ความคิดเห็นที่ 1 อย่ามโนเลยครับ ไปหาหนังสือคุณสืบมาอ่านแล้วเข้าใจถึงจุดประสงค์หลักของท่านก็เพียงพอแล้ว อย่าเข้าไปลึกกว่านี้เลย เรื่องผลประโยชน์ทำให้คนดีๆตายมาเยอะเลยทีเดียวครับ จากคุณ : Elizarah เขียนเมื่อ : 22 ก.ค. 54 18:55:45

ความคิดเห็นที่ 2 ไม่ได้จะลบหลู่นะ    แต่เท่าที่เคยได้ยินคนที่เกี่ยวข้องเล่ามา    เขาว่าความจริงไม่ได้เกี่ยวกับป่าอะไรทั้งนั้น      เป็นเรื่องของความรัก     และพอฆ่าตัวตายไป     คนรอบข้างเห็นว่าเป็นโอกาสที่จะได้เกิดประโยชน์ขึ้น      จึงช่วยกันเขียนจดหมายทำหลักฐานต่างๆว่าเกิดจากความต้องการรักษาป่า     เพื่อให้ความตายครั้งนี้ไม่ไร้ประโยชน์ เท็จ-จริงไม่ยืนยันนะ    ผมก็ไม่รู้ว่าเรื่องจริงเป็นยังไง จากคุณ : zodiac28 เขียนเมื่อ : 22 ก.ค. 54 20:17:35

ความคิดเห็นที่ 3 ยืนยันว่าเป็นไปตาม คคห 2 เรามีเพื่อนที่ทำงานระดับสูงๆในกรมป่าไม้ (ตอนนี้เกษียณอายุแล้วอย่างแน่นอน ไม่แน่ใจว่าจะยังมีชีวิตอยู่หรือไม่อีกด้วย) เคยเล่าให้ฟังตอนนั่งสังสรรค์กันในวงเหล้าระหว่างพวกเพื่อนๆสนิทๆกัน เรื่องมันก็คือว่าคุณสืบผิดหวังเรื่องความรักและเรื่องส่วนตัวก็เลยฆ่าตัวตาย และพวกเพื่อนๆในกรมป่าไม้รวมทั้งตัวคนเล่า (เพื่อนเราเอง) ก็ได้ความคิดขึ้นมาว่า "ไม่อยากให้ตายสูญเปล่า" จึงช่วยๆกันชูประเด็นว่าเป็นเรื่องอนุรักษ์ป่าไป เราเคยเล่าเรื่องนี้ให้ฟังในกระทู้ pantip เมื่อหลายปีมาแล้ว แต่คนที่นับถือคุณสืบต่อต้านอย่างรุนแรง แต่เราก็ไม่รู้จะไปตามตัวเพื่อนซึ้่งเป็นเจ้าหน้าที่ระดับสูงของกรมป่าไม้มายืนยันได้ยังไง เพราะไม่ได้ติดต่อกันมาตั้งเกือบ 20 ปีแล้ว อีกทั้งเรื่องอย่างนี้ (ที่เขาพูดในวงเหล้า) เขาคงไม่กล้าออกมายืนยันหรอก จากคุณ : fortuneteller เขียนเมื่อ : 22 ก.ค. 54 21:04:23

ความคิดเห็นที่ 4 ถึงจะเป็นเรื่องที่ต้องการรักษาป่า ุคุณสืบ ก็ตายเปล่า ทุกวันนี้  ป่าก็ยังถูกทำลายไปเรื่อย ๆ   ค้นให้ดีเถอะ รีสอร์ท วังน้ำเขียว เป็นของนามสกุลไหน พรรคไหน กันบ้าง จากคุณ : นายช่างปลูกเรือน เขียนเมื่อ : 22 ก.ค. 54 21:43:07

ความคิดเห็นที่ 5 สืบดังก่อนหน้านั้นแล้ว ออกทีวีบ่อยช่วงไปย้ายสัตว์ป่าที่รับผลกระทบจากเขื่อน .. จากคุณ : Alone among the crowd เขียนเมื่อ : 23 ก.ค. 54 00:00:02

