ความคิดเห็นที่ 1 ... ความโกรธ คือเพลิงที่เผาใจตัวเองค่ะ ....... ทั้งๆที่รู้ แต่ก็เผาจนเกรียมไปหลายรอบแล้วค่ะ มาได้สติอีกที ตอนเหนื่อยค่ะ เหนื่อยมากๆเข้า ก็ถามตัวเองว่า นี่เรากำลังมีทุกข์ จุดไฟเผาตัวเองอยู่นะนั่น ...หลังๆเลยใช้วิธี อยู่ให้ห่างจากสิ่งที่ไม่ชอบค่ะ สามารถลดสิ่งกระทบภายนอกลงได้ค่ะ .....สาวๆ หรือไม่สาว ในประเทศที่เราอยู่ จากมุมมองส่วนตัวนะคะ เขาไม่โกรธกันนานนะคะ และไม่ชวนเพื่อนโกรธด้วย อาจเป็นเพราะพวกเขาเข้าใจ และเคารพในการตัดสินใจของผู้อื่นมังคะ เลยไม่คิดชวนคนอื่นร่วมเกาเหลาด้วยอ่ะค่ะ จากคุณ : pim&arpi เขียนเมื่อ : 27 ก.ค. 55 01:40:41 A:79.121.52.89 X: TicketID:157888

ความคิดเห็นที่ 2 คนที่โกรธง่ายน่าจะเป็นคนที่เอาจริงเอาจังกับชีวิตมากพอดู และให้ความสำคัญกับตัวเองค่อนข้างจะสูง จะว่าไปคนรอบๆตัวไม่มีใครช่างคิดช่างแค้นหรือว่าโกรธง่ายเลยค่ะ มีแต่คนสมองกลวง คือนิสัยคล้ายๆกันหมดคือ คิดช้า คิดน้อย และออกจะด้านๆนิดนึง ใครด่าอะไรก็ไม่ค่อยจะเจ็บ เท่าที่สังเกตดูเพื่อนๆเป็นแบบนี้ทุกคน มีบ้างเหมือนกันที่พูดจาไม่ถูกหูหรือเข้าใจผิด แต่เราจะคุยกันให้หายข้องใจ ว่าอย่าพูดแบบนั้นอีก หรือใครผิดก็ขอโทษกันไป จบ เสร็จแล้วลืม หันมาทำอาหารกินกันต่อ ไม่มีแบบแค้นข้ามชาติอะไรแบบนั้น ส่วนตัวแล้วเป็นคนที่ลืมอะไรง่ายมากๆและจะทนไม่ได้กับการที่ต้องนั่งหน้าตูม  มันจะคันปากอยากคุย ให้โกรธใครนานๆนี่ทำไม่เป็น ขนาดเคยโดนผู้ชายหลอกจนย่ำแย่ เจอกันก็ยังทักทายกันดีเลยค่ะ ดันลืมซะแล้วว่าเขาทำอะไรกับเราไว้ เท่าที่คบๆมาหลายชาติต้องบอกว่าเห็นด้วยเรื่องสตรีไทยช่างโกรธง่าย บอบบาง อ่อนไหว ชาติอื่นๆไม่ค่อยเป็นจริงๆ  เคยด่าเพื่อนอังกฤษแบบหยาบคายถึงพริกถึงขิง ด่าเสร็จอีกสองชั่วโมงก็กลับมานั่งกินขนมกันต่อได้ แต่กับคนไทยคิดว่าเขาคงจะโกรธเราไปจนวันตายแน่นอนเลย  แบบไม่ต้องมาเผาผี ตายก็ไม่อโหสิ ปกติจะคิดว่าตัวเองนั้นไม่ได้สลักสำคัญอะไรนักหนา ใครจะด่า จะว่า ก็ไม่ได้สนใจนัก ยิ่งคนไม่สนิทนี่จะเฉยๆเลย  อยากจะคิดว่าตัวเองเป็นคนใช้เหตุผลมากกว่าอารมณ์ค่ะ  เลยจะไม่ค่อยยุ่งกับคนที่กระทบไม่ได้ หรือคนที่เราต้องระวังตัวเวลาอยู่ใกล้เขา ยิ่งแบบถ้าจะให้เราทำอะไรตามเขาหรือต้องมีพวกพ้องนี่ไม่เอาเลย เพราะว่าเป็นคนมีความคิดเป็นของตนเอง สามารถแยกแยะอะไรเองได้ จากคุณ : Gisele เขียนเมื่อ : 27 ก.ค. 55 01:41:12

ความคิดเห็นที่ 3 ตัวเองเป็นคนที่โกรธใครไม่นาน  เรียกว่าเป็นคนที่ไม่แค้นฝังหุ่นหรือผูกใจเจ็บกับคนที่ทำนิสัยแย่ๆกับเรา แต่บางครั้งก็ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าการที่เราไม่โต้ตอบคนพวกนั้นกลับไปเลยเราคือคนโง่หรือเปล่า จากคุณ : BoBet เขียนเมื่อ : 27 ก.ค. 55 02:57:00

ความคิดเห็นที่ 4 ไม่เคยสังเกต แต่คิดว่านิสัยเนี่ยไม่ได้ผูกติดที่ชาติกำเนิดคงเหมือนๆกัน แต่เนื่องจากวัฒนธรรมการเลี้ยงดูที่หล่อหลอมมาทำให้แสดงออกแตกต่างกันมากกว่าค่ะ เหมือนถามว่าคนชาติไหนเลว หรือดีมันตอบไม่ได้ ตัวเองพยายามไม่ได้คนมาโกรธเรา หรือไปโกรธเค้า แต่เรื่องนี้อยู่ที่ประสบการณ์และวัย เมื่อตอนเด็กๆจะโกรธง่าย โตแล้วแก่แล้วก็โกรธยากขึ้น คือ จากประสบการณ์ดูว่าเค้าไม่ได้ตั้งใจนะ เลยให้อภัยก่อนจะโกรธ ก็มีเหตุผลมากขึ้น  แต่เรื่องผูกใจเจ็บพยาบาทนี้ อันนี้เหมือนยาพิษ คนที่พยาบาทคือคนก็กลืนยาพิษซะเอง ไม่สมควรทำอย่างยิ่ง จากคุณ : pixp เขียนเมื่อ : 27 ก.ค. 55 02:59:51

