ความคิดเห็นที่ 1 เป็นไปได้เหรอเนี่ย ปกติมหาลัยของไทยไม่เคยติดอันดับของ Times เลยนี่คับ จากคุณ : ตี๋น้อยคับ - [ 3 พ.ย. 48 21:45:47 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ผมว่าเขาคิดคะแนนแบบใหม่นี่ถูกต้องแล้วนะครับ..... ถ้าจะเปรียบกับการคิดความฉลาดของคน เมื่อก่อนดูแค่ไอคิว เทียบกับการคิดคะแนนโดยดูจากผลงานวิจัยจากนักวิชาการอย่างเดียว แต่เดี๋ยวนี้มีทั้งอีคิว และอีกหลายๆคิว ก็เปรียบได้กับการรวมความพึงพอใจของนายจ้างและสัดส่วนบุคลากรลงไปด้วย แบบนี้สิถึงจะครอบคลุมมากกว่าเดิม จากคุณ : อืมม... - [ 3 พ.ย. 48 22:18:54 ]

ความคิดเห็นที่ 3 เราว่า แบบนี้ทำให้หลายๆ มหาวิทยาลัยของไทย มีการเร่งปรับตัวเพื่อนที่จะแข่งขันกันในด้านของคุณภาพมากขึ้น ดีนะ ดีกว่าที่ไม่ทำอะไรเลย มัวแต่นั่งกัดกัน กลัวคนอื่นเด่นกว่า อะไรเงี้ยอ่ะ จากคุณ : test - [ 3 พ.ย. 48 22:34:06 A:58.10.131.14 X: TicketID:107062 ]

ความคิดเห็นที่ 4 สายสังคมเราว่ายังงัยก็ มธ สายวิทย์เราว่ายังงัยก็ มหิดลนะ จากคุณ : ไม่เชื่อ times - [ 3 พ.ย. 48 22:37:00 A:58.9.19.191 X: TicketID:103981 ]

ความคิดเห็นที่ 5 #4 ก็เพราะเค้าดูภาพรวมไงคะ เค้าดูทุกวิชาที่คุณเปิดสอน ถ้าเปิด 10 วิชา แต่เก่งอยู่อย่างเดียว มันก็ไม่ติดหรอกมั้งคะ ป.ล. เราไม่ได้อยู่จุฬา แต่ขอแสดงความยินดีกับมหาลัยไทยด้วยค่า ป.ล. 2 - ใครมีฉบับเต็มช่วยเอามาโพสท์หน่อยนะคะ ...อยากเห็นทั้ง 200 อันดับอ่ะ จากคุณ : shory - [ 3 พ.ย. 48 22:53:58 ]

ความคิดเห็นที่ 6 จากที่เคยอยู่จุฬามาแล้วไปเรียนพวก top30บนตารางเดียวกัน จุฬาวิจัยอ่อนมากอะ การสอนก็งั้นๆ ขนาด NUS อาจารย์เขาตีพิมพ์ลง top 10 journals ในเมกาตลอดถี่ๆ เขายังออกมาถ่อมตัวเลยว่ายกเขาสูงเกินไป ยังไม่ถึงขนาดนั้น จุฬา... นิอะไรมีแต่เพิ่มอคติคิดว่าตัวเองดี จากคุณ : H_D - [ 3 พ.ย. 48 23:03:17 A:58.8.249.213 X: TicketID:088429 ]

ความคิดเห็นที่ 7 เหอๆ มหิดลมีสายสังคมแค่ 2 คณะ (ป.ตรีคณะนึง(ศิลปศาสตร์) ป.โท-เอกอีกคณะนึง(มนุษยและสังคมศาสตร์)แถมป.ตรีก็เพิ่งเปิดมาไม่กี่ปี) จะไปวัดภาพรวมได้ไง แต่ถ้าเอาสายวิทยาศาสตร์ รวมๆต่อให้ไม่ต้องแยก สายสุขภาพออกจากสายวิทยาฯ วิศวกรรมก็ได้ วัดยังไง ไม่ว่าทั้งจำนวนศาสตราจารย์ จำนวนผลงานทางวิชาการ มหิดลก็มีมากกว่าจุฬาไม่ต่ำกว่า 2เท่าล่ะครับ จำนวน ศ. ในมหิดล มีจำนวน 60% ของทั้งประเทศอยู่ที่นี่ และจำนวน international paper จากมหิดล ก็มีจำนวนคิดกว่า 50% ของทั้งประเทศไทยเช่นกัน งบประมาณของมหิดล ก็มากที่สุดในประเทศเช่นกัน(ข้อมูลปี 44 จำได้ว่ามากกว่า จุฬา เท่าตัวนะ) จำนวนศ.ระดับ 11 ของคณะวิทยาศาสตร์มหิดลก็มากที่สุดในประเทศเมื่อเทียบกับคณะวิทยาศาสตร์อื่นๆ จุฬาเองน่ะแหละที่ต้องพยายามพัฒนาทางด้านผลงานวิจัยให้มากกว่านี้ เพราะมีไม่ถึง 20% ของทั้งประเทศเลยด้วยซ้ำไม่ถึงครึ่งนึงของมหิดลที่มีคณะไม่กี่คณะเลย เรื่องจริงที่คุณไม่รู้ ไม่ได้อะไรหรอก แค่ยกข้อเท็จจริงให้รู้กันบ้าง เด็กม.ปลายส่วนใหญ่ยังเข้าใจว่า วิทยาจุฬา เจ๋งสุดในประเทศเลยด้วยซ้ำ ทั้งๆที่จำนวนpaper มีไม่ถึงครึ่งของคณะวิทยาฯมหิดล จำนวนศ. ก็น้อยกว่า พอเราเห็นข้อมูลจริงๆ ก็แปลกใจ ที่ทำไมชื่อเสียงมันไม่ได้มาจากผลงานกันหว่า ก็แปลกดี จากคุณ : ....4จุด - [ 3 พ.ย. 48 23:11:06 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ได้ดู rank เต็มๆ แล้ว ค่อนข้างน่าเชื่อถือครับ สังเกตจากยูดังๆจากจีน และอินเดีย อย่าง Tsinghua และ IIT ติดกันครบครัน สำนักอื่นๆ ที่เคยดูมา ไม่เคยมีครบแบบนี้ แต่ Chula แซงหลายๆ ยูเข้าไปได้อย่างไร  ไม่มีความเห็นครับ International comparisons The world's top 200 universities 2005 rank 2004 rank Name Country Peer review score (40%) Recruiter review (10%) Int'l faculty score (5%) Int'l students score (5%) Faculty/ student score (20%) Citations/ faculty score (20%) Overall score 1 1 Harvard University US 100 100 17 23 21 57 100 2 3 Massachusetts Institute of Technology US 84 87 12 41 16 53 86.9 3 6 Cambridge University UK 96 73 65 34 20 16 85.8 4 5 Oxford University UK 93 70 58 37 23 15 83.9 5 7 Stanford University US 78 95 10 30 12 56 83.4 6 2 University of California, Berkeley US 95 62 7 13 7 39 80.6 7 8 Yale University US 71 43 52 27 42 19 72.7 8 4 California Institute of Technology US 48 2 27 41 26 100 71.5 9 9 Princeton University US 69 32 22 30 20 31 64.8 10 27 Ecole Polytechnique France 37 17 47 36 100 4 61.5 11= 52 Duke University US 36 79 24 20 66 10 59.1 11= 11 London School of Economics UK 43 86 99 100 20 1 59.1 13 14 Imperial College London UK 59 15 63 51 34 10 59 14 23 Cornell University US 56 71 11 19 17 23 58.1 15 17 Beijing University China 71 37 7 4 26 0 56.3 16 12 Tokyo University Japan 73 2 2 12 19 17 55.1 17= 20 University of California, San Francisco US 24 0 4 6 91 44 54.9 17= 13 University of Chicago US 52 47 29 29 27 16 54.9 19 22 Melbourne University Australia 66 27 53 36 9 7 54.5 20 19 Columbia University US 56 36 11 32 25 17 53.9 21 10 ETH Zurich Switzerland 49 7 98 35 37 8 53.5 22 18 National University of Singapore Singapore 62 12 94 45 8 7 53 23 16 Australian National University Australia 64 8 52 33 13 13 52.9 24= 30 Ecole Normale Supérieure, Paris France 38 23 26 23 65 9 51.6 24= 21 McGill University Canada 52 48 33 31 23 8 51.6 26 15 University of Texas at Austin US 47 29 9 15 7 54 51.5 27 25 Johns Hopkins University US 50 14 17 20 21 32 50.2 28 34 University College London UK 46 19 45 46 30 10 48.4 29 37 University of Toronto Canada 51 34 40 14 6 22 47.8 30 48 Edinburgh University UK 48 47 33 28 15 10 47.7 31 29 Kyoto University Japan 57 2 20 9 28 10 47.5 32 28 Pennsylvania University US 42 41 20 25 28 15 47.3 33 33 Monash University Australia 55 19 54 49 7 5 46.5 34 32 Ecole Polytech Fédérale de Lausanne Switzerland 22 3 95 65 64 3 45 35 43 Manchester University & Umist UK 43 50 47 23 18 6 44.8 36 31 University of Michigan US 46 32 17 19 17 15 43.9 37 26 University of California, Los Angeles US 52 6 2 11 12 24 43.3 38= 46 University of British Columbia Canada 47 12 63 18 6 17 42.6 38= 40 Sydney University Australia 53 4 53 31 7 8 42.6 40 36 University of New South Wales Australia 50 12 53 34 11 4 42.5 41 39 Hong Kong University Hong Kong 43 19 82 21 17 4 42 42 24 University of California, San Diego US 43 0 3 9 10 43 41.9 43 42 Hong Kong University Sci & Technol Hong Kong 43 12 93 28 7 11 41.8 44 38 Carnegie Mellon University US 37 33 34 40 18 10 40.5 45 47 Heidelberg University Germany 47 12 11 28 14 11 39.6 46 73 Northwestern University US 28 66 4 20 20 16 39.1 47 49 Queensland University Australia 46 8 53 24 8 7 38.5 48 50 Nanyang Technological University Singapore 38 12 95 53 7 2 38.2 49 91 Bristol University UK 28 63 40 25 13 10 37.2 50 41 Indian Institutes of Technology India 44 11 1 1 10 20 37 51 84 Chinese University of Hong Kong Hong Kong 37 12 73 17 14 6 36.4 52 67 Auckland University New Zealand 45 0 20 25 18 2 35.8 53 78 Delft University of Technology Netherlands 35 3 55 17 25 3 35 54 75 Boston University US 41 3 10 22 16 10 34.9 55 99 Munich University Germany 39 24 11 21 11 8 34.8 56 79 New York University US 36 15 5 18 24 6 34.4 57 64 Erasmus University Rotterdam Netherlands 27 32 19 13 5 31 34 58= 109 Washington University, St Louis US 25 14 6 17 28 22 33.7 58= 98 Amsterdam University Netherlands 36 14 18 18 12 14 33.7 58= 35 University of Illinois US 39 16 12 16 11 9 33.7 61 59 Purdue University US 36 28 25 20 8 8 33.6 62= 129 Helsinki University Finland 39 15 12 5 16 7 33.4 62= 61 Tsing Hua University China 42 4 25 10 18 1 33.4 64 130 Pennsylvania State University US 34 21 2 1 11 21 33.3 65 94 Vienna University Austria 40 3 26 26 4 14 33.1 66 63 Copenhagen University Denmark 39 13 20 4 15 5 32.8 67 68 Macquarie University Australia 34 22 53 42 4 5 32.7 68 45 Massachusetts University US 38 0 1 12 7 23 32.5 69 - IEP Sciences Po, Paris France 19 16 25 50 43 - 32.2 70 83 Eindhoven University of Technology Netherlands 20 3 33 7 54 2 32 71 61 Brown University US 27 6 39 19 19 16 31.9 72 195 Fudan University China 35 26 13 6 17 1 31.3 73= 96 King's College London UK 27 17 45 28 17 6 31.1 73= 86 Rochester University US 24 9 10 24 32 13 31.1 73= 66 University Wisconsin-Madison US 36 0 0 14 17 11 31.1 76 - Brussels Free University (French) Belgium 29 3 31 41 20 6 30.9 77= 93 Hebrew University of Jerusalem Israel 36 0 5 13 5 22 30.8 77= 80 Warwick University UK 30 21 50 37 7 4 30.8 79 92 Lomonosov Moscow State University Russia 42 3 10 7 11 3 30.7 80= 96 University of Western Australia Australia 29 12 53 29 10 8 30.4 80= 56 Adelaide University Australia 33 0 53 30 8 8 30.4 82 55 RMIT University Australia 35 0 53 62 4 1 30.3 83 128 Durham University UK 24 38 46 22 9 9 30 84 - Indian Institutes of Management India 33 24 2 7 21 - 29.9 85 - Zurich University Switzerland 22 0 65 22 29 5 29.6 86 77 Vienna Technical University Austria 33 7 31 32 11 3 29.5 87 113 University of Technology, Sydney Australia 35 4 53 37 4 1 29.4 88= - Geneva University Switzerland 12 3 93 57 29 7 29.2 88= 74 Washington University US 28 0 16 10 14 22 29.2 88= 57 Pierre and Marie Curie University France 31 0 25 36 15 6 29.2 88= - Catholic University of Leuven (French) Belgium 32 5 17 26 9 12 29.2 92 - Ecole Normale Supérieure, Lyon France 16 0 30 18 39 16 29.1 93= 154 China University of Sci & Technology China 33 4 6 0 27 1 28.9 93= 118 Seoul National University South Korea 39 0 3 5 14 4 28.9 95= - Catholic University of Leuven (Flemish) Belgium 24 10 48 20 23 4 28.8 95= 195 National Autonomous Univ of Mexico Mexico 33 9 3 1 25 0 28.8 97 170 Nottingham University UK 22 38 39 30 10 6 28.7 98 142 La Trobe University Australia 34 0 53 26 6 3 28.6 99 51 Tokyo Institute of Technology Japan 30 0 6 16 22 10 28.5 100 58 Sussex University UK 28 0 44 28 15 7 28.4 จากคุณ : GTi 16V - [ 3 พ.ย. 48 23:32:17 ]

