ความคิดเห็นที่ 1 ลบทำไม ลบเพื่ออะไรครับ เสียดายมากๆ เหตุหลักๆคงเรื่องเกี่ยวกับสายโลหิตด้วยกระมังครับ เพื่อที่จะได้สายโลหิตเลือดจักรีเข้มข้น แต่ในทางหลักวิทยาศาสตร์นั้น ไม่ควรอย่างยิ่ง ลูกที่เกิดมาอันตรายครับ(ดูอย่างทำไมถึงมีเจ้านายเล็กๆ พระราชโอรส-พระราชธิดาที่ประสูติแต่เจ้านางองค์ที่มีเลือดใกล้ชิด ทำไมถึงสิ้นพระชนม์ตั้งแต่ยังทรงพระเยาว์....อื่มมมมน่าคิดๆ) จากคุณ : pacharawong - [ 1 ก.ย. 49 22:09:31 ]

ความคิดเห็นที่ 2 มีเวลาแวะร้านหนังสือหาผังการสืบสันตติวงศ์ ฉบับวัดโพธิ์ (ไม่ใช่ฉบับล่าของนายอินทร์นะ) มาแกะดู ช่วงรัชการที่ 4 และ 5 จะได้ข้อมูล ทึ่ง มาก  ๆ  ทีเดียว ไม่รู้หาที่ไหนก็แวะที่ดวงกมลซีค่อน ก็แล้วกัน  มีแน่ ๆ จากคุณ : somboondk - [ 1 ก.ย. 49 23:06:54 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ทึ่งยังไงเหรอค่ะ เล่านิดนึงได้มั๊ยค่ะ จากคุณ : zengzae (zEnGzAe) - [ 2 ก.ย. 49 02:39:37 ]

ความคิดเห็นที่ 4 สมัยนั้นพระภรรยาเจ้าชั้นสูงสุด คือ มเหสีที่เป็นลูกหลวง จะมาจากพระขนิษฐาต่างมารดาของกษัตริย์ ได้แก่ พระองค์เจ้าหญิงสุนันทากุมารีรัตน์ พระองค์เจ้าหญิงสว่างวัฒนา พระองค์เจ้าหญิงเสาวภาผ่องศรี ทั้งสามองค์เป็นพระธิดาของรัชกาลที่ 4 ประสูติแต่เจ้าจอมมารดาเปี่ยม (สุจริตกุล) พระองค์เจ้าหญิงสุขุมาลย์มารศรี พระธิดาในรัชกาลที่ 4 ประสูติแต่เจ้าจอมมารดาสำลี (บุนนาค) มเหสีระดับนี้จะมีหลายชื่อเรียกในรัชกาล เช่น สมเด็จพระนางเจ้า พระบรมราชเทวี (พระองค์เจ้าหญิงสว่างวัฒนา) สมเด็จพระนางเจ้า พระบรมราชินีนาถ (พระองค์เจ้าหญิงเสาวภาผ่องศรี) และ พระนางเจ้า พระราชเทวี (พระองค์เจ้าหญิงสุขุมาลย์มารศรี) ส่วนมเหสีระดับรองลงไปจะเป็นพระภรรยาเจ้าชั้นหลานหลวงที่เป็นหม่อมเจ้าหญิงในรัชกาลก่อน มเหสีระดับนี้จะมีตำแหน่งพระอัครชายา เช่นหม่อมเจ้าหญิงสาย ลดาวัลย์ (พระอัครชายาเธอพระองค์เจ้าสายสวลีภิรมย์) ส่วนชั้นรองลงมาเป็นระดับพระราชชายาที่มีพระองค์เดียวคือเจ้าหญิงจากเชียงใหม่ พระราชชายาเจ้าดารารัศมี ส่วนหญิงสามัญจะได้ตำแหน่งเป็นเจ้าจอม ทั้งนี้เป็นธรรมเนียมในราชวงศ์ พระโอรสธิดาที่ประสูติแต่พระมเหสีเท่านั้นจะได้เป็นเจ้าฟ้า เพื่อรักษาความบริสุทธิ์ของสายเลือด .............................................................. ขออภัยที่อาจใช้ราชาศัพท์ผิดไปบ้าง จากคุณ : นิรนาม - [ 2 ก.ย. 49 09:05:17 A:124.121.72.97 X: TicketID:086026 ]

