ความคิดเห็นที่ 1 เมื่อตามไปดูเวปของกรมเจ้าท่า ในเรื่องประวัติของกรม ก็เขียนเกี่ยวกับกัปตันบุชไว้เพียงเท่านี้ ชื่อภาษาอังกฤษยังสะกดผิดเลย ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว “ทางราชการได้ทำสัญญาจ้างกัปตัน จอห์น บูช (John buch) ชาวอังกฤษ  มาเป็นผู้ริเริ่มงานฝ่ายเจ้าท่า มีการลงนามในสัญญาระหว่างไทยกับอังกฤษ เมื่อวัน  8ฯ9 ค่ำ จุลศักราช 1221 ปีมะแม เอกศก ตรงกับวันศุกร์ที่ 5 สิงหาคม พ.ศ. 2402 กรมเจ้าท่าจึงถือเอาวันที่ 5 สิงหาคมของทุกปี เป็นวันคล้ายวันสถาปนากรมเจ้าท่า สมัยกัปตัน บูช เป็นเจ้าท่า ตำแหน่งเจ้าท่าขึ้นอยู่ในกรมพระคลัง ต่อมาย้ายสังกัดอยู่ในกระทรวงการต่างประเทศ ซึ่งเดิมมีชื่อว่า "กรมท่า" (Kromata) พ.ศ. 2432 ย้ายไปอยู่กระทรวงโยธาธิการ ครั้นพระยาวิสูตรสาครดิษฐ์ชราภาพ ได้กราบถวายบังคับลาออกจากราชการ กัปตัน เอ. อาร์. วิล เป็นเจ้าท่าสืบแทน ต่อมา เมื่อกัปตันวิล ถึงแก่กรรม ใน พ.ศ. 2438 ได้ยุบตำแหน่งเจ้าท่าลงเป็นตำแหน่งเวรท่ามีนาย โยเกนซัง ชาวเดนมาร์ก เป็นเวรท่า ทำหน้าที่ตรวจตราลำแม่น้ำ ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระองค์ทรงโปรดเกล้าฯ ให้ตั้งที่ทำการของกรมที่ตึกเจ้าสัวเส็งริมแม่น้ำเจ้าพระยา ข้างตลาดน้อย ตรงข้ามปากคลองสาน (คือที่ตั้งของกรมเจ้าท่าในปัจจุบัน) ใน พ.ศ. 2439 ทรงยกฐานะเวรท่าเป็น กรมเจ้าท่าและทรงแต่งตั้ง ม.ร.ว. พิณ สนิทวงศ์ เป็นเจ้ากรมเจ้าท่า พ.ศ. 2444 ย้ายสังกัดกรมเจ้าท่าไปขึ้นอยู่ในกระทรวงนครบาล พ.ศ. 2448 กรมเจ้าท่าได้ยกฐานะเป็นกรมชั้นอธิบดี และ ทรงให้ตราพระราชบัญญัติการเดินเรือในน่านน้ำไทย ร.ศ. 124 (พ.ศ. 2448) และในปีนี้เอง ทรงเริ่มปรับปรุงกิจกรรมกรมเจ้าท่าขึ้นใหม่ โดยยกเอางานบางส่วนจากกรมคลองเดิมมารวมกับกรมเจ้าท่า” . . ผมต้องหันไปพึ่งเวปภาษาอังกฤษจึงพอจะแกะรอยกัปตันคนดังนี้ได้บ้าง พอจะเอามาเขียนกระทู้ให้อ่านสนุกๆเป็นความรู้รอบตัวของคนกรุงเทพได้สักเรื่องหนึ่ง ก่อนอื่นต้องบอกว่าชื่อภาษาอังกฤษของกัปตันบุช เขียนอย่างถูกต้องตามที่จารึกบนหลุมฝังศพ ดังนี้ ADMIRAL SIR JOHN BUSH K.C.W.E.   เซอร์ จอห์น บุช เคซีดับเบิ้ลยูอี ในภาคภาษาไทยชื่อ นายพลเรือเอก พระยาวิสูตรสาครดิฐ จากคุณ : Navarat.C เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 55 07:54:34

ความคิดเห็นที่ 2 จอห์น บุชเป็นนายเรือที่มากรุงเทพพร้อมกับศรีภรรยา อลิซาเบท ลอร์สัน บุชในปีพ.ศ.๒๔๐๐ หลังจากที่สยามลงนามในสนธิสัญญาทางพระราชไมตรีกับอังกฤษเพียงปีเดียว โดยข้อตกลงข้อหนึงในนั้นคือการที่สยามจะต้องเปิดท่าเรือรับการค้าจากต่างประเทศ นอกจากอังกฤษแล้วฝรั่งเศสและอเมริกาเป็นชาติที่ติดตามเข้ามาทำสนธิสัญญาฉบับเดียวกันอย่างรวดเร็ว การพาณิชย์นาวีก็เบิกบานขึ้นในทันใดจนท่าเรือกรุงเทพแน่นขน้ดไปด้วยเรือสินค้านานาชาติ สุดปัญญาที่ข้าราชการกรมท่าคนไทยจะบริหารจัดการได้ พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าฯจึงทรงมีพระราชประสงค์จะได้ฝรั่งสักคนที่มีประสบการณ์มารับราชการในงานนี้ จึงทรงทาบทามกัปตันบุช เมื่อเซอร์ซอมเบิร์กกงสุลใหญ่อังกฤษสนับสนุน จอห์น บุชก็ตอบรับพระกรุณา ลาออกจากราชการอังกฤษ ทรงตั้งตำแหน่งให้เป็นที่หลวงวิสุทธิ์สาครดิฐเจ้าท่า และกัปตันบุชก็รับหน้าที่เป็นนายท่าของท่าเรือกรุงเทพอันคึกคักมากที่สุดแห่งหนึ่งในอุษาคเนย์ ในภาพเป็นท่าเรือกรุงเทพในสมัยรัชกาลที่สี่ ตามจินตนาการของผู้สร้างหนังเรื่อง “แอนนาแอนด์เดอะคิง” จากคุณ : Navarat.C เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 55 07:55:27

ความคิดเห็นที่ 3 สยามมิได้เพียงแต่จะมีกิจการด้านการท่าเรือเท่านั้น สมัยนั้นทั้งออกแบบและสร้างเรือของตนเอง ตั้งแต่เรือขนาดใหญ่มีปั้นจั่นยกของในตัวไปจนเรือขนาดเล็ก ที่กำลังทดลองเรือกลไฟต้นแบบอยู่ก็มี แต่สยามก็ขาดบุคคลากรระดับกัปตันผู้มีประสบการณ์มาขับเคลื่อนมัน ในบรรดาข้าราชการคนไทยไม่มีใครจะมีความรู้ความชำนาญเท่ากัปตันบุช พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าฯเวลาจะเสด็จทางทะเล จะต้องใช้กัปตันบุชทำหน้าที่ผู้บังคับการเรือพระที่นั่ง อ่างศิลาหรืออ่างหิน เป็นสถานที่หนึ่งที่ทรงโปรด เพราะทรงมีพระตำหนักอยู่ที่นั่น ในคราวที่เสด็จคลองวาฬเพื่อทอดพระเนตรสุริยุปราคาที่ตำบลหว้ากอ กัปตันบุชก็เป็นผู้บังคับการเรือพระที่นั่งเป็นเรือธงนำขบวนหมู่เรือรบไป ณ จุดที่ทรงคำนวณขึ้นนั้น จากคุณ : Navarat.C เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 55 07:58:01

