ความคิดเห็นที่ 1 ด้านไหนคะ? ถ้าเป็นด้านไวยากรณ์ต้องบอกว่า ไวยากรณ์จีนคล้ายไวยากรณ์ภาษาอังกฤษมาก ๆ ค่ะ ถ้าเป็นด้านการออกเสียง ในความคิดเรา เราว่าภาษาจีนออกเสียงง่ายกว่านะ คนอื่นว่าไงเราไม่รู้ ถ้า จขกท เข้าใจไวยากรณ์ภาษาอังกฤษ รับรองว่า ไวยากรณ์จีนก็ไม่น่าจะเป็นปัญหาค่ะ การเรียนภาษา ไม่ว่าภาษาไหน ก็ต้องใช้เวลาทั้งนั้นแหละค่ะ หัวใจของภาษาทุกภาษาคือศัพท์ ถ้าเราได้ศัพท์ อย่างน้อยเราก็รู้ความหมายของประโยคว่ามันไปทางไหน ยิ่งเป็นภาษาจีน ที่ไม่ได้ใช้หลักการสะกดคำตามเสียงพยัญชนะ แต่เป็นอักษรภาพเป็นตัว ๆ ไปยิ่งต้องใช้เวลากับมันในการทำความเข้าใจ อ่าน เขียน และจำให้ได้ค่ะ การดูซีรี่ย์(เสียงจีน ซับจีน) ฝึกฟังเพลง(แล้วก็ไปร้องคาราโอเกะ) ช่วยได้เยอะค่ะ ถ้าที่บ้านติดช่องดาวเทียม ก็ลองฝึกดูช่องจีน(ทั้งแผ่นดินใหญ่ ทั้งไต้หวัน) บ่อย ๆ นะ สู้ ๆ จ้า จากคุณ : ทรายในขวดแก้ว เขียนเมื่อ : 21 ต.ค. 52 12:28:52

ความคิดเห็นที่ 2 เรากลับมองว่าไวยกรณ์จีนคล้ายกับภาษาไทยนะคะ ไม่ต้องมาจำ Tense แบบของภาษาที่มีรากศัพท์ละติน เช่น อังกฤษ ฝรั่งเศส เยอรมัน เป็นต้น ซึ่งเราไม่ชอบมากๆเลยแต่ภาษาจีนยากตรงเขียนอ่ะคะ ต้องจำเยอะมากๆ เราเองก็ไม่ได้เก่งนะคะฝึกเอาจากดูหนังที่ชอบเหมือนคุณทรายในขวดแก้วแหละคะ อีกอย่างขึ้นอยุ่กับความสนใจในภาษานั้นๆด้วยคะเราว่านะ จากคุณ : หลี่ฮวง เขียนเมื่อ : 21 ต.ค. 52 13:22:39

ความคิดเห็นที่ 3   จีนง่ายกว่าอังกฤษ ขอแค่เพียงฝึกบ่อย ๆ จากคุณ : สยามสบายสไตล์สยาม เขียนเมื่อ : 21 ต.ค. 52 16:33:21

ความคิดเห็นที่ 4 ผมจีนง่ายกว่าอังกฤษครับ ยากตรงเขียน ถ้ารู้หมวดจะช่วยได้เยอะเลย เพราะอังกฤษ ต้องเปลี่ยนไปตามประธาน และเหตุการณ์เวลาที่เกิดต่างๆ ไม่ชอบตรงนี้แหล่ะ แต่ก้ต้องเจอและต้องได้ครับ จากคุณ : โสดแบบสนิท เขียนเมื่อ : 21 ต.ค. 52 17:28:36

ความคิดเห็นที่ 5 ก็เรียนได้ปกตินะคะ ก็ยากเท่ากับเรียนรู้ภาษาใหม่ ยากแค่จำคำเท่านั้นแหละค่ะ ผิดหนึ่งขีดก็ผิดแล้ว เผลอๆความหมายเปลี่ยนอีก จากคุณ : kurika เขียนเมื่อ : 21 ต.ค. 52 17:53:59

