ความคิดเห็นที่ 1 ทหารเยอรมันช่วงแรกๆ รบมีประสิทธิภาพมาก แหม ก็ตอนแรกคุณพี่เธอเคี้ยวแต่ของอ่อนไม่มีกระดูกทั้งนั้น ถ้าไม่นับ การรวมออสเตรีย ในปี 1938 หรือที่เรียกว่า Anschluss ที่เยอร์มันเดินข้ามพรมแดนเข้าไปเฉย ๆ โดยไม่มีการต่อต้าน ประตูตรงพรมแดนก็ถูกคนออสเตรียเปิดกุญแจเอาไว้ต้อนรับ คนออสเตรียส่วนใหญ่ต้องการจะรวมกับเยอรมันอยู่แล้วเพราะพูดภาษาเดียวกันและเชื้อชาติเดียวกัน อย่าลืมว่าฮิตเล่อร์เป็นคนออสเตรีย เหยื่อรายแรกโปแลนด์ ฮิตเล่อร์ เปิดฉากด้วยเครื่องบินดำทิ้งระเบิดสตูก้า ตามติดด้วยรถถังชั้นดี โปแลนด็มีทหารขี่ม้าออกมาสู้ ม้าเนื้อกับม้าเหล็กมันจะสู้กันได้อย่างไร เหยื่อรายต่อ ๆ มาก็เป็นเนิ้อเปี่อยแทบจะไม่ต้องเคี้ยว เบลเยี่ยม เนเธอร์แลนด็ เดนมาร์ค สวีเดนยอมให้เยอร์มันเดินทัพผ่านไปนอร์เวย์โดยไม่สู้รบ โดยเยอร์มันไม่ยึดครองสวีเด็น จากคุณ : * - [ 9 ธ.ค. 49 00:16:25 A:58.9.189.44 X: TicketID:105682 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ฝรั่งเศสกับอังกฤษมีทหารมากกว่าเยอร์มันแต่อาวุธสำคัญคือ รถถังและเครื่องบินสู้กันไม่ได้ อังกฤษต้องถอนทหารกลับจากแผ่นดินใหญ่ยุโรปที่ดันเกิร์ก กลับมาเลียแผลอยู่ที่เกาะอังกฤษ ฝรั่งเศสยอมแพ้เยอร์มันโดยเร็วเพราะมีแต่รถถังขนาดเล็กเหมือนของเด็กเล่นเมื่อเทียบกับรถถังเยอร์มัน เครื่องบินก็สู้กันไม่ได้ทั้งในด้านคุณภาพและจำนวน เมื่อไปเห็นปารีสแล้วถึงได้เข้าใจว่า ทำไมฝรั่งเศสถึงได้ยอมแพ้โดยเร็วตั้งแต่ระฆังเริ่มยก ขืนสู้ค่อไปก็ต้องแพ้ เสียชีวิตทหารโดยเปล่าประโยชน์ วัดวาอาราม ตึกรามบ้านช่องอันสวยงาม อายุหลายศตวรรษ ต้องพังพินาศ เยอร์มันเพิ่งเจอของแข็งเมื่อบุกรัสเซีย เนื่องจากความสำเร็จในต้นยก เยอร์มันจึงประมาทคิดว่าจะรบชนะรัสเซียได้โดยเร็วก่อนฤดูหนาวจะมาถึง ไม่ได้ตระเตรียมเสื้อผ้าเครื่องแบบกันหนาวไว้ให้ทหาร จากคุณ : * - [ 9 ธ.ค. 49 00:19:27 A:58.9.189.44 X: TicketID:105682 ]

ความคิดเห็นที่ 3 เล่นทีเผลอมั้งแล้วชาวบ้านเขาก็เดาใจคนไม่ปกติยากด้วย แล้วตอนท้าย ๆ นี่ใครเขาก็รู้ไต๋หมดแล้วเลยรบยากหน่อย จากคุณ : satitp - [ 9 ธ.ค. 49 02:59:40 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ลูกธนูเมื่อแรกพุ่ง ก็ย่อมแรงเป็นธรรมดา จากคุณ : จอย - [ 9 ธ.ค. 49 03:34:57 A:58.9.185.137 X: TicketID:132310 ]

