ความคิดเห็นที่ 1 เอาคำถามแรกก่อน เข้ายากมากไหม.. ตอบว่ายากมากถึงมากที่สุด LLM Science Law รับ 12 คนต่อปี และคนจะเข้าได้ต้องจบกฎหมายใบนึงมาก่อนแล้วด้วย ที่ผ่านมายังไม่เคยมีคนไทยเข้าไปเรียนโปรแกรมนี้ได้ Stanford Law School นี่เข้ายากที่สุดแล้ว ตั้งแต่มีโรงเรียนมา มีคนไทยจากเมืองไทยไปจบ Graduate Course (ไม่รวม JD ซึ่งไม่มีข้อมูล) แค่ 5 คน ไล่ชื่อได้เลย... เผอิญปีนี้มีคนเก่งสุดๆ ได้ไปคนนึง แต่เป็นโปรแกรมกฎหมายบริษัท เป็นคนไทยคนแรกของโปรแกรมด้วย (Profile น่ากลัวมากๆๆๆ) Stanford นี่เข้ายากที่สุดแล้วหละ ผมรู้จักหลายๆ คน ที่ได้ Harvard แต่ Stanford ไม่รับ.... ข้อสอง มีครับ นักกฎหมาย Bio Law บ้านเราก็มี จริงๆ ก็มี ดร. ท่านนึงรับทุนไปจบเอกไบโอลอว์ชีวภาพ ก็จาก Stanford นั่นแหละ (SPILS+JSD สูงกว่า LLM Biolaw อีก) ถ้าจำไม่ผิดน่าจะเป็นเรื่องเกี่ยวกับกฎหมายพันธุ์ข้าวสักอย่าง... แต่เท่าที่ทราบ เดี๋ยวนี้แกก็ไม่ได้ทำงานทางด้านนั้นแล้ว แต่มาว่าความคดีดังๆ ในหนังสือพิมพ์แทน ผมว่าถ้าเจ้าของกระทู้สนใจจริงๆ เรียนภาคบัณฑิตที่เมืองไทยให้มีพื้นกฎหมายก่อนดีกว่า จะได้รู้ระบบกฎหมายไทยมากขึ้นด้วย จบแล้วจะได้ meet requirement ไปลองสมัครได้ หรือตรงกันข้ามเรียนแล้วอาจจะรู้ระบบบ้านเราจนท้อใจไปเอง เรื่องนี้ต้องคุยกันยาว... ยากมากๆ คุยแล้วก็เหนื่อยใจ ส่วนการจะให้มีการเรียนการสอนในเมืองไทยผมว่าแทบเป็นไปไม่ได้ คิดง่ายๆ ว่าคนที่สอนได้ก็แทบจะไม่มี คนที่อยากเรียนก็มีไม่มากพอ และที่สำคัญจะเอาอะไรมาสอน มืดมนจริงๆ จากคุณ : Lawเก้อ - [ 10 ส.ค. 48 05:53:23 ]

ความคิดเห็นที่ 2 จริงๆ เขียนแล้วก็มัน.. เอาว่าเรื่องรู้กฎหมายพวกนี้แล้วเราจะไม่เป็นทาสเค้านี้ ผมไม่เห็นด้วย ไม่เห็นด้วยจริงๆ ถ้าจขกท.มีพื้นฐานกฎหมายระหว่างประเทศจะเข้าใจได้ดี กฎหมายที่เป็นระหว่างประเทศนี้ กฎที่ราชสีห์ตั้งขึ้นมาจับหาประโยชน์จากหนู พอหนูทำผิดกฎราชสีห์ก็ขยี้สะ แต่พอราชสีห์ผิดกฎเอง หนูอย่างเราๆ จะเอาอะไรไปบังคับให้เค้ารับผิดได้.. ยิ่งราชสีห์พาลๆ แบบอเมริกานี่ตัวดีเลย พอเกิดเรื่องทีเค้าก็บอกโอเค เอาเลยไปฟ้องไปพิสูจน์ได้เลย.. แต่ต้องไปฟ้องที่บ้านเขา คนที่ทำผิดคือเอกชนบ้านเขาซึ่งเขาต้องคุ้มครอง ถ้าเราคิดว่ามีสิทธิดีกว่าก็ไปบอกศาลเขาสิ ศาลเขาจะจัดการให้ เหมือนจะดีเลย แต่เผอิญค่าฟ้องศาลค่าทนายที่โน่นคดีนึงเป็นร้อยล้าน ใช้เวลาเป็นปี เอกชนเราจะเอาตังค์ที่ไหนไปฟ้อง