ความคิดเห็นที่ 1 ข้อมูลโดยละเอียด รอผู้รู้แล้วกันครับ ส่วนนี้คือประวัติพระนาง จากเว็บ ม.สวนสุนันทา ========================================= สมเด็จพระนางเจ้าสุนันทากุมารีรัตน์ พระบรมราชเทวี (รัชกาลที่ ๕ ทรงออกพระนามเรียกโดยลำลองว่า "แม่ใหญ่") สมเด็จพระนางเจ้าสุนันทากุมารีรัตน์ พระบรมราชเทวี พระปิยมเหสีในรัชกาลที่ 5 สมเด็จพระนางเจ้าสุนันทากุมารีรัตน์ พระบรมราชเทวี พระราชธิดาในพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ลำดับพระองค์ที่ 50 ในสมเด็จพระปิยมาวดีศรีพัชรินทรมาตา (เจ้าจอมมารดาเปี่ยม) เสด็จพระราชสมภพ ณ วันเสาร์ที่10 พฤศจิกายน ปีวอก พุทธศักราช 2403 ณ พระบรม มหาราชวัง ทรงมี พระเชษฐภาตา พระขนิษฐภคินี และ พระขนิษฐภาตา ร่วมพระชนนี รวม 6 พระองค์ 1. พระเจ้าลูกยาเธอ พระองค์เจ้าอุณากรรณ อนันตรนรไชย 2. พระเจ้าลูกยาเธอ พระองค์เจ้าเทวัญอุไทยวงศ์ (สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาเทวะวงศ์วโรปการ) 3. พระเจ้าลูกเธอ พระองค์เจ้าสุนันทากุมารีรัตน์ (สมเด็จพระนางเจ้าสุนันทากุมารีรัตน์ พระบรมราชเทวี) 4. พระเจ้าลูกเธอ พระองค์เจ้าสว่างวัฒนา (สมเด็จพระศรีสวรินทราบรมราชเทวี พระพันวสาอัยยิกาเจ้า) 5. พระเจ้าลูกเธอ พระองค์เจ้าเสาวภาผ่องศรี (สมเด็จพระศรีพัชรินทราบรมราชินีนาถ บรมราชชินีพันปีหลวง) 6. พระเจ้าลูกเธอ พระองค์เจ้าสวัสดิโสภณ (สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระสวัสดิวัตนวิศิษฐ์) เมื่อ พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เสด็จสวรรคต ขณะนั้น สมเด็จพระนางเจ้าสุนันทาฯ ทรงมีพระชันษา 9 พรรษา พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ชุบเลี้ยงด้วยพระเมตตากรุณายิ่งกาลต่อมาทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ สถาปนาพระอิสริยยศ ขึ้นเป็นพระนางเธอฯ พระอัครมเหสี ซึ่งได้ปฏิบัติหน้าที่สนองพระมหากรุณาธิคุณ ด้วยความซื่อสัตย์ จงรักภักดี เบื้องพระยุคลบาทอย่างยิ่ง จนเป็นที่โปรดปรานสนิทเสน่หาของสมเด็จพระบรมราช สวามียิ่งกว่า พระอัครมเหสี หรือข้าบาทบริจาริกาองค์อื่น ๆ ในครั้งนั้น เมื่อพระชนมายุได้ 19 พรรษา ทรงมีพระราชธิดาองค์แรก ทรงพระนามว่าสมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้า กรรณา ภรณ์เพชรรัตน์ สมเด็จ พระนางเจ้าสุนันทาฯ เสด็จทิวงคต เมื่อพระชนมายุได้เพียง 19 ปี 6 เดือน 21 วัน ด้วยอุบัติเหตุเรือล่ม ที่ตำบลบางพูด ปากเกร็ด นนทบุรี เมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม พุทธศักราช 2423 ซึ่ง ขณะนั้นทรงพระครรภ์อยู่ด้วย พระบาทสมเด็จพระ จุลจอมเกล้าเจ้าหัว ทรงโศกเศร้าโทมนัสในพระราชหฤทัยเป็นอย่างยิ่ง ด้วยความเสียดายอาลัยรักเป็นที่สุด ดังจารึกที่อนุสาวรีย์ที่บางปะอิน ดังนี้ที่ระลึกถึงความรักแห่งสมเด็จพระนางเจ้าสุนันทากุมารีรัตน์ พระบรมราชเทวี อัครมเหสี อันเสด็จทิวงคตแล้ว ซึ่งเคยมาอยู่ในสวนนี้ โดยความสุขสบายจะเป็นที่เบิกบานใจ พร้อมด้วยผู้ซึ่งเป็นที่รักและสนิทอย่างยิ่ง ของเธอ อนุสาวรีย์นี้สร้างขึ้นโดย จุฬาลงกรณ์บรมราช ผู้เป็นสามีอันได้รับความเศร้าโศกเพราะความทุกข์อันแรงกล้า ในเวลานั้นแทบจะถึงแก่ชีวิต ถึงกระนั้นก็ยังมิได้หักหาย จุลศักราช 1243 สมเด็จพระนางเจ้าสุนันทา กุมารีรัตน์ พระบรมราชเทวี เป็นที่เคารพสักการะ และเป็นศูนย์รวมจิตใจของพวกเราชาวสวนสุนันทาทั้งมวล เราเรียกตัวเองว่า "ลูกพระนาง" จากคุณ : WindowzzzPlus - [ 17 พ.ค. 50 12:59:15 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ส่วนในรูป จขกท. คือ อาคารสายสุทธานพดล หรือตึก 27 ซึ่งเป็นอาคารที่งดงาม ทรงคุณค่าทางสถาปัตยกรรมและประวัติศาสตร์ เดิมเป็นที่ประทับของ สมเด็จ พระวิมาดาเธอกรม พระสุทธาสินีนาฏปิยมหาราชปดิวรัดา พระอัครชายาในรัชกาลที่ 5 ผู้ทรงทำให้ สวนสุนันทา เป็นศูนย์รวมของราชสำนักฝ่ายใน ยุคสุดท้ายเป็นศูนย์กลางของวัฒนธรรมประเพณีไทยและเป็นสถาบันการศึกษา อันมีชื่อเป็นที่เลื่องลือเป็นสถานที่เก็บรวบรวมและแสดงงานศิลปะและวัฒนธรรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาสยามบรมราชกุมารี เสด็จมาทรงทำพิธีเปิดศูนย์ศิลปวัฒนธรรม เมื่อวันที่ 4 มกราคม พ.ศ. 2533 =========================================   ข้อมูลจาก : http://www.ssru.ac.th ข้อมูลเพิ่มเติม :  http://th.wikipedia.org/wiki/สมเด็จพระนางเจ้าสุนันทากุมารีรัตน์%20พระบรมราชเทวี แก้ไขเมื่อ 17 พ.ค. 50 13:04:29 จากคุณ : WindowzzzPlus - [ 17 พ.ค. 50 13:03:44 ]

