ความคิดเห็นที่ 1 สิบเก้าแบบนายนะมันแค่ครึ่ง % ของอีก 99.99% ที่เขาจบกันหลังยี่สิบสองยี่สิบสาม ยิ่งสาขานี้เปิดให้เรียนกันจนแก่ทีเดียว สี่ห้าสิบก็ยังเรียนกัน (นิติศาสตร์ราม/ภาคบัณฑิต) คือจะบอกว่าตรรกะการเทียบแบบนี้มันแปลกๆ เพราะถ้าจะเทียบก็ควรต้องเทียบกับคนส่วนใหญ่ ไม่ใช่กับคนส่วนน้อยแบบนี้ ไม่งั้นจะชวนคนให้หมั่นใส้ซะเปล่า จบช้าจบไวอย่าไปอะไรมาก สนใจที่ว่านายจบแล้วเรียนได้ดีได้เก่งหรือเปล่าดีกว่า บัณฑิตนิติศาสตร์นับว่าเป็นสาขาที่โหลสุดในสามโลกแล้ว ตกงานหางานทำกันไม่ได้เยอะมากๆ แบบว่าเรียนจบแค่พอผ่านคาบเส้น กฎหมายก็ไม่เก่ง ภาษาก็ไม่ได้ นับเป็นสาขาวิชาที่คนเรียนเยอะที่สุดแต่คุณภาพคนจบด้อยที่สุด(ค่าเฉลี่ย)แล้ว สรุปคือ อายุแทบไม่มีผลอะไรเลยกับคนจบนิติศาสตร์ งานดีๆ ระดับผู้พิพากษาอัยการหรือทนายเขาไม่ได้อะไรกับตรงนี้ถ้าไม่แก่หรือสุขภาพไม่ดีจนทำงานไม่ได้ ขออย่างเดียวถามตัวเองว่าเก่งพอหรือยังดีกว่า แก้ไขเมื่อ 31 พ.ค. 55 17:02:46 จากคุณ : โจโฉ (joechou) เขียนเมื่อ : 31 พ.ค. 55 16:58:27

ความคิดเห็นที่ 2 อาจารย์หยุด แสงอุทัย ปรมาจารย์นามอุโฆษทางกฎหมายของเมืองไทย ท่านสำเร็จการศึกษาเป็นเนติบัณฑิตไทย เมื่ออายุได้เพียง 16 ปี นับเป็นอัจฉริยบุคคลที่หาได้ยากยิ่ง แม้นักกฎหมายระดับปรมาจารย์ที่เกิดปีเดียวกันกับท่าน (และยิ่งใหญ่พอ ๆ กันกับอาจารย์หยุด) ก้อยังจบเนติด้วยแายุมากกว่านี้ เช่นอาจารย์สัญญา ธรรมศักดิ์ หรืออาจารย์จิตติ ติงศภัทิย์ ในทางตรงกันข้าม ที่ 1 เนติปีที่แล้ว (และเกียรตินิยมเนติคนที่สามของระเทศ) ฐิติมา แซ่เตีย เป็นนิติศาสตรบัณฑิตจากมหาวิทยัยธรรมศาสตร์ ภาคบัณฑิตเมื่ออายุได้ 27 ปีแล้ว ดังนั้นขอตอบได้เลยว่า อายุไม่มีผลอะไรเลยครับ จากคุณ : ohmygodness เขียนเมื่อ : 31 พ.ค. 55 18:06:49

ความคิดเห็นที่ 3 จขกท. ตั้งกระทู้แบบนี้  เหมือนตั้งใจจะอวดว่าเรียนจบ ตั้งแต่อายุ19 เลยค่ะ  ขอโทษนะคะที่คิดเหมือนคห.1 บอกคือ หมั่นไส้ค่ะ อายุที่จบไม่สำคัญเท่ากับการที่นำความรู้ที่เรียนมาไปใช้ประโยชน์ ได้มากน้อยแค่ไหนหรอกค่ะ จากคุณ : สาวน้อยร้อยโล เขียนเมื่อ : 31 พ.ค. 55 18:11:49

ความคิดเห็นที่ 4 ถามต่อครับ แล้วควรจะเรียนเนก่อนหรือว่าไปต่อ LLM ต่างประเทศก่อนครับ พอดีอยากไว้สอบอัยการตอนอายุ 25 ขอบคุณครับ จากคุณ : เนติ เขียนเมื่อ : 31 พ.ค. 55 18:30:33 A:124.121.162.146 X: TicketID:361603

ความคิดเห็นที่ 5 จริงๆผมอยากสอบปลัดอำเภอไปก่อนนะครับ แต่ว่าไม่ทันรอบนนี้ เผื่อได้จะได้ลองเป็นดูก่อน จากคุณ : เนติ เขียนเมื่อ : 31 พ.ค. 55 18:38:43 A:124.121.162.146 X: TicketID:361603

