ความคิดเห็นที่ 11
(ต่อ)
หนังสือสมบัติอมรินทร์คำกลอน ขึ้นต้นกลอนตามแบบเพลงยาว คือ ขึ้นที่วรรคหลัง และแต่งด้วยกลอน ๘ ซึ่งนิยมแต่งกันมาก่อนที่จะได้วิวัฒนาการมาเป็นกลอนแบบสุนทรภู่ กล่าวคือวรรคหนึ่งมี ๘ คำ แต่ไม่มีสัมผัสในถือเคร่งครัดเช่นกลอนแบบสุนทรภู่ เนื้อความดำเนินไปอย่างรวดเร็ว กล่าวถึง "องค์อมเรศอดิศร" คือพระอินทร์ และบรรยายถึงความรุ่งเรืองงดงามของปราสาทราชฐานของพระอินทร์อย่างละเอียดละออ ถ้านอกจากไตรภูมิพระร่วงซึ่งแต่งเป็นความเรียง และมีเล่าเรื่องสวรรค์ของพระอินทร์อยู่มากแล้ว ก็ยากที่จะพบในวรรณคดีเล่มใด ซึ่งบรรยายเรื่องเกี่ยวกับพระอินทร์มากเท่าเรื่องนี้
ทั้งนี้อาจจะเป็นเพราะผู้ประพันธ์เจาะจงให้พระอินทร์เป็นตัวเอกของเรื่องนี้จริงๆ และต้องการจะสร้างมโนภาพให้ผู้อ่านเห็นความงามของทิพยสมบัติของพระอินทร์ ซึ่งถ้าพระอินทร์ไปอยู่ในวรรณคดีเล่มอื่น ก็จะเป็นเพียงตัวประกอบ เช่นเป็นผู้ที่เล็งทิพยเนตรมาดูแลทุกข์สุขในโลกมนุษย์ดังในเรื่องสังข์ทอง และการบรรยายทิพยสมบัติของพระอินทร์ซึ่งมีฐานะเป็นตัวประกอบในเรื่อง ก็จะเป็นไปไม่ได้มากสมใจผู้ประพันธ์ นับว่าผู้ประพันธ์ทำได้เยี่ยม เพราะไม่มีวรรณคดีเล่มใดที่จะสร้างมโนภาพให้ผู้อ่านได้เห็นความงดงามของ "เมืองพระอินทร์" ได้ดีเท่าวรรณคดีเล่มนี้ ในไตรภูมิพระร่วงก็เป็นความเรียงจึงไม่มีรสวรรณคดีเท่า พระอินทร์นั้นในคติเดิมทางพราหมณ์และทางพุทธ ก็กล่าวไว้ว่ามีนิวาสสถานบนสรวงสรรค์ที่งดงาม แต่เราไม่มีโอกาสทราบได้ว่างดงามเพียงใดเลย ถ้าไม่ได้อ่านสมบัติอมมรินทร์คำกลอน และสร้างมโนภาพตามไป
พระอินทร์เคยเป็นเทพเจ้าองค์สำคัญของศาสนาพรหมณ์มาก่อน ในอภิธานท้ายหนังสือศกุนตลาพระราชนิพนธ์รัชกาลที่ ๖ เล่าว่าชนชาติอริยกะนั้นนับถือว่าเป็นเทพเจ้าก่อนเทพเจ้าองค์อื่นๆเช่น พระนารายณ์ พระอิศวร พระพรหม เป็นต้น เพราะพวกอริยกะยกเข้าสู่ดินแดนมัธยมประเทศเป็นครั้งแรกนั้น พระอินทร์ก็ได้นำทัพเข้ารบกับพวกทัสยุ ซึ่งเป็นเจ้าของถิ่นเดิมจนได้ชัยชนะ เพราะฉะนั้นในไตรเพทจึงสรรเสริญพระอินทร์อยู่มาก แต่ในชั้นหลังพระอินทร์กลับมีฤทธิ์น้อยลง