ความคิดเห็นที่ 1 เขาออกเสียงอย่างนั้นหรือครับ? จากคุณ : ผมก็ไม่รู้ - [ 3 ก.ย. 51 01:19:48 A:58.8.169.23 X: TicketID:106200 ]

ความคิดเห็นที่ 2 มันเป็น American English ครับ เป็นสำเนียงเฉพาะที่ ถ้าจะออกเป็น t ไปก็ไม่ผิดหรอก จริงๆ ผมว่าหลักการมันไม่ตายตัวครับ ขึ้นอยู่กับคำมากกว่า เกิดจากการจำได้มากกว่าการใช้หลักการครับ และอีกอย่างคือ มันไม่ได้เป็นเสียง d ตรงๆ ครับ แต่มันเป็นเสียง ด เด็ก ของไทยมากกว่า เพราะอันที่จริง ตัว d นั้นไม่ได้ออกเสียงเป็น ด เสมอ แต่มันจะออกเป็น ด+จ มากกว่า ตัวอย่างเช่น soldier เราอ่านว่า โซล เจ้อ ไม่ใช่ โซลเด้อ ใช่ไหมครับ ดังนั้นเสียง t ที่แปร่งไป มันเป็นเสียง ด แบบไทยๆ มากกว่าครับ ถ้าเป็นเสียง d จริงๆ มันก็น่าจะออกเป็น letter เล๊ เจ่อ หลักคร่าวๆ คือ ถ้า t อยู่ตรงกลาง และพยางค์นั้นไม่ใช่เป็นเสียง stress จะกลายเป็น ด ได้ เช่น little ลิ๊ด เดิ้ล, water ว้อ เด้อ,  cater เค๊ เด้อ, atlantic แอด แล้น ดิก แต่ถ้าพยางค์ของเสียง t เป็นตัว stress จะออกเป็น t ครับ เช่น detergent ดิ เท้อ เจน ไม่ใช่ ดิ เด้อ เจ้น continue คอน ทิ๊ นืว ไม่ใช่ คอน ดิ๊ นิว แต่มันมีข้อยกเว้นเสมอครับ เช่น ultra อ่านว่า อั๊ล ทร่า ทั้งๆ ที่มันเน้นที่พยางค์แรกและตัว t อยู่ตรงกลาง แต่ก็ยังออกเสียงเป็น t ไม่ใช่ ด และถ้า t เป็นเสียงเริ่ม หรือเสียงตัวสะกด ออกเป็น t ตลอด (อันนี้รู้สึกจะไม่มีข้อยกเว้นนะครับ เป็นแบบนี้ตลอด) เช่น train เทรน, right ไรท์, tomato โท เม๊ โด้ (สังเกตคำแรกเป็น ท แต่คำสองเป็น ด), transaction แทรนส แอ๊ค ชั่น อีกตัวนึงที่คล้ายๆ t ก็คือ p ครับ ลองสังเกตดู บางครั้งจะเป็นเสียง พ บางครั้งเป็นเสียง ป ได้ เช่น people พี๊ เปิ้ล (หยั่งกะ พี่เปิ้ล - -'), apple แอ๊ป เปิ้ล หลักการผมว่าคล้ายการออกเสียง t กับ ด ครับ จากคุณ : บรึ๋ยศักดิ์ - [ 3 ก.ย. 51 01:38:49 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ในการออกเสียง [d] กับ [t] เราใช้อวัยวะในการออกเสียงเดียวกัน (ใช้ปลายลิ้นแตะปุ่มเหงือก) ต่างกันที่เวลาออกเสียง [d] เส้นเสียงจะสั่น แต่เวลาออกเสียง [t] เส้นเสียงไม่สั่น [d] เป็นเสียงก้อง (voiced) ส่วน [t] เป็นเสียงไม่ก้อง  (voiceless) ส่วนเรื่องการออกเสียง [d] ของคนอเมริกันในคำที่เขียนด้วยตัว t ขอ quote มาจาก http://209.85.175.104/search?q=cache:jBKj2QR3H4cJ:www.americanaccent.com/intonation.html+why+american+accent+letter+%22t%22+%22d%22&hl=th&ct=clnk&cd=1&gl=th "In any language, there are areas of overlap, where one category has a great deal in common with a different category. In this case, intonation and pronunciation have two areas of overlap. First is the pronunciation of the letter T. When a T is at the beginning of a word (such as table, ten, take), it is a clear sharp sound. It is also clear in combination with certain other letters, (contract, contain, etc.) When T is in the middle of a word (or in an unstressed position), it turns into a softer D sound. " แก้ไขเมื่อ 03 ก.ย. 51 13:40:11 แก้ไขเมื่อ 03 ก.ย. 51 03:00:02 แก้ไขเมื่อ 03 ก.ย. 51 02:56:38 จากคุณ : เหมียวกุ๊กๆ - [ 3 ก.ย. 51 02:47:34 ]