ความคิดเห็นที่ 6 เรื่องความรักอะไรนั่น ผมว่าถ้าไม่มีหลักฐานแน่ชัดก็อย่าเพิ่งพูดในทางเสียหายเลยครับ จากที่อ่านๆ ก็ไม่ต่างอะไรกับข่าวลือ มาจากบุคคลสำคัญนั่นนี่(ที่หามายืนยันไม่ได้???) ผมถือว่า ไร้ราคา ครับ แก้ไขเมื่อ 23 ก.ค. 54 02:44:24 แก้ไขเมื่อ 23 ก.ค. 54 02:44:02 จากคุณ : Chineseman เขียนเมื่อ : 23 ก.ค. 54 02:42:38

ความคิดเห็นที่ 7 ^ "เรื่องความรักอะไรนั่น" จริงๆแล้วก็ไม่ใช่การลบหลู่...คือเผอิญวันนั้นพวกเพื่อนๆเราไปสังสรรค์กัน และมีคนหลายคนที่ทำงานที่กรมป่าไม้อายุรุ่นราวคราวเดียวกับคุณสืบ (ตอนนี้ถ้ายังมีชีวิตอยู่ก็อายุเกิน 60 กันแล้วทั้งนั้น) ก็มานั่งคุยกันอยู่ด้วย (ยังจำได้ว่าเป็นร้านไก่ย่างตรงข้างทางรถไฟมักกะสัน) และพวกเขาก็ไม่ได้ตั้งใจจะลบหลูคุณสืบ เพียงแต่เล่าเรื่องสู่ก้นฟ้งในฐานะที่พวกเขาเป็นอดีตเพื่อนร่วมงานที่เคยใกล้ชิดกับคุณสืบว่าพวกเขา "พยายามทำสิ่งที่ดีๆให้กับคุณสืบไปแล้ว" เราเลยค่อนข้างเชื่อในเรื่องที่พวกเขาเล่า แต่คนอื่นไม่จำเป็นต้องเชื่อก็ได้ จากคุณ : fortuneteller เขียนเมื่อ : 23 ก.ค. 54 03:09:29

ความคิดเห็นที่ 8 ผมสงสัยว่าประเด็นความจริง ทำไมถึงเปิดเผยไม่ได้....เหมือนกรณี การถูกลอบปลงพระชนม์ของ ร.8 วึ่งประวัติศาสตร์ส่วนนี้จะถูกเลือนหายไปน่ะเหรอ จากคุณ : วิญญาณเดียวกัน เขียนเมื่อ : 23 ก.ค. 54 07:24:22

ความคิดเห็นที่ 9 คห.8 ประเด็นความจริง หาอ่านได้ตามหนังสือประวัติศาสตร์ ไม่แนะนำให้เปิดประเด็น สถาบัน.. เกรงว่า จะได้ชิมมาม่าอีกหลายชามใหญ่ จากคุณ : zenzen เขียนเมื่อ : 23 ก.ค. 54 08:46:51

