ความคิดเห็นที่ 1 รูปประกอบสักนิดนะครับ จากคุณ : ลูกทุ่งคนยาก เขียนเมื่อ : 17 มิ.ย. 54 06:39:46

ความคิดเห็นที่ 2 ฮา เทพลิโป้ จากคุณ : Ryuichi เขียนเมื่อ : 17 มิ.ย. 54 09:05:14

ความคิดเห็นที่ 3 ไม่แน่ ว่า อีก ร้อยปีต่อมา อาจจะมีคนอ่านสามก๊กฉบับเฉินเหมา(หงสาจอมราชันย์) แล้วบอกว่า แท้จริงแล้ว ลิโป้ ก็มีคุณธรรมจนเป็นเทพได้เหมือนกัน อิอิ จากคุณ : เหล่าฟาง เขียนเมื่อ : 17 มิ.ย. 54 10:07:10

ความคิดเห็นที่ 4 มาอีกแล้วกระทู้แบบนี้.. ไม่ชอบเลย.. ชอบมาดูด Give ตอน Give เหลือน้อยๆทุกที จากคุณ : หมู4X เขียนเมื่อ : 17 มิ.ย. 54 10:13:09

ความคิดเห็นที่ 5 จริงๆเรื่องของกวนอูมันเป็นที่จดจำของบรรดาชาวบ้านมาก่อนสมัยชิงแล้วครับ รวมถึงเป็นที่ศรัทธามาแต่ก่อนที่หลอกว้านจงจะแต่งสามก๊กอีกด้วย เพราะบรรดาศักดิ์ของกวนอูที่มีบันทึกไว้ทำให้เห็นว่า ฮ่องเต้ในสมัยเป่ยซ่งก็มีการอวยยศให้กวนอูกันแล้ว 北宋 宋徽宗 崇宁元年（1102年） 忠惠公 (เป็นตำแหน่ง公=เจ้าพระยา ตอนตายใหม่ๆโจโฉตั้งให้เป็น侯=พระยา) สังเกตว่าชื่อในตำแหน่งนี้ มีคำว่า 忠 ซึ่งแปลว่า ซื่อสัตย์ ภักดี แสดงว่าในสมัยเป่ยซ่ง ชื่อเสียงของกวนอูก็น่าจะเริ่มโด่งดังในมุมนี้แล้ว ต่อมาก็ฮ่องเต้ราชวงศ์ต่างๆก็อวยกันมาเรื่อยและสูงขึ้นเรื่อยๆเพราะวรรณกรรมที่แต่งขึ้น ทำให้คนยิ่งมีความศรัทธาและเชื่อในตัวกวนอู (ทั้งที่บางเรื่องแต่งขึ้น) และมาสูงสุดในสมัยชิง 清 清宣宗 道光八年（1828年）忠义神武灵佑仁勇威显关圣大帝 (กลายเป็นเทพไปแล้ว ยกให้เป็นเทพที่ใหญ่สุดฝ่ายบู๊ คู่กับเทพฝ่ายบุ๋นที่ใหญ่สุดอย่าง ขงจื๋อ) สาเหตุหนึ่งก็อย่างที่บทความกล่าวไว้ คือ ต้องการให้คนหันมาบูชากวนอูแทนงักฮุย อีกสาเหตุหนึ่งก็คือวรรณกรรมและการละครจีนที่มีผลอย่างมากต่อตัวกวนอู หากมองด้านความซื่อสัตย์ภักดี ชนชั้นปกครองก็นิยมชมชอบ หากมองในด้านความมีคุณธรรมความเป็นเพื่อน การรู้บุญคุณ ชาวบ้านตาดำๆก็สามารถเข้าถึงได้ง่าย ด้วยเหตุนี้ ทำให้กวนอูสามารถครองใจคนได้ทั้งสองชนชั้น จึงไม่แปลกที่ชนชั้นปกครองจะนำมาเป็นเทพตัวอย่างให้คนในประเทศนับถือกัน เห็นด้วยกับบทความด้านบนครับ เทพเจ้าทั่วโลกย้ายมาอยู่ที่ไทยมากมาย ทั้งจากจีนและอินเดีย น่าแปลกดีครับ จริงๆใครจะนับถืออะไรก็สิทธิของเขา แต่อย่าให้เกินงามหรือสร้างความสับสนในสังคม ถ้าจะกราบไหว้บูชา ก็ขอให้เลียนแบบในคุณธรรมหรือข้อดีของเทพองค์นั้นๆ แล้วความเจริญจะเกิดขึ้นกับคนบูชาเองแน่นอนครับ ขอบคุณสำหรับบทความดีๆที่นำมาฝากนะครับ ก่อนไปเอางิ้วเกี่ยวกับกวนอูมาฝากสักเรื่อง เรื่องย่อ กวนอูพาพี่สะใภ้สองคนกลับไปหาเล่าปี่ และไปถึงเมืองที่เตียวหุยคุ้มกันอยู่ เตียวหุยเห็นว่ากวนอูไปอยู่กับโจโฉเสียนาน เกรงใจว่าอาจเอาใจออกห่างเล่าปี่เสียแล้ว ทั้งสองเจรจากัน เตียวหุยไม่ยอมให้เข้าเมืองที่ตนเฝ้าจนกว่าจะแน่ใจ ระหว่างที่พูดคุยกัน ชัวหยงยกทัพตามกวนอูมา ยิ่งทำให้เตียวหุยเกิดความสงสัย กวนอูจึงลงมือฆ่าชัวหยงที่แท้จริงตามมาแก้แค้นให้หลานชาย เตียวหุยจึงให้เข้าเมือง เตียวหุยรู้ตัวว่าผิดต่อพี่รอง เล่าปี่จึงออกหน้าเจรจา สามพี่น้องจึงได้กลับมาพร้อมหน้ากัน จากคุณ : อุปรากรจีน เขียนเมื่อ : 17 มิ.ย. 54 10:26:39

