขยันก้าวหน้า ไม่มีการซื้อตำแหน่ง ใครทำผิดกฎหมายต้องรับผิด ไม่มีอำนาจเงินมาจ่ายใต้โต๊ะให้ตำรวจได้ จากคุณ : joe (aircraftdesigner) เขียนเมื่อ : 30 ก.ย. 54 22:02:06

ความคิดเห็นที่ 3 อาจจะเป็นความยากเย็นในการขอวีซ่าก็เป็นได้ ใครขอผ่าน ทำให้รู้สึกภาคภูมิใจว่า กรูผ่านได้วีซ่าไปอเมริกา สันดารมนุษย์ อะไรที่ได้มายากๆ ก็อยากจะลอง ว่าจริงๆเหรอ//quetion หากว่า "อเมริกา" ออกวีซ่าให้ง่ายๆ คนทั่วโลก คงไม่สนใจ จากคุณ : ผมเองครับ เขียนเมื่อ : 30 ก.ย. 54 22:02:06 A:108.27.80.59 X: TicketID:210021

ความคิดเห็นที่ 4 ขอแย้งเจ้าของกระทู้นิดนึงนะคะ ตรงที่ว่า บางคนพยายามแต่งงานกับฝรั่ง เพื่อให้ได้ green card นั้น ไม่ได้เป็นแบบนี้ทุกกรณีค่ะ ดิฉันแต่งงานกับอเมกันเพราะความรักค่ะ และให้อยู่ที่อเมกาอย่างถูกต้องตามกฏหมาย มีสิทธิต่างๆ จึงต้องยื่นเรื่องปรับสถานะกรีนการ์ดค่ะ ความจริงแล้ว คนต่างแดนมาอยู่ที่นี่ ไม่ได้สุขสบายเท่าบ้านเราเลย เพียงแต่ว่ายังไม่พร้อมที่จะกลับไป หลายๆคนคงอยากตั้งตัวซักพักก่อน ถึงจะกลับไปบ้านเกิดได้ คนไทยหลายๆคนที่ดิฉันรู้จัก มาอยู่ที่นี่จนได้สัญชาติอเมกันแล้ว มีลูก มีครอบครัวที่นี่ เค้าอยากให้ลูกได้เรียนหนังสือที่นี่ จึงไม่สามารถกลับไปได้ค่ะ จากคุณ : pierceFB เขียนเมื่อ : 30 ก.ย. 54 22:25:25

ความคิดเห็นที่ 5 คุณคห.สี่ครับ อย่าเพิ่งเข้าใจผิด ผมเชื่อว่าบางคนแต่งงานเพราะความรัก และคบหากันจริงจัง แต่ก็มีบางกลุ่มที่ไม่ได้รัก ไม่ได้รู้จัก แต่พยายามหาคู่ทางเว็บ เพื่อจะได้แต่งงานได้กรีนการ์ด แต่สงสัยว่า ทำไมคนพวกนั้น ถึงอยากไปอยู่อเมริกากันจัง จากคุณ : seabreeze_psu เขียนเมื่อ : 30 ก.ย. 54 22:28:38

ความคิดเห็นที่ 6 ดิฉันเข้าใจค่ะ เพราะคุณเจ้าของกระทู้ใช้คำว่า บางคน ไม่ได้เหมารวม สาเหตุหนึ่งที่หลายคนอยากมาทีนี่เพราะไม่ต้องใช้ภาษาที่สาม เพราะถ้าให้ดิฉันไปอยู่ประเทศที่ใช้ภาษาที่สาม ดิฉันคงร้องไห้แน่ๆ จะต้องสู้ชีวิตมากถึงเท่าตัว ที่นี่เป็นประเทศอิสระก็จริง แต่เค้ามีวินัยกันมาก ที่เห็นๆก็เรื่องการขับรถ ยังไม่เคยเห็นใครฝ่าไฟแดงเลยค่ะ จอดรถก็เป็นที่เป็นทาง ไม่งั้นจะโดนตำรวจทิ้งตั๋วค่าปรับไว้หน้ารถ ขับแล้วเมานั้นเจอไม่บอ่ยเท่าบ้านเรา เพราะกฏหมายเค้าแรง แล้วที่นี่มีสวัสดิการให้ผู้สูงอายุ ความจริงข้อดีนี้คงเป็นเพียงส่วนหนึ่งเท่านั่น มีอีกมากที่ทำให้หลายคนตัดสินใจมาอยู่ที่นี่ รอฟังความคิดเห็นจากท่านอื่นๆค่ะ จากคุณ : pierceFB เขียนเมื่อ : 30 ก.ย. 54 22:34:08

ความคิดเห็นที่ 7 ต่อจากความเห็นที่ 1 นะครับ สิ่งที่อเมริกามีโดดเด่น ก็คือเรื่อง "เสรีภาพ" และ "โอกาส" ครับ คุณไม่จำเป็นต้องเป็นลูกท่านหลานเธอหรือไปสนิทชิดเชื้อกับคนชั้นสูง คุณไม่จำเป็นต้องนบนอบ ยอมจำทน และใช้ประโยชน์จากระบบอุปถัมภ์ คุณก็สามารถสร้างชีวิตที่ดีเองได้ด้วยหนึ่งสมองสองมืออย่างภาคภูมิใจ คุณสามารถที่จะมีฝันที่ไม่ต้องมีใครมาดูถูกว่าเป็นฝันลมๆแล้งๆของคนจนๆ คุณสามารถร่วมมี American Dream กับอเมริกันชนคนอื่นๆได้ ขอแค่คุณขยัน อุตสาหะ มานะพยายาม อย่างสุจริตครับ จากคุณ : สามีนุ่น เขียนเมื่อ : 30 ก.ย. 54 22:35:00 A:140.119.143.52 X: TicketID:324122

ความคิดเห็นที่ 9 #8 แรงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง 555 จากคุณ : Severus' Lover เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 54 01:14:29

ความคิดเห็นที่ 10 ....หญิงอิสาน หลายๆคน ก็ตกไปเป็นเหยี่อของความทะเยอทะยาน มุ่งมั่นไปกับการหสผัวฝรั่ง รวมไปถึงหญิงไทย ที่ตกคาน ไม่สามารถหาผัวคนไทยได้ หรีอไม่ก็เลิกกับผัวเก่า และตนมีอายุมากแล้ว  ทำให้ตัดสินใจกระโดดหาผัวฝรั่ง แถมยังโอกาสได้หลบหนีสังคม ออกไปอยู่ต่างประเทศ จากคุณ : ผมเองครับ  ..If you thinking like that it mean you have no Brain or stupid thinking.... จากคุณ : ข้ามฟ้ามาหารัก เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 54 02:12:51

ความคิดเห็นที่ 11 after no.8 ..... wait a minute all readers , i'll go to boil the water to make the most favorite thai noodle soup ( mama ) for serving all of you. ...555 จากคุณ : shocking comment ^^ เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 54 02:20:15 A:138.188.100.242 X: TicketID:322214