ความคิดเห็นที่ 3 แก้ไขเมื่อ 17 พ.ค. 50 17:14:48 จากคุณ : เจ้าพลาวัสถ์ - [ 17 พ.ค. 50 17:13:55 ]

ความคิดเห็นที่ 4 วันนั้นไปเดินในร้านหนังสือเจอหนังสือเรื่อง วังสวนสุนันทา ว่าจะซื้อแล้วเชียว แต่ดันโลเลกับหนังสือ ลิ้นชักภาพเก่า ตัดสินใจไปตัดสินใจมา ก็เลยเอาหนังสือ ลิ้นชักภาพเก่า มา แต่ซื้อมาแล้วรู้สึกเสียดายเงินจังเลยรู้งี้ซื้อหนังสือ วังสวนสุนันทา ดีกว่า จากคุณ : เจ้าพลาวัสถ์ - [ 17 พ.ค. 50 17:15:42 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ประวัติคร่าวๆ ก็คือ พระราชฐานแห่งนี้รัชกาลที่ 5 มีพระราชประสงค์จะสร้างพระราชทานให้เป็นที่ประทับของเหล่าพระมเหสีเทวี และเหล่าเจ้าจอมพระสนม ภายหลังจากที่พระองค์เสด็จสวรรคต แต่การยังมิได้เป็นไปตามพระราชประสงค์ก็เสด็จสวรรคตเสียก่อน รัชกาลที่ 6 จึงทรงรับพระราชภาระในการสร้างพระราชฐานแห่งนี้สืบต่อมา โดยทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้เจ้าพระยายมราช เป็นผู้อำนวยการก่อสร้างตำหนักต่างๆ และพระยาประชากรวิจารณ์ เป็นผู้ควบคุมงาน การก่อสร้างตำหนักต่างๆ ทั้ง 32 ตำหนักแล้วเสร็จในปี 2462 และในปี 2465 จึงได้สร้างพระที่นั่งนงคราญสโมสรขึ้นเพื่อใช้เป็นที่บำเพ็ญพระกุศล และจัดงานรื่นเริงของเจ้านายฝ่ายใน ตำหนักสำคัญๆ  เช่น พระตำหนักใหญ่ของสมเด็จพระพันวัสสาฯ พระตำหนักสมเด็จพระปิตุจฉาเจ้าสุขุมาลมารศรี ตำหนักพระวิมาดาเธอ และตำหนักสมเด็จเจ้าฟ้านิภานพดล ตำหนักสมเด็จพระราชปิตุจฉา  เจ้าฟ้าวลัยอลงกรณ์ ตำหนักสมเด็จเจ้าฟ้ามาลินีนพดารา เป็นต้น แก้ไขเมื่อ 17 พ.ค. 50 21:33:28 จากคุณ : รอยใบลาน - [ 17 พ.ค. 50 21:32:46 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ตึก 27 เคยอยู่คู่กับตึก 28 ซึ่งอยู่ไปทางทิศตะวันออกของตึก 27 บัดนี้ถูกรื้อมาสร้างเป็นตึกใหม่แล้ว ในตึก 28 เคยมีของเก่าหลงเหลือมากมาย อาจารย์ที่เป็นตำนานของวิทยาลัยครูสวนสุนันหลายท่านสอนที่ตึกนี้ ตัวอย่าง นางมหาเทพกษัตริย์สมุห์ (บรรเลง ศิลปบรรเลง) ก็เคยสอนดนตรีที่ตึกนี้ เคยมีเปียโนเก่าแก่ทิ้งให้โทรมอยู่เชิงบันไดขึ้นชั้นบน ถ้ายังอยู่ก็คงจะเป็นเปียนโนของเก่าที่มีราคาสูงมากแน่ ๆ ทั้งสองตึกมีห้องใต้ดิน นัยว่าเอาไว้ให้พวกทาสพัก แต่มักจะเป็นการลือเรื่องผีดุมากกว่า ห้องใต้ดินของตึก 28 เคยใช้เป็นที่ตั้งโรงพิมพ์ของวิทยาลัยครูสวนสุนันทา ด้านนอกของตึก 27 นี้ ข้างหน้าเยื้องไปทางขวา ริมคลอง เคยมีต้นสารภีใหญ่มากยืนอยู่ ในละครเรื่องเงาะป่า ตอนลำหับชมป่าที่กล่าวถึงสารภีว่า โน่นแน่ะอุ๊ยสารภีไม่มีใบ       เหมือนต้นไม้ทองตั้งอยู่ทั้งคู่ แมลงล้อมตอมว่อนเสียงหวี่วู  ไม่มีผู้ช่วยสอยน้อยใจเอย สารภีต้นนี้เคยออกดอกให้นักศึกษาเห็นว่าเหมือนต้นไม้ทอง น่าเสียดายว่าไม่นานหลังจากออกดอก ก็ถูกตัวด้วงไชจนต้นตายไป ที่ปากทางเข้าห้องใต้ดินของหลุมหลบภัยที่ "เนินพระนาง" ซึ่งเป็นที่สถิตของต้นแก้วเจ้าจอมต้นแรกในเมืองไทย เคยมีต้นไม้เลื้อยดอกหอม มารู้จักชื่อภายหลังว่าต้นโนรา ลักษณะดอกมองด้านข้างเหมือนลูกเจี๊ยบขนปุยสีขาวมีเหลืองแซมตรงกลางดอก .....ความทรงจำสมัยเป็นนักเรียนเมื่อ 48 ปีก่อน สมัยนั้นมีการจัดงานครบรอบ 100 ปีพระนางสุนันทา มีการแสดงของภาคต่าง ๆ มากมายรวมทั้งการเห่เรือที่มีการสร้างเรือสุพรรณหงส์จำลองบริเวณหน้าตึกอำนวยการ (ด้านหน้าเนินพระนาง) แล้วให้นักศึกษาแต่งตัวเป็นพลพาย เห่เรือด้วยกาพย์เห่เรือของเจ้าฟ้ากุ้ง น่าชมมาก แก้ไขเมื่อ 18 พ.ค. 50 08:44:39 จากคุณ : satitp - [ 18 พ.ค. 50 08:31:12 ]