ความคิดเห็นที่ 5 เราเคยขับรถไปขูดรถข้างๆตอนจอดรถ แล้วรีบลงไปส่งลูกเข้าโรงเรียน เลยไม่ได้ทิ้งโน๊ตไว้ให้เจ้าของรถ เจ้าของรถ(ผู้หญิง)มาเจอรถตัวเองสีถลอกโมโหมาก พอดีเราออกมาพอดี เค้าก็บ่นๆพร้อมต่อว่าๆรถเค้าเพิ่งถอยมาใหม่ ทำแบบนี้ได้ไง เราก็ขอโทษขอโพยวันนั้นฝนตก ลูกเพิ่งเข้าเรียนวันแรก เรารีบร้อนไปหน่อย เจ้าของรถก็บอกว่าเค้ายกโทษให้ แล้วโทรหาประกันก็จบ ไม่มีกริยาอาการไม่ดี อันนี้ฝรั่งอเมริกัน ส่วนแม่เราโกรธมากที่เราหนีตามสามีมาอยู่อเมริกา ถึงขนาดขี้นเขาคิชกูฎไปสาป แช่งเราให้เราชิปฉายเลยทีเดียว สาปแช่งเราคนเดียวไม่พอสาปแช่งไปถึงลูกเราด้วย (อันนี้พี่สาวเล่าให้ฟัง) งงเหมือนกันอะไรจะรุนแรงปานนั้น แต่ทุกวันนี้เรายังอยู่ดีมีสุขไม่ได้ชิปฉายล้มตายเป็นโรคีร้ายแต่อย่างใด ตอนนี้ก็รอเวลาดูว่าเมื่อไหร่คำสาปจะมีผล จากคุณ : ลูกไม่รักดี เขียนเมื่อ : 27 ก.ค. 55 03:11:42 A:98.248.21.160 X: TicketID:306498

ความคิดเห็นที่ 6 เรื่องโกรธใครแล้วชวนคนอื่นมาช่วยโกรธด้วยนี้ เห็นแต่พวกเด็กวัยรุ่นทำกันค่ะ ส่วนผู้ใหญ่นั้น ส่วนมากจะไม่ทำกัน แต่ก็เคยเจอมาบ้างกับคนที่ทำตัวเป็นเจ้าแม่ Bully ชักชวนคนโน้นคนนี้มาร่วมกันกลั่นแกล้งคนที่ตัวเองเหม็นขี้หน้า ดิฉันเคยปะฉะดะกับเพื่อนร่วมงานคนเดนมาร์กหลายครั้ง ขนาดตบโต๊ะแล้วชี้หน้าด่า จะว่าอีโก้สูงก็คงจะใช่ แต่ดิฉันไม่ชอบใครให้มาเสือใส่เกือก มาจุ้นจ้านกับงานของดิฉัน แบ่งงานกันแล้ว อย่ายื่นหน้ามาจุ้นมาทำรู้ดีทัั้งๆที่ไม่รู้อะไร หรือมากล่าวหาว่าดิฉันอู้งาน ทั้งๆที่ดิฉันวิ่งทำงานจนขาขวิด ขณะที่ตัวเองไปนั่งแตหลอคุยเรื่องส่วนตัวแย้กๆ แบบนี้มันฉุนและรับไม่ได้ค่ะ ต้องว่าและด่าทันที แต่ด่าแล้วก็แล้วไป พอหายโมโหแล้วก็คุยกันต่อได้ และทำงานร่วมกันได้ ไม่ได้ผูกใจเจ็บแบบแค้นฝังหุ่น (หรือคนอื่นทำดิฉันก็ไม่รู้และไม่สนใจล่ะค่ะ) ส่วนเรื่องชวนคนอื่นโกรธนั้นยังไม่เคยเจอ เจอแต่คนที่พยายามนินทาว่าร้ายคนอื่น แต่พอไม่มีใครร่วมนินทาด้วย เรื่องมันก็แป้กอยู่แค่นั้น ส่วนตัวที่เคยเจอมาดิฉันว่าคนไทยโมโหร้ายและโกรธนานที่สุด บางทีเรื่องไม่เป็นเรื่องก็โกรธกันซะนานเป็นปีเป็นชาติ เรื่องชวนคนอื่นมาช่วยกันโกรธนี่เคยเจอแต่ตอนอยู่เมืองไทย แล้วเรื่องที่โกรธนี่ก็แปลกมาก คือเค้าเชื่อคำนินทาของคนอื่นแล้วก็มาชวนกันบอยคอต ไม่พูดไม่จากับเรา จากคุณ : Smilla เขียนเมื่อ : 27 ก.ค. 55 03:51:22