ความคิดเห็นที่ 10 ถึงเป็นคนใกล้ชิดคุณสืบ ก็ไม่ได้แปลว่าที่เขาพูดมันเป็นเรื่องที่เชื่อถือได้ จริงไหม ? เอาเป็นว่าสดับตรับฟังมาก็คือฟังมา คิดเห็นอย่างไรก็แล้วแต่ความคิดอ่านของแต่ละคน เราเองก็คิดว่าคุณสืบมีวิธีอนุรักษ์ป่าแบบไม่เอา "คน" เลยแม้แต่น้อย ป่ากับคนต้องแยกจากกันอย่างเด็ดขาด แนวคิดนี้ถูกต้อง มนุษย์เป็นสิ่งแปลกปลอมสำหรับป่า แต่ในความเป็นจริง วัฒนธรรมการเกษตรของคนจำนวนมากเขาไม่ค่อยยอมรับเกษตรสมัยใหม่ เขายึดมั่นในวิธีคิดของเขาอย่างเหนียวแน่นว่าการปลูกพืชต้องเริ่มต้นด้วยการเผาพื้นที่ สมัยนี้ก็ยังมีให้เห็น และการรุกป่าไม่ใช่เรื่องผิดอันใด ในเมื่อบรรพบุรุษของเขาก็ทำ แถมมันยังมีเรื่องลักลั่นต่อกันมาตั้งแต่ยุคคอมมิวนิสต์ คือสหายเล่นถางภูเขาทั้งลูก (หลายลูก) จนเหี้ยน (ใครเคยไปเขาค้อกับภูทับเบิกก็คงนึกออก) แล้วเข้าไปจับจองหน้าตาเฉย บางคนก็อยู่ตรงนั้นมานานจริงๆ บางคนมาจากไหนก็ไม่ทราบ ทำหน้ามึนมายึดพื้นที่ซะงั้น แล้ววิธีทำมาหารับประทานของท่านก็คือถางป่า ปลูก เผา ปลูก พอดินเสื่อมก็ถางและเผาต่อไป ที่พูดนี่ไม่ได้พูดด้วยการหมิ่นใคร มันเป็นอย่างนั้นจริงๆ พอมี พรบ. คุ้มครองป่า และการกำหนดเขตอุทยานแห่งชาติ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า เขตป่าสงวน ฯลฯ มันไปกินพื้นที่ที่มีคนจับจองครอบครองอยู่จริง จะพิสูจน์ว่าใครเป็นตัวจริงตัวปลอม หรือแอบแฝงลักลอบเข้ามา มันไม่ง่าย นี่เป็นปัญหาเรื้อรัง พื้นที่อนุรักษ์หลายๆ พื้นที่ยังเจอปัญหาแบบนี้ให้แก้ไขกันอยู่ไม่รู้วาย บางเขตสามารถผลักดันคนออกไปได้และหาพื้นที่ให้ทำมาหากินให้อยู่ได้อย่างเป็นปกติ แต่หลายๆ พื้นที่ก็ไม่เป็นอย่างนั้น ในยุคของสืบ มันไม่ง่ายเลยจริงๆ ที่จะทำให้ประเด็นการรักษาป่า และประเด็นของคน รวมถึงการเข้าตัดไม้ทำลายป่าของเหล่านายทุนจอมเขมือบแยกออกจากกันได้เด็ดขาด เอาเป็นว่าเราไม่แปลกใจที่การตัดสินใจของ สืบ นาคะเสถียร จะออกมาในรูปแบบนี้ เรื่องของสืบจะเป็นอย่างไรก็แล้วแต่ แต่คนอย่างสืบ และคนที่มีวิธีคิดแบบสืบ และคนที่รู้สึกอัดอั้นตันใจต่อภาวการณ์อย่างนั้นมีอยู่จริง  และไม่ได้มีคนเดียวในวงการป่าไม้ไทย คนตายมีอีกมาก แต่ตายเปล่าเสียมาก ส่วนใหญ่ก็เป็นเจ้าหน้าที่ป่าไม้ระดับปฏิบัติการ โดนอาวุธปืนของพวกลักลอบตัดไม้ตายไปมีหลายคน บาดเจ็บเจียนตายก็มาก แต่ไม่เป็นข่าวใหญ่โต ที่ทราบเพราะเราได้คุยกับเจ้าหน้าที่และคนที่ชอบเที่ยวป่าด้วยกัน หลายๆ สิ่งเห็นแล้วมันน่าสะเทือนใจ เอาเป็นว่า คนที่เอาชีวิตเข้าแลกเพื่อรักษาป่าไม้ให้อยู่ยืนนั้นมีจริง มีมาก มีมานาน ที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูเขียวก็มีอนุสรณ์สร้างไว้ให้แก่เจ้าหน้าที่เหล่านี้ จากคุณ : AntiSpam (อันตราคนี) เขียนเมื่อ : 23 ก.ค. 54 09:40:44

ความคิดเห็นที่ 11 สมัยเรียนหนังสือ ทำกิจกรรมชมรมอนุรักษ์ ได้ไปเดินป่าบ่อย ๆ และยังเคยได้ไปที่บ้านพักคุณสืบที่ห้วยขาแข้งด้วย หลังคุณสืบตาย จำได้ว่าได้อ่านข่าวเกี่ยวกับการทำลายป่า การสร้างเขื่อน ออกมาเยอะมาก ทั้งฟัง ทั้่งอ่าน จนจิตตกเลยค่ะ ถึงกับต้องบอกตัวเองให้หยุดรับข่าว เพราะมันเศร้ามากจริง ๆ และยังเคยคิดไปว่า ขนาดเรายังห่อเหี่ยว จิตตก แล้วในฐานะคุณสืบที่เป็นอยู่ คงจิตตก และกดดันมากกว่าเป็นร้อยเท่าพันเท่า เลยไม่แปลกใจถ้าคุณสืบจะฆ่าตัวตายด้วยสาเหตุเหล่านี้ค่ะ จากคุณ : papa mama love u เขียนเมื่อ : 23 ก.ค. 54 09:55:00