ความคิดเห็นที่ 6 กวนอูไม่แบ่งแยกงานกับส่วนตัว หากฆ่าโจโฉ งานก็สำเร็จ ขุนนางไทยไม่ยอมเป็นข้าสองเจ้า แต่ กวนอูเลือกรักษาชีวิต มากกว่า อุดมการณ์ จากคุณ : แห่ตามกัน (spirituallking) เขียนเมื่อ : 17 มิ.ย. 54 12:52:22

ความคิดเห็นที่ 7 เรื่องการเข้าทรงส่วนใหญ่เป็นเรื่องโกหกหวังผลประโยชน์ทางการเงิน แต่ในบางครั้งในชีวิตจริงก็มีเรื่องจิตและวิญญาณที่อธิบายยาก อย่างเช่นเราเคยดูสารคดีจีนเรื่องหนึ่งที่เป็นรายงานเหตุการณ์จริง ในเนื้อเรื่องหญิงสาวคนหนึ่งฝันเห็นคนแก่มาพูดด้วยแล้วบอกทางไปบ้านเขา หญิงสาวคนนั้นก็เกิดความสงสัยว่ามีสถานที่แบบนี้จริงๆหรือไม่เธอจึงออกเดินทางไปค้นความจริง แล้วก็ไปพบสถานที่นั้นเข้าจริงๆ และเจอคนแก่ที่มาเข้าฝัน คนแก่คนนั้นเป็นยอดฝีมือวิชา Qi Gong (กำลังภายใน) และการแพทย์แผนโบราณ เขาบอกหญิงสาวว่าเขากำลังจะจากโลกนี้ไปและต้องการหาศิษย์มาเรียนรู้วิชาจากเขาไป เมื่อหลายสิบปีก่อนสมัยเราพยายามศึกษาคัมภีร์โบราณของจีน เรานอนหลับและฝันเห็นนักพรตเต๋าจีนคนที่เขียนคัมภีร์เล่มที่เราอ่าน แต่เราก็ไม่กล้ายืนยันว่าใช่ 100% อาจเป็นเพราะเราไปดูหนังเรื่อง Spiritual Kung Fu ที่เฉินหลงแสดง จนเก็บไปฝันก็ได้ เพราะในเนื้อเรื่องเป็นฉากในวัดเส้าหลิน เฉินหลงได้รับคำสั่งจากเจ้าอาวาสให้ไปนอนเฝ้าหอคัมภีร์วรยุทธ์ เพราะมีคนร้ายลักลอบเข้ามาขโมยคัมภีร์ และวิญญาณนักวรยุทธ์ที่เขียนคัมภีร์พวกนั้นมาเข้าฝันเฉินหลง แล้วสอนวรยุทธ์แขนงต่างๆให้เฉินหลง เราคงบ้า wuxia มากๆ เลยเก็บไปฝันน่ะ...555+++... จากคุณ : fortuneteller เขียนเมื่อ : 17 มิ.ย. 54 14:05:28

ความคิดเห็นที่ 8 ทางบ้านเกิดเราที่จังหวัดตรัง นับถือกวนอูและมีโต๊ะไหว้กวนอูเกิอบทุกบ้าน โดยบ้านเราเองมีรูปวาดกวนกงใหญ่เกือบเท่าคนจริงเลย จากคุณ : ปลาทูทำอะไรก็อร่อย เขียนเมื่อ : 17 มิ.ย. 54 16:22:38

ความคิดเห็นที่ 9 ไม่ต้องไปถึงสามกั๊กฉบับมั่วไปมั่วมานั่นหรอก ถ้าใครลองไปถามพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าภาณุพันธุ์ ยุคล ถึงเรื่อง แม่นวล  เมียของพันท้ายนรสิงห์ ... ท่านได้หัวเราะตกเก้าอี้ ตัวละครที่ท่านคิดขึ้นมาสดๆร้อนๆเพื่อให้ละครมันสนุก ยังกลายเป็น "เจ้าแม่" ได้่ ทำไมเปรตกวนอู จะกลายเป็นเทพ ไม่ได้???? จากคุณ : แมวเหมียวพุงป่อง เขียนเมื่อ : 17 มิ.ย. 54 16:43:07

ความคิดเห็นที่ 10 อีกเหตุผลหนึ่งที่เทพกวนอู ได้รับความนิยม เพราะว่าน่าจะชื่อสอดคล้องพ้องกันกับ เจ้าแม่กวนอิม จากคุณ : นอนดูดาว (นอนดูดาว) เขียนเมื่อ : 17 มิ.ย. 54 16:52:22

ความคิดเห็นที่ 11 รอบบ้านผมมีศาลเจ้ากวนอูไม่น้อยกว่า5แห่ง อาซิ้มที่ไปไหว้คิดว่าไม่ได้อ่านสามก๊ก. ราชวงศ์ชิง มีนโยบายลงมาผมคิดว่าไม่ใช่แน่ ฮ่องเต้จีนใช้อำนาจกับชาวจีนเป็นหลัก. จากคุณ : Alone among the crowd เขียนเมื่อ : 17 มิ.ย. 54 18:10:22

ความคิดเห็นที่ 12 ขอเอาไปเผยแพร่ใน เฟสบุค ผมนะครับ จากคุณ : guzarz เขียนเมื่อ : 17 มิ.ย. 54 19:02:16

ความคิดเห็นที่ 13 #11 ก็เป็นผู้นับถือทุติยภูมิยังไงครับ คือราชวงศ์ชิงเขาโปรโมทมาตั้งกี่ร้อยปีแล้ว เรื่องมันก็ต้องไปเข้าหูคนทั่วไปบ้างแหละ ไม่เชื่อก็ดู #9 ก็ได้ หรือเอาใกล้ตัวก็พระสยามเทวาธิราชนี่แหละตัวอย่างชั้นดี บางคนที่นับถือยังไม่รู้เลยว่ามีที่มาที่ไปยังไง นับถือเพราะคนเขานับถือกันเกือบทั้งนั้น จากคุณ : Nexus เขียนเมื่อ : 17 มิ.ย. 54 19:31:47