ความคิดเห็นที่ 9 101= 112 Glasgow University UK 26 27 18 15 13 8 28.3 101= 76 Curtin University of Technology Australia 30 0 54 63 4 1 28.3 103= 133 Leeds University UK 27 22 30 26 10 6 28.2 103= 44 School of Oriental and African Studies UK 20 2 51 74 23 - 28.2 105= 118 Virginia University US 24 29 7 11 13 14 28 105= 95 Technical University Munich Germany 27 12 11 30 16 9 28 105= 69 Osaka University Japan 28 0 7 8 23 12 28 108 - Wageningen University Netherlands 16 3 28 47 29 12 27.9 109= 137 York University UK 28 5 37 28 12 7 27.8 109= 88 Case Western Reserve University US 20 11 4 22 23 19 27.8 111 87 Trinity College, Dublin Ireland 31 14 17 21 5 8 27.6 112= 125 Humboldt University Berlin Germany 32 0 11 18 16 4 27.4 112= 100 Queen Mary, University of London UK 24 3 44 35 18 4 27.4 114= 156 Vanderbilt University US 18 12 2 14 32 14 27.2 114= 102 National Taiwan University Taiwan 36 0 4 1 15 3 27.2 114= 85 Gttingen University Germany 33 0 11 17 12 7 27.2 117 138 Dartmouth College US 19 19 15 16 21 15 27.1 118 - Queensland University of Technology Australia 34 0 53 21 3 2 27 119 151 Liverpool University UK 25 14 35 21 11 8 26.9 120 120 Utrecht University Netherlands 27 3 33 5 12 13 26.8 121= - Chulalongkorn University Thailand 33 16 11 1 12 0 26.7 121= 116 Michigan State University US 31 11 11 12 8 9 26.7 121= 71 Université Paris 1 Panthéon Sorbonne France 38 0 13 26 4 - 26.7 124 180 University of Southern California US 25 12 7 28 17 9 26.6 125= 162 La Sapienza University, Rome Italy 39 0 5 5 4 5 26.5 125= 105 Texas A&M University US 30 9 14 13 6 13 26.5 127= - Basel University Switzerland 12 0 88 28 26 10 26.4 127= - University of Newcastle Australia 30 0 53 25 5 5 26.4 129 167 Nagoya University Japan 21 0 9 13 35 6 26.3 130 103 Bath University UK 18 35 47 34 7 7 26.2 131 132 University Louis Pasteur Strasbourg France 24 3 25 35 11 12 26.1 132 177 Université de Montréal Canada 25 6 55 11 5 13 26 133= - Lausanne University Switzerland 17 2 53 26 27 6 25.9 133= 134 Maryland University US 22 15 18 16 13 13 25.9 133= - HEC Paris France 15 46 77 30 8 - 25.9 136= 153 Tohoku University Japan 26 0 7 11 19 11 25.7 136= 70 St Andrews University UK 19 11 39 48 13 8 25.7 138= 131 Leiden University Netherlands 22 8 25 15 14 14 25.6 138= 127 Aarhus University Denmark 27 6 28 7 12 9 25.6 138= 101 Oslo University Norway 29 0 25 16 13 5 25.6 141 173 Emory University US 16 15 1 12 30 13 25.5 142 157 Frankfurt University Germany 33 0 11 17 7 6 25.3 143= 160 Korea Advanced Inst of Sci and Tech South Korea 26 0 22 4 7 19 25.2 143= 150 Sheffield University UK 21 16 34 27 12 7 25.2 143= 126 Birmingham University UK 21 17 36 30 10 8 25.2 143= 117 North Carolina University US 21 14 9 8 13 19 25.2 147= - Hiroshima University Japan 26 0 7 8 25 4 25.1 147= 65 Georgia Institute of Technology US 27 8 5 28 8 11 25.1 149 166 University of Alberta Canada 24 2 52 11 13 7 25 150= 192 Nanjing University China 34 0 12 5 11 1 24.8 150= - St Gallen University Switzerland 2 14 85 59 37 - 24.8 150= 146 Rice University US 20 5 14 23 19 14 24.8 150= 82 University of Minnesota US 25 3 10 12 8 19 24.8 154= - University of South Australia Australia 27 0 53 49 4 1 24.7 154= 145 Technical University of Denmark Denmark 23 0 21 24 10 15 24.7 154= 60 Technical University Berlin Germany 30 7 11 25 6 5 24.7 157= - Hokkaido University Japan 28 0 3 7 16 9 24.5 157= 123 Maastricht University Netherlands 16 5 39 44 20 7 24.5 159= 186 Bologna University Italy 34 0 7 9 7 3 24.4 159= 165 Georgetown University US 19 26 9 17 15 11 24.4 159= 143 University of Waterloo Canada 21 11 75 13 9 5 24.4 159= 72 University of California, Santa Barbara US 24 0 10 6 6 23 24.4 163 107 Colorado University US 23 0 17 7 17 13 24.3 164 104 Tufts University US 15 11 13 18 16 22 24.2 165 164 Innsbruck University Austria 21 0 44 47 8 9 24 166= 161 Tasmania University Australia 24 0 53 29 6 5 23.8 166= 110 Chalmers University of Technology Sweden 24 0 18 16 20 4 23.8 168 179 Newcastle upon Tyne University UK 17 20 34 32 13 7 23.6 169= - Shanghai Jiao Tong University China 25 26 15 5 10 0 23.5 169= - Novosibirsk State University Russia 16 0 2 9 45 - 23.5 169= 89 Malaya University Malaysia 33 0 12 7 8 1 23.5 172= - Free University Berlin Germany 28 0 11 17 9 6 23.3 172= - Kobe University Japan 24 5 9 9 21 3 23.3 172= 184 Aachen RWTH Germany 25 12 11 24 11 4 23.3 175= 136 State Univ of New York, Stony Brook US 24 0 7 15 11 15 23.2 175= 90 Alabama University US 18 0 4 7 7 32 23.2 177 191 Nijmegen University Netherlands 17 3 38 11 25 5 23.1 178 198 City University of Hong Kong Hong Kong 19 0 100 9 8 4 22.7 179 - Notre Dame University US 18 24 17 14 13 8 22 180= - Toulouse 1 France 18 0 25 32 26 0 22.5 180= 171 Lund University Sweden 24 0 15 16 13 7 22.5 180= 140 Uppsala University Sweden 24 0 27 8 7 11 22.5 183 159 Madrid Autonomous University Spain 29 0 5 9 9 6 22.2 184= - Korea University South Korea 28 0 7 2 15 1 22.1 184= 147 McMaster University Canada 18 8 10 16 7 21 22.1 186= - Free University of Amsterdam Netherlands 17 3 32 14 13 13 22 186= 114 Otago University New Zealand 22 0 31 21 15 3 22 188= - Tel Aviv University Israel 25 0 1 1 5 18 21.9 188= 108 Massey University New Zealand 23 0 62 20 5 2 21.9 190 - Gothenburg University Sweden 14 0 27 2 1 37 21.8 191 - University of Western Ontario Canada 11 46 28 12 6 13 21.7 192 - Jawaharlal Nehru University India 29 0 3 6 10 3 21.5 193 - Pittsburgh University US 15 0 23 10 23 11 21.3 194= 176 Helsinki University of Technology Finland 22 0 11 11 20 2 21.1 194= 158 Technion - Israel Inst of Technology Israel 23 2 7 1 10 12 21.1 196= - São Paulo University Brazil 28 0 10 3 8 3 21 196= 122 Royal Institute of Technology Sweden 19 0 54 22 9 5 21 198 - Showa University Japan 8 0 7 19 45 3 20.9 199= - University of Florence Italy 28 0 6 5 5 6 20.8 199= - George Washington University US 22 9 5 14 13 4 20.8 199= - Wake Forest University US 12 8 3 6 28 11 จากคุณ : GTi 16V - [ 3 พ.ย. 48 23:32:45 ]

ความคิดเห็นที่ 10 น่าภูมิใจจังเลยคับ Thailand แซงมหาลัยดังๆขึ้นไปได้เยอะขนาดนี้ จากคุณ : ตี๋น้อยคับ - [ 3 พ.ย. 48 23:47:15 ]

ความคิดเห็นที่ 11 CU is better than USC and Georgia Tech?? There's somthing definitely wrong with the ranking! จากคุณ : at your service - [ 3 พ.ย. 48 23:51:16 A:129.65.176.159 X: TicketID:067043 ]