ความคิดเห็นที่ 12 ถามว่า ปัญหาของสืบจริงๆ คืออะไร มันพัวพันและพันพัวกับหลายเรื่อง - เรื่องชาวบ้านไม่มีที่ทำกินก็ใช่ - เรื่องชาวบ้านถูกนายทุนกว้านซื้อที่ แล้วก็พวกเขาก็อ้างสิทธิ์เข้าไปจับจองที่ป่าก็ใช่ - เรื่องนายทุนที่มีสัมพันธ์กับนักการเมืองท้องถิ่นเข้ามาเขมือบป่าก็ใช่ ทุกวันนี้ที่ป่าแถวเพชรบูรณ์กับชัยภูมิ ซึ่งเป็นพื้นที่ป่าที่ต่อกับห้วยขาแข้งก็เจอพวกนี้อยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน - เรื่องแนวทางอนุรักษ์แยกป่าออกจากคนก็ใช่ บางทีถ้ามีใครหาญกล้าซักคน ลองเอาโฉนดที่ดินที่นักการเมืองครอบครองมากางดู ก็คงสะเทือนใจกันไม่น้อย เรื่องอนุรักษ์ เรื่องอำนาจนิยม เรื่องการเมือง หรือเรื่องทุนสามานย์ ก็คงทุกเรื่อง ประเทศไทยไม่มีวันแก้ปัญหาเรื่องที่ทำกินได้ และไม่มีวันแก้ปัญหารุกป่าได้ ตราบใดที่ยังยอมให้ผู้มีฐานะกว้านซื้อที่ดินได้เกินอัตราโดยไม่มีการเก็บภาษีที่ดินและภาษีมรดกกันแบบนี้ จากคุณ : AntiSpam (อันตราคนี) เขียนเมื่อ : 23 ก.ค. 54 10:01:50

ความคิดเห็นที่ 13 ถ้าพูดให้ยิ่งใหญ่กว่านี้คือ ลัทธิผลิตเยอะ บริโภคเยอะ ซึ่งนักเศรษฐศาสตร์จำนวนหนึ่งเห็นว่าคือทางสู่ความเจริญ (ซึ่งอาจจะเป็น "เจริญหาย" ก็ได้) ...ก็อาจเป็นเหตุ พวกเขาคงลืมว่าโลกนี้มีทรัพยากรจำกัด ใครสนใจก็ลองไปฟังปาฐกถานี้ดูก็แล้วกัน บทปาฐกถา http://seub.or.th/index.php?option=com_content&view=article&id=509:seubnews&catid=106:20-years-20-days&Itemid=135 จากคุณ : AntiSpam (อันตราคนี) เขียนเมื่อ : 23 ก.ค. 54 10:19:21

ความคิดเห็นที่ 14 ที่เขาไม่ชอบให้เปิดประเด็น ก็คงเพราะเวลาเปิดทีไร ก็จะมีพวกเอาข่าวจากใครไม่รู้มาผสมโรงด้วยประจำ แบบนี้แหละครับ #7 อย่างที่บอก เรื่องในวงเหล้า คนพูดใครไม่รู้ และไม่มีหลักฐาน ก็ต้อง "ไร้ราคา" โดยสิ้นเชิงครับ ส่วนคุณจะเชื่อก็เรื่องของคุณครับ จากคุณ : Chineseman เขียนเมื่อ : 23 ก.ค. 54 15:36:50

