ความคิดเห็นที่ 1 ตอบ ข้อ 1 เพราะ จอมพลป. ต้องการให้เปลี่ยนสายสืบราชสมบัติ (ขออนุญาตไม่อธิบายละเอียด) ตอบ ข้อ 2 เป็นคำขอของสมเด็จพระศรีพัชรินทรฯ หลังจากเจ้าฟ้าวชิรุณหิศ พระราชโอรสในสมเด็จพระศรีสวรินทรฯ ทิวงคต ^_^ จากคุณ : ปรียทรรศิกา - [ 14 ก.พ. 52 19:00:04 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ข้อ 1 ไม่ใช่เพราะว่าเป็นพระราชประสงค์ของรัชกาลที่ 6 เหรอครับ จากคุณ : A ARM - [ 14 ก.พ. 52 19:23:27 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ค้นกระทู้เก่าๆเถอะครับ มีผู้รู้ตอบกันมาหลายรอบแล้ว จากคุณ : ชาวจีนศึกษา ณ TU - [ 14 ก.พ. 52 19:26:33 ]

ความคิดเห็นที่ 4 1.  พินัยกรรมของ ร.6 ท่านสั่งให้ข้ามพระองค์เจ้าวรานนท์ฯ ไป เพราะมีมารดาที่ไม่ได้เป็นสะใภัหลวง เกรงว่าจะไม่ได้รับความเคารพจากพระราชวงศ์อื่นๆ ไม่ได้เกี่ยวกับ จอมพล ป ครับ 2. เข้าใจไม่ถูกครับ สมเด็จพระนางเจ้าเสาวภาผ่องศรี เป็นน้อง แต่ดำรงตำแหน่งสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ ซึ่งตั้งขึ้นใหม่เป็นตำแหน่งสูงที่สุดของพระภรรยาเจ้า แต่สมเด็จพระนางเจ้าสว่างวัฒนา ทรงดำรงตำแหน่งสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชเทวี ซึ่งสูงที่สุด ก่อนการสถาปนาตำแหน่งพระบรมราชินี ครับ รายละเอียดท้งหลาย มีกระทุ้เก่า หลายกระทู้แล้ว เชิญค้นหาได้ตามอัธยาศัย จากคุณ : กริชครับผม - [ 14 ก.พ. 52 19:27:17 ]