ความคิดเห็นที่ 14 กวนอูที่นับถือกันปัจจุบันนี้   เหมือนกับเป็นตัวตนที่สร้างขึ้นมาใหม่มากกว่า     ทั้งเนื้อเรื่องทั้งรูปลักษณ์ เอาง่ายๆว่ารูปปั้น - ภาพกวนอูทุกวันนี้ถือง้าวทุกรูปปั้นทุกภาพ      แต่ในความเป็นจริงแล้ว     สมัยสามก๊กที่กวนอูมีชีวิตอยู่    ประเทศจีนยังไม่มีง้าวใช้ จากคุณ : zodiac28 เขียนเมื่อ : 17 มิ.ย. 54 20:00:11

ความคิดเห็นที่ 15 อีกอันที่นับถือกันเยอะๆก็ผีแม่นาค จากคุณ : masked v เขียนเมื่อ : 17 มิ.ย. 54 23:04:33

ความคิดเห็นที่ 16 ผมก็ไม่แปลกใจเท่าไหร่กับคนไทย ขุนแผน ตัวละครที่สุนทรภู่แต่งขึ้นมาแท้ๆ ยังวมีพระออกมาให้กราบไหว้กันได้เลย จากคุณ : bigcy เขียนเมื่อ : 18 มิ.ย. 54 10:25:27

ความคิดเห็นที่ 17 ทำไมกวนอูเป็นเปตรอ่ะ จากคุณ : เบนนี่คิม เขียนเมื่อ : 18 มิ.ย. 54 11:31:26

ความคิดเห็นที่ 18 ความคิดเห็นที่ 17 [ถูกใจ] [แจ้งลบ] ติดต่อทีมงาน ทำไมกวนอูเป็นเปตรอ่ะ จากคุณ : เบนนี่คิม [FriendFlock] [Bloggang] เขียนเมื่อ : 18 มิ.ย. 54 11:31:26 [แก้ไข] ความเชื่อที่ว่า  ศพไม่ครบส่วน เหมือนขันที ถ้าไม่มีของดีฝังไปด้วย เชื่อว่า ตายไปไม่ได้สู่สุคติ จากคุณ : ดีไม่ห่างเหิน เขียนเมื่อ : 18 มิ.ย. 54 12:09:14

ความคิดเห็นที่ 19 แก้ไข  นิดหน่อยครับ " ท่วมท้นเกียรติภูมิ ฯ " แก้ไขเมื่อ 18 มิ.ย. 54 13:24:10 จากคุณ : ฮกกงจื้อ เขียนเมื่อ : 18 มิ.ย. 54 12:35:06

ความคิดเห็นที่ 20 คห.  16  คุณ  bigcy  ครับ ในกรณี  ขุนแผน  ที่เป็นตัวเอกในวรรณคดี  แนว  แฟนตาซี  ของไทย  นั้น เรื่องราวความเป็นมา  เนื้อหาสาระต่าง ๆ ทุกท่านคงเข้าใจโดยส่วนมาก เพราะต่างก็ผ่านหูผ่านตา  ได้กลิ่นน้ำลายไอปาก  ของนักปราชญ์มามากต่อมาก ดังนั้น  คงตัดความไปที่จะไม่กล่าวถึง แต่  เรื่อง " พระเครื่องสกุลขุนแผน "  ( เข้าใจว่าผู้อ่านหมายถึง  พระกรุเลื่องชื่อ  นี้ ) ต่างจาก  ขุนแผน  ในวรรณคดีไทย  แบบแผ่นฟ้า  กับ  ก้นเหวอเวจี  ขอรับ เพราะพระเครื่องสกุล  ขุนแผน  นี้  มีเปิดกรุและได้รับความนิยม  อยู่  มาก  ที่  2  จังหวัด  คือ  จ.พระนครศรีอยุธยา  ที่ วัดใหญ่ไชยมงคล  และ  กรุริมแม่น้ำ  ที่วัดบ้านกร่าง  จ.สุพรรณบุรี  และรวมไปถึง  วัดพระรูป  จ.สุพรรณบุรี  และอื่น ๆ บ้าง เพื่อความเข้าใจในแนวทางที่ถูกต้อง  ( ไม่เกี่ยวกับเรื่องกวนอู  )  ดังนี้ว่า พระเครื่องสกุลขุนแผน  นี้  มิใช่  อุปโลกน์ขุนแผน  พระเอกรูปหล่อพ่อมหาจำเริญ  ให้เป็น  พระเครื่องหรือควรค่าแก่การเคารพกราบไหวขออิทธิฤทธิ์ปาฏิหารย์  และ  ขอพรอื่น ๆ แต่อย่างใดนะครับ หากแต่  พระเครื่องสกุลนี้  มีพุทธลักษณ์หรือมีศิลปะในยุคอยุธยา  และตามประวัติที่มีการรับรองกันอย่างกว้างขวางว่า  พระเจ้าแผ่นดินสยามผู้เกรียงไกร  คือ  พระบาทสมเด็จพระนเรศวร ฯ  เป็นผู้สร้าง  ขึ้น ( ??? ) และในปัจจุบัน  มีคุณค่าทางใจ  ทางศิลปกรรม  โบราณวัตุถุ  และ  อื่นอื่น ๆ อย่างมากมายมหาศาล  โดยเฉพาะราคาค่านิยม  บางรุ่นบางพิมพ์  ว่ากันถึง  หก  เจ็ด หลัก  ไมใช่หลักกิโล  ที่ตั้งกรำฝนทนแดด  นะครับ  แต่เป็นค่าเงินไทย ด้วยพุทธศิลป์  ที่มีความงดงามอ่อนช้อย  สมส่วนควรค่าแก่การทัศนา และเป็นที่เล่าขานกันในด้าน  อิทธิฤทธิ์ปาฏิหาร  หรือจะเรียกว่า  พุทธคุณ  ก็แล้วแต่  ว่า  เด่นด้าน  เมตตามหานิยม  ถึงขั้นที่ว่า  หญิงเห็นเป็นหลงรัก  ชายประจักษ์เป็นที่ต้องตา และ  มีความแคล้วคลาดคงกระพัน  เป็นเลิศ จริงเท็จประการใด  ให้ลองไปหาพระเครื่องสกุลนี้  แขวนบูชากัน  ครับ ด้วย  พุทธคุณ  ที่เด่นและดัง  ก้องกงัวาน  ปานฉะนี้   นักเลงพระ  เซียนพระ  หรือ  เสี้ยนพระ  ตั้งแต่อดีตจวบจนปัจจุบัน  ยันคนยุคใหม่วัยอินเทร็น   ล้วนต่าง  ขนามพระนามว่า " พระขุนแผน "  ครับ แต่สำหรับผู้ที่เข้าใจในองค์ความรู้ขององค์ภูมิแห่งพุทธานุภาพ  ย่อมมองข้ามเปลือกกระพี้  นี้ไปได้ แต่ปุถุชน  แบบเรา ๆ ท่าน ๆ ก็ยังหวังพึ่งพุทธคุณ  ทำนองนี้อยู่  ( เหมือนกัน ) ดังนี้แล้ว  จึงขอแย้ง  คห.16  คุณ  bigcy  อย่างนอบน้อม  ว่า ขุนแผน  พ่อมหาจำเริญ  ผู้เพลิดเพลินในโลกิยวิสัย  อันเป็นที่หลงไหลของสุภาพสตรี  ในวรรณคดี  นั้น ไม่ใช่  พระเครื่องสกุล " ขุนแผน "  อย่างแน่นอน  ขอรับ อ้อ  อีกนิดครับ  ที่ว่า " ท่านสุนทรภู่  แต่งนั้น  ไม่ใช่ทั้งหมดนะครับ  มีหลาย ๆ ท่านวิเคราะห์ใว้ว่า  ท่านสุนทรภู่  ท่านแต่งบางบทบางสำนวนเท่านั้น   ซึ่งเรื่องนี้  มีหลาย ๆ ท่านกล่าวใว้  เช่น  ท่านคึกฤทธิ์  ปราโมทย์  และ  อื่น ๆ " เท่านี้ก่อน  เดี๋ยวยืดยาว แก้ไขเมื่อ 18 มิ.ย. 54 13:30:42 แก้ไขเมื่อ 18 มิ.ย. 54 13:10:38 จากคุณ : ฮกกงจื้อ เขียนเมื่อ : 18 มิ.ย. 54 13:04:45