ความคิดเห็นที่ 15 ^ คุณมีสิทธิ์ไม่เชื่อในเรื่องไหนก็ได้ แต่การดูแคลนข้อมูลว่า "ไร้ค่า" ด้วยเหตุผลที่ว่าเพราะมันมาจากแหล่งข้อมูลที่ไม่มีผู้คนยืนยันสนับสนุนกันมาก ก็ไม่ใช่กระบวนการพัฒนาสมองที่ดี เนื่องจากเป็นการปิดกัั้นสมองไม่ให้คิดหลายทาง เรื่องที่คนในกรมป่าไม้รุ่นเดียวกันกับสืบเล่าให้เราฟังว่า "สืบฆ่าตัวตายเพราะความรักไม่สมหวังและปัญหาชีวิตส่วนตัว" ถึงแม้จะมีพฤติการณ์แวดล้อมน่าเชื่อถือน้อยกว่า "สืบฆ่าตัวตายเพราะถูกผู้มีอิทธิพลกดดัน" แต่นักอ่านนิยายนักสืบ และนักคิด ไม่ถือว่า "ไร้ราคา" เพราะนักคิดเวลาเล่นหมากรุก ตาเดินที่สำคัญที่สุดที่ต้องคำนึงถึงความเป็นไปได้ก็คือ "เดินหมากให้คู่ต่อสู้กิน และหวังผลระยะยาว เช่นทำให้หมากคู่ต่อสู้หลงทางจนป้องกันตนเองไม่ได้" หรือนักสืบที่เก่งมากๆเวลามองผู้ต้องสงสัย "จะมองรายที่เป็นไปได้น้อยที่สุด" "การไม่คิดว่าข้อมูลใดๆไร้ค่าโดยสิ้นเชิง ต้องใช้ logic ล้วนๆ โดยไม่มีอารมณ์มาเกี่ยวข้อง (อารมณ์ในที่นี้หมายถึงความรู้สึกนับถือสืบอย่างแรงกล้ัา" เนื่่องจากนักคิดที่ดีต้องพิจารณาความเป็นไปได้ทุกทาง แม้กระทั่งประวัติย่าโมที่มีนักวิจับพยายามพิสูจน์ว่าเป็นเรื่องกุขึ้นมา มันก็ถูกดูแคลนว่า "ไร้ค่า" เพราะคนที่เชื่อเชื่อเรื่องย่าโมและนับถือย่าโมอย่างแรงกล้าโกรธแค้นจะรุมทำร้ายนักวิจัย การศึกษาค้นคว้าต่อไปจึงไม่บังเกิด เหมือนกับที่นักหมากรุกชั้นเลว พอมองตำแหน่งที่ตั้งหมาก จะเดินระวังไม่ให้โดนกิน แต่นักหมากรุกชั้นอัฉริยะจะพิจารณาข้อมูลที่ "ดูเหมือนไร้ค่า" นั้่นก็คือจะพิจารณาว่า มีความเป็นไปได้กี่ทางที่จะเดินหมากให้โดนกิน แล้วใช้ reductio ad absurdum พิสูจน์แบบขจัดความไม่สมเหตุผลออกไปเรื่อยๆว่าการเดินหมากให้กิน ไม่ทำให้เกิดการได้เปรียบทางด้าชัยภูมิ (positional advantage) จริงๆ จึงจะเดินหมากผูกกันเป็นใยแมงมุม แบบที่ภาษาหมากรุกฝรั่งเขาเรียกว่า overprotect the protectors แต่บ่อยครั้งที่ในกระบวนการที่ใช้ตรรกะอย่างแม่นยำ จะพบว่า "การเดินให้กินโดยอาศัยข้อมูลที่ไร้ค่าแต่แรกเริ่มกลายเป็นนำมาซึ่งขัยชนะ" ^ การทดลองนำข้อมูลที่ดูเหมือนไร้ค่า มาทดสอบใช้งาน แบบนี้ นักหมากรุกฝรั่ง นักหมากรุกจีน นักสืบ นักคิด และนักค้นคว้าระดับอัฉริยะปฏิบัติกันมาช้านาน ดังนั้น การพิจารณาข้อมูลที่ "ดูเหมือนไร้ค่า อาจช่วยได้ในเรื่องการพัฒนากลไกสมอง ในการคิดค้นคว้าและเรียนรู้สิ่งแปลกๆ ใหม่ๆ อีกทั้งพิสูจน์เพื่อค้นพบความจริงเกี่ยวกับ เหตุการณ์ คดี หรือปรากฎการณ์ที่เร้นลัีบ ดังนั้น "นักคิดที่ยิ่งใหญ่จะต้องไม่ละเลยหรือดูแคลนข้อมูลที่ดูเหมือนไร้ค่า!" แก้ไขเมื่อ 23 ก.ค. 54 19:14:31 จากคุณ : fortuneteller เขียนเมื่อ : 23 ก.ค. 54 19:09:17