ความคิดเห็นที่ 7 คุณอิสฯ ช่วงนี้ปิดเทอมใหญ่ ไม่ค่อยมีอะไรทำก็ขอแจมนะครับ จะว่าไปก็เผอิญนะ ผมกำลังคิดที่จะตั้งกระทู้ว่าด้วยความสวยและเสน่ห์ของผู้หญิงไทยพอดี งั้นตอนนี้ผมขอแจมคุณอิสวาสุไปพลางๆ ล่ะกันนะครับ ตอนนี้ว่างหนัก คงจะว่างไปจนกว่าจะเปิดเทอมนู่นแหละ ถ้าเมียอยู่บ้านไม่ทำงานก็ไม่ค่อยว่างหรอก กระหนุงกระหนิงหยอกล้อกันตามประสาคนมีเมียสวยน่ะ อิ อิ พูดตรงๆ เลยนะ ผมว่าเสน่ห์ของผู้หญิงไทยอย่างหนึ่งก็คืออาการโกรธนิดๆ (ความจริงน่าจะเรียกว่า "งอน" ซะมากกว่า) เวลาเห็นผู้หญิงคนไทยงอนหรือติดโกรธนิดต่อแฟนในชีวิตจริงหรือในละครแล้ว แหะ แหะ แหะ ผมนี่แทบจะละลายเลยล่ะ(อาจจะเป็นเพราะผมชอบง้อเพศตรงข้ามก็ได้) นี่ขนาดเห็นคนอื่นเขางอนกันนะ เผอิญว่าผมออกจะโชคร้ายอยู่สักหน่อยที่ไม่เคยเคยมีวาสนาได้ควงสาวไทยเป็นแฟนเลย จึงไม่ได้มีโอกาสสัมผัสอาการถูกงอนจริงๆ เรื่องระดับอารมณ์ของความโกรธนี่ ผมว่าไม่น่าะจะหนีกันเท่าไหร่นะระหว่างหญิงไทยกับหญิงฝรั่ง แต่การหาที่ระบายหรือสมรรถะในการ "ควบคุม" แล้วผ่อนคลายนี่ผมว่าฝรั่งเขาจะทำได้ดีกว่าตามที่ผมสังเกตุดูเอานะ ภรรยาผม ตลอดระยะเวลาที่รู้จักกันมายี่สิบสามปีแล้ว ผมเห็นเธอโกรธนับครั้งได้ เธอนิ่งและคอนโทรลดีมากๆ แต่ผมรู้ว่าสิ่งหนึ่งที่ทำให้เธอโกรธแบบเป็นฟืนเป็นไฟไม่สนหน้าอินทร์หน้าพรมเลยก็คือเรื่องความไม่ยุติธรรมหรือเรื่องถูกเอาเปรียบ พวกสินค้าที่เธอซื้อมาใช้นี่ถ้าไม่ได้คุณภาพตามโฆษณา เธอเขียนไปคอมเพลนที่บริษัทเลย ไม่นานมานี้ พึ่งจะซื้อของเล่นมาให้ลูกเป็นที่เป่าลูกโป่งวิทยาศาสตร์นะ เป่าลูกโป่งได้ลูกไม่ใหญ่ก็แตกๆๆ เธอโกรธมาก....เขียนจดหมายไปด่าบริษัทซะยืดยาว ทั้งๆ ที่ของนั้นราคาสองปอนด์กว่าๆ เอง.....จนบริษัทต้องเขียนจดหมายมาขอโทษหร้อมมีของสมนาคุณมาให้อีก ย้อนกลับมาที่ผุ้หญิงไทย......ผมว่าผู้หญิงไทยหรือผุ้หญิงทั่วๆ ไปก็ได้ ๑. ถ้าโกรธกับคนที่เป็นศรัตรูนี่ ผู้หญิงไทยน่ากลัวมากๆ นะ.... ๒. ถ้าโกรธกับคนที่รู้จักเผินๆ...คนๆ นั้นจะกลายเป็นศรัตรูของเธอ และเพื่อนๆ ของเธอด้วย ๓. ถ้าโกรธกับคนรักเช่นญาติ พ่อ แม่ โกรธนี่จะนานไม่นาน ขึ้นอยู่กับการเยียวยา ๔. ถ้าโกรธกับแฟน ซึ่งมีหลายระดับ เช่น มาก กลาง เล็กน้อย ๔.๑ โกรธมาก ก็คงต้องเลิกเป็นแฟนกัน ไอ้หนุ่มคนนั้นอาจจะโชคร้ายโดนกลั่นแกล้งทีหลัง ๔.๒ โกรธกลาง อันนี้ฝ่ายๆ ต้องเป็นฝ่ายง้อสุดๆ ๔.๓ โกรธเล็กน้อย(งอน) อันนี้แหละคือเสน่ห์ของหญิงไทย ที่หายากในผู้หญิงจากชาติอื่นๆ ผมชอบๆๆๆๆ จากคุณ : วัชรานนท์ เขียนเมื่อ : 27 ก.ค. 55 05:56:16 A:90.203.230.223 X: TicketID:109703

ความคิดเห็นที่ 8 พึ่งนึกขึั้นมาได้ว่า ความโกรธของหญิงตะวันตกบางคนก็รุนแรงใช่เล่นนะ ที่นึกขึ้นได้ก็ตอนที่ไอ้แบงค์เพื่อนผมมันเคยโดนแฟนอเมริกันสาวของมันเฉือนพวงสวรรค์เกือบขาดทั้งพวงที่เชียงใหม่ หลังจากที่ถูกจับได้ว่าไอ้แบงค์นอกจากจะเป็นไกด์แล้วยังทำหน้าที่เป็นเจ้าหน้าที่สับรางรถไฟด้วย มันควงแหม่มซ้อนสามซ้อนสี่ ย่ามใจว่าแฟนมันจะไม่ได้ไล่ไม่ทัน ที่ไหนได้กว่าจะรู้ตัวพวงสวรรค์ที่หวงแหนเกือบโดนเจี๊ยน ไอ้แบงค์คนนี้เป็นคนเดียวกันกับแบงค์ในเรื่องราวกระทบไหล่คนดังของผมเรื่องนี้ไง http://topicstock.pantip.com/klaibann/topicstock/H3131184/H3131184.html จากคุณ : วัชรฯ เขียนเมื่อ : 27 ก.ค. 55 07:12:05 A:90.203.230.223 X: TicketID:109703

ความคิดเห็นที่ 9 เจออเมริกันค่ะ โกรธไม่ชอบยังไม่พอต้องคอยใส่ร้ายป้ายสี พอมีใครพูดถึงเราขึ้นมาล่ะก็ เธอจะต้องพูดๆๆให้เราเสียหายในสายตาคนอื่น จากคนที่เคยดีต่อกันจนคนคนนั้นไม่ยอมพูดกับเราอีกเลย เราอึ้งว่าเกิดอะไรขึ้น พอรู้ตัวต้นเหตุว่าเป็นใคร เราปล่อยเลยตามเลยเพราะไม่อยากยุ่งเกี่ยว จุดธูปแบบภรรยา จขกทแหละค่ะ แต่ไม่ได้แช่งค่ะ อธิษฐานว่าไม่ว่าชาตินี้ชาติไหน ขออย่าได้เจอกันอีกเลย จากคุณ : Friday13th เขียนเมื่อ : 27 ก.ค. 55 07:18:07

ความคิดเห็นที่ 10 คุณวัชรานนท์พูดเรื่องผู้หญิงไทยชอบงอน  เมื่อก่อนตอนแต่งงานใหม่ๆ ก็จะมีอาการงอนบ้างตอนที่เราพูดอะไรแล้วเขาไม่รู้เรื่อง  คือเขายังไม่ชิน สำเนียงเราก็จะมีงอนบ้าง  แต่อีตาสามีไม่รู้เรื่องหรอกนึกว่าเราเซ็งขี้เกียจพูด ก็เลยปล่อยให้เราอยู่เงียบๆ ไอ้เราก็รอว่าเมื่อไรเขาจะมาง้อพูดด้วยนะ...ไม่มี.. จนเราเหงาปากต้องเป็นฝ่ายเริ่มพูดเอง  ตอนหลังก็พยายามบอกเขาว่าถ้าฉันอยู่ๆ ก็เงียบไปนั่นคือฉันอาจมีอะไรในใจหรือคุณทำอะไรให้ฉันไม่พอใจ  คุณต้องมาถาม ฉันซิว่าเป็นอะไร  สามีบอกว่าแล้วทำไมไม่บอกละ แล้วเขาจะรู้ได้ไง...เออจริง.. เข้าเรื่องตอนยังไม่แก่อารมณ์ร้อนมากแบบมาไวไปไว  เพราะเวลาโมโหใครก็พูดกัน ให้รู้เรื่องเลยแล้วจบ  จนคนที่บ้านกับเพื่อนๆ รู้ว่าถ้ามันโมโหแล้วไม่พูดนี่แสดงว่า คนๆ นั้นจะหายไปจากความทรงจำอิฉันทันที เดี๋ยวนี้เริ่มแก่บางเรื่องก็ปล่อยๆ ไปเห็นเป็นเรื่องตลกซะไม่เก็บมาคิดมากเดี๋ยวนอนไม่หลับ มาอยู่นี่เพื่อนก็ไม่เยอะมากมายที่คบๆ ก็น่ารัก  เพื่อนที่ทำงานก็บ้าๆ กันไปจบงานก็จบ   วันใหม่ก็เริ่มกันใหม่ ไอ้เรื่องชวนคนอื่นโกรธด้วยนี่ไม่เคย  เคยโดนคนมาชวนให้โกรธคนที่เราไม่รู้จักเหมือนกัน   ใครจะไปโกรธตามละไม่ใช่ควายนะใครมาสนตะพายก็ตามเขาไป...แปลก.. จากคุณ : ตกตะกอน เขียนเมื่อ : 27 ก.ค. 55 07:21:30