ความคิดเห็นที่ 12 สกอ. ตื่น “จี้” จัดอันดับม.ทั่วประเทศ – งานวิจัย อ. หลังจุฬาฯ ครองอันดับ 121 ม.โลก   หลังจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงห่วงสถาบันอุดมศึกษาในเรื่องอาจารย์ และงานวิจัย ประกอบกับการที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยได้รับการจัดอันดับจาก The Times Higher ฉบับวันที่ 2 พ.ย.2548 ของนิตยสารไทมส์ ประเทศอังกฤษ ให้อยู่ในลำดับที่ 121 สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา ถึงได้ออกมาบอกจะเร่งจัดระดับและอันดับมหาวิทยาลัยทั่วประเทศพร้อมเร่งงานวิจัยอาจารย์จากมหาวิทยาลัย             หลังจากที่สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงห่วงการศึกษาในระดับอุดมศึกษาทั้งเรื่องของคุณภาพอาจารย์ผู้สอนและงานวิจัย บวกรวมกับการที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ติดอันดับที่ 121 จากการจัดอันดับมหาวิทยาลัยชั้นนำของโลก 200 อันดับแรก ประจำปี 2548 ของ The Times Higher ฉบับวันที่ 2 พ.ย.2548 ของนิตยสารไทมส์ ประเทศอังกฤษนั้น สกอ.ถึงได้ออกมาเร่งรัดการจัดอันดับมหาวิทยาลัยในไทย             ศ.พิเศษ ดร.ภาวิช ทองโรจน์ เลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา ให้ความเห็นว่าประเทศไทย และการอุดมศึกษาไทย ต้องขอบคุณจุฬาฯ ที่พาสถาบันอุดมศึกษาไทยไปถึงจุดนี้             เมื่อเร็ว ๆ นี้ ตัว ดร.ภาวิชเอง ได้พบกับผู้ที่จัดอันดับมหาวิทยาลัยชั้นนำของโลกของนิตยสารไทมส์ และระบุว่า       การจัดอันดับในปีนี้ เป็นการรายงานที่น่าเชื่อถือที่สุด ทั้งนี้จะเห็นได้ว่า จุฬาฯ ติดอันดับที่ 121 เท่ากับมหาวิทยาลัยชื่อดังของโลกอีก 2 แห่ง ได้แก่ มหาวิทยาลัยมิชิแกน สเตท ของสหรัฐอเมริกา และมหาวิทยาลัยปารีส ของฝรั่งเศส             อย่างไรก็ตาม แม้จุฬาฯ จะติดในการจัดอันดับดังกล่าว แต่ก็ยังมีจุดอ่อนโดยเฉพาะในเรื่องของผลงานวิจัย ซึ่งจุฬาฯ ได้ 0 คะแนน ในส่วนนี้ มหาวิทยาลัยไทยจึงพึงสังวรณ์ไว้ว่า อาจารย์ต้องสร้างงานวิจัยมากขึ้น             นอกจากนี้ศ.พิเศษ ดร.ภาวิช ยังกล่าวอีกว่า ขณะนี้ สกอ. ได้เตรียมจัดระดับมหาวิทยาลัยไทย โดยจำแนกประเภทตามสาขาต่างๆ รวมทั้งวิจัยสภาพการเรียนการสอนด้านวิทยาศาสตร์กายภาพ และวิทยาศาสตร์ชีวภาพ คาดว่าภายใน 1 ปีนี้ จะนำไปสู่การจัดอันดับมหาวิทยาลัยไทยได้             ขณะนี้ สกอ. ได้ขอให้มหาวิทยาลัยรัฐ และเอกชนในสังกัด ส่งข้อมูลนักศึกษา อาจารย์ และหลักสูตรให้ สกอ. ภายในวันที่ 15 พ.ย.นี้ เพื่อนำมาวิเคราะห์ในการจัดระดับ ขณะนี้ทยอยส่งข้อมูลให้ สกอ. ร้อยละ 70 ซึ่งการวิจัยเพื่อจัดระดับ และจัดอันดับมหาวิทยาลัยไทยครั้งนี้ ก็เพื่อจะได้รู้ว่าตัวเองเป็นอย่างไรบ้าง เช่นเดียวกับที่มหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้-เจียงเทา ของจีน ที่ติดอันดับ 169 ของโลก ได้จัดอันดับมหาวิทยาลัยในเอเชีย เพื่อจะได้รู้ว่าอยู่ตรงไหน และต้องแข่งกับใครบ้าง เพื่อไปอยู่ในอันดับต้น ๆ ของการจัดอันดับมหาวิทยาลัยโลก             เลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา กล่าวด้วยว่า ทั้งนี้ ในงานวันครูโลก สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงปฏิสันถารเกี่ยวกับการศึกษากับผู้บริหารกระทรวงศึกษาธิการ ในส่วนของอุดมศึกษานั้น ทรงรับสั่งเรื่องอาจารย์ และงานวิจัย ทรงรับสั่งว่า อุดมศึกษาน่าเป็นห่วง และทำอะไรได้ยากกว่าการศึกษาขั้นพื้นฐาน             ซึ่งขณะนี้ นายจาตุรนต์ ฉายแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ได้จี้เรื่องนี้มากขึ้น โดยสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา หรือ สกอ. มีโครงการเมกะโปรเจกต์ 2.8 หมื่นล้านบาท เพื่อให้ผู้ที่เรียนหลังปริญญาเอก ประมาณ 10,000 คน ทำวิจัย สร้างเครือข่ายงานวิจัย สร้างหลักสูตรปริญญาเอก และสร้างอาจารย์ปริญญาเอกเพิ่ม เชื่อว่าจะเยียวยาความอ่อนแอของอุดมศึกษาไทยได้ จากคุณ : ตี๋น้อยคับ - [ 4 พ.ย. 48 00:00:54 ]

ความคิดเห็นที่ 13 อืม ถ้าคุณ สงสัย ก็น่าจะไปถาม Time โน่นน่ะครับว่าทำไม มันสูงกว่า USC และ Georgia Tech....เพราะ นิตยสารนี้มันก็ของฝรั่ง .นี่ขนาด ของฝรั่งจัดยัง สงสัยกันขนาดนี้ ถ้าเป็นของ คนไทยจัด จุฬามีหวังโดนเละ หาว่ากินบุญเก่า  เล่นเส้น  ยัดเงินอีก.... แก้ไขเมื่อ 04 พ.ย. 48 00:16:32 จากคุณ : รอสโซเนรี่ - [ 4 พ.ย. 48 00:03:13 ]

ความคิดเห็นที่ 14 I agree with you, No. 13. จากคุณ : I'm an observer - [ 4 พ.ย. 48 00:11:30 A:58.10.131.14 X: TicketID:107062 ]

ความคิดเห็นที่ 15 Me too I agree with No. 13. Congratulations CU. จากคุณ : Benz (BenzSiam) - [ 4 พ.ย. 48 00:45:18 ]

ความคิดเห็นที่ 16 แสดงคามยินดีด้วยครับถึงแม้ไม่จบจุฬา แต่ก็เป็นเรื่องน่าคิดลองอ่านดูครับ 121= - Chulalongkorn University Thailand 33 16 11 1 12 0 26.7 จุฬาฯได้คะแนนจากการสอบถามผู้เชี่ยวชาญในสาขาต่างๆ จากทั่วโลก 33 คะแนน จาก 100 คะแนน คะแนนสอบถามผู้จ้างผู้ประกอบการซึ่งใช้บัณฑิต 16 คะแนน การแลกเปลี่ยนนักศึกษาและอาจารย์ต่างประเทศได้ 11 คะแนน จำนวนนักศึกษาต่างประเทศได้ 1 คะแนน สัดส่วนอาจารย์ต่อนักศึกษา และคุณภาพการเรียนการสอนได้ 12 คะแนน และผลงานวิจัยของอาจารย์ที่ถูกนำไปอ้างอิงฯไม่ได้คะแนน น่าคิดมากนะครับสำหรับประเทศไทย  ... งานวิจัยที่ถูกนำไปใช้อ้างอิงไม่ได้คะแนน ..ฝากไว้แค่นี้ครับ แก้ไขเมื่อ 04 พ.ย. 48 03:20:51 จากคุณ : suomen - [ 4 พ.ย. 48 02:02:29 ]

ความคิดเห็นที่ 17 I try to be constructive in responding to #11’s question. ‘Ranking schools in the same country is not easy but ranking schools with different educational system is almost impossible” Truth be told that this “Times Higher Education (LONDON,UK)” does measure the ‘visibility’ or ‘reputation’ of universities by garnering the opinions from some people in academia and rank them altogether. BUT IT DOES NOT in any sense use the ‘clear’ empirical data on academic measures such as ‘journal publication’ ‘teacher quality’ ‘student quality’ ‘school resource’ and other essential yardsticks for academic quality. So it is quite a misnomer to say that one school is 'better' than others based on this ranking. In the light of 'visibility issue', it is however, more correctly to view schools as ‘more or less visible’ than others from the viewpoint of certain people (including those people from Asian countries who were eligible to vote- Beijing U, Chula, NUS are no surprise,  famous choices among them). But it does not give any hint about the quality of the institutions being ranked ( although it is likely that the ‘more visible schools tend to have better academic quality’. But you can not just make a conclusion from that.) All in all, I think this ranking gives nothing more than the ‘visibility’ of this obscure newspaper. At least now people have to get into its website and subscribe for the membership and being bombarded with the ads (in order to see the details). P.S. I always suggest Rajabat Institute do the world ranking as well. Believe me, whether it is a good rank or a bad one, once it emerges, people across the globe will come and see and it becomes a buzz. Ranking universities internationally is such an easy way to get a world-class recognition. Any Rajabat people out there? P.S. Constuctive debate is welcome! Vulgarity is not ( sorry to mention that I had had some bad experience from exchanging with some people in another room about it that I don’t feel like risking myself of being a target of obscenity, I know people here are more civilized though..so here I go) แก้ไขเมื่อ 04 พ.ย. 48 03:24:28 จากคุณ : B.F.Pinkerton - [ 4 พ.ย. 48 03:17:21 ]

ความคิดเห็นที่ 18 จุฬาอันดับสูงกว่า USC ผมมีเพื่อน 2 คน เพื่อนคนนึงจบโทจุฬาบริหารสตาร์เงิน เดือน 30000 บาท อีกคนจบโทMBA USC สตาร์ทเงินเดือน 120,000 บาท แสดงว่าอันดับไม่ได้ช่วยอะไรเลยนี่นา จากคุณ : jamex - [ 4 พ.ย. 48 03:42:51 A:67.122.136.216 X: TicketID:066715 ]

ความคิดเห็นที่ 19 Precisely my point, if even Thai companies who know CU very well, still recognize a degree form USC as better than a degree from CU, then there is something wrong with the ranking. I have great respect for CU, but it's no reason to pad ourselves in the back to be able to get on a ranking such as this one. The type of ranking like this has little value, except increasing the sales of the ranking magazine. Some universities now start to be wary about participating in these rankings, because it actually distracts people from doing their real academic jobs. จากคุณ : at your service - [ 4 พ.ย. 48 04:43:22 A:129.65.176.184 X: TicketID:067043 ]