ความคิดเห็นที่ 12 พูดตรงๆ ก็คือ ถ้าไปประเทศอื่นกฎหมาย Immigration เขาแรงและไม่เลือกปฏิบัติ เช่น เม็กซิโกอยู่เกิน 1 วันติดคุกและถูกปรับทันที ไม่มีโอดครวญ...หรือประเทศอื่นๆ ทั้งในแถบยุโรป เช่น ฝรั่งเศส และเอเชียอย่างเกาหลี... แต่อเมริกาเป็นประเทศที่กม. Immigration บังคับใช้ไม่ได้เต็มรูปแบบเหมือนประเทศอื่นๆ จึงทำให้คนอยากมาอเมริกามากกว่า... จากผลงานวิจัยหนึ่งบอกว่า...คนอเมริกันเป็นชนชาติที่ friendly ที่สุดในโลก ก็คงจะจริงตามนั้นเพราะตั้งแต่อยู่อเมริกามาเกือบ 10 ปี ส่วนใหญ่ก็เจอแต่คน friendly ทั้งนั้น... ทีนี้การย้ายถิ่นฐานคือมาอยู่ถาวร...มนุษย์เราก็ต้องอยากหาที่อยู่ที่อย่างน้อยก็มีสภาพไม่แตกต่างจากประเทศบ้านเกิดอย่างสิ้นเชิง...อเมริกาเฉพาะบางรัฐเช่น แคลิฟอร์เนียและฟลอริด้า จึงเป็นรัฐที่คนไทยจะมาอยู่อาศัยมากกว่าที่อื่นๆ หลายปีมาแล้วเคยมีคนเรียก LA ว่าเป็น "จังหวัดที่ 77" ของไทย (ก็คิดเอาเองแล้วกันว่าหมายถึงอะไร) ตอนนี้ประเทศไทยมีจังหวัดใหม่เกิดขึ้น...ไม่รู้ว่า LA ยังเป็นจังหวัดที่ 77 อยู่หรือเปล่า? เรื่องขอวีซ่า...จริงๆ ไม่ยาก เพียงแต่คนขอวีซ่ามักจะเข้าใจไขว่เขว้มากกว่าเน้นตรงประเด็นที่สถานทูตฯ ใช้ในการพิจารณา...ทุกประเทศมีข้อกำหนดในการขอวีซ่าแทบจะไม่แตกต่าง คือ ถ้าไปเที่ยวคุณต้องแสดงให้เห็นว่าคุณจะกลับไทยแน่นอนและมีเงินเพียงพอกับค่าใช้จ่ายตลอดการเดินทาง บางประเทศเน้นคนรู้จักในประเทศนั้น บางประเทศไม่พิจารณา บางประเทศต้องการดูตั๋วเครื่องบิน บางประเทศไม่พิจารณาตั๋วเครื่องบิน etc. ถ้าคนยื่นขอวีซ่าเข้าใจตรงจุดนี้และทำตามที่สถานทูตฯแนะนำและกำหนด...หากคุณสมบัติครบถ้วนยังไงก็ต้องได้วีซ่าค่ะ... จากคุณ : BlackmagicW เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 54 02:29:15

ความคิดเห็นที่ 13 เห็นด้วยกับความคิดเห็นที่ 7 ^^ จากคุณ : NokkyInNYC (Sandhill) เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 54 02:58:11

ความคิดเห็นที่ 14 ส่วนคำตอบก็คล้ายๆ คคห 2 และ 7 ค่ะ เรามาอยู่เมกาเพราะมีสามีเมกัน ถ้าไม่มีก็คงไม่อยากจะมาหรอกค่ะ ไกลเกิน อยู่บ้านเราสบายกว่า ของกินแซบอร่อย ฯลฯ พอเลื่อนลงมา ลงมา ......... พอมาเจอ คคห ที่ 8 ... แหม คุณบัตรผ่านผมเองครับ(อุตส่าห์ถอดล๊อกอินมาเลยเชียว) จากข้อความนี้ของคุณ *** หญิง และชาย ที่เหลือเดนแล้ว มักจะใช้วิธีนี้แหละ*** มันก็เว่อร์ไปรึเปล่า ดูคุณโลกแคบไปเลยอ่ะค่ะ ดูเก็บกดอะไรมา มีปัญหากับเมียฝรั่ง หรือฝรั่งแก่ๆได้เมียไทยรึเปล่าคะ เอิ่ม น่าคิดนะ **แก้ไขคำผิดจ้า แก้ไขเมื่อ 01 ต.ค. 54 05:38:25 แก้ไขเมื่อ 01 ต.ค. 54 05:37:56 จากคุณ : MajestyLove เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 54 03:12:21

ความคิดเห็นที่ 15 เหตุผลแรกคือสามีเป็นคนเมกันเลยต้องมาอยู่เมกา แต่พอมาอยู่ซักพัก ก็ทำให้รู้ว่าคิดไม่ผิดเพราะภาษาอังกฤษพอจะมีพื้นฐานอยู่บ้าง ไม่ต้องเรียนใหม่หมด นอกจากนั้นเมกาให้โอกาสคน ไม่เลือกอายุ เพศ และการศึกษา ทำให้ตนเองได้มีโอกาสเรียนในสิ่งุที่ใฝ่ฝันไว้   แต่ท้ายที่สุดคุณสามีบอกว่าจะย้ายไปอยู่ไทยเมื่อเก็บเงินพออยู่ได้อย่างสบายๆๆ   ดังนั้นเลยไม่รู้ว่าเราอยากจะมาอยู่เมกาหรือเปล่า เพราะเราไปไหนก็ได้ที่ได้อยู่กับครอบครัว จากคุณ : Cutie_May เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 54 04:23:26

ความคิดเห็นที่ 16 ความคิดที่ 8 พึ่งอ่านมาถึงความคิดที่8 ทำให้อยากจะช่วยให้ข้อมูลว่า ฝรั่งข้างกายนี้ เป็นคนกลุ่มไหนไม่รู้ รู้แต่ว่าสนับสนุนทุกอย่าง โดยเฉพาะเรื่องเรียน แกตั้งใจเป็นอย่างยิ่งที่จะทำงานเก็บเงินส่งเสียเมียให้เรียนตามที่ตั้งใจไว้ แ้ม้ค่าเล่าเรียนในอนาคตจะแสนแพงก็ตาม แต่ก็สนับสนุนเต็มที่ ไม่เคยบ่น คนอย่างนี้เรียกได้ว่าเหลือเดนโดยนัยของคุณความคิดที่  8 มั้ยค่ะ แต่สำหรับเราคิดว่าเหลือเดนอย่างนี้น่ารักที่สุดในโลกเลย จากคุณ : Cutie_May เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 54 04:31:22

ความคิดเห็นที่ 17 #8 ใช้คำว่า เหลือเดน เลยหรอคะ แรงส์ไปมั้ย เหมือนดูถูกคนด้วยกันเอง เค้าก็คนเหมือนกันนะคะ จากคุณ : pierceFB เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 54 04:34:12

ความคิดเห็นที่ 18 น่าสงสัยว่า ความคิดเห็นที่ 8 ถูกฝรั่งเมกันฉกเมียไปเลยแค้นมาก จากคุณ : cupcake (cupcake) เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 54 05:32:44

ความคิดเห็นที่ 19 โดยส่วนตัว เคยไปเรียนอยู่สี่ปีกว่า แล้วก็กลับมาเมืองไทย ซึ่งยังคิดถึงอเมริกาอยู่เสมอในเรื่องของมาตรฐานการดำรงชีวิตที่สูงกว่าเมืองไทยและเรื่องอื่นๆ ทำให้อยากย้ายไปอยู่อเมริกาแทน แต่พอบางครั้งได้กลับไปเที่ยวบ่อยๆ ครั้งๆ ละสิบกว่าวัน ซึ่งพอไปเที่ยวได้แค่ห้าวัน ก็คิดถึงเมืองไทยแล้ว อีกอย่างที่รู้สึกคือ หากได้ไปอยู่จริง ก็คงเป็น Anybody (คนทำงานทั่วไปในสังคม) แต่อยู่เมืองไทยแล้วกลับเป็น Somebody (ด้วยหน้าที่การงานและสังคม) ประกอบกับชีวิตมีสีสรรกว่าเยอะ ด้วยการปากกัดตีนถึบในชีวิตประจำวันในกรุงเทพ ทำให้บางทีตนเองก็สับสนเหมือนกันว่า ชีวิตต้องการอะไรกันแน่ ชีวิตราบเรียบมีมาตรฐานสูงในการดำรงชีวิตที่อเมริกา หรือชีวิตมีสีสรรและเป็นใครบางคนในสังคมไทย อีกทั้งมีคุณพ่อคุณแม่และครอบครัวที่เมืองไทย เห็นหลายกรณีที่มีคนไทยแต่ได้สัญาชาติอเมริกัน พอเกษียณอายุแล้วก็ย้ายกลับมาอยู่เมืองไทย แต่กลับไปเยี่ยมอเมริกาปีสองปีครั้ง บางทีเรื่องบางเรื่องอาจอธิบายได้ด้วยเรื่องของสุขใจมากกว่าสุขกายก็เป็นได้ จากคุณ : ผ่านมา เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 54 05:41:52 A:58.10.124.241 X: TicketID:281314