ความคิดเห็นที่ 7 อวสานสวนสุนันทา ในช่วงเปลี่ยนแปลงการปกครองในวันที่ ๒๔ มิถุนายน วังสุนันทาอยู่ใกล้กับพระที่นั่งอนันตฯ ก็ได้ยินเสียงเขาพูดไมโครโฟน ได้ยินเสียงรถเกราะดังสนั่นมา พอเขาจับใครมาได้เขาก็เฮกัน เราอยู่ข้างในกลัวที่สุด ...เจ้านายก็มาทรงกางพระวิสูตร กางมุ้งอยู่ที่ตำหนักสมเด็จอาหญิงน้อยหมดเชียว ก็นั่ปรับทุกข์กันว่า ต่อไปนี้พวกเราจะเป็นอย่างไร เขาจะเอาเราไปฆ่าหรือเปล่าก็ไม่รู้ ...ระหว่างนั้นเขาส่งนักเรียนนายดาบมาคุมที่หน้าประตู คือไม่ให้ใครหนีออกไป ใบปลิวแต่ละอันๆ ที่ส่งเข้ามามากมาย รุนแรง พอกลัวขึ้นมา เราก็น้ำตาไหลกันหมดทุกคน นั่งร้องไห้ เก็บข้าวของ บางคนก็วิตกว่า เขาจะเอาเจ้านายไปฆ่า ...สมเด็จอาก็รับสั่งว่า ถ้าจะเกิดอะไรขึ้นลูกใครที่มีพ่อมีแม่ก้ควรจะออกไปคล้ายๆ ถูกไล่ออกจากวัง ที่จริงท่านไม่ได้ไล่ แต่ไม่รู้จะทำอย่างไร ดิฉันจึงได้ออกมาอยู่วังบ้านดอกไม้ พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าวิมลฉัตร ประทานสัมภาษณ์ในนิตยสารดิฉัน "ความวัวยังไม่ทันหาย ความควายก็เข้ามาแทรก" คืนหนึ่งเสียงดังยิงตึงตังที่ลานพระบรมรูปทรงม้า ได้ยินเสียงดังไกล้แค่นี้เอง เจ้านายทุกพระองค์ตกพระทัย ทุกคนตกใจเพราะไม่รู้เรื่องราวเจ้าประคุณเอ๋ยอย่าให้เป็นแบบประเทศรัสเซียเลย ทุกคนเตรียมพร้อม ยิ่งได้ทราบว่ามีการเชิญพระองค์สมเด็จกรมพระยาดำรงราชานุภาพ และสมเด็จกรมพระยานริศราฯ และทูลกระหม่อมบริพัตรฯ  และเจ้านายผู้ใหญ่อีกหลายพระองค์ไปไว้ที่พระที่นั่งอนันตสมาคม ก็ยิ่งหวั่นกลัวกันทั่วทุกคน วันวิปโยคของเรามาอีกครั้ง เมื่อพระองค์เจ้าของตำหนักทรงตัดสินพระทัยออกจากสวนสุนันทา ไปประทับที่ตำหนักเจ้าน้อย จ.สงขลา ซึ่งเป็นตำหนักของสมเด็จชาย โดยท่าพ่อดิฉัน ม.จ.โสตถิผล ชมพูนุท เป็นผู้จัดตำหนักรับเสด็จมีข้าหลวงติดตามไปด้วยเป็นบางส่วน เด็กๆ ที่มีพ่อมีแม่ก็ทรงคืนให้พ่อแม่มารับไปเลี้ยงดุเอง ก่อนจากกันร้องไห้จนตาบวม เพราะเราไม่เคยจากกัน อยู่ด้วยจนรู้สึกเป็นครอบครัวเดียวกันมานาน เมื่อสิ้นร่มโพธิ์ร่มไทรทุกคนก็ต้องจากกัน... คำสัมภาษณ์ของ ม.ร.ว.พาสน์พูลศรี กฤษณจันทร์ [คลิกเพื่อชมภาพขนาดจริง] จากคุณ : รอยใบลาน - [ 18 พ.ค. 50 22:38:26 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ได้ความรู้มากมายทีเดียวค่ะ มีใครพอจะเล่าได้อีกไหมคะ จะรอฟังอย่างผู้ฟังที่ดี จากคุณ : สการะวาตี (สการะวาตี) - [ 19 พ.ค. 50 01:11:25 ]