ความคิดเห็นที่ 5 สมัยนู้น จ้าวแห่งอุตสาหกรรมคือ อเมริกา ครับ และก็เพราะพี่กัน นี่แหละ ส่งเรือให้อังกฤษ ส่งอาวุธให้รัสเซีย ฝึกนักบินเสือ เหิน ให้จีน สร้างวาระซ่อนเร้นให้ประชาชนเข้าร่วมสงคราม พวก บอนเชวิค ถ้าไม่ได้ไอ้กันช่วย ตายไปตั้งแต่ปี 1941 แล้ว ตอนต้น อังกฤษกับฝรั่งเศส ปอดแหกจะตาย จนเยอรมันได้นอร์เวย์อังกฤษถึงกล้าลุย ฝรั่งเศส ยังคงคิดว่า ป้อมมาจิโนส นะเจ๋งซะเต็มประดา ก็เลยโดนเสียบทะลุหอไอเฟล จากคุณ : จี.ไอ.จ๊อด - [ 9 ธ.ค. 49 09:23:09 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ขอเพิ่มเติม 1 จะมีใครทราบบ้างว่าฮิตเลอร์เกิดที่ออสเตรีย เขาเกิดที่หมู่บ้าน Braunau (อ่าน บราวนาว) ในจังหวัด Upper Austria แต่ไปรับราชการทหารในเยอรมนี เมื่อช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ฮิตเลอร์เฉือนพื้นที่ประเทศบ้านเกิดของเขาส่วนหนึ่งคือ จังหวัด South Tirol (ปี 1938) ของออสเตรียเป็นของขวัญแก่มุสโสลินีแห่งอิตาลีที่ร่วมรบเคียงบ่าเคียงไหล่กันมา จนบัดนี้อิตาลีก็ไม่ยอมคืนให้ออสเตรีย  แม้ว่าคนในถิ่นนั้นส่วนใหญ่จะพูดภาษาเยอรมันก็ตาม หากดูแผนที่ออสเตรียปัจจุบัน จะเห็นว่า มีจังหวัด Tirol ซึ่งพื้นที่แยกกันอยู่ มีจังหวัด Salzburg (อ่าน ซอลสบัวร์ก) คั่นอยู่หน่อยหนึ่ง ทางใต้ของ Tirol นี่แหละคือจังหวัด South Tirol เขตอิตาลีปัจจุบัน ดูภาพที่แนบมาครับ ไม่แน่ใจว่าชาวออสเตรียอยากให้ชาวโลกทุกคนรู้แต่เพียงว่าฮิตเลอร์เป็นชาวเยอรมันไม่ใช่ออสเตรีย   ไม่รู้ว่าชาวออสเตรียจะรู้สึกอย่างไรที่ฮิตเลอร์ได้พาโลกไปสู่สงครามโลกอีกครั้ง  และการฆ่าล้างผลาญชาวยิวถึง 6 ล้านคนในยุโรปกับชาติอื่นๆ ทั่วโลกอีกนับไม่ถ้วน ภาพจาก http://www.marquette.edu/fola/maps/austria-map.gif จากคุณ : NickyNick - [ 9 ธ.ค. 49 09:27:05 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ถ้าถามเพื่อนผม เป็นความเห็นแค่คนเดียวในออสเตรียนะครับ เค้ายินดีกับการรวมชาติเยอรมัน และแน่นอนไม่เห็นด้วยกับสงคราม แต่กระดาษ ก็ต้องแลกมาด้วยการตัดต้นไม้นะครับ และเรื่องยิว หกล้านคน ไม่ใช่ฝีมือของ ฟิวเรอร์ทั้งหมด เมื่ออังกฤษ ฝรั่งเศส ล่าอณานิคม กลับไม่มีใครกล่าวถึง สยามประเทศของเราเองก็โดนขโมยแผ่นดินไป นับแสนตารางกิโลเมตร ไม่แค้นครับ แต่ไม่ลืม จากคุณ : จี.ไอ.จ๊อด - [ 9 ธ.ค. 49 10:33:02 ]

ความคิดเห็นที่ 8 เพื่อนผม ชุดหนึ่ง ๕ คน พ่อแม่คนเดียวกัน ชาวออสเตรียเช่นกัน ลูกๆ ไม่อยากเอ่ยนามชื่อนั้น รวมทั้งหลายคนในออสเตรียด้วย คงไม่อยากเปิดประเด็นขึ้นมาอีกครั้ง แต่คุณพ่อ อายุราว ๘๕ ปีแล้ว ท่านเคยเป็นทหารร่วมรบในสงครามโลกครั้งที่ ๒ ท่านชื่นชมกับเทิดทูนท่านนั้นเหมือนเป็นวีรบุรุษของเขาและของออสเตรียด้วย ทุกคนต่างมีเหตุผลของตน เหตุผลในแต่ละสถานการณ์และต่างเวลากัน อาจไม่เหมือนกัน เราเป็นคนรุ่นหล้งมาร่วมศึกษาประวัติศาสตร์  คงไม่ด่วนตัดสินกาผิดกาถูกให้กับเขาหากข้อมูลไม่แน่นพอ ตอนนี้ผมเห็นด้วยกับคุณ จี.ไอ.จ๊อด ครับ เรื่องประเทศไทยถูกตัดแผ่นดินไปในอดีต ผมไม่แค้นเช่นกัน แต่ก็ไม่ลืม ว่างๆ แวะไปอ่านในคลับลุ่มน้ำของ ของหมู่เฮาได้ เป็นสิ่งยืนยันว่าไม่ลืมแน่นอน http://www.pantip.com/cafe/library/topic/K4942681/K4942681.html จากคุณ : NickyNick - [ 9 ธ.ค. 49 10:52:08 ]