ความคิดเห็นที่ 20 คห.7 คุณเขียนแบบนั้น เพราะ คุณใช้ความรู้สึกของคุณ หรือฟังใครต่อใครพูดมา โดยไม่หาว่าความจริงเป็นแบบนั้นหรือเปล่า ข้อเท็จจริงและสิ่งที่เค้าพูดต่อ ๆ กันมามันอาจไม่จริงทั้งหมดก้อได้ ในสายวิทยาศาสตร์ แน่นอนต้องนึกถึง มหิดล เป็นอันดับแรก แต่ที่คุณกล่าวมามันเกินไปนิด ระยะห่างของมหิดลกับจุฬามันไม่ห่างขนาดเท่าที่คุณบอกหรอก เพราะเท่าที่ดูจากตัวเลขที่เค้ารายงานไว้มันเป็นแบบนี้ ข้อมูลจำนวน ศาสตราจารย์ ของประเทศไทย ปี 2547 รวม 314 คน 1. มหาวิทยาลัยมหิดล 133 คน ( 6 October, 2004 เหลือ 119 ท่าน ) 2. จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย 64 คน 3. มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ 29 คน 4. มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ 23 คน 5. มหาวิทยาลัยขอนแก่น 18 คน 6. มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ 11 คน 7. มหาวิทยาลัยศิลปากร 10 คน 8. มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ 8 คน 9. มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ 5 คน 10.มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี 3 คน 11. สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง สถาบัน บัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) 3 คน 12.มหาวิทยาลัยนเรศวร มหาวิทยาลัยรามคำแหง มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช และสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ สถาบันละ 1 คน ผลงานการตีพิมพ์ของนักวิจัยไทยในฐานข้ออมูล SCI, ISI (ณ วันที่ 10 มีนาคม 2548) ช่วงปี ค.ศ. 1995-2003 1 มหาวิทยาลัยมหิดล (23.3%) 2 จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย (14.8%) 3 มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ (7.2%) 4 AIT (5.6%) 5 มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์(5.5%) 6 มหาวิทยาลัยขอนแก่น (4.4%) 7 มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ (4.2%) 8 มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี(2.7%) 9 มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (1.8%) 10 มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ (1%) 11 มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี (1%) 12 สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าลาดกระบัง(0.9%) 13 มหาวิทยาลัยศิลปากร (0.6%) 14 มหาวิทยาลัยนเรศวร (0.5%) 15 มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีมหานคร (0.5%) 16 มหาวิทยาลัยรามคําแหง (0.5%) 17 มหาวิทยาลัยรังสิต (0.3%) 18 มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี ( - ) 19 สถาบันเทคโนโลยีราชมงคล ( - ) 20 มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ ( - ) 21 มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช (-) เฉพาะ ค.ศ. 2004 (ณ วันที่ 30 มีนาคม 2548) ประเทศไทยผลิตบทความวิจัยได้จํานวน 2,398 บทความ เมื่อทําการวิเคราะห์ สรุปผลได้ ดังนี้ รายชื่อสถาบัน / มหาวิทยาลัย 5 อันดับแรกที่ผลิตบทความวิจัยได้สูงสุด คือ 2.1 มหาวิทยาลัยมหิดล พบผลิตบทความ 477 บทความ 2.2 จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย “ 418 “ 2.3 มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ “ 211 “ 2.4 มหาวิทยาลัยขอนแก่น “ 100 “ 2.5 มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ “ 100 “ ดังนั้น ที่คุณพูดว่า 1. จำนวนศาสตราจารย์ จำนวนผลงานทางวิชาการ มหิดลก็มีมากกว่าจุฬาไม่ต่ำกว่า 2 เท่า ---> มีประมาณ 2 เท่า จำนวน international paper จากมหิดล ก็มีจำนวนคิดกว่า 50% ของทั้งประเทศไทย --------> มีประมาณ 25 % ของทั้งประเทศ 2.จำนวน ศ. ในมหิดล มีจำนวน 60% ของทั้งประเทศอยู่ที่นี่ ---------> มีประมาณ 40 % ของประเทศ 3.งบประมาณของมหิดล ก็มากที่สุดในประเทศเช่นกัน(ข้อมูลปี 44 จำได้ว่ามากกว่า จุฬา เท่าตัวนะ) ----> ไม่มีปีไหนที่รัฐบาลให้งบ มหิดล เกิน จุฬา ถึงเท่าตัวหรอกนะ ปี 2546 มหิดลได้ 14.19% จากงบทั้งหมด ขณะที่จุฬาได้ 12.35% ปีล่าสุด ร่างงบประมาณกระทรวงศึกษาธิการปี 2549 ร่างงบประมาณมหาวิทยาลัยต่าง ๆ 1. มหาวิทยาลัยมหิดล 6,063,641,000 บาท 2. จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย 4,587,134,000 บาท 3. มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ 2,865,295,000 บาท 4. มหาวิทยาลัยขอนแก่น 2,837,517,200 บาท 5. มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ 2,717,401,000 บาท 4.จุฬาเองน่ะแหละที่ต้องพยายามพัฒนาทางด้านผลงานวิจัยให้มากกว่านี้ -----------> ถูกต้องและเห็นด้วยอย่างที่สุด 5. ผลงานวิจัยไม่ถึงครึ่งนึงของมหิดลที่มีคณะไม่กี่คณะเลย ----> ถูกต้อง แต่คุณลืมอะไรไปบางอย่าง ถ้านับแค่คณะในมหาวิทยาลัยมหิดล ที่ไม่มีในจุฬา คือ คณะครุศาสตร์ คณะจิตวิทยา คณะนิติศาสตร์ คณะนิเทศศาสตร์ คณะพานิชยศาสตร์ฯ คณะรัฐศาสตร์ คณะเศรษฐศาสตร์ คณะศิลปกรรมศาสตร์ คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ รวม 9 คณะ คณะที่จุฬาฯไม่มีแต่มหิดลที คือ คณะเวชศาสตร์เขตร้อน คณะสังคมศาสตร์และมนุษยศาสตร์ คณะสาธารณสุขศาสตร์ คณะสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรศาสตร์ 4 คณะ แต่มหิดลได้รับงบประมาณมากกว่าจุฬานะการที่มีคณะเยอะ แต่งบน้อยกว่า ย่อมส่งผลให้งานวิจัยลดลงกว่าอย่างแน่นอน ปล.นี่คือข้อมูลจริงที่มีการยืนยันได้ทั้งหมด มิได้นั่งเทียนเขียนแน่นอน จากคุณ : ขอแจมด้วยคน - [ 4 พ.ย. 48 05:51:02 A:58.8.185.167 X: TicketID:099055 ]

ความคิดเห็นที่ 21 Rank 121 is no big deal. CU should target Top 50. จากคุณ : hvacboy - [ 4 พ.ย. 48 05:57:51 ]

ความคิดเห็นที่ 22 จะแข่งกับ us news เหรอครับ จากคุณ : praphrut608 - [ 4 พ.ย. 48 06:39:11 ]

ความคิดเห็นที่ 23 133 จากคุณ : Hawks - [ 4 พ.ย. 48 07:44:25 A:216.47.142.216 X: TicketID:087142 ]

ความคิดเห็นที่ 24 even though my school is within top 25 , i dont believe this rank. it is quite difficult to compare all universities in different countries. จากคุณ : my 2cents - [ 4 พ.ย. 48 07:56:00 A:70.49.125.31 X: TicketID:075150 ]

ความคิดเห็นที่ 25 ประทานโทษครับ จำนวนงานวิจัยที่มหิดลตีพิมพ์นี่ เป็นผลงานของนักเรียน หรือของอาจารย์(ศาสตราจารย์)? ศาสตราจารย์มหิดลที่ไม่ใช่บุคคลากรทางการแพทย์ คิดเป็นสัดส่วนกี่เปอร์เซนต์ของทั้งหมด? จากคุณ : ช่างไฟ - [ 4 พ.ย. 48 08:25:29 ]

ความคิดเห็นที่ 26 Ditto to 24. From #19 The type of ranking like this has little value, except increasing the sales of the ranking magazine. Some universities now start to be wary about participating in these rankings, because it actually distracts people from doing their real academic jobs. It is very true, I hope others will understand it. Ranking has been quite hurtful to academic. Just recently, Harvard Business School & Wharton decided not to provide data to Business Week Ranking anymore and hope that other top schools will join forces. And in the past, former Stanford President, Gerhard Casper, one of the great educators had battled publicly against USNews College Ranking. I wholeheartedly support the increase in R&D of universities and other well-intentioned initiatives for the betterment of Thai universities, but it is quite tantalizing to see our administrators from both university and higher ed commission joyfully dance along the music played by one obscure newspaper that nobody in higher ed really cares. แก้ไขเมื่อ 04 พ.ย. 48 09:01:31 จากคุณ : . (B.F.Pinkerton) - [ 4 พ.ย. 48 08:58:38 ]

ความคิดเห็นที่ 27 -------------------------- Quote of the moment -------------------------- "You can lead a man up to the university, but you can't make him think." -Finley Peter Dunne จากคุณ : ... - [ 4 พ.ย. 48 09:21:11 A:70.17.249.61 X: TicketID:072648 ]

ความคิดเห็นที่ 28 ปีนั้น หลายๆมหาวิทยาลัยมีการเปลี่ยนแปลงอันดับกันเยอะ ไม่ได้จบจากจุฬาฯ แต่ก็ขอแสดงความยินดีด้วย ... แก้ไขเมื่อ 04 พ.ย. 48 13:29:34 แก้ไขเมื่อ 04 พ.ย. 48 13:24:56 จากคุณ : Hidden Dragon - [ 4 พ.ย. 48 13:14:05 ]

ความคิดเห็นที่ 29 UMass หลุด Top 50 แล้ว ... จากคุณ : Cartony - [ 4 พ.ย. 48 13:25:14 ]

ความคิดเห็นที่ 30 ตอนนี้อยู่จุฬาฯ แต่ทางสายสังคมศาสตร์ เท่าที่เรียนมา 1 ปี เพราะเพิ่งเข้า ก็ถือว่าใช้ได้ เพราะ แทบจะเรียกได้ว่า เรียนอินเตอร์ ก็ว่าได้ ไม่ได้พูดเว่อนะคะ เพราะ ใช้ text เรียนเยอะมากๆๆๆๆๆๆๆๆ และ ข้อสอบก็ออกเป็นภาษาอังกฤษ ไม่ต้ำกว่า 50 - 70 percent มาบอกแค่นี้ละคะ เพราะ ดูจาก Ranking แล้ว ก็ถือว่าโอ เพราะ TIMES เป็นผู้จัด rank ไม่ใช่คนไทยจัดกันเอง ถ้าคนไทยจัดกันเอง คงโดนเละกว่านี้ ในเมื่อ ได้ ขนาดนี้ก็ ถือว่า โอละนะคะ ในความเห็นส่วนตัว คะ จากคุณ : คะ - [ 4 พ.ย. 48 18:04:45 A:210.86.131.240 X: TicketID:107950 ]

ความคิดเห็นที่ 31 ดีใจค่ะ ภูมิใจที่มีสายเลือดสีชมพูค่ะ จากคุณ : งามสรรพ - [ 4 พ.ย. 48 19:53:40 ]

