ความคิดเห็นที่ 1 เค้าเป็นคนเกาหลีน่ะครับ มาทำธุรกิจในไทย ถ้าได้เป็นภาษาถิ่นเค้าอาจจะดีกว่านี้ก็ได้ครับ จากคุณ : Bigbooty เขียนเมื่อ : 9 พ.ค. 55 04:35:26

ความคิดเห็นที่ 2 just leave my girlfriend alone! (please) จากคุณ : lovelypriest เขียนเมื่อ : 9 พ.ค. 55 04:44:23

ความคิดเห็นที่ 3 ขอบังอาจแสดงความเห็นนะคะ อย่าพูดเวิ่นเว้อเลย มันดูเหมือนพวก loser ไม่จำเป็นต้องให้คำอธิบายใดๆ ยิ่งทำให้คุณดูเหมือนพวกไม่มีทางเลือกนะ ตามแบบความเห็นที่ 2 ว่าโลด มองตาตรงๆแล้วพูดคำเดียว แต่ยังไงก็แล้วแต่ มันขึ้นอยู่กับแฟนของคุณนั่นแหละ มีอะไรควรคุยกับผู้หญิงมากกว่าจะไปคุยกับมือที่สาม ถ้าเขาเห็นแก่เงิน หรืออะไรอย่างอื่น เขาก็ไปอยู่ดี แล้วคุณจะเป็นหมา รู้สึกว่า กรุไม่น่าพูดอย่างนั้นเลย จากคุณ : โดโด้ เขียนเมื่อ : 9 พ.ค. 55 07:50:02 A:171.97.150.149 X: TicketID:159640

ความคิดเห็นที่ 4 จริงๆเเล้ว ก็อยู่ที่เเฟนคุณด้วยนา เอาจริงๆถ้าชายเค้าจะเอา เขาไม่ฟังคุณหรอก ก็ในเมื่อเค้าน่าจะรู้ว่ามีเเฟนเเล้ว ถ้าเเฟนคุณก็รำคาญ ก็ให้เเฟนคุณบอกก็ดีครับ เเต่ถ้าเเฟนคุณก็ดูเเฮปปี้กับเค้า คุณก็ควรคุยกับเเฟนคุณเอง ปล ยุ่งไปหน่อย ส่วนภาษาอังกฤษก็คห สองก็ดีครับ จากคุณ : Thaumaturge เขียนเมื่อ : 9 พ.ค. 55 08:12:01

ความคิดเห็นที่ 5 Stay away from my gal, you good-for-nothing, yellow-livered, pasty-faced SOB. รับรองได้ผลไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง ถ้ามันไม่เผ่นไปก็จะได้ดูศึกมวยไทยดวลกับเทควนโด้ จากคุณ : แอ๊ด ปากเกร็ด เขียนเมื่อ : 9 พ.ค. 55 08:30:49

ความคิดเห็นที่ 6 ยิงกลางแสกหน้า แล้วก็พูดว่า That's for messing around with my girl. อย่าพูดก่อนนะ เดี๋ยวมันหนีทัน จากคุณ : เศียรนาคา ... เขียนเมื่อ : 9 พ.ค. 55 08:50:54 A:125.24.6.225 X: TicketID:255126

ความคิดเห็นที่ 7 คุณรักเธอมาก แล้วเธอล่ะรักคุณมากเท่าที่คุณรักเธอหรือเปล่าครับ คนจะไปก็ต้องไป ให้เผื่อใจไว้บ้าง หาคนที่รักเราโดยที่ไม่หวังผลประโยชน์ดีกว่า ความรักเป็นสิ่งไม่เที่ยง รักได้ ก็หมดรักได้ เป็นเรื่องธรรมาดามาก เเนะนำว่าคุณควรเอาใจใส่แฟน ดูแลที่เพิ่มมากขึ้น เข้าใจกันมากขึ้น จะได้ผลกว่าไปบอกให้คนอื่นอย่ามายุ่งกับแฟนคุณครับ สู้ๆนะครับ จากคุณ : TommyStyle เขียนเมื่อ : 9 พ.ค. 55 08:51:06