ความคิดเห็นที่ 5 คำตอบ มีอยู่ในคลังกระทู้เก่าอ่ะครับ ลองอ่านๆดูนะครับ ขอตอบแบบสั้นที่สุดคือ ๑. รัชกาลที่ ๖ ทรงตั้งเจ้าฟ้าประชาธิปก(รัชกาลที่ ๗) เป็นรัชทายาทโดยนัยกฎมณเทียรบาลครับ โดยหากพระกุมารที่ประสูติจากพระนางเจ้าสุวัทนา พระวรราชเทวีเป็นพระราชโอรส ก็ให้เจ้าฟ้าประชาธิปกสำเร็จราชการไปจนกว่าพระราชกุมารจะทรงบรรลุพระนิติภาวะ หากพระกุมารประสูติเป็นพระราชธิดา ก็ให้เจ้าฟ้าประชาธิปกฯ เสด็จขึ้นครองราชย์ไปครับ ๒.รัชกาลที่ ๕ มีพระมเหสีที่เป็นเจ้าพี่เจ้าน้องกัน(พระราชธิดารัชกาลที่ ๔ กับเจ้าจอมมารดาเปี่ยม)สามพระองค์ คือ พระนางสุนันทากุมารีรัตน์ พระนางสว่างวัฒนา และพระนางเสาวภาผ่องศรี ทรงกำหนดไว้ตั้งแต่แรกๆว่า พระราชโอรสจากสามพระองค์นี้ ถือว่า มีแม่คนเดียวกัน การเรียงลำดับสืบสันตติวงศ์ให้เรียงโดยอายุมากน้อย พระนางสว่างวัฒนา ประสูติเจ้าฟ้าพระราชโอรสก่อนเป็นพระองค์แรก คือ เจ้าฟ้ามหาวชิรุณหิศ (ต่อมาทรงเป็นสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช) เวลาต่อมา พระนางเสาวภาผ่องศรี ประสูติเจ้าฟ้ามหาวชิราวุธ (ต่อมาเป็นรัชกาล ๖) เจ้าฟ้ามหาวชิรุณหิศ พระชนม์สั้น ประชวรสวรรคตตั้งแต่พระชนมายุ ๑๗ พรรษา เจ้าฟ้ามหาวชิราวุธ จึงเป็นสมเด็จพระบรมฯแทน กาลต่อมา พระนางเจ้าเสาวภาฯ พระราชทานพรพิเศษจากรัชกาลที่ ๕ ให้สืบราชสมบัติในสายพระนางฯให้หมดก่อน(เจ้าฟ้ามหาวชิราวุธ เจ้าฟ้าจักรพงศ์ เจ้าฟ้าอัษฎางค์ฯ เจ้าฟ้าจุฑาธุช และ เจ้าฟ้าประชาธิปก) ถึงค่อยไปสืบสายพระนางเจ้าสว่างวัฒนา (เจ้าฟ้ามหิดล) ตอน สิ้นรัชสมัยรัชกาลที่ ๗ รัชกาลที่ ๗ ไม่มีพระรัชทายาท โดยนัยแห่งกฎมณเทียรบาล เจ้าฟ้ามหิดลฯคือ รัชทายาท แต่ด้วยสิ้นพระชนม์ไปก่อนแล้ว พระโอรสคือ พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอานันทมหิดล และ พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าภูมิพลอดุลยเดช จึงเป็นรัชทายาท รัชกาลที่ ๘ สมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอ เจ้าฟ้าภูมิพลอดุลยเดช ทรงเป็นพระรัชทายาท โดยนัยแห่งกฎมณเทียรบาล เมื่อรัชกาลที่ ๘ สวรรคต สมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอ จึงเสด็จขึ้นครองราชย์ครับ เหตุการณ์เหล่านี้เกิดไม่พร้อมกัน แต่ละไว้ในฐานที่เข้าใจดั่งนี้นะครับ จากคุณ : natthaset - [ 14 ก.พ. 52 19:30:28 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ขอขอบพระคุณทุกท่านครับที่ช่วยกรุณาตอบและให้ความกระจ่าง จากคุณ : SPSS - [ 14 ก.พ. 52 21:27:46 A:172.28.9.56 X:202.12.73.18 TicketID:157737 ]

ความคิดเห็นที่ 7 พระองค์เจ้าวรานนท์ มีคนกล่าวว่า จริงๆแล้วที่ไม่ได้เป็น ก็เพราะพระองค์ทรงพระสำราญมากเกินไป เพราะ หากจะกล่าวว่า พระองค์วรานนท์ธวัชมีพระมารดา เป็นสามัญชน พระเจ้าอยู่หัวอานันทร์ กับพระเจ้าอยู่หัวองค์ปัจจุบันเองก็ไม่น่าจะขึ้นได้ เพราะสมเด็จย่า พระองค์ท่านก็มาจากสามัญชน เข่นกัน ส่วนข้อ 2  ไอย่างที่ คห.4 ว่าไว้ จขกท คงเข้าใจผิดไปเอง ตอบตามที่เคยได้ยินมาครับ ถ้าผิดถูก หรือเป็นการล่วงเกินหมิ่นเหม่อย่างใด ก็ลบได้เลยครับ จากคุณ : Angleevil - [ 15 ก.พ. 52 00:14:13 ]

ความคิดเห็นที่ 8 พระองค์วรานนท์ธวัชมีพระมารดาที่ไม่ใช่สะใภ้หลวง พระเจ้าอยู่หัวอานันทร์ กับพระเจ้าอยู่หัวองค์ปัจจุบันมีพระราชมารดาเป็นสะใภ้หลวงครับ อีกอย่าง ในยุคนั้นคงเอาอดีตนางรำกับอดีตนักเรียนนอกมาเปรียบกันไม่ได้หรอกมั้งครับ จากคุณ : @(-_-)@ - [ 15 ก.พ. 52 10:39:46 ]

