ความคิดเห็นที่ 1 ช้างป่าต้น คนสุพรรณ ป่าต้น คือป่าหลวง  เป็นป่าสงวนของพระราชา ห้ามคนสามัญมาจับ ล่า หรือทำร้ายสัตว์ในป่านี้ ช้างป่าต้น  คือช้างป่าหลวง ล้วนเป็นช้างพันธุ์ดีเลิศ ข้อที่ยังไม่กระจ่างคือ ป่าต้นอยู่ตรงไหนของจังหวัดสุพรรณบุรี กลอนในเรื่องขุนช้างขุนแผน ตอนจมื่นศรีกราบทูลเรื่องการตามจับขุนแผนต่อพระพันวษา  มีความตอนหนึ่งว่า ได้ยกกองทัพขับพลไป ถึงตำบลไม้ไทรสาขา ยังห่างป่าต้นพ้นมา ขุนช้างชี้ว่าตรงนี้ จึงยกต่อไปในพนา จนถึงป่าห้วยจระเข้สามพัน กลอนตอนนี้แสดงว่า  ป่าต้นอยู่ในบริเวณอู่ทอง ............. แผนที่การคมนาคมของเมืองสุพรรณ http://www.bangkokcentrehotel.com/THAI/13.html จากคุณ : NickyNick - [ 4 มิ.ย. 50 22:29:55 ]

ความคิดเห็นที่ 2 อาจารย์ศุภร บุนนาค ผู้เชี่ยวชาญวรรณคดีไทย และเป็นผู้ประพันธ์นวนิยายเรื่อง "บุญเพรงพระหากสรรค์" กับ ฟ้าใหม่"ทั้งสองเรื่องนี้ทำเอาผมซึ้งมากๆ ท่านมีความเห็นในเรื่องนี้ว่า "ป่าต้น" เมื่อดูตามคำบรรยาย (ในเสภาเรื่องขุนช้างขุนแผน) อีกทั้งชื่อสถานที่ที่มีอยู่ในปัจจุบันแล้ว  น่าจะอยู่ในบริเวณที่เป็นตำบลอู่ทอง  ตำบลยุ้งทลาย และตำบลจระเข้สามพัน  ซึ่งมีลำน้ำจระเข้สามพันเป็นแนวอยู่ด้วย  เพราะปรากฏตามคำให้การของจมื่นศรีสรรักษ์กราบทูลสมเด็จพระพันวษาว่า ตามไปพ้นตำบลป่าต้นแล้วไปสุดเอาที่ห้วยจระเข้สามพัน  จึงพบขุนแผนกับนางวันทอง เหตุที่ป่าต้นอยู่ในจังหวัดสุพรรณบุรี และเป็นแหล่งช้างชั้นเยี่ยม  จึงเปรียบคนสุพรรณได้กับช้างป่าต้น อุปมาเป็นเลิศเหนือช้างถิ่นอื่นฉันใด อุปไมยก็เป็นเลิศเหนือคนถิ่นอื่นฉันนั้น  สำนวนนี้เป็นคำยกย่องคนสุพรรณโดยแท้ นับว่าแก้กับสำนวน โค ขะ ละ สุ  ได้ คำยกย่องนี้มีใช้มาตั้งแต่สุนทรภู่เป็นอย่างช้า (คัดลอกจาก อ.ถาวร สิกขโกศล) รวบรวมเนื้อหาไว้ในนี้ มีโอกาสเชิญแวะชมได้ครับ http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=nickynick&group=4 จากคุณ : NickyNick - [ 4 มิ.ย. 50 22:33:38 ]

ความคิดเห็นที่ 3 น่าอ่านมากค่ะ จากคุณ : แสนอักษร - [ 5 มิ.ย. 50 00:08:11 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ประดับความรู้มักๆ จากคุณ : รินรุย - [ 5 มิ.ย. 50 09:43:39 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ช่างน่าอ่านและประทับใจยั่งนักหนาอ้ายหม๊า....  ด้วยความเคารพ จากคุณ : เกนหลงหนึ่งหรัด - [ 5 มิ.ย. 50 09:54:12 ]