ความคิดเห็นที่ 9 แต่ผมว่าจริงๆ แล้วที่แพ้น่าจะเกิดจากจำนวนดินแดนที่ยึดครองมาได้กับจำนวนทหารที่ต้องประจำการใน ดินแดนที่ยึดมามากกว่าครับ ลองเปรียบเทียบ กทม. ละกันครับ เป็นประเทศนึง มีจำนวนทหาร 100 คน พอออกรบกับ ประเทศรอบข้าง คือ นนท ปทุม สมุทรปราการ สมุทรสงคราม แบบนี้ ไหนทหารที่ต้องสูญเสียไหนทหารที่ต้องประจำการ มันก็ทำให้ลดจำนวนทหารที่อยู่แนวหน้าไปได้ไม่น้อยที่เดียวนะครับ จากคุณ : muk_22 - [ 9 ธ.ค. 49 14:10:02 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ความพร้อมครับ เยอรมันสั่งสมอาวุธมาตั้งแต่กลางปี 1932 แล้วหน่ะนะ ส่วนฝรั่งเศสที่แม้จะชนะสงครามโลกครั้งที่ 1 แต่เสียทหารไปมากถึง 1 ใน 3 จากกำลังพลเท่าที่มี และเสียหายทางเศรษฐกิจเหลือคณานับ อังกฤษที่เริ่มย่อบแย่บมาหลังสงคราม กองทัพบกขาดประสิทธิภาพ อาศัยกองเรือที่เข้มแข็ง รัสเซียที่พึ่งฟื้นตัวมาเมื่อปี 1925 นี้เอง และลองผิดลองถูกอยู่หลายปี รวมทั้งมีพื้นฐานทางอุตสาหกรรมแกว่าชาวบ้านเขาทั้งหมด ประเทศต่างๆในยุโรปตะวันออก เป็นประเทศเกิดใหม่ หรือคืนชีพขึ้นมาอีกครั้ง ทั้ง โปลแลนด์ ฮังการี เชคโกสโลวาเกีย ยูโกสลาเวีย พวกนี้กำลังทางทหารและเศรษฐกิจไม่ได้แข็งแกร่งอะไรนัก พวกมหาอำนาจที่หมดพิษสงอย่างออสเตรีย พวกที่มีดีแต่เปลือกอย่าง บัลกาเรีย อัลแบเนีย และกรีซ จะเห็นว่ายุโรปยุคนั้น มีแต่ปัญหาครับ โดยเฉพาะช่วงปี 1918-1929 ที่เกิดคณะสังคมนิยมขึ้นทั่วยุโรป มีการปฎิวัติกันบ่อยครั้ง เศรษฐกิจของยุโรปก็ย่ำแย่ ประเทศต่างๆล้วนมีความพร้อมเข้าสู่สงครามต่ำกว่าเยอรมันทั้งสิ้น จากคุณ : digimontamer - [ 9 ธ.ค. 49 15:36:14 ]

ความคิดเห็นที่ 11 "เรื่องประเทศไทยถูกตัดแผ่นดินไปในอดีต ผมไม่แค้นเช่นกัน แต่ก็ไม่ลืม" เอ่อ ถ้าเราเป็นอังกฤษ เป็นฝรั่งเศส เราทำอย่างเขาป่ะ??? อันที่จริง ดินแดนที่เราเสียไป ก็ใช่ว่าจะเป็นของเราแต่เดิม ก็ไปเผาบ้านเผาเมืองคนอื่นแย่งชิงมาทั้งนั้น ดินแดนทางฝั่งซ้ายและขวาของแม่น้ำโขง รวมทั้งดินแดนในปักษ์ใต้ เราก็แย่งของคนอื่นมาทั้งนั้นไม่ใช่เหรอ ปากบอกว่าไม่แค้น แต่เรียนประวัติศาสตร์แล้วพูดว่าไม่ลืม จะให้เข้าใจเป็นอื่นได้อย่างไร????? ถ้าจะพูดให้ถูก ก็ควรพูดด้วยว่าไม่ลืมว่าสยามเคยทำอะไรไว้กับลาว เขมร และรัฐทางใต้ อ่านความเห็นของคุณ NickyNick แล้วนึกถึงกวนอูเลย กวนอูตัดหัวข้าศึกมานับร้อยนับพัน แต่พอโดนซุนกวนสั่งตัดหัวตัวเองบ้าง กลับไปเป็นผีเจ้าคิดเจ้าแค้น ร้องโหยหวนว่า "เอาหัวคืนมา เอาหัวคืนมา" จากคุณ : lb'sN - [ 9 ธ.ค. 49 15:41:31 A:203.113.60.71 X:203.190.250.104 TicketID:131967 ]