ความคิดเห็นที่ 9 สมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอ เจ้าฟ้าฯกรมขุนสงขลานครินทร์ ได้ขอพระบรมราชานุญาตจาก รัชกาลที่ ๖ ในการเสกสมรสกับนางสาวสังวาลย์ ตะละภัฏ รัชกาลที่ ๖ มีพระบรมราชานุญาต และเสด็จฯ มาพระราชทานน้ำพระมหาสังข์ ณ วังสระปทุม มีศักดิ์เป็นสะใภ้หลวง ต่อมา ในรัชกาลที่ ๗ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ทุติยจุลจอมเกล้า ในฐานะเป็นสะใภ้หลวงครับ จากคุณ : natthaset - [ 15 ก.พ. 52 12:24:17 ]

ความคิดเห็นที่ 10 สะใภ้หลวงเนี่ย พูดง่ายๆ คือ accepted into the royal family ครับ เป็นหม่อมก็เป็นกันหลายคน  แต่ หม่อม ที่เป็นสะใภ้หลวงเนี่ย  คนละระดับกับหม่อม ที่ไม่ได้เป็นสะใภ้หลวง ครับ  แล้วที่สำคัญ คือ เป็นหม่อมที่เป็นสะใภ้หลวง ที่มีพระสวามีคือใคร กรณี สมเด็จย่า ท่าน คือ ลูกสะใภ้ ของ  รัชกาลที่ 5 และ สมเด็จพระบรมราชเทวีน่ะครับ ไม่ต้องอธิบายอะไรกันอีกแล้ว ศักศรีท่าน มี อย่างเต็มๆ หลายคนพยายามจะบอกว่า ร 8 ขึ้นครองราชย์ เพราะการเมือง  เพราะเรื่องโน้นเรื่องนี้บ้าง แต่ด้วยกรณีทั้งปวง  ใหญ่ๆก็คือ ผลจากพินัยกรรม ของ ร 6 การสืบราชบัลลังค์ จึง ย้อนกลับมา ที่สายพระบรมราชเทวี หม่อมแม่ของ พระองค์ชาย วรานนทวัช  ท่านไม่ได้เป็นสะใภ้หลวง  ไม่ได้รับการ accepted into the royal family อย่างเปนทางการ เพราะฉะนั้นเค้าก็ต้องเลือกสายที่ เหมาะที่สุด ชัดเจนที่สุด หรือว่าไม่ควรหล่ะ แก้ไขเมื่อ 15 ก.พ. 52 19:42:18 จากคุณ : tinglee tingamee - [ 15 ก.พ. 52 19:41:02 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ความจริงผมเห็นว่า กรณีของหม่อมเจ้าวรานนท์ธวัชนั้นไม่น่าสงสัยใดๆ เนื่องจากเป็นยังเป็นระบบเดิมอยู่ เมื่อมีพระบรมราชโองการแล้วก็น่าจะเป็นไปตามนั้น เพราะตอน ร.7 จะขึ้นครองราชย์พระองค์เจ้าวรานนท์ธวัชก็ไม่ได้อยู่ในลำดับรายพระนามเลย จึงไม่จำเป็นต้องพูดถึงกรณีสะใภ้หลวงเลยด้วย ส่วนกรณี ร 8 ก็ชัดเจนเช่นกัน เมื่อหมดสายของพระศรีพัชรินทราแล้ว ก็ย่อมต้องเป็นสายของพระศรีสวรินทราต่อไป รองลงไปจึงเป็นสายอื่นๆ ตามลำดับชั้นเจ้าฟ้าในขณะนั้น ร่วมกับกฎมณเฑียรบาลก็ชัดเจนว่าถ้าเจ้าฟ้าองค์ดัวกล่าวสิ้นพระชนม์แล้วก็ให้ดูที่พระโอรสก่อนที่จะไปยังสายอื่นๆ ต่อไป อีกด้านหนึ่ง ทางรัฐบาลก็มีข้อสรุปว่าเป็นพระองค์อานันฯ เช่นกัน จากคุณ : ciri - [ 15 ก.พ. 52 21:57:35 ]