ความคิดเห็นที่ 5 อย่าหากว่าจาบจ้วงเลยนะครับ  พระองค์ท่านก็มีอารมณ์หรือครับ ที่มีเอ่อ...... จากคุณ : mr.benz - [ 2 ก.ย. 49 10:20:38 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ^^^พระองค์ท่านก็เป็น"คน"นะครับ อ่ะขอพูดตรงๆละกัน ต้องมีอารมณ์ทุกประการเหมือนปุถุชนทั่วไปครับ รัก โลภ โกรธ หลง คงมีหมดละครับ จากคุณ : pacharawong - [ 2 ก.ย. 49 10:39:02 ]

ความคิดเห็นที่ 7 คุณ  mr.benz  ต้องไม่เอาค่านิยม  และความรู้สึกของคนในสมัยปัจจุบันไปตัดสินการกระทำของคนในสมัยโบราณครับ  เพราะค่านิยม  ธรรมเนียม  และประเพณีบางอย่างมันต่างกัน จากคุณ : รอยใบลาน - [ 3 ก.ย. 49 00:52:56 ]

ความคิดเห็นที่ 8 เห็นด้วยกับคุณรอยใบลาน ค่านิยมในสมัยนี้กับค่านิยมในสมัยก่อนย่อมแตกต่างกัน จะด้วยเหตุผลใดก็ตาม ถ้าถามเรื่องที่พระบาทสมเด็จพระพุทธเจ้าหลวงทรงสถาปนาพระเจ้าน้องนางเธอ พระราชธิดาในพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ ๔ ร่วมพระบรมราชชนกเดียวกันกับพระองค์ แต่ต่างพระชนนีขึ้นเป็นพระภรรยาเจ้านั้น ก็ด้วยประเพณีและวัฒนธรรมเช่นกัน ตามธรรมเนียมปฏิบัติในสมัยโบราณ ถือว่า พระมหากษัตริย์ทรงเป็นสมมุติเทพ นอกจากสมเด็จพระบรมราชชนก สมเด็จพระบรมราชชนนี ปู่ ย่า ตา ยาย ที่ทรงสืบเชื้อสายโดยตรง และสมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอ สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ ที่ร่วมพระครรโภทร(ร่วมท้องแม่เดียวกัน) นอกนั้น ถือว่าเป็นข้าแผ่นดิน จะมานับญาติกับพระมหากษัตริย์ไม่ได้ เว้นเสียแต่ว่า พระองค์จะทรงนับญาติด้วย ดังนั้น การที่ทรงสถาปนาพระเจ้าน้องนางเธอ ต่างพระชนนีขึ้นเป็นพระภรรยาเจ้านั้น ก็ทรงประพฤติปฏิบัติตามโบราณราชประเพณีถูกต้องสมบูรณ์และบริบูรณ์ทุกประการ ส่วนเรื่องอารมณ์อะไรนั้น อย่าคิดมากเลยครับ คนสมัยก่อนท่านทำอะไรทำตามประเพณี ตามกรอบที่บรรพบุรุษวางไว้ให้ ที่ยึดถือกันว่าถูกต้องและดีงามแล้ว กระบวนการทางความคิดของท่านในสมัยนั้นก็เลยบริสุทธิ์ผุดผ่องกว่าคนในสมัยนี้เยอะ คือท่านทำด้วยความบริสุทธิ์ใจ เอาความถูกต้องเป็นที่ตั้ง ไม่ได้คิดซับซ้อนเหมือนคนสมัยนี้ ครับ แก้ไขเมื่อ 03 ก.ย. 49 10:13:48 จากคุณ : เจ้าคุณวิสุทธิฯ - [ 3 ก.ย. 49 10:12:48 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ขอบคุณครับ จากคุณ : mr.benz - [ 4 ก.ย. 49 10:17:27 ]