ความคิดเห็นที่ 12 มาตอบส่วงนของกระทู้บ้าง ทำไมแรกๆ ทหารเยอรมันเก่งจัง สาเหตุแรก มาจากการเตรียมพร้อมของเยอรมันมาตั้งแต่ปี 1932 อย่างที่ digimontamer ว่าไว้ครับ แต่จะบอกว่าประเทศอื่นยอบแยบจากสงครามโลกครั้งที่ 1 ก็ไม่ถูกนัก เพราะเยอรมันเองก็น่าจะยอบแยบไม่น้อยแพ้ฝรั่งเศส อังกฤษ หรือว่ารัสเซียเหมือนกัน สาเหตุประการที่สอง คิดว่าน่าจะมาจากการวางยุทธศาสตร์สงครามที่ถูกต้องของฮิตเลอร์เองตั้งแต่แรก อย่าลืมให้เครดิตเยอรมันด้วยว่า เป็นชาติแรกๆ ที่ปฏิรูปการทำสงครามแบบสมัยใหม่ ที่พลิกโฉมมาจากการใช้กองทหารนั่งแช่ในสนามเพลาะ โดยใช้กองทหารราบเป็นหลัก มาเป็นการจู่โจมแบบสายฟ้าแลบ ที่ใช้การรบแบบผสมผสานทั้งทหารราบ ทหารอากาศ และกองทัพรถถัง แบบที่เขาเรียกว่า BlitzKerg นั่นแล ตอนนั้นทั้งยุโรปไม่มีใครสู้เยอรมันได้เลย เพราะประเทศต่างๆ ในตอนนั้นต่างก็ยังยึดติดกับรูปแบบการรบในแบบสงครามโลกครั้งที่ 1 อยู่ แต่หินอันแรกที่เยอรมันเจอคืออังกฤษครับ เยอรมันชนะศัตรูในยุโรปมาตลอด ชนะโปแลนด์ชนิดสายฟ้าแลบ ชนะฝรั่งเศสแบบชนิดที่ว่าคนยุโรปทั้งทวีปอ้าปากค้างว่าเร็วขนาดนกกระจอกยังไม่ทันกินน้ำ แถมยังไล่ตีทหารอังกฤษจนหนีตายแทบไม่ทันที่ดันเคิร์ก แต่หินรายแรกคืออังกฤษ เมื่อครั้งที่เยอรมันไม่ประสบความสำเร็จในการยกพลขึ้นบกที่อังกฤษครับ เยอรมันไม่ประสบความสำเร็จในการยึดผิวน่านน้ำในแอตแลนติก เรื่อพิฆาตของเยอรมันโดนราชนาวีอังกฤษจมมากมาย เมื่อเยอรมันเปลี่ยนแผนหันมาใช้กองทัพอากาศระดมถล่มเกาะอังกฤษ ก็ยังโดนกองทัพอากาศอังกฤษตีกระเจิงกลับมาอีก เรียกได้ว่า ทางน้ำก็บุกไปไป ทางอากาศก็บุกไม่คืบ ก็เป็นจุดเปลี่ยนจุดแรกในสงคราม ที่เปิดโอกาสให้กองทัพฝ่ายสัมพันธมิตรโต้ตอบกลับ ลองคิดดูเล่นๆ ว่าถ้าอังกฤษตอนนั้นปล่อยให้เยอรมันยึดครองน่านน้ำแอตแลนติกได้ หรือว่าปล่อยให้ทัพอากาศเยอรมันร่อนได้เสรีทั่วยุโรปแล้วล่ะก็.....สัมพันธมิตรจะเอาปัญญาที่ไหนไปยกพลขึ้นบกที่แอฟริกาเหนือหรือว่านอรํมังดี ส่วนหินก้อนที่สองที่เยอรมันเจอ คือรัสเซียอย่างที่ทราบ จะไปบอกว่ารัสเซียชนะเพราะอเมริกาช่วยแต่แรกก็ไม่ถูกนัก ก็ต้องให้เครดิตคนรัสเซียด้วยว่าใจสู้ และรบอย่างตายเป็นตาย อเมริกาอาจจะช่วยที่ส่งยุทธภัณฑ์ให้รัสเซียมาแต่แรกของสงครามก็จริง แต่ถ้าคนรัสเซียใจไม่สู้พอ ก็คงไม่ต่างอะไรกับประเทศอื่นๆ ในยุโรป กองทัพรัสเซียแพ้ในช่วงแรกๆ คนที่ต้องโทษคือสตาลิน ที่ก่อนสงครามโลกเที่ยวไปจับนายทหารรัสเซียเป็นพันเป็นหมื่นมาประหารหรือส่งไปค่ายกักกัน จนกองทัพรัสเซียขาดแคลนนายทหาร ไม่สามารถนำกองทัพได้ แต่โชคดีของรัสเซียมีนายพลเก่งๆ ที่รอดจากโรคพารานอยน์ของสตาลินได้สามคน คือ 1. นายพล Frost 2. นายพล Distant 3. นายพล Zhukov นายพลสองคนแรกคือคนที่เป็นเหตุให้กองทัพเยอรมันติดแหงกแค่ปลายจมูกมอสโคว ส่วนนายพลคนที่สาม คือนายพลใจเพชร ที่นำพาทหารรัสเซียไล่ล่าทหารเยอรมันจนหนีกลับบ้านไม่ทัน นายพล Zhukov คนนี้เป็นต้นตำรับของการใช้ทรัพยากรสงครามอย่างไม่บันยะบันยังในการเอาชนะศัตรูครับ นอกจากจะสามารถบังคับให้ทหารรัสเซียดาหน้าเข้าหากระสูเยอรมันอย่างไม่หยุดหย่อนแล้ว ยังเป็นแบบฉบับของนายพลคนแรกๆ ที่ใช้วุทธานุภาพแห่งห่ากระสูนปืนใหญ่ในการถล่มศัตรู จะว่าไปแล้ว คนที่ทำให้เยอรมันต้องแพ้อย่างสิ้นเชิง คือรัสเซียมากกว่าฝ่ายอังกฤษและเยอรมันครับ เพราะกองทัพเยอรมันสูญเสียทหารและยุทธภัณฑ์ในการรบกับรัสเซียมากกว่าการรบกับอังกฤษและอเมริกาเสียอีก สงครามทางฝั่งรัสเซียก็ดุเดือดมากกว่าฝั่งตะวันตกเป็นไหนๆ เพราะฮิตเลอร์ทุ่มเททหารมาฝั่งนี้เป็นพิเศษ จากคุณ : lb'sN - [ 9 ธ.ค. 49 16:21:47 A:203.113.60.71 X:203.190.250.104 TicketID:131967 ]

ความคิดเห็นที่ 13 ส่วนประเด็นเรื่องฮิตเลอร์นั้น ในความเห็นผม ไม่แปลกอะไรที่จะมีคนไปนิยมชมชอบฮิตเลอร์ โดยส่วนตัว ผมก็มหัสจรรย์ในความสามารถของฮิตเลอร์ไม่น้อย แต่เรื่องที่จะยกชื่อของฮิตเลอร์ ออกจากอาชญากรทางประวัติศาสตร์ ด้วยเพราะเหตุว่า มีคนไม่กี่คนที่ชื่นชมฮิตเลอร์นั้น ผมไม่เห็นด้วยครับ คนที่เป็นต้นเหตุให้คนนับล้านๆ ตายในสงคราม คนที่ ในที่สุดแล้ว นำพาชาติตัวเองไปสู่ความฉิบหาย คนที่เป็นต้นคิด ในการสั่งการให้สั่งประหัตประหารคนบริสุทธิ์อีก 6 ล้านคน ....แม้นฮิตเลอร์ไม่ได้สั่งการโดยตรงในการสังหารคนยิวทั้ง 6 ล้าน ก็ไม่สามารถปัดความรับผิดชอบในการสังหารหมู่ครั้งนี้ได้ครับ ดังนั้น ผมเองก็เห็นสมควรที่ฮิตเลอร์จะได้รับการประนามในประวัติศาสตร์ ว่าเป็นคนโหดเหี้ยมผิดมนุษย์ และถ้าหากตัดสินโดยปราศจากอคติแล้ว ก็ไม่เห็นว่า คนอย่างฮิตเลอร์จะสมควรที่จะได้รับการยกย่อง หรือสมควรได้สรรพนามแทนตัวว่า "ท่าน" ที่ตรงไหน สัตว์นรกมาเกิดชัดๆ จากคุณ : lb'sN - [ 9 ธ.ค. 49 16:44:36 A:203.113.60.71 X:203.190.250.104 TicketID:131967 ]