ความคิดเห็นที่ 9 "....ช่างงามเหลือเกิน รื่นเริงภิรมย์ชมสวนสุนัน เหมือนหนึ่งสวรรค์อันวิไล หลากมาลีสีงามตา น้อมวิญญาพาสดใส ลูบไล้หัวใจชื่นบาน .....พิกุล ลั่นทม พาชมเพลิน หอมเชิญให้ชิดชมสราญ พันธุไม้ชวนชื่นชม โกศสไทรโยคพบพาน อดีตแย้มบานชื่นตา โอ้เนินพระนางไม่จางพระนาม พระผู้รื่นรมย์ พระผู้เลอสมนามฉายา แก้วเจ้าจอมหอมบนเนิน ล้วนชวนเชิญให้ใผ่หา ศรัทธานิยมทั่วกัน...." จากคุณ : วรณัย - [ 19 พ.ค. 50 08:23:36 ]

ความคิดเห็นที่ 10 Enjoy ฟังเรื่องเล่าเก่าแก่ของสวนสุนันทา ฟังแล้วก็คิดถึงวันวาร ไปเดินดู รร เก่าหนหลังนี่ทุกอย่างเปลี่ยนไปหมด ผู้คนมากมาย เมื่อก่อนพอเลิกเรียนออกที่ด้านหน้าทางถนนอู่ทองนอก เวลาเดินออกด้านหลังผ่านหอพักจะรู้สึกว่าเดินนานมาก เดี๋ยวนี้ไปเดินดูรู้สึกเหมือนแป๊บเดียวเอง สงสัยว่าจะมีสักกี่คนที่ยังรู้เรื่องเก่าๆของ รร อยู่ รักและคิดถึงสวนสุนันทาเสมอค่ะ ขอบคุณ คุณพี่ satitp ที่มาเล่าเรื่องเก่าๆให้ฟัง จากคุณ : PatPDX - [ 19 พ.ค. 50 08:28:44 ]

