ความคิดเห็นที่ 1
ประวัติ เจ้าพระยาวิชิตวงศ์วุฒิไกร (ม.ร.ว. คลี่ สุทัศน์)
เจ้าพระยาวิชิตวงศ์วุฒิไกร เกิดเมื่อ ณ วันจันทร์ แรม ๑๐ ค่ำ เดือน ๙ ปีเถาะเบญจศก จุลศักราช ๑๒๐๕ พ.ศ. ๒๓๘๖ เป็นบุตรหม่อมเจ้าจินดา ในพระเจ้าบรมวงศ์เธอชั้น ๑ พระองค์เจ้าสุทัศน์ ซึ่งได้ทรงพระสุพรรณบัฏเป็นกรมหมื่นไกรสรวิชิต และได้ทรงบัญชาการกรมสังฆการีและธรรมการเมื่อในรัชกาลที่ ๓ เจ้าจอมมารดาของกรมหมื่นไกรสรวิชิต ชื่อ เจ้าจอมมารดากลิ่น เป็นธิดาพระยาพัทลุง(ขุน) หรืออีกนัย ๑ ว่า พระยาพัทลุงคางเหล็ก ซึ่งเป็นข้าหลวงเดิมในพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก ญาติวงศ์ของงเจ้าจอมมารดากลิ่นรัชกาลที่ ๑ ได้รับราชการทั้งฝ่ายหน้าฝ่ายในหลายคน ผู้ซึ่งควรจะยกนามมากล่าวในที่นี้ คือ พระยาพัทลุง(ทองขาว) บุตรพระยาพัทลุง(ขุน) และพระยาพัทลุง(ทับ) บุตรพระยาพัทลุง(ทองขาว)
พระยาพัทลุง(ทองขาว) เมื่อถวายตัวรับราชการอยู่ในกรุงเทพฯได้ภรรยาเนื่องในราชินิกูลของสมเด็จพระเทพศิรินทราบรมราชินี ด้วยเหตุนี้ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวจึงทรงนับว่า ตระกูลของเจ้าพระยาวิชิตวงศ์วุฒิไกรเป็นพระประยูรญาติข้างฝ่ายสมเด็จพระบรมราชชนนีด้วยอีกส่วน ๑ ได้เคยมีรับสั่งเล่าว่า เมื่อพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเสด็จลงไปเมืองสงขลา พระยาพัทลุง(ทับ)มาเฝ้า พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวได้มีรับสั่งให้พระองค์ทรงเคารพต่อพระยาพัทลุง(ทับ) โดยฉันท์ที่เป็นญาติข้างฝ่ายสมเด็จพระชนนี
ส่วนหม่อมราชวงศ์ซึ่งเป็นนัดดากรมหมื่นไกรสรวิชิตนั้น ได้รับราชการมีตำแหน่งมาแต่ในรัชกาลที่ ๔ รัชกาลที่ ๕ จนถึงรัชกาลปัจจุบัน(๑)หลายคน ควรจะยกนามมากล่าวในส่วนบุตรหม่อมเจ้าจินดา คือ หม่อมราชวงศ์หรั่ง ได้เป็นที่พระทิพกำแหงสงคราม ปลัดเมืองพัทลุงคน ๑ หม่อมราชวงศ์เขียว ได้เป็นที่หลวงธรรมการานุวัตร์ในกระทรวงธรรมการคง ๑ หม่อมราชวงศ์ท้วมคน ๑ ทั้ง ๓ คนนี้ได้รับราชการในกรมทหารมหาดเล็กมาก่อน แต่หม่อมราชวงศ์ท้วมได้เป็นเพียงนายสิบเอก หาทันได้รับพระราชทานสัญญาบัตรไม่ หม่อมราชวงศ์ลบเป็นคนเล็ก ถวายตัวเป็นมหาดเล็กในรัชกาลที่ ๕ ได้มียศตั้งแต่นายขันหุ้มแพรโดยลำดับขึ้นมาจนได้เป็นเจ้าพระยาอภัยราชามหายุติธรรมธร เสนาบดีกระทรวงยุติธรรม อยู่ในทุกวันนี้ ก็เป็นน้องเจ้าพระยาวิชิตวงศ์วุฒิไกร
หม่อมเจ้าอลงกรณ์ น้องหม่อมเจ้าจินดา มีบุตรทำราชการอยู่ในตำแหน่งสูงเวลานี้ ๒ คน คือ มหาเสวกตรี พระยาศรีวรวงศ์(ม.ร.ว. จิตร)ม.ส.ม. , ท.จ.ว. ผู้บัญชาการโรงเรียนข้าราชการพลเรือนในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู๋หัวคน ๑ นายพลโท พระยาสุรินทราชา(ม.ร.ว.สิทธิ)ม.ส.ม. , ม.จ. เป็นสมุหเทศาภิบาลมณฑลภูเก็ตอยู่ในเวลานี้คน ๑ จะเห็นได้โดยบัญชีว่า เชื้อพระวงศ์กรมหมื่นไกรสรวิชิต แม้มีบางคนที่ไม่ได้รับราชการ แต่ที่ได้รับราชการตำแหน่งสูงมีหลายคน นับเจ้าพระยาวิชิตวงศ์วุฒิไกร เป็นหัวหน้าในตระกูลนั้น