ความคิดเห็นที่ 20 ชอบอเมริกาตรงที่  เมืองที่ผมอยู่ รถไม่ติด , จอดรถง่าย , มีระบบระเบียบ   อากาศดี , ซื้อของทางเนต ได้ราคาถูก ส่งเร็ว ไม่ต้องกลัวไปรษณีย์จะขโมยเอาไป อิอิ เสียเรื่องกินเรื่องเดียวครับ ไม่อุดมสมบูรณ์ เหมือนเมืองไทย จากคุณ : Birdysiam เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 54 06:41:06

ความคิดเห็นที่ 21 ปฎิเสธไม่ได้ว่าคนที่มีความคิดแบบ คห 8 มีเยอะทีเดียวในสังคมไทย เคยกลับเมืองไทยอุ้มลูกไปเดินตลาด แม่ค้าถามว่านี่ลูกครึ่งใช่ไหม ผัวหนูอายุเท่าไหร่ พอเราตอบว่า 26 ค่ะ (ตอนนั้นเราอายุ 30) แม่ค้าเลิกถามต่อเลย แถมแม่เรายังต้องคอยตอบ คำถามคนหลายคนว่าสามีเราอายุเท่าไหร่ จนเบื่อไปเลย สงสัยคิดว่าเรากับสามีเป็นพวกเหลือเดนเหมือนกันมั้ง จากคุณ : chilla เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 54 07:05:37

ความคิดเห็นที่ 22 ความเห็นที่ 8 อืมม...คนที่มีการศึกษาดีๆเขาพูดกันแบบนี้ แถมยังไม่กล้าเปิดเผยตัว ถึงจะมีมูลความเป็นจริงบ้างก็ตาม แต่ควรแล้วหรือ เป็นครูบาอาจารณ์ด้วยรึเปล่า ถ้าเป็นก็เสียใจแทนเด็กด้วยค่ะ และขอร้องว่าอย่าดึงสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ เข้ามาแปดเปื้อนเพราะความไม่กล้าของคุณ.......กูเกิ้ลทำได้มากกว่าที่คิด ด้วยความเคารพ แก้ไขเมื่อ 03 ต.ค. 54 02:39:17 แก้ไขเมื่อ 02 ต.ค. 54 00:05:56 แก้ไขเมื่อ 01 ต.ค. 54 08:38:49 จากคุณ : Fly away home เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 54 07:07:22

ความคิดเห็นที่ 23 เราว่ามันก็แล้วแต่ความคิดใครความคิดมัน บางเรื่องเราก็ไม่ควรไปคิดแทนคนอื่น แต่ที่อ่าน มา คห.8 ดูถูกคนอื่นมากๆเลยนะ คนดูถูกคน แบบนี้รับไม่ได้ ทำไมถึงมีความคิดแบบนี้ได้นะแถมใช้ ภาษาก็แบบ ขอส่ายหัว แก้ไขเมื่อ 01 ต.ค. 54 07:14:36 จากคุณ : finter เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 54 07:13:41

ความคิดเห็นที่ 24 ตอบคำถาม จขกท นะคะ ทำไมถึงอยากไปอยู่อเมริกา :  10 ปีที่แล้ว ดิฉันไม่เคยมีความคิดอยากมาอเมริกาเลยค่ะ  รู้สึกว่าเป็นประเทศที่ใหญ่โตมาก เป็นมหาอำนาจ บางคนเรียกว่าตำรวจโลก อะไรประมาณนั้น  ประเทศที่อยากไปอยู่ตอนนั้นคือสวิส เพราะมีคนรู้จักอยู่ที่นั่น ไปเที่ยวแล้วชอบมาก สาเหตุที่มาอเมริกา : มีเพื่อนชายเป็นชาวอเมริกัน ก็เลยขอวีซ่ามาเที่ยว แต่ความสัมพันธ์ไม่ work ก็กลับ สาเหตที่อยากอยู่อเมริกา : ปลอดภัย  ระเบียบวินัย กฎหมาย และความเป็นอยู่ดีกว่าบ้านเรามากค่ะ รู้สึกว่าเหมาะกับเรา  ก็อยู่มา 8 ปีแล้วค่ะ และจะอยู่ต่อไป  ตอนนี้มา vacation ที่เมืองไทย กลับคิดถึงอเมริกาซะงั้น ^ ^ จากคุณ : NANandAL เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 54 08:51:10

ความคิดเห็นที่ 25 อ่านๆไป หัวทิ่มกับ คห ที่ 8 จะแรงไปไหนพ่อคุณ .... จากคุณ : แม่น้องเบนส์ เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 54 09:54:08

ความคิดเห็นที่ 26 เห็นด้วยกับคุณ Birdysiam เลยค่ะ เพิ่ม -ตำรวจเยอะมาก ขับรถไปไหนก็เห็น รถดับเพลิงก็วิ่งกันทั้งวัน รู้สึกปลอดภัยดี -ขับรถง่ายกว่าเมืองไทยอีกมอเตอร์ไซด์ไม่เยอะ เลนกว้าง และมีระเบียบมากๆ -ซื้อของหรือทำอะไรก็ใช้บัตรเครดิต และก็สามารถคืนของได้ด้วย แม้ซื้อทางเนตหรือตามห้างก็ตาม -ชอบห้องสมุดมีเยอะมากสามารถยืมได้หลายเล่มด้วยแถมมีหนังหรือสารคดีให้ยืมด้วย -มีสวนสาธารณะน่าเดิน มีที่ให้น้องหมาวิ่งเล่นเป็นส่วนๆ จากคุณ : nanachloe เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 54 10:35:00

ความคิดเห็นที่ 27 ทำไมถึงอยากไปอยู่เมกา ? ตอบ  1. เพราะได้ชื่อว่าเป็น Land of opportunity        2. เพราะเป็น Land of freedom        3. เพราะเป็นประเทศที่ All men are created equal under the same law        4. เพราะเป็นประเทศที่ได้ชื่อว่าเป็น The melting pot        5. เพราะเป็นประเทศเดียวในโลกนี้ ที่สามารถพิมพ์ธนบัตรใช้เองตามที่ต้อง            การ โดยไม่ต้องมีทองคำค้ำจุนมูลค่าของมัน จากคุณ : Rapier เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 54 11:06:53

ความคิดเห็นที่ 28 ตอนอายุยังน้อย ไม่เคยคิดหรือมีความฝันจะมาอยู่อเมริกาค่ะ แต่เลือกมาเรียนที่นี่เพราะมีเพื่อนสนิทจากเมืองไทยอยู่ที่นี่ มาแล้วชอบหลายอย่าง เช่น อากาศดี ที่เที่ยวธรรมชาติเยอะ รถไม่ติด คนไม่มาก วัฒนธรรมการทำงานไม่ต้องพินอบพิเทามาก บรรยากาศการเรียนการสอนสบายๆ ความปลอดภัยในชีวิตค่อนข้างดี เงินเดือนค่อนข้างดีถ้าเทียบกับเมืองไทย ถ้าทำงานที่นี่ เรื่องมีบ้าน มีรถ นี่เป็นสิ่งพื้นฐานที่เราต้องทำได้แน่นอน ต่อให้ไม่ได้ทำงานตามวุฒิการศึกษา ขอแค่ทำงานประจำ เรื่องบ้าน รถ ไม่ต้องกังวลเลย แต่ถ้าอยู่เมืองไทย ค่าตอบแทนจากการทำงาน ต้องกังวลอยู่ว่าจะผ่อนบ้าน รถดีๆ ได้หรือเปล่า แต่ก็มีหลายเรื่องนะคะที่อเมริกาดีน้อยกว่าเมืองไทย ถ้าให้เลือกว่าจะอยู่ที่ไหน ก็อยากไปๆมาๆไทยกับอเมริกาค่ะ แต่ช่วงนี้เลี้่ยงลูกอยู่กับบ้าน ไม่ได้ทำงาน ไปๆมาๆ  บ่อยๆ ไม่ได้ เลยต้องอยู่อเมริกา ไม่มีทางเลือกค่ะ ช่วงลูกเล็กนี่ อยู่อเมริกาค่อนข้างลำบากค่ะ ไม่มีตัวช่วยเลย ถ้าเลือกได้จะอยู่เมืองไทย แต่มันเลือกไม่ได้นี่สิ จากคุณ : โตช้าแก่เร็ว เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 54 11:44:13