ความคิดเห็นที่ 4 พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าฯทรงเป็นพระมหากษัตริย์พระองค์แรกของสยามที่เสด็จไปทั่วพระราชอาณาจักรทีอยู่ชายทะเลโดยชลมารค โดยกัปตันบุชจะเป็นผู้บังคับการเรือพระที่นั่งเป็นส่วนใหญ่ ส่วนพระราชโอรสที่เสด็จขึ้นครองราชย์สืบต่อจากพระองค์คือพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าฯ ถือเป็นพระองค์แรกที่เสด็จต่างประเทศ ในปีพ.ศ.๒๔๑๔ พระองค์ได้เสด็จอินเดีย กัปตันบุชได้เป็นผู้บังคับการเรือพระที่นั่งชื่อบางกอก สนองพระเดชพระคุณ หลังจากทรงกระทำพิธีพระบรมราชาภิเษก ได้โปรดเกล้าให้สั่งต่อเรือพระที่นั่งลำใหม่ขึ้นจากประเทศอังกฤษในปีพ.ศ.๒๔๒๑ เป็นเรือสกูนเนอร์ที่มีเครื่องและใบจักรท้าย แต่มีกระโดงให้แล่นใบได้ พระราชทานชื่อว่า “เรือเวสาตรี” ทรงโปรดที่จะใช้เรือลำนี้เสด็จพระราชดำเนินทั้งทางแม่น้ำและทางทะเล ผู้บังคับการเรือลำนี้ชื่อกัปตันริชลิว ชาวเดนมาร์ก (นาวาเอก พระชลยุทธโยธิน ยศขณะนั้น) ในคราวที่เสด็จแปรพระราชฐานไปพระราชวังบางปะอินครั้งหนึ่งกัปตันตัวจริงไม่อยู่ กัปตันบุชถูกเรียกตัวไปปฏิบัติราชการแทน เมื่อถึงท้องคุ้งแถวปทุมธานีที่เรียกว่าลานเท ลมแรงเกิดพัดกระหน่ำมาด้านขวางทำให้เรือเวสาตรีวิ่งพลาดร่องลึก ไถลไปติดสันทรายใต้น้ำ พระเจ้าอยู่หัวต้องเสด็จต่อโดยเรือพระที่นั่งสำรอง ซึ่งเป็นเรือกลไฟใบจักรข้าง ทิ้งให้กัปตันบุชอยู่แก้สถานการณ์จนกระทั่งนำเรือออกจากสันทรายได้ หลังจากนั้น ก้ปตันบุชก็ไม่ได้รับงานสำคัญในเรือพระที่นั่งอีก จากคุณ : Navarat.C เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 55 07:58:52

ความคิดเห็นที่ 5 งานราชการในรัชกาลนี้คงเบามือ เพราะงานในกรมท่าคนไทยปฏิบัติหน้าที่ได้แล้ว กัปตันบุชจึงใช้เวลาหนักไปทางธุรกิจ เขาจัดตั้งอู่เรืออันทันสมัยขึ้นรับทั้งงานหลวงงานราษฎร์ตั้งแต่พ.ศ.๒๔๐๘ ครั้งรัชกาลที่๔แล้ว ชื่อ บางกอกด๊อกกัมปานี มีชื่อเสียงไปทั่วย่านนี้ เรือดีๆไม่ต้องลากไปซ่อมที่สิงคโปร์อีกต่อไป ชีวิตน่าจะลงตัวดีแล้ว จากคุณ : Navarat.C เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 55 08:01:04

ความคิดเห็นที่ 6 แต่ประมาณสิบปีหลังจากนั้น กลับเกิดเหตุเลวร้ายหนักหนาสาหัส คือในปีพ.ศ.๒๔๓๓  กัปตันชราอายุ๗๑ปี ไม่ทราบถูกใครเรียกใช้งานให้เป็นกัปตันเรือเวสาตรีอีก เพื่อเกาะหมู่เรือพระที่นั่งอุบลบูรทิศ ในคราวเสด็จประพาสแหลมมลายูฝั่งตะวันตกของอังกฤษ คราวนี้ไปชนหินโสโครกระหว่างเดินทางไปเข้าแม่น้ำกลัง (ที่ตั้งของท่าเรือปอร์ตกลังอันทันสมัย ของกัวลาลัมเปอร์ในปัจจุบัน)ถึงกับอับปางเลยทีเดียว แม้จะไม่ได้เป็นเรือพระที่นั่งแล้ว กัปตันบุชก็เหมือนกับตกที่นั่งพันท้ายนรสิงห์เหมือนกัน แต่เป็นภาคภาษาอังกฤษ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระราชนิพนธ์เหตุการณ์สำคัญนี้ไว้ในเรื่อง"ระยะทางเสด็จประพาสทางบก ทางเรือรอบแหลมมลายู ร.ศ.๑๐๙" เล่ม ๒ ดังนี้ "ออกเรือ (อุบลบุรทิศ-ผู้เขียน) จากเกาะดินดิง เวลาเช้า ๒ โมง กินข้าวเช้าแล้วนอน กลางวัน พอบ่ายตื่นขึ้นเขียนหนังสือตลอดทาง เวลาที่กะแต่เดิมว่าจะมาถึงแต่เย็น แต่เป็นการ ไปอย่างบาลูน เข้าช่องกังซาไปจนถึงข้างใน ทอดสมอระหว่างทางเวลายามเศษ . ..ในค่ำวันนี้ เรือเวสาตรีก็ตามมาถึงที่ไลต์เฮาส์ แล่นหนีไลต์เฮาส์ไปเกยหินที่ริมนั้น ทุ่นเขาก็มี เดินบุ่มบ่ามเอง แต่ซัดกันป่นไปว่านำร่องบอกให้ไปทางโน้น เห็นว่าอย่างไรก็เป็นความผิดของพระยาวิสูตรทั้งนั้น" รายงานของพระยาวิสูตรสาครดิฐ เกี่ยวกับการอับปาง ได้กล่าวโทษนำร่องชาวมาเลย์ชื่ออาห์เมด และสรุปว่า “ ถ้าจะว่ากันอย่างจริงจังแล้ว ข้าพระพุทธเจ้ารู้สึกว่าข้าพระพุทธเจ้ามิอาจจะผนวกข้อตำหนิต่อตนเองได้สำหรับการสูญเสียของเรือเวสาตรี ฯลฯ” หลังเหตุการณ์กัปตันบุชโดนลบหลู่มาก และบางทีอาจจะกลัวผลที่ติดตามมาด้วย ท่านผู้เฒ่าเลยหลบไปอยู่กับลูกสาวในสิงคโปรชั่วคราว ในที่สุดก็ยอมวางมือในทุกสิ่งทุกอย่างมอบกิจการทั้งหมดในกรุงเทพให้เธอไปเลย จากคุณ : Navarat.C เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 55 08:03:23