ความคิดเห็นที่ 12 ความโกรธใน คห.5แรงสุด แค้นฝังเขาคิชกูฏเลยอ่ะ เคยเห็นความโกรธของแม่สามีชาวญี่ปุ่น โกรธมากกกก แต่เงียบจนบรรยากาศรอบพาลมืดครึ้มราวพายุใหญ่จะมา แต่ถ้าเป็นสาวๆไทยในออฟฟิศที่เราเคยทำงานนะ ถ้าพวกนางโกรธเคืองเร่องเล็กๆน้อย นางจะหาถ้อยคำว่าเหน็บเจ็บคันให้ลอยมาตามลมไปถึงหูคู่กรณีอยู่เนืองๆ สถานการณ์จะแรงขึ้นๆๆ จนกลายเป็นคู่อาฆาตไปเลยค่ะ มีปะทะคารมกันจนออฟฟิศแทบแตก คิดว่าจะจบ แต่มันไม่จบง่ายๆอย่างที่เราคิดหรอกค่ะ นางคู่กรณีจะหาเรื่องแว้งกัดกันเสมอๆ และอย่าเผลอล้มนะคะ นางจะยิ่งถล่มทับ ไม่จบง่ายๆเลยค่ะ ทั้งที่สาเหตุความโกรธมาจากเรื่องเล็กๆขี้หมูขี้หมาแท้ๆ จากคุณ : tomachan เขียนเมื่อ : 27 ก.ค. 55 07:25:44 A:126.45.4.180 X: TicketID:321666

ความคิดเห็นที่ 13 "La vengeance est un plat qui se mange froid" จากคุณ : ก เขียนเมื่อ : 27 ก.ค. 55 10:01:56 A:98.196.117.81 X: TicketID:000072

ความคิดเห็นที่ 14 เราเชื่อว่าผู้หญิงทุกชาตินี่มันต้องมีความอิจฉาริษยาอยู่ในยีนส์ทุกคนทุกเผ่าพันธ์ุนั่นแหละ แล้วแต่ว่าใครจะมีวิธีแสดงออกมาให้คนรู้แบบไหนว่าตอนนี้ชั้นกำลังโกรธนะและชั้นกำลังเกลียดเธอนะ เหมือนเราอ่านนิยายน่ะ หากเราอินไปกับเรื่องที่คนเขียนแต่งขึ้นมาได้ แสดงว่านักเขียนคนนั้นเก่ง ทำให้คนอ่านรู้สึกตามไปได้ว่ามันมีอารมณ์มีความรู้สึกรัก ชอบ เกลียด ชัง ในตัวละครนั้นๆนะ เราทำงานบริษัทข้ามชาติในไทยก็พบปะเพื่อนชาติต่างๆมากมาย เวลาไปประชุมต่างประเทศก็เจอคนที่ทำงานหลากหลายชาติ ชาติที่มีความโกรธเกลียดคนอื่นน้อยที่สุดนี่กลับเป็นคนแอฟริกันนะเท่าที่พบปะมา ไม่เคยเห็นเค้านินทาว่าร้ายใคร มีแต่คอยช่วยเหลือและมีน้ำใจกับคนที่ด้อยกว่า คนพวกนี้อารมณ์ดีนะ ชอบเต้นชอบร้องเพลง เวลาโกรธใครนี่เราเห็นแต่เค้าหัวเราะใส่แล้วก็เดินจากไป คนพวกนี้แบคกราวด์เป็นคนจนมาจากประเทศยากจนแต่เค้าฉลาดและเก่งในหลายๆเรื่อง แม้คนไทยจะมองว่าคนพวกนี้ฉลาดแกมโกงแต่คนพวกนี้มีน้ำใจชอบช่วยเหลือคนอื่นๆมาก ทำให้พวกเค้าไม่มีeโก้แบบพวกคนต่างชาติที่มาจากประเทศใหญ่ๆรวยๆ พวกคนไทยชาติตระกูลสูงนี่แหละจะมีความอาฆาตมาดร้ายคนอื่นเก่งนักล่ะ เพราะeโก้สูง ลดตัวเองต่ำไม่ลง เราเห็นบ่่อยมากในบริษัท แล้วก็เลยพาลเหยียดคนอื่นๆ อันนี้พูดตามเนื้อผ้านะ ไม่ได้มีอคติกับคนไทยเพราะเราเองก็คนไทยไม่ได้ดีเด่ไปกว่าใครเค้า เราเคยรับเมล์ฟอร์เวิร์ดจากผู้ร่วมงานคนไทยระดับสูงคนหนึ่ง เขียนเมล์ลักษณะต่อว่าเพื่อนร่วมงานคนอื่นๆอย่างไม่เป็นธรรม แต่สุดท้ายเวรกรรมตามทัน เธอกลับโดนเพื่อนร่วมงานคนอื่นเลิกคบไปเอง เพราะการกระทำของตัวเค้าเองแท้ๆเอาเรื่องส่วนตัวมาปนกับเรื่องงาน เอาความไม่ชอบส่วนตัวมาตัดสินคนอื่นและชักชวนคนอื่นให้คิดคล้อยตามตน มันเป็นวิธีฆ่าตัวตายทางอ้อมของคนไม่ฉลาดจริงๆ เท่าที่ทำงานกับคนหลายชาติในไทยเราว่าคนไทยนี่หละหยิ่งยโสและeโก้สูงกว่าชาติอื่น เวลาเกลียดโกรธใครแสดงออกแบบอาฆาตมาดร้ายสาปแช่ง บางทีสับสนกับความเป็นคนพุทธที่สอนให้ปล่อยวางรู้จักอโหสิกรรม คนไทยเยอะมากๆทำไม่ได้แฮะ คนชาติอื่นๆซะอีกที่มีความเข้าใจเกี่ยวกับเรื่องไม่เป็นเรื่องก็ปล่อยมันไปไม่เอามาใส่ใจไม่สนใจมันมากกว่าพี่ไทยนะ จากคุณ : ปิดหูปิดตาปิดปากแต่ไม่ปิดจมูก เขียนเมื่อ : 27 ก.ค. 55 10:05:08 A:110.168.28.81 X: TicketID:368097