ความคิดเห็นที่ 21 ขออนุญาตชี้แจงสำหรับความเห็นที่ 14 นะครับ มีผู้รู้ (ไม่มี login พันทิป)  ฝากให้ข้อมูลว่า "ง้าวมันมีมาตั้งแต่ ทวดพระเจ้าเหาแล้ว ถ้าไม่มี ในสุสานโจโฉ จะมี "เก๋อหู่ต้าจี่ เก๋อหู่ต้าเตา" ได้ไง" จากคุณ : ลูกทุ่งคนยาก เขียนเมื่อ : 18 มิ.ย. 54 17:32:57

ความคิดเห็นที่ 22 น่าสนใจมากครับ กระทู้นี้  โชคดีที่ได้อ่าน  ขอบคุณที่ชี้แจงครับ เกลียดไอ้จิตสัมผัสนั่นมากกกก  เหอๆๆๆ จากคุณ : เซียนแมวคารินย่า เขียนเมื่อ : 18 มิ.ย. 54 18:27:02

ความคิดเห็นที่ 23 Wiki บอกว่าหลักฐานทางประวัติศาสตร์ไม่เคยระบุว่ากวนอูมีอาวุธเป็นง้าว และง้าวชิ้นแรกที่ปรากฎหลักฐานอยู่ในราชวงศ์ถัง http://en.wikipedia.org/wiki/Guan_dao there is no indication of the existence of what is now known as the guan dao prior to the 7th century, when it was first illustrated in the military manual Wujing Zongyao. The guan dao, therefore, possibly did not even exist during Guan Yu's era, meaning that it is somewhat of a pop culture-derived misnomer. Furthermore, the scholar Tao Hongjing 陶弘景 (456-536 AD) recorded in the Gujin Daojianlu (古今刀劍錄, "A Catalogue of Ancient and Modern Sabers and Rapiers") that Guan Yu forged a pair of sabres using iron ore he harvested from Wudushan mountain (武都山) himself, which may have inspired the story that Guan Yu invented his weapon. จากคุณ : Nexus เขียนเมื่อ : 18 มิ.ย. 54 20:58:47

ความคิดเห็นที่ 24 ส่วนสุสานโจโฉนักวิชาการจีนบางส่วนลงความเห็นว่าน่าจะเป็นของเทียมครับ ซึ่งต่างกับความเห็นของรัฐบาล http://english.peopledaily.com.cn/90001/90782/7115890.html http://www.dailychilli.com/news/5897-experts-cao-caos-tomb-is-faked จากคุณ : Nexus เขียนเมื่อ : 18 มิ.ย. 54 21:10:34

ความคิดเห็นที่ 25 Cavalry soldiers holding a halbert, 3rd century BCE~3rd century จากคุณ : ฮกกงจื้อ เขียนเมื่อ : 18 มิ.ย. 54 21:35:54