ความคิดเห็นที่ 6 เข้ามาแล้ว ขออ่านด้วยคนค่ะ จากคุณ : little kitty - [ 5 มิ.ย. 50 10:02:48 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ทำไมถึงว่าคนสุพรรณว่าเป็นคนคด คบไม่ได้เล่าครับ ช่วยเล่าให้ฟังประดับความรู้หน่อย ไม่เคยรู้จักคนสุพรรณในแง่มุมนี้มาก่อนเลย จากคุณ : พลายแป้ง - [ 5 มิ.ย. 50 10:54:34 A:210.203.182.2 X: TicketID:120371 ]

ความคิดเห็นที่ 8 เห็นด้วยกับ คห 7 คนสุพรรณบ่เคยมีฉายาหน้าซื่อ ใจคด เนอะ จากคุณ : Babatov - [ 5 มิ.ย. 50 11:43:42 ]

ความคิดเห็นที่ 9 มีคำถามถามคนสุพรรณหน่อยฮะ บางอำเภอของสุพรรณ คนพูดไม่เหน่อ บางอำเภอเหน่อมาก ช่วย rank ให้หน่อยฮะ ว่าอำเภอไหนเหน่อมาก เหน่อน้อย เสียงมีเอกลักษณ์ดี ... ชอบง่ะ จากคุณ : Babatov - [ 5 มิ.ย. 50 11:46:02 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ขอบคุณทุกท่านครับ ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเพราะอะไร แต่ไม่ได้เฉพาะสุพรรณเท่านั้นนะครับ โค ขะ ละ สุ ก็ตั้งแต่เหนือยันใต้ ตะวันออกยันตะวันตกเลยทีเดียว ถึงจะไม่สุดขอบประเทศไทย แต่ก็ใกล้เคียง อาจเป็นการแสดงออกถึงความเคียดแค้นส่วนตัวของบางคนก็เป็นได้ พอโมโหใครก็พาลพะโร ยิ่งรู้ว่าเป็นคนเมืองไหน ก็คิดแค้นไปทั้งเมือง  ไม่มีการแบ่งแยกจำแนกความ แต่ท่านผู้รวบรวมก่อนที่ผมจะคัดลอกมา ก็ได้ทิ้งท้ายไว้ว่า แท้จริงแล้ว ไม่ว่าคนในถิ่นใดย่อมมีทั้งดีและชั่วปะปนกัน ขึ้นอยู่กับการประพฤติปฏิบัติของตนเป็นสำคัญ ความเหน่อของสุพรรณมีทุกอำเภอ อำเภอเมืองจะเหน่อมากสุด อำเภอศรีประจันต์จะเหน่อเพี้ยนๆ แบบที่ละครผู้กองยอดรักเค้าแสดงให้ชม อำเภออื่นก็เหน่อลดหลั่นกันไป ถ้าเป็นชุมชนคนลาวที่รักษาขนบธรรมเนียมอย่างเหนียวแน่น มักจะไม่เหน่อ คนลาวที่ผสมปนเปกับไทยจนกลายแทบไม่เหลือประเพณีเดิม จะเหน่อ คนเชื้อเขมรบ้านสามทอง จะเหน่อ คนกะเหรี่ยงด่านช้าง จะไม่เหน่อ คนนอกตลาด จะเหน่อ แต่ถ้าเป็นกลางเมือง หรือกลางตลาดของอำเภอต่างๆ มักจะไม่เหน่อ แต่ก็มีข้อยกเว้นมั่งแหละ ................ ภาพต้นมะขามขุนแผนวัดแค ติดขอบคูเมืองโบราณสุพรรณบุรีด้านเหนือ ที่จะออกแม่น้ำสุพรรณ (ท่าจีน) ขุนแผนเสกใบมะขามเป็นต่อแตนโจมตีข้าศึก จากคุณ : NickyNick - [ 5 มิ.ย. 50 12:06:44 ]