เจ้าพระยาวิชิตวงศ์วุฒิไกร เดิมชื่อ หม่อมราชวงศ์พรรณราย แล้วจึงเปลี่ยนเป็นชื่อ คลี่ เหตุใดจึงเปลี่ยนข้าพเจ้าไม่ทราบ ท่านจดไว้ในหัวข้อประวัติของท่านแต่เท่านั้น เมื่ออุปสมบท กรมสมเด็จพระปวเรศวริยาลงกรณ์ เป็นพระอุปัชฌาจารย์ แต่บวชอยู่วัดสระเกศ ด้วยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวรับสั่งว่า ในวงศ์ของเจ้าพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหมื่นไกรสรวิชิต เคยบวชในฝ่ายมหานิกายมาแต่เดิม แม้กรมหมื่นไกรสรวิชิต เมื่อทรงผนวชก็เสด็จอยู่วัดสระเกศ เชื้อวงศ์ควรจะบวชให้ตรงตามลัทธิของเทือกเถาที่มีมา ไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนมาบวชเป็นธรรมยุติ
ประวัติของเจ้าพระยาวิชิตวงศ์วุฒิไกรในส่วนราชการนั้น ได้ถวายตัวเป็นมหาดเล็กในรัชกาลที่ ๔ เมื่อปีชวด พ.ศ. ๒๔๐๗ ตั้งแต่ถวายตัวแล้ว ก็ได้ช่วยหม่อมจินดาผู้บิดารับราชการในกรมสังฆการีธรรมการมาแต่เดิม จึงได้เป็นผู้ชำนาญราชการในกรมทั้ง ๒ นั้น เมื่อพระเจ้าบรมวงศ์เธอชั้น ๓ กรมหมื่นอุดมรัตนราษี ซึ่งได้ทรงบัญชาการกรมสังฆการีธรรมการในรัชกาลที่ ๔ สิ้นพระชนม์แล้ว พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้สมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมพระยาบำราบปรปักษ์ ทรงกำกับการสังฆการีธรรมการ
สมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมพระยาบำราบปรปักษ์ ทรงพระกรุณาเจ้าพระยาวิชิตวงศ์วุฒิไกร จึงทรงใช้สอยในราชการกรมสังฆการีธรรมการต่างพระองค์ ถึงกราบบังคมทูลข้อราชการสังฆการีและธรรมการ แด่พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และรับรับสั่งในราชการนั้นได้ตังแต่ยังเป็นหม่อมราชวงศ์คลี่มหาดเล็กตลอดมาจนถึงรัชกาลที่ ๕
ด้วยเหตุนี้ เมื่อพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระราชทานสัญญาบัตรเมื่อปีระกา พ.ศ. ๒๔๑๖ ทีแรกก็ได้เป็นพระวุฒิการบดี ศรีวิสุทธิสาสนวโรประการ จางวางกรมธรรมการสังฆการี และต่อมาทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯเลื่อนขึ้นเป็นพระยา ได้รับพระราชทานพานทองเป็นเกียรติยศ
....................................................................................................................................................
(๑) รัชกาลที่ ๖
จากคุณ :
กัมม์
- [
28 ส.ค. 49 15:29:38
]
|
|
|