ความคิดเห็นที่ 1 ศิลปินซอสามสาย ซอนี้บางท่านอาจจะทราบว่าเป็นเครื่องดนตรีโปรดของสมเด็จพระพุทธเลิศหล้าฯ ทรงมีองค์หนึ่งชิ่อซอสายฟ้าฟาด จากคุณ : Navarat.C เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 52 00:30:21

ความคิดเห็นที่ 2 ฆ้องวง เขมรเรียกฆ้องธม มอญก็มีฆ้องอย่างนี้เหมือนกันแต่วางทางตั้ง จากคุณ : Navarat.C เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 52 00:31:12

ความคิดเห็นที่ 3 วงพิณพาทย์(เขมรเรียกพิณเพรียะ)ชาววังในยุคต่อมา ถ้าไม่บอกคงนึกว่าเป็นภาพที่ถ่ายในเมืองไทยสมัยรัชกาลที่๕   ครับ ในสมัยนั้นคงไม่ใช่ไทยแน่ที่ไปเอาอย่างเขมร จากคุณ : Navarat.C เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 52 00:32:07

ความคิดเห็นที่ 4 การฝึกซ้อมระบำ (เขมรเรียกโรบำ) ถ่ายในพระราชวังกรุงพนมเปญยุคเดียวกัน ดูเหมือนจะเป็นระบำเทพบุตรนางฟ้าในโขนเรื่องพระนารายน์ปราบนนทุก จากคุณ : Navarat.C เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 52 00:32:47

ความคิดเห็นที่ 5 เมื่อได้เขมรไปเป็นเมืองขึ้นนั้น คนฝรั่งเศสตื่นเต้นในอารยธรรมอันเก่าแก่ของเขมรมาก มาก ทั้งตัวสถาปัตยกรรมแห่งนครวัต  ศิลปวัตถุ และนาฎดนตรี อย่าลืมว่า ฝรั่งสมัยนั้นไม่มีโอกาสได้เห็นละครในของไทย เพราะเป็นสิ่งหวงห้าม จะแสดงได้เฉพาะในพระบรมมหาราชวังเท่านั้น  การแสดงระดับรองลงมาในวังของเจ้านายบางองค์ที่เรียกว่าละครนอกก็มิได้เน้นศิลปในท่าร่ายรำ แต่จะเน้นความสนุกสนานของเนื้อเรื่องเพื่อความบันเทิง นอกนั้นระดับชาวบ้านก็เล่นละครชาตรีแบบชายล้วน ฝรั่งเห็นเข้าคงส่ายหน้าเหมือนกัน ผิดกับเขมร ฝรั่งเข้าวังในฐานะผู้ปกครอง จะเรียกหาของดีมาดูมาชมก็มิใช่เรื่องยาก คนฝรั่งเศสมีรสนิยมสูงในด้านศิลปวัฒนธรรมอยู่แล้ว จึงลงทุนนำสถาปัตยกรรมแบบนครวัต จำลองไปแสดงในงาน Exposition Coloniale 1906 ที่เมืองMarseille เชิญเสด็จพระเจ้านโรดมศรีสวัสดิ์ไปทรงเปิดงานเองอย่างยิ่งใหญ่ จากคุณ : Navarat.C เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 52 00:34:21

ความคิดเห็นที่ 6 พระเจ้านโรดมศรีสวัสดิ์เสด็จไปฝรั่งเศสคราวนั้นก็ในยุคสมัยใกล้เคียงกับที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเสด็จเยือนประเทศดังกล่าวเช่นกัน ฝรั่งเศสก็จงใจที่จะรับเสด็จกษัตริย์เขมรประเทศเมืองขึ้นให้เด่นกว่ากษัตริย์สยาม ซึ่งตอนนั้นมีกรณีย์พิพาทกันแล้ว ทั้งนี้ก็ด้วยเหตุผลทางการเมืองนั่นเอง ฝรั่งเศสต้องการให้เห็นการเปรียบเทียบว่า การที่กษัตริย์อย่างเขมรยอมสวามิภักด์กับตนโดยดี ไม่เหมือนพม่าหรือญวนที่เลือกเปิดศึก เมื่อพ่ายแพ้ก็สูญเสียชาติและราชวงศ์ไปเลย นั้น ทำให้เขมรสามารถดำรงราชวงศ์อยู่ได้อย่างมีเกียรติ์โดยมีฝรั่งเศสเป็นเพียงผู้ปกครองคอยปกป้องอยู่แทนสยาม อย่างน้อยพระเจ้านโรดมศรีสวัสดิ์ก็สามารถยืนจับมือกับประธานาธิบดีฝรั่งเศสได้ ไม่ต้องหมอบคลานถวายบังคมในฐานะกษัตริย์เมืองขึ้นหากต้องเข้าเฝ้าพระมหากษัตริย์ไทย แก้ไขเมื่อ 10 ส.ค. 52 07:18:24 จากคุณ : Navarat.C เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 52 00:35:31

ความคิดเห็นที่ 7 การออกงานครั้งนั้นมีรูปแสดงอยู่ในกระทู้ที่แล้ว ประสพความสำเร็จเกินคาด บรรดาลให้ผู้จัดมีกำลังใจที่จะจัดอีกให้มโหราฬยิ่งขึ้น มีการลงทุนในด้านการแสดง ทำให้เม็ดเงินผ่านไปถึงวงการนาฎศิลป์ของเขมร จึงเกิดการเตรียมคัวและฝึกซ้อมที่ดี เครื่องแต่งตัวละครก็สร้างขึ้นสวยงามกว่าเดิม งาน Exposition Coloniale ที่จัดขึ้นในปี1931นั้น ถึงขนาดจำลองนครวัตเท่าขนาดจริงไปสร้างที่ฝรั่งเศสกันเลย แก้ไขเมื่อ 10 ส.ค. 52 07:21:17 จากคุณ : Navarat.C เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 52 00:36:30

ความคิดเห็นที่ 8 ไม่ต้องสงสัยว่า คนฝรั่งเศสและคนยุโรปอื่นๆจะตื่นเต้นกันขนาดไหน ถึงขนาดมีคำกล่าวที่ว่า “ See Angkor and Die” กระแสเห่อเขมรได้รับการกระตุ้นจากนักการตลาดอย่างถึงที่สุด ฝรั่งทุกชาติจะต้องพยายามที่จะไปให้ถึงนครวัตสักครั้ง มิฉนั้นก็ยังตายมิได้ จากคุณ : Navarat.C เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 52 00:37:17

ความคิดเห็นที่ 9 เมื่ออยู่ที่นั่นก็จะต้องดูนาฏศิลป์เขมรด้วย ทำให้เขมรมีหน้ามีตาไปด้วยในทุกสื่อ จากคุณ : Navarat.C เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 52 00:38:20

ความคิดเห็นที่ 10 รูปเช่นนี้ ต้องตาฝรั่งมาก จากคุณ : Navarat.C เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 52 00:39:27

ความคิดเห็นที่ 11 ก่อนสงครามโลกครั้งที่สองจะเกิดนั้น คนฝรั่งเศสก็มีรายได้เป็นกอบเป็นกำจากการท่องเที่ยวในอาณานิคมแห่งนี้  และกระจายไปเผื่อแผ่กับคนเขมรที่หากินทางนาฏกรรมเหล่านี้ด้วย แก้ไขเมื่อ 10 ส.ค. 52 07:48:30 จากคุณ : Navarat.C เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 52 00:40:17