ความคิดเห็นที่ 11 พี่นิค หนูมีรูปขุนแผนค่ะ เมื่อวานวันเกิดแม่เลยไปสุพรรณฯ ไปไหว้หลวงพ่อโตกัน จากคุณ : biebie999 - [ 6 มิ.ย. 50 11:40:20 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ดีจังเลยน้องเบบี๋ พี่ยังไม่เคยมีรูปภาพของวัดป่าเก็บไว้ในดิจิตอลเลย ทั้งๆ ที่ไปเที่ยวออกบ่อย และอยู่ไม่ไกลจากบ้าน จากคุณ : NickyNick - [ 7 มิ.ย. 50 08:42:15 ]

ความคิดเห็นที่ 13 พี่นิค  เมื่อวันอังคารหนูพาแม่ไปไหว้พระ  (เลยถือโอกาสลาป่วยไปด้วยค่ะ)  ถ่ายรูปวัดป่าฯ มาพอสมควรเลย  แล้วก็พาแม่ไปวัดสำปะซิว  ไปปล่อยปลากะปล่อยเตาด้วยค่ะ แว้ก ๆๆๆ เปลี่ยนจากปล่อยเตาเป็นปล่อยเต่าค่ะ  หุหุ แก้ไขเมื่อ 08 มิ.ย. 50 08:56:05 จากคุณ : biebie999 - [ 7 มิ.ย. 50 09:21:31 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ปล่อยปลาน่ะดี แต่ปล่อยเตาน่ะ จะเสียเปล่า เดี๋ยวใช้จุดไฟไม่ติด จะเอาอะไรหุงข้าวเล่า แล้วหนูถ่ายรูปโบสถ์เก่าวัดสำปะซิวมาด้วยมั้ย  อยู่ริมแม่น้ำ  ตอนนี้ผนังแตกอ้ากำลังจะล้มมิล้มแหล่วันไหนก็ไม่รู้ ถ้าถ่ายเก็บไว้ก็เอามาตั้งกระทู้โชว์กันหน่อยก็ดี ก่อนที่ไม่มีโอกาสจะเห็น วัดสำปะซิวอยู่ริมน้ำสุพรรณฝั่งตะวันออก วัดหน่ออยู่ฝั่งตะวันตก สองฟากฝั่งนี้แต่ก่อนมีชาวลาวเวียงจันทน์รุ่นเจ้าอนุวงศ์มาอยู่กันเยอะ ตอนนี้พูดลาวไม่เป็นกันแล้ว กลายเป็นไทยหมด แต่ทางใต้เมืองสุพรรณลงไปทางบ้านโคกหม้อ ตำบลท่าระหัด อีกฝั่งหนึ่งคือวัดกงจักรกับวัดกุฎีทอง ตำบลรั้วใหญ่ ยังเห็นพูดลาวกันเยอะ ฝั่งตะวันออกแถววัดไผ่ขวาง ตำบลไผ่ขวาง ติดกันคือวัดคันทด ตำบลท่าระหัด ก็ยังพูดลาวกันเยอะ ฝั่งตะวันตกของเมืองสุพรรณ แถววัดบางปลาหมอ ตำบลดอนกำยาน ก็ยังรักษาขนบธรรมเนียมลาวไว้ได้อย่างดี จากคุณ : NickyNick - [ 7 มิ.ย. 50 11:55:01 ]

ความคิดเห็นที่ 15 ว้า  หนูไม่ได้ถ่ายมาเลย  เดี๋ยวหาโอกาสเหมาะ ๆ จะไปถ่ายรูปโบสถ์เก่าที่พี่นิคพูดถึงนะคะ จากคุณ : biebie999 - [ 8 มิ.ย. 50 08:57:45 ]

ความคิดเห็นที่ 16 เพิ่งเข้ามาอ่านครับ จากคุณ : หมาป่าดำ (หมาป่าดำ) - [ 11 มิ.ย. 50 22:43:09 ]