ความคิดเห็นที่ 15 อาจเป็นเพราะคนไทยเป็นคนรักพวกพ้อง ชอบทำอะไรเป็นกลุ่มๆหรือเปล่า ทำดีอย่างเช่น ลงขันทำบุญผ้าป่า ปิดทองฝังลูกนิมิตร ทำเลวก็อย่างเช่น ยกพวกตีกัน รุมตบตี ข่มขืนผู้หญิงยังต้องเรียกเพื่อนมาช่วยกัน ดังนั้นเวลาโกรธใครคนเดียวแล้วมันเหงาต้องหาเพื่อนมาช่วยกันโกรธ จากคุณ : chilla เขียนเมื่อ : 27 ก.ค. 55 11:48:42

ความคิดเห็นที่ 16 ถลกผ้าถุงเกาะรั้ว ด่ากันขรมข้ามวันข้ามคืน แสดงความโกรธ อาฆาตมาดร้ายต่อกัน สรรคหาคำ มาว่ากันให้หายแค้น ถึงขนาดเอาช้างมาเปรียบเปรยก็ยังมี เช้าขึ้นมา มีช้างเข้ามา ในหมู่บ้านจริงๆ "ป้าแพง"กลายเป็นนักด่าวาจาสิทธิ์ ในหมู่บ้านไป ในสังคมอื่น ไม่รู้เขามีกันหรือไม่ แต่พฤติกรรมดังกล่าว ในสังคมไทยได้หายไป พร้อมความเจริญเข้ามาทดแทน หรือว่าสตรีของเรา มีน้ำอดน้ำทน อดกลั้น และมีเหตุผลมากขึ้น ตามความเจริญของพื้นที่ หรือบ้านเมือง ปัจจุบัน กลายเป็นว่า การคั่วพริกคั่วเกลือ เพิ่อสาปแช่ง ให้คู่อริมีความเป็นไป เข้ามาแทน เมื่อไรที่มีระเบิด ในสามจังหวัดใต้ของไทย จะมีพิธี คั่วพริกคั่วเกลือ เพิ่อสาปแช่ง ทันทีเหมือนกัน ทั้งประธาน และผู้ร่วมพิธี จามกันจนน้ำหูน้ำตา ขี้มูกไหล ส่วนเจ้าตัวการ ยืนหัวร่ออยู่ไม่ไกล เห็นแล้วขำๆ ปนเศร้าซะมากกว่า ปล. อาทิตย์ที่ผ่านมา กล้บบ้านโดยผ่านมาทาง อำเภอลานสกา แล้วมาออกไกล้ๆร่อนพิบูลย์ ได้เห็นสวนผลไม้ ส่วนใหญ่เป็นมังคุด มีพัฒนาการไปมาก บ้านเรือนในสวนดูดี ร่มรื่น กลายเป็นที่น่าอยู่แห่งหนึ่งในนครศรีฯ ทีเดียว จากคุณ : newcomer (gpvtu2009) เขียนเมื่อ : 27 ก.ค. 55 12:52:38

ความคิดเห็นที่ 17 มือก็ไกว ดาบก็แกว่ง ผัวกำแหง เมียตัดจู๋ จำกันหน่อยนะ จากคุณ : ธนิตา เขียนเมื่อ : 27 ก.ค. 55 18:57:43

ความคิดเห็นที่ 18 เข้ามาอ่านความเห็นที่สอง คิดว่าคุณ : Gisele พูดถึงผมเป็นส่วนใหญ่ ที่คุณ : pixp บอกนิสัยไม่ได้เกิดจากเชื้อชาติ แน่นอนครับ แต่หญิงไทยก็มาจากการดูเลี้ยงแบบไทยจึงน่าจะคล้ายๆกัน คุณ : ลูกไม่รักดี คุณต้องพยายามให้แม่ยกโทษให้จนได้นะครับ เพราะเรื่องนี้ไม่ดีทางจิตใจทั้งกับคูณแม่ของคุณเองทั้งตัวคุณและลูก คุณ : Smilla ใช่แล้วครับจะมีแต่เด็กเป็นส่วนใหญ่ที่จะชวนเพื่อมมาช่วยโกรธ ถ้าอาการนี้เป็นกับคนมีอายุอานามมากแล้วหมายความว่าเขากำลังจะกลับมาเป็นเด็กใหม่ ขาดสติหรือเพี้ยนไปแล้วโดยไม่รู้ตัวก็ได้ ผมรู้ข้อนี้เพราะตอนเป็นเด็กเคยเห็น คุณ : Friday13th เป็นธรรมดาที่คนผูกโกรธแบบนั้นจะใส่ร้าย แต่ตามปกติที่ผมเจอคนอเมริกันจะโกรธสั้นกว่าไทย และจะไม่หาพวกมาช่วยโกรธ เพราะอาจจะทำให้คนอื่นรู้นิสัยที่แท้จริงของตนในภายหลังก็ได้ คุณ : ตกตะกอน ผมขอหัวเราะแหะๆ สองบรรทัดสุดท้ายของคุณ คุณ : ปิดหูหรืออะไรก็แล้วแต่ ผู้หญิงอาฟริกาที่ผมเคยเจอพวกฆานา ไนจีเรีย เซียราเลโอน เวลาโกรธก็ระเบิดเหมือนแม่ค้าตลาดสดของเราเหมือนกันทั้งหนวกหูและขำขัน แต่ไม่รู้ว่าเป็นการโกรธระยะยาวหรือไม่ คุณ : tomachan ใช่แล้วครับบางทีก็แค่เรื่องขี้หมูราขี้หมาแห้งนั่นแหละที่น่าพูดถึงเพราะเสียดายว่าโกรธกันทำไม ส่วนที่โกรธด้วยเรื่องสำคัญมันก็มีด้วยกันทั้งนั้นแหละ คุณ : newcomer (gpvtu2009)ครับ แถวนั้นสวยและน่าอยู่ทีเดียว คุณอยู่สามตำบลหรือเปล่า ผมชักจะเกรงใจ น้องเขยเล่าให้ฟังว่าแถวนั้นคนดุ มักจะพกมีดยาวเป็นอาวุธประจำกาย ใครนั่งใกล้เกิดผายลมให้เป็นที่รำคาญ อาจจะถูกแทงถึงชีวิตได้ อีเมล์มาที่ acaveman หน่อยได้ไหม อยากรู้จัก คุณ ก ที่เขียนมาพอเดาได้ แปลเป็นไทยแบบชัดให้ได้ไหมครับ คุณ : วัชรานนท์ เรื่อง ง้อ ที่คุณพูดถึงทำให้ผมไม่ลืมเรื่องตลกของลูกผมที่จะพูดถึง ลูกชายผมเกิดและโตที่อเมริกา คบกับสาวไทยอยู่ระยะหนึ่ง อยู่ๆก็มาเล่าให้แม่ฟังว่า ยังไม่โต โกรธไม่มีเหตุมีผลบ่อยๆ เขาเลยไม่สนใจดีกว่า แม่เขาบอกว่า เขาอาจจะงอนก็ได้ ลูกไม่เข้าใจ เลยใช้คำฝรั่งว่า Play hard to get มักจะเป็นมารยาหญิงไทยโดยเฉพาะรุ่นเก่า(เหมือนแม่) เราต้องง้อเขา ผมก็บอกว่า ตอนพ่อกับแม่ไม่เห็นจะเป็นแบบนั้น เดี๋ยวนี้ก็ไม่เป็น แม่เวลาโกรธแล้วโกรธจริง ไม่ต้องง้อก็หายได้ (จริงๆไม่รู้ว่าหายโกรธ หรืออาจจะอดทนก็ได้) ผมก็ต่อ เพราะฉะนั้น “ถ้าเขาไม่รักก็อย่ารักให้หนักโหม่ง ถ้าเขาโมงเราก็วานบานกันดีหวา” (สำนวนนี้ได้ยินมาจากหนังตะลุงครับ) จากคุณ : อิสวาสุ เขียนเมื่อ : 27 ก.ค. 55 19:04:27 A:98.231.188.19 X: TicketID:105627