ความคิดเห็นที่ 12 หลังสงคราม โลกเปลี่ยนแปลงใหญ่โต มหาอำนาจถูกบีบให้คืนเอกราชแก่บรรดาอาณานิคมทั้งหลาย เขมรเองได้ผู้นำใหม่ นักองสีหนุขึ้นเป็นกษัตริย์หนุ่มไฟแรง และชาตินิยมจัด แต่การนำชาติเล็กๆที่พึ่งพาตัวเองไม่ได้และอยู่ภายใต้เงาของไทยและญวน ทำให้พระองค์ต้องทรงเลือกเล่นกับฝรั่งต่อไป อาศัยรากเหง้าตั้งแต่ครั้งยังเป็นอาณานิคม  พระเจ้าสีหนุทรงทำทุกทางที่จะให้เขมรปรากฏอยู่ในสื่อ  ในภาพทรงนำนาฎศิลป์เขมรไปpromoteในตลาดเดิมอีกครั้ง   ในภาพทรงแต่งเต็มยศนำพระธิดา เจ้าหญิงบุปผาเทวี ไปต้อนรับประธานาธิบดีชาลส์ เดอ โกลล์และมาดาม ในการแสดงนาฏศิลป์เขมรรอบแรกที่จัดขึ้นในกรุงปารีส แก้ไขเมื่อ 10 ส.ค. 52 22:07:03 จากคุณ : Navarat.C เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 52 00:41:43

ความคิดเห็นที่ 13 เจ้าหญิงบุปผาเทวีนี้เป็นธิดาที่สมเด็จพระราชบิดาทรงโปรดมาก เพราะทรงรักการฟ้อนรำ เมื่อทรงมีพระชนมายุได้เพียง๕พรรษาก็ทรงฟ้อนรำออกแขกได้แล้ว จากคุณ : Navarat.C เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 52 00:42:30

ความคิดเห็นที่ 14 พอจำเริญวัยเข้ารุ่นสาว ก็ทรงเจนจบในด้านนาฏศิลป์ จากคุณ : Navarat.C เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 52 00:43:42

ความคิดเห็นที่ 15 สงสัยได้จากคณะที่หม่อมฉวีวาดหอบไป จากคุณ : ตุ้บตั้บ เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 52 00:44:36

ความคิดเห็นที่ 16 ผมว่า น่าจะมีเหตุผลทางชาตินิยมอยู่ไม่น้อย โดยเฉพาะที่ถ่ายทอดมาจากพระเจ้าสีหนุพระราชบิดาที่ประกาศตนเป็นศัตรูต่อประเทศไทยอย่างไม่ปิดบัง เรื่องเขาพระวิหารเป็นเรื่องหลักที่ลามไปถึงทุกเรื่อง ในด้านนาฏศิลป์ที่เขมรใช้หากินอยู่นั้น ทรงรู้ดีอยู่ว่าสมเด็จปู่ของพระองค์ทรงนำรูปแบบมาจากไทย  ถ้าหากินอยู่ในสินค้าตัวเดิมๆ วันหนึ่งผู้บริโภคก็คงจับได้ ดังนั้น จะต้องเปลี่ยนรูปแบบของสินค้าให้มีที่มาที่ไปว่าเป็นของเขมรแท้ที่ไทยเถียงไม่ขึ้น เจ้าหญิงบุปผาเทวีก็ทรงประดิษฐ์ท่ารำขึ้นจากภาพสลักนางอัปสรอันโด่งดังแห่งนครวัต  เกิดเป็นระบำอัปสราขึ้น ที่ทรงเป็นผู้ร่ายรำเป็นตัวเอก การเปิดตัวระบำอัปสราในกรุงปารีสก็ได้ผลจำนงหมายของทั้งสองพระองค์พ่อลูก จากคุณ : Navarat.C เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 52 00:44:48

ความคิดเห็นที่ 17 พระนางจะทรงแสดงเป็นนางอัปสรเองทุกครั้งในการนำคณะนาฏศิลป์เขมรไปเปิดการแสดงในเมืองนอก และงานต้อนรับแขกบ้านแขกเมือง จากคุณ : Navarat.C เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 52 00:45:50

ความคิดเห็นที่ 18 และเป็นการแสดงหลักที่นครวัตไปเลย โฆษกจะกล่าวด้วยความมั่นอกมั่นใจว่า นี่คือนาฏศิลป์ของเขมรที่เป็นต้นแบบของนาฏศิลป์ของชาติอื่นๆในภูมิภาคนี้ จากคุณ : Navarat.C เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 52 00:46:38

ความคิดเห็นที่ 19 พรุ่งนี้จะมาดูต่อ ไปนอนแล้ว ง่วง จากคุณ : แบมฮับ เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 52 00:49:31

ความคิดเห็นที่ 20 การเมืองในเขมรหลังได้เอกราชก็มิได้ราบเรียบ เจ้าสีหนุทรงสร้างศัตรูไว้มาก และทรงชักศึกเข้าบ้านจนเกิดสงครามกลางเมือง ในที่สุดจบยกนั้นไปด้วยชัยชนะของเขมรแดง ที่พระองค์ไปประทับชักธงเชียร์อยู่ที่ปักกิ่งโน่น พอเขมรแดงมีอำนาจเปลี่ยนเขมรป็นkilling field แล้วก็กวาดล้างทุกสื่งที่รวมเรียกว่าศิลปวัฒนธรรมไปด้วย บรรดาศิลปินส่วนหนึ่งได้หนีรอด และปะปนอยู่กับปัญญาชนเขมรในค่ายผู้อพยพในประเทศไทยที่เขาอีด่าง อำเภออรัญประเทศ  คนเหล่านี้ได้รวมตัวกันสืบสานศิลปวัฒนธรรมและภูมิปัญญาของเขมรไว้โดยพยายามถ่ายทอดให้แก่เยาวชน เจ้าหญิงบุบผาเทวีเองก็ทรงบินมาจากปารีสอันเป็นที่ประทับของพระองค์มาที่เขาอีด่างอยู่เนืองๆเพื่อสอนการฟ้อนรำให้เด็กๆ เมื่อเขมรแดงถูกขับออกไปโดยกองทัพญวน ศิลปวัฒนธรรมก็พร้อมที่จะงอกงามขึ้นอีกในเขมร หวังว่าท่านคงจะจำพระเจ้านโรดมสีหมุนี กษัตริย์เขมรปัจจุบันตอนยังหนุ่มๆได้ ทรงเป็นพระโอรสของเจ้าสีหนุที่รักการระบำรำฟ้อนเป็นชีวิตจิตใจเช่นกัน จากคุณ : Navarat.C เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 52 00:49:36

ความคิดเห็นที่ 21 รัฐบาลเขมรในปัจจุบันเอาใจใส่สถาบันที่ฝึกสอนนาฏศิลป์เขมรพอๆกับนครวัต ในฐานะที่เป็นปัจจัยหลักของการแสวงหารายได้จากการท่องเที่ยวของชาติ มีเยาวสตรีสนใจมาฝึกเรียนเป็นจำนวนมาก จากคุณ : Navarat.C เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 52 00:50:17

ความคิดเห็นที่ 22 และส่วนใหญ่ก็เริ่มต้นกันตั้งแต่เด็ก เช่นเดียวกับโรงเรียนนาฏศิลป์ของไทย จากคุณ : Navarat.C เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 52 00:50:51

ความคิดเห็นที่ 23 มีผู้ชายนิยมมาเรียนด้วยเช่นกัน จากคุณ : Navarat.C เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 52 00:51:23