ความคิดเห็นที่ 6 ต่อให้จบตอนอายุ 15 ปี แต่ตั้งคำถามแบบนี้ก็ไม่ไหวนะ แสดงให้เห็นว่าการที่มีหัวดีและเรียนเก่งไม่ได้ช่วยให้คนคิดอะไรสร้างสรรค์ได้เสมอไป แก้ไขเมื่อ 31 พ.ค. 55 19:10:58 จากคุณ : เฮ้อ (Snowdust) เขียนเมื่อ : 31 พ.ค. 55 19:10:04

ความคิดเห็นที่ 7 ปูติน ก็จบบัณฑิตนิติศาสตร์ ตอนอายุ 19 จากคุณ : amited เขียนเมื่อ : 31 พ.ค. 55 19:15:40

ความคิดเห็นที่ 8 เริ่มเรียนตอนอายุเท่าไหร่ล่ะหนู ถ้าเรียนตอนอายุ 15-16 ก็ไม่ต่างกับคนที่เรียนปกติหรอก แต่แนวคิดอวดตัวแบบนี้เป็นนักกฎหมายที่ดีไม่ได้ ถ้าจะสอบใบอนุญาตว่าความก็เอาข้อมูลไป http://www.lawyerscouncil.or.th/UserFiles/File/reg.pdf จากคุณ : แม่น้องอูกะหนูอุ๊ง เขียนเมื่อ : 31 พ.ค. 55 19:41:28

ความคิดเห็นที่ 9 เพื่อนพี่จบตอนอายุ 50 ค่า น้อง ตอนนี้สอบผู้พิพากษาได้แล้วตอนอายุห้าสิบกว่าค่าาาาา   ปล. คำถามที่สอง เรียนเนฯก่อนค่ะ จากคุณ : Volksrecht เขียนเมื่อ : 31 พ.ค. 55 21:51:44

ความคิดเห็นที่ 10 ขอบคุณทุกความเห็นครับ เดี๋ยวผมเริ่มเรียนภาค 1 นี้เลยครับ จากคุณ : เนติ เขียนเมื่อ : 31 พ.ค. 55 21:59:02 A:124.121.89.168 X: TicketID:361603

ความคิดเห็นที่ 11 แอบเข้ามาหมั่นใส้ด้วยอีกคน จากคุณ : รอมานาน (mango_ao) เขียนเมื่อ : 31 พ.ค. 55 22:15:55

ความคิดเห็นที่ 12 ช้ามากๆ ครับน้อง หมั่นไส้ด้วยคน 555+ จากคุณ : บัตรผ่าน เขียนเมื่อ : 1 มิ.ย. 55 00:18:46 A:27.55.10.101 X: TicketID:331235

ความคิดเห็นที่ 13 ก็ธรรมดาน่ะ เรียน 5 ปี ทีหลัง จบสองปีครึ่งน่ะค่อยมาคุย จากคุณ : bonitas_jen เขียนเมื่อ : 1 มิ.ย. 55 01:16:45

ความคิดเห็นที่ 14 ได้เกียรตินิยมรึเปล่า ต้องอันดับหนึ่งนะ น.บ.เกียรตินิยมอันดับสองของรามได้ง่ายโคตร แค่เก็บวิชาศึกษาทั่วไปกับวิชาเลือกและเลือกเสรีที่เป็นปรนัยล้วนๆ ง่ายๆ แบบเอาข้อสอบเก่ามาเวียนออก ท่องชีทลูกพ่อขุนประยุกต์ก่อนเข้าสอบสองชั่วโมงก็ได้ G แล้ว แถมสอบตกก็ไม่มีผลกับเกียรตินิยมอีก แค่สัดส่วนวิชาศึกษาทั่วไป วิชาเลือกกฎหมาย วิชาเลือกเสรีก็เกือบๆครึ่งนึงของหลักสูตร น.บ.รามคำแหงแล้ว ที่เหลือก็แค่ปั่น G วิชาบังคับกฎหมายตัวที่ง่ายๆหน่อยให้ได้ G สัก 5-6 วิชา ก็ได้เกียรตินิยมอันดับสองของรามแล้ว เพราะรามคำแหงเค้าใช้วิธีนับ G ของหน่วยกิตทั้งหมดที่ลงทะเบียนเรียน ถ้าได้ G ครึ่งนึงของที่ลงทะเบียนเรียน(หมายถึงนับ G ทุกวิชา ไม่ได้นับเฉพาะวิชากฎหมาย) ก็ได้เกียรติสองไปเลย ถ้าเห็นเกียรติสอง น.บ.ราม ให้สงสัยไว้ก่อนว่าได้เกียรตินิยมอันดับสองจากวิชาศึกษาทั่วไป หรือได้จากวิชากฎหมายเพียวๆกันแน่ ถ้าผมเป็น HR จะเอาทรานสคริปท์มาเช็คทีละวิชาไปเลย ถ้าได้เกียรตินิยมจากวิชาศึกษาทั่วไปง่ายๆ G วิชากฎหมายน้อยๆ ผมอาจไม่รับเข้าทำงาน จากคุณ : อืม เขียนเมื่อ : 1 มิ.ย. 55 03:15:27 A:58.9.67.154 X: TicketID:338978