ความคิดเห็นที่ 26 ข้อมูลด้านล่างเอามาจากรายการ 百家进坛 ของปีที่แล้ว (2010) นะครับ เป็นการบรรยายของ 梅铮铮 ผู้ช่วยนักวิจัยประจำพิพิธภัณฑ์อู่โหวฉือ หรือศาลเจ้าขงเบ้งที่ภายในมีหลุมฝังศพของเล่าปี่ ณ เมืองเฉิงตู ซึ่งจัดเป็นพิพิธภัณฑ์ที่เกี่ยวกับเรื่องสามก๊กที่มีชื่อแห่งหนึ่ง เรื่องเกี่ยวกับ ง้าวกวนอู เขาบอกไว้ว่า ในสามก๊กฉบับพงศาวดารไม่มีกล่าวถึง มีแต่ในฉบับหลอกว้านจงที่เขียนไว้ 《三国演义》 青龙偃月刀 重八十二斤 又名冷艳锯 คือมีลักษณะเป็นวงพระจันทร์ สลักลายมังกรเขียวที่ใบมีด อาวุธนี้ชื่อว่า 冷艳锯 ด้วยเหตุนี้ทำให้มีความเห็นของคนรุ่นหลังแตกออกเป็นสองแนวคิด แนวคิดแรก คือ กวนอูไม่ได้ถือง้าว(刀) แต่ถือ 矛(ไปเสิร์ชหารูปดูเอากันเองนะครับ) สาเหตุเพราะสามก๊กฉบับพงศาวดาร ฉบับบันทึกของกวนอูตอนฆ่างันเหลียงบันทึกว่า 《三国志:关羽传》 策马刺良于万众之中 กริยาที่ใช้คือคำว่า 刺 ที่แปลว่า "แทง" ก็เลยกล่าวกันว่าอาจใช้ 矛 เป็นอาวุธ ส่วนหลักฐานยังไม่มีค้นพบง้าวในสมัยนั้น ที่พบคือสมัยราชวงศ์ซ่งเป็นต้นไป (รายการนี้เป็นของปีก่อน ไม่ทราบเหมือนกันว่าง้าวในสุสานโจโฉเจอเมื่อไร และจริงหรือปลอม) แนวคิดที่สอง คือ กวนอูใช้ง้าวเป็นอาวุธ สามก๊กฉบับหลอกว้านจงเขียนตอนฆ่างันเหลียงไว้ว่า 《三国演义》 颜良措手不及被关云长手起刀落“刺于马下” โดยอธิบายต่อว่า ง้าวไม่ได้ใช้แค่ "ฟัน" แต่ก็ใช้ "แทง" ได้เหมือนกัน ตัวอย่างสนับสนุนอีกอย่างคือบุคคลในสมัยสามก๊กมีคนใช้อาวุธลักษณะนี้ สามก๊กฉบับพงศาวดาร ฉบับบันทึกของเตียนอุยมีกล่าวว่า 《三国志:典韦传》 韦好持大双戟与长刀 คือกล่าวว่าเตียนอุยถนัดใช้อาวุธสองชนิดคือ 双戟 และ 长刀 ก็แสดงว่าในสมัยนั้นมีอาวุธที่มีลักษณะเป็นดาบด้ามยาวใช้กันแล้ว เรื่องน้ำหนักของง้าว 82 ชั่งก็มีกล่าวไว้ บางคนว่าเป็นเรื่องแต่ง แต่ก็ในฉบับพงศาวดาร บันทึกของเตียนอุยอีกเช่นกัน กล่าวถึงน้ำหนักของอาวุธเตียนอุยไว้ว่า 《三国志:典韦传》 帐下壮士有典君 提一双戟八十斤 น้ำหนักของอาวุธที่เตียนอุยใช้หนัก 80 ชั่ง เพราะฉะนั้นอาวุธของกวนอูจะหนัก 82 ชั่งก็มีความเป็นไปได้เช่นกัน นักวิชาการท่านนี้กล่าวว่า การจะตัดสินใจเกี่ยวกับความจริงในเรื่องสามก๊ก จะในน้ำหนักไปทางฉบับพงศาวดารมากกว่าฉบับหลอกว้านจง ส่วนจะเลือกเชื่ออันไหนก็แล้วแต่นะครับ เอามาเพิ่มเติมให้อ่านกันครับ แก้ไขเมื่อ 18 มิ.ย. 54 23:45:13 จากคุณ : อุปรากรจีน เขียนเมื่อ : 18 มิ.ย. 54 23:17:45

ความคิดเห็นที่ 27 ผมนึกถึงสามก๊กฉบับคนเดินดิน ของ อ.เล่า ชวน หัว โดยเฉพาะเล่ม "เปิดหน้ากากขงเบ้ง" นี่เด็ดมาก หลายอย่างเหมือนกับที่่คิดไว้ หลังจากอ่านสามก๊กแล้วเริ่มรู้สึกไม่ชอบมาพากลหลายอย่าง อยากรู้จริงว่ากระทู้นี้จะมีใครมาก่อดราม่ามั้ย ;) จากคุณ : PoVoLaM MoN เขียนเมื่อ : 18 มิ.ย. 54 23:30:05

ความคิดเห็นที่ 28 ชอบอ่านครับ จากคุณ : ไฟลามทุ่ง เขียนเมื่อ : 18 มิ.ย. 54 23:50:33

ความคิดเห็นที่ 29 น่าสนใจทุกความเห็นครับ. จากคุณ : เจียวต้าย เขียนเมื่อ : 19 มิ.ย. 54 10:52:56

ความคิดเห็นที่ 30 http://en.wikipedia.org/wiki/Guan_Yu ในนั้นบอกว่านับถือเป็นเทพตั้งแต่สมัยสุยแล้วเน้ออ ตอนอายุน้อยๆผมก็เชื่อคนเขียนชื่อเล่าชวนหัวน่ะแต่ตอนนี้ก็ต้องมีการตรวจสอบข้อมูฃบ้างครับ จากคุณ : รักหวานในวันวาน เขียนเมื่อ : 19 มิ.ย. 54 11:52:29

ความคิดเห็นที่ 31 เล่าชวนหัว ก็มั่วข้อมูลบ่อยเน้อ จากคุณ : bmjas เขียนเมื่อ : 19 มิ.ย. 54 12:58:25

ความคิดเห็นที่ 32 ผมว่า สมัยที่ ตีเหล็ก ทำดาบได้ ทำง้าว  ก็ใช้เทคโนโลยี่เดียวกันนี่นา จากคุณ : ไฟลามทุ่ง เขียนเมื่อ : 19 มิ.ย. 54 14:05:18