ความคิดเห็นที่ 32 #20 ข้อมูลที่ผมยกมาคือข้อมูลจากศาสตราสโมสรครับ(อาจเขียนชื่อผิด) ซึ่งรวบรวมรายชื่อของศาสตราจารย์ทั้งหมดที่ยังมีชีวิตอยู่ในประเทศไทย บางท่านอาจจะเกษียณไปแล้ว แต่ก็ถูกนับไปด้วยเพราะยังเป็นอาจารย์พิเศษอยู่เป็นประจำ ตัวเลขเลยมากกว่าของคุณเยอะ น่ะครับ รวมไปถึงจำนวนของศ.ระดับ 11ด้วย แต่ข้อมูลผมมันเมื่อหลายปีก่อน แต่คิดว่าปัจจุบันตัวเลขระยะห่างก็ไม่น่าเปลี่ยนแปลงไปมากนักหรอก ส่วนงบประมาณ ผมจำไม่ได้ว่าปี 43 หรือ 44 นะครับแต่จำได้ปีนั้น มหิดลได้ 6พันล้าน จุฬาได้ 3พันล้าน(ตัวเลขเศษผมจำไม่ได้ ซึ่งส่วนนั้นก็อาจทำให้ไม่ถึงเท่าตัวอย่างที่คุณบอกจริงๆ ผมรับผิดครับ) แต่รายจ่ายของมหิดลในแต่ละปี ไม่ต่ำกว่า 1.1หมื่นล้านบาท ซึ่งรายจ่ายส่วนเกินนั้น มหิดลต้องหาเองทั้งหมดอยู่แล้ว มหิดลมี รพ. ทั้งหมด 4โรง [รามาฯ ศิริราช เวชศาสตร์เขตร้อน และใหม่หมาดๆ กาญจนาภิเษก ศาลายา]ซึ่งต้องดูแลรายจ่ายเองทั้งหมด ซึ่งรายจ่ายส่วนนี้แหละครับ ที่กินงบไปมาก มากกว่างบวิจัยเยอะ หากจะบอกว่า คณะน้อยกว่าแต่ได้งบเยอะก็คงไม่ถูก เพราะแต่ละคณะ/รพ.นั้น รายจ่ายส่วนอื่นนอกเหนือการเรียนการสอนต้องเรียกว่ามหาศาลเช่นกัน แม้มหิดลเหมือนจะเด่นแต่บุคลากรสายวิทยาศาสตร์สุขภาพ แต่ทางสาย Pure&Applied science ของคณะวิทยาศาสตร์นั้นก็นับว่าเป็นอันดับ 1 เช่นกัน (ขี้เกียจยกจำนวนมาแล้วเดี๋ยวผิดอีก #20 ช่วยไปค้นมาที แต่ค่อนข้างมั่นใจว่า วิทยาฯมหิดลก็ยังมากกว่าวิทยาฯจุฬา ทั้งจำนวนศ. /ศ.11 และจำนวนผลงานวิจัย) ยอมรับว่าตัวเลขอาจผิดเพี้ยนไปเพราะก็ผ่านมาจากหลายสื่อ(ทั้งคนเล่ามา/หนังสือ/เอกสาร)และข้อมูลก็หลายปีแล้วไม่ update (ดีที่ผมไม่ยกข้อมูลสิบกว่าปีที่แล้วมาที่ ผลงานวิจัยมหิดลมากกว่าจุฬา 3เท่า) รวมไปถึง Bias ส่วนตัว(ยอมรับ) แต่ข้อเท็จจริงก็คือ ทางด้านวิชาการแล้ว มหิดล ยังเป็นอันดับ1 ไม่ใช่สถาบันที่หลายคนเข้าใจว่าเป็น แต่ถ้านับโดยรวมทุกคณะแล้ว ในประเทศไทยก็คงหาสถาบันไหนเทียบ จุฬาได้ยากจริงๆ ที่ออกมาพูด เพราะบางทีไปคุยกับเด็กม.ปลาย ก็ตกใจน่ะครับ เขาว่า วิดยาจุฬาเจ๋งที่สุด หรือคณะทางการแพทย์สถาบันนั้นเจ๋งสุด อืม วัดกันทางไหนหว่า สงสัยจะวัดกันที่คะแนน ent อย่างเดียวจริงๆ! แก้ไขเมื่อ 04 พ.ย. 48 20:16:34 จากคุณ : ....4จุด - [ 4 พ.ย. 48 19:59:16 ]

ความคิดเห็นที่ 33 เห้อ !!!! ดูจากเด็กที่เอ็นเข้าไปก็รู้ อาจารย์จุฬาฯ บางคนก็ไปสอนที่มหาวิทยาลัยอื่นนะ อยากบอก ของเค้าดีไม่จำเป็นต้อง โปรโมท อิอิ จากคุณ : กึ๋ย - [ 4 พ.ย. 48 20:55:44 A:210.86.130.23 X: TicketID:107950 ]

ความคิดเห็นที่ 34 ยินดีด้วยกับจุฬาฯ ครับ .. จากคุณ : zizi lazy - [ 4 พ.ย. 48 22:15:51 ]

ความคิดเห็นที่ 35 คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาฯและมหิดล มี 14 ภาควิชาเท่ากัน ภาควิชาที่มหาวิทยาลัยทั้ง 2 เปิดเหมือนกัน คือ ชีววิทยา ชีวเคมี พฤกษศาสตร์ จุลชีววิทยา ฟิสิกส์ คณิตศาสตร์ เคมี ภาควิชาที่มหิดลมี จุฬาไม่มี ได้แก่ พยาธิชีววิทยาเภสัชวิทยา สรีรวิทยา กายวิภาคศาสตร์ เทคโนโลยีชีวภาพ คอมพิวเตอร์ ภาษาต่างประเทศ ภาควิขาที่จุฬามี แต่มหิดลไม่มี ได้แก่ เคมีเทคนิคเทคโนโลยีทางอาหาร ธรณีวิทยา วัสดุศาสตร์ วิทยาศาสตร์ทางทะเล วิทยาศาสตร์ทั่วไป วิทยาศาสตร์ทางภาพถ่ายฯ เมื่อเทียบกันดูแล้วคุณเห็นอะไร ส่วนตัวเห็นว่าคณะวิทยาศาสตร์ทั้ง 2 แห่งนี้ต่างกันค่อนข้างชัดเจน โดยถ้าดูจากภาควิชาที่ทั้ง 2 เปิดต่างกัน จะเห็นว่า - มหิดล จะเน้นทางวิทยาศาสตร์ชีวภาพมากกว่ากายภาพ - จุฬาฯ จะเน้นทางวิทยาศาสตร์กายภาพมากกว่าชีวภาพ คณะวิทย์มหิดล ถือได้ว่าเป็นคณะวิทย์ที่มี ศ./จำนวนงานวิจัยที่มากกว่าคณะวิทย์แห่งอื่น ๆ เป็นเรื่องจริง โดยภาพรวมต้องยกให้คณะวิทย์ มหิดลเป็นคณะวิทย์ที่ดีที่สุดแน่นอน และเคยอ่านเวปของจุฬาฯ ซึ่งทางจุฬาฯ เองก็ยอมรับว่าทางด้านวิทยาศาสตร์ชีวภาพนั้น จุฬาฯ ไม่ใช่ที่ 1 แน่นอน ส่วนเรื่องงานวิจัยนั้น ต้องยอมรับอีกอย่างว่า มหิดลเป็นมหาวิทยาลัยแรก ๆ ที่ประกาศตัวว่าจะเป็น Research university ซึ่งเค้าก็ทำได้ดีมาก แต่มามองจุฬาฯ ซึ่งมีนโยบายเหมือนกันที่จะเป็น research u. เมื่อประมาณ 10 ปีที่แล้วมั้ง แต่เพิ่งจะเป็นรูปเป็นร่างเมื่อ 2-3 ปีนี้เองที่เห็นนโยบายของจุฬาฯ เร่งเป็น research u. จึงไม่แปลกถ้าจะดูจำนวนงานวิจัยก่อน ๆ ที่มหิดลทิ้งจุฬาขาดลอย แต่เมื่อเทียบดู 1-2 ปีนี้ จะเห็นว่าจุฬาฯถีบตัวเองในเรื่องงานวิจัยได้ดีทีเดียว ทำให้ช่องว่างของผลงานวิจัยนั้นน้อยลงไปบ้าง ต้องชื่นชม ศ.ดร.คุณหญิง สุชาดา กีระนันท์ ที่ให้ความสำคัญกับระบบงานวิจัยขึ้นกว่าแต่ก่อนอย่างเห็นได้ชัด ส่วนตัวแล้วยกย่องว่า ถ้านับภาพรวมของสาขาวิทยาศาสตร์ชีวภาพแล้วนั้น คงปฏิเสธไม่ได้ว่า มหิดล เป็นมหาวิทยาลัยที่เก่งที่สุดทางด้านนี้ ส่วนสาขากายภาพนั้นกำกึ่ง คงต้องไปดูกันเองระหว่างจุฬาฯ เชียงใหม่ มหิดล มอ.และ มข. เพราะความเห็นส่วนตัวและเท่าที่รู้มาทางวิทย์กายภาพนั้น เชียงใหม่กับจุฬาฯ สูสีกันเหลือเกิน เคยดูคุณวุฒิ/ตำแหน่งทางวิชาการของบุคลากรในสาขาฟิสิกส์เค้าสรุปมาประมาณว่า เชียงใหม่ดีสุด รองมา คือจุฬา และ มหิดล แต่ไม่รู้ตอนนี้เปลี่ยนหรือยังนะ ไม่รับรองนะ ส่วนเคมี/เคมีเทคนิค นั้น จุฬาก็แรงไม่เบาเหมือนกัน ขอพูดเท่าที่รู้นะ ที่ไม่รู้คงไม่พูด เพราะไม่อยาก bias ปล. ขอชื่นชม คุณ....4จุด อย่างมาก ที่ใช้เหตุและผลในการวิเคราะห์ข้อมูลเป็นที่ตั้ง ไม่ใช่ใช้อารมณ์และความรักสถาบันมาเถียงโดยไร้เหตุผล ( เหมือนบางบอร์ด ) คนเป็นนี้ถึงเรียกว่า ปัญญาชน ที่แท้จริง เป็นบุคคลที่สมแล้วที่เป็นบัณฑิตของมหิดล (ไม่ทราบว่าจบจากไหนขอเดาว่ามหิดลนะ) ขอชื่นชมจากใจจริง จากคุณ : คห.20 - [ 5 พ.ย. 48 01:10:05 A:58.8.183.201 X: TicketID:099055 ]

ความคิดเห็นที่ 36 ....4จุด... ...อย่าทำเป็นเว่อไปว่าน้องๆม ปลายเค้าเลยครับ.. สมัย ม ปลาย..ไม่มีใครเค้าบ้าไปนั่งเปิดหา หรอกว่า ศ/ศ11..แต่ล่ะมหาลัยมีกี่ท่าน  วารสาร ที่ได้รับการตีพิมพ์แต่ล่ะมหาลัย มีเท่าไหร่ งบประมาณ เท่าไหร่..แค่อ่านหนังสือเอ็น มันก็แทบจะบ้าตายอยู่แล้ว...ที่เลือกๆกันก็ มาจาก  ความชอบครับ จากคุณ : รอสโซเนรี่ - [ 5 พ.ย. 48 15:34:23 ]