ความคิดเห็นที่ 24 การฝึกซ้อมหนังใหญ่ จากคุณ : Navarat.C เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 52 00:51:56

ความคิดเห็นที่ 25 หนังใหญ่นี้ เขมรเรียกว่าเสป็กธม (ถ้าใครเห็นว่าผิดช่วยแก้ด้วยนะครับ ผมก็อ่านมาจากที่เขียนเป็นภาษาอังกฤษ จริงๆอาจออกเสียงอีกอย่าง) คนเขมรไม่ยอมรับว่ามาจากไทย แต่บอกว่าอาจมาจากชวาก็ได้ จากคุณ : Navarat.C เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 52 00:52:42

ความคิดเห็นที่ 26 นี่ดูไม่ออกเลยว่าไทยหรือเขมร แต่ไม่ใช่ชวา หรือมาเลย์แน่ๆ จากคุณ : Navarat.C เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 52 00:53:36

ความคิดเห็นที่ 27 นาฎศิป์เขมรแบ่งออกเป็นสองระดับ นี่เป็นระดับพื้นๆที่แสดงอยู่ที่นครวัต ยังขายระบำอัปสราเป็นหลัก จากคุณ : Navarat.C เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 52 00:54:25

ความคิดเห็นที่ 28 และระบำอื่นๆที่ดูง่ายๆ เหมาะกับนักท่องเที่ยวทั่วไป จากคุณ : Navarat.C เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 52 00:54:56

ความคิดเห็นที่ 29 กับระดับศิลปินหลวง ถ้าของเราก็คือศิลปินกรมศิลปากร แสดงในกรุงพนมเปญ หรือไปแสดงตามเมืองนอกตามโอกาส นี่เป็นโขนชุดรามเกียรติ์ ฝีมือจัดฉาก แสงสี ดูแล้วก็เหมือนโขนไทยเหมือนกัน จากคุณ : Navarat.C เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 52 00:56:43

ความคิดเห็นที่ 30 ระบำนางเมฆราล่อแก้ว ในเมืองหลวง จากคุณ : Navarat.C เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 52 00:57:33

ความคิดเห็นที่ 31 หนึ่งในคลื่นลูกใหม่ที่มาแรงในขณะนี้คือ ผลงานนาฏศิลป์เขมรที่รังสรรค์ใหม่โดยคุณ Sophiline Cheam Shapiro ชื่อไม่น่าจะเป็นเขมร แต่ฝึกรำตอนเป็นเด็กที่เขาอีด่าง เมื่อสงครามสงบได้เข้ามาเรียนต่อจนจบมหาวิทยาลัยทางนาฏศิลป์ แล้วจึงได้ทำงานกับหน่วยงานที่คล้ายกรมศิลปากร ได้ไปแสดงนาฏศิลป์หลายประเทศ จนได้สามีชาวอเมริกัน ส่งเสริมให้ตั้งกิจการเปิดโรงเรียนสอนนาฏศิลป์และจัดการแสดงอยู่ที่นั่น  ในที่สุด ได้แรงบันดาลใจจากบัลเลย์เรื่องA Magic Flute ของMozart มาแต่งละครรำแบบเขมรชื่อ Pamina Devi (พามินา เทวี ถ้าผมพากษ์ผิดช่วยแก้หน่อย) รูปแบบการร่ายรำดูสง่า การแต่งตัว การจัดฉาก ดูเข้ากับรสนิยมฝรั่งมาก สามีคงมีส่วนช่วยไม่มากก็น้อย  เธอบอกว่าเธอไม่ค่อยเคร่งครัดรูปแบบการรำแบบโบราณของเขมรเท่าไร แต่เธอจะไม่ทำอะไรให้ชาติเสียหายแล้วกัน แก้ไขเมื่อ 10 ส.ค. 52 11:11:00 จากคุณ : Navarat.C เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 52 00:59:40

ความคิดเห็นที่ 32 พามินา เทวี ได้แสดงไปแล้วหลายเวที ทั้งอเมริกาและยุโรป เช่นเคยฝรั่งฮือฮากันมากเช่นกัน แต่เมื่อมาเล่นในเขมร จะถูกคนเก่าๆวิจารณ์ว่า ไม่ช่าย.. จากคุณ : Navarat.C เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 52 01:00:27

ความคิดเห็นที่ 33 แต่ ไทยเขมร นี่ดูออกพอได้อยู่นะครับ ทางนั้นเขาจะออกไม่ค่อยมีลายระเอียด หรือถ้ามีเสริมเติมแต่งก็จะดูเกินๆไป ในเรื่องของชุด และอื่นๆ จากคุณ : แบมฮับ เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 52 01:00:49

ความคิดเห็นที่ 34 ผมชอบมากที่ฉากเขาไม่มาชิงเด่นกับสีสันของเครื่องแต่งกายของผู้แสดง ซึ่งฟู่ฟ่าอยู่แล้ว ดูโขนของไทยมักจะสร้างฉากกันเกินไป ทั้งๆที่นาฏกรรมก็สุดยอดอยู่แล้ว แต่บางครั้งโดนฉากข่มหมด จากคุณ : Navarat.C เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 52 01:01:04

ความคิดเห็นที่ 35 ผมอยากจะจบเรื่องนาฏศิลป์เขมรตรงพามินา เทวีนี้แหละ ผมว่าเขาชนะเราตรงด้านการตลาด ชนะมาตั้งนานแล้ว ในความคิดของฝรั่ง เขมรจะเป็นผู้นำทางนาฏศิลป์เสมอ สมัยก่อนฝรั่งเป็นผู้ทำตลาดโลกให้เขมร เดี๋ยวนี้เขมรให้ฝรั่งทำตลาด เขาเข้าใจความรู้สึกนึกคิดของฝรั่งด้วยกัน จึงจับจุดได้ง่าย เราจะไม่ต้องเดือดร้อนอะไรก็ได้ถ้าของๆเราดีอยู่แล้ว แต่จะต้องไม่รำคาญนะ เวลาฝรั่ง หรือเขมรจะบอกว่า อะไรๆเขาก็เป็นผู้คิด ไทยเป็นผู้ตามเท่านั้น จากคุณ : Navarat.C เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 52 01:04:06

ความคิดเห็นที่ 36 ถึงจะดัดแปลงทั้งท่ารำ ชุด หรือเครื่องประดับยังไง ผู้เชี่ยวชาญด้านนาฏศิลป์ ก็ทราบอยู่ดีว่าระบำอัปสราข้างบน ได้รับอิทธิพลนาฏศิลป์ของรัตนโกสินทร์เป็นแม่แบบในการดัดแปลง ยกตัวอย่างง่ายๆเลยคือการนุ่งจีบหน้านาง ซึ่งเป็นการนุ่งผ้าแบบเฉพาะของราชสำนักสยาม (อย่ามาเถียงเป็นอันขาด ว่าเขมรคิดเอง) ส่วนการนุงผ้าแบบเขมรนั้น แรกเริ่มเดิมที จะเป็นการนุ่งแบบพันผ้า ซึ่งดูได้จากภาพสลักตามปราสาทหิน การนุ่งแบบพันผ้านี้สยามเลิกใช้มาตั้งแต่สมัยอยุธยาตอนกลาง ปล.เครื่องทรงในคห. 6 รวมทั้งเครื่องราชูปโภค และพระราชยานคานหาม ที่รัชกาลที่ 4 พระราชทานให้นักองราชาวดีนั้น ถ้ากษัตริย์เขมรเกลียดไทยนัก ก็อย่างทรงใช้เลยส่งคืนมาเถอะ แล้วใช้เครื่องราชูปโภคที่ทำจากพลาสติกแทนทั้งหมด อย่าไปง้อมันเลยพวกไทยเนี่ย ให้มันเห็นซะบ้างว่าเรายิ่งใหญ่แค่ไหน จากคุณ : arawadee เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 52 01:19:50