ความคิดเห็นที่ 29 ดิฉันใฝ่ฝันอยากไปอยู่เยอรมันค่ะ เพราะชอบฟุตบอลเยอรมันมาตั้งแต่เด็กๆ ตอนเรียนในมหาวิทยาลัยก็เลือกเรียนภาษาเยอรมัน พยายามหาทางไปเยอรมันให้ได้แต่ก็ไม่ได้ไปสักที สุดท้ายได้ไปอาศัยอยู่ในประเทศเพื่อนบ้านของเยอรมันแทน ... เรื่องอเมริกา เราอาจรู้สึกว่ามันใกล้ตัวและเมื่อเทียบกับสังคมอื่นๆแล้วเรามีโอกาสเห็นสภาพชีวิตความเป็นอยู่ของชาว อเมริกันจากการดูสื่อต่างๆข่าวสารต่างๆมากกว่าด้วยหรือเปล่าคะ เลยทำให้รู้สึกคุ้นเคยและอยากไปอยู่ไปเห็นด้วยตา ตัวเอง ดารานักร้อง นักการเมืองอเมริกัน หนังละครของเมกาเรารู้จักกันดี(คนส่วนใหญ่) คงมีเพียงส่วนน้อยเท่านั้นที่จะไป รู้จักดารานักร้องละเม็งละครของอิตาลี สเปน ฝรั่งเศส ญี่ปุ่น หรือออสเตรเลีย พอไม่ค่อยรู้จักก็ไม่ค่อยผูกพันและไม่ค่อยคุ้น เคยก็เลยพลอยไม่คิดอยากไปตั้งรกรากอยู่ อ้อ เรื่องภาษาด้วยล่ะค่ะ ไปอเมริกาไม่นานเกินครึ่งปี ภาษาก็น่าจะพอหางาน เล็กๆน้อยๆทำได้แล้ว แต่ถ้าไปอยู่ญี่ปุ่น ฝรั่งเศส สวีเดน คงต้องเรียนภาษากันตาเหลือกไม่ต่ำกว่าสองถึงสามปีถึงจะพอ หางานเล็กๆน้อยๆทำได้ จากคุณ : อยากไปเยอรมัน เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 54 11:54:59 A:121.115.148.210 X: TicketID:299625

ความคิดเห็นที่ 30 ไม่สงสัยทำไมสาวไทยถึงอยากมีแฟนฝรั่ง เพราะผช ไทย หลายๆคน มีความคิดแบบ คห 8 นี่เอง จากคุณ : venusian เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 54 12:57:39

ความคิดเห็นที่ 31 ขอเข้ามาเห็นต่างกับ คห 8 ที่พูดว่า "หญิงหรือชายไทยที่เขามีความรู้มีเงินส่วนมาก เขาไม่คิดจะไปใช้ชีวิตในต่างประเทศ" อยากบอกว่า 1. ที่คนมีความรู้ มีเงิน (ถ้ามีจริงๆ หมายถึงมีมาก) เขาย่อมจะไม่จากกองทรัพย์สินของเขาไปใช้ชีวิตในต่างประเทศเด็ดขาด เพราะเขาต้องเป็นห่วงว่าทรัพทย์สินหรือกิจการที่เขามี อาจมีเหตุใดเกิดขึ้นทำให้สูญเสียได้ เขาจึงต้องอยู่เพื่อดูแลเองอย่างใกล้ชิด แต่คุณอาจจะไม่ทราบว่า ท่านเหล่านั้น (ที่มีเงินจริงๆ) เขามีใบเขียว หรือ Resident permit ของประเทศต่างๆแม้กระทั่งพาสปอร์ตอยู่ในมือของตนอยู่แล้ว เพื่อที่ว่าหากมีอันเป็นไปอยู่เมืองไทยไม่ได้ จะได้มีประเทศที่สองหรือสามรองรับ (ซึ่งในยุคสมัยหนึ่ง คนมีเงินในเมืองไทยมาก้วานหาใบเขียวในเมกากันตรึม (1980-1990)) 2. คนไทยที่มีความรู้ มีเงินหลายท่าน (แม้ไม่ใช่ส่วนมาก) ก็มาใช้ชีวิตถาวรอยู่ในเมกา เช่น มีอยู่ท่านหนึ่ง (ขออนุญาตไม่เอ่ยถึงนามท่าน) มีทั้งเงินและความรู้ ชื่อเสียงในเมืองไทย แต่ก็มาอยู่ยังแอลเอเป็นคนไทยตัวอย่างที่อาวุโสมากเป็นเวลาหลายๆสิบปี (ยุคต้นๆที่มีคนไทยในแอลเอเลยก็ว่าได้) คห 8 ก็อยู่เมกา แต่ทำไมมีมุมมองในเรื่องคนไทยที่มาอยู่ต่างประเทศ หรือหญิงไทยที่แต่งงานกับฝรั่งต่างชาติในแง่ลบขนาดนี้? หะแรกนึกว่าขอวีซ่าเมกาไม่ได้เลยพาลพาโลโกรธเคืองขึ้นมา แต่เห็นตัวก็อยู่เมกาเลยอยากตั้งคำถามว่า แล้วตัวเองมาอยู่ต่างประเทศเพื่อการอันใด? จากคุณ : Rapier เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 54 13:27:35

ความคิดเห็นที่ 32 อย่าทะเลาะกันเลยครับ อย่าเพิ่งดราม่ากันนะครับ ผมตั้งกระทู้ เพราะอยากทราบเท่านั้นเองว่า อเมริกามีความพิเศษอย่างไร ทำไมคนหลายชาติหลายภาษา ถึงอยากไปอยู่ ไม่อยากให้ทะเลาะเรื่องด้วยเรื่องเงิน เรื่องเมียฝรั่งนะครับ (T____T) แก้ไขเมื่อ 01 ต.ค. 54 15:22:15 จากคุณ : seabreeze_psu เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 54 15:21:25

ความคิดเห็นที่ 33 ดิฉันคงเป็นกลุ่มคนส่วนน้อยแน่ๆเลยค่ะ ^__^ อเมริกาอยากไปนะคะ อยากไปเทียวให้ทั่ว แต่ไม่อยากไปอยู่ค่ะ เคยไปอยู่มาปีนึงค่ะ จากคุณ : sunisaogkim เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 54 15:32:29

ความคิดเห็นที่ 34 บางคนอยากอยู่ก็ไม่ได้อยู่ บางคนไม่อยากอยู่กลับต้องมาอยู่ ส่วนตัวชอบที่ความเป็นระเบียบและการเคารพในสิทธิของกันและกันค่ัะ แต่อยากอยู่เมืองไทยมากกว่าเพราะอยากดูแลพ่อแม่ในยามที่มีโอกาสค่ะ จากคุณ : Gardengineer เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 54 20:26:22

ความคิดเห็นที่ 35 ส่วนตัวคิดแบบที่คุณ สามีนุ่น คห. 7 ว่ามาค่ะ ชอบอเมริกาก็เพราะตรงนี้แหละ ส่วนคุณ คห. 8 อ่านแล้ว ไม่รู้จะรู้สึกยังไง ทั้งมึนทั้งขำ แต่ก็เอาเถอะคงจะได้ระบายออกแล้ว ดูท่าทางเก็บกดเชียว..หุหุ.. จากคุณ : JC2002 เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 54 20:49:53

ความคิดเห็นที่ 36 "อเมริกาเรืองคอรับชั่นไม่มี เวลาเลือกตั้งซื้อเสียงก็ไม่มี ทำงานตรงไปตรงมา ขยันก้าวหน้า ไม่มีการซื้อตำแหน่ง ใครทำผิดกฎหมายต้องรับผิด ไม่มีอำนาจเงินมาจ่ายใต้โต๊ะให้ตำรวจได้" ไม่จริงครับ ยกตัวอย่างคดี Subprime CDS ผู้สนับสนุนหลักๆไม่โดนเลยซักคน โดนก็โดนแต่ลูกกระจ๊อก ระบบอุปถัมภ์ ในเมกามีแน่นอน เยอะด้วย คนหางานดีๆทำจะรู้ดี แต่ที่เมกาเค้าจะเรียกโก้ๆว่า Connection จากคุณ : 77 เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 54 21:20:22 A:130.245.233.188 X: TicketID:101679