ความคิดเห็นที่ 15 อ้อ ส่วนถ้าคิดจะไปต่อ LL.M. สองใบเพื่อมาสอบสนามจิ๋วแล้วหละก็ เดี๋ยวนี้ก็ไม่ได้ง่ายๆแบบเมื่อก่อนแล้วนะ เพราะคนจบนอกมันมีเยอะมากขึ้นเรื่อยๆ จบยูกะหลั่วมาแค่ไหน ก.ต. ก.อ. ก็รับรองหมด คนจบนอกมันก็เลยมีเยอะขึ้นเรื่อยๆ เดี๋ยวนี้สนามจิ๋วก็แข่งขันกันสูงไม่ต่างจากสนามใหญ่หรือสนามเล็กเลย จากคุณ : อืม เขียนเมื่อ : 1 มิ.ย. 55 03:23:11 A:58.9.67.154 X: TicketID:338978

ความคิดเห็นที่ 16 คอ หอ 14 อธิบายดุเดือดดี ขอถามเพิ่มเติมนิด เกียรตินิยมอันดับ 2 ของ มธ นี่ได้ยากไหม วัดกันอย่างไร มีพรรคพวกเขาอยากเรียนเป็นปริญญาที่ 2 เลยแจ้งเท่าที่ทราบว่า ข้อสอบบรรยายล้วน ไม่ใช่เกรด คะแนน 60 ผ่านแบบตัวใครตัวมัน  และที่นี่เรียกว่า เกียรตินิยมดี หรือ ดีมาก หากเป็นอันดับ 1   ไม่ทราบปัจจุบันยังใช้เกณฑ์นี้อยู่หรือเปล่า ? จากคุณ : กื้อ เขียนเมื่อ : 1 มิ.ย. 55 06:09:29

ความคิดเห็นที่ 17 อ่อ ครับ ของผมจบประมาณ 3.1x กว่าๆ เดี๋ยวเรียนเนจบแล้วว่าจะไปต่อ LLM สอบสนามจิ๋วไม่ได้ก็ลองเป็นอาจารย์ดูก็ได้ครับ ขอบคุณครับ จากคุณ : เนติ เขียนเมื่อ : 1 มิ.ย. 55 08:16:13 A:27.130.96.26 X: TicketID:361603

ความคิดเห็นที่ 18 คห 13 ผมไม่ได้จบ 5 ปีนะครับ // ผมเริ่มเรียนตอน ม 4 เทอม 2 ครับ จบเทอมที่แล้วก็ 3 ปีครึ่งพอดี แต่ถ้่าได้เป็นอาจารย์ก็ดีครับ ไม่เดือนร้อนเรื่องเงินครับเป็นอะไรก็ได้ยังไงก็มีเงินใช้ครับ จากคุณ : เนติ เขียนเมื่อ : 1 มิ.ย. 55 08:19:11 A:27.130.96.26 X: TicketID:361603

ความคิดเห็นที่ 19 ผมก็ตั้งใจว่าจะเรียนเนให้จบภายใน 1 ปีครับ จะได้อายุ 20 ไม่เกิน 21 หลังจากนั้นจะไปต่อ LLM สัก 2 ใบครับ เวลาที่เหลือๆว่าจะช่วยที่บ้านทำธุรกิจต่อครับ พออายุครบ 25 ผมก็จะลองสอบผู้ช่วยดูครับ ไว้เดี๋ยวถ้าจบเน 1 ปี ผมจะมาตั้งกระทู้ใหม่ครับ จากคุณ : เนติ เขียนเมื่อ : 1 มิ.ย. 55 08:25:47 A:27.130.96.26 X: TicketID:361603

ความคิดเห็นที่ 20 คิดเหมือนความเห็น 3 เป๊ะว่าเป็น "กระทู้อวด" มากกว่า การเรียนจบระดับปริญญาตรี ปกติ จะจบตอนอายุ 22 ปี (เริ่มเรียนปี 1 อายุ 18 ปี)  เรียนแบบไม่มีการข้ามชั้น ไปทีละ step ร้อยละ 99 จะตามนี้ค่ะ จากคุณ : คนขี้บ้น..ขี้บ่น (kjean) เขียนเมื่อ : 1 มิ.ย. 55 08:53:03