ความคิดเห็นที่ 37 จะลอกหรือคิดเองผมว่า ของเครื่องทรงดูเกินๆแข็งๆกว่าของไทยไปหน่อย ชอบเขาตรงที่นําจุดนี้มาให้คงอยู่ผิดกับบ้านเรา ช่วงนี้มีแต่ประกวด wonder girls จากคุณ : Banjo Hangout เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 52 01:39:40

ความคิดเห็นที่ 38 เข้ามาอ่านครับ ได้ความรู้ขึ้นเยอะมากๆเลย ผมอยากรู้ว่าเขมร จะมีพวกรำอวยพรอ่อนหวาน รำกฤษฏาอภินิหาร รำแม่บท เหมือนเรารึปล่าว จากคุณ : โตนิค เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 52 02:10:20

ความคิดเห็นที่ 39 เ้ข้ากระทู้คุณNavarat.C ไม่เคยผิดหวังจริงๆครับ ได้ความรู้เพียบเลย ขอบคุณมากครับ --เพิ่มเติมนิด ภาพในความเห็นที่ ๒๕ การละเล่นของขแมร์อันนี้เรียกว่า"สแบกธม"ครับ สแบก - หนัง ธม - ใหญ่ ดังนั้นสแบกธมบ้านเขาก็คือหนังใหญ่บ้านเรานั่นเองครับ การละเล่นเชิดหนังเงานี้ มีอยู่ในหลายประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ครับ อย่างของมลายู ชวาก็คือ wayang kulit ในไทยก็มี หนังตะลุง,หนังใหญ่,หนังประโมทัย โดยส่วนตัว ผมว่าสิ่งนี้แหละคือ Animation ในเวอร์ชั่นสุวรรณภูมิ จากคุณ : กุมารสยาม เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 52 02:49:53

ความคิดเห็นที่ 40 ถ้าผมจะคิดว่าเขมรฉลาดกว่าไทยตรงที่ปล่อยให้ไทยประชาสัมพันธ์การตลาดก่อนแล้วถึงเวลาค่อยมาชุบมือเปิปเอาทีหลัง ซึ่งง่ายกว่าประชาสัมพันธ์เอง แก้ไขเมื่อ 10 ส.ค. 52 02:58:10 จากคุณ : ด้านมืดในใจคุณ เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 52 02:57:09

ความคิดเห็นที่ 41 ตอบคุณโตนิค คคห๓๘ พวกรำต่างๆนี้ มีชื่อเขียนเป็นภาษาอังกฤษ ผมจะเข๊ยนไทยไว้เฉพาะที่เดาออก นอกนั้นให้คนอื่นมาช่วยต่อนะครับ Reamker    เรียมเกร รามเกียรติ์   โขน Chup robam   จับโรบำ จับระบำ Robam Bach Phkar Choun Por ระบำ_ผกา_ _ Robam Phkar Meas Phkar Prak  ระบำผกา (ทอง)ผกา (เงิน) Ream Leak-Chhup Leak   ภาคผนวกของรามเกียรติ์ Robam Mekara โรบำ เมฆรา Apsara Dance รำอัปสรา Sovann Maccha โสวัณ มักฉา  สุวรรณมัจฉา Robam Tep Monoram   โรบำเทพโมโนรัมย์   ระบำเทพมโนรมย์ Robam Bopha Lokey โรบำบุบผาโลกีย์  ระบำบุพชาติ Manorea   มโนรี   มโนรา ระบำพื้นบ้าน Robam Kuoh Tralok โรบำ(มะพร้าว) Robam Naesat โรบำ (ชาวประมง) Tbal kadeung (เต้นกำรำเคียว) Robam Kangaok Pailin โรบำ(นกยูง)จากไพลิน ถ้าเขมรมีเพียงเท่านี้ก็ถือว่ายังมีไม่มาก และไม่มีละครนอกอย่างเช่นของไทย นอกจากพามินา เทวี ที่เพิ่งแต่งขึ้นใหม่ข้างต้น เขมรยินดีที่จะบอกว่าเอาแบบมาจากฝรั่งมากกว่าจะบอกว่าจะสารภาพว่าเอาแบบมาจากไทย ...เอ๊ะ.. บางทีคนไทยก็บอกคล้ายๆอย่างนั้นเหมือนกันแหละ จากคุณ : Navarat.C เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 52 08:49:32

ความคิดเห็นที่ 42 ขอบคุณ คุณ Navarat.C รอดูของสยามบ้าง จากคุณ : มีดปลายแหลมในความมืด เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 52 09:40:28

ความคิดเห็นที่ 43   เคยอ่านข้อเขียนของอาจารย์จักรพันธุ์ ในนิตยสารพลอยแกมเพชร เล่าเรื่อง อาจารย์เยื้อน ภานุทัต มีข้อความบางตอนว่า ท่านอาจารย์เยื้อนได้ไปอยู่ที่ในราชสำนักของเขมร เพื่อสอนการเย็บปักถักร้อย ซึ่งป็นการปักแบบในราชสำนักของไทย อยู่หลายปีนะครับ จากคุณ : โจอิศรา เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 52 11:04:00 A:124.122.146.116 X: TicketID:199287

ความคิดเห็นที่ 44 ความคิดเห็นที่ 42 รอดูของสยามบ้าง .............. รอคุณเพ็ญชมพูอยู่ครับ คุณแจสบี้ ตัวช่วยของผมก็ยังไม่มา คุณวิกลจริตอาชาก็น่าจะมาเฉลยสำเนียงเขมร คุณกุมารสยามด้วย กระทู้นี้ อ่านแล้วช่วยกันเสริมให้สนุกๆนะครับ อย่าเครียด ถกเถียงกันได้นะครับ แต่อย่าทะเลาะกัน แก้ไขเมื่อ 10 ส.ค. 52 11:23:33 จากคุณ : Navarat.C เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 52 11:19:36

ความคิดเห็นที่ 45 แล้วเจอัน นครวัด จากคุณ : CherryBlossom669 เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 52 11:21:30

ความคิดเห็นที่ 46 เพิ่งเข้ามาดู..งั้นต้องย้อนรอยไปกระทู้แรกก่อน ชอบมากค่ะ ขอบคุณ จขกท. จากคุณ : Cynthy เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 52 12:04:59