ความคิดเห็นที่ 7 ลูกสาวคนนี้แต่งงานไปกับจอห์น แอนเดอร์สัน อดีตนายเรือพาณิชย์นาวีและเป็นกงสุลใหญ่ของสยามประจำสิงคโปร มีบรรดาศักดิ์เป็นพระพิเทศพานิช คราวที่พระเจ้าอยู่หัวเสด็จที่นั่นอีกครั้งในปีพ.ศ.๒๔๓๙ คุณพระฝรั่งคนนี้ได้รับเสด็จคนเดียว เพราะภรรยาเสียชีวิตไปก่อนหน้านั้นแล้วตั้งแต่ปีพ.ศ.๒๔๓๗ แสดงว่า กัปตันบุชมาอยู่กับลูกสาวได้พักหนึ่ง แล้วก็มอบสมบัติในกรุงเทพให้เธอหมดหลังปลงตก จากนั้นอีกสองสามปี ชีวิตเป็นของไม่เที่ยง ลูกสาวเกิดตายไปก่อน ถ้าเรื่องดังกล่าวข้างต้นเป็นความจริง สมบัติที่ยกให้ลูกสาวคงตกเป็นของลูกเขยหมดตามกฏหมาย ไม่นานลูกเขยก็แต่งงานใหม่ กัปตันบุชจึงกลับมาเมืองไทย เรื่องของเรื่องคือ เขาก็ทราบมานานแล้วว่า พระเจ้าอยู่หัวไม่ได้ติดพระทัยจะเอาโทษทัณฑ์อะไรกับเขาเลย จากคุณ : Navarat.C เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 55 08:06:15

ความคิดเห็นที่ 8 เมื่อยังหนุ่มยังแน่นนั้น กัปตันบุชได้ทำธุรกิจควบคู่ไปด้วยกับงานราชการโดยอิสระ เช่นเดียวกับข้าราชการทั้งฝรั่งทั้งไทยที่ “มีหัว”ทั้งหลาย กิจการที่โด่งดังมีหน้ามีตาของเขานอกจากอู่บางกอกด๊อกซึ่งท่านเป็นทั้งผู้บริหารเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ ที่ตั้งของอู่อยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา อดีตเคยเป็นโบสถ์โปเตสแทนส์เก่าที่ขายให้บริษัทบอร์เนียวและท่านซื้อต่อมาอีกทีหนึ่ง แต่การลงทุนที่ทำให้ได้กำไรมากมหาศาลก็คือการซื้อที่ดิน เมื่อตัดถนนสาธรใหม่ใหม่ กัปตันบุชเป็นคนแรกๆที่เลือกซื้อที่แปลงงามๆไว้หลายแปลงอยู่ วันดีคืนดีก็ขายให้ฝรั่งด้วยกันรายใหม่ที่มาทำมาหากินในกรุงเทพ ฟันกำไรเป็นกอบเป็นกำ นอกจากนั้นก็มีบ้านที่ปากคลองโอ่งอ่าง ขายให้รัฐบาลอิตาลี่ไปทำสถานทูตแห่งแรกในสยาม บางกอกด๊อก ถูกขายเปลี่ยนมือแหลายครั้ง สุดท้ายรัฐบาลไทยซื้อไว้เป็นรัฐวิสาหกิจ เพื่อสนับสนุนการพาณิชย์นาวี ภายใต้การดูแลของกองทัพเรือ ปัจจุบันเปลี่ยนชื่อเป็นบริษัท อู่กรุงเทพ จำกัด ภาษาอังกฤษว่า Bangkok Dock company (1957) Limited กล่าวกันว่า สมบัติของกัปตันบุชประเมินค่าได้ ๑,๒๔๐,๐๐๐ บาท ค่าของเงินในขณะนั้น บ้านดีๆหลังหนึ่ง ค่าก่อสร้าง๑๐,๐๐๐บาท ถ้าสร้างโบสถ์ฝรั่ง มีงบ๕๐,๐๐๐ บาทก็เอาอยู่แล้ว จากคุณ : Navarat.C เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 55 08:07:52

