PANTIP.COM : K5421478 "ควรมิควรแล้วแต่จะโปรดฯ" จะแปลเป็นภาษาอังกฤษว่าอย่างไรดีคะ []

ความคิดเห็นที่ 9

จะเล่าเรื่องที่ไปรบรากับทนายมาเมื่อเราไปเป็นล่ามในศาล คดีนี้ฟ้องร้องกันเรื่องบริษัทแห่งหนึ่งอยู่ดีๆมีการประชุมผู้ถือหุ้นแล้วถอดถอนกรรมการฝรั่งคนหนึ่งออกไป แต่กรรมการคนนั้นอ้างว่าไม่รู้เรื่องและไม่ยอมรับมติในที่ประชุมเลยมาทะเลาะกันในศาล

ทนายความก็แสนจะเจ้าเล่ห์ เวลา cross examine witnesses (ซักพยานฝ่ายตรงข้าม) จะใช้ leading questions (คำถามนำ) หมดเลย ซึ่งไม่น่าจะยอมให้ทำเช่นนี้ได้ แต่ถ้าใครโวยวายผิดหลักว่า "เฮ้ยทำไมยอมให้ถามแบบนี้ได้ฟะ" เด๋วจะโดนข้อหา contempt of court (ดูหมิ่นศาล) ซึ่งตามกฎหมายไทยจะติดคุก 6 เดือน คือผู้พิพากษาจะออกคำสั่งว่าให้ลากตัวผู้ดูหมิ่นศาลไปเข้าคุกได้เลยโดยไม่ต้องมีการพิจารณาคดีให้เสียเวลา ...55++...

ทีนี้นะ เราก็ต้องมาทนฟังทนายเจ้าเล่ห์เนี่ย มันพูดยาวๆ ถ้าพิมพ์ออกมาคงได้ 4-5 บรรทัด (ทีแรกไม่ยาวเท่าไหร่) พี่แกเล่นพูดภาษาไทยเป็นประโยคบอกเล่ามา พอจบประโยคถามว่า "ไช่หรือไม่" ....ไอ้เราล่ามก็ปวดเศียร ต้องมานั่งคิดจะพูดประโยคภาษาอังกฤษว่า ขึ้นต้นเป็น

Did you.....?
Have you..........?
Were you ...........?
Have there been ............?
หรืออะไรทำนองนั้น

แปลๆไปประโยคบอกเล่าที่ทนายพูดก็ยิ่งยาวขึ้น (คราวนี้เริ่มยาวแบบถ้าพิมพ์ออกมาจะได้เต็ม 1 หน้ากระดาษ) แล้วเจ้าทนายก็จบลงด้วย "ใช่หรือไม่"

เราก็เลยคิดกลยูทธ์ใหม่ขึ้นมาได้ นั่นก็คือ พอทนายพูดบอกเล่า เราก็แปลบอกเล่าตามที่เขาพูด พอจบประโยคเขาบอกว่า "ใช่หรือไม่" เราก็แปลเป็น "True or not" หรือ "Yes or no" ......พี่แกพูดกวนมาเราก็แปลกวนไป .....ปรากฎว่าพยานฝรั่งที่โดนซักตอบคำถามผิดหมดเลย....55+++.....

พอฝรั่งรู้ทันว่าโดนหลอกให้ตอบคำถามในทางเป็นประโยชน์แก่ฝ่ายตรงกันข้ามก็มีการประท้วงกันขึ้นในศาล ......

ผู้พิพากษาก็ออกคำสั่งว่า ให้ทนายถามคำถามใหม่ดีๆ ......คราวนี้ทนายตายด้วยกลตัวเอง พี่แกพูดประโยคบอกเล่าใหม่ยาวเหยียด แต่ลืมใส่คำว่า "ใช่หรือไม่" ข้างท้าย ......

พอล่ามแปลไป ฝรั่งที่เป็นพยานก็ยืนทำตาปริบๆ เพราะไม่มีคำถาม........ล่ามจึง (แกล้ง) ประท้วงว่า "ทนายพูดภาษาไทยฟังไม่รู้เรื่อง" .............ผู้พิพากษาจึงหัวเราะ แล้วบอกว่า "ให้เติมคำว่า 'ใช่หรือไม่' ลงไปที่ท้ายประโยค" ............

พอเติมคำว่า "Yes or no" ลงไป ฝรั่งที่เป็นพยานก็จำไม่ได้แล้วว่า ข้อความยาวๆที่ล่ามแปลด้วยปากเปล่าไปตั้งแต่แรกแล้วน่ะ ข้อความมันว่าอะไร ฝรั่งก็เลยประท้วงอีก ......ฝรั่งเลยโมโหแล้วพูดว่า "I'm going to walk out"

ไอ้ตรงนี้เราไม่กล้าแปล เพราะกลัวฝรั่งจะติดคุกเอา(ข้อหาดูหมิ่นศาล) ก็เลยต้องหาทางช่วยแกหน่อย โดยการแกล้งทำเป็นอ้ำอึ้งอยู่พักใหญ่ๆ มีกระแอมด้วย (งานเนี้ยล่ามลูกเล่นแพรวพราว)...55+++ (คือรอให้มีคนประท้วงอ้ะ) จนปรากฎว่ามีการประท้วงกันขึ้นมาอีก แล้วก็ The case has been adjourned (ได้มีการเลื่อนการพิจารณาคดีไป)........เลยฝรั่งผู้น่าสงสารคนนั้นรอดพ้นจากการติดคุกไปได้อย่างหวุดหวิด.....
แก้ไขเมื่อ 21 พ.ค. 50 23:57:12
แก้ไขเมื่อ 19 พ.ค. 50 09:21:08
แก้ไขเมื่อ 19 พ.ค. 50 09:15:51
แก้ไขเมื่อ 19 พ.ค. 50 09:13:42
แก้ไขเมื่อ 19 พ.ค. 50 09:05:35

จากคุณ : tansy (iwrite4u) - [ 19 พ.ค. 50 09:01:46 ]