ความคิดเห็นที่ 47 สวัสดีท่านพี่ครับ ผมกำลังจะนำรูปมารำร่ายประชันครับ เห็นภาพระบำอัปสราแล้วนึกถึงเพลงนี้ครับ มีเนื้อภาษาเขมรแทรกอยู่เป็นระยะๆ ฟังแล้ว ขนลุกกรูเกรียว เพลง อัปสรา อัลบั้ม เทียบเสียง (พ.ศ.2538) คำร้องภาษาไทย อ.ดนู ฮันตระกูล คำร้องภาษาเขมร อ.อุไรศรี วรศะริน ขับร้องโดย ฉัตรศรินทร์ อินทรโยธา อ่าองค์อัปสรา ฟ้าหยาดแสงดาว ดวงตาสุกสกาว วาวไสวใจหวั่น ร่ายรำสำอางค์ สมดั่งนางฟ้าลาวัณย์ คัจฉะปี่กันตรึมกระชั้น เจรียงรับอัปสรา โอ้บาปไหนเล่าเอ่ย ให้ต้องสังเวยดวงชะตา เมื่อเอกองค์อภิบาลผ่านฟ้า มารักลุ่มหลงแทบปลงชีพวาย ท้าวเทพเฝ้ารอง้อวอนรักเจ้า เจ้าหมางเมินหมาย จึงสาปเจ้ายามฟ้อนเริงรำร่าย ให้กลายเป็นหิน โอ้กรรมอัปสรา..... จากคุณ : jassb1 เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 52 12:17:07

ความคิดเห็นที่ 48 ภาพเด็กน้อยนี้ ฝรั่งไม่ได้ระบุว่าถ่ายไว้ที่ไหน แต่นำมาลงไว้ให้ท่านทั้งหลายพินิจพิเคราะห์ดูถี ... จากคุณ : jassb1 เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 52 12:21:38

ความคิดเห็นที่ 49 การแสดงโขนเด็ก เมื่อปี 1952 กรุงพนมเปญ ... จากคุณ : jassb1 เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 52 12:24:41

ความคิดเห็นที่ 50 ผมต้องระมัดระวังมิให่ลงภาพซ้ำกับท่านอื่นๆ อันนี้มาจากโปสการ์ดครับ โขน ของ กัมพูชา อีกเช่นกัน จากคุณ : jassb1 เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 52 12:26:03

ความคิดเห็นที่ 51 มีตอนยกรบด้วย ... ดูแล้วน่าสนุกเหมือนกันแหละครับ ไม่ว่าไทย เขมร ลาว ญวน ฯลฯ จากคุณ : jassb1 เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 52 12:27:34

ความคิดเห็นที่ 52 ขอลาโรงด้วยภาพชุดเดิมกับโขนเด็ก ... ดูเอาเถิด มองจากข้างหลัง ใครก็บอกไม่ถูกว่านี่รำของชาติใดเด๊ .... จากคุณ : jassb1 เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 52 12:30:59

ความคิดเห็นที่ 53 อุ๊ยตาย ... หน้าแตกสามสิมแปดเข็มก็เย็บไม่พอ คุณมีดปลายแหลมในความมืด จะดูของฝั่งสยามดอกหรือ ... แหะๆ ขออภัยครับ ... กำลังติดใจเสน่ห์ปราสาทหินและนางอัปสราอยู่เด้อ ไว้ท่านพี่นวรัตนและท่านอื่นๆมีอะไรมานำเสนอ หากแจมได้จะช่วยแจมครับ ... ทิ้งท้ายไว้นิด ใครถูกผิด ใครเจ้าของ ... มิใช่เรื่องที่ควรปอง เราทั้งผอง ... น้องพี่กัน... จากคุณ : jassb1 เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 52 12:36:41

ความคิดเห็นที่ 54   ตามมาชม คห.31  เครื่องแต่งกายคล้ายของไทยกว่าทุกชุด (ยกเว้นศิราภรณ์) แต่การแสดงออกแนวละครเวทีฟาโรห์อียิปต์ หนังใหญ่เขมรเลียนแบบไทยแน่ (ดูนาฏลีลาและการแต่งกายของหุ่น) ต้นฉบับไม่แน่ใจ อาจเป็นชวาก็ได้ ในข้อเขียนของอ.จักรพันธุ์เล่าว่าเขมรไม่ยอมรับว่าเอาอิเหนามาจากไทย คุยว่าได้มาจากชวาตัวละครนับถือฮินดู (จะหนีไทยให้ได้) แต่ที่จริงเนื้อเรื่องแต่งในไทยและมีกล่าวถึงถ้ำพุทธด้วย งาน Exposition Coloniale 1906 ต้องชื่นชมฝรั่งที่จำลองได้อลังการ แต่สำหรับเจ้าของประเทศจะภูมิใจแค่ไหน ชื่องานก็บาดความรู้สึกแล้ว จากคุณ : วสันดิลก เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 52 12:54:49

ความคิดเห็นที่ 55 ขอบพระคุณมากๆนะครับผม จากคุณ : อุ้ย (digimontamer) เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 52 12:55:12

ความคิดเห็นที่ 56 ภาพจาก Cultural Village ณ เมืองเสียมเรียบ ค่ะ จากคุณ : samranjai เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 52 13:23:14

ความคิดเห็นที่ 57 ตัดคน ออกจากภาพ ได้เห็น การยกเท้าในการรำ จากคุณ : samranjai เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 52 13:25:14

ความคิดเห็นที่ 58 ที่ Cultural village มีรายการแสดง 11 รายการ เริ่ม 10.15-19.55 น. แสดงเฉพาะ ศุกร์-เสาร์-อาทิตย์ ราคา คนละ 11 $ อยู่ได้ทั้งวัน..มีร้านอาหาร ห้องน้ำสะดวก การแสดง มีทั้งแบบพื้นเมือง และ การร่ายรำชั้นสูง นักรำ จบจากนาฎศิลป์ อย่างแน่นอน รายการสุดท้าย คุ้มเงินที่สุด แสดงนาน 55 นาที ต้องไม่เจอฝน เพราะเป็นการแสดงกลางแจ้ง ค่ะ เป็นการแสดงแสงสี ผู้ร่วมแสดง นับร้อย ..The Greatest King Jayavarman 7 .. ผู้สร้างนครวัต ต่อจนเสร็จ และ สร้างนครธม ปราบจามปา สร้างปราสาทหิน แถบอีสานบ้านเรา ทุกปราสาทหินเมืองเขมร มีห้องสมุด.. ศิลปวิทยาการ เจริญรุ่งเรืองมาก ช่วงยุคปราสาท บันทายสรี รึเปล่า ? ว่า มีนักปราชญ์ราชบัณฑิต มากมาย..เมื่อ 1040 ปี ล่วงผ่าน (มาจาก อินเดีย นั่นเองหละ) ดูเครื่องแต่งกาย ผู้แสดง ค่ะ แก้ไขเมื่อ 10 ส.ค. 52 13:43:35 จากคุณ : samranjai เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 52 13:34:14

ความคิดเห็นที่ 59 . จากคุณ : samranjai เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 52 13:37:15

ความคิดเห็นที่ 60 ท่ารำ และ การแต่งกาย ฉากนี้ บ้านเมืองสงบ และ สร้างบายน นครธม เสร็จสิ้นแล้ว จากคุณ : samranjai เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 52 13:40:33

ความคิดเห็นที่ 61 โพสมากภาพ จะเบี่ยงเบนสาระ ของ กระทู้รึเปล่าคะเนี่ย ? การแสดง งานพิธีแต่งงาน การแต่งกาย และพิธีการ คล้ายกับไทยนะคะ การแสดงอื่น ๆใช้เวลา ราว 25-30 นาที ค่ะ จากคุณ : samranjai เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 52 13:48:53

ความคิดเห็นที่ 62   อาจารย์หม่อมช่วยรักษาโขนให้ลูกหลาน ดลบันดาลให้ผู้หลักผู้ใหญ่ในบ้านเมืองหันมาดูแลโขนด้วยเถิด จากคุณ : วสันดิลก เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 52 13:50:28