ความคิดเห็นที่ 8 ไปพูดกับผู้ชายอีกคนเนี่ยนะ. . . ? ลองคิดดูเองครับ ว่าถ้า ญ รู้เรื่องเข้า มันดูดีหรือไม่ดี โตแล้วน่าจะคิดเองได้นะครับของแค่นี้ ยิ่งกับชาวต่างชาติที่มีความคิดความอ่านเป็นผู้ใหญ่ด้วยนี่ยิ่งแล้วใหญ่เลย จากคุณ : J-Renderer เขียนเมื่อ : 9 พ.ค. 55 10:51:42

ความคิดเห็นที่ 9 ถืออีดาบซักเล่ม... ชี้หน้าเกาหลีนั่น.. Leave my girl alone, get out. พอละครับ.. แล้วคุณต้องไปดูแลจิตใจแฟนคุณให้ดีๆ ละกัน เป็นต่างชาติ น่าจะมีต้นสังกัด เช่น เข้ามาทำงาน หรือ บริษัท อาจต้องลองติดต่อไปที่ต้นสังกัดเขาด้วย.. ว่าแต่ "แฟน" เนี่ย "เมีย" หรือเปล่า ถ้าไม่ใช่ "เมีย" บางทีทางต่างชาติเขาก็คิดว่า "ใครดีใครได้" เน้อ... จากคุณ : Wobbegong เขียนเมื่อ : 9 พ.ค. 55 10:57:58

ความคิดเห็นที่ 10 จริงๆเราว่าไม่ต้องไปบอกผู้ชายหรอกค่ะ ต้องบอกแฟนคุณด้วยมากกว่า จากคุณ : schmucks เขียนเมื่อ : 9 พ.ค. 55 12:18:03

ความคิดเห็นที่ 11 อย่าไปเวิ่นเว้อ.. ของแบบนี้ ตบมือข้างเดียวไม่ดังค่ะ ดูแลคนของคุณ และพูดกับคนของคุณค่ะ ไม่ใช่คนอื่น จากคุณ : อดีตอันหอมหวาน เขียนเมื่อ : 9 พ.ค. 55 15:02:28

ความคิดเห็นที่ 12 ไอ้เรื่องพูดกับผู้หญิงให้รู้เรื่องก็คงต้องพูดนะ แต่ว่าเรื่องผู้หญิงนี้ นักเลงบ้านนอกเขาถือ ใครคิดจะเป็นเสือข้ามห้วยก็ต้องมีเหลี่ยมหน่อยเวลาเจ้าถิ่นเขาขอลองของ เพิ่งดูหนังเรื่อง The Tourist จบไป ที่ยัยหนู Angelina Jolie เล่นกะเจ้า Johnny Depp แหม ผู้หญิงอะไรมาดเหลือกิน คลาสสิคมาก ที่เล่านี่ไม่ได้คิดจะไปชิงรักหักสวาทแย่งหนู Jolie กะอีตา Brad Pitt หรอก แต่นึกถึงผู้ร้ายในเรื่องที่เป็นจอมมาเฟียที่ถูกแฟนเก่านางเอกฝังแค้นด้วยการเชิดเงินไปกว่าสองพันล้านปอนด์ พระเอกตามเนื้อเรื่องเล่นเป็นครูบ้านนอกที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่อะไรแต่พลัดมาอยู่ในวงตามล่าตามล้างขวางทางปืนเขา นางเอกเล่าเรื่องจอมมาเฟียว่าร้ายแค่ไหน "เขาสั่งคนไปตามเก็บผู้ชายทุกคนที่เคยนอนกับเมียตัวเองมาก่อน แต่พอรู้จำนวนว่าต้องเก็บกี่คน ตะแกก็สั่งฆ่าเมียทิ้งดีกว่า" เป็นงั้นไป จากคุณ : แอ๊ด ปากเกร็ด เขียนเมื่อ : 9 พ.ค. 55 15:57:46