ความคิดเห็นที่ 37 ลองตามไปอ่านlady interแล้วจะรู้ว่า คห.8 พูดมีมูล จากคุณ : เขียนบน iPad (inven) เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 54 22:54:04

ความคิดเห็นที่ 38 ความคิดเห็นที่ 10 มาเมืองหลวงอเมริกาเมื่อใดอย่าลืมทวงบิกแมค ความคิดเห็นที่ 37 แม้จะพอมีมูลก็จริงแต่น่าจะพูดได้ศรีวิไลดีกว่านั้น ความคิดเห็นที่ 27 คุณ : Rapier ผมเพิ่งรู้ว่าอเมริกาเป็นประเทศเดียวในโลกนี้ ที่สามารถพิมพ์ธนบัตรใช้เองตามที่ต้องการ โดยไม่ต้องมีทองคำค้ำจุนมูลค่าของมัน เขาว่ามีทองที่ Fort Knox มากกว่าเพื่อน ผมยังสงสัยว่ามีจริงหรือเปล่า ของแท้หรือเปล่า ใครเคยเข้าไปดู ความคิดเห็นที่ 19 คุณ : ผ่านมา ที่ว่า เห็นหลายกรณีที่มีคนไทยแต่ได้สัญาชาติอเมริกัน พอเกษียณอายุแล้วก็ย้ายกลับมาอยู่เมืองไทย แต่กลับไปเยี่ยมอเมริกาปีสองปีครั้ง ใช่แล้วครับ มีเพื่อนบางคนมาซื้อที่ไว้แถวราชบุรี เพชรบุรี แต่ส่วนใหญ่จะขึ้นเหนือกัน มีมาก เพื่อนๆที่เคยเป็นข้าราชการอยู่ทางปักษ์ใต้พอเกษียณก็ขึ้นเหนือกันหลายคน ผมเองเล็งไว้ที่ลำพูน น่าจะต้นปีหน้าว่าจะเอาจริงหรือไม่ จากคุณ : อิสวาสุ เขียนเมื่อ : 2 ต.ค. 54 02:51:40 A:98.231.188.19 X: TicketID:105627

ความคิดเห็นที่ 39 ความคิดเห็นที่ 36 คุณมาไม่ผิดเลยครับ แต่สมมติว่าเราจะอธิบายความสำเร็จของคนอย่าง William Gates หรือ Steve Jobs อย่างไรครับ คือ connection มันก็มี แต่มันก็มีความเปิดกว้างทางโอกาสให้คนที่มีความคิดความสามารถขึ้นมาได้อยู่ ไม่เหมือนบางประเทศ ที่ร้อยทั้งร้อยต้องเลียแข้งขา ไต่"เต้า" หรือไม่ก็ "ฮั้ว" ถึงจะขึ้นได้ ฮั้วเฉยๆไม่พอ ยังสร้างภาพกันโดยทั่วไปว่าหอบเสื่อผืนหมอนใบมา อดออมอุตสาหะอย่างสุจริตจนร่ำรวย ซึ่งความจริงมันไม่ใช่เลยครับ พวกที่รวยขึ้นมา ผ่านการ "ฮั้ว" มาแล้วทั้งนั้น สร้างภาพกันเก่งดีครับ ถ้าใครลองไปศึกษาเจาะลึกจะทราบเองครับ จากคุณ : สามีนุ่น เขียนเมื่อ : 2 ต.ค. 54 05:01:01 A:140.119.143.52 X: TicketID:324122

ความคิดเห็นที่ 40 คห.39 คุณรู้ประวัติ William Gates ดีแล้วเหรอครับ? รู้ไม๊ว่า Windows เกิดมาได้ยังไง? ถ้าจะจริงมันก็เมื่อสมัยนานมามากแล้วครับ สมัยนี้มีน้อยมากแล้วครับ เรื่องฮั้วนี่มันมีทุกประเทศล่ะครับ ระบบการเงินเมกาที่เป็นแบบนี้ก็เพราะฮั้วกันมาไม่ใช่รึ? ตั้งแต่ FED ยัน Credit Rating Company Goldman, JP, CITI, Morgan Stanly เส้นทางของเงินมันก็มาจากแหล่งเดียวกัน สังเกตุไม๊ว่าคนของ FED ส่วนมากมาจากไหน? คราวก่อนหน้าก็เกือบมี Government Shutdown ไม่ใช่รึ?กว่าจะตกลงกันได้ แล้วเพิ่มเพดานหนี้ของเมกานี่มันก็เฉียดๆเส้นยาแดงเลยไม่ใช่รึ? กว่าจะ"ฮั้ว"ผลประโยชน์ให้ลงตัวได้ระหว่างรัฐบาลกับฝ่ายค้านและสว. อย่าบอกนะว่าไม่เคยได้ยิน จากคุณ : 77 เขียนเมื่อ : 2 ต.ค. 54 07:26:53 A:130.245.233.188 X: TicketID:101679

ความคิดเห็นที่ 41 ตอนก่อนมาอเมริกาก็คิดว่าจะมาอยู่สักปีก็จะกลับไปอยู่เมืองไทย สาเหตุที่ยังต้องอยู่ต่อ 1. มีลูกก็ต้องเปลี่ยนความคิดค่ะอยากให้ลูกได้รับสิทธิ์ที่เขาควรจะได้จากที่รัฐบาลอเมริกา เช่นเรียนฟรีจนจบไฮสคูล (แต่ก็ต้องจ่ายภาษีทุกปีนะคะถึงไม่มีลูกก็ต้องจ่าย) 2. ที่นี่ธรรมชาติมากๆ เลยค่ะ มีต้นไม้ใหญ่ มีป่าที่ยังสมบูรณ์อยู่ 3. มีสัตว์ป่ามาให้เห็นถึงในบริเวณสนามหน้าบ้าน เช่น กระต่าย กวาง แรคคูน กระรอก หิ้งห้อย ฯลฯ 4. ไม่มีระบบใต้โต๊ะ ทุกคนเท่าเทียมกันหมดเลย เสียอยู่อย่างเดียวค่ะ อยากกินอะไรต้องทำกินเอง แก้ไขเมื่อ 02 ต.ค. 54 08:58:33 จากคุณ : bee59 เขียนเมื่อ : 2 ต.ค. 54 08:56:45

ความคิดเห็นที่ 42 มาตามอ่าน  ผมก็อยากรู้ครับ   ตัวเองเคยไปอเมริกามาครั้งหนึ่ง  ไปเที่ยวดิสนีย์แลน์ ที่ฟลอริดา  ก็สนุกดีนะครับ  ไปหน้าหนาว อากาศกำลังดีเลยเชียว ส่วนเรื่องหางานที่เมกา  ถ้ามีโอกาสก็อยากสมัคร แต่ไม่ใช่ว่าจะต้องไปให้ได้   สำหรับผม คุณภาพชีวิตดีๆนี่ยังพอถูๆไถๆ  ถ้าจะได้งานที่อินเดียหรือโซมาเลีย  แล้วเงินเดือนๆละหนึ่งล้านบาท  ผมก็ไปครับ จากคุณ : Ter @ AFC เขียนเมื่อ : 2 ต.ค. 54 10:56:11

ความคิดเห็นที่ 43 ที่เจอคนที่มาอเมริกา(ย้ำส่วนมาก) เพราะผิดหวังเศรษฐกิจเมืองไทย เลยมาหาเงินส่งกลับไปใช้หนี้ , ผิดหวังชีิวิตคู่ครอง ไปตายดาบหน้า อยู่เมืองไทย อาหารการกินอุดม ไม่มีเงิน ก็ขอยืมคนใกล้ตัวได้ ไม่มีที่ซุกหัวนอน อดข้าว ก็อาศัยญาติได้ (อยู่อเมริกาแสนลำบาก พี่น้องตัวใครตัวมันนะจ้ะ พึ่งไม่ได้เหมือนที่ไทย เพราะอะไรก็แพง) เืพื่อนฝูง ครอบครัวญาติมิตร อยู่พร้อมหน้า ถ้าไม่ต้องการหนีปัญหา จะดิ้นรนไปอเมริกาให้ลำบากทำไม #8 ก็พูดจริงอยู่ เพียงแต่พูดไม่หมดว่าส่วนใหญ่เป็นเช่นนี้ (ส่วนน้อยก็มีที่รักจริง แต่งจริง) อ่านจากหลาย คห ด้านบน คนไทยยังไม่สามารถยอมรับความจริง ขออยู่กับความฝันต่อไป แก้ไขเมื่อ 02 ต.ค. 54 13:16:30 จากคุณ : หน้ากากแตน เขียนเมื่อ : 2 ต.ค. 54 13:14:14

ความคิดเห็นที่ 44 เราไปอยู่มาพักหนึ่ง ถึงจะไม่นานมาก แต่เราก็พอจะเมนต์ได้ในระดับนึง ข้อดี 1 คนอเมริกันใจดีนะ โดยเฉลี่ยแล้วเป็นอย่างนั้นจริง ๆ สมัยก่อน เจอแต่คนอเมริกันนอกอเมริกา บอกเลยว่าไม่ชอบนิสัยอย่างมาก แต่พอไปอยู่ และได้สัมผัสคนท้องถิ่น (ทั้งอเมริกันเก่า อเมริกันใหม่) เราว่าโดยรวมแล้วเขาใจดี 2 ค่าครองชีพถูก เมื่อเทียบกับประเทศที่พัฒนาแล้วด้วยกัน เราไม่เคยไปแคนนาดานะ แต่ยุโรป ออสเตรเลีย ญี่ปุ่นก็เคยไปอยู่มาบ้าง อเมริกา ค่าครองชีพถูกกว่าจริง ๆ ทั้งของกิน ของใช้ ที่สำคัญ หาซื้อง่าย 3 อเมริกามีความหลากหลาย ไม่เฉพาะเรื่องคนที่อยู่ อาหารการกิน สภาพพื้นที่ และอื่น ๆ ก็หลากหลาย ผลหมากรากไม้ก็มีให้เลือกกินได้เยอะ 4 ผู้คนมีระเบียบวินัย ในระดับที่น่าพอใจ อาจจะไม่เป๊ะๆ แต่ก็น่าพอใจ ข้อเสีย 1 คนอเมริกัน ทำงานหนักเกินน่ะ เราว่า ไอ้ที่ไบ๊ร์ ๆ อย่างบิลเกต สตีฟฯ พวกนี้ก็มีให้เห็นเยอะอยู่ แต่เราว่าส่วนใหญ่ทำงานแบบถึก ๆ อ่ะ 2 ไกล อันนี้สำคัญเลย ไม่ต้องอธิบายก็เข้าใจได้ 3 Public transport แย่อ่ะเราว่า จะดีหน่อยก็เมืองใหญ่ ๆ อย่างนิวยอร์คเงี๊ย นอกนั้น ถ้าไม่มีรถ ก็เหมือนคนเป็นง่อย ไปไหนมาไหนลำบากเหมือนกัน 4 ด้วยความที่เค้าใจดีนี่แหละ เลยเปิดโอกาสให้คนไม่ดี take advantage ตรงนี้ หนีเข้ามาทำผิดกฏหมายเอย อะไรเอย วุ่นวายมิใช่น้อย ปล. เราไม่เชื่อว่าจะมีประเทศไหนในโลกนี้ปลอดคอรัปชั่น จากคุณ : สมัครกี่ที ก็ไม่มีชื่อที่ตรงใจ เขียนเมื่อ : 2 ต.ค. 54 15:31:18

ความคิดเห็นที่ 45 อยากกลับไปเที่ยวอเมริกาช่วงธันวาอีกค่ะ แต่เพิ่งกลับมาเมื่อสิ้นเดือนกรกฎา กลัวว่าจะติดกันเกินไป บ้านเมืองน่าอยู่ค่ะ คนอเมริกันก็พูดจาดีมีมารยาทและรู้สึกว่าให้เกียรติเรามากมากค่ะ จากคุณ : บัวจำปา เขียนเมื่อ : 2 ต.ค. 54 20:08:51

ความคิดเห็นที่ 46 อยากชวน คหที่ 29 มาอยู่เป็นเพื่อนกันคะ ^^ จากคุณ : STRESSI เขียนเมื่อ : 2 ต.ค. 54 23:22:43 A:91.2.33.11 X: TicketID:323912

ความคิดเห็นที่ 47 ค่าครองชีพถูกจริงเหรอคะ เทียบกับประเทศไหนอ่ะคะ เพราะเราว่าค่าครองชีพสูงนะ จากคุณ : leenalilly เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 54 00:05:09

ความคิดเห็นที่ 48 "เปิดกว้างทางโอกาสให้คนที่มีความคิดความสามารถขึ้นมาได้อยู่" ผิดครับ งานบริษัทที่เมกานะถึงคุณสามารถเข้าไปจริงแต่คุณก็ได้ทำอยู่ตำแหน่งแค่นั้นล่ะครับ ตำแหน่งดีๆใหญ่โตเป็นของฝรั่ง(ผิวขาว)ส่วนใหญ่ครับ รู้จักคำว่า Glass Ceiling ใช่ไม๊ครับ เป็นเกือบทุกบริษัทล่ะครับไม่ว่ารัฐหรือเอกชน ถ้าจะได้ตำแหน่งดีๆจริงๆก็ต้องเก่งแบบเซียนตัดเซียนเลยทีเดียว อย่ามาบอกว่าโอกาสเท่าเทียมครับ มันไม่มีจริงหรอกครับ จากคุณ : 77 เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 54 01:23:41 A:130.245.233.188 X: TicketID:101679

ความคิดเห็นที่ 49 ประธานาธิบดีตอนนี้ก็ไม่ขาวนะ จากคุณ : ต้อย (half-and-half) เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 54 05:12:28

ความคิดเห็นที่ 50 พูดถึงอเมริกาแล้วต้องนึกถึงสิทธิเสรีภาพ ความเสมอภาคและความเท่าเทียมค่ะ ไม่มีการเลือกปฏิบัติ (กลุ่มคนมีการศึกษา, กลุ่มคนมีอันจะกิน, กลุ่มคนมีชื่อเสียงค่ะ) หรือแบ่งชนชั้น แต่ถ้าการเลือกปฏิบัติยังมีให้เห็นนั้นล่ะก็ อันนั้นเค้าเรียกว่าสันดานคนค่ะ ที่นี่มีระเบียบวินัย ไปซื้อของ อย่าได้ริแซงคิว หรือใช้เส้นว่าตัวเองเป็นลูกเต้าเหล่าใครหรือใหญ่มาจากไหน เค้าไม่สนหรอกค่ะ มาก่อนมาหลังว่าตามนั้น ต้องเข้าแถวรอเหมือนคนอื่นเค้าเหมือนกัน ขนาดระดับประธานาธิบดี ยังต้องเข้าคิวซื้อเบอร์เกอร์กินเลย ทั้งๆทีมีผู้เสนอว่าจะลัดคิวให้ (อันนี้เรียกว่าให้เกียรติ) ก็ว่ากันไป แต่ท่านไม่เอาด้วย ท่านยืนยันว่าจะเข้าคิว (ถือว่าเป็นตัวอย่างที่ดี) ^___^ เราชอบที่นี่เพราะกฏหมายเค้าจริงจัง ใครผิดก็ว่าไปตามนั้น ประเภทที่ว่าพ่อแม่ฉันเป็นใคร ยิ่งใหญ่แค่ไหน ห้ามเอาผิดฉันน่ะ อย่าได้มาพูดเชียวนา ............................................................... คห. 8 อย่าไปว่าเค้าอย่างนั้นเลย ชีวิตคนเราแต่ละคนมันไม่เหมือนกัน บางคนก็ลำบากยากเข็ญตั้งแต่เด็กจนโต ถ้าวันนึงพวกเค้าได้มีโอกาสที่จะถีบตัวเองขึ้น เพื่อให้ได้อยู่อย่างสุขสบายน่ะ มันผิดด้วยเหรอคะ ทุกคนมีสิทธิ์ที่จะวาดฝันอนาคตของตัวเอง แม้ว่าสิ่งที่วาดฝันนั้นจะเป็นดั่งที่ฝันไว้ หรือพังทลายลง คุณจะไปเจ็บปวดและเดือนร้อนแทนเค้าด้วยเหรอคะ ถ้าคุณเห็นความฝันเค้าเป็นจริง แล้วคุณจะเป็นสุขกับเค้ามั้ย ?? (หรือถ้าเห็นเค้าสมหวังเค้ามีความสุขแล้วอิจฉา ???) ถ้าคุณเห็นความวาดฝันนั้นมันไม่เป็นดั่งฝัน แล้วคุณจะร้องไห้เสียใจ หรือทุกข์กับเค้ามั้ยล่ะคะ??? (หรือถ้าเห็นเค้าผิดหวังหรือเป็นทุกข์แล้วสมน้ำหน้า ???) โอกาสในชีวิตแต่ละคนมันไม่เหมือนกันนี่นา คุณจะคิดว่าคนที่ไม่ได้รับการศึกษาที่ดีนี่ พวกเค้าไม่มีสิทธิ์ที่จะใช้ชีวิตอยู่ในต่างแดนได้เลยใช่มั้ย... หรือพวกเค้าไม่มีความเหมาะสมพอที่จะได้ขึ้นเครื่องบิน ไปเที่ยว เรียนเมืองนอกเมืองนาบ้างใช่ป่าว หรือคุณคิดแค่ว่าคนที่มีการศึกษาเท่านั้นที่มีสิทธิ์ได้ขึ้นเครื่องบิน เที่ยวเมืองนอก เรียนหรือใช้ชีวิตอยู่ที่เมืองนอกอย่างคุณใช่รึป่าวคะ ขอโทษนะคะ คห.ที่ดูถูกคนอื่นอย่างคุณเนี่ย อย่างนี้เหรอคะที่เค้าเรียกว่าคนมีการศึกษาที่ดี ??? ................................................................. จากคุณ : เห็นใครมีความสุขเราจงยิ้มเถิด เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 54 05:14:40 A:173.57.11.86 X: TicketID:297621