ความคิดเห็นที่ 14 เห็นด้วยกับคห.12ค่ะ ว่าสงครามฝั่งตะวันออก ระหว่างเยอรมันกับโซเวียตดุเดือดกว่ามาก ลองไปค้นดู พบว่าทหารโซเวียตตายในสงครามโลกครั้งที่2 มากที่สุดเป็นอันดับ1 (ทำให้แปลกใจมาก) อันดับ2 อย่างๆที่รู้ๆกัน คือทหารเยอรมันค่ะ ในขณะที่ทหารอังกฤษ อมเริกา ยในสงครามนี้น้อยกว่าเท่าตัว  (แต่เสียเงินไปเยอะค่ะ) รวมถึง ทหารฝรั่งเศส ที่ตายน้อยมาก เพราะรีบยอมแพ้เยอรมันเสียก่อน จากคุณ : whaleaza - [ 9 ธ.ค. 49 17:50:54 ]

ความคิดเห็นที่ 15 ข้อมูลนี้มากจากแบบเรียนประวัติศาสตร์ของญี่ปุ่นเล่มหนึ่ง เชื่อถือได้ค่ะ)  จำนวนผู้ที่เสียชีวิตในสงครมโลกครั่งที่2 แบ่งเป็น ทหาร และประชาชนธรรมดา จำนวนคนที่เสียชีวิตในสงครามโลกครั้งที่2 อันดับ1 โซเวียต 18ล้านคน อันดับ2  จีน  (ตำนวนประชาชนที่ตายมากกว่าทหารเป็น10ๆเท่า) ข้อมูลไม่ทราบแน่ชัดค่ะ อันดับ3 โปแลนด์ 5ล้าน8แสนคน (อันนี้ก็เหมือนกันที่แต่ประชาชนค่ะ) อันดับ4 เยอรมัน  4ล้าน3แสนคน อันดับ5 ญี่ปุ่น 1ล้าน9แสน7หมื่นคน (จำนวนทหารที่ตายมากกว่าประชาชน1เท่า) อันดับ6 ฝรั่งเศส 5แสน6หมื่นคน (ประชาชนที่ตายมากกว่านิดหน่อย) อันดับ7 อังกฤษ 4แสน6หมื่นกว่าคน (ทหารที่ตายมากกว่าค่ะ) อันดับ8  อเมริกา 3แสนคน (ทหารที่ตายมากกว่าค่ะ)  สรุป  จำนวนคนฝั่งพันธมิตรที่ตาย มีทั้งหมด ประมาณ38ล้าน7แสนคน   โดยแบ่งเปนทหาร64.5 เปอร์เซนต์ ประชาชน64.5 เปอร์เซนต์        ส่วนฝั่งอักษะ(ประกอบด้วยประเทษหลักๆคือ  เยอรมัน ญี่ปุ่น อิตาลี) คนที่ตายมีทั้งหมด7ล้าน7แสน6หมื่นคน  โดยแบ่งเป็นทหาร72.6เปอร์เซนต์ ประชาชน27.4เปอร์เซนต์ จากคุณ : whaleaza - [ 9 ธ.ค. 49 18:07:42 ]

ความคิดเห็นที่ 16 ข้อมูลนี้มากจากแบบเรียนประวัติศาสตร์ของญี่ปุ่นเล่มหนึ่ง เชื่อถือได้ค่ะ)  จำนวนผู้ที่เสียชีวิตในสงครมโลกครั่งที่2 แบ่งเป็น ทหาร และประชาชนธรรมดา จำนวนคนที่เสียชีวิตในสงครามโลกครั้งที่2 อันดับ1 โซเวียต 18ล้านคน อันดับ2  จีน  (ตำนวนประชาชนที่ตายมากกว่าทหารเป็น10ๆเท่า) ข้อมูลไม่ทราบแน่ชัดค่ะ อันดับ3 โปแลนด์ 5ล้าน8แสนคน (อันนี้ก็เหมือนกันที่แต่ประชาชนค่ะ) อันดับ4 เยอรมัน  4ล้าน3แสนคน อันดับ5 ญี่ปุ่น 1ล้าน9แสน7หมื่นคน (จำนวนทหารที่ตายมากกว่าประชาชน1เท่า) อันดับ6 ฝรั่งเศส 5แสน6หมื่นคน (ประชาชนที่ตายมากกว่านิดหน่อย) อันดับ7 อังกฤษ 4แสน6หมื่นกว่าคน (ทหารที่ตายมากกว่าค่ะ) อันดับ8  อเมริกา 3แสนคน (ทหารที่ตายมากกว่าค่ะ)  สรุป  จำนวนคนฝั่งพันธมิตรที่ตาย มีทั้งหมด ประมาณ38ล้าน7แสนคน   โดยแบ่งเปนทหาร64.5 เปอร์เซนต์ ประชาชน64.5 เปอร์เซนต์        ส่วนฝั่งอักษะ(ประกอบด้วยประเทศหลักๆคือ  เยอรมัน ญี่ปุ่น อิตาลี) คนที่ตายมีทั้งหมด7ล้าน7แสน6หมื่นคน  โดยแบ่งเป็นทหาร72.6เปอร์เซนต์ ประชาชน27.4เปอร์เซนต์ จากคุณ : whaleaza (whaleaza) - [ 9 ธ.ค. 49 18:08:19 ]