ความคิดเห็นที่ 10 อย่าลืมพระองค์เจ้าหญิงทักษิณชา นราธิราชบุตรีด้วยอีกองค์นะคะ เป็นพระธิดาของรัชกาลที่ 4อีกองค์ที่ทรงโปรดให้รับราชการฝ่ายในเป็นพระมเหสีองค์แรก จากคุณ : นางมารน้อย (นางพญามารเมฆไฟ) - [ 4 ก.ย. 49 15:43:55 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ถ้าจะให้อึ้งกว่านี้ ต้องเป็นวงศ์ของพระพุทธเจ้า ที่พี่น้องสมรสกันเอง และอาจเป็นสิ่งที่ไทยเรารับมาก็ได้ จากคุณ : MaX FiRE - [ 5 ก.ย. 49 11:09:31 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ความรู้สึกของคนไม่ว่าด้านไหน ย่อมขึ้นอยู่กับประเพณีและการยอมรับ ในสมัยก่อนการที่เจ้าจะแต่งงานกันเองในพี่น้อง ไม่ใช่เรื่องแปลก ดังนั้นท่านก็ต้องมีความรู้สึกเป็นเรื่องปกติธรรมดาที่ท่านสมควรจะต้องทำ อีกอย่างก็คือ สมัยก่อนถึงท่านจะเป็นพี่น้องกันแต่ต่างมารดา การใกล้ชิกกันอย่างพี่น้องจริง ๆ แล้วแทบจะไม่มีเลย ดังนั้นถ้าท่านจะแต่งงานกัน แต่ละท่านก็คงไม่ได้มีความรู้สึกว่าแต่งกับพี่น้องหรอก จากคุณ : ภุมรีภิรมย์ - [ 5 ก.ย. 49 12:31:59 ]

ความคิดเห็นที่ 13 ผมก็เคยคิดเหมือนกันว่าที่เจ้าฟ้าหลายพระองค์สิ้นพระชนม์แต่ทรงพระเยาว์ หรือถึงโตแล้วก็ยังมีโรคเบียดเบียนไม่ค่อยแข็งแรงกันเท่าใดนัก ส่วนสำคัญน่าจะมาจากประเพณีการอภิเษกสมรสกันในหมู่พี่น้องนะครับ อาทิเช่นเจ้าฟ้าสาย พระองค์เจ้าหญิงเสาวภาผ่องศรี ก็ทรงสิ้นพระชนม์ก่อนวัยอันควรทั้งสิ้น จากคุณ : I will see U in the next life. - [ 5 ก.ย. 49 17:33:42 ]

ความคิดเห็นที่ 14 เจ้าฟ้าสาย นี่พระองค์ไหนเหรอคะ ส่วนพระนางเจ้าเสาวภาผ่องศรีท่านประสูติแด่เจ้าจอมมารดาไม่ใช่เหรอค่ะคุณข้างบน จากคุณ : เทวาภิรมย์ (เทวาภิรมย์) - [ 7 ก.ย. 49 16:16:40 ]

ความคิดเห็นที่ 15 พระนางเจ้าเสาวภาผ่องศรี  เฉลิมพระยศเป็น สมเด็จพระศรีพัชรินทรา  บรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนี เสด็จสวรรคต  เมื่อพระชนมายุ ๕๗ พรรษา พระเชษฐา พระเชษฐภคินี  พระอนุชา ราวมพระชนนีก็มีถึง ห้าองค์ ในสมัยนั้น คนไทย อายุไม่ยืน ครรภ์รักษาก็ยังเป็นเรื่องใหม่ แก้ไขเมื่อ 07 ก.ย. 49 21:59:12 จากคุณ : แสนอักษร - [ 7 ก.ย. 49 19:17:51 ]

ความคิดเห็นที่ 16 "ก็ทรงสิ้นพระชนม์ก่อนวัยอันควรทั้งสิ้น" แปลว่ามีมากกว่าหนึ่ง เข้าใจว่า "สาย" ในที่นี้หมายถึงสายสกุลวงศ์ คือเจ้าฟ้าชายและเจ้าฟ้าหญิงในสมเด็จพระศรีพัชรินทรา บรมราชินีนาถทั้งเก้าพระองค์ (เจ้าฟ้าชายเจ็ดพระองค์ และเจ้าฟ้าหญิงสองพระองค์) ในจำนวนเก้าพระองค์นี้ สิ้นพระชนม์ตั้งแต่ยังเยาว์สี่พระองค์ นอกจากนี้ ยัง ทรง "แท้ง" (ขออภัย ราชาศัพท์คำนี้จนปัญญา) อีกห้าพระองค์ รวมทั้งสิ้น 14 พระองค์ เว้นวรรคผิดนิดเดียวค่ะ คุณเทวาภิรมย์ ในรูปนี้คือเจ้าฟ้าชายและเจ้าฟ้าหญิงทั้งเก้าพระองค์ค่ะ จากคุณ : อันตราคนี - [ 7 ก.ย. 49 21:07:29 ]