ความคิดเห็นที่ 12 สมเด็จพระนางเจ้าสว่างวัฒนา พระบรมราชเทวี (รัชกาลที่ ๘ โปรดเกล้าฯ สถาปนาเป็น สมเด็จพระศรีสวรินทิราบรมราชเทวี พระพันวัสสา อัยยิกาเจ้า) ทรงเป็นพระมารดาของ "สยามมกุฎราชกุมาร" พระองค์แรกแห่งราชวงศ์จักรี ซึ่งแต่เดิมนั้นเป็นตำแหน่งพระมหาอุปราช หรือ วังหน้า ครั้งเมื่อสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้าวชิรุณหิศสวรรคตเมื่อปี พ.ศ. ๒๔๓๗ ซึ่งมีพระชนมายุเพียง ๑๖ พรรษาเท่านั้น เมื่อสมเด็จเจ้าฟ้าชายมหาวชิราวุธฯ (รัชกาลที่ ๖) ได้รับพระมหากรุณาธิคุณโปรดเกล้าฯ สถาปนาเป็นสยามมกุฎราชกุมารนั้น พระนางเจ้าเสาวภาผ่องศรีผู้เป็นพระน้องนาง จึงได้เลื่อนพระฐานันดรศักดิ์เป็นพระบรมราชินีนาถ (รัชกาลที่ ๖ โปรดเกล้าฯ สถาปนาเป็น สมเด็จพระศรีพัชรินทราบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง) และสมเด็จพระพุทธเจ้าหลวงทรงพระราชทานความรัก และพระเมตตาให้พระมิ่งมเหสีด้วยตระหนักในความจงรักภักดีนี้ พระราชทานตามพรพิเศษที่พระมเหสีทูลขอด้วย คือ สมเด็จฯพระบรมราชินีนาถทูลขอพระราชทานให้พระราชโอรสในพระนางนั้นได้สืบสันตติวงศ์ขึ้นเถลิงวัลยราชย์ต่อไป หากหมดสายของพระนางแล้ว จึงค่อยแต่งตั้งพระราชโอรสในพระมเหสีองค์อื่นต่อไป ดังจะเห็นได้ว่าแม้สมเด็จพระพุทธเจ้าหลวงเสด็จสวรรคตแล้วพระบรมวงศ์เธอทุกพระองค์ก็ได้ยึดมั่นในพระประสงค์นั้นอย่างดียิ่งคือให้พระราชโอรสที่ประสูติแต่สมเด็จฯ พระบรมราชินีนาถได้ขึ้นเถลิงถวัลยราชสมบัติเป็นองค์กษัตริย์แห่งราชวงศ์จักรีสืบไป พระโอรสพระองค์ที่ ๙ ที่ประสูติแต่พระนาง คือ สมเด็จเจ้าฟ้าชายประชาธิปกศักดิเดชน์ฯ (รัชกาลที่ ๗) หลังจากนั้นจึงหมดสายของสมเด็จฯ พระบรมราชินีนาถ ลำดับชั้นต่อไปจึงเป็นของสมเด็จพระนางเจ้าสว่างวัฒนา พระบรมราชเทวี คือ พระโอรสพระองค์ที่ ๗ สมเด็จเจ้าฟ้าชายมหิดลอดุลยเดช นเรศวรมหาราชาธิบดินทร์จุฬาลงกรณ์นรินทรวรางกูร สมบูรณ์เบญจพรสิริสวัสดิ์ ขัตติยวโรภโตสุชาตคุณสังกาศเกียรติประกฤษฐ ลักษณวิจิตรพิสิษฐบุรุษย์ ชนุตมรัตนพัฒนศักดิ์อัครวรราชกุมาร แต่ทรงประชวรจนสิ้นพระชนม์ ลำดับขั้นจึงมาเป็นหลาน คือ รัชกาลที่ ๘ และรัชกาลปัจจุบัน จากหนังสือนางอันเป็นที่รัก ในพระพุทธเจ้าหลวง จากคุณ : orchid - [ 16 ก.พ. 52 01:25:26 A:202.91.18.194 X: TicketID:192654 ]