ความคิดเห็นที่ 17 จากข้อมูลดังกล่าว จะพบว่าฝั่งอังกฤษสูเสียคนน้อยกว่าโซเวียตมาก (ส่วนอเมริกาเป็เพราะเพิ่งเข้าร่วมสงครมจริงๆ ปี1941 ช้ากว่า2ปี) ส่วนหนึ่งเป็นเพราะ อังกฤษ (ประเทศ เกลียดโซเวียต ประเทศคอมมิวนิสต์ เข้าไส้   จึงพยายามให้โซเวียตรบกับเยอรมันมากที่สุด ในช่วง2ประเทศรบกัน  อังกฤษก็มีเวลาฟื้นตัว และตอนแรกที่อังกฤษเห็นการกระทำรุกรานประเทศอื่นๆของเยอรมัน แล้วไม่ขัดขวางนั้น ก็เพราะ 1.ไม่อยากให้เกิดสงครามโลกครั้งที่2อีก  ใช้สันติวิธี เจรจากันดีกว่า 2.อยากให้เยอรมันเป็นผู้ช่วยขวางกัน้นการคุกคามของ ประเทศคอมมิวนิสต์อย่างโซเวียต จากคุณ : whaleaza (whaleaza) - [ 9 ธ.ค. 49 18:16:04 ]

ความคิดเห็นที่ 18 ประเทศอย่างโปแลนด์หรือนอร์เวย์คงมียุทโธปกรณ์สู้เยอรมันไม่ได้จริง แต่ฝรั่งเศสกับอังกฤษนั้นไม่ใช่นะครับ รถถังของทั้งอังกฤษและฝรั่งเศสก็ไม่ได้น้อยหน้าเยอรมันเลย เครื่องบินอังกฤษอย่าง spitfire กับ hurricane ก็ไม่ได้ด้อยกว่า me 109 นัก จำนวนรถถังกับเครื่องบินของทั้งสองประเทศรวมกันก็มากกว่าเยอรมัน ที่พันธมิตรพลาดท่าตอนแรกก็เพราะแผนรบเยอรมันเจ๋งกว่า เยอรมันก็ไม่ได้บุกแบบไม่ให้รู้เนื้อรู้ตัวด้วย เยอรมันบุกโปแลนด์(แบบไม่รู้ตัว)ตั้งแต่ตุลา 39 อังกฤษกับฝรั่งเศสประกาศสงครามกับเยอรมันทันที กว่าเยอรมันจะมาบุกฝรั่งเศสนี่ก็พฤษภา 40 แล้ว ฝรั่งเศสแพ้ใน 1 เดือนนะครับ ทั้งๆที่ตอนสงครามโลกครั้งที่ 1 ยันไว้ได้ 4 ปี ทั่วโลกตะลึงนี่ก็ไม่ใช่การกล่าวเกินไปอย่างแน่นอน จากคุณ : HotChoc - [ วันรัฐธรรมนูญ 00:45:08 ]

ความคิดเห็นที่ 19 ได้ดูหนังเรื่อง Enemy at the gate ก็เข้าใจล่ะครับ ว่าทำไมทหารรัสเซีย ถึงได้ตายมาก ตายมาย ขนาดนั้น..  ก็พ่อเล่นเกณฑ์ชาวบ้านจากบ้านนอกขึ้นรถไฟ มารบแบบไม่รู้อิโหน่อิเหน่ ฝึกก็แทบไม่ได้ฝึก..   ปืนไรเฟิลหนึ่งกระบอก สำหรับสองคน กระสุนอีกตับนึง ถ้าคนนึงตาย ก็ให้อีกคนเอาปืนนั่นแหละมายิงต่อ ><"   บุกไปข้างหน้าได้อย่างเดียว ห้ามถอย!! ถอยตาย..(โดน ส.ห. พวกเดียวกันส่อง ข้อหาหนีทหาร) ปล. ในภาวะสงครามแบบนั้นก็เข้าใจว่า ผู้นำต้องเด็ดเดี่ยว แต่ของรัสเซีย นี่ก็เรียกว่าดุจริงๆ สำหรับการรบใน สตาลินกราด  เป็นหนังเรื่องนีงที่ผมชอบมากครับ จากคุณ : จ๊ะจ๋าจ๋าจ๊ะ - [ วันรัฐธรรมนูญ 00:58:59 ]

ความคิดเห็นที่ 20 เคยูหนังเรื่อง Enemy at the gate เหมือนกันค่ะ ที่พระเอกยิงปืนแม่นมากๆ  จะคอยซุ่มอยู่ยิงศัตรู ดวลกับนักแย่นปืนฝ่ายเยอรมันด้วย จากคุณ : whaleaza - [ วันรัฐธรรมนูญ 06:18:25 ]