ความคิดเห็นที่ 37 ขอบคุณที่ให้ข้อมูลครับ #20 เพราะตอนนี้ผมก็ไม่มีเอกสารอะไรมายืนยันชัดๆทุกเรื่องเช่นกัน ส่วนตัวคิดว่ามหิดลยังมีจุดด้อยหลายอย่างเช่น คณะที่เพิ่งเปิดใหม่ในมหิดลในช่วงสิบกว่าปีมานี้ หลายๆคณะยังไม่ได้พัฒนาหรือได้รับการสนใจจากผู้บริหารเท่าที่ควร เช่น คณะวิศวะมหิดล ซึ่งยังไม่มีผลงานเด่นชัดและได้รับงบประมาณน้อยมากเมื่อเทียบกับคณะอื่นๆในสถาบัน ทั้งๆที่ผลงานวิจัยหลายอย่างของคณะวิศวะ ได้นำจุดเด่นที่สถาบันอื่นไม่มีหรือมีน้อยมาใช้ เช่นการวิจัยเกี่ยวกับอุปกรณ์ทางการแพทย์ หรือเทคโนโลยีทางการแพทย์ของภาควิชา Biomedical Engineering(ป.โท) ซึ่งนับว่าเป็นเรื่องใหม่ของประเทศไทย (ก็ไม่ใหม่มาก แต่บุคลากรสาขานี้ยังน้อย)และงานวิจัย/senior project หลายๆอย่างของป.ตรีในภาควิชาต่างๆ ก็มีการร่วมมือกันระหว่างหลายคณะ ซึ่งน่าสนใจและให้ความสนับสนุน กลับกันคณะเปิดใหม่ทางสายวิทยาศาตร์สุขภาพอย่างคณะ สัตวแพทย์ ซึ่งเปิดมาได้ 7ปี ก็ถีบตัวขึ้นอยู่ในTop 3 ของแวดวงนี้ได้อย่างไม่ยากเย็น ก็อยากติงผู้บริหารว่า เสริมจุดแข็งแล้วก็อย่าลืมพัฒนาจุดด้อยด้วย ถ้าอยากเป็นสถาบันแห่งการวิจัยอย่างแท้จริง ส่วนตัวสิ่งที่อยากพูดจริงๆ คือแต่ละสถาบันมีจุดแข็งจุดด้อย ในรายละเอียดแต่ละคณะ /ภาควิชา แตกต่างกัน บางคณะในสถาบันชื่อไม่ดังอาจเก่งกว่าในสถาบันดังๆก็มีมาก ซึ่งสมควรมองเป็นจุดๆ ไม่ใช่มองแต่ภาพรวมเพียงอย่างเดียว เพราะจะทำให้ไม่เห็นปัญหาและหลงคิดว่าพัฒนาดีพอแล้ว และสำหรับเด็กม.ปลายที่จะเลือกเพื่อเข้าเรียนต่อได้ทราบข้อมูลจริงๆ ว่า สาขาวิชาที่ตนสนใจนั้น คณะไหน สถาบันไหนมีความสามารถในเชิงวิชาการจริงๆ เพื่อจะได้เลือกเข้าเรียนโดยอาศัยพื้นฐานจากข้อเท็จจริงทางวิชาการ ไม่ใช่อาศัยความชอบหรือทัศนคติจากคนรอบข้างเพียงอย่างเดียว (ตัวผมเองตอนม.ปลาย ตอนแรกผมไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามหิดลเปิดคณะอย่างอื่นนอกจากหมอ !) ซึ่งจะเป็นผลดีต่อตัวผู้เรียนเองในอนาคตครับ จากคุณ : ....4จุด - [ 5 พ.ย. 48 17:45:50 ]

ความคิดเห็นที่ 38 Rockefeller foundation helped Mahidol greatly.  Please do remember that. จากคุณ : pitor (pitor) - [ 6 พ.ย. 48 00:37:00 ]

ความคิดเห็นที่ 39 จุฬาชื่อดีโดยรวมครับ เพราะมีคณะครบทุกสาย และทุกคณะก็ถือว่าดีเลยด้วย แต่ในสาขาเฉพาะทางก็สู้ที่อื่นๆ ไม่ได้ (รู้ๆ กันอยู่เนาะ) บางทีมันเป็นเรื่องของมุมมองและค่านิยมครับ แต่ที่ติดอันดับนี่ก็ถือว่าเยี่ยมไปเลยครับ ต่างชาติจะได้ยอมรับวงการการศึกษาของบ้านเราบ้าง จุฬาไปแล้วหนึ่งที่อื่นๆ จะได้อัพเกรดตัวเองด้วยไง ผมมองอย่างเป็นกลางนะครับ เพระผมเองก็มีสายเลือดทั้งจุฬา, มหิดลและเกษตร จากคุณ : silane - [ 6 พ.ย. 48 01:02:27 ]

ความคิดเห็นที่ 40 #38 ใช่ครับ ทั้งศิริราชและรามาฯล้วนได้รับการสนับสนุนจากทุนนั้นเป็นหลัก ในตอนก่อตั้งทั้งทางด้านเงินและวิชาการ ก็ถือว่าน่ายินดีนี่ครับ ลูกพระบิดาทุกคนล้วนสำนึกในบุญคุณเป็นอย่างดี ว่าแต่มันก็ไม่ได้เกี่ยวว่าความสามารถทางวิชาการจะด้อยลงเพราะมีการสนับสนุนจากข้างนอกนี่นา ถึงได้เงินแค่ไหนแต่ถ้าตัวเองทำไม่ได้ก็ไม่มีประโยชน์อะไรครับ และในปัจจุบันรายได้หลักทางการเงินก็มาจากตัวสถาบันเองไม่ใช่จากภายนอก ยกเว้นความร่วมมือทางวิชาการที่เราก็ยังร่วมมือกับหลายๆที่อยู่แล้ว ทั้งนี้ทั้งนั้น สถาบันอื่นๆเองก็มีการร่วมมือและสนับสนุนทางการเงินและวิชาการกับทางกลุ่มทุน/มูลนิธิจากต่างประเทศเช่นกัน ไม่ใช่เรื่องแปลกแต่เป็นเรื่องที่น่าสนับสนุนและมีการตรวจสอบการใช้เงิน/การสนับสนุนให้โปร่งใส เพื่อที่จะได้ทำให้มันคุ้มค่าจริงๆ ว่านอกเรื่องหัวข้อกระทู้ไปหน่อยแล้วแฮะ จากคุณ : ....4จุด - [ 6 พ.ย. 48 11:35:28 ]

ความคิดเห็นที่ 41 ได้มา มิสู้ รักษาไว้ เอาใจช่วยทุกมหาวิทยาลัยไทย ขออย่าหยุดยั้งการพัฒนา เพื่ออนาคตของชาติไทยนะคะ จากคุณ : CU (Renka) - [ 6 พ.ย. 48 15:14:42 ]

ความคิดเห็นที่ 42 ... วิทยาฯ จุฬาฯ มี "สาขาเทคโนโลยีชีวภาพ" นะคะ แต่ยังไมได้แยกออกมาจากภาควิชา "เทคโนโลยีทางอาหาร" อะ ... จากคุณ : GATACA - [ 6 พ.ย. 48 21:42:47 ]

ความคิดเห็นที่ 43 #20 เหมือนอิจฉาอะไรหรือเปล่า ขอโทษที่พูดตรง แต่อ่านแล้วรู้สึกแบบนั้นจริงๆ หัวข้อกระทู้เค้าพูดถึงเรื่องที่นิตยสารฝรั่งจัดอันดับให้จุฬาอยู่ทอป 200 แต่มหิดลไม่ติด (ซึ่งก็ไม่ได้มีใครพูดหรือพาดพิงถึงมหิดลอะไร) แต่คุณมาตะโพงข้อมูลเรื่องวิทยามหิดลดีกว่าจุฬาอะไรอยู่ได้ก็ไม่รู้ ซึ่งก็ไม่เห็นเกี่ยวไร  เพราะเค้าจัดแรงค์จากภาพรวมหลายคณะ และถึงเค้าจะแรงค์วิทยาว่าจุฬาดีกว่า คุณก็น่าจะไปแย้งกะเค้าเอง ไม่ใช่มาด่าว่าจุฬาไม่ดี เราว่ามันไม่ถูก เราไม่ได้จบจุฬานะ แต่สงสารมหาลัยนี้ อะไรๆก็โดนด่า คนอื่นชมก็โดนด่า  เห็นมาประจำ นานแล้ว จากคุณ : Queen of hearts - [ 7 พ.ย. 48 20:06:12 ]

ความคิดเห็นที่ 44 คห43ครับ ความเห็น20นี่เค้าไม่ได้พูดอะไรว่ามหิดลดีกว่าจุฬานะครับ เค้าเข้ามายืนยันด้วยตัวเลขสถิติเพื่อแก้ต่างหาก เข้าใจอะไรผิดรึเปล่าครับเนี่ย จากคุณ : บรึ๋ยศักดิ์ - [ 8 พ.ย. 48 02:27:34 ]

ความคิดเห็นที่ 45 คห.43 เข้าใจอะไรผิดหรือเปล่า เราไปอิจฉาอะไรใครที่ไหน เรากำลัง discuss กับคุณ....4 จุด อยู่ เราไปว่าว่า๕ระวิทยาศาสตร์จุฬาฯไม่ดีตรงไหน ชี้มาเลย เราแค่เปรียบเทียบว่า คณะวิทย์ของจุฬาฯและมหิดลมีจุดที่แตกต่างกันตรงไหน ซึ่งเป็นการ disscuss ต่อจากความเห็น ของคุณ ....4 จุด ในความเห็นที่ 32 คุณอ่านไม่เข้าใจ แล้วยังมาตีโพยตีพายอีก พอดีต้องเข้ามาตอบ เพราะไม่ค่อยชอบคนที่เข้ามาว่าโดยไม่มีเหตุผล ถ้าคุณคิดว่า เราเขียนผิดตรงไหน และมีเหตุผลโต้แย้ง ก็บอกมาเลย เราจะให้มา discuss กัน แต่ถ้าจะมาหาเรื่อง นี่ไปไกล ๆ เลย คนไร้เหตุผล ไม่ชอบ แล้วจะบอกให้ ความเห็นเรา ในบอร์ดนี้มี 3 อันรวมอันนี้ได้แก่ 1. คห.ที่ 20 เป็นการ discuss กับความเห็นที่ 7 2. คห.ที่ 35 เป็นการ discuss กับ ความเห็นที่ 32 3. อันนี้ เป็นการตอบขอสงสัยคุณ ในความเห็นที่ 43 แล้วนี่ อันดับทั้งหมด เค้าจัดแยกแต่ล่ะสาขาด้วย เราจะ discuss สาขาทางวิทย์มันเป็นการอิจฉาตรงไหน อันดับมหาวิทยาลัย 2005 จัดโดย THE TIMES HIGHER EDUCATION SUPPLEMENT UK. มีหลายอัน คือ - The world's top 200 universities ---> จุฬาติดอันดับที่ 121 - The rest of the world's top 50 universities ---> จุฬาติดอันดับที่ 35 - The world's top 100 biomedicine universities ---> จุฬาติดอันดับที่ 82 - The world's top social science universities ---> จุฬาติดอันดับที่ 46 - The world's top 100 technology universities ---> จุฬาติดอันดับที่ 100 - The world's top arts and humanities universities ---> ไม่มีมหาวิทยาลัยไทยติดอันดับ - The world's top 100 science universities ---> ไม่มีมหาวิทยาลัยไทยติดอันดับ จากคุณ : คห.20+35 - [ 8 พ.ย. 48 02:59:42 A:58.8.243.116 X: TicketID:099055 ]

ความคิดเห็นที่ 46 คุณคห 20 ประเด็นกระทู้นี้เกี่ยวกับเรื่องที่จุฬาติดอันดับ ซึ่งก็เป็นเรื่องน่ายินดีสำหรับคนไทย คุณเบี่ยงประเด็นไปเรื่อง มหิดล กับเรื่อง คณะวิดยา ทำไม เพื่ออะไร ไม่เข้าใจ งง จากคุณ : แจม - [ 8 พ.ย. 48 15:15:20 A:203.152.15.3 X: TicketID:030771 ]

ความคิดเห็นที่ 47 >>โดยภาพรวมต้องยกให้คณะวิทย์ มหิดลเป็นคณะวิทย์ที่ดีที่สุดแน่นอน (คห 35) แล้วอันนี้มั่วมาจากไหนล่ะ จากคุณ : แจม - [ 8 พ.ย. 48 15:24:24 A:203.152.15.3 X: TicketID:030771 ]