ความคิดเห็นที่ 6 จีนง่ายกว่าอังกฤษค่ะ คอนเฟิร์ม จากคุณ : tianzhu (TIANZHU) เขียนเมื่อ : 21 ต.ค. 52 21:13:37

ความคิดเห็นที่ 7   อังกฤษ ยาก Tense จีน ยาก เขียนค่ะ แต่ Grammar คล้ายกันมาก ถ้ามีใจรักทั้ง 2 ภาษา เรียนๆ ไป ก็สนุกทั้ง 2 ภาษานะคะ สู้ๆ ค่ะ :) พยายามหาเพลงจีนมาร้องเยอะๆ เพราะมันจะทำให้เราอยากรู้ความหมาย พออยากรู้ความหมาย ก็ต้องแกะเนื้อ เราว่าน่าจะช่วยให้สนุกขึ้นค่ะ จากคุณ : LucKy_RiN เขียนเมื่อ : 21 ต.ค. 52 23:55:31

ความคิดเห็นที่ 8 อืม เข้าใจจขกท.นะคะ เพราะเราเองก็รู้สึกอย่างงั้นเหมือนกัน อย่างภาษาอังกฤษ ฟังๆไป บางคำ เรียนรู้จากในทีวี เวลามาอ่านในหนังสือ ก็ยังเดาได้ว่าเป็นคำเดียวกัน แต่ภาษาจีนไม่ใช่แบบนั้น ขอดีของภาษาจีนก็คงที่ไม่ต้องนั่งผันเนี่ยแหละค่ะ เราเลยเลือกเรียนภาษาจีนแทนที่จะเรียนภาษาญี่ปุ่นที่ได้ใช้มากกว่า เพราะภาษาญี่ปุ่นนี่เราว่ามันผันเยอะเหลือเกิน จำไม่ได้ แถมคันจิยังอ่านได้หลายแบบมากมาย มันหัวไปหมด สำหรับเรา ความยากที่แท้จริงของภาษาจีนคือเราว่ามันเรียงประโยคค่อนข้างประหลาด ... อืม เรียกว่าเรียงแบบที่สมองของเราเข้าใจได้ยากจะดีกว่า ดังนั้น บางทีเวลาเราฟังหรืออ่านประโยคอันหนึ่ง ถึงแม้เราจะแปลออกทุกคำ เราก็ยังไม่รู้ความหมายมันอยู่ดี ตัวอย่าง (อาจจะดูง่ายไปหน่อย แต่นึกอย่างอื่นไม่ออก) ภาษาไทย ฉัน - ทำงาน - ที่หอพัก = (ประธาน กริยา คำขยาย) ภาษาอังกฤษ I am working at the dorm ภาษาจีน wo3 - zai4 su4che4 - zou4 gong1zou4 ซึ่งเราว่า การเอากริยาไว้ข้างท้ายอย่างนี้ค่อนข้างคล้ายกับภาษาญี่ปุ่น แต่จริงๆแล้วมันมีการเรียงคำในประโยคอีกหลายอันที่เราเรียงแล้วไม่เข้าใจจริงๆ -_-" จากคุณ : booklovers เขียนเมื่อ : 22 ต.ค. 52 09:50:00

ความคิดเห็นที่ 9 ไวยากรณ์จีน คล้ายภาษาไทยเลยอ่ะค่ะ เรากลับตรงกันข้ามกับ จขกท ภาษาอังกฤษลืมไปเยอะแล้วอ่ะ จากคุณ : tRechin เขียนเมื่อ : 22 ต.ค. 52 10:18:54

ความคิดเห็นที่ 10 ตอนเด็ก ๆ เหล่าซือที่สอนภาษาจีนจะบอกว่า " เมื่อโตขึ้นต้องไปเรียนภาษาอังกฤษ จำไว้ว่าให้ใช้ภาษาจีนเป็นหลักในการเรียน " เพราะภาษาจีนเและอังกฤษ มีการวางหลักไวยากรณ์คล้ายกัน อีกทั้งเวลาแปล ก็จะแปลไปในทางเดียวกัน ไม่เหมือนภาษาไทย หากไปแปลภาษาอังกฤษ ต้องแปลจากหลังมาหน้า จากคุณ : โซ้ยตี๋ (skavee) เขียนเมื่อ : 22 ต.ค. 52 17:37:46

ความคิดเห็นที่ 11 สับสน พินอินล่ะสินะครับ จากคุณ : ซายูบิ เขียนเมื่อ : 23 ต.ค. 52 02:05:54

ความคิดเห็นที่ 12 ใน ฐานะ นศ ปีหนึ่ง เรียนจีน นะคะ  (ขอแทนว่าเราละกัน =D) เพิ่งมานับหนึ่งไหม่ตอนเข้ามหาลัยอ่ะค่ะ ไม่เคยเรียนภาษาจีนมาก่อนเลย ส่วนภาษาอังกฤษพอได้ระดับนึง แต่ก้ไม่ได้เก่งมาก เรารู้สึกว่า ไวยากรณ์จีน คล้าย ไทยมากๆๆ ไม่เหมือนกับอังกฤษ ที่ต้องแปลจากหลังไปหน้า เราเรียนมาสี่เดือน เวลาพูดกับคนจีน เราจะนึกไปพร้อมๆกับไทย  แกรมม่าจีนไม่ถูกต้องเลย แต่ เค้าก้พอเข้าไจเรานะคะ (กว่าจะพอสื่อสารรุ้เรื่องก้ต้องมีศัพท์ในหัวเยอะพอสมควร ) เช่น เธอ  กิน    ข้าวเย็น   รึ    ยัง? ni    chi    wanfan   le   ma? แต่ถ้าเปน อังกฤษก้จะเป็น Did you have dinner? อ้อ ข้อแตกต่างที่เหนได้ชัดคือ ภาษาจีนไม่มีผัน กริยา เหมือนอังกฤษ คนไทยจะกังวลเรื่อง tense กันเยอะ จริงๆแกรมม่าจีนซับซ้อนกว่านี้ แต่ ยกแค่ตัวอย่างง่ายก่อน ส่วนตัวคิดว่าจีน ยากที่คัดศํพท์ค่ะ ต้องคัดบ่อยๆจนจำได้ไม่มีวันลืม ยิ่งเรารุ้ศัพท์มาก เราก้สร้างประโยคได้ จะผิดจะถูกยังไง เราคิดว่าคนจีนก้น่าจะเข้าไจนะคะ อังกฤษ (เรียนมาสิบกว่าปี -_-") พอมาเรียนจีนรู้สึกกว่าจีนง่ายกกว่าอีก แล้วก็เหนด้วยกับ คห1 ค่ะ   จีนออก้เสียงง่ายกว่าอังกฤษมาก ออกเหมือนไทยเลย ไม่ต้องมี  s h th r l thr อังกฤษถ้าจะยาก ก้ตรงสำเนียงนี่แหละคิดว่า แล้วก้รู้ศัพท์น้อย (ฟังไม่เ่ก่ง ) จนตอนนี้เรียนภาษาจีนเยอะจนจะกลบภาษาอังกฤษแล้ว เวลานึกอะไรออกก้จะเป็นภาษาจีน ง่าาา ! มีคนบอกว่าคนที่เก่งจีนกะอ่อนอังกฤษ ส่วนคนที่อ่อนอังกฤษ จะเก่งจีน มีเพือนคนนึง เก่งจีนมากกกกกกกก แต่อังกฤษไม่เอาไหนเลย ฮ่าๆ เค้าบอก เรียนอังกฤษทีไรชอบนึกถึงแต่จีน >)<" จขกทลอง หาคนจีนมาคุยสิคะ สนุกดี   สู้ๆไปพร้อมกันค่ะ ^_^ จากคุณ : ของขวัญจากGOD เขียนเมื่อ : 23 ต.ค. 52 15:22:17

ความคิดเห็นที่ 13 คิดว่ามันง่าย แล้วมันจะง่ายขึ้นเยอะเลยค่ะ ไม่รู้ไม่เป็นไรค่ะ เราไม่ใช่คนจีน ค่อยๆเรียนกันไป จากคุณ : OhBoW เขียนเมื่อ : 23 ต.ค. 52 20:11:30