ความคิดเห็นที่ 33 เพิ่มเติมนะครับ ตำแหน่งที่กวนอูได้รับในสมัยมีชีวิตและหลังเสียชีวิตในสมัยสามก๊ก 关羽获得的官位谥号 东汉   偏将军 โจโฉขอให้ฮ่องเต้พระราชทานให้ 东汉   汉寿亭侯 หลังจากฆ่างันเหลียงบุนทิว 蜀汉   前将军 เมื่อไปครองเมืองซงหยง 蜀汉   状缪侯 หลังจากเสียชีวิต หลังจากนั้นในสมัยสุยถังก็เป็นเทพในระดับชาวบ้านทั่วๆไป จนมาถึง ฮ่องเต้ซ่งฮุยจง สมัยราชวงศ์ซ่ง เป็นฮ่องเต้องค์แรกที่พระราชทานตำแหน่งให้ 北宋 宋徽宗 崇宁元年（1102年） 忠惠公 ส่วนตำแหน่งอื่นๆต่อมาจนราชวงศ์ชิงดูได้ในนี้ http://baike.baidu.com/view/2275.htm#8 จากคุณ : อุปรากรจีน เขียนเมื่อ : 19 มิ.ย. 54 14:40:52

ความคิดเห็นที่ 34 น่าจะเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้อง ที่ผมนำมาลงในโต๊ะห้องสมุด เพราะถ้าลงในเฉลิมไทย ผลตอบรับในกระทู้อาจไม่ได้เป็นแบบนี้ครับ ขอบคุณทุกความเห็นครับ ผมเป็นเพียงสื่อกลางที่นำเรื่องราวนี้มาเผยแพร่ครับ ผมมีความเคารพในวีรชนและบรรพชนทุกท่าน และยึดมั่นในความถูกต้องครับ จากคุณ : ลูกทุ่งคนยาก เขียนเมื่อ : 19 มิ.ย. 54 17:14:12

ความคิดเห็นที่ 35 ผมคนนึงที่เคยแขวะไอ้จิตสัมผัสในอีกห้อง  โดนนนเลยครับ   ชื่นชม จขกท มากครับ จากคุณ : เซียนแมวคารินย่า เขียนเมื่อ : 19 มิ.ย. 54 17:30:23

ความคิดเห็นที่ 36 อยากให้กิ๊ฟหลายๆความเห็น แต่ใช้หมดแล้ว จากคุณ : The Starry Night เขียนเมื่อ : 19 มิ.ย. 54 18:31:03

ความคิดเห็นที่ 37 ตอนนี้มีอีกกระทู้มาลงเกี่ยวกับสามก๊ก ขออนุญาตนำลิงค์มาลงในนี้อีกต่อ จะได้สะดวกแก่ผู้ที่สนใจได้ไปเรียนรู้เพิ่มเติมกันครับ ขอบคุณคุณลูกทุ่งคนยากที่เป็นสื่อกลางให้กระทู้ดีๆเกิดขึ้นครับ คลิปจากกระทู้ : http://www.pantip.com/cafe/library/topic/K10706078/K10706078.html หัวข้อ : "รายการอี้จงเทียนพิเคราะห์สามก๊ก" สำหรับคนที่สนใจเรื่องสามก๊กนะครับ จากคุณ : อุปรากรจีน เขียนเมื่อ : 19 มิ.ย. 54 19:28:07

ความคิดเห็นที่ 39 ดีใจที่กระทู้นี้ไม่เกิดมาม่าครับ แถมยังได้รับคำชี้แนะหลายๆเรื่องจากผู้รู้หลายท่านด้วย ขอบคุณครับ จากคุณ : ElClaSsicA เขียนเมื่อ : 20 มิ.ย. 54 02:54:22

ความคิดเห็นที่ 40 矛 คือ ทวน หรือหอก มีขนาดไม่ตายตัว แบ่งแยกตามความยาวของด้าม ความกว้างของใบ(เรียกแบบไทย ทวนยาวกว่าหอก ใช้บนหลังม้า)พัฒนามาจาก หลาว ต่อมาเป็นหินลับคม-สัมฤทธิ์-เหล็ก 双戟 คือ ทวนคู่ มีรูปใบแบบทวน หรือจี๋ ของลิโป้(ทวน+ขวาน เป็นพัฒนาการขั้นสูงสุด จากอาวุธทหารราบ สมัยจั้นกั๋ว) นิยมคมเดียว มากสองคม ใช้ฟันสลับ แทงสลับ ได้คล่องแคล่ว ดีกว่าขวานคู่ เพราะแทงได้ และตีเป็นใบเสี้ยวจันทร์เพื่อลดน้ำหนัก ภาคหลังพัฒนาเหลือแต่ใบ เป็นมีดจันทร์เสี้ยวหรือมีดนกนางแอ่น ง้าวเกิดยุคหลัง(พัฒนาจากมีด+ขวานด้ามยาว)เป็นไปได้สูงมาก เพราะต้องใช้เหล็กที่มีคุณภาพสูง ทั้งเหนียวและแกร่ง ที่สำคัญง้าวแทงยาก กว่าอาวุธชนิดอื่นเยอะ(Kwan Dao มีสองแบบ แบบปลายคมกับปลายมน ถอดแบบสมัย ซ่งเป็นส่วนใหญ่) และมีความยาวด้ามไม่มาก เพื่อสร้างสมดุลในการควง ในการสร้างแรงเหวี่ยงที่คล่องแคล่ว ทำให้มีแรงตัดที่รุนแรง ต้องมีกระบวนถ้าหมุนตัวส่งแรง การประกอบต้องถ่วงสมดุลยุ่งยากกว่าอาวุธชนิดอื่น เพราะใบมีน้ำหนักมาก แต่ตุ้มถ่วงต้องเล็กแต่หนักใกล้กัน ชุดเกราะยุคฮั่น เป็นแผ่นหนังเล็กเย็บรวมกัน ต่างจากที่เล่นในงิ้วที่ถอดแบบจาก ซ่ง และหมิง ยังมีข้อจำกัดด้านการเคลื่อนไหว อาวุธยังควงไปมาไม่สะดวกนัก จากคุณ : ต็กโกวคิ้วป้าย เขียนเมื่อ : 20 มิ.ย. 54 10:54:50