ความคิดเห็นที่ 21 เฮ้อ อ่านๆ ดู เหมือนว่า  จขกท.จะยังไม่รู้ตัวนะครับ     อิ..อิ..อิ..อิ.. จากคุณ : อาร์คีมิดิส เขียนเมื่อ : 1 มิ.ย. 55 08:54:44

ความคิดเห็นที่ 22 เรียนคุณเกื้อครับ ปริญญานิติศาสตร์ภาคบัณฑิตของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เท่าที่ทราบไม่มีชั้นเกียรตินิยมนะครับ อาจจะเพราะไม่ต้องศึกษาวิชาทั่วไป และวิชาเลือกเสรี ทำให้จำนวนหน่วยกิตน้อยกว่าภาคเด็ก คุณฐิติมา แซ่เตีย ที่ 1 เนติปีที่แล้วก้อสำเร็จการศึกษาจากภาคบัณฑิต แต่ไม่ได้เกียรตินิยมนะครับ ที่ 1 ของธรรมศาสตร์รุ่นที่ผ่านมาก้อเป็นภาคบัณฑิตเช่นกัน แต่ไม่ได้เกีนรตินิยมแม้จะได้คะแนนกว่า 80 เปอร์เซ็นต์ ปริญญานิติศาสตรบัณฑิต ภาคผู้ใหญ่ ของมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ก้อเช่นกันครับ ไม่มีสิทธิได้เกียรตินิยม ส่วนของรามฯ ถ้าหากโอนวิชาจากปริญญาใบแรกไป ก้อไม่มีสิทธิได้เกียรตินิยมดช่นกันครับ ของจุฬาฯ ไม่แน่ใจ แต่คิดว่าน่าจะไม่ได้ จากคุณ : ohmygodness เขียนเมื่อ : 1 มิ.ย. 55 09:12:10

ความคิดเห็นที่ 23 เหมือน เจ้าของกระทู้ จะรู้แต่แกล้งไม่รู้ ว่า เด็กปกติเขาเรียนมหาวิทยาลัยจบกัน 22-24 กัน ดังนั้น เจ้าของกระทู้จบพรีดีกรีได้ตั้งแต่ 19 เลยมองไม่ออกว่า ช้าไปหรือเร็วไป จากคุณ : natthaset เขียนเมื่อ : 1 มิ.ย. 55 10:08:22

ความคิดเห็นที่ 24 เรียนควบ จนจบ นิติราม ยกนิ้วให้ นายแน่มาก ป้ายต่อไป คือ เนติฯ พร้อมเอา ตั๋วทนาย จะดี คุณจะเป็น เนติ อายุ 20 ปี จะดีมาก ถ้า เรียน บัญชี จบด้วย และสอบ CPA ได้ ถ้าภาษา อังกฤษ เยี่ยม ค่าตัวคุณเริ่มต้น 30K ครับ พี่ จบ วศบ อายุ 20 จบMBA 35 กำลังเรียน นิติ ที่ มสธ. หวังว่า ตอนเจอกันใน ศาล ผมจะนั่งตรงกลาง นะ แล้ว คุณ จะอยู่ ฝาก ขวา ในฐานะอัยการ หรือ โจทก์  หรืออยู่ฝากซ้ายในฐานะ ทนายของจำเลย อยากไปอยู่ในกรง ก็แล้วกัน จากคุณ : ไทปัน เขียนเมื่อ : 1 มิ.ย. 55 10:50:07

ความคิดเห็นที่ 25 ขอบคุณครับ คห 24 แต่ผมไม่ถนัดคณิตศาสตร์ครับ และไม่ชอบมากๆด้วย หลังจบ เน คงจะไปต่อ LLm ครับ แต่ต้องหาอาจารย์รามเขียน letter of recommendation ก่อนจะมีคนเขียนให้ไหมเนี้ย จากคุณ : เนติ เขียนเมื่อ : 1 มิ.ย. 55 10:55:10 A:27.130.96.26 X: TicketID:361603

ความคิดเห็นที่ 26 ว่าแต่สนามจิ๋วเดี๋ยวนี้ มันสอบยากแล้วหรือครับ กว่าผมจะอายุถึงอีก ก็ 5-6 ปี สนามใหญ่ เล็กไม่ไหวครับ ผมคงจะสู้ไม่ไหว 5555 จากคุณ : เนติ เขียนเมื่อ : 1 มิ.ย. 55 10:58:35 A:27.130.96.26 X: TicketID:361603