ความคิดเห็นที่ 14 แอบเห็นด้วยกะคคห.12ค่ะ อ่านแล้วก็นึกขำตัวเอง เวลาเหล่าซือให้แต่งประโยคแทนที่จะคิดภาษาไทย ดันคิดเป็นภาษาอังกฤษ (แบบว่าเป็นภาษาต่างชาติเหมือนกัน) แล้วก็พยายามจะแปลออกมาให้เป็นจีน... แล้วมันจะเขียนออกไม๊เนี่ย ปัจจุบันนี้ ข้าพเจ้าก็เลยยังเตาะแตะภาษาจีนต่อไป หุหุ .... ขอเพิ่มเติมภาษาอังกฤษอีกนิดนึง ตรงที่ว่าภาษาอังกฤษนี่มีตัวช่วยมากกว่า เช่นหนังหรือว่าหนังสือ ตัวเราเก่งภาษาอังกฤษเพราะอ่านหนังสือนิยาย แต่ว่าเมื่อเรียนภาษาจีน พยายามหานิยายหรือหนังสืออ่านเล่นมาอ่าน ก็พบว่ามันหายากมากๆ หนังสือหนังหาน่าอ่าน ถ้าไม่เป็นของฮ่องกง ก็เป็นของไต้หวัน ซึ่งมันเป็นตัวเต็ม อีกอย่างคือภาษาอังกฤษนี้มันรับมาจากหลายภาษา ดังนั้นเรียนไปเยอะๆก็จะแยกรากศัพท์ได้ บางคำไม่เคยเจอก็จะเดาความหมายได้ แล้วด้วยเหตุผลทางประวัติศาสตร์ก็จะมีปนภาษาฝรั่งเศสค่อนข้างเยอะ ดังนั้นก็จะมีจุดให้จำคำศัพท์ได้ง่ายขึ้นไปอีก แม้แต่เวลาอ่านภาษาฝรั่งเศส ถึงไม่รู้ภาษาฝรั่งเศส ก็สามารถเดาความหมายคร่าวๆได้ ก็เลยมีที่ให้ฝึกเยอะ ทั้งป้ายโฆษณาและสื่ออื่นๆ ในขณะที่ภาษาจีนนี่เหมือนต้องมาเริ่มใหม่หมดเพราะแม้แต่คำภาษาอื่นก็จะแปลงเป็นภาษาจีน ทำให้การเรียนการอ่าน ต้องทำแบบโดดๆ ไม่สามารถเอาอะไรมาเทียบได้เลย มีแต่ว่าถ้าคนได้ภาษาญี่ปุ่นก็อาจจะพอเดาได้บ้าง แต่ก็ไม่เหมือนกันซะทีเดียว แต่ถ้าฟันธงเรื่องฟังพูดอ่านเขียนแบบเบสิก ภาษาอังกฤษง่ายกว่า แต่ภาษาจีนก็มีส่วนง่ายตรงการออกเสียงและการที่ไม่ต้องผัน จากคุณ : booklovers เขียนเมื่อ : 23 ต.ค. 52 20:34:01

ความคิดเห็นที่ 15 เราเรียนภาษาฝรั่งเศสมาก่อนเรียนจีน บางทีก็ติดอ่าน แบบฝรั่งเศส นิดหน่อย ๕๕ ภาษาไหนก็ไม่ยากหรอก ถ้าเราพยายามเรียนรู้ จากคุณ : jadeleaf เขียนเมื่อ : 6 พ.ย. 52 04:01:31

ความคิดเห็นที่ 16 ตอนแรกไม่ชอบภาษาอังกฤษเลย แต่พอเรียนจีนแล้วรู้สึกว่าภาษาอังกฤษช่างง่ายอะไรอย่างนี้ แต่...ผลการเรียนอังกฤษก็เท่าเดิม 5555 ภาษาจีนซะอีกกลับได้เกรดดีขึ้น จนตอนนี้นึกคำภาษาอังกฤษแทบไม่ออกแล้ว คิดออกแต่จีน อิอิ จากคุณ : ojisama เขียนเมื่อ : 12 พ.ย. 52 23:59:43