ถึง คห.17
... คือ เราอยู่แต่ รร.ที่ไม่ค่อยมีปัญหาใหญ่ๆพวกนั้นอะค่ะ
แต่เท่าที่เราผ่านมา
เรื่องสนใจเรียนไม๊.. จะรร.ไหนก็มีปัญหาเรื่องนั้นไม่ใช่หรือคะ
ยอมรับ ว่าเรื่องผมเผ้าความสวยงาม ก็ทำให้หันเหความสนใจได้ส่วนหนึ่ง
แต่อีกส่วนหนึ่ง ก็อยู่ที่ความสามารถของครูด้วยนะคะ.... ว่าครูจะคุมเด็กได้รึเปล่า
ซึ่ง... ทุกรร.ก็มีทั้งครูที่คุมได้ และคุมไม่ได้
(และเพราะอย่างนี้ คนเก่งๆแต่สอนไม่เป็นหลายคนถึง "ไม่กล้า" เป็นครู
เพราะมันเป็นงาน โค ต ร หินเลย จริงๆ
ยอมรับและสงสารมากค่ะ - -"... อีกอย่างคือกลัวกรรมตามทัน เหอๆ)
+ + + + + + +
เรื่อง "ระเบียบวินัย" พวกนี้อยู่ที่การปลูกฝัง "จิตสำนึก" จริงๆ
เพราะอย่างนี้... "ประถม และ ม.ต้น" ถึงสำคัญมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
ถ้า "ปลูกฝัง" ตั้งแต่ประถม และ "ทำให้เข้าใจ" ในช่วงม.ต้น
(ทั้งเรื่องการทำให้เด็กใฝ่เรียน และเรื่องภูมิคุ้มกันในชีวิต)
ต่อไปจะเป็นยังไง...ก็อยู่ที่ตัวบุคคลแล้วล่ะค่ะ (ไม้อ่อนดัดง่าย ไม้แก่ดัดยาก)
...ย้ำอีกรอบว่า การอ้างว่าเป็นกฎ มันบังตานะคะ
ถึงต้องให้ "ทำความเข้าใจ" กับเด็ก ม.ต้น(ซึ่งเป็นช่วงหัวเลี้ยงหัวต่อในชีวิตจริงๆ)
เป็นสิ่งสำคัญมากๆ อย่าบังคับขืนฝืนใจไปเรื่อยเปื่อยเลย
อะ.. มีเพลงประกอบ
กักขังฉันเถิดกักขังไป...ขังตัวอย่าขังหัวใจดีกว่า

ขังตัวได้ แต่หัวใจขังไม่ได้จริงๆนะคะ
(อย่างน้อยก็เราหนึ่งคนด้วยล่ะค่ะ... ถึงจะไม่ได้มีกฎบังคับเราแล้ว แต่ก็ยังแอบหงุดหงิดต่อต้านไม่หาย :P)
เหอๆ... การเถียงเรื่องกฎนี้สำหรับเมืองไทย คงยาวพอๆกับการเถียงว่า ไก่กับไข่อะไรเกิดก่อนกันล่ะมั๊งคะ
ปล.จริงแล้ว เราเคยคิดเล่นๆเหมือนกันนะคะว่า...
ถ้าเกิดใช้ o-net ป.6/ม.3 เป็นตัวตัดสิน...
ถ้าใครสอบได้เกิน 50,60% จะอนุญาตปล่อยผ่านกฎนี้
จะเป็นยังไงน๊า...
เรื่องไม่ตั้งใจเรียนจะหมดไปหรือเปล่าเอ่ย