ความคิดเห็นที่ 51 ความเห็นของ คห 8 ถ้าที่เขียนมาเป็นความจริงเราก็ไม่น่าจะโกรธ(เพราะมันจริง) ถ้าที่เขียนมาไม่เป็นความจริงเราก็ยิ่งจะไม่น่าโกรธ(ก็มันไม่ใช่ความจริง) ชอบอเมริกาตรงนี้แหละครับมีสิทธิ จากคุณ : ต้อย (half-and-half) เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 54 05:19:30

ความคิดเห็นที่ 52 คห.48 ครับ เป็นส่วนน้อยใช่ไม๊ครับ ใน cabinet มีกี่คนล่ะครับที่เป็นผิวสี แล้ว CEO ใน Fortune 500 มีกี่คนครับที่ไม่ใช่คนผิวขาว? จากคุณ : 77 เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 54 07:09:06 A:130.245.233.188 X: TicketID:101679

ความคิดเห็นที่ 53 โทษครับ ผมหมายถึง คห.49 ครับ จากคุณ : 77 เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 54 07:10:01 A:130.245.233.188 X: TicketID:101679

ความคิดเห็นที่ 54 จาก คห.8 อาจจะเป็นความจริง แต่ใช้คำแรงไปมาก เพื่อนฝรั่งที่รู้จัก 3คนจากสวิส พูดเหมือนกันคือ ผช แถวบ้านเค้าที่แปลกๆ ไม่เคยมีแฟน มาเมืองไทยก็ได้ภรรยากลับไป ส่วนอเมริกา เราอ่านเพื่อนในห้องไกลบ้านตอบคำถามถึงชีวิต การทำงานในอเมริกา ที่นี่ชอบบอกว่าจริงๆไม่ได้สบาย จริงๆอยากกลับเทืองไทย อย่ามาเลยอยู่ไทยไปเถอะฯลฯ แต่คนที่รู้จักในชีวิตจริงมีแต่คนบอกว่าจะไม่กลับไทย คุณภาพชีวิตที่อเมริกาดีกว่าเยอะ การหางานก็ง่ายมาก การรักษาพยาบาล การศึกษา เสรีภาพ คนที่ตอบมีทั้งไปแบบถูกต้อง และหนีวีซ่า ส่วนตัวคิดว่าอยู่ที่จริตของแต่ละคน ว่าใครชอบแบบไหน เรื่องผัวฝรั่ง คุณต้องอ่นคู่สร้างคู่สมบ่อยๆ เดี๋ยวก็เข้าใจ จากคุณ : superkoy เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 54 08:27:28

ความคิดเห็นที่ 55 ถ้ามองแบบง่ายๆนะคะ ภาษา และถ้าถามว่าทำไมไม่ไป UK คำตอบคือ UK ปอนละ 50 บาท จากคุณ : ขนมฮ่าๆ* เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 54 10:13:54

ความคิดเห็นที่ 56 แล้วคนในประเทศนี้ส่วนมากสีอะไรครับ๗๗ คนลงทุนในบริษัทเขาก็มีสิทธิออกเสียงเลือกไม่ใช่หรือ อัยการก็ดํานะคุณ จะให้ตามใจคุณทุกอย่างคงจะยากครับประชาธิปไตยเสียง ข้างมากครับคนขาวก็ยังมีมากกว่าสีอื่น ผมมีเจ้านายเป็นคนอินเดียเจ้าของบริษัทเป็นคนขาว คนอินเดียไต่เต้ามาจนข้ามหัวเจ้านายเก่าเพราะเขาเก่งครับ สภาที่นี่เขาไม่ฮั้วกันครับเขาเรียกcompromiseประชาธิปไตย ไม่ใช่เผด็จการ แก้ไขเมื่อ 03 ต.ค. 54 19:48:42 จากคุณ : ต้อย (half-and-half) เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 54 19:37:59

ความคิดเห็นที่ 57 Compromise มันคือคำพูดสวยหรูครับ หลักการจริงๆมันคืออะไร ไม่ใช่แบ่งผลประโยชน์ให้ลงตัวเหรอ? คนของคุณผ่านกฎหมายอันนั้นอันนี้ให้ผม ผมก็จะช่วยอันนั้นอันนี้ให้คุณ ทำเพื่อรักษาฐานเสียงของตัวทั้งสิ้น มันเป็นเกมการเมืองทั้งสิ้น กฎหมายรัฐ NY จะให้สิทธิภาคธุรกิจมากกว่ารัฐอื่นเพราะเงินหาเสียงหรือการสนับสนุนการเป็นผู้ว่ารัฐมาจากภาคธุรกิจ คนร่างกฎมายก็เอื้อภาคธุรกิจ ผมก็ยอมรับว่าคนแบบอื่นมีครับที่จะได้ตำแหน่งใหญ่โตแต่น้อย ต้องเก่งจริงๆ แต่ Glass ceiling มันมีจริงๆใครๆก็รู้ มันไม่ได้เท่าเทียมอะไรกันมากนักหรอกครับ แม้แต่ผู้หญิงเมกันแท้ๆยังมีปัญหาเรื่องการก้าวเข้าไปสู่ตำแหน่งสำคัญๆของบริษัทเลย ยอมรับความจริงเถอะว่าอะไรๆมันไม่ได้สวยงามอย่างที่คิดหรอกครับ เค้าก็แค่โฆษณาประเทศเค้าไปอย่างนั้นแหละ อำนาจและเงินทองมันไม่เข้าใครออกใครหรอกครับ ผู้มีอำนาจประเทศไหนๆมันก็เหมือนกัน ไม่ได้มีเสรีภาพ ความเท่าเทียมอะไรมากมาย เสรีภาพภายใต้กฎหมายเข้มงวดหรือกรอบที่เค้าอยากให้เราทำเท่านั้น คุณเชื่อจริงๆเหรอว่าคนเอเซียอย่างเราๆจะมีสิทธิเสรีภาพเท่าเทียมกับเจ้าของประเทศเค้าจริงๆอ่ะ คุณว่าขณะนี้ตลาดหุ้นเมกา ราคาCommodity โลหะต่างๆ มันขึ้นลงตาม Demand-Supplyจริงๆเหรอครับ? จากคุณ : 77 เขียนเมื่อ : 4 ต.ค. 54 03:07:38 A:130.245.233.188 X: TicketID:101679

ความคิดเห็นที่ 58 #8 แรงๆตรงๆ ดี ชอบ จากคุณ : hd (swedishNO.1) เขียนเมื่อ : 4 ต.ค. 54 03:31:47

ความคิดเห็นที่ 59 อย่างที่ว่าครับแล้วแต่คุณจะคิดครับ๗๗ ผมอยู่ที่นี่มา๓๐ปีแล้วมากกว่าอยู่เมืองไทยนิดหน่อยและพอจะคิดเองได้ ว่าอะไรเป็นอะไร,คุณเองก็คงจะเช่นกันพูดไปก็ไม่มีประโยชน์ อีกอันหนึ่งครับประธานคณะศาลฏีกาที่นี่มีผู้หญิง๒คนครับ ไอ้เรื่องสิทธิเท่าเทียมนี่เอาเป็นว่าตามตัวกฏหมายก็เท่านะครับไม่แบ่ง สีผิว,เพศ,ศาสนา,แล้วเมืองไทยละครับเท่าเทียมไหมครับถ้าไม่มีพวก เรื่องตลาดหุ้นไม่มีใครเขาเอาปืนไปจ่อใครให้ซื้อนะครับเขาก็บอกกัน อยู่แล้วมันเสี่ยง,นอกจากคุณจะเป็นผู้นําของบางประเทศแล้วขายหุ้น บริษัทคุณได้กําไรมหาศาลแถมไม่เสียภาษีให้ประเทศตัวเองเสียอีก จากคุณ : ต้อย (half-and-half) เขียนเมื่อ : 4 ต.ค. 54 05:01:43

ความคิดเห็นที่ 60 ประเทศที่มีผู้หญิงดำรงตำแหน่งผู้บริหารมากที่สุดในโลก คือ ประเทศไทย (แรงกิ้งสูงแบบนี้มานานแล้วด้วย) จากคุณ : ไม่ใช่อเมริกานะเออ เขียนเมื่อ : 4 ต.ค. 54 20:14:48 A:121.115.148.210 X: TicketID:299625

ความคิดเห็นที่ 61 คห.59 อยู่เมืองไทยนิดหน่อยเลยไม่รู้ว่า ไทยสมัยก่อนกับสมัยนี้มันแตกต่างกันมากเลยนะครับ สิทธิ เสรีภาพก็ดีขึ้นมากๆ ตอนนี้หญิงไทยจะใช้นาง นางสาว นามสกุลอะไรก็ได้สุดแต่จะใช้แล้วนะครับ ตามบทกฎหมายมันก็ต้องเป็นงั้นล่ะครับ ชีวิตจริงมันใช่ไม๊ล่ะครับ ดูกันง่ายๆแค่บริษัทเอกชนโดยรวมละกัน ไม่ต้องเอื้อมไปถึง US Supreme Court ลองถาม Tea party ดูสิครับว่าเค้าพยายามทำอะไร แล้วสาเหตุที่ออกมาเพราะอะไรกับประธานนาธิบดีของเขา เคยดู CNN สัมภาษณ์ Morgan Freeman ใช่ไม๊ครับ สมาชิกและแนวร่วม Tea party มิใช่น้อยนะครับ เรื่องตลาดหุ้น ผมก็ไม่ได้จะบอกเกี่ยวกับการซื้อขายเป็นสาระสำคัญครับ ที่ผมอยากจะบอกคือกลไกของตลาดและราคาต่างๆมันก็ไม่ได้ดีไปกว่าที่เมืองไทยทำหรอกครับ ความโปร่งใสเป็นเรื่องที่น่าสงสัย การฮั้วหรืออะไรต่างๆที่คิดว่ามีแต่คนไทยที่ทำกัน ผมจะบอกว่ามันไม่จริงเลย ประเทศไหนๆมันก็มีทั้งนั้น ไม่ใช่ว่าประเทศเจริญกว่าแล้วจะทำอะไรบริสุทธิ์ผุดผ่องแล้วก็ย้อนมาว่าเมืองไทยว่าไม่ดีอย่างโน้นอย่างนี้ เป็นเพราะเราเป็นแบบนี้ถึงไม่เจริญก้าวหน้า ที่เราไม่เจริญก้าวหน้าเป็นเพราะเราไม่ได้ส่งเสริมนักวิทย์ นักวิจัยอย่างจริงจังมากกว่า สถาบันวิจัยก็มีน้อยมาก ถ้าคุณหมายถึงผู้นำคนนั้น ผมบอกได้เลยบุคคลธรรมดาขายหุ้นผ่านตลาดหลักทรัพย์ ไม่ต้องเสียภาษีแม้แต่บาทเดียว กฎหมายนี้ไม่ใช่พึ่งเขียนนะครับ มีมานานมากแล้ว http://www.set.or.th/th/regulations/tax/tax_p1.html จากคุณ : 77 เขียนเมื่อ : 5 ต.ค. 54 10:23:56 A:130.245.233.188 X: TicketID:101679

ความคิดเห็นที่ 62 คุณคิดว่า Harvard มีคนใช้เส้นหรือโควต้าผู้มีอุปการะคุณในการได้เข้าไปเรียนไม๊? จากคุณ : 77 เขียนเมื่อ : 5 ต.ค. 54 10:49:49 A:130.245.233.188 X: TicketID:101679

ความคิดเห็นที่ 63 เห็นด้วยกับบางประโยคของความคิดเห็นที่ 8 ค่ะ เพราะเพื่อนๆสาวไทยหลายคนแต่งงานกับต่างชาติซะส่วนใหญ่ อยู่หลายประเทศทั้งอเมริกา ออสเตรเลีย เดนมาร์ค เยอรมัน สวีเดน ทุกๆคนเล่าเหมือนกันว่า คนไทยในต่างแดนโดยเฉพาะสาวไทยหาที่ไว้ใจได้ยากมากกก อยุ่เมืองไทยไปทางไหนก็ยิ้มให้กันได้หมด แต่สาวไทยในแต่งแดนตรงข้ามค่ะ ต่อหน้ายิ้มลับหลังนินทา อิจฉาแข่งขัน ส่วนใหญ่ก็เป็นผู้หญิงบาร์ที่ต้องการหาสามีฝรั่งเพื่อเปลี่ยนชีวิตจากเมืองไทยเพื่อโกอินเตอร์ แต่หลายคนไปอยุ่ต่างแดนก็ยังไม่ทิ้งนิสัยเดิมๆ เกือบ80%สามีอายุแก่ราวพ่อกันส่วนใหญ่ค่ะ ดิฉันก็มีเพื่อนชายฝรั่งหลายคนก็พูดดูถูกสาวไทยในต่างแดนเยอะ  ตอนแรกฟังก็เคืองๆที่ดูถูกคนไทยเหมือนเรา จนต้องเถียงกะเพื่อนคอเป็นเอ็น แต่มาเจอเพื่อนฝรั่งหลายคนที่มีเมียคนไทยแต่งงานแล้วพาไปอยู่เมืองนอกด้วยจนมีลูก บางคนลูกยังไม่ทันเดินได้ บางคนลูกยังไม่ทันเข้าโรงเรียน เมียสาวไทยก็แอบสามีฝรั่งออกไปมีชู้กันซะงั้น หย่าร้างมาลูกก็ตกที่สามีเป็นคนเลี้ยงดูตามลำพัง แล้วเพื่อนๆสาวไทยที่แต่งงานต่างชาติก็บอกเหมือนกันอีก ก็เลยเข้าใจแล้วว่าเรื่องจริง รู้สึกแย่เลยว่าทำไมทำให้ชื่อเสียงสาวไทยดีๆต้องแย่ไปด้วย จากคุณ : Kakoni (kakoni) เขียนเมื่อ : 10 ต.ค. 54 18:19:54

ความคิดเห็นที่ 64 ความเห็น62 มีค่ะ มีแน่ๆ คนรวยๆดังๆทั้งนั้น อิอิ จากคุณ : nyu_pt เขียนเมื่อ : 15 ต.ค. 54 10:09:31