ความคิดเห็นที่ 27 ผมกำลังจะจบ ของ มสธ ตอนนี้ผม อายุ 20 ครับ เรียน ไม่ถึง 2 ปี นะครับ ^^ การสอบสนามใหญ่ เล็ก จิ๋ว ของคนจบเร็ว ในความคิดผมถือว่าได้เปรียบนะ เพราะมีเวลาเตรียมตัวมากกว่าคนอื่นตั้งเยอะ ถ้าเราอยากจะเป็นท่าน ก็ ต้องพยายาม และต้องมีศีลธรรมด้วย เพราะอาชีพทางกฎหมาย ถ้าไม่มีศีลธีรรม จริยธรรม ก็ไม่ควรทำอาชีพที่เกี่ยวกับกฎหมาย เพราะคุณไม่สามารถผดุงไว้ซ่งความยุติธรรมได้ แต่สำหรับผมก็ไหนๆก็เรียนิติมาแล้ว ก็ขอจบเนติฯ ขอมีใบอนุญาตทนายด้วยละกัน แต่ใจจริงตั้งใจว่าจะเป็นอาจารย์ทางด้านผังเมือง มากกว่า ยังไงก็เป้นกำลังใจให้นะครับ ^^ จากคุณ : PingzaThammasat (PingZaThammasat) เขียนเมื่อ : 1 มิ.ย. 55 11:49:00

ความคิดเห็นที่ 28 #22 ไม่รู้อะไรก็เงียบๆไปดีกว่า น.บ.ภาคบัณฑิตทั้งของจุฬาฯ และ มธ.ให้เกียรตินิยมได้ครับ ของจุฬาฯ คิดคำนวณเฉพาะวิชาที่เรียน 120 กว่าหน่วยกิต ส่วนของ มธ. ทั้งภาคปกติและภาคบัณฑิต มันคิดเกียรตินิยมเฉพาะวิชาบังคับกฎหมาย 31 วิชาเท่านั้น ทั้งภาคปกติและภาคบัณฑิต ก็เรียนวิชาบังคับเหมือนกัน เพียงแต่ภาคบัณฑิตมันจะตัดวิชาศึกษาทั่วไปกับเลือกเสรีออก เพราะถือว่าเคยเรียนมาแล้ว เรียนแต่วิชาเฉพาะ 31 วิชา แต่ภาคปกติต้องเรียนศึกษาทั่วไปกับเลือกเสรีด้วย แต่ไม่เอาสองหมวดนี้มาคิดเกียรตินิยม ขอแค่พอผ่านเท่านั้น สองหมวดนี้จึงไม่มีผลต่อการได้เกียรตินิยม คือขอให้ได้เกรด ซี ขึ้นไปเท่านั้น ดังนั้นจึงไม่แปลกอะไรที่จะเห็นเด็กภาคปกติ ได้เกียรตินิยมอันดับหนึ่ง แต่ได้เกรดวิชาศึกษาทั่วไปกับเลือกเสรีห่วยมาก คือมีแต่ C ทุกวิชา รายกรณีคุณฐิติมานั้น เธอขาดสอบไปหลายวิชาเหมือนกันเพราะเหตุผลด้านสุขภาพ ที่ มธ.ขาดสอบมีค่าเท่ากับสอบตก ทำให้ไม่มีผลได้เกียรตินิยม(ไม่รู้นะ เธอจะให้สัมภาษณ์ตลอดว่าขาดสอบ ผมแอบคิดเอาเองว่าบางทีเธออาจจะสอบตกในบางวิชา แต่ไม่พูดไม่บอกก็ได้ เพราะบอกแก่สาธารณชนว่าขาดสอบด้วยเหตุผลด้านสุขภาพมันดูดีกว่าสอบตก) ส่วนน.บ.ที่หนึ่งของธรรมศาสตร์ปีการศึกษา 2553 นั้น มาจากภาคบัณฑิตนะครับ เป็นผู้หญิง ชื่อคุณจุฑามาศ น้ำเงิน ได้ 86 จุดกว่าๆเปอเซ็นต์ ได้เกียรตินิยมอันดับหนึ่งแล้วก็ทุนภูมิพลไปด้วย ซึ่ง น.บ.ภาคบัณฑิตนั้นมีศักดิ์และสิทธิเช่นเดียวกับภาคปกติทุกประการ สำหรับ มธ. เวลารับปริญญานี่จะ merge ทั้งภาคปกติและภาคบัณฑิตเข้ารวมเป็นแถวเดียวกัน ส่วนจุฬาฯ จะรับแยกเป็นสองกลุ่ม สองแถว และที่ผ่านมา ก็มีอาจารย์นิติ มธ.และจุฬาฯ ส่วนนึงที่จบมาจากภาคบัณฑิตด้วย จากคุณ : อืม เขียนเมื่อ : 1 มิ.ย. 55 13:04:04 A:58.9.150.89 X: TicketID:338978

