นับตั้งแต่เมื่อครั้งที่ผมเริ่มจำความได้...
คำว่า .. ใ น ห ล ว ง เป็นคำที่ใช้แทนชื่อบุคคล คนแรกๆในชีวิตของผมเลยก็ว่าได้ที่ผมเคยได้ยินมา นอกเหนือไปจากชื่อคุณพ่อคุณแม่หรือญาติพี่น้องของผมที่คุ้นเคยซึ่งผมพอจะจำได้ว่าได้ยินชื่อนี้มาตั้งแต่สมัยที่ผมยังเป็นเด็กตัวกระเปี๊ยก ก่อนที่ผมเข้าเรียนโรงเรียนชั้นอนุบาลเสียอีก
อันที่จริง.... ผมเองก็จำไม่ได้หรอก ว่าใครกันแน่ที่เป็นคนสอนให้ผมได้รู้จักกับชื่อ " ในหลวง "
แต่ผมเดาเอาว่า .. คงจะเป็นคุณพ่อคุณแม่ของผมหรือไม่ก็คนในบ้านของผมเองนั่นแหละ เพราะถ้าหากให้ย้อนนึกกลับไปถึงอดีตในวัยเยาว์
คำว่า "ในหลวง" น่าจะเป็นคำที่เด็กในวัยอย่างผมแอบได้ยินได้ฟังเวลาที่พวกผู้ใหญ่เค้าหยิบยกขึ้นมาพูดคุยในวงสนทนากันอยู่บ่อยๆ ..
ในตอนนั้น ... ผมก็เลยคิดเล่นๆเอาเองตามประสาเด็กว่า " ในหลวง " คงจะเป็นบุคคลที่ยิ่งใหญ่ มีอำนาