ความคิดเห็นที่ 1 นั่นหน่ะสิครับ สงสัยเหมือนกัน หุหุ จริงๆถ้ามีภาพยนต์เกี่ยวกับสงครามระหว่างสมเด็จพระบรมไตรโลกนาถกับพระเจ้าติโลกราชพญายวน ก็น่าจะสนุกไม่หยอก จากคุณ : digimontamer เขียนเมื่อ : 31 มี.ค. 54 13:42:55

ความคิดเห็นที่ 2 อาจจะเป็นเพราะว่าไม่ได้มีการรบครั้งสำคัญใหญ่ๆในสมัยนี้    และสงครามที่เกิดสมเด็จพระนารายณ์ก็ไม่ได้ยกทัพไปเอง   ให้คนอื่นไป     เลยขาดลักษณะของพระเอกภาพยนตร์ที่ต้องเป็นแบบวีรบุรุษผู้พิชิตไป อีกทั้งถ้าย้อนไปดูให้ดีๆ     สมเด็จพระนารายณ์นี่ก็เป็นผู้ชิงบัลลังก์มานะครับ    แต่คนส่วนใหญ่ไม่ค่อยรู้     หากเอามาสร้างให้คนรู้    ด้วยมุมมองของคนสมัยนี้อาจจะมองเป็นผู้ร้ายไปเลยก็ได้ จากคุณ : zodiac28 เขียนเมื่อ : 31 มี.ค. 54 20:03:48

ความคิดเห็นที่ 3 กลัวเรื่องที่มาของอำนาจมั้ง แล้วอาจมีการเปรียบเทียบกับกษัตริย์พระองค์อื่นๆตามมา แต่จริงๆ มันไม่ได้เรื่องแปลกอะไรเลย เรื่องการเปลี่ยนแผ่นดินจากการกบฏเนี่ย จากคุณ : Michael เบ๊ เขียนเมื่อ : 31 มี.ค. 54 20:19:50

ความคิดเห็นที่ 4 พระองค์ทรงปราบดาภิเษก มา พอท้ายรัชกาลก็ทรงถูกปราบดาภิเษกโดยสมเด็จพระเพทราชา ต้นราชวงศ์บ้านพลูหลวง เช่นกัน นี่เป็นเรื่องราวประวัติศาสตร์ถ้าเรามองข้ามอะไรไปจะเห็นว่า มันก็คือแค่เรื่องจริงที่ไม่มีใครบิดเบือนได้ ซึ่งในสมัยนั้นไม่ใช่เรื่องแปลก เป็นรูปแบบวิวัฒนาการทางการเมืองจากอดีตมาถึงปัจจุบัน แต่จะว่าไปถ้าพูดถึงในยุคพระองค์ท่านก็เป็นยุคที่เมืองไทยเจริญรุ่งเรืองมากเป็นยุคหลังสมเด็จพระนเรศวร ทรงกู้ชาติ แผ่นดินร่มเย็นมาเป็นเวลา แปดสิบกว่าปี ไทยซึ่งคือสยามในขณะนั้นได้เจริญสัมพันธไมตรีกับประเทศฝรั่งเศสซึ่งเป็นมหาอำนาจในขณะนั้น หนังสือจินดามณี แบบเรียนไทยเล่มแรกก็เกิดขึ้นสมัยนี้ แสดงถึงความเจริญก้าวหน้าเป็นอย่างดี ยุคนี้เป็นยุคที่ตีเมืองได้หลายเมือง แล้วก็มีพระราชวังที่ลพบุรี ที่ยังคงความสมบูรณ์มากจัดว่าเป้นวังสมัยอยุธยา ที่ยังเหลืออยู่ให้เห็นกำแพงล้อมรอบสมบูรณ์แบบที่สุดในประเทศไทย จากคุณ : งานวังนารายณ์ กุมภาพันธ์ 54-pi (โซอึนยอง) เขียนเมื่อ : 1 เม.ย. 54 06:46:19

ความคิดเห็นที่ 5 ที่จ.ลพบุรี เป็นจังหวัดที่ถูกเรียกว่าเป็นแผ่นดินของสมเด็จพระนารายณ์มหาราชเพราะในสมัยพระองค์ท่านโปรดประทับที่ วังนารายณ์ จ.ลพบุรีมาก ใน 1 ปีจะทรงประทับที่ ลพบุรี 7 - 8 เดือน มากกว่าที่ จ.อยุธยา ซึ่งเป็นเมืองหลวงเสียอีก ทางจังหวัดได้จัดงานแผ่นดินสมเด็จพระนารายณ์มหาราช เป็นระยะเวลาสามสิบกว่าปีแล้ว คนลพบุรีจะเรียกงานนี้ว่า งานวัง หรืองานวังนารายณ์ มีทั้งกลางวันและกลางคืน ประมาณ 1 อาทิตย์ ช่วงกลางเดือนกุมภาพันธ์ ช่วงก่อนมีงานและช่วงงานทางจังหวัดลพบุรีจะรณรงค์ให้แต่งชุดไทยกันทั้งเมือง นร.ใส่ชุดไทยมาเรียน ข้าราชการเทศบาล อำเภอ โรงเรียนทั้งเอกชนและรัฐบาล ที่ร.พ.ลพบุรี ยังเห็นพยาบาล แต่งไทยกันเลยเสียดายไม่กล้าถ่ายรูปเพราะเค้าปฏิบัติงานกันอยู่ เลยเอารูปงานวังฯ ปีนี้ (54) มาฝากให้ดูบรรยากาศกันคะ จากคุณ : โซอึนยอง เขียนเมื่อ : 1 เม.ย. 54 07:09:50