ความคิดเห็นที่ 11 สมัยเรียนเคยเดินผ่านหอพักไปออกทางประตูด้านทิศเหนือเหมือนกัน และมีความรู้สึกว่าระยะทางมันยาวเหมือนที่ว่า สาเหตุคงจะเป็นเพราะ เกรงสายตาอาจารย์ปกครอง (อาจารย์นองนันท์ คุ้มครอง) ดูนามสกุลก็รู้ว่าท่านเกิดมาเพื่อเป็นอาจารย์ปกครองแท้ ๆ นอกจากนั้นชายหนุ่มยังเขินสายตาชาวหอที่มองเหมือนเราเป็นตัวประหลาด เพราะปกติไม่ค่อยมีนักเรียนชายเขาเดินผ่านกัน เมื่อวันงาน 100 ปีพระนางฯนั้นเคยได้รับมอบหมายให้เอาเรือสำปั้นที่เอามาลอยไว้ในคลอง ให้ผู้เข้ามาในงานได้เช่าพายชมบริเวณ เรือลำนี้จอดอยู่ใต้โรงอาหารไปหน่อยหนึ่งเกือบชิดกำแพง ตรงนั้นเคยเป็นที่พักของอาจารย์วัฒนา พรหมสาขา ณ สกลนคร หน้าที่คือต้องเอาไปส่งที่เกาะลอย ด้วยความที่ไม่เคยพายเรือในชีวิต ก็ชนฝั่งซ้ายขวาสลับกันไปตลอดทาง (แปรผกผันกับข้างเรือที่พาย) และที่เกาะลอยนี้ ก็เป็นประวัติว่าพวกเราเคยช่วยกันรื้อเอาผักตบขึ้นมากองบนฝั่งก่อนวันงาน ในวันงาน บนเนินพระนางมีร้านอาหารจำไม่ได้ว่าของนักศึกษาภาคใด ผมอาสาเปิดเพลงให้คนที่เข้ามากินอาหารฟัง 2 คนกับเพื่อน อีกมุมหนึ่งด้านตึกอำนวยการก็มีวงดนตรีของพี่ โกวิท ขันธศิริ ชื่อวง โกวิท-อรวรรณ (ตั้งชื่อตามพี่น้องของตระกูลนี้ พี่โกวิทหลังจากจบ ป.กศ.สูง ก็ไปศึกษาต่อจนจบปริญญาเอกด้านการดนตรี (ไวโอลิน) กลับมาได้ข่าวว่ามาสอนที่จุฬาฯ เช่นเดียวกับน้องสาวก็มาเป็นอาจารย์ที่จุฬาฯเหมือนกัน นักดนตรีในวงคนหนึ่งล่าสุดได้ข่าวเมื่อปี 2541 ว่าสอนอยู่ที่ มศว.ประสานมิตร ภาควิชาเทคโนโลยีการศึกษา ชื่ออาจารย์ พินิจ วรรโณ เพลงที่ผมเปิดให้คนกินอาหารฟังนั้นไม่ต้องไปหาที่ไหน ใช้วิทยุเครื่องเดียวผมก็คอยเงี่ยหูฟัง พอคนจัดรายการเปิดเพลง ก็บอกเพื่อนให้ประกาศชื่อเพลง ตรงปีกด้านทิศตะวันออกของตึก 27 มีอาจารย์ท่านหนึ่งก็จัดเป็นที่เปิดเพลงตามคำขอ เพลงละ 50 สตางค์ เท่ากับราคาเพลงหยอดเหรียญ ช่วงหนึ่งอาจารย์เข้ามาติดต่อขอยืมแผ่นไปเปิดบ้าง เพราะบนเนินพระนางฯ เขาลือกันว่ามีเพลงใหม่ ๆ เยอะ ก็เล่าให้อาจารย์ฟังถึงวิธีการ อาจารย์ (จำได้ว่าชื่ออาจารย์พรพจน์) ก็ขอร้องว่าให้เปิดน้อย ๆ หน่อย ตรงที่ของอาจารย์รายได้ไม่ค่อยดีเพราะของเราเปิดเพลงใหม่เยอะกว่า... นึกอะไรได้จะมาเล่าต่อครับ จากคุณ : satitp - [ 19 พ.ค. 50 09:54:14 ]