ความคิดเห็นที่ 9 ลูกเขยคงไม่ได้ไปทั้งหมด กัปตันบุชมีบ้านดีๆอยู่ที่อ่างศิลาหลังหนึ่ง เขาชอบที่นี่ตั้งแต่เป็นกัปตันนำเรือพระที่นั่งมาประพาสตำบลนั้นบ่อยๆ สมัยนั้นเรียกว่าอ่างหิน วิวทะเลยามน้ำขึ้นสวยพอได้แต่จะสวยยิ่งขึ้นยามอาทิตย์อัศดง เขาใช้เป็นที่พำนักหลังปลดระวางตัวเองขึ้นคานโดยสิ้นเชิง บางครั้งแก้เหงาด้วยการเป็นเจ้าภาพต้อนรับเด็กอัสสัมชัญ(คงมาจากศรีราชามั้ง)ที่ครูพามาเที่ยวเป็นหมู่คณะ และเนื่องจากเป็นคนที่เคยป๊อบปูล่ามากในบรรดาฝรั่งทั้งหลาย เขาจึงชอบรับรองพวกนักเล่นเรือใบที่มาจากทางปากน้ำ ให้การเลี้ยงดูอย่างดีด้วยอาหารและเครื่องดื่ม  มีที่พักที่อาบน้ำ สร้างความประทับใจยากที่แขกผู้มาเยือนจะเลือนจากความทรงจำ ตัวเขาชอบจะวางท่าแบบกลาสีรุ่นเก๋า นั่งฟังแขกอ่านเรื่องที่น่าสนใจในหนังสือพิมพ์บางกอกไทม์ให้ฟัง ตัวเองอ่านไม่ออกแล้วเพราะตาเป็นต้อเกือบจะมองอะไรไม่เห็น นี่กระมังที่เป็นเหตุ เขาไม่น่าจะไปรับงานจ๊อบสุดท้าย ซึ่งเอาชื่อเสียงอันรุ่งโรจน์ของเขาไปฝังเสียในแม่น้ำกลังเลย นายพลเรือเอก พระยาวิสูตรสาครดิฐ หรือเซอร์ กัปตันจอห์น บุช ถึงแก่กรรมในปีพ.ศ.๒๔๔๘ อายุ๘๖ปี จากคุณ : Navarat.C เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 55 08:11:21