ความคิดเห็นที่ 41 矛 คือ ทวน หรือหอก มีขนาดไม่ตายตัว แบ่งแยกตามความยาวของด้าม ความกว้างของใบ(เรียกแบบไทย ทวนยาวกว่าหอก ใช้บนหลังม้า)พัฒนามาจาก หลาว ต่อมาเป็นหินลับคม-สัมฤทธิ์-เหล็ก 双戟 คือ ทวนคู่ มีรูปใบแบบทวน หรือจี๋ ของลิโป้(ทวน+ขวาน เป็นพัฒนาการขั้นสูงสุด จากหอก ตะขอ(เคียว) อาวุธทหารราบ สมัยจั้นกั๋ว) นิยมคมเดียว มากสองคม ใช้ฟันสลับ แทงสลับ ได้คล่องแคล่ว ดีกว่าขวานคู่ เพราะแทงได้ และตีเป็นใบเสี้ยวจันทร์เพื่อลดน้ำหนัก ภาคหลังพัฒนาเหลือแต่ใบ เป็นมีดจันทร์เสี้ยวหรือมีดนกนางแอ่น ง้าวเกิดยุคหลัง(พัฒนาจากมีด+ขวานด้ามยาว)เป็นไปได้สูงมาก เพราะต้องใช้เหล็กที่มีคุณภาพสูง ทั้งเหนียวและแกร่ง ที่สำคัญง้าวแทงยาก กว่าอาวุธชนิดอื่นเยอะ(Kwan Dao มีสองแบบ แบบปลายคมกับปลายมน ถอดแบบสมัย ซ่งเป็นส่วนใหญ่) และมีความยาวด้ามไม่มาก เพื่อสร้างสมดุลในการควง ในการสร้างแรงเหวี่ยงที่คล่องแคล่ว ทำให้มีแรงตัดที่รุนแรง ต้องมีกระบวนถ้าหมุนตัวส่งแรง การประกอบต้องถ่วงสมดุลยุ่งยากกว่าอาวุธชนิดอื่น เพราะใบมีน้ำหนักมาก แต่ตุ้มถ่วงต้องเล็กแต่หนักใกล้กัน ชุดเกราะยุคฮั่น เป็นแผ่นหนังเล็กเย็บรวมกัน ต่างจากที่เล่นในงิ้วที่ถอดแบบจาก ซ่ง และหมิง ยังมีข้อจำกัดด้านการเคลื่อนไหว อาวุธยังควงไปมาไม่สะดวกนัก จากคุณ : ต็กโกวคิ้วป้าย เขียนเมื่อ : 20 มิ.ย. 54 11:07:39

ความคิดเห็นที่ 42 ผมแค่ฮา .. "เทพลิโป้" ครับ .. 55+ จากคุณ : ตบหมดช่อง (tothza_one) เขียนเมื่อ : 21 มิ.ย. 54 15:37:53

ความคิดเห็นที่ 43 ขอบคุณสำหรับกระทู้ดีๆครับ  ^^ จากคุณ : Aig&Kad เขียนเมื่อ : 23 มิ.ย. 54 11:01:22

ความคิดเห็นที่ 44 - -a ลิโป้นี่เค้าขึ้นชื่อเป็นเทพมานานแล้วนี่เจ้า "เทพนักรบ"  ดีไม่ดีอาจขึ้นชื่อมาตั้งแต่สมัยยังมีชีวิตละมั้งเจ้า สมัยนี้ยังมีหล่อขั้นเทพ แล้วเทพนักรบจะไม่มีได้เยี่ยงไร สมัยนี้ก็มีลิโป้นะเจ้า หล่อ เก่งขั้นเทพ แต่นิสัยเลวและบริหารประเทศได้ห่วยแตกเทียบชั้นลิโป้ทีเดียว ปล.มันจะลากเข้ามาม่าเพราะความเห็นนี่แหละว้า ลากไปซะไกล จากคุณ : กุนซือเอกแห่งรัฐวุ่ย เขียนเมื่อ : 23 มิ.ย. 54 14:57:46

ความคิดเห็นที่ 45 เมพจริงๆ ท่านผู้นี้ จากคุณ : มหาบุรุษแห่งกรุงสยาม เขียนเมื่อ : 23 มิ.ย. 54 16:06:05

ความคิดเห็นที่ 46 ชอบครับถกกันด้วยสาระและความรู้ อยากเห็นคนบ้านเราคิดต่างได้ แต่คุยกันได้โดยไม่ต้องมีปัญหากัน ถกกันด้วยเหตุและผลจบแล้วก็ ตัวใครตัวมัน ไปทำมาหากินกันต่อไป ความคิดต่างสร้างความรู้ครับ จากคุณ : นายธุรการ เขียนเมื่อ : 24 มิ.ย. 54 09:26:44

ความคิดเห็นที่ 47 ลิโป้ถ้ายกย่องเปนเทพนักรบก็ไม่น่าแปลกครับ เพราะในนิยายที่ว่าขนาดสามพี่น้องยอดขุนพลเล่าปี่ กวนอู เตียวหุย ลุมเข้าไปพร้อมๆกันยังทำออะไรไม่ได้เลย ถึงจะเปนคนไม่ดียังไงแต่ฝีมือก็สุดยอดนะครับ ส่วนท่านกวนอูเทพแห่งความยุติธรรมและซื่อสัตย์ คงไม่ค่อยชอบใจเท่าไหร่กระมังที่คนสมัยนี้ยกท่านเปนกวนตี้ เปนพระเจ้ากวนอูตีเสมอสมเด็จพระเชษฐาธิราชเล่าปี่ของท่านเนี่ย(เดี๋ยวนี้ท่าทางจะยกกันสูงเกินหน้าเกินตาแล้วกระมัง) เอ๊ะ รึท่านอยากเปน???!!!! แก้ไขเมื่อ 24 มิ.ย. 54 09:34:50 จากคุณ : Jayskung เขียนเมื่อ : 24 มิ.ย. 54 09:32:10