ความคิดเห็นที่ 16 แหม พูดมาซะเยอะแยะ เอางี้ดีักว่า คุณได้ "ทดลองนำข้อมูลที่ดูเหมือนไร้ค่า มาทดสอบใช้งาน" หรือ "ศึกษาค้นคว้าพิสูจน์" รึเปล่าล่ะครับ ที่เห็นก็มีแค่บอกว่า คนใกล้ชิดคุณสืบ มาพูดในวงเหล้า ก็เลยเชื่อ ถ้าการไม่เชื่อไม่ได้พัฒนาสมอง ผมก็ว่าการเชื่อข้อมูลที่ "ดูเหมือนไร้ค่า" ซะเ้ป็นตุเป็นตะ จนขนาดแค่ได้ฟังมาจากวงเหล้า ก็ถึงกับกล้า "ยืนยัน" เลยว่า วีรบุรุษที่หลายคนนับถือเนี่ย มีพฤติกรรมเสื่อมๆ แบบนี้ก็ไม่ได้ช่วยพัฒนากลไกสมองสักเท่าไหร่เหมือนกันแหละ หรือคุณได้ออกไปทำวิจัยได้พยานหลักฐานต่างๆหมดแล้ว แบบที่คุณบอกว่านักคิดที่ยิ่งใหญ่เขาทำกัน อีกอย่าง ถ้าจะพัฒนาสมองผมไม่มานั่งพัฒนาจากข่าวลือในเน็ตหรอกครับ เสียเวลา สู้ไปอ่านหนังสือข้างนอก หรือไปอ่านกระทู้ที่เขามีอะไรยืนยันแน่นอนกว่านี้ ยังดีกว่า พิสูจน์ข่าวลือทางเน็ตไม่ต่างอะไรกับหาวิมานในอากาศ ไม่ได้พัฒนาสมองแถมเสียเวลาอีกด้วย จากคุณ : Chineseman เขียนเมื่อ : 23 ก.ค. 54 19:38:08

ความคิดเห็นที่ 17 ..http://www.seub.or.th/ จากคุณ : Alone among the crowd เขียนเมื่อ : 23 ก.ค. 54 20:30:59

ความคิดเห็นที่ 18 ตอบ คคห 16 เรา "ยืนยันว่ามีทฤษฎีอย่างอื่นเรื่องการตายของสืบ (นอกเหนือไปจากข่าวที่มหาชนรู้กัน) ซึ่งออกมาจากปากของเพื่อนร่วมงานหลายคนของสืบ" แต่เราไม่ได้ได้ยืนยันว่าทฤษฎีนั้นเป็นจริงหรือไม่ แต่จะอย่างไรก็ตาม คดีต่างๆพลิกล็อคได้หมด ถึงแม้จะเป็นคดีที่ศาลพิพากษาไปแล้วว่าจำเลยติดคุก แต่ "ข้อมูลอันไร้ค่า" ก็เคยเปิดคดีใหม่ แล้วทำให้จำเลยพ้นมลทินได้ "ในเหตุการณ์หรือคีดที่ซับซ้อน ไม่มีอะไรที่เป็นไปไม่ได้!" เราแค่เสนอขึ้นมาให้ผู้คน "ฉุกคิด" และ "ลองพิจารณาดู" แต่จะเชื่อหรือไม่เชื่อก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง และเราไม่มีหน้าทีใดๆที่จะต้องไปพิสูจน์ข้อมูลใดๆนี้ คุณจับประเด็นผิด "อารมณ์ของการนับถือตัวบุคคลทำให้ระบบตรรกะของคุณชำรุด" จากคุณ : fortuneteller เขียนเมื่อ : 23 ก.ค. 54 22:05:35