หรือถ้ารัฐจะฟ้องเองก็กลัวแพ้ กลัวเสียเงินภาษีประเทศชาติไปฟรีๆ ทำ Cost Benefit Analysis ค่าฟ้องกับประโยชน์ที่จะได้ดูก็ไม่คุ้มแล้ว สรุปว่าเราก็ต้องยอมโดนรังแกต่อไป ถึงรู้กฎหมายเค้าดีเราก็ไปทำอะไรไม่ได้ ถึงเราจะมีสิทธิ ไม่มีตังค์ไป enforce สิทธิ... หนิ จะพึ่งกลไกระหว่างประเทศก็ไม่ได้อีก เราไม่มีอำนาจต่อรองพอ.... แถมการใช้กฎหมายพวกนี้ในประเทศเองก็มีปัญหา เกิดร่างกฎหมายออกมาได้จริงๆ (ซึ่งก็น่าสงสัย) ใครจะเป็นคนไปบังคับใช้กฎหมาย ต้องมีเจ้าหน้าที่ที่มีความรู้ดี มีทีมงานที่จะลงไปทำ มีงบประมาณมากพอ พอถึงขั้นฟ้องศาล... ศาลก็คงงง... ศาลก็ไม่มีความรู้ด้านนี้ตัดสินกันไม่ถูกอีก กว่าจะสร้างความเชี่ยวชาญให้ศาลได้ใช้เวลากันเป็นสิบปี... ไม่ใช่ง่ายๆ เลย เฮ้อ.... จากคุณ : Lawเก้อ - [ 10 ส.ค. 48 06:14:00 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ไม่ได้เจอกันนานนะครับคุณ Lawเก้อ คงสอบผ่านเรียบร้อยแล้วสินะครับ ? ดร.ท่านนั้นรู้สึกเพิ่งจะไปเป็นคณบดีกฎหมายของ ม.เอกชน แห่งหนึ่ง (ที่กำลังเป็นข่าวอยู่ตอนนี้) จากคุณ : .. (B.F.Pinkerton) - [ 10 ส.ค. 48 12:32:07 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ก็จะลงกฏหมายภาคบัญฑิตดูครับ ไว้ถ้าไม่เหมาะกับตัวเอง ก็คงจะมอง ๆ Bio-business ที่ไหนสักแห่งหรือไม่ก็คงกลับไปเรียนลงลึกด้านเทคโลยีชีวภาพ หรือไม่ก็คงเป็นวิศวกรรมชีวภาพต่อไปครับ บอกตรงครับผมว่ากฏหมายบางตัวผมไม่อยากเรียนเลย เช่น กฏหมายอาญา เป็นต้น รู้สึกมันไม่ค่อยเกี่ยวเท่าไร ก็จะลองพยายามดูครับ ขอบคุณสำหรับความคิดเห็นนะครับ จากคุณ : สาหร่ายเกลียวทอง - [ 10 ส.ค. 48 23:38:36 ]

ความคิดเห็นที่ 5 กฎหมายอาญาไม่เรียนไม่ได้หรอกครับ มันคือพื้นฐานของทุกอย่าง เช่นเรื่องเจตนา เรื่องการตีความเคร่งครัด สมมุติว่ากฎหมายไบโอลอว์ที่คุณสนใจ มีการกำหนดโทษปรับหรือจำคุกผู้กระทำผิด นี่ก็เป็นกฎหมายอาญาแล้ว ต้องกลับไปใช้หลักมันอยู๋ดี... จริงๆ กฎหมายอาญานี่ง่ายที่สุดแล้วนะผมว่า ค่อนข้างตรงไปตรงมา หลักแน่นไม่แกว่งแล้ว เรียนๆ ไปคุณอาจจะชอบก็ได้นะ จากคุณ : Lawเก้อ - [ 11 ส.ค. 48 00:24:29 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ที่เมืองไทยก็มีผู้เชี่ยวชาญด้าน Biolaw นะ อย่างน้องที่ สวทช. ก็มีหลายคนหล่ะ จากคุณ : :-) - [ 11 ส.ค. 48 14:13:08 A:10.226.73.74 X:203.185.133.6 TicketID:078496 ]