ความคิดเห็นที่ 48 ในฉบับนิยายนั้น หลังกวนอูตาย เป็นวิญญาณไม่มีหัว เพราะต้องเสียหัวไปเนื่องจากถูกซุนกวนประหาร แต่ได้ไปหาหลวงจีนที่เคยช่วยไว้ หลวงจีนจึงเทศนาสั่งสอนกวนอูว่า ตอนกวนอูมีชีวิตอยู่ ก็ตัดหัวคนอื่น พอตัวเองตายลงก็ถือเป็นกรรมที่ตัวเองทำไว้เลยต้องมาตามหาหัวตัวเอง แล้วเทศนาสั่งสอนกวนอู กวนอูฟังคำเทศนาเสร็จ วิญญาณจึงสงบลง แต่ก่อนหน้านั้น ในนิยายพี่แกก็เฮี้ยนจัด ไปเข้าสิงลิบอง ด่าซุนกวน แล้วหักคอ ลิบองตายตรงนั้นเลย(ในบันทึกแล้ว ลิบองป่วยตาย) ตอนซุนกวนส่งหัวกวนอูไปให้โจโฉ ระหว่างที่โจโฉกำลังดูหัวแล้วพูดว่า ในที่สุดเราท่านก็ได้พบกันอีกแล้วสินะ หัวของกวนอู ลืมตาแล้วจ้องเขม็งไปที่โจโฉ โจโฉถึงกับตกใจ สั่งให้รีบทำพิธีอย่างสมเกียรติและแต่งตั้งให้เป็นยศระดับเจ้าพระยา(หลังจากนั้นไม่นาน โจโฉก็ป่วยตายตามไป) ตอนเล่าปี่ยกทัพไปตีซุนกวน กวนหิน ลูกชายกวนอู พลัดหลงกับกองทัพ ไปอาศัยบ้านชาวบ้านกินข้าว ระหว่างนั้น ทหารซุนกวนที่เป็นคนที่ทำให้กวนอูต้องตกในแผนของลกซุน ดันหลงทัพและมาเจอกันพอดี พอเห็นกวนหินจะวิ่งหนี แต่ไปเจอกวนอูยืนขวางทางไว้ ด้วยความตกใจเลยล้มลง และกวนหินก็ตัดคอทหารคนนั้นมาเซ่นพ่อตัวเองจนได้ จากคุณ : Niceguy_C3 เขียนเมื่อ : 24 มิ.ย. 54 10:53:42

ความคิดเห็นที่ 49 คห.48 ที่เล่ามานั่นหนังผีชิมิเจ้า ^ ^ จากคุณ : กุนซือเอกแห่งรัฐวุ่ย เขียนเมื่อ : 24 มิ.ย. 54 12:11:30

ความคิดเห็นที่ 50 สงสัยจะใช่นะ จากคุณ : Niceguy_C3 เขียนเมื่อ : 24 มิ.ย. 54 13:14:44

ความคิดเห็นที่ 51 ขอคาราวะ ทุกท่านผู้รู้ หนึ่งจอก จากคุณ : ให้เพียงเธอหมดใจ เขียนเมื่อ : 25 มิ.ย. 54 09:02:32

ความคิดเห็นที่ 52 สุดยอดมากครับ จากคุณ : ราชันย์เมฆา เขียนเมื่อ : 25 มิ.ย. 54 23:49:16

ความคิดเห็นที่ 53 อ่านสามก๊กใหม่ๆแล้วต่อมารู้ว่า คนเขายกย่องกวนอูเป็นเทพเจ้า ก็แปลกใจ ตอนนั้นไม่คิดอะไรมาก คิดเพียงว่า แมง.. เป็นคนขี้อิจฉาน่าดู โมโหร้าย ยะโสโอหังเป็นที่สุด แล้วก็คิดว่าความซื่อสัตย์ระดับกวนอู ลูกผู้ชายจอมยุทธสมัยนั้นส่วนใหญ่ก็เป็นเช่นเขา มันพิเศษอะไรนะ เพราะเหตุว่าสมัยโบราณ มันต้องรวมกลุ่มรวมพวกถึงจะเอาตัวรอดได้ การซื่อสัตย์ต่อพวกพ้องต้องมีระดับสูงมาก การจะเอาความคิดปัจจุบันไปเทียบกับระบบชีวิตของผู้คนสมัยนั้นไม่ได้ เปรียบกับหนังเปาปุ้นจิ้นนี่เอาระบบคิดของปัจจุบันไปยัดในบทละครเลย ...คือประกาศว่าแม้นฮ่องเต้ทำผิด ก็ต้องรับโทษดั่งสามัญชน 555 ขำตายห๋.. ดังนั้นดูหนัง อ่านนิยายต้องพยายามอย่าโดนผู้เขียนหลอกเอา แต่กวนอูนี่ มีประเด็นเกี่ยวกับตำรวจ เพราะพวกตำรวจฮ่องกงจะนับถือกวนอุเป็นแบบอย่าง ทำให้ตำรวจไทยเลือดจีนบางคนก็นับถือไปด้วย ถ้าคิดดีๆมันก็คือการถือพวก เล่นพวก พวกกูถูกเสมอ มันจึงปรากฎเป็นพฤติกรรมรวมหมู่เป็นแก็งหารับทานกันไง นี่คืออิทธิพลเทพมาร ที่ตกทอดมาจนปัจจุบัน ด้วยการปลุกผี เขียนบทใหม่ของแมนจู จากคุณ : คนไทยไร้นาย (คนดั่ง...มดงาน) เขียนเมื่อ : วันสุนทรภู่ 54 11:33:26

ความคิดเห็นที่ 54 คิดต่างเล็กน้อย กวนอูต่างจากนักรบในยุคเดียวกัน เขากล้าทำเกินหน้าที่ถ้าเห็นว่าถูกต้อง ทำผิดมีความรับผิดชอบไม่หลบลี้หนีหน้า กวนอูกับโจโฉจึงถูกเส้นกันมาก ส่วนซุนกวนกับกวนอูเข้ากันยาก ตั้งแต่หลอกเล่าปี่ไปเพื่อทำร้ายและขงเบ้งช่วยวางแผนให้แต่งกับบุตรสาวซุนกวน ....คห.48 ฉบับนั้นผมก็อ่านและชอบมากสนุกดี.. จากคุณ : Alone among the crowd เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 54 02:01:32