เพราะทำสงครามแพ้พวกอสูรบ่อยๆ ทั้งความประพฤติก็ต่ำลง เช่นไปผิดเมียของฤๅษีตนหนึ่งจนต้องถูกฤๅษีสาปให้พระอินทร์มีนิมิตลับ หรือเครื่องหมายของผู้หญิงติดพราวไปหมดทั้งองค์ ภายหลังฤๅษีหายโกรธแล้วก็สาปให้เครื่องหมายนั้นเป็นตา เพราะเหตุฉะนี้จึงได้ชื่อว่า ท้าวสหัสนัยน์ แปลว่า ท้าวพันตา
ในหนังสือเรื่องเมืองสวรรค์ของเสฐียรโกเศศ เล้าเรื่องพระอินทร์ตามคติพราหมณ์ไว้ว่า "พระอินทร์มีที่อยู่บนสวรรค์ เรียกว่าสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ ซึ่งเป็นสวรรค์ชั้นที่ ๒ ในสวรรค์ทั้ง ๖ ชั้น เรียงลำดับจากต่ำไปหาสูง คือชั้นจาตุมหาราชิกา, ชั้นดาวดึงส์, ชั้นยามา, ชั้นดุสิต, ชั้นนิมมานรดี, ชั้นปรนิมมิตวสวัตตี ชื่อ "ดาวดึงส์" นี้เพิ่งมาตั้งในชั้นหลังเมื่อสวรรค์แบ่งออกเป็น ๖ ชั้นเช่นที่กล่าวมาแล้ว เพราะแต่เดิมสวรรค์มีชั้นเดียว และหมายเอาชั้นฟ้าของพระอินทร์ ต่อมาเกิดมีเมืองฟ้าขึ้นหลายชั้นคำว่าสวรรค์ก็เป็นใช้ได้ทั่วไป ครอบเมืองฟ้าได้ทุกชั้น เพราะเป็นเมืองสว่างรุ่งเรืองทั้งนั้น ตลอดจนเมืองฟ้าในลัทธิอื่นก็เรียกเมืองสวรรค์ได้ เมื่อคำสวรรค์ใช้แทนคำว่าเมืองฟ้าเมืองเทวดาได้ทั่วไป ไม่จำกัดแต่เมืองฟ้าของพระอินทร์ เมืองฟ้าของพระอินทร์จึงมีชื่อเรียกเป็นพิเศษอีกชื่อหนึ่ง คือสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ ซึ่งเป็นคำบาลี แปลว่า ๓๓ ในที่นี้หมายเอาเทวดาชั้นผู้ใหญ่ ซึ่งมีอยู่ด้วยกันบนสวรรค์ชั้นนี้ ๓๓ องค์ ลางทีก็เรียกว่าไตรตรึงส์ซึ่งเป็นคำสันสกฤต แปลว่า ๓๓ เหมือนกัน เหตุฉะนี้ในหนังสือไทยจึงใช้คำทั้ง ๒ คำ
ที่ว่ามีเทวดาผู้ใหญ่ ๓๓ องค์นั้น ในจำนวนนี้รวมทั้งพระอินทร์ด้วย ซึ่งมีเรื่องเล่าว่า เดิมพระอินทร์เป็นมนุษย์ชื่อ มฆมานพ มีเพื่อนสนิทอยู่ ๓๒ คน ได้ทำบุญกุศลไว้มาก เมื่อตายจึงไปเกิดเป็นเทวดาผู้ใหญ่อยู่บนสวรรค์ ซึ่งมีเมืองหลวงอยู่ตรงกลางกลางเมืองของพระอินทร์โดยเฉพาะ ชื่อเมืองสุทัศน์แปลว่าดูงาม เป็นชื่อที่มีมาแล้วแต่ครั้งพวกอสูรอยู่ เมื่อพระอินทร์กับพวกแย่งเมืองนี้ได้จึงคงชื่อเดิมไว้ เมืองสุทัศน์นี้มีชื่ออีกอย่างหนึ่งว่า