ความคิดเห็นที่ 19 คุณ : ธนิตา คุณทำให้ผมคิดถึง Bobbit Memorial Bridge สมัยนั้นเขากำลังสร้างสะพานข้าม RT 95 สร้างได้ครึ่งทางเป็นสะพานหัวด้วน คนเลยเอาป้ายขนาดใหญ่ไปปะไว้ว่า Bobbit Memorial Bridge ดูรายละเอียดได้ที่นี่ครับ http://en.wikipedia.org/wiki/John_and_Lorena_Bobbitt จากคุณ : อิสวาสุ เขียนเมื่อ : 27 ก.ค. 55 19:13:22 A:98.231.188.19 X: TicketID:105627

ความคิดเห็นที่ 20 ความคิดเห็นที่ 18 บ้านเดิมผมอยุ่ อ. เมือง นครศรี ฯ มาหาดใหญ่ หาตัวผมไม่ยาก เพียงถามหา แฟนหมอ......(อุบไว้ก่อน รู้ไป คุณอาจไม่อยากคุยกับผม) จากคุณ : newcomer (gpvtu2009) เขียนเมื่อ : 27 ก.ค. 55 19:29:07

ความคิดเห็นที่ 21 เตยได้ยิน ข่าวเกี่ยวกับ Bobbitt แต่ไม่รู้เรื่องสะพาน ขอบคุณมาก จากคุณ : ธนิตา เขียนเมื่อ : 27 ก.ค. 55 19:29:25

ความคิดเห็นที่ 22 เคยเจอเรื่องทำนองโกรธกันไม่พอ  ลากคนอื่นเข้ามาเป็นพวกก็สมัยตอนอยู่สวิตฯ นั่นแหละค่ะ  แล้วก็หญิงไทยด้วย  จริง ๆ แล้วหากอยู่เมืองไทย  คงไม่มีวันได้มาคบกัน  เพราะว่ากรุงเทพฯและประเทศไทยกว้างใหญ่ไพศาล  เราก็คบอยู่กับเพื่อนฝูง เพื่อนร่วมงาน ญาติพี่น้องเท่านั้น เลยทำให้เข็ดฤทธิเดชของหญิงไทยไปพอควร  ตอนย้ายมาอังกฤษก็ไม่อยากคบหญิงไทยอีกเลย  เซ็งมาก ๆ  จริง ๆ แล้วมันก็น่าจะอยู่ที่ตัวบุคคลมากกว่า  แต่โชคร้ายดิฉันไปเจอหลาย ๆ คนมาก ที่มีนิสัยขี้อิจฉาตาร้อน อวดมั่งอวดมีในบรรดาเมียฝรั่งด้วยกัน  เรียกว่าเกทับกันเลยแหละ  สังคมแบบนั้นมันเสื่อมมาก ๆ   อยู่มาภายหลัง  มีเพื่อนหญิงไทยในพันทิปนี่แหละ  เชิญชวนให้มาพบกัน นัดกินข้าวกันที่ลอนดอน  ดิฉันก็ไปนะ  แบบกลัว ๆ กล้า ๆ ระวังตัว  แต่ว่าตอนนี้ไม่เสียใจเลยที่ได้พบกันค่ะ  เพราะว่าได้มีเพื่อนหญิงไทยเพิ่มขึ้น  และก็เป็นเพื่อนที่ดีเสียด้วย  ไม่เคยชักชวนให้ดิฉันไปโกรธใครร่วมด้วยเลยซักครั้งนะ จากคุณ : Amber n the Gang เขียนเมื่อ : 27 ก.ค. 55 20:47:28

ความคิดเห็นที่ 23 คุณ : Amber n the Gang เรื่องเกทับนี่สนุกผมก็มีเหมือนกัน ตอนมาอเมริกาใหม่ๆ คนรุ่นพี่เขาเกทับกัน แต่เขาเป็นเพื่อนกันจนตายไปหมดแล้ว เขาซื้อเครื่องเสียง McIntosh มาแข่งกัน เขามีงานดีมีเงิน ผมพลอยสนุกไปด้วย ผมได้แต่ฟังของเขา หนึ่งในจำนวนนั้นอดีตเคยเป็นหัวหน้าวงเชียร์จ้ำบะของนายหรั่งเรืองนาม (ครับ นานขนาดนั้น) จากคุณ : อิสวาสุ เขียนเมื่อ : 27 ก.ค. 55 21:28:50 A:98.231.188.19 X: TicketID:105627