ความคิดเห็นที่ 13 สรุปก็คือ การที่ราชสกุล มหิดล ขึ้นครองราขย์ เป็น การถูกต้องด้วยกรณีทั้งปวงครับ จากคุณ : tinglee tingamee - [ 16 ก.พ. 52 14:06:15 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ขอขอบพระคุณทุกความคิดเห็นมากครับ ตั้งคำถามห้องนี้แล้วไม่เคยผิดหวังเลยครับ จากคุณ : SPSS - [ 16 ก.พ. 52 20:21:37 A:172.28.9.56 X:202.12.73.18 TicketID:157737 ]

ความคิดเห็นที่ 15 คงจะแล้วแต่พระราชอัธยาศัยของผู้แต่งตั้งรัชทายาทพระองค์นั้นๆ ประกอบด้วยกระมังครับ จากคุณ : นายสาม - [ 17 ก.พ. 52 09:00:21 A:118.175.26.178 X: TicketID:201383 ]

ความคิดเห็นที่ 16 ความเห็น 15 ครับ ตั้งแต่เริ่มราชวงศ์จักรีมาจนปัจจุบัน เท่าที่ทราบก็ไม่เคยมีครั้งใดที่การสืบราชบัลลังค์จะทำตามพระราชอัธยาศัยเลยนะครับ ไม่ว่าจะเป็นการสืบราชบัลลังค์ของ ร.2 - ร.5 ก็มาจากความเห็นของพระบรมวงศานุวงศ์ผู้ใหญ่และขุนนางชั้นผู้ใหญ่ ร.6 พระองค์ก็ทรงเป็นพระราชโอรสชั้นเจ้าฟ้าที่มีพระชนมายุมากที่สุดในเวลานั้น และทรงได้รับความเห็นชอบจากพระบรมวงศานุวงศ์ผู้ใหญ่และขุนนางชั้นผู้ใหญ่ประกอบกันด้วย ร.7 ก็ทรงสืบราชบัลลังค์ตามกฎมณเฑียรบาล และทรงได้รับความเห็นชอบจากพระบรมวงศานุวงศ์ผู้ใหญ่และขุนนางชั้นผู้ใหญ่ประกอบกันด้วย ร.8-ร.9  ก็ทรงสืบราชบัลลังค์ตามกฎมณเฑียรบาล และทรงได้รับความเห็นชอบจากรัฐบาลประกอบกัน จากคุณ : ciri - [ 18 ก.พ. 52 09:16:57 ]