อมรวดี แปลว่าเมืองของผู้ไม่ตายคือเทวดา ส่วนสหายทั้ง ๓๒ คนที่ไปเกิดเป็นเทวดาด้วย ต่างก็มีเมืองของตนอยู่รอบเมืองสุทัศน์ของพระอินทร์ แบ่งกันอยู่ ๔ ทิศ ๆละ๘ เมือง จึงมีเมืองทั้งหมด ๓๓ เมือง เทวดาผู้ใหญ่สหายของพระอินทร์ ๓๒ องค์นี้ที่รู้จักชื่อกันดีก็มีอยู่หลายองค์เช่น มาตุลีซึ่งมีหน้าที่เป็นสารถีขับรถพระอินทร์ เวสสุกรรมซึ่งเป็นนายช่างของเทวดา พระจันทร์เทพบุตร พระสุริยเทพบุตร พระพิรุณซึ่งเป็นเจ้าแห่งฝนเป็นต้น
เรื่องจำนวน ๓๓ นี้ เข้าใจว่าเป็นจำนวนเทวดาดั้งเดิมสืบมา บางทีจะไม่ใช่มาจากเรื่องที่เล่าข้างต้น เพราะ ๓๓ เป็นจำนวนเทวดาดั้งเดิมสืบมาแต่สมัยพระเวท ซึ่งเขาแบ่งเทวดาออกเป็น ๓ พวก ๆละ ๑๑ องค์ คือเทวดาที่อยู่บนสวรรค์พวกหนึ่ง มีพระวรุณและพระสูรย์เป็นต้น อยู่กลางฟ้ากลางอากาศพวกหนึ่ง มีพระอินทร์เป็นต้น และมีพวกอยู่บนแผ่นดินอีกพวกหนึ่ง มีพระอัคนีเป็นต้น"
หน้าที่ของพระอินทร์นั้น คือคอยขับไล่และประหารพวกอสูร หรือฤๅษีซึ่งทำความมืดมัวให้แก่โลกโดยบำเพ็ญตบะ ทำให้เกิดความเดือดร้อน พระอินทร์ใช้สายฟ้าเป็นอาวุธเรียก วชิราวุธ หรือใช้นางเทพอัปสรไปยั่วยวนทำลายตบะนี้ เมื่อพระอินทร์ล้างผลาญอสูรหรือฤๅษีตนใดแล้ว ก็ให้ฝนตกลงมา โดยเหตุที่พระอินทร์มีหน้าที่คอยให้ความสว่าง หรือความชุ่มชื่นเป็นประโยชน์แก่การเพาะปลูก ซึ่งเป็นงานสำคัญของคนสมัยโบราณ ดังนี้ต่อมาพระอินทร์จึงได้เป็นใหญ่เหนือเทวดาอื่นทั้งหมด และคำว่า "อินทร์" นอกจากจะหมายถึงพระอินทร์แล้ว ก็ยังแปลว่าเป็นใหญ่ได้ด้วย
อันที่จริงเรื่องของพระอินทร์ โดยทั่วๆไปแล้ว เป็นที่คุ้นหูของคนไทยมาแต่โบราณ เพราะมีเรื่องเกี่ยวกับพระพุทธศาสนา พระอินทร์นั้นเป็นเทพเจ้าที่ประพฤติธรรม จึงมีส่วนเกี่ยวข้องกับองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้ามาก และมีเรื่องเล่าไว้ในอรรถกถาธรรมบทอันเป็นคัมภีร์สำคัญในทางพุทธศาสนา ชาดกต่างๆอันเป็นนิทานแต่ครั้งพุทธกาล และวรรณคดีที่แต่งโดยอาศัยเค้าเรื่องจากชาดก จึงมักหลีกเรื่องพระอินทร์ไม่พ้น นิทานเก่าๆที่เล่ากันในพื้นเมืองของไทยที่เรียกกันว่าปัญญาสชาดก และได้รับแอทธิพลจากชาดกทางพุทธศาสนา ก็มีเรื่องพระอินทร์เล่าอยู่มากเช่นเดียวกัน พระอินทร์ที่ปรากฏอยู่ในวรรณคดีไทย มักจะทำหน้าที่ดูแลทุกข์สุขของมนุษย์โลกและเป็นผู้บำบัดทุกข์