ความคิดเห็นที่ 12 แผนที่ประเทศไทยเป็นปูน 3 รูปที่ข้างตึก 27 ยังอยู่หรือเปล่าก็ไม่รู้นะครับ ใครรู้บ้างครับ จากคุณ : ศิษย์เก่าประถม (บ้านขมิ้น) - [ 19 พ.ค. 50 10:48:36 ]

ความคิดเห็นที่ 13 ตอนผมอยู่ยังไม่มีครับ จากคุณ : satitp - [ 19 พ.ค. 50 17:15:34 ]

ความคิดเห็นที่ 14 เรียนคุณsatitp  คุณเคยเป็นนักศึกษาของสถาบันแห่งนี้เช่นนั้นเหรอคับ! ดีใจจังคับ... ผมเองก็เป็นนักศึกษาของสถาบันแห่งนี้คับ! แต่ดูเหมือนว่าสถานที่แห่งนี้จะเปลี่ยนแปลงไปมากคับ เพราะเท่าที่ฟังผู้ใหญ่ท่านเล่าๆกันมาผมแทบจะมองภาพไม่ออกแล้วคับ เรื่องราวของวังแห่งนี้มีเรื่องราวเล่าต่อกันมามากมายเหลือเกิน  รวมถึงเรื่องของดวงวิณญานด้วยเช่นกัน เป็นเรื่องราวที่เล่ากันจากรุ่นสู่รุ่นแลดูเป็นสถาบันที่มีประวัติสาสตร์ที่น่าศึกษาค้นคว้าอย่างมาก ตอบ คห.ที่12 แผนที่ประเทศไทยเป็นปูน 3 รูปที่ข้างตึก 27 นั้นคงไม่มีมั้งคับเพราะบริเวณนั้นได้ปรับปรุงภูมิทัศน์ใหม่แล้วคับ มีโต๊ะเก้าอี้ให้นักศึกษาได้นั่งหลบร้อนใต้ต้นไม้ใหญ่ที่ปลูกโดยรอบของตัวอาคาร ตำหนักที่ยังเหลืออยู่ในมหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา มีอยู่ 6 หลังซึ่งได้ขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานแล้วทั้งสิ้น ได้แก่ 1.ที่ทำการศูนย์ศิลปวัฒนธรรม หรือ อาคารสายสุทธานพดล อาคาร 27 (เดิมเป็นตำหนักที่ประทับของ พระวิมาดาเธอฯ กรมพระสุทธาสินีนาฎ พระอัครชายา กับ สมเด็จฯ เจ้าฟ้านิภานพดลฯ) 2.อาคารสำนักกิจการนักศึกษา (ตำหนักที่ประทับ พระองค์เจ้าศศิพงษ์ประไพ) 3.อาคารเรียนคณะเทคโนโลยีอุตสาหกรรม (ตำหนัก พระองค์เจ้าพิศมัยพิมลสัตย์) 4.อาคารเรียนของภาควิชาดนตรี (ตำหนัก พระองค์เจ้าจุฑารัตนราชกุมารี) 5.อาคารคณะศิลปกรรมศาสตร์ (ตำหนัก พระองค์เจ้าอาทรทิพยนิภา) 6.อาคารที่ทำการของอาจารย์ภาควิชาคหกรรมศาสตร์ (ตำหนัก เจ้าจอมเอื้อน) จากคุณ : รวีช่วงโชติ - [ 20 พ.ค. 50 15:47:31 ]