ความคิดเห็นที่ 24 โอ้โห....คุณพี่อิส  ขนาดรุ่นหัวหน้าวงเชียร์จ้ำบ๊ะนายหรั่งเลยหรือคะเนี่ย  (อันนี้ได้ฟังมาจากแม่นะคะ  เรื่องระบำจ้ำบ๊ะของนายหรั่งเนี่ย  แล้วก็อ่านจาก พล นิกร กิมหงวน ฮ่า ๆ) จากคุณ : Amber n the Gang เขียนเมื่อ : 28 ก.ค. 55 00:50:52

ความคิดเห็นที่ 25 ครับ รุ่นนั้นแหละ แก่กว่าผมหลายปี และตายจากไปหมดแล้ว จากคุณ : อิสวาสุ เขียนเมื่อ : 28 ก.ค. 55 02:25:45 A:98.231.188.19 X: TicketID:105627

ความคิดเห็นที่ 26 โกรธ เคือง อิจฉา ริษยา สอดรู้สอดเห็น แบบละคร น้ำเน่านี่ต้องยกให้คนแถวๆบ้านค่ะ พอกัน ทั้งคนเยอรมัน คนไทย   เช่น พวกเพื่อนบ้าน ไม่ทราบว่าไม่ชอบอะไรเรา หล่อนทำหน้างอ หน้าบึ้ง ตั้งแต่เราย้ายมาละ ไม่ ชอบเราคนเดียวไม่พอ ยุให้บ้านถัดๆไป กลุ่มของ หล่อนห้ามยุ่งกับเราด้วย เอากับเธอสิ พอใครคุยกับ เรา (เจอกันตรงป้ายรถโรงเรียน) แล้วหล่อนมานะ วง แตก ต้องรีบย้ายไปยืนกับหล่อนแทน เท่านั้นยังไม่หนำใจ ห้ามลูกๆพวกเค้าเล่นกับลูกเราอีก ห้ามผ่านหน้าบ้านด้วย จนสามีทนไม่ไหว (ทีแรกเห็นเราบ่นๆร้องห่มร้องไห้ คงคิดว่า เราดราม่า อีนี่เซนซิทีฟกระมัง) ต้องออกโรงไปด่าเพืีอนบ้าน กลุ่มนั้นด้วยตัวเอง ซึ่งก็ไม่ทราบว่า เป็นเพราะเหตุอันใด เราไป ทำไรให้ฟะ เพิ่งรู้จักกันตอนย้ายมาอยู่เอง แถมสามีก้อเป็นเพื่อน สมัยเด็กของพวกสามีหล่อนๆทั้งหลายอีกต่างหาก งง ทุกวันนี้ ผ่านมา 9 ปีแล้ว ยังไม่หาย ถ้ากับเพื่อนร่วมงานฝรั่ง อันนี้ง่าย จบเรื่องงาน แล้วก้อจบ ไม่เหมือนผู้ร่วมงานคนไทย ที่ส่วนมาก (ไม่ใช่ทุกคนนะคะ) เอาเรื่องงานมาเป็นเรืีองส่วนตัว นัวจนแยกไม่ออก สาวชาติที่โกรธง่าย โมโหง่าย และ ฝังใจ อีกชาตินึง คือ สาวยูเครน เจอมาหลายราย อุแม่เจ้า ไม่พอใจอะไรนิด หล่อนชักสีหน้า ปั้นปึงไปหลาย วัน หนักๆหน่อย ก้อลุกมาชี้หน้าด่ากราดเลย เอาน้ำเย็น สาดแถบไม่ทัน ตัวขาวๆ โกรธจนหน้าแดง เจอมาหลายราย เลย พวกคนแถบรัสเซียเนี่ยะ รักพวกเหมือนบ้านเราเลยนะ ถ้าเพื่อนไม่ชอบคนไหน จะโดนแบนจากเพื่อนพ้องของเค้าไป ด้วย ขึ้นแบล็คลิสต์ไปเลย จากคุณ : Annachen เขียนเมื่อ : 28 ก.ค. 55 02:35:53

ความคิดเห็นที่ 27 เรื่องนี้เห็นด้วยว่านิสัยมันสามารถสืบทอดจากการเลี้ยงดู งั้นก็หมายความว่าพ่อแม่นี่แหละเป็นต้นแบบให้ลูกๆ เดี๋ยวนี้หลายบ้านไม่ค่อยมีเวลาอบรมเลี้ยงดู ถ้าให้เด็กๆดูละครหลังข่าว ก็อาจจะเป็นต้นแบบที่ไม่ดีด้วยก็ได้ ไม่รู้ว่าตัวเองสังคมแคบหรือไง พออ่านกระทู้นี้ก็มาคิดว่าเคยเจอมั้ย แบบแค้นฝังหุ่น หรือโกรธข้ามวันข้ามคืน หรือคนที่ชวนคนอื่นมาโกรธด้วย นึกเท่าไรก็นึกไม่ออก จริงๆก็อาจจะมีแหละ แต่เราไม่รู้จัก จากคุณ : pixp เขียนเมื่อ : 28 ก.ค. 55 03:09:13

ความคิดเห็นที่ 28 คุณ : pixp เป็นมงคลกับตัวเองแล้วที่ไม่เจอ จากคุณ : อิสวาสุ เขียนเมื่อ : 28 ก.ค. 55 12:12:49 A:98.231.188.19 X: TicketID:105627

ความคิดเห็นที่ 29 เกี่ยวกับเรื่องของศาสนามั้ยคะ ฝรั่งเค้าสารภาพปาบกันบ่อย ขอให้พระเจ้าให้อภัยอะไรทำนองนี้ ทำให้พวกเค้าคุ้นเคยกับการให้อภัยคนอื่นได้ง่ายกว่าคนไทย จากคุณ : Clotilda เขียนเมื่อ : 29 ก.ค. 55 05:39:16