ความคิดเห็นที่ 19 ว้า แค่ไม่เชื่อข่าวลือก็กลายเป็นคนตรรกะชำรุดซะแล้ว ส่วนคนที่เชื่อหรือค่อนข้างเชื่อ โดยไม่มีอะไรยืนยัน มีตรรกะดีเยี่ยม ผมว่าน่าลองพิจารณาตัวเองด้วยนะครับว่า การเชื่อคนง่ายทำให้ระบบตรรกะคุณชำรุดด้วยรึเปล่า ส่วนคำพูดใน คห.3 "ยืนยันว่าเป็นไปตาม คห.2" มันก็พลิกลิ้นได้เรื่อยๆนะครับ แต่ผมว่ามันมีความหมายไปทาง "ยืนยันว่าเป็นจริงตามข่าวของ คห.2" มากกว่านะ แต่เอาเถอะอันนี้ถือว่าผมผิดก็แล้วกัน ขี้เกียจถกความหมายของคำกันอีก เดี๋ยวจะยาว แต่คุณคิดว่าไอ้การยัดเยียดข้อหาเสื่อมๆให้คนอื่น แล้วเวลาถูกขอหลักฐานก็พูดง่ายๆแค่ว่า ไม่มีหน้าที่ต้องพิสูจน์ มันถูกแล้วเหรอครับ จริงๆผมว่าคนที่อยู่ดีๆมากล่าวหาคนอื่นเนี่ย มีหน้าที่ต้องพิสูจน์ข้อกล่าวหาของตัวเองนะ แต่เอาเุถอะเมื่อคุณบอกไม่มีหน้าที่ก็แล้วแต่คุณ แต่ผมก็ไม่เชื่อ และผมก็เสนอแนวคิดเหมือนกันว่า ข้อมูลนี้แทบเชื่อไม่ได้เลย เพราะปราศจากหลักฐานหรือพยานใดๆทั้งสิ้น ยังไงตอนนี้ก็ต้องสรุปว่ามันแทบเป็นไปไม่ได้ หรือก็คือ ข้อมูลที่มหาชนรู้กัน มีโอกาสเป็นไปได้สูงกว่ามาก ยังไงผมเปลี่ยนให้แล้วกัน ข้อมูลนี้ไม่ได้ไร้ราคาหรอก แต่แทบไร้ราคา แบบนี้พอใจรึยังครับ แก้ไขเมื่อ 23 ก.ค. 54 22:54:17 แก้ไขเมื่อ 23 ก.ค. 54 22:53:56 จากคุณ : Chineseman เขียนเมื่อ : 23 ก.ค. 54 22:53:30

ความคิดเห็นที่ 20 สืบถูกผู้มีอิทธิพลป่าไม้ฆ่าครับ  ไมใ่ช่ฆ่าตัวตาย ตามที่สื่อเสนอข่าวคุณ บิดเบือนทั้งนั้น   ไม่เชื่อลองไปถามคนในครอบคัวคุณสืบสิ จากคุณ : ภูติสายลม เขียนเมื่อ : 23 ก.ค. 54 23:33:20