ความคิดเห็นที่ 48 คห.46 และ 47 การที่เราพูดถึงคณะวิทยาศาสตร์ของมหิดลและจุฬาเพราะว่า คุณ....4 จุด คห.ที่32 บอกว่า "แม้มหิดลเหมือนจะเด่นแต่บุคลากรสายวิทยาศาสตร์สุขภาพ แต่ทางสาย Pure&Applied science ของคณะวิทยาศาสตร์นั้นก็นับว่าเป็นอันดับ 1 เช่นกัน (ขี้เกียจยกจำนวนมาแล้วเดี๋ยวผิดอีก #20 ช่วยไปค้นมาที แต่ค่อนข้างมั่นใจว่า วิทยาฯมหิดลก็ยังมากกว่าวิทยาฯจุฬา ทั้งจำนวนศ. /ศ.11 และจำนวนผลงานวิจัย)" เค้าบอกให้เรายกตัวอย่าง ทำให้เราต้องยกตัวอย่างให้เห็นถึงข้อแตกต่างของคณะวิทย์ทั้ง 2 มาให้คุณ 4 จุดดู ซึ่งมันเป็นประเด็นต่อเนื่องมา ใครเบี่ยงประเด็นอะไร ใครอิจฉาอะไร แล้วที่บอกว่า "โดยภาพรวมต้องยกให้คณะวิทย์ มหิดลเป็นคณะวิทย์ที่ดีที่สุดแน่นอน" อ่านประโยคก่อนหน้าที่เราเขียนไหม ว่าดูจากจำนวนศาสตราจารย์และจำนวนงานวิจัย ซึ่งคณะวิทย์มหิดลมีมากกว่าจุฬาฯแน่นอน มั่วตรงไหน มีเหตุผลกันหน่อยสิ หรือจะเถียงว่า จำนวน ศ./จำนวน paper ของวิทย์จุฬามากกว่า ก็เข้ามายืนยันกันหน่อย จุฬาติดอันดับอันนี้เป็นเรื่องน่าภูมิใจแน่นอน ไม่มีใครมานั่งเถียงหรอก แต่ยอมรับกันหน่อยว่าจุฬาฯก็ต้องปรับปรุงด้านสาขาวิทยาศาสตร์เหมือนกัน เพราะเห็นมา 2 ปี จุฬาก็ไม่ติดอันดับ The world's top 100 science universities หรือเราจะพอใจแค่ติด 1ใน 200 จากคุณ : คห.20 - [ 8 พ.ย. 48 17:12:27 A:58.8.184.122 X: TicketID:099055 ]

ความคิดเห็นที่ 49 สงสัย #43กับ #46 เขาจะมีอคติจนมึนไปหน่อยว่าผิดคน เพราะคนที่ยกมาว่าผลงานทางวิชาการและจำนวนศาสตราจารย์มหิดลดีกว่าจุฬา คนแรกก็คือผม อืม คุณ#20เขา ยกข้อเท็จจริงมาถกเถียงกันให้เห็น ว่าจริงๆจุฬาไม่ได้แพ้มหิดลเยอะขนาดนั้นสักหน่อย แปลกใจที่หลายคนมองกลับกันไปหาว่า #20 discredit ก็แปลกดี เหอๆ ขนาดยกข้อเท็จจริงเป็นตัวเลขที่ตรวจสอบได้มาพูด ก็ยังมีคนปิดหูปิดตาหาว่ามั่วอีกแน่ะ อย่างนี้เมื่อไรจะทันเขาล่ะครับ มหิดลกับจุฬา ถ้านับศักดิ์ศรีแล้วก็ไม่ต่างกันถือเป็นสถาบันระดับต้นๆของประเทศ มหาวิทยาลัยที่เปิดอย่างเป็นทางการก่อนก็คือจุฬาฯ  แต่คณะที่มีการเรียนการสอนระดับอุดมศึกษาครั้งแรกในประเทศไทย ก็ศิริราชฯ แต่ต่างสถาบันต่างก็พยายามยกตัวเองขึ้นเป็นสถาบันแห่งการวิจัยและพัฒนาความรู้เช่นกัน แต่ก็มีจุดเด่นจุดด้อยในแต่ละสาขาวิชาต่างกัน การที่จะพัฒนาตัวเอง เราต้องเข้าใจตัวเองก่อนครับว่า เราด้อยตรงไหนเด่นตรงไหน ก็เลยยกมาdiscuss กันไม่ใช่ปิดหูปิดตา คิดว่าเป็นที่ 1แล้วทั้งหมด ใครมาว่าไม่ใช่ คืออิจฉา? ส่วนเรื่องติดอันดับไม่ติด ผมไม่แน่ใจว่ามหิดลได้เข้าร่วมหรือไม่ เพราะเมื่อหลายปีก่อน สมัย Asiaweek ที่ยังไม่เจ๊งจัดอันดับ มหิดลกับจุฬาก็ไม่เข้าร่วมเพราะไม่มั่นใจในระบบการให้คะแนน แล้วก็มีสถาบันนึงจากไทยติดอันดับ แล้วก็มีคนมาพูดข่มว่า สถาบันดังๆดันไม่ติดอันดับ สถาบันฉันเจ๋งกว่า ก็คล้ายๆกันนี่แหละ มองโดยภาพรวมมันมองไม่เห็นข้อเท็จจริงสักเท่าไรหรอกครับ ก็ยอมรับว่าพานอกเรื่องไป แต่อย่างที่บอกไปแล้วว่าเจตนาคืออยากให้นักเรียนนักศึกษาที่คิดจะศึกษาต่อ ได้หาข้อมูลข้อเท็จจริงมาตัดสินใจมากกว่าแค่ค่านิยมและความชอบส่วนตัวที่ไม่ได้มีพื้นฐานมาจากความเป็นจริงทางวิชาการครับ เพราะอนาคตของคุณแท้ๆ จะเอาข่าวลือ+อคติมาเลือก ก็แล้วแต่ละกันครับ จากคุณ : ....4จุด - [ 8 พ.ย. 48 19:33:14 ]

ความคิดเห็นที่ 50 จากคุณ : ตี๋น้อยคับ - [ 9 พ.ย. 48 08:48:34 ]

ความคิดเห็นที่ 51 นึกมาตลอดที่อ่านมา แล้วก้อเจอคนที่คิดแบบเดียวกัน อย่างที่คุณช่างไฟ ความเห็น 25 บอก ว่าศาสตราจารย์ของมหิดลที่ไม่ได้มาจากสายการแพทย์มีกี่คนกันเหรอครับ ตัดศิริราช กับรามาฯ ออกไป นี่เหลือกี่คนเหรอครับ ไม่ว่าอันดับที่จัดมาจะน่าเชื่อถือมากน้อยแค่ไหนก็ตาม ผมก็ไม่เห็นว่าสิ่งที่อธิการบดีจุฬาฯออกมาพูด เป็นการยกตนเองตรงไหน ที่ผมเห็นก็คือ มีแต่คนที่คอยแต่จะหมั่นไส้ผู้อื่นตลอดเวลา อันเป็นนิสัยคนไทยนั่นเอง จากคุณ : super-ter - [ 9 พ.ย. 48 21:29:42 A:161.200.255.161 X: ]

ความคิดเห็นที่ 52 คห.49 ทั้งจุฬาและมหิดลเคยร่วมจัดอันดับ Asiaweek มาก่อน ก่อนที่จะถอนตัวไปในปี 2000 ปี 1997 50 อันดับแรก มี 36.Thammasat University 44.Chulalongkorn University ปล. ปี 1997 ลำดับที่ 42 ถึงลำดับ 50 ไม่มีข้อมูลด้านอื่น ๆ ยกเว้นการเป็นที่ยอมรับทางวิชาการจากมหาวิทยาลัยอื่น ซึ่งรวมถึงจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยของไทยด้วย ปี 1998 50 อันดับแรก มีมหาวิทยาลัยติด ดังนี้ 19 Chulalongkorn University 41 Thammasat University 42 Mahidol University ปี 1999 อันดับมหาวิทยาลัยเป็น ดังนี้ 29 Chulalongkorn University 38 Thammasat University 39 Mahidol University 44 Prince of Songkla University 66 Chiang Mai University ปี 2000 จุฬาฯและมหิดลไม่เข้าร่วม 51 Thammasat University Multi-Disciplinary 53 Prince of Songkla University Multi-Disciplinary 59 Khon Kaen University Multi-Disciplinary 62 Chiang Mai University Multi-Disciplinary 63 Kasetsart University Multi-Disciplinary จากคุณ : คห.20 - [ 10 พ.ย. 48 03:12:42 A:58.8.184.48 X: TicketID:099055 ]

ความคิดเห็นที่ 53 กลายเป็นกระทู้อะไรไปแล้วเนี่ย อ่านความเห็น  คุณ Queen of Hearts ทีแรกก็ยังงงๆ พึ่งเข้าใจครับ  คุณมองทะลุจริงๆ  ผมเข้าใจทีแรกว่า เขาเด็กจุฬามาแย้ง  ไปๆ มาๆ  อ้าว จากคุณ : GTi 16V - [ 10 พ.ย. 48 07:29:18 ]

ความคิดเห็นที่ 54 Totally agree with #39 krab. You have a good reasoning จากคุณ : noppann - [ 10 พ.ย. 48 09:23:46 ]

ความคิดเห็นที่ 55 จากความคิดเห็นที่ 39 ที่บอกว่า จุฬา ในสาขาเฉพาะทางก็สู้ที่อื่นไม่ได้ คือ ไม่ค่อยเห็นด้วย เพราะการเรียนในระดับอุมศึกษาของทุกมหาลัยถือว่าเป็นการเรียนเฉพาะทาง ซึ่งถ้าบอกว่าจุฬาสู้ที่อื่นไม่ได้ ฟังดูแล้วตลกและดแย้งกับความเป็นจริง  คณะแพทย์ศาสตร์ วิศวกรรมศาตร์ วิทยาศาสตร์ ครุศาตร์ หรือ อักษรศาสตร์ ของจุฬาฯเป็นต้น คณะเหล่านี้ล้วนแล้วแต่ผลิตบุคคลากรสำคัญออกไปรับใช้ชาติเป็นอย่างมาก แล้วที่บอกว่าสู้ไม่ได้ คงไม่จริงแน่ๆ อย่าง คณะอักษรศาสตร์ คุณจะบอกว่าสู้ที่อื่ไม่ได้เหรอ คือไม่ได้ต้องการที่จะบอกว่าอักษรที่จุฬาดีที่สุด แต่ก็ไม่ใช่ว่าคณะอักษรศาสตร์จะผลิตบัณฑิตออกไปอย่างไร้คุณภาพ ส่วนตัวมั่นใจในความรู้อันท่วมท้นที่ได้รับจากครูบาอาจารย์ที่อักษร ที่ทำให้เรานำความรู้ออกไปทำงาน หรือเรียนต่อในสาขาต่างๆได้อย่างน่าภาคภูมิใจ และเชื่อว่าคณะต่างๆในมหาวิทยาลัยอื่นๆครูบาอาตารย์ก็ต่างทุ่มเทให้กับลูกศิษย์เช่นเดียวกัน สำหรับการที่จุฬาติดอันดับโลกน่าจเป็นที่น่าดีใจสำหรับประชาชนคนไทย ถือเป็นชื่อเสียงของชาติ ไม่ใช่คนไทยมาขัดแย้งกันเอง ส่วนความคิดเรื่องตำแหน่งทางวิชาการเนี่ยะคงตัดสินไม่ได้หรอกว่ามหาลัยไหนดีไม่ดี เพราะอย่าลืมว่าอาจารย์บางท่านก็ไม่สนใจในเรื่องตำแหน่งวิชาการพวกนี้ทั้งๆที่ก็ผลิตผลงานวิจัย หรือตำราออกมามากมาย ส่วนเรื่องที่คิดว่ามหลัยไหนที่ดีที่สุดคงเป็นเรื่องของแต่ละบุคคลมากกว่า เพราะใครเรียนที่ไหนก็ย่อมที่จะภูมิใจที่ในสถาบันตนเอง ควรมองให้เป็นกลาง อย่ามีอคติ ในความเป็นจริงแล้วค่าของคนที่ผลของงานไม่ใช่สถาบัน จากคุณ : เลือดสีเทา (Cognitive) - [ 10 พ.ย. 48 14:44:44 ]