ความคิดเห็นที่ 17 ความเห็นที่18 (ขอแจม) พระนาพระมเหสีเทวีและเจ้าจอมในสมเด็จพระพุทธเจ้าหลวงเรียงตามพระอิสริยยสได้ดังต่อไปนี้  พระภรรยาเจ้าชั้นลูกหลวง (พระราชธิดาในรัชกาลก่อน) ๑.สมเด็จพระนางเจ้าเสาวภาผ่องศรี พระบรมราชินีนาถ(ใน ร.๖ ทรงโปรดเกล้าฯสถาปนาเป็น สมเด็จพระศรีพัชรินทราบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง) ๒.สมเด็จพระนางเจ้าสว่างวัฒนา พระบรมราชเทวี ต่อมาใน ร.๖ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯสถาปนาเป็น สมเด็จพระมาตุจฉาเจ้าสว่างวัฒนา พระบรมราชเทวี,ต่อมาใน ร.๗ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯสถาปนาเป็นที่ สมเด็จพระศรีสวรินทิราบรมราชเทวี พระพันวัสสา มาตุจฉาเจ้า,และต่อมาในสมัย ร.๘ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯสถาปนาเป็น สมเด็จพระศรีสวรินทิราบรมราชเทวี พระพันวัสสา อัยยิกาเจ้า ๓.สมเด็จพระนางเจ้าสุนันทากุมารีรัตน พระบรมราชเทวี ๔.พระนางเจ้าสุขุมาลมารศรี พระราชเทวี ต่อมาใน ร.๗ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯสถาปนาเป็น สมเด็จพระปิตุจฉาเจ้าสุขุมาลมารศรี พระอัครราชเทวี ๕.พระเจ้าพี่นางเธอ พระองค์เจ้าทักษฺณชานราราชบุตรี (ภายหลังมีพระประสูติกาลพระราชโอรสแต่พระราชโอรสทรงสิ้นพระชนม์ตั้งแต่วันประสูติ ทำให้พระมารดาทรงโทมนัสมาก ยังเป็นเหตุให้ทรงเสียพระจริตมิอาจถวายงานอีก และเสด็จ ประทับกับพระญาตินอกพระบรมมหาราชวังตราบสิ้นพระชนม์)   พระภรรยาเจ้าชั้นหลานหลวง(พระราชนัดดาในพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลก่อน) ๖..พระอัครชายาเธอพระองค์เจ้าสายสวลีภิรมย์ ต่อมา ใน ร.๗ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าสถาปนาเป็นที่ พระวิมาดาเธอพระองค์เจ้าสายสวลีภิรมย์ กรมพระสุทธสินีนาฏปิยมหาราชปดิวรัดดา ๗..พระอัครชายาเธอพระองค์เจ้าเสาวภาคย์นารีรัตน ๘..พระอัครชายาเธอพระองค์เจ้าอุบลรัตนนารีนาค     พระภรรยาเจ้าจากหัวเมืองประเทศราช ๙..พระราชชายา เจ้าดารารัศมี (ธิดาเจ้าผู้ครองนครเชียงใหม่)     สามัญชน ๑๐.เจ้าคุณจอมมารดาแพ พระสนมเอก ท่านผู้นี้เป็นหลานสาวของสมเด็จเจ้าพระยาองค์เล็กราชนิกุลบุนนาคซึ่งเป็นผู้สำเร็จราชกาลแผ่นดินแทนพระองค์ตอนต้นรัชกาล ทำให้ท่านมีบทบาทและมีบารมีมากในราชสำนักฝ่ายใน ในสมัยนั้น ต่อมาในรัชกาลที่ ๗ ทรงพระกุรณาโปรดเกล้าฯสถาปนาเป็นที่ เจ้าคุณพระประยูรวงศ์ จากคุณ : เศรษฐศุภางค์ - [ 13 ก.ย. 49 19:41:12 ]

ความคิดเห็นที่ 18 สมเด็จพระนางเจ้าสุนันทากุมารีรัตน พระบรมราชเทวี สมเด็จพระนางเจ้าสว่างวัฒนา พระบรมราชเทวี สมเด็จพระนางเจ้าเสาวภาผ่องศรี พระบรมราชินีนาถ ทรงรักใคร่ ปรองดองกันดีรึเปล่าครับ ช่วยตอบที จากคุณ : แป้ง - [ 5 ต.ค. 49 15:32:36 A:203.131.212.40 X: ]