ความคิดเห็นที่ 30 ไม่โกรธใครเป็นเรื่องเป็นราวค่ะ  มีแต่โมโหนิด ๆ พอไ้ด้อารมณ์  ใครทำให้เกลียดเนี่ยะถือว่าเป็นคนที่แย่มาก ๆ  เกิดมามีคนโดนเกลียดไม่ถึง 3 คนกระมังคะ และไม่ค่อยเคยเห็นผู้หญิงโกรธหรืออาฆาต  ยิ่งอเมริกัน  โกรธกันแป๊บ ๆ เห็นชวนกันไปกิน ไปดื่มแล้ว อาจไม่จริงใจเท่าไหรแต่เห็นกอดคอกันเมาได้หลายคน เห็นแต่ผู้ชายค่ะ  ขี้โมโหและอาฆาต  น่ากลัวนะคะ  ถ้ามีอะไรที่ต้องบังเิอิญไปทำให้โกรธคงตอนหายไปจากชีวิตกันเลย  ก็ต้องระวังหน่อย สตรีที่เห็นเป็นจริงเป็นจังแบบไม่จริงใจมากกว่าค่ะ ตะก่อนมีหลายคนตอนนี้อยู่ห่างแบบห่างหายไปเลย  คบเอาของ  อยากได้ของก็คบ  พอหลัง ๆ ไม่ได้ก็หายไป  และงก  เวลานัดกินข้าวมีเอาของมาร่วมกัน  เอาของตัวมาแต่กินของคนอื่น  และเอาของตัวเองกลับ  อันนี้อึ้งหน่อย ๆ   แต่ไม่ค่อยเห็นที่อาฆาตมาตรร้าย  มีแต่ไม่คุยกันไม่มองหน้ากันไปเลย มีอีกประเภทคบเป็นเพื่อนรุ่นพี่  แต่ถ้ามีอะไรนะคะเราโทรปรึกษา  คราวต่อไปปิดโทรศัพท์หายไปเลย   แหม จริงใจขนาดหนัก อิฉันคงไม่ค่อยฉลาดชอบโดนคนหลอกแบบเสแสร้งแกล้งจริงใจ  ตอนนี้ก็เลยคบอยู่แค่ไม่กี่คน  ขอเป็นเพื่อนดี ๆ แค่ 3-4 คนก็พอแล้ว  เพื่อนเหล่านี้รักนะคะ  รักพอ ๆ กันพี่น้องในครอบครัวเลยค่ะ   ส่วนใหญ่คนต่างชาติค่ะ  คนไทยมีแค่ 2 คนเองที่คบสนิทสุด ๆ  เป็นพี่คนเป็นน้องคน จากคุณ : gift is a present เขียนเมื่อ : 29 ก.ค. 55 10:54:08

ความคิดเห็นที่ 31 ความคิดเห็นที่ 27 ผมคิดว่าศาสนาไม่น่าจะใช่นะครับ ของเราก็มีศีลอยู่เหมือนกันรู้กันทุกคน บางทีศาสนานี่แหละตัวดี จำได้ว่าคู่กรณีย์ของภรรยาผมอ้างถึงว่าเขาเป็นคริสเตียนวูแมนเสียด้วย คนที่เอาศาสนามาอ้าง ไม่ว่าพุทธหรือคริสต์ อย่าไว้ใจมากนัก ผมฟังแล้วคล้ายๆสบถอยู่ดี คุณ : gift is a present เมื่อปีก่อนคนไทยที่รู้จักกันชวนไปกินข้าวที่บ้าน เราทำอาหารไป ไปถึงมีแต่น้ำเปล่า กับพี่สาวและสามีพร้อมเจ้าของบ้านกับสามีและลูกหนึ่งกับสะใภ้ หลังจากนั้นยังไม่เจอกันเลย แต่ได้กินทุกคนเพราะทำข้าวผัดไปมาก ยังขำไม่หายและไม่เคยเจอมาก่อน จากคุณ : อิสวาสุ เขียนเมื่อ : 29 ก.ค. 55 11:53:34 A:98.231.188.19 X: TicketID:105627

ความคิดเห็นที่ 32 ขอยกตัวอย่างความผูกแค้นของหญิงไทย ซึ่งเป็นคุณยายข้างบ้าน สามีมีคุณสมบัติครบ สุรา นารี พาชี กีฬาบัตร หายไปกับผู้หญิงทีนานเป็นเดือนๆ ทิ้งยายให้ลำบากหากินเลี้ยงลูกลำพัง ตอนสามีตาย วันสุดท้ายมีคนมาบอกให้ยายไปเผา ยายนั่งเคี้ยวหมากหยับๆ พูดเนิบๆว่า "อ้าวเรอะ กรูลืมไปแล้วว่าไอ้แหวงมันตาย" เพราะยายเคยประกาศกร้าวนานแล้วว่า ถึงผัวแกตายก็ไม่ไปเผาผี แล้วยายก็ทำไม่รู้ไม่ชี้ จีบหมากพลูต่อไป จากคุณ : jeejeeberry เขียนเมื่อ : 30 ก.ค. 55 21:58:50

ความคิดเห็นที่ 33 เจอมาเหมือนกันคะ ว่า หญิงไทย (บางคน) ในต่างแดน นะเวลาโกรธ นะโกรธนาน โกรธ แบบอาฆาตกันเลยทีเดียว และ โกรธ จากเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ไม่เป็นเรื่องเสียด้วย และ ไม่มีใครยอมใคร ต่างคน ต่างถือศักดิ์ศรี.... และมีการ หาพวกพ้องให้ ร่วมโกรธด้วยนะคะ อันนี้มีจริง และ ไม่เพียงแค่นั้น บางคน ยัง ลากสามีฝรั่ง ที่ไม่รู้เรื่องราว มาร่วมวงอีก ผู้หญิงไทย (บางคน) เวลาไม่พอใจอะไร ก็เก็บโกรธ ไม่ยอมหันหน้ามาพูดกัน กลัวเสียศักดิ์ศรีกันมั้ง มันก็เลยโกรธยาว ข้ามเดือน ข้ามปี หรือ อาจจะตลอดชีวิต และ บางที อีกฝ่าย พยายามพูดด้วยก็ ไม่พูด บางที ขอโทษแล้วก็ไม่ยอมจบ แบบว่า แค้นนี้ฝั่งใจ ส่วนตัวดิฉัน เป็นคน โกรธใครได้ไม่นาน และ แม้จะไม่รู้ว่า ตัวเองผิด หรือ ถูก จะขอโทษ ฝ่ายตรงข้ามไว้ก่อน... ถ้าเขากลับมาคบต่อก็ โอเค ยินดี แต่ถ้า เขาไม่คบต่อ ดิฉันก็อยู่เงียบๆ ต่อไป ดิฉันโกรธกับเพื่อนร่วมงาน ที่ไม่ใช่คนไทย หลายครั้ง เวลาโกรธ ก็ พูดกันตรงนั้น แล้วก็จบ กลับมาคุย กลับมาทำงานร่วมกันต่อ แต่กะคนไทยนี่ แม้เราจะพยายามติดต่อพูดคุย เพื่อปรับความเข้าใจ ตัวต่อตัว เพราะคิดว่า ต่างคน ต่างเข้าใจอะไรผิดหรือเปล่า เขาก็ยังไม่ยอม.. เลยต้องปล่อย จากคุณ : คิดไม่ออกว่า ตัวเองทำไรผิด เขียนเมื่อ : 31 ก.ค. 55 06:53:33 A:122.62.136.170 X: TicketID:369346