ความคิดเห็นที่ 13 ลองพิจารณาดู ..... 1. โดยปกติ ผู้หญิงทุกคนย่อมจะเลือกผู้ชายที่ให้ความมั่นคงกับชีวิตของเขาได้ การแต่งงานของสตรีคือความมั่งคงทางเศรษฐกิจสำหรับผู้หญิง ดังคำคมที่ว่า "For the woman, marriage means economic security" เพราะฉะนั้น...จงปล่อยให้ฝ่ายหญิง/แฟนหญิงของคุณเลือกทางเดินชีวิตของตนเอง ความคิดที่ว่า "เธอคนนี้คือทุกอย่างและมีแค่เธอเท่านั้นที่ดีพอสำหรับผม" ดูเหมือนคุณกำลังบังคับยัดเยียดตัวเองให้กับแฟนคุณ อย่าลืมว่า "Forced love does not last." 2. อย่าลืมว่า คนเราตบมือข้า่งเดียวไม่ดังนะ! หากแฟนเราตัดสินใจปันใจไปให้หนุ่มเกาหลีเพราะเขาสามารถทำหน้าที่สนองความต้องการ/ให้ความสุขกาย+สุขใจได้ดีกว่าเรา ก็จงทำใจและอวยพรให้แฟนเราจงไปดีให้ตลอด เพราะรักแท้คือการได้เห็นคนที่เรารักมีความสุขอยู่เหนือกว่าความรู้สึกของตนเอง ---->“Love is when the other person's happiness is more important than your own.” และ “Pure love is a willingness to give without a thought of receiving anything in return.” 3. หากทิฐิมานะแรงกล้า ยังยืนยันว่า "แฟนข้า ใครอย่าแตะ!" แล้วไซร้ ด้วยความกลัวว่า "ความสุขของตัวเอง" กำลังจะถูกแย่งไป "ความเป็นลูกผู้ชาย" กำลังถูกตบหน้า/โดนท้าทายอย่างหนักหน่วง ก็จงชูกำปั้นและคำรามตอกหน้าหนุ่มเกาหลีคู่แข่งไปว่า "อั๊วจะอัดลื้อให้เละ ถ้าลื้อยังมาตอแยกับแฟนอั๊วอีก = I’ll give you the works if you still bother my girlfriend! [สำนวน “to give someone the works” ----> subject to the full scope of some treatment.] หรือ....I'll come down on you like a ton of bricks if you still bother my girlfriend! [สำนวน "To come down on somebody like a ton of bricks" => To hit or punish somebody. 4. สำนวนแบบไทย ๆ ที่ว่า "คู่แล้วไม่แคล้วกัน / "Every Jack has his Jill" จงอดใจรอ "คู่แท้" ทางที่ดีคือ เลือกคนที่รักตัวเราดีกว่า / Get married with the one who loves you. ไม่ใช่รักเราเพราะเงินตรา มิฉะนั้น จะเข้าตำรา "เงินจาง นางจร (กระเป๋าแห้ง แฟนทิ้ง) / "When poverty comes in at the door, love flies out of the window." สุดท้าย "แผ่นดินไม่ไร้เท่าใบพุทรา" หมายถึง ยังมีคน(ทาง)ให้เลือกอีกมากมาย --->There’s plenty more fish in the sea. / There are plenty of other pebbles on the beach/shore./ There are lots of good fish in the sea! Ex: When he has lost his girlfriend I comforted him with the saying that there’s plenty more fish in the sea. [เมื่อเขาสูญเสียแฟนของเขา ผมก็ปลอบใจเขาด้วยคติพจน์ที่ว่า “ยังมีผู้คนอีกมากมายที่จะต้องพบ ยังมีหลายสิ่งหลายอย่างอีกมากที่จะต้องทำ”] จากคุณ : ร่วมด้วยช่วยกัน เขียนเมื่อ : 9 พ.ค. 55 15:57:56 A:58.8.68.113 X: TicketID:255444

ความคิดเห็นที่ 14 ขอบคุณทุกความเห็นมากครับ ตอนนี้เบลอๆ บอกอะไรไม่ถูก แต่เรื่องนี้ผมกับแฟนรู้แล้วครับ ว่าผมรู้ว่าเค้ามีคนมาติดพัน มีปัญหาบางอย่างที่ไม่สามารถบอกออกไปได้ เกรงว่าจะทำให้คนรอบข้างรู้น่ะครับ ยังไงก็ขอบคุณทุกความเห็นนะครับ เรื่องจะให้เลิกกับเธอ ผมก็พร้อมครับ ถ้าเธอคิดจะไปจริงๆ เพราะเธอเป็นคนตรงๆอยู่แล้ว (เราคุยกันเรื่องนี้แล้ว) ปัญหาติดที่เธอไม่สามารถตัดใจจบได้ซักที เอาแต่ร้องไห้ ผมกลัวว่ามันจะเลยเถิดไปไกลก็เลยคิดที่จะทำเองให้มันจบๆ ไปทางไหนทางหนึ่ง จะเลิกกับผม หรือห่างจากคนนั้นก็ให้มันเป็นไป ดีกว่ามานั่งเสียใจอยู่อย่างนี้น่ะครับ ขอบคุณมากนะครับ จากคุณ : Bigbooty เขียนเมื่อ : 9 พ.ค. 55 18:01:09