ความคิดเห็นที่ 6 ผมว่าเรื่องราวในรัชสมัยนี้น่าสนใจครับ เพื่อจะได้ให้คนไทยได้ทราบเหตุการณ์ในรัขกาลนี้ซึ่งไม่ค่อยมีใครพูดถึงเช่น การเข้ามาในราชสำนักของคอนสแตนติน ฟอลคอน หรือ แผนชิงบัลลังก์ของพระเพทราชา ฯลฯ ที่พูดถึงมีเพียงการเจริญสัมพันธไมตรีกับฝรั่งเศสเท่านั้นเองครับ จากคุณ : มวลชนผู้ทุกข์ยาก (มวลชนผู้ทุกข์ยาก) เขียนเมื่อ : 1 เม.ย. 54 07:36:27

ความคิดเห็นที่ 7 เลือดไม่ท่วมจอ ไม่มันครับ จากคุณ : muk_22 เขียนเมื่อ : 1 เม.ย. 54 16:25:51

ความคิดเห็นที่ 8 พระองค์ได้รับการยกย่องว่าทรงเป็นกษัตริย์ที่มีพระปรีชาสามารถในเรื่องการบริหารจัดการทำนุบำรุงบ้านเมืองให้เจริญรุ่งเรื่องในด้านเศรษฐกิจ สังคม ศิลปวัฒนธรรม มากกว่าการเป็นนักรบ หรือวีรบุรุษผู้กอบกู้แผ่นดินจากข้าศึกศัตรู เพราะในสมัยนั้นไม่มีศึกใหญ่ๆจากพม่ามารุกรานเราเป็นเวลานาน ประกอบกับไม่มีเหตุผลอันใดที่เราจะยกทัพไปรุกรานพม่า จึงต่างคนต่างอยู่ บ้านเมืองสงบร่มเย็น จนมาวุ่นวายอีกครั้งช่วงปลายรัชกาลของพระองค์นั่นเอง      ทั้งนี้แล ถ้าจะนำมาสร้างเป็นบทภาพยนตร์หรือละคร มันก็ราบเรียบเกินไป ไม่มีฉากที่จะส่งเสริมให้พระองค์มีบทที่โดดเด่นสุดแรงเกิด แบบสมเด็จพระนเรศวร หรือสมเด็จพระเจ้าตากสิน      แต่ถ้าพูดถึงตัวละครอื่นๆที่อยู่ในสมัยของพระองค์นั้น นับว่ามีตัวเด่นอยู่ไม่น้อย มีเหตุการณ์ชิงไหวชิงพริบ วางแผนซ้อนแผน ใช้เล่ห์กลต่างๆนา ในการเมืองสมัยนั้น ยังกับหนังสายลับ (เว่อร์ไปหน่อย อิอิ) รับรองว่าสนุกทีเดียว จากคุณ : แม่หญิงวิปลาศ เขียนเมื่อ : 1 เม.ย. 54 16:32:11

ความคิดเห็นที่ 9 นั่นสิครับ น่าจะมันส์ ถ้าเอามาสร้างจริงๆ จากคุณ : มวลชนผู้ทุกข์ยาก เขียนเมื่อ : 2 เม.ย. 54 07:32:22

ความคิดเห็นที่ 10 เรื่องคณะทูตสมัยสมเด็จพระนารายณ์ ที่ไปเรือแตกที่แอฟริกาใต้ น่าทำมากกว่าอีกครับ นี่คือ cast away ฉบับ สยาม เลยนะครับ http://haab.catholic.or.th/history/suwanapoom01/suwannapoom18.html จากคุณ : ออกหลวงมงคล เขียนเมื่อ : 2 เม.ย. 54 22:05:13