ความคิดเห็นที่ 63 ระบำนกยูง ค่ะ เหมือน..พม่า ล้านนา เลย จากคุณ : samranjai เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 52 13:52:19

ความคิดเห็นที่ 64   ภาพเก่า 1 จากคุณ : วสันดิลก เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 52 13:53:15

ความคิดเห็นที่ 65   ภาพเก่า 2 จากคุณ : วสันดิลก เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 52 13:54:25

ความคิดเห็นที่ 66   โขนเขมรมีรบท่านี้หรือเปล่า จากคุณ : วสันดิลก เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 52 13:55:24

ความคิดเห็นที่ 67 การแสดงนี้ ชื่อ Khantremming Dancing ชุดนักแสดงหญิง  เหมือนตะเบงมาน ของบ้านเรา จากคุณ : samranjai เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 52 13:58:20

ความคิดเห็นที่ 68   เครื่องแต่งกายใครสวยกว่ากัน 1 จากคุณ : วสันดิลก เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 52 13:59:29

ความคิดเห็นที่ 69   เครื่องแต่งกายใครสวยกว่ากัน 2 จากคุณ : วสันดิลก เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 52 14:01:47

ความคิดเห็นที่ 70   เครื่องแต่งกายใครสวยกว่ากัน 3 จากคุณ : วสันดิลก เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 52 14:02:35

ความคิดเห็นที่ 71   โอย เหนื่อย  มีแต่ภาพสมัยใหม่   ภาพเก่ารอคุณเพ็ญชมพูกับคุณแสนอักษรสงเคราะห์แล้วกัน คห.63  เขมรเมืองไหนแต่งตัวอย่างนี้ (ชีวิตจริง) เขมรมีร่มแบบนี้ด้วยหรือ  คุ้นๆนะ จากคุณ : วสันดิลก เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 52 14:06:26

ความคิดเห็นที่ 72 การร่ายรำของไทย ดูแบบงามอ้อนช้อย การตั้งวงของมือของไทย ตั้งวงมีการหักข้อมือหาลำแขนท่อนบน ศอกงอเล็กน้อย เอียง  คือ การเอียงศีรษะ ต้องกลมกลืนกับไหล่และลำตัวให้เป็นเส้นโค้ง    มีการชม้ายตาชำเลือง มีการดึงไหล่ การรำหลังตึง หรือดันหลังขึ้น ไม่ปล่อยให้ไหล่ค่อม แก้ไขเมื่อ 10 ส.ค. 52 14:41:36 จากคุณ : nupvs เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 52 14:38:45

ความคิดเห็นที่ 73 ใช่ค่ะ ของไทยดูอ่อนช้อยนิ่มนวลดี แต่สงสัยจังหวะไม่กระชากใจคนสนใจเลยน้อยลง จากคุณ : thezircon (thezircon) เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 52 16:19:23

ความคิดเห็นที่ 74 ขอบคุณสำหรับภาพสวย ๆ ที่หาดูได้ยากครับ จากคุณ : NickyNick เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 52 16:30:56

ความคิดเห็นที่ 75 สยาม เหมือนทรายละเอียด เขมร เหมือนกรวดหยาบๆ หลับตาคลำก็รู้แล้วครับว่าของที่ไหนๆ จากคุณ : แบมฮับ เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 52 17:11:17

ความคิดเห็นที่ 76 ภาพถ่ายเมื่อ พ.ศ. 2455 ในราชสำนักกัมพูชา เด็กที่รำโขน เป็นเด็กอายุประมาณ 11-12 ปี จากคุณ : หนุ่มรัตนะ เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 52 18:51:42

ความคิดเห็นที่ 77 ผมไม่มีนาฏศิลป์ มีแต่ตัวเลขเขมรมาแจม หน้าตาคุ้นๆแฮะ ตกลงจะมีการบอกว่าเลขไทยไปก๊อปเลขเขมรมาหรือเปล่า? หรือต่างคนต่างไปก๊อปแขกมาเหมือนกะระบำ จากคุณ : แอ๊ด ปากเกร็ด เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 52 19:55:15

ความคิดเห็นที่ 78 เหมือนกับวัฒนธรรมที่เจริญในยุคก่อนจะย้ายมา เติบโตและพัฒนาที่ บ้านเรานะครับ ของเราเลยดูอ่อนช้อย มีความละเอียดละเมียดละไมมากกว่า มีที่มาที่ไป มีความซับซ้อน และมีความลึกซึ้งกว่า ดูของเขมรนี่ เหมือนที่ข้างบนๆ ว่าไว้คือ ดูแล้วหยาบๆ เหมือนสักแต่ว่าแสดงออกมาให้ดูเป็นรูปแบบของบ้านเราเท่านั้น คิดว่าศิลปะดั้งเดิมของขเมรจะขาดตอนไปนานแล้ว ไม่มีของเดิมอยู่ หรือมีก็น้อยจนไม่สามารถปะติดปะต่อได้ ต้องมาทำใหม่โดยอาศัยของเก่าเป็นแนวเท่านั้น ที่เหลือก็เอามาจากไทย ผมรู้สึกแบบนั้นะครับ แก้ไขเมื่อ 10 ส.ค. 52 20:08:21 จากคุณ : Carroth เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 52 20:03:36

ความคิดเห็นที่ 79 คุณNavarat.C    ผมจำได้ว่าต้องสะกดว่า รากเหง้า ไม่ใช่เหรอครับ  ไม่ใช่ รากเง่า ศิลปะเขมรเดี๋ยวนี้ๆไปแล้วไม่ค่อยประณีต   อย่างตราแผ่นดินเขมรดูไม่ค่อยงามเท่าไหร่เลย       ลายและภาพไม่ค่อยละเอียดเลย        ความประณีตสู้ของไทยไม่ได้เลย แนะนำคนที่สนใจเขมรให้ลองไปดูที่กระทู้Reviewของคุณนกสุโขทัยครับ     ที่นี่    http://www.pantip.com/cafe/library/topic/K8134421/K8134421.html      รูปตราแผ่นดินที่ว่าก็มี จากคุณ : zodiac28 เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 52 21:32:16

ความคิดเห็นที่ 80 ถูกต้องครับ รากเหง้า ไม่ใช่ รากเง่า ตามไปแก้แล้ว ขอบคุณครับ จากคุณ : Navarat.C เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 52 22:08:56

ความคิดเห็นที่ 81   เข้ามาลงชื่ออ่าน กระทู้นี้ครับ ช่วงนี้ ไปใช้ชีวิตอยู่ชายแดนแถวเมืองทวาย เสียหลายวัน เพิ่งจะได้อ่านเรื่อง เจ้าจอมแพน หรือเจ้าจอมสีสวัสดิ์ อำไพพงษ์ นางละครไทย ที่ได้เข้าไปเป็นเจ้าจอมในราชสำนักกัมพูชา ใน วรบาทสีสวัสดิ์ มุณีวงษ์ เจ้าจอมท่านนี้ คือ คุณย่าแพน เรืองนนท์ อดีตนางรำละครเร่ชาวไทย ที่ไปเล่นละครเร่ จนเป็นที่ต้องพระทัยของ วรบาทสีสวัสดิ มุณีวงษ์ ยุคนั้น ถึงขนาดเรียกให้เข้าเผ้า และสถาปนาเป็นเจ้าจอม มาเจอเนื้อหากระทู้นี้อีก  เลยทำให้เข้าใจถึงคำ ปากว่า ตาขยิบ ชัดขึ้น ป่าวประกาศว่า นาฏย ของตนเป็นต้นแบบแท้ แต่ยังแสวงหา นาฎย ไทย ไปเสริมอีก เอ๊ะ เกี่ยวกับกระทู้หรือเปล่าเนี่ย อย่างไร ต้องขอขอบพระคุณ ท่าน จขกท และ ท่าน กูรู ทุกท่านที่เข้ามาเสริมนะครับ จากคุณ : MA<O>MiYA เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 52 22:24:31