ความคิดเห็นที่ 21 ขออนุญาตหน่อยนะครับ จากคุณ : TonyMao_NK51 - [ วันรัฐธรรมนูญ 09:55:44 ]

ความคิดเห็นที่ 22 Enemy at the Gates เป็นหนังที่ดูสนุกดี แต่อย่าเชื่อมาก ไม่ตรงตามประวัติศาสตร์เท่าไหร่หรอก ส่วนหนึ่งเป็นเพราะอคติของชาติตะวันตกต่อโซเวียตด้วย จากคุณ : HotChoc - [ วันรัฐธรรมนูญ 21:13:33 ]

ความคิดเห็นที่ 23 ส่วนนึงเป็นเพราะนโยบายผ่อนปรนของอังกฤษ ฝรั่งเศสและกลุ่มประเทศอื่นในยุโรปค่ะ เป็นผลมาจากสงครามโลกครั้งที่ 1 ที่เยอรมันถูกปรับค่าปาฏิมากรสงครามเยอะมาก (และมีเหตุผลอื่นๆอีก) ทางอังกฤษและฝรั่งเศสและอื่นๆเลยใช้นโยบายผ่อนปรน   การรุกรานยุโรปของเยอรมันนำโดยฮิตเลอร์มีขึ้นตั้งแต่ช่วงปี 1930sแล้ว  แต่เนื่องจากไม่มีใครออกท่าทียับยั้งเด็ดขาด  เลยเหมือนได้คืบเอาศอก ลุกลามออกไป  จนเป็นสงครามโลกครั้งที่สองใน 1940s เหตุการณ์ที่อเมริกันต่อสู้กับผู้ก่อการร้าย ใช้ไม้แข็งกับอีรักและประเทศทั้งหลาย  ส่วนหนึ่งเป็นผลกระทบจากบทเรียนในสงครามโลกครั้งที่สองค่ะ  ว่าไม้อ่อนไม่ได้ผล  มากกว่านี้ลองค้น Bush Doctrine ดูค่ะ บอกนโยบายต่างประเทศของอเมริกันได้ดี  เน้นรุกไม่เน้นรับทั้งนั้น จากคุณ : #^_^# นู๋อายยย - [ 12 ธ.ค. 49 08:10:49 ]

ความคิดเห็นที่ 24 สาเหตุที่เยอรมันมือขึ้นตอนช่วงแรกของสงครามเพราะ ทั้งอาวุธยุทธโธปกร รวมทั้งยุทธวิธีของฝ่ายตรงข้ามกับเยอรมัน สู้เยอรมันไม่ได้ครับ อย่างตอนที่เยอรมันบุกฝรั่งเศส ฝรั่งเศสก็ยังใช้ยุทธวิธีเดิมๆอย่างที่เพื่อนๆบางคนบอกข้างบนอยู่ คือหวังว่าป้อมตามแนวมาญิโน จะสามารถเป็นแนวป้องกันการบุกของเยอรมันได้ครับ จากคุณ : ดอนนี่ - [ 13 ธ.ค. 49 15:25:40 ]

ความคิดเห็นที่ 25 วิธีรบของรัสเซียมันไม่แปลกหรอกที่จะสูญเสียอะ   อย่างที่ซูคอฟทำอะ  เสียเท่าไรไม่ว่าขอให้ชนะ  เหมือนอย่างใน enemy at the gate อะ  ใช้ human wave ชาร์ตเยอรมัน( เรื่องนี้เรื่องจริง  แต่รายละเอียดในหนังก็แล้วแต่จะคิด ) แล้วช่วงที่รัสเซียตีโต้เยอรมันที่สตาลินกราดอะ  มันชาวเมืองแถวนั้นที่ไหน  ไปขนทหารจากที่อื่นมา  ไซบีเลียหรืออะไรทางเหนือน่ะมารบ   พวกคนพื้นที่แถวนั้นตายไปตั้งแต่เริ่มรบแรกๆแล้ว พวกคอมยุคแรกๆก็รบแบบนี้แหละ  ถือว่ามีคนเยอะบุกเข้าไปไม่ยั้ง  ก็เลยสูญเสียมาก  อย่างจีนที่รบกับเวียดนามช่วงแรกๆอะ ทหารเยอรมันฝึกหนักมาก  โดยเฉพาะทหารเรือ  ทำให้คนของเยอรมันมีคุณภาพมาก  รวมทั้งอาวุธที่ทันสมัยกว่ามาก  แต่สุดท้ายก็แพ้เพราะเรื่องปริมาณ จากคุณ : craftman - [ 19 ธ.ค. 49 10:06:29 ]