ความคิดเห็นที่ 11 มีพงศาวดารกระซิบเกี่ยวกับการถือกำเนิดพระเจ้าเสือ ที่บอกว่าเป็นพระโอรสลับของสมเด็จพระนารายณ์ว่า  หลังจากที่ตีเมืองเชียงใหม่ได้ ท่านได้เจ้าหญิงเชียงใหม่เป็นพระสนม ภายหลังทรงยกให้กับ พระเพทราชา ซึ่งไม่นานก็คลอดทารกออกมาคือพระเจ้าเสือ (ขออภัยเรืองคำราชาศัพท์คะ) จึงมีคนในวังซุบซิบกันว่าเป็นพระโอรสของพระองค์ ต่อมาเมื่อทรงเจริญพระชันษา พูดภาษาเราๆ ก็โตเป็นหนุ่มซึ่งพระองค์มีหน้าตาละม้ายคล้ายพระนารายณ์มากกว่า พระเพทราชา สมเด็จพระเจ้าเสือ ได้เดินเข้ามาแล้วถามพระนารายณ์ว่า มีคนเค้าว่าพระองค์เป็นพ่อ จริงหรือไม่ พระนารายณ์ตอบว่า ก็กลับไปส่องกระจกดูสิ อีกเหตุการณ์ ความที่พระเจ้าเสือเป็นคนเลือดร้อน เลยต่อย ฟอลคอน ซึ่งเป็นเสนาบดีสูงสุดในขณะนั้น ตอนนั้นการทะเลาะวิวาทเกี่ยวกับคนไทยพุทธ กับการเผยแพร่คริสศาสนา รุุนแรงมากในลพบุรี ซึ่งถ้าเป็นคนอื่นคงโดนโทษขั้นรุนแรงอะไรไปแล้วเพราะเป็นการกระทำต่อหน้าธารกำนัลที่ท้องพระโรง แต่สมเด็จพระนารายณ์ก็ไม่ทรงทำโทษอะไรเลย จึงเป็นสาเหตุให้คนทั่วไปซุบซิบว่าเพราะทรงเป็นลูกเลยไม่ถือสาหาความ จากคุณ : โซอึนยอง เขียนเมื่อ : 2 เม.ย. 54 23:29:23

ความคิดเห็นที่ 12 มีพงศาวดารกระซิบเกี่ยวกับการถือกำเนิดพระเจ้าเสือ ที่บอกว่าเป็นพระโอรสลับของสมเด็จพระนารายณ์ว่า  หลังจากที่ตีเมืองเชียงใหม่ได้ ท่านได้เจ้าหญิงเชียงใหม่เป็นพระสนม ภายหลังทรงยกให้กับ พระเพทราชา ซึ่งไม่นานก็คลอดทารกออกมาคือพระเจ้าเสือ (ขออภัยเรืองคำราชาศัพท์คะ) จึงมีคนในวังซุบซิบกันว่าเป็นพระโอรสของพระองค์ ต่อมาเมื่อทรงเจริญพระชันษา พูดภาษาเราๆ ก็โตเป็นหนุ่มซึ่งพระองค์มีหน้าตาละม้ายคล้ายพระนารายณ์มากกว่า พระเพทราชา สมเด็จพระเจ้าเสือ ได้เดินเข้ามาแล้วถามพระนารายณ์ว่า มีคนเค้าว่าพระองค์เป็นพ่อ จริงหรือไม่ พระนารายณ์ตอบว่า ก็กลับไปส่องกระจกดูสิ อีกเหตุการณ์ ความที่พระเจ้าเสือเป็นคนเลือดร้อน เลยต่อย ฟอลคอน ซึ่งเป็นเสนาบดีสูงสุดในขณะนั้น ตอนนั้นการทะเลาะวิวาทเกี่ยวกับคนไทยพุทธ กับการเผยแพร่คริสศาสนา รุุนแรงมากในลพบุรี ซึ่งถ้าเป็นคนอื่นคงโดนโทษขั้นรุนแรงอะไรไปแล้วเพราะเป็นการกระทำต่อหน้าธารกำนัลที่ท้องพระโรง แต่สมเด็จพระนารายณ์ก็ไม่ทรงทำโทษอะไรเลย จึงเป็นสาเหตุให้คนทั่วไปซุบซิบว่าเพราะทรงเป็นลูกเลยไม่ถือสาหาความ จากคุณ : โซอึนยอง เขียนเมื่อ : 2 เม.ย. 54 23:37:51

ความคิดเห็นที่ 13 ยุคนี้มีสิ่งความสุดยอดครับคือ ท้าวทองกีบม้าหรือมารี กีมาครับ สาวลูกครึงญี่ปุ่น โปรตุเกส ข้าหลวงผู้ดูแล"ห้องเครื่อง" เป็นหัวหน้านางในกว่า 200 คนผู้คิดค้นขนมไทย ทองหยิบ ทองหยอด ฝอยทอง สร้างตำนานในวังไม่แพ้แดจังกึม เธอได้แต่งงานกับ คอนแสตนตินฟอลคอน ขุนนางกรีกซึ่งมีบทบาทสำคัญในราชวัง แต่หารู็ไม่ว่าแท้จริงแล้ว คอนแสตนตินนั้นคิดอะไรต่อบ้านเมือง !!! จากคุณ : Arboramo เขียนเมื่อ : 12 เม.ย. 54 10:13:11