ความคิดเห็นที่ 29 นิติมธ. ภาคบัณฑิตมีเกียรตินิยมนะคะ   จะเอาคะแนนเฉลี่ยของภาคบัณฑิตไปเรียงรวมกับภาคปกติ  เวลารับปริญญาภาคบัณฑิตกับภาคปกติก็จะนั่งปนกันไปเลยตามลำดับคะแนนเฉลี่ยที่ได้   ตอนเรารับปริญญาก็มีพี่ภาคบัณฑิตมานั่งข้างเราค่ะ  อยู่ในแถวเกียรตินิยม แล้วก็เมื่อหลายๆปีก่อน ก็มีภาคบัณฑิตได้เกียรตินิยมอันดับ 1 ด้วย ส่วนเรื่องได้เกียรตินิยม มธ. ยากไหม...ความยากมีประการเดียวค่ะ คือ "ห้ามสอบตก" ตกวิชาเดียวคือจบค่ะ ถึงจะได้คะแนนเฉลี่ยร้อยละ 99 ก็ไม่ได้เกียรตินิยม มีนักศึกษาจำนวนมากที่รักษาตัวมาได้ถึงปี 4 แล้วดันมาสอบตกเอาตอนปี 4 อย่างเซ็งเลย  ส่วนคนที่สอบตกตั้งแต่เทอมแรกหรือปีแรก ก็จะชิลด์ๆ เรียนสบายๆแล้ว ไม่กดดันแล้ว เพราะหมดสิทธิได้เกียรตินิยมไปตั้งแต่แรก หลังจากนี้จะสอบตกบ้างอะไรบ้างก็ไม่เป็นไร บางคนนี่คะแนนเฉลี่ยสูงมากๆเลยค่ะ สูงกว่าเด็กเกียรตินิยมบางคนอีก เช่นได้ 80+  ซึ่งมีน้อยคนที่จะได้คะแนนสูงระดับ 80+  แต่ดันสอบตกไปตัวนึง ก็อดเกียรตินิยมไป  แต่เด็กกลุ่มนี้ก็จะอยู่ในฐานได้งานดีๆค่ะ ได้ Inter Firm ดีๆกันเยอะ เพราะถึงอย่างไรก็คะแนนเฉลี่ยสูงมาก แม้ไม่ได้เกียรตินิยม แก้ไขเมื่อ 01 มิ.ย. 55 13:07:41 จากคุณ : Volksrecht เขียนเมื่อ : 1 มิ.ย. 55 13:05:22

ความคิดเห็นที่ 30 ส่วนเกณฑ์เกียรตินิยมของ มธ.นั้น คือ เกียรติสอง ได้ 75% ขึ้นไป ไม่เคยสอบตก(หรือขาดสอบ)ทุกรายวิชา ใช้เวลาเรียนภายในเวลาที่กำหนด(ภาคปกติสี่ปี ภาคบัณฑิตสามปี) เกียรติหนึ่ง ได้ 85% ขึ้นไป ไม่เคยสอบตก(หรือขาดสอบ)ทุกรายวิชา ใช้เวลาเรียนภายในเวลาที่กำหนด(ภาคปกติสี่ปี ภาคบัณฑิตสามปี) ส่วนเกียรตินิยมดี กับดีมากนั้น เชยมาก เค้าจะให้ในสมัยรุ่นอาจารย์เกียรติขจรนู่น ปัจจุบันนี้ก็อันดับหนึ่งอันดับสองตามปกตินี่แหละ ปล.ปีการศึกษา 2553 มี น.บ.เกียรตินิยมอันดับหนึ่งจากธรรมศาสตร์ถึงหกคน ซึ่งถือว่าเยอะมาก มาจากภาคปกติ สามคน ภาคบัณฑิต สามคน จากคุณ : อืม เขียนเมื่อ : 1 มิ.ย. 55 13:09:11 A:58.9.150.89 X: TicketID:338978

ความคิดเห็นที่ 31 3 ปีครึ่งจบปกติค่ะ ไม่เร็วไม่ช้า (แต่เพื่อนสนิทเราจบ 3 ปีนะ ส่วนเพื่อนคนอื่นก็ 3 ปีครึ่งเนี่ยแหละ มีบางคนเกินไป 4-5 ปีบ้างแล้วแต่ความรับผิดชอบ) จากคุณ : -0- เขียนเมื่อ : 1 มิ.ย. 55 13:41:25 A:118.172.255.102 X: TicketID:172388

ความคิดเห็นที่ 32 ขอบพระคุณทุก คห ครับ # 29 ตอนนั่งเรียงแถวขึ้นรับปริญญา ก็ต้องรู้กันว่าใครได้คะแนนสูงต่ำ คนสุดท้ายของคณะ นี่ มิ 60 เศษ ๆ หรือครับ หรือ นศ ที่นี่เขาเรียนเก่งกันทั้งนั้น ? จากคุณ : กื้อ เขียนเมื่อ : 1 มิ.ย. 55 15:59:07