ความคิดเห็นที่ 82   ดันมาเห็นชื่อ เขมร เลยอดไม่ไหวขอนอกเรื่องกระทู้นิดหนึ่งแต่เกี่ยวข้องกับความเป็นไปของแผ่นดินไทยเราโดยตรง ผมรู้สึกไม่ดีกับประเทศนี้ตั้งแต่คราวเผาสถานฑูตไทยเมื่อ5-6 ปีมาแล้ว แล้วพอรัฐบาลไทยตั้งเว็บ ilovethailand สักพักรัฐบาลเขมรก็ตั้งเว็บ ilovekhmer นอกจากนั้นยังมี link เว็บ ihatethailand ในเว็บ ilovekhmer อีกต่างหาก !!! แต่กรณีที่น่ากลัวที่สุดน่าจะอยู่ที่ประเด็นนี้ เสียดายทีข่าวช่อง 3 5 7 9 ไม่ค่อยออกข่าว จะมีชาวไทยกี่คนที่รู้ ลองไปฟังเรื่องเขมรได้ที่ http://www.manager.co.th/Politics/ViewNews.aspx?NewsID=9520000086980 จะอยู่ช่วงกลางๆ วีดีโอนะ ไม่ได้อยากให้เกลียดชังเขมร แม้ผมจะเริ่มรู้สึกไม่ค่อยชอบประเทศนี้ แต่ในฐานะคนไทยเราควรรู้ความเป็นไปในบ้านเมืองบ้าง เราน่าจะมีวิธีที่ดำเนินตามทางสันติและไม่เสียอธิปไตยของไทยไป แต่นี้รู้สักรัฐบาลไทยยังไม่ได้ดำเนินการอะไรเลยนอกจากตั้งชื่อหมีแพนด้า จากคุณ : เป็นคนไทยครับ เป็นคนไทย เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 52 23:01:35 A:113.53.108.252 X: TicketID:228272

ความคิดเห็นที่ 83 อ่านแบบผ่านๆ ถ้าไม่รู้อะไรเลยก็จะคิดว่า อะไร อะไรก็ลอก  ทั้ง ภาษา เครื่องแต่งกาย  ฯลฯ  สมัยก่อนชาวเสียม เป็นคนป่าคนดง ไม่มีภาษาใช้ นุ่งห่มกันไม่เป็น อยู่กันแบบสัตว์ป่าหรือไงวะ จากคุณ : ฉั่วเป่งใช้ เขียนเมื่อ : 11 ส.ค. 52 06:19:23

ความคิดเห็นที่ 84 เห็นเกี่ยวกับนาฏศิลป์สวยงาม มีนางอัปสรา เลยแวะเอารูปอัปสราในจินตนาการของนักวาดภาพดิจิตอลชาวเขมรมาให้ดูกันค่ะว่างามไม๊ คนสร้างภาพเค้าลองนึกภาพนางอัปสราบนศิลาจำหลักเอานะคะว่า ถ้าเป็นคนจริงๆ น่าจะประมาณนี้ ขอบคุณรูปสวยจากศิลปินชาวเขมรจากเวป reahu ปล.ขอบคุณเจ้าของทู้ ติดตามมาดดยตลอดค่ะ เดี่ยวไปจิ้มให้ก่อนนะ แก้ไขเมื่อ 11 ส.ค. 52 11:03:52 จากคุณ : Setakan เขียนเมื่อ : 11 ส.ค. 52 11:01:04

ความคิดเห็นที่ 85 รูปไม่ยอมมาค่ะ เดี่ยวลองดูใหม่ จากเวป reahu จากคุณ : ศีตกาล (Setakan) เขียนเมื่อ : 11 ส.ค. 52 11:02:22

ความคิดเห็นที่ 86 พหูสูตร ดีใจและเป็นเกียรติที่ห้องสมุดมี คุณ Navarat.C ครับ จะลองค้นหนังสือดูว่ามีอะไรที่พอจะแทรกกระทู้ได้บ้างนะครับ รากเง่า ก็ไม่ผิดครับ พจนานุกรม ฉบับนักเรียนปี ๒๕๒๕ ยังถูกอยู่เลยครับ  เพิ่งจะผิดเมื่อเร็วๆ เอง นอกจากนี้ "เง่า" ยังปรากฏใน มหาชาติคำหลวง และเป็นตำแหน่งกรมการหัวเมืองลาวที่เรียกว่า "เจ้าเง่า" อีกด้วยครับ จากคุณ : กัมม์ เขียนเมื่อ : 11 ส.ค. 52 11:09:12

ความคิดเห็นที่ 87 ขออนุญาตเสริมคุณ Navarat.C # ๕, ๖, ๗ เรื่องสมเด็จพระศรีสวัสดิ์และงาน Exposition Coloniale ปี ๑๙๐๖ ขณะที่ฝรั่งเศสจัดงาน Expo ดังกล่าว นครวัดยังเป็นของสยามอยู่ สมเด็จพระศรีสวัสดิ์เสด็จประพาสฝรั่งเศสอย่างเป็นทางการ มีการตรวจพลสวนสนามของกองทัพและให้ทอดพระเนตร การซ้อมรบใหญ่ที่ทุ่งลองชองป์, ดูงานโรงงานอุตสาหกรรม, ซื้ออาวุธสมัยใหม่, ขึ้นหอไอเฟล ฯลฯ ซึ่งเป็นการเลียนแบบการต้อนรับพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวซึ่งเสด็จประพาสฝรั่งเศสครั้งแรกใน ค.ศ.๑๘๙๗ จุดมุ่งหมายอีกข้อหนึ่งคือเพื่อให้ทันงาน Expo ซึ่งมีการจำลองนครวัดขนาดมหึมาไว้ในงาน เพื่อให้สอดคล้องกับแผนการที่จะได้นครวัดและเขมรส่วนในคืนจากสยาม ทันที่ที่สมเด็จพระศรีสวัสดิ์เสด็จกลับกรุงพนมเปญ ข้าหลวงใหญ่ฝรั่งเศสก็สั่งการให้ประติมากรชื่อธีโอดอร์ ริวีแอร์ หล่ออนุสาวรีย์รูปสมเด็จพระศรีสวัสดิ์ขึ้นเพื่อเป็นที่ระลึกในโอกาสที่เขมรจะได้ดินแดนคืนมาล่วงหน้า อีกหนึ่งปีต่อมาในวันที่ ๒๓ มีนาคม ค.ศ. ๑๙๐๗ สยามจึงยอมยกดินแดนพระตะบอง เสียมราฐ ศรีโสภณคืนในเขมรในการปกครองของฝรั่งเศส เพื่อแลกกับดินแดนด่านซ้าย จังหวัดเลย และตราด พร้อมเกาะแก่งที่ตั้งอยู่ใต้แหลมสิงห์รวมทั้งเกาะกูด และคืนสิทธิสภาพนอกอาณาเขตให้ด้วย อนุสาวรีย์สมเด็จพระศรีสวัสดิ์ที่ฝรั่งเศสปั้นให้ จากคุณ : เพ็ญชมพู เขียนเมื่อ : 11 ส.ค. 52 11:40:30

ความคิดเห็นที่ 88 ภาพจากหนังสือพิมพ์ฝรั่งเศส Le Petit Journal ฉบับวันอาทิตย์ที่ ๒๔ มิถุนายน ค.ศ. ๑๙๐๖ สมเด็จพระศรีสวัสดิ์ทอดพระเนตรนาฏศิลป์เขมรร่ายรำอยู่หน้านครวัดจำลองก่อนที่จะได้คืนเป็นทางการใน ค.ศ. ๑๙๐๗ จากคุณ : เพ็ญชมพู เขียนเมื่อ : 11 ส.ค. 52 11:49:05

ความคิดเห็นที่ 89 ภาพจากหนังสือพิมพ์ฝรั่งเศส  L'ILLUSTRATION ฉบับวันที่ ๒๒ สิงหาคม ค.ศ.๑๙๓๑  อีก ๒๕ ปีต่อมาจากครั้งสมเด็จพระศรีสวัสดิ์เสด็จประพาสฝรั่งเศส นครวัดเป็นของเขมรภายใต้การปกครองของฝรั่งเศสโดยสมบูรณ์ และยังคงเป็นจุดเด่นในงาน  Expo อาณานิคมอยู่มิรู้คลาย แก้ไขเมื่อ 11 ส.ค. 52 12:05:23 จากคุณ : เพ็ญชมพู เขียนเมื่อ : 11 ส.ค. 52 11:59:19

ความคิดเห็นที่ 90 คุณ  Navarat.C # ๔๑ ให้ชื่อการรำของเขมรไว้หลายชื่อ แต่มีชื่อหนึ่งซึ่งหลายคนคงไม่เคยได้ยินคือ Religions dance เป็นชื่อที่สมเด็จพระศรีสวัสดิ์เรียกคราเสด็จเมืองลังการะหว่างทางที่จะไปฝรั่งเศส พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่ทรงพระราชนิพนธ์ไว้ในพระราชหัตถเลขา "ไกลบ้าน" เกี่ยวกับ สมเด็จพระศรีสวัสดิ์ และ Religions dance ของเขมรที่เมืองลังกา ไว้ดังนี้ ศรีสวัสดิ์ทำยุ่มย่ามไว้มาก สำแดงว่าเปนผู้ทรงพระราชศรัทธาต่อพระสาสนากล้าหาญ เวลาขึ้นบกไปที่กวีนซเฮาส์ ขอตั้งเครื่องสักการบูชาพระพุทธบาท ว่ามีออลเตอซึ่งอยากจะซักที่สุด ว่ารูปร่างเปนอย่างไร แต่ดูมันจะจู้จี้หนักไป เลยเชื่อเอาเสีย ว่าที่จะเปนเครื่องนมัสการถึงโต๊ะทองทิศฤๅอะไร ตั้งหันไปทางพระพุทธบาทในกลางสนามหญ้า จุดธูปเทียนนมัสการแล้ว ในลครขึ้นไปสวดมนต์สิบสองคน พอสวดจบแล้วลุกขึ้นรำ "ริลิเยียสดานศ์" พ่อเถียงว่าไม่เห็นมีริลิเยียสดานศ์ของเรา เขาอ้อแลฦๅกันต่าง ๆ แล้วบอกว่าเห็นหน้าตาเคร่งเครียดทั้งนั้น ทีจะเปนด้วยลครอย่างเราหน้ามันบึ๊ดเฉย ๆ ไม่ยิ้มแห้งอย่างฝรั่ง ไปแกนดีก็ไปทำพิธีสักการบูชาอะไรใหญ่เหมือนกัน ชมกันว่าเคร่งครัดนัก "ริลิเยียสดานศ์" ของสมเด็จพระศรีสวัสดิ์จะเหมือนกับภาพใน # ๘๘ หรือเปล่า ไม่กล้าเดา จากคุณ : เพ็ญชมพู เขียนเมื่อ : 11 ส.ค. 52 15:01:55

ความคิดเห็นที่ 91   ขอเสริมหน่อยนะจ้ะ ท่านจขกท. ซอสามสาย เขมรนั้นเรียก ว่า ซอเขมร(ตรัวขแมร์-ตรัวนั้นคือ ซอ)เลย ซออู้นั้นเรียก ตรัวอู้เหมือนบ้านเรา ซอด้วงนั้นคือ ตรัวธม(ซอใหญ่) ส่วนวงพิณพาทย์ นั้นออกเสียงแบบเขมรคือ พิณเพียท ตะโพนเขมร แท้ๆนั้นหน้าเหมือนตะโพนไทย แต่เล็กกว่านิดหน่อย(ส่วนตะโพนมอญนั้นใหญ่เบ้อเหิ่ม) ข้อมูลเกี่ยวกับเขมรก่อนกรุงพนมเปญแตกนั้น ท่านอาจารย์หม่อมคึกฤทธิ์เคยไปพร้อมกับเพื่อนนักเขียน(นายรำคาญ ฮิวเมอริสต์-อบ ไชยวสุ และ ประยูร จรรยวงษ์) หนังสือเขียนโดย นายรำคาญ(ประหยัด ศ. นาคะนาท)หาอ่านเพลินๆได้ เรื่องบันเทิงและอาหารการกิน เกร็ดเล็กเกล็ดน้อยด้วย จากคุณ : แมวก่อนประวัติศาสตร์จากก้นครัว (แมวคาบมีด) เขียนเมื่อ : 11 ส.ค. 52 15:12:04

ความคิดเห็นที่ 92 ประมวลภาพนาฏศิลป์ในราชสำนักเขมรสมัยสมเด็จพระศรีสวัสดิ์ จากคุณ : เพ็ญชมพู เขียนเมื่อ : 11 ส.ค. 52 15:36:14

ความคิดเห็นที่ 93 เอ... การแสดงชุดไหนที่ต้องทาแป้งหน้าขาวคะ จากคุณ : แป้นซัง เขียนเมื่อ : 11 ส.ค. 52 20:10:15

ความคิดเห็นที่ 94 ต่อคุณแมวก่อนประวัติศาสตร์จากก้นครัว (แมวคาบมีด) เครื่องดนตรีที่เขมรเรียกก็คล้ายกับไทยนะครับ นี่ระนาดเอก จากคุณ : Navarat.C เขียนเมื่อ : 11 ส.ค. 52 22:55:27

ความคิดเห็นที่ 95 ฆ้องวง จากคุณ : Navarat.C เขียนเมื่อ : 11 ส.ค. 52 22:56:06

ความคิดเห็นที่ 96 อันนี้ชัด ไทยเรียกฆ้องมอญ เขมรก็ฆ้องมอญมั่ง คงไม่ใช่เขมรรับไปจากมอญ แล้วไทยมาเอาอย่างมาแน่ แต่เขมรก็แบบนี้แหละ ฉันยอมรับว่าเอาอย่างใครก็ได้ แต่ฉันยอมรับไม่ได้ว่าเอาอย่างไทย จากคุณ : Navarat.C เขียนเมื่อ : 11 ส.ค. 52 23:03:17

ความคิดเห็นที่ 97 จะเข้ เขมรสะกดเหมือนตะเฆ่ ที่ไทยเรียกสันหลังคา หรือบางทีก็เรียกหัวสับหลีกรางรถไฟ แก้ไขเมื่อ 11 ส.ค. 52 23:07:40 จากคุณ : Navarat.C เขียนเมื่อ : 11 ส.ค. 52 23:05:33