ความคิดเห็นที่ 17 คัดลอกมาจาก หนังสือ จากเจ้านายเล็ก ๆ สู่ยุวกษัตริย์ หน้า 241 จากจดหมายของแม่ลงวันที่ 21 สิงหาคม 2477 เราจะทราบได้ว่าการขึ้นครองราชย์ของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอนันทมหิดลทำให้แม่มีความกังวลเพียงไร ..การที่นันทจะต้องไปเล่นละครเป็นกษัตริย์นะไม่ดีสำหรับเส้นประสาทเลย แต่จะเมื่อมีความจำเป็นจริง ๆ ก็ต้องทำ... การว่าการนินทาก็นำความรำคาญ ความน้อยใจมาให้แม่บ้าง แม่ได้พูดถึงการให้พระเจ้าอยู่หัวลาออกหลายครั้ง เช่นในจดหมายลงวันที่ 30 พฤษภาคม 2475 ... ถ้าคนรังเกียจหม่อมฉันที่ไม่ใช่เจ้า ก็ควรจะรังเกียจนันทและลูกหม่อมฉันทุกองค์ ถึงพ่อจะเป็นเจ้าใหญ่นายโตก็ตามลูกจะรับแต่เลือดพ่อเท่านั้นไม่ได้ ต้องมีแม่อยู่ครึ่งหนึ่ง  ถ้ารังเกียจกันและเห็นว่าหม่อมฉันไม่สมควรเป็นแม่กษัตริย์ก็เอาออกเสียแล้ว กัน ก็หากษัตริย์ใหม่ที่แม่เป็นเจ้าด้วย  จะได้สมเกียรติยศ... วันที่ 16 ตุลาคม 2478 แม่เขียนว่า ...เรื่องคนรังเกียจหม่อมฉันว่าไม่ใช่เจ้านั้นหม่อมฉันไม่รู้สึกทุกข์ร้อนมากเสียแล้ว ถ้ามีคนรังเกียจกันจริง ๆ ก็ขอให้รัฐบาลเอานันทออกจากกษัตริย์เสียก็แล้วกัน  เพราะถึงจะรังเกียจอย่างไรหม่อมฉันก็เป็นแม่นันท เปลี่ยนไม่ได้ แก้ไขเมื่อ 18 ก.พ. 52 09:20:58 จากคุณ : pooandpang - [ 18 ก.พ. 52 09:20:28 ]

ความคิดเห็นที่ 18 ขอบคุณ คห ที่ 17 ความที่ว่านั้นไม่เคยอ่านพบเลย... อันที่จริง ถ้าใครศึกษา หรืออ่านประวัติศาสตร์ฝ่ายในมากหน่อยก็จะทราบได้เองถึงพระมเหสีสามพระองค์ใน ร. 5 อันเป็นพระราชธิดาใน ร. 4 กำเนิดแต่สมเด็จพระปิยมาวดีศรีพัชริทรามาตา (เจ้าจอมมารดาเปี่ยม) วาแต่ละพระองค์มีจริยวัตร แบบใด และสุดท้ายบทสรุปก็รู้ ๆ กันอยู่ ใครไหนเลยจะคิดว่า สายที่มีพระราชโอรสมากมาย แต่สุดท้ายกลับ ต้องสิ้นสายการสืบสันติวงศ์ กลับคืนไปสู่ความชอบธรรม โดยส่วนตัวที่เคยศึกษาประวัติศาสตร์ จะรู้สึกเคารพ และเทิดทูน สมเด็จพระศรีสวริทรา บรมราชเทวี พระพันวสาอัยยิกาเจ้าอย่างมาก ด้วยพระองค์ทรงเปี่ยมไปด้วยเลือดขัตติย เผชิญกับเหตุวิกฤตต่าง ๆ ก็ทรงผ่านพ้นมาด้วยดี ด้วยพระขันติธรรมที่น่ายกย่องยิ่งนัก จากคุณ : peeradol33189 - [ 18 ก.พ. 52 20:55:51 ]

ความคิดเห็นที่ 19 อีกภาพครับ พระองค์นี้คือ สมเด็จพระศรีพัชรินทราบรมราชินีนาถ พระพันปีหลวง ในรัชกาลที่ 6,7 ทรงเป็นพระขนิษฐาองค์เล็กสุด   (ในบรรดาสามพี่น้อง) ซึ่ง พระองค์แรกคือ สมเด็จพระนางเจ้าสุนันทากุมารีรัตน์ พระบรมราชเทวี พระองค์ที่สองคือ สมเด็จพระนางเจ้าสวางวัฒนาพระบรมราชเทวี (สมเด็จพระศรีสวริทราบรมราชเทวี พระพันวสาอัยยิการเจ้าในรัชกาลที่ 8, 9) จากคุณ : peeradol33189 - [ 18 ก.พ. 52 21:02:05 ]