ความคิดเห็นที่ 10 กัปตันบุชมีลูกอย่างน้อยหกคนกับสองภรรยา คนแรกที่ชื่ออลิซาเบท(ลอร์สัน)ตายในกรุงเทพตั้งแต่ปีพ.ศ.๒๔๐๙ มีชีวิตชาวกรุงเทพได้ไม่ถึงสิบปี  ลูกชายคนหนึ่งชื่อ เจ.เอช.เอ็ม. บุช   ทำงานเป็นนายเรือสินค้าเหมือนบิดา ลูกสาวคนนึงอยู่สิงคโปรดังที่กล่าวไปแล้ว อีกคนนึงแต่งงานไปกับคนเยอรมันชื่อคูร์ตซาลส์ และที่น่าจะใช่ลูกชายด้วย ชื่อ นายจอร์จ บุช ไม่ใช่คนที่อยู่ในทำเนียบขาว เพราะศพฝังอยู่ในสุสานในเมืองไทย ที่หลุมมีจารึกว่าตายที่หลวงพระบาง กัปตันบุชแต่งงานใหม่กับแม่หญิงมอญบ้านทวาย ปากคลองโอ่งอ่าง ชื่อแม่เพียรมีลูกด้วยกันสองคน ชื่อวิกเตอร์และวิกตอเรีย ทั้งคู่เลือกที่จะอยู่เมืองฝรั่ง วิกเตอร์เป็นนายทหารอังกฤษแต่ไปตายเสียในสงครามโลกครั้งที่๑ น้องสาวแต่งงานและไปอยู่แคลิฟอเนีย ลูกชายคนหนึ่งชื่อวิลเลี่ยม บุช เคยมากรุงเทพในปีพ.ศ.๒๕๒๙เพื่อสืบหาญาติ ไม่ทราบเจอใครบ้าง และได้ไปด้อมๆมองๆเดินดูบ้านที่เคยเป็นที่อาศัยของครอบครัวในตรอกกัปตันบุช สมัยคุณตามาเมืองไทยครั้งแรกเมือร้อยห้าสิบปีที่แล้ว ภาพข้างล่าง(เขาว่า)เป็นบ้านหลังนี้ ผมค้นหาไม่เจอว่า เชื้อสายของกัปตันบุชที่สมัครใจเป็นคนไทยจะมีบ้างไหม ถ้ามี จะใช้นามสกุลอะไร ใครทราบช่วยบอกด้วยนะครับ จากคุณ : Navarat.C เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 55 08:12:49

ความคิดเห็นที่ 11 พลเรือเอก เซอร์ จอห์น บุช เป็นคนอังกฤษที่รับราชการสนองพระเดชพระคุณพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวของสยามสองพระองค์ อยู่กว่าสี่สิบปี เมื่อมาอยู่ในพระราชอาณาจักรของพระราชาผู้ทรงคุณธรรมอันประเสริฐแล้ว เขาก็ไปไหนไม่รอด ชีวิตที่โลดแล่นของเขาจบบริบูรณ์ลงที่นี่ เมื่อชีวิตหาไม่แล้วยังได้รับพระมหากรุณาธิคุณ อนุสรณ์สถานที่โดดเด่นเหนือร่างที่ถูกฝังไว้ของเขาในสุสานโปรเตสแทนต์กรุงเทพ เป็นแท่งหินสี่เหลี่ยมทรงสูงยอดแหลม พระราชทานให้พร้อมจารึกคำอาลัยจากองค์พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเอง แก้ไขเมื่อ 03 ต.ค. 55 08:18:00 จากคุณ : Navarat.C เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 55 08:14:55

ความคิดเห็นที่ 12 ท่านที่ยังสนใจเรื่องนี้และอยากตามอ่านต่อ ผมเขียนไว้ที่นี่ ขอเชิญครับ http://www.reurnthai.com/index.php?topic=5389.15 จากคุณ : Navarat.C เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 55 08:17:17

ความคิดเห็นที่ 13 ขอบคุณคุณเพ็ญชมพูครับ เข้ามาให้กิ๊ฟเป็นคนแรกเสมอเลย จากคุณ : Navarat.C เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 55 08:31:11

ความคิดเห็นที่ 14 ขอบคุณมากครับ เป็นเกร็ดความรู้ดีมากเลยครับ จากคุณ : angelababy เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 55 09:02:23

ความคิดเห็นที่ 15 เช่นเคย เช่นเคย อ่านข้อเขียนของท่านทีไรไม่ผิดหวัง เต็มอิ่มด้วยความรู้ความศรัทธา ขอบพระคุณครับ จากคุณ : แอ๊ด ปากเกร็ด เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 55 12:01:01

ความคิดเห็นที่ 16 ขอบพระคุณท่านแอ๊ดครับ ถือเป็นเกียรติ จากคุณ : Navarat.C เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 55 12:03:39

ความคิดเห็นที่ 17 ไม่เคยได้ยินชื่อซอยนี้เลยครับ แล้วเค้าอ่านออกเสียงว่าอะไรหรือครับ กัปตัน"บุด" หรือ กัปตัน "บุ๊ช" จากคุณ : แมลงภู่บนหูกระต่าย เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 55 14:18:16