ความคิดเห็นที่ 56 Life Science ของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย -------------------------------------------------------------------------------- คำว่า "Life Science" ที่ให้ข้อคิดเห็นมานั้น เป็นคำที่กว้างและเป็นคำใหม่ ซึ่งคงหมายรวมเอาสาขาหลักของวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีที่ UNESCO โดยนิยามไว้ 3 สาขา (UNESCO Recommendation concerning the International Standardization) ได้แก่ Natural Sciences, Medical Science และ Agricultural Sciences ซึ่งก็น่าจะรวมถึง Biotechnology แม้ว่าในแต่ละประเทศ อาจกำหนดขอบเขตไม่เหมือนกัน งานวิจัยด้าน Life Science ของจุฬาเป็นอย่างไร ? ตกเวทีวิจัยของประเทศหรือยัง ? ฝ่ายวิจัยของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยใคร่ขอเรียนข้อมูลให้ทราบ ดังนี้ 1. งบประมาณด้านการวิจัยใน 3 สาขา ที่กล่าวแล้วข้างต้นที่จุฬาฯ ได้รับในช่วง 1 ปีที่ผ่านมาประกอบด้วย 1.1. งบประมาณแผ่นดินปี 2547 ได้รับสนับสนุน 16 โครงการ งบประมาณรวม 57 ล้านบาท 1.2 เงินทุนวิจัยจากแหล่งทุนภายนอก ได้รับการสนับสนุน 47 โครงการ งบประมาณรวม 137 ล้านบาท จากหน่วยจัดการทุนวิจัย 4 แห่ง ได้แก่ สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ (วช.) สำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.) สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) และ สถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข (สวรส.) ไม่รวมงบประมาณด้านการวิจัยในเชิงวิจัยตามความต้องการของหน่วยงานให้ทุน หรือการให้คำปรึกษา 2. เมื่อวิเคราะห์ข้อมูลตามข้อ 1 ขณะนี้คงยังไม่สามารถบอกได้ว่า งบประมาณวิจัยที่จุฬาฯได้รับในกลุ่ม Life Science จัดเป็นสัดส่วนเท่าใดของงบประมาณทั้งหมดของประเทศ แต่พอจะวิเคราะห์ได้ดังนี้ 2.1 จำนวนอาจารย์ในองค์กรที่วิจัยด้านนี้ จำนวนประมาณ 300 คน หรือคิดเป็น 40% โดยประมาณ (สถิติไม่แน่ชัดเนื่องจากบางคณะมีการวิจัยทั้ง Life Science และ Physical Science เช่น คณะวิทยาศาสตร์) 2.2 สัดส่วนที่จุฬาฯ ได้รับในโครงการวิจัยใหญ่ๆ ในช่วงระยะหลัง ฝ่ายวิจัยได้ศึกษาข้อมูลโดยภาพรวมมาด้วย ทำให้เห็นภาพของจุฬาฯ เราเองได้ดีนั้น เช่น - โครงการวิจัยบูรณาการ "แผนวิจัยด้านยา เคมีภัณฑ์ และวัสดุอุปกรณ์ทางการแพทย์" 40 โครงการ มูลค่า 296 ล้านบาท จุฬาฯ ได้รับการสนับสนุน 13 โครงการ 97 ล้านบาท (30%) เป็นสัดส่วนสูงสุด (รายละเอียดดูในจุฬาสัมพันธ์) - โครงการวิจัยเพื่อเสริมสร้างความสามารถในการแข่งขัน มูลค่า 50.36 ล้านบาท จุฬาฯ ได้รับการสนับสนุนเป็นมูลค่า13.28 ล้านบาท (26.37%) เป็นสัดส่วนสูงสุด (ด้าน Life Science 1 โครงการ 4.2 ล้านบาท) ด้าน Physical Science 2 โครงการ 9.08 ล้านบาท (รายละเอียดดูในจุฬาสัมพันธ์) โครงการวิจัยพิษสุนัขบ้าของจุฬาฯ มูลค่า 19 ล้านบาท เป็นชุดโครงการวิจัยขนาดใหญ่ที่ได้รับจาก สวทช. (ให้ปีละไม่เกิน 2 ทุน) 3. Research Mapping ฝ่ายวิจัยได้วิเคราะห์เป้าหมายการวิจัยของโครงการวิจัยของจุฬาฯ โดยเฉพาะในส่วนที่เกี่ยวข้องกับ Life Science แล้วพบว่า ส่วนมากไม่ตรงกับเป้าหมายการวิจัยและพัฒนาของชาติ (เทียบจากแผนยุทธศาสตร์การวิจัยของประเทศ - วช.) ซึ่งวิเคราะห์ได้ว่าโอกาสได้รับการสนับสนุนน้อย หรือ priority ต่ำ 4. ผลงานที่ได้รับการตีพิมพ์ หรือเผยแพร่วิธีอื่นๆ มีข้อมูลผลงานตีพิมพ์ในวารสารวิชาการระดับนานาชาติที่อยู่ในฐานข้อมูลมาตรฐาน 349 เรื่อง ในช่วง 9 เดือน และวารสารนานาชาติอื่นๆ อีก มีการเชื่อมโยงเชิงพาณิชย์ 4 โครงการ โดยภาพรวม จุฬาฯ คงไม่ถึงกับล้าหลัง แต่ก็ไม่ใช่ "หนึ่ง" อย่างแน่นอน เราชาวจุฬาฯ คงอยากเห็นการวิจัยของจุฬาฯ ทั้งหมด (ไม่ใช่เฉพาะ Life Science) เจริญก้าวหน้า สร้างผลผลิตที่เกิดประโยชน์ ทั้งในเชิงวิชาการ และการส่งเสริมสนับสนุนสังคม ภาคธุรกิจ ภาคอุตสาหกรรม เพื่อให้สมชื่อ "มหาวิทยาลัยวิจัย" ซึ่งเราทุกคนต้องช่วยกันสร้าง ช่วยกันผลิตผลงาน ฝ่ายวิจัยน้อมรับคำแนะนำจากทุกท่านที่จะช่วยส่งเสริมให้เกิดการพัฒนายิ่งๆ ขึ้นไป เพราะก็เชื่อว่า "จุฬาฯ วิจัย" มีศักยภาพสูง http://w3.chula.ac.th/research/store_News/mar/mar20.html จากคุณ : คห.20 - [ 10 พ.ย. 48 15:48:04 A:58.8.187.59 X: TicketID:099055 ]

ความคิดเห็นที่ 57 คห.53 เหมือนจะติว่าเราอคติกับจุฬา เปล่าเลย เราแค่เขียนตามข้อมูลที่มีและไม่ได้คิดว่ามหิดลจะดีกว่าจุฬาฯ แต่เราวิเคราะห์แค่วิทย์ชีวภาพ ว่ามหิดลคงจะดีกว่าจุฬาจริง ๆ แต่โดยภาพรวมทุกสาขาวิชาจุฬาดีกว่ามหิดลแน่นอนนี่ก็เป็นเรื่องจริง จาก คห.52 asiaweek ก็เคยจัดอันดับแบบสหศาสตร์ จุฬาฯก็ทิ้งจาก มธ และมหิดล ห่างเหมือนกัน วันนี้จะลองเปรียบเทียบเรื่องอื่น ๆ ให้อ่านกันเล่น ๆ - อัตราส่วนจำนวนอาจารย์/นักศึกษา (ข้อมูลปี 2546) เป็นปัจจัยหนึ่งในการจัดอันดับมหาวิทยาลัย 1) ม.มหิดล : 2889/6799 = 0.42 2) ม.ขอนแก่น : 1907/5456 = 0.35 3) จุฬา : 2811/9305 = 0.30 - คุณวุฒิอาจารย์ : ป.เอก /ป.โท/ป.ตรี (ข้อมูลปี 2546) 1) ม.มหิดล : 1674 / 1086 / 156 รวม 2889 คน 2 )จุฬาฯ : 1314 / 1346 / 151 รวม 2811 คน 3) ม.เกษตรศาสตร์ : 694 / 1095 / 294 รวม 2083 คน - ทุน คปก. ทุนระดับปริญญาเอกของสกว. (รุ่น1-7) 1. มหิดล 496 ทุน คิดเป็น 28% 2. จุฬา 370 ทุน คิดเป็น 21 % 3. เชียงใหม่ 191 ทุน คิดเป็น 11 % แต่ถ้าจะแยกเป็นสาขาแล้ว เรียงจาก ม. ที่ได้รับทุนนี้จากมากไปต่ำ 3 อันดับแรก - สาขาวิศวกรรมศาสตร์ 194 ทุน - จุฬา - ธรรมศาสตร์ - เทคโนฯธนบุรี - สาขาเทคโนโลยี - จุฬาฯ - เทคโนฯ ธนบุรี - มหิดล - สาขาวิทย์-กายภาพ - จุฬาฯ - ม.มหิดล - ม.เชียงใหม่ - สาขาวิทย์-ชีวภาพ - ม.มหิดล - ม.เชียงใหม่ - จุฬา - สาขาวิทย์-การแพทย์ - ม.มหิดล - จุฬา - มอ. - สาขาเกษตร - ม.เกษตรศาสตร์ - ม.ขอนแก่น - ม.เชียงใหม่ - สาขาสังคม-มนุษยศาสตร์ - จุฬาฯ - มหิดล - ธรรมศาสตร์ - รางวัลนักวิจัยดีเด่นแห่งชาติ ให้รางวัลทุกสาขาทั้งสายวิทย์สายศิลป์ (ปี2527-2546) 1. จุฬา 40 ท่าน 2. มหิดล 14 ท่าน 3. ม.กษตร 11 ท่าน - จำนวนเมธีวิจัยอาวุโส สกว. 2538-2546 : ทุนนี้ให้นักวิจัยในแต่ละมหาวิทยาลัย และได้รับพระราชทานรางวัลจากสมเด็จพระเทพฯเพื่อเป็นเกียรติแก่นักวิจัย 1. จุฬา 25 ท่าน 2. มหิดล 25 ท่าน 3. มก. 11 ท่าน -นักวิทยาศาสตร์ดีเด่น (2525-2548) 1. มหิดล 15 ท่าน 2. จุฬา 8 ท่าน 3. ม.อื่น แห่งล่ะ 1 ท่าน เช่น มธ มช มศว ราม AIT พระนครเหนือ บางมด ลาดกะบัง จากคุณ : คห.20 - [ 10 พ.ย. 48 16:40:10 A:58.8.187.59 X: TicketID:099055 ]

ความคิดเห็นที่ 58 จุฬามี สาขาเทคโนโลยีชีวภาพ และ  วิดคอม ก็มีเช่นเดียวกันครับครับ... จากคุณ : รอสโซเนรี่ - [ 11 พ.ย. 48 01:53:18 ]

ความคิดเห็นที่ 59 ปล่อยวางกันบ้างเถิดครับ คนเราจะดี จะเก่ง ต้องให้คนอื่นมาจัดอันดับให้หรือครับ จากคุณ : m_ple - [ 11 พ.ย. 48 07:29:35 ]

ความคิดเห็นที่ 60 จุลา รุ่นใหม่หาเป็นเช่นข้างบนไม่ จากคุณ : Woodoo_2005 - [ 23 พ.ย. 48 13:53:22 ]

ความคิดเห็นที่ 61 เขียนว่า จุฬาฯ นะครับ จากคุณ : ausSieZ - [ 28 พ.ย. 48 01:58:43 ]