ความคิดเห็นที่ 20 แต่มีเรืองน่าสนใจทีน้อยคนจะทราบถึงคือ ตระกูลของเจ้าจอมมารดาเปี่ยม ในรัชกาลที่ 4 (หรือสมเด็จพระปิยมาวดี ศรีพัชรินทรมาตา พระมารดาของพระอัครมหสีทั้งสามพระองค์ใน ร. 5 ในกาลต่อมา) มีบุตรหลานหนึ่งคนที่ขึ้นถึงตำแหน่ง สมเด็จพระนางเจ้า พระบรมราชินีในร. 6 พระองค์นั้นคือ สมเด็จพระนางเจ้าอินทรศักดิ์ศจี พระบรมราชินีในร. 6 (อินทรศักดิ์ศรี แปลว่า นางศจีผู้เป็นมเหสีของพระอินทร์) ซึ่งเป็นหลานสาวของพระยาราชภักดี (โค) ซึ่งพระยาราชภักดีนี้ เป็นน้องชายแท้ ๆ ของเจ้าจอมมารดาเปี่ยม ปล. สมเด็จอินทร์ทรงดำรงพระยศเป็น สมเด็จพระนางเจ้า พระบรมราชินี ได้ไม่กี่ปี ร. 6 ก็โปรดให้ออกพระนามใหม่เพียงว่า สมเด็จพระนางเจ้าอินทรศักดิ์ศจี พระวรราชชายา ใน ร. 6 สมเด็จอินทร์ ทรงมีพระชนชีพยืนยาว มาจนสิ้นพระชนม์ในปีพ.ศ. 2518 ในรัชกาลปัจจุบันนี่เองครับ สิริพระชนมายุ 73 ปีเศษ แก้ไขเมื่อ 18 ก.พ. 52 21:23:14 จากคุณ : peeradol33189 - [ 18 ก.พ. 52 21:19:14 ]

ความคิดเห็นที่ 21 ภาพสมเด็จอินทร์ (ประทับยืนพระองค์กลาง) แก้ไขเมื่อ 18 ก.พ. 52 21:25:31 จากคุณ : peeradol33189 - [ 18 ก.พ. 52 21:24:40 ]

ความคิดเห็นที่ 22 แถมให้อีกภาพครับ ตอนทรงพระเยาว์ แก้ไขเมื่อ 18 ก.พ. 52 21:26:35 จากคุณ : peeradol33189 - [ 18 ก.พ. 52 21:26:18 ]

ความคิดเห็นที่ 23 โอ้โห กระทู้นี้ได้รับความรู้มากมายจริงๆ ครับขอบคุณทุกท่านมากครับที่เข้ามาแสดงความคิดเห็นกัน จากคุณ : SPSS - [ 19 ก.พ. 52 17:20:29 A:202.12.73.18 X: TicketID:157737 ]

ความคิดเห็นที่ 24 พระบรมฉายาลักษณ์องค์นี้ พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงเครื่องเต็มยศ จอมพลเรือ  ทรงฉายร่วมกับสมเด็จพระนางเจ้าอินทรศักดิศจี พระบรมราชินี ซึ่งทรงเครื่องเต็มยศนายนาวาโท  โปรดสังเกตที่พระภูษา (กระโปรง) มีแถบทองเหมือนกางเกงนายทหารชาย  และสมเด็จฯ ทรงขัดกระบี่ด้วย  ปัจจุบันเครื่องแบบนายทหารหญิงไม่มีแถบที่กระโปรงและไม่ขัดกระบี่ แก้ไขเมื่อ 19 ก.พ. 52 21:30:53 แก้ไขเมื่อ 19 ก.พ. 52 21:30:53 จากคุณ : V_Mee - [ 19 ก.พ. 52 21:26:02 ]

ความคิดเห็นที่ 25 ลืมแปะภาพไปครับ จากคุณ : V_Mee - [ 19 ก.พ. 52 21:31:42 ]

ความคิดเห็นที่ 26 ขอบคุณค่ะ จากคุณ : คนมีแผลพ่อแม่ไม่รัก - [ 20 ก.พ. 52 00:43:10 ]