ความคิดเห็นที่ 18 นี่แหละความสำคัญของการใส่วรรณยุกต์ จากคุณ : เพ็ญชมพู เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 55 15:29:36

ความคิดเห็นที่ 19 ขอบคุณครับเรื่องเก่านี่อ่านแล้วมัน"ขลัง"จริงๆครับ จากคุณ : นายธุรการ เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 55 15:36:19

ความคิดเห็นที่ 20 ไม่เคยได้ยินชื่อซอยนี้เลยครับ แล้วเค้าอ่านออกเสียงว่าอะไรหรือครับ กัปตัน"บุด" หรือ กัปตัน "บุ๊ช" . . เขียนอย่างนี้แหละครับ แต่คนสมัยก่อนอ่านกับตันบุด ใครจะทำไม จากคุณ : Navarat.C เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 55 15:55:58

ความคิดเห็นที่ 21 ขอบคุณมากครับ ผมไปทำธุระ ซอยนั้นบ่อยมาก แรกๆก็งง ซอยอะไรกัปตันบุช ไม่เคยได้ยิน หลังจากไล่ถามคนแถวนั้น และมองป้ายซอย เจริญกรุง 30 ผมก็อ๋อมาจนทุกวันนี้ จากคุณ : ผีแดงใส่แว่น เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 55 16:02:23

ความคิดเห็นที่ 22 จากเวปของราชบัณฑิตยสถาน   ตรอกกัปตันบุช  (๒๖ มีนาคม ๒๕๕๒) ตรอกกัปตันบุช (อ่านว่า กับ-ตัน-บุด) ตั้งอยู่ระหว่างตรอกฮ่องกง กับที่ทำการไปรษณีย์โทรเลขกลาง ถนนเจริญกรุง มีระยะทางจากถนนเจริญกรุงไปจดแม่น้ำเจ้าพระยา ชื่อตรอกกัปตันบุช มาจากชื่อพระยาวิสูตรสาครดิฐ (อ่านว่า วิ-สูด-สา-คอน-ดิด) หรือกัปตันจอห์น บุช (Captain John Bush) คำว่า บุช ภาษาอังกฤษเขียน Bush ภาษาไทยเขียน บุช. กัปตันจอห์น บุช เป็นชาวอังกฤษที่เข้ามารับราชการในตำแหน่งเจ้าท่า สังกัดกรมท่า และได้มีโอกาสปฏิบัติราชการใกล้ชิดพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวในการตามเสด็จประพาสต่างประเทศ กัปตันบุชและครอบครัวพำนักอยู่ที่บ้านในตรอกเล็ก ๆ ใกล้กับที่ทำการกรมเจ้าท่า ตรอกบ้านของกัปตันบุชจึงเรียกว่าตรอกกัปตันบุชจนถึงทุกวันนี้. ปัจจุบันตรอกกัปตันบุชมีชื่อเป็นทางการว่า ซอยเจริญกรุง ๓๐ ที่มา : บทวิทยุรายการ "รู้ รัก ภาษาไทย" ออกอากาศทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย เมื่อวันที่ ๒๖ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๕๒ เวลา ๗.๐๐-๗.๓๐ น. http://www.royin.go.th/th/knowledge/detail.php?ID=2889 จากคุณ : Navarat.C เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 55 16:11:12

ความคิดเห็นที่ 23 เห็นได้ว่า สมัยก่อน เขียนอย่างไรก็ออกเสียงอย่างนั้น ไม่ได้แคร์ว่าฝรั่งจะออกเสียงวรรณยุกต์ใด ผมว่าเป็นแนวทางที่ดีในกรณีที่กำลังเป็นประเด็นอยู่ในขณะนี้ จากคุณ : The Little Prince เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 55 17:19:29

ความคิดเห็นที่ 24 ตึกบริเวณตรอกกับตันบุชสวยนะครับ คลังเก็บของเก่าก็สวย ถ้าปรับปรุงดีๆจะเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์สวยๆเลยละ เสียดายแต่ถูกทิ้งให้โทรมไปเรื่อยๆ จากคุณ : kingofearth เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 55 17:30:45