ในหนังสือไตรภูมิพระร่วงเล่าว่า พระอินทร์รู้ทุกข์สุขในโลกได้โดยอาศัยการสังเกตแท่นบัณฑุกัมพล ถ้าแท่นแข็งก็แสดงว่าเกิดเหตุร้าย ในอรรถกถาธรรมบทเล่าถึงพระอินทร์ว่าเป็นเจ้าสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ และเป็นใหญ่กว่าเทวดาทั้งหลาย จึงได้นามว่า เทวราชหรืออมรินทราธิราช พระอินทร์ในพระพุทธศาสนาไม่เป็นตำแหน่งประจำอยู่ตลอดไปเหมือนพระอินทร์ตามลัทธิพราหมณ์ ใครทำบุญบารมีไว้ก็ได้ไปเกิดเป็นพระอินทร์ และถ้าตายก็ต้องจุติและมีคนใหม่ไปเป็นพระอินทร์แทน ทิพยสมบัติทั้งหลายของพระอินทร์องค์เก่ารวมทั้งชายาก็ต้องดับสลายไป พระอินทร์องค์ใหม่ก็ต้องเนรมิตทิพยสมบัติขึ้นใหม่
เมืองของพระอินทร์ชื่อว่า สุทัสนนคร ซึ่งมีความงดงามมาก สวรรค์ชั้นดาวดึงส์นี้มีเรื่องเกี่ยวกับพุทธประวัติหลายเรื่องเช่น เรื่องพระเจดีย์จุฬามณี ซึ่งเป็นที่ประดิษฐานพระเมาลีของพระพุทธเจ้าเมื่อครั้งเสด็จออกมหาภิเนษกรมณ์ และพระพุทธองค์นิพพานแล้วก็ได้เป็นที่ประดิษฐานพระเขี้ยวแก้วขวาด้วย หรือเรื่องราวของพระพุทธเจ้าเมื่อขึ้นไปโปรดพระพุทธมารดาบนดาวดึงส์ นอกจากจะได้ทราบเรื่องพระอินทร์แล้วยังจะได้ทราบเรื่องสวรรค์อีกด้วย
เรื่องสวรรค์เป็นเรื่องที่พระพุทธศาสนาฝังใจมากคือ สวรรค์ชั้นอื่นๆดูเหมือนจะไม่เป็นที่สนใจเท่าสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ ทั้งนี้อาจจะเป็นเพราะเป็นที่อยู่ของพระอินทร์ซึ่งเป็นที่รู้จักกันอยู่ทั่วไป ดังนั้นจะเห็นได้ว่า เจ้าพระยาพระคลัง(หน) แต่งเรื่องสมบัติอมรินทร์คำกลอนนี้ ย่อมได้กำไรในการดึงดูดความสนใจอยู่ชั้นหนึ่งก่อนแล้ว ด้วยการเลือกหัวเรื่องซึ่งใครก็พอใจจะทราบอยู่เสมอ ถึงแม้ว่าเรื่องสวรรค์ของพระอินทร์จะมีเล่าไวว้ในอรรถกถาธรรมบทบ้าง ก็ไม่มีลักษณะเป็นวรรณคดี ในหนังสือไตรภูมิพระร่วง แม้จะมีเล่าไว้ละเอียดก็เป็นความเรียง
จากคุณ :
กัมม์
- [
1 พ.ย. 49 11:36:42
]
|
|
|