ความคิดเห็นที่ 4 เป็นอังกฤษสำเนียงอเมริกันค่ะ โดยส่วนมากที่ได้ยินจะออกเสียง ด สำหรับตัว t เช่น water, Toyota, Minnisota เค้าออกเสียง ด หมด แต่สำหรับสำเนียงอังกฤษที่เราได้ยินจะเป็นเสียง ท จากคุณ : ศรีธนา - [ 3 ก.ย. 51 10:15:29 ]

ความคิดเห็นที่ 5 สำเนียงอเมริกันครับ If the T is in the middle of the word, intonation changes the sound to a soft D. Letter sounds like [ledder]. Water, daughter, bought a, caught a, lot of, got a, later, meeting, better There is not a "T" sound in the sentences below. What a good idea. Put it in a bottle. Get a better water heater. Put all the data in the computer. Patty ought to write a better letter. อังกฤษบางสำเนียงกลับใช้เสียงสะดุดในคอแทนเสียง t (glottal stop) water จะเป็นคล้ายๆ วอเออะ แก้ไขเมื่อ 03 ก.ย. 51 16:59:54 จากคุณ : anchan42 (anchan42) - [ 3 ก.ย. 51 14:39:18 ]

ความคิดเห็นที่ 6 เออ มันมีสอนอยู่ในหนังสือของผมที่เรียนด้วยนี่หว่า แต่จำไม่ค่อยได้(คือรู้แต่แบบว่า ไม่ค่อยแน่ใจ และถ้าจะตอบก็กลัวจะขาดตกบกพร่อง คำตอบไม่สมบูรณ์)เดี๋ยวถ้าว่างๆ จะลองไปเปิดดูแล้วกัน ขอเซฟกระทู้นี้ไว้ก่อนนะแล้วจะมาตอบ จากคุณ : taiyo - [ 3 ก.ย. 51 21:33:04 ]

ความคิดเห็นที่ 7 โอ ชัดเจนขึ้นเยอะเลยค่ะ print กระทู้นี้ไปให้เพื่อนอ่านดีกว่า ขอบคุณทุกๆคนค่ะ จากคุณ : kinda - [ 3 ก.ย. 51 23:14:32 A:58.136.49.26 X: TicketID:061761 ]

ความคิดเห็นที่ 8 คร่าวๆนะครับ เป็นการออกเสียง t ระหว่างสระครับผม(ในสำเนียงอเมริกัน) เราเรียกว่า /t/ flapped ครับ คล้ายๆกับการออกเสียง r เกิดขึ้นในตำแหน่งหลัง stressed vowel และอยู่หน้า unstressed syllable ครับผม -------------------------------------------------- ส่วน คคห.2 ตรง ที่คล้ายๆ t ก็คือ p ครับ ลองสังเกตดู บางครั้งจะเป็นเสียง พ บางครั้งเป็นเสียง ป ได้ เช่น people พี๊ เปิ้ล (หยั่งกะ พี่เปิ้ล - -'), apple แอ๊ป เปิ้ล หลักการผมว่าคล้ายการออกเสียง t กับ ด ครับ ตอบ คนละหลักการครับ เสียง t,d,k ที่ว่านี้ เป็นการออกเสียงในตำแหน่งที่ไม่ได้เน้นหนักหรือหลังเสียง s ครับผม โดยการออกเสียงมีทั้งหมด 3ระดับ (ขออธิบายแค่2อันดับแรก) 1. ออกเสียงโดยมีกลุ่มลมระเบิดออกมา เกิดขึ้นในตำแหน่งต้นพยางค์ หรือตรงที่ stress ครับ 2. ออกเสียงโดยมีกลุ่มลมไม่มาก หรือแทบไม่มี เกิดขึ้นในตำแหน่งที่ไม่ได้ stress หรือ หลังเสียง s ครับผม(หลักการที่คุณพูด อยู่ข้อนี้ครับ) จากคุณ : taiyo - [ 4 ก.ย. 51 09:53:46 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ถ้าถามฝรั่งอังกฤษที่เคร่งๆหน่อย จะบอกว่าเป็น Lazy pronunciation !!! จากคุณ : anchan42 (anchan42) - [ 5 ก.ย. 51 07:41:10 ]

ความคิดเห็นที่ 10 เหมือนกันค่ะ คคห 9 เคยอ่าน water ออกเสียง ด อาจารย์อังกฤษบอกอย่าขี้เกียจเหมือนอเมริกัน จากคุณ : ศรีธนา - [ 6 ก.ย. 51 14:59:02 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ฝรั่งมันยังงงเองเลยครับ เพราะ ตัว ที ออก ดี เคยดู ในสื่อการสอนภาษาตั้งแต่เด็กแล้ว ประมาณ คนนึงบอก my father is a writer อีกคนฟังแล้วก็ชมว่า เป็นนักขับนี่ยากไหม rider scottie pippen นักบาสชื่อดัง ชื่อเขาอ่านว่า สกอตดี้ พิพเพน จากคุณ : lightfellow - [ 18 ก.ย. 51 18:36:16 ]