ความคิดเห็นที่ 25 อ้าววว... อ่านว่าซอยกัปตันบุดเหรอ... เราหลงอ่านชื่อซอยกัปตันบุชตั้งนาน นั่งรถเมล์ไป-กลับ ตั้งแต่สมัยเรียนจนถึงทำงาน เว้นแต่วันลอยกระทง ที่ต้องเลี่ยงเส้นทางนี้ (สมัยก่อน ช่วงวันลอยกระทง ซอยนี้จะแออัดมาก รถเมล์ที่ต้องเลี้ยวเข้าซอยนี้ พอถึงวันลอยกระทง จะไม่เลี้ยว ปล่อยให้ผู้โดยสารเดินเข้าซอยไปท่าเรือข้ามฟากเอง และรถเมล์ก็จะไม่เลี้ยวเข้าอู่ ที่อยู่ในซอยนี้ด้วย) จำได้ว่า ในโถงของโรงแรมรอยัลออคิด เชอราตัน มีภาพเขียนสีของกัปตันบุชด้วย และนานมากแล้ว เคยอ่านนิตยสารฟ้าเมืองไทยของคุณอาจินต์ มีบทความที่เขียน ถึงกัปตันบุช มีพูดถึง(และมีรูป)ของเชื้อสายของกัปตันบุช มาเยี่ยมเมืองไทยเพื่อ ค้นหารากเหง้าของตัวเอง เนื่องจากมันนานมากแล้ว ก็ลืมรายละเอียดไปแล้ว และ ที่สำคัญ นิตรสารมันเก่ามากกกก.... ย้ายบ้านด้วย ก็เลยหายไปแล้ว T_T จากคุณ : Canossa เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 55 19:15:14

ความคิดเห็นที่ 26 ได้ความรู้ใหม่ขึ้นเยอะเลยครับ อยากทราบจังเลยครับว่าบ้านเก่าในซอยกัปตันบุช แถวๆ หน้าโรงแรมรอยัลออร์คิดเชอราตันเป็นของใครบ้าง รู้สึกว่าจะมีอยู่หลายหลังมากเลยครับ จากคุณ : Medhawint_CPSK เขียนเมื่อ : 4 ต.ค. 55 19:24:34

ความคิดเห็นที่ 27 ขอบคุณค่ะ  อ่านเพลินเลย จากคุณ : ป้าฟู เขียนเมื่อ : 5 ต.ค. 55 06:52:25

ความคิดเห็นที่ 28 ขอบคุณสำหรับความรู้ค่ะ ไม่เคยผิดหวังเลย ^^ จากคุณ : Marsys เขียนเมื่อ : 5 ต.ค. 55 13:11:07

ความคิดเห็นที่ 29 น่าสนใจมากค่ะ อ่านจบแล้ว จากคุณ : วันที่รักผ่านไป เขียนเมื่อ : 5 ต.ค. 55 19:20:26

ความคิดเห็นที่ 30 อ่านเพลินจริงๆ ด้วยแฮะ ไม่เคยรู้จักตรอก หรือซอยนี้เลยค่ะ ตอนแรกก็อ่านว่าแบบชื่อประธานาธิบดีเหมือนกัน ที่แท้อ่านว่า บุด สนุกมากเลย ได้ความรู้ ขอบคุณค่ะ จากคุณ : PaBo เขียนเมื่อ : 5 ต.ค. 55 20:45:00

ความคิดเห็นที่ 31 ขอบคุณมากเลยครับ ผมเกิดแถวนี้แหล่ะ เห็น ตรอกนี้แต่เด็ก วันนี้ถึงได้ทราบว่าอะไรเปนอะไร  ขอบคุณครับ จากคุณ : tinglee tingamee เขียนเมื่อ : 6 ต.ค. 55 00:50:24

ความคิดเห็นที่ 32 ลงชื่อเข้ามาอ่านอีกคนค่ะ จากคุณ : enduresexy เขียนเมื่อ : 6 ต.ค. 55 03:11:57

ความคิดเห็นที่ 33 ขอบคุณสำหรับข้อมูลค่ะ สงสัยมาตั้งแต่เด็ก ๆ แล้ว เวลาเดินเข้าตรอกกัปตันชื่อนี้ ว่าท่านเป็นใคร มีความสำคัญอย่างไร ยังนึกว่าเป้เนชาวโปรตุเกสเสียด้วยซ้ำ เพราะมีสถานทูตประเทศนี้อยู่ท้ายซอย จากคุณ : ดอกลินสีด (ดอกลินสีด) เขียนเมื่อ : วันเกิด PANTIP.COM 55 20:37:20