ความคิดเห็นที่ 15 เอาใจช่วยนะคะ ถ้าเค้าเลือกจะไปก็ปล่อยเค้าไปค่ะ ถ้าไปแล้วคิดว่าจะดีกว่าอยู่กับเรา แผ่นดินไม่ไร้เท่าใบพุทรา จงมองเห็นคุณค่าในตัวเอง  คู่กันแล้วก็ไม่แคล้วกันค่ะ ไม่แน่นะ นี่อาจจะเป็นโอกาลให้คุณจะได้คนใหม่ที่ดีกว่า สวยกว่าผู้หญิงคนนี้ก็ได้ ป.ล. แหม่!!อยากจะให้กิฟคุณร่วมด้วยช่วยกันจริงๆ จากคุณ : อดีตอันหอมหวาน เขียนเมื่อ : 9 พ.ค. 55 18:23:10

ความคิดเห็นที่ 16 หลังจากที่ได้อ่านข้อมูลเพิ่มเติมที่เจ้าของกระทู้มาแง้มให้ใน คห.14 .....ทำให้คิดว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับแฟนสาวของคุณนั้นน่าจะเข้าค่าย "Sexual harassment / การคุกคามทางเพศ" ในสำนักงาน บางบริษัทฯ มีการระบุไว้ในคู่มือพนักงาน/Personnel Manual ภายใต้หัวข้อ "ร้องเรียน/Complaints and Grievances" หากแฟนสาวคุณเป็นฝ่ายถูกคุกคามทางเพศ โดยที่เจ้าตัวไม่ได้รู้เห็นเป็นใจ หรือไปทำพลาดท่าเสียเอง เพราะตบมือข้างเดียวไม่ดัง "It takes two to tango; it takes two to make a quarrel" ก็น่าจะปรึกษา/ขอความช่วยเหลือจากฝ่ายบุคคล เพื่อออกหนังสือเตือนหนุ่มเกาหลีให้หยุดพฤติกรรมทุศีลนี้ (ซึ่งหนุ่มเกาหลีต้องมีตำแหน่งหน้าที่การงานในบริษัทเดียวกัน) อย่าได้เกรงกลัวว่าจะโดนกลั่นแกล้งให้ตกงาน/ไม่ได้ขึ้นเงินเดือน/เลื่อนตำแหน่ง ฯลฯ เพราะเราดันไปฟ้องคนที่ตำแหน่งสูงกว่าหรือหัวหน้างาน.....อย่างไรก็ตาม เรื่องที่เกิดขึ้น มีคุณและแฟนสาวของคุณเท่านั้นที่จะรู้ว่าเหตุการณ์ได้พัฒนาไปไกลถึงขั้นไหนแล้ว แต่อย่าลืมว่า "ทุกปัญหามีทางออกเสมอ!" ดังคำคมที่ว่า ---> God never shuts one door but He opens another. หรือตามที่ท่านขงจื้อได้ตั้งข้อสงสัยไว้ว่า : “The way out is through the door. Why is it that no one will use this method?” ― Confucius. น้ำตาไม่ได้ช่วยแก้ปัญหา มิสู้ตั้งสติ ใช้ปัญญาแก้ปัญหา เปลี่ยนวิกฤติให้เป็นโอกาส ----> "In the middle of difficulty lies opportunity." & "Difficulties mastered are opportunities won./ความทุกข์ยากที่ฟันฝ่ามาได้นั่นแหละคือ โอกาสของความมีชัย" และท้ายสุดนี้ “What seems to us as bitter trials are often blessings in disguise. / ในความโชคร้ายก็มักจะมีโชคดีแฝงอยู่” ขอให้โชค A จงเป็นของคุณและแฟนสาว จากคุณ : ร่วมด้วยช่วยกัน เขียนเมื่อ : 10 พ.ค. 55 13:10:22 A:58.8.239.237 X: TicketID:255444