ความคิดเห็นที่ 15 เข้ามาอ่านแล้วคิดถึงวันเก่าๆ ที่เคยเรียนเคยเล่นที่นั่นมาก กลับไปแทบจำไม่ได้เลย บรรยากาศเก่าๆ ที่อบอุ่นกลายเป็นแน่นขนัดไปแล้ว จากคุณ : ยัยจอมป่วน - [ 20 พ.ค. 50 21:31:45 ]

ความคิดเห็นที่ 16 ดอกแก้วเจ้าจอม ดอกไม้ประจำสถาบัน จากคุณ : รวีช่วงโชติ - [ 20 พ.ค. 50 22:48:54 ]

ความคิดเห็นที่ 17 พระราชานุสาวรีย์ สมเด็จพระนางเจ้าสุนันทากุมารีรัตน์ พระบรมราชเทวี จากคุณ : รวีช่วงโชติ - [ 20 พ.ค. 50 22:50:27 ]

ความคิดเห็นที่ 18 พระวิมาดาเธอ กรมพระสุทธาสินีนาฎฯ พระอัครชายา (พระนางเป็นผู้บุกเบิกสวนสุนันทา) จากคุณ : รวีช่วงโชติ - [ 20 พ.ค. 50 22:52:00 ]

ความคิดเห็นที่ 19 ศูนย์ศิลปวัฒนธรรม อาคารสายสุทธานพดล จากคุณ : รวีช่วงโชติ - [ 20 พ.ค. 50 22:53:44 ]

ความคิดเห็นที่ 20 เป็นศิษย์เก่าคบ. 4 ปีรุ่นแรกของสวนสุนันทาค่ะ เคยเป็นหนึ่งในพลพาย ที่เข้าร่วมกิจกรรมในวันพระนาง เมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน 2523 เคยไปจัดนิทรรศการ พระราชพิธี 12 เดือน บนตึก 27 ตึกเก่าที่สง่างาม เคยไปเรียนวิชา นาฏ 101 ที่ตึกนาฏศิลป์ เคยไปนั่งท่องหนังสือ ที่ม้าหินหลังตึก 6 บริเวณปราสาทพระนางเจ้าสุนันทากุมารีรัตน์ 23 ปีผ่านไป สวนสุนันทา เปลี่ยนแปลงไปมาก ระลึกถึงวันเก่าๆ แล้ว มีความสุขมากๆค่ะ ใครเป็นศิษยืเก่า คบ. 4 รุ่นแรก ส่งข่าวมาบ้างนะคะ " ช่างงามเหลือเกิน รื่นเริงภิรมย์ชมสวนสุนัน เหมือนหนึ่งสวรรค์อันวิไล" " เอ้อระเห่ยระเหยลอยไป ขวัญลอยไปไหน บอกได้ไหมสุนันทา" จากคุณ : ตั๊ก เอกไทย - [ 26 พ.ค. 50 11:17:37 A:125.26.237.183 X: ]