ความคิดเห็นที่ 21 เรื่องสาเหตุการตายของคุณสืบนั้นไม่มีใครรู้จริง ๆ หรอกครับ ที่เรารับรู้กันในปัจจุบันก็เป็นเพียงความคิดของคนที่อยู่รอบข้างคิดกันไปเองเสียมากกว่า จะฆ่าตัวตายเพราะความรักหรือฆ่าตัวตายเพราะแรงกดดันจากอำนาจอิทธิพลและงานของตัวเองล้วนแล้วแต่เป็นข้อสันนิษฐานเท่านั้น การจะไปค้นหาว่าเขาฆ่าตัวตายเพราะอะไรคงไม่ค่อยมีประโยชน์อะไรต่อสังคมมากนักนอกจากสนองความต้องการของตัวผู้สงสัยเอง แต่ตัวผมนั้นเห็นด้วยความเห็นสองที่บอกว่าคนรอบข้างไม่อยากให้การตายนั้นสูญเปล่าจึงสร้างภาพเป็นการตายที่เสียสละเพื่อการอนุรักษ์ป่าและสัตว์ป่าไปเสีย ทั้งที่ความจริงแล้วการมีชีวิตอยู่ยังสามารถทำงานเพื่อประเทศชาติและสิ่งที่ตนรักได้ดีกว่าคนที่ตายไปแล้ว การฆ่าตัวตายนั้นไม่ว่าอย่างไรก็ไม่ดี อีกทั้งการตายของคุณสืบนั้นจุดประเด็นการอนุรักษ์ป่าไม้ได้เพียงชั่วครู่ชั่วยามเหมือนการจุดไม้ขีดไฟในห้องที่มืดมิด แสงไฟจึงดำรงอยู่ได้เพียงชั่วขณะก่อนจะดับมอดไป เราก็เห็นกันว่าตอนนี้พื้นที่ป่าถูกบุกรุกแค่ไหน สัตว์ป่าที่สูญเสียไปมีจำนวนเท่าใด น่าแปลกที่ข้อมูลตัวเลขพวกนี้ไม่มีการประกาศผ่านสื่อทำให้คนส่วนใหญ่ไม่รู้ว่าป้าไม้ของเราเลยเท่าใดแล้ว สัตว์ป่าสำคัญ ๆ ยังมีอีกหรือไม่ ถ้าเราไปที่ท่องเที่ยวที่เป็นอุทยานแห่งชาติหลายแห่ง อย่างเขาใหญ่นี่แหละที่เราจะเห็นโรงแรมและรีสอร์ทตากอากาศผุดขึ้นมากมาย พวกเขาทำได้ยังไงก็เเบ่งออกเป็นสองพวกใหญ่ ๆ คือมีเงินกับมีอำนาจทางการเมืองนั่นแหละครับ จากคุณ : Mr.Learning เขียนเมื่อ : 23 ก.ค. 54 23:33:36

ความคิดเห็นที่ 22 อ้าว เอาแล้วไง มาอีกกระแสข่าวแล้วคือโดนฆ่าตาย - -'' ส่วนที่ว่า การตายของคุณสืบนั้น จุดประเด็นการอนุรักษ์ป่าไม้ได้เพียงชั่วครู่ชั่วยาม มันก็ใช่ครับ แต่คนนอกมักจะมองสถานการณ์ได้ชัดเจนกว่าเสมอ ตัวคุณสืบเองเป็นผู้รับแรงกดดันทุกอย่าง ความเครียดและปัญหาต่างๆอาจจะบังตาจนคิดไม่ได้แบบนี้ก็ได้ อีกอย่างถึงจะยังมีชีวิตอยู่ ก็ไม่มีอะไรยืนยันว่าป่าจะดีกว่าที่เป็นอยู่ตอนนี้อยู่ดีนะครับ บางทีถ้าคุณสืบไม่ตาย ห้องก็อาจจะมืดมิดมาจนถึงเดี๋ยวนี้เลยก็ได้ คุณสืบอาจจะคิดลองเดิมพันกับประกายไฟดวงน้อยอันนี้ดู เพียงแต่โลกเรามันไม่ได้สวยหรู ผลจึงกลายเป็นว่า จุดได้แค่ไฟดวงน้อยๆที่สุดท้ายก็ต้องดับมอดลงไปโดยไม่มีใครมาสานต่อ จากคุณ : Chineseman เขียนเมื่อ : 23 ก.ค. 54 23:54:17

ความคิดเห็นที่ 23 ชอบกระทู้นี้มากครับ เป็นการถกเถียงกันถึงสาเหตุแห่งการตายอันซับซ้อนยิ่ง แต่ไม่มีใครเลย ที่จะยกเอกสารอันเป็นหลักฐาน ที่น่าเชื่อถือ นอกจากคำบอกเล่าปากต่อปาก ผมรออ่านต่อไปครับ จากคุณ : อุบาสกฉางชุน เขียนเมื่อ : 26 ก.ค. 54 01:01:07

ความคิดเห็นที่ 24 ถ้าไม่ชิงฆ่าตัวตายไป คนดีมีความสามารถที่มีชีวิตอยู่ จะสร้างคุณานุปการณ์ต่อประเทศได้อีกมากมาย จากคุณ : joeymydear เขียนเมื่อ : 26 ก.ค. 54 09:09:40

ความคิดเห็นที่ 25 # 17 เคยมีข่าวการครอบครองที่ดินอยู่กาญจน์ จากคุณ : saksayam เขียนเมื่อ : 26 ก.ค. 54 12:13:02