ความคิดเห็นที่ 33 จะดีหรือครับไปเรียน LLM ต่างประเทศ เลย ก็ลองดู ยกตัวอย่าง คนจะเรียนกฏหมายในอเมริกา จะต้องจบ ป.ตรี สาขาอื่่นมาก่อน ถึงจะเกียนกฏหมายได้ พูดง่ายๆ คือมีประสบการณ์ด้านวิชาชีพมาบ้างแล้ว แต่ตาม ท่านๆที่นั่งMB ไปทำงาน ท่าน เรียนตรงมาอ่านเดียว มาสอบเลย การวินิจฉัย บ้านเมืองเราถึงได้เป็นเยี่ยงนี้ แต่ก็ว่าไม่ได้ พระองค์ ระพี ก็เรียน กฏหมายจบ อายุ ยังน้อยอยู่เลย อายุ 17 เข้าเรียนกฏหมายได้ แถมเรียน กฏหมาย 3 ปีจบ ได้เกียรติ์นิยม อีกต่างหาก “ขอเดชะพระอาญามิพ้นเกล้าฯ ในเวลาที่ข้าพระพุทธเจ้าจะเลือกผู้พิพากษาก็ดี เลื่อนชั้นผู้พิพากษาก็ดี ข้าพระพุทธเจ้าถือหลักในใจอยู่เพียงสองข้อคือ ต้องมีสติปัญญาเฉียบแหลมเฉลียวฉลาดหนึ่ง และต้องมีความซึ่งสัตย์สุจริตอีกอย่างหนึ่ง พูดสั้น ๆ ต้องฉลาด และต้องไม่โกง ถ้าโง่ก็ไม่ทันคนอื่น โจทก์จำเลยจะต้มเอาได้ทำให้เสียความยุติธรรม แต่ถ้าฉลาดแล้วโกง ก็ทำให้เสียความยุติธรรมอีกเหมือนกันจะซ้ำร้ายไปกันใหญ่ ข้าพระพุทธเจ้ามิได้สอบสวนหรือเอาใจใส่กิจธุระส่วนตัวของผู้พิพากษาแต่ละคน ใครจะกินเหล้าเที่ยวเตร่ นอกเหนืออำนาจของเสนาบดีจะพึงบังคับบัญชา...” จากคุณ : ไทปัน เขียนเมื่อ : 1 มิ.ย. 55 18:10:33

ความคิดเห็นที่ 34 ครับก็คงจะเป็นอย่างคห 33 ว่า ทุกวันนี้ไปไหนมาไหนผมก็ขับรถไปเองตลอดเลยครับ ไม่เคยได้ขึ้นรถเมล์หรือรถตู้ครับ พอดีมันอึดอัดร้อนมากครับ กลัวขึ้นแล้วคนข้างๆตัวเหม็นหายใจไม่ออกครับ ประกอบกับแถวบ้านผมราชพฤกษ์ไม่ค่อยมีบริการสาธารณะครับ สมัยมัธยมพ่อแม่ก็ไปส่งตลอดครับ จากคุณ : เนติ เขียนเมื่อ : 1 มิ.ย. 55 18:15:20 A:124.121.87.131 X: TicketID:361603

ความคิดเห็นที่ 35 ต่อ #29 เรียงคะแนนเฉพาะกลุ่มเกียรตินิยม ส่วนที่ไม่เกียรตินิยม ถ้าจำไม่ผิด น่าจะเรียงตามตัวอักษร ไม่ยืนยันนะคะ จำไม่ค่อยได้แล้ว  จำได้แต่เกียรตินิยม ปล. น้องน่าจะไปทำงานซักหน่อยนะคะ โลกนี้ไม่ง่ายนัก จากคุณ : Volksrecht เขียนเมื่อ : 1 มิ.ย. 55 22:01:26

ความคิดเห็นที่ 36 เห้นความคิดความอ่านคนๆนี้แล้วอยากอ้วกมาก สงสัยจะไม่รุ้ตัวจริงอะไรจริง ขี้อวดขี้โม้แถมหัวสูงอีกต่างหาก ไม่รุ้ว่ารามผลิตคนกากๆแบบนี้ออกมาได้ไง แบบนี้จะไปสอนใครตัดสินใครได้ แหวะมากๆ จากคุณ : book เขียนเมื่อ : 2 มิ.ย. 55 16:01:52 A:101.109.220.187 X: TicketID:361836

ความคิดเห็นที่ 37 มธ. ถ้าไม่ได้เกียรตืนิยมจะเรียงตามวันที่แจ้งจบค่ะ ปล จขกท ฮาดีอ่ะ จากคุณ : Pretty Penny เขียนเมื่อ : 2 มิ.ย. 55 16:18:59

ความคิดเห็นที่ 38 จขกท.เขาไม่ได้อวดหรอกครับ แค่มีปัญหาทางบ้านเฉยๆ เรื่องอะไรที่แต่งแล้วดูดีก็เอามาพ่นให้ตัวเองสูงขึ้น เพราะความเป็นจริงมันตรงกันข้ามไงครับ ป.ล. โปรดสังเกตว่า กระทู้ปมด้อยพวกนี้เป็นบัตรผ่านทั้งสิ้น แล้วที่น่าสงสารยิ่งกว่าคือ เขาสมัครมาเพื่อวัตถุประสงค์นี้โดยเฉพาะด้วยนะครับ ไม่แน่ใจว่าคนปกติเขาทำกันไหม จากคุณ : lARtZnolASt เขียนเมื่อ : 2 มิ.ย. 55 16:29:14

ความคิดเห็นที่ 39 ไม่ทราบว่าน้องผ่านวิชา RU 100 ของรามมาได้อย่างไรค่ะ จากคุณ : รุ่นพี่ราม เขียนเมื่อ : 2 มิ.ย. 55 20:34:11 A:182.53.33.223 X: TicketID:361868

ความคิดเห็นที่ 40 ตลาดวายแล้วจ้า จากคุณ : สงกาดรุณ เขียนเมื่อ : 3 มิ.ย. 55 05:43:17

ความคิดเห็นที่ 41 คห.36คะ อย่าโทษสถาบันเลยค่ะ ขอร้อง รามคำแหงเป็นมหาวิทยาลัยที่ให้โอกาสคนมากที่สุด ทั้งคนจน คนเจ็บจากเอนท์ไม่ติด คนที่อาจจะไม่มีที่ไป และคนดีๆที่พลาดโอกาสมาจากที่อื่น ส่วนคนกากๆเราว่ามีแฝงตัวอยู่ทุกที่ทุกสถาบัน ควรจะโทษเบ้าหลอมจากตอนที่ยังเป็นก้อนดินให้ปั้นใหม่ๆมากกว่าว่าตอนนั้นคนปั้นปั้นเป็นรูปอะไร เราคนรุ่นใหม่รู้ว่าชอบหรือไม่ชอบอะไรเมื่อต้องปั้นเองก็ตั้งใจปั้นให้ได้ดีๆแล้วกันนะคะ อย่าไปโยนบาปให้สถาบันหรือสังคมเลย จากคุณ : @ ตะวันสีกุหลาบ @ เขียนเมื่อ : 3 มิ.ย. 55 16:15:18

ความคิดเห็นที่ 42 แจ้งลบเถอะครับ กระทู้อวดรู้ อวดรวย จากคุณ : nameless เขียนเมื่อ : 3 มิ.ย. 55 17:00:04 A:118.173.95.138 X: TicketID:125428

ความคิดเห็นที่ 43 ช้า มั้งง ครับ... .... คิระ  ยามาโตะ  จบ วิศวะ  ตอนอายุ 16 }}} ขับ  กันดั้ม. ฟีด่อม  รบกับ ..ข้าศึก ทั้งกองทัพ. ... จากคุณ : นาย หุ้น n-park (prince-npark) เขียนเมื่อ : 3 มิ.ย. 55 22:56:53

ความคิดเห็นที่ 44 อ่านไปอ่านมา "น่าสงสาร" มากกว่า "น่าอิจฉา" แก้ไขเมื่อ 11 มิ.ย. 55 03:19:11 จากคุณ : Mameaw&Kamo เขียนเมื่อ : 11 มิ.ย. 55 03:13:36

ความคิดเห็นที่ 45 เข้ามาตอนตลาดวาย ไม่ทันละ 555 คนประเภทนี้ผมเจอมาเยอะ พยายามเขียนให้คนหมั่นไส้ ทำให้บัตรผ่านดีๆเสียหายหมด ความจริงเป็นยังไงเจ้าตัวคงจะรู้ดีละครับ ผมยังไม่เห็นประโยชน์จากการตั้งกระทู้อวดตัวเองให้คนหมั่นไส้เลยครับ สังคมเครียดขึ้นทุกวันเลยต้องหาทางระบายแบบนี้ คิดแล้วก็น่าสงสารเหมือนกันครับ จากคุณ : ชีวิตยังมีทางออกเสมอ เขียนเมื่อ : 14 มิ.ย. 55 11:04:31 A:110.169.205.86 X: TicketID:118563

ความคิดเห็นที่ 46 มาอ่านตอนตลาดวายแล้ว  เหมือนเค้าจะอวดรวยด้วยอ่ะคะ  อ่านไปอ่านมาแล้วอยากจะอ๊วก จากคุณ : รอมานาน (mango_ao) เขียนเมื่อ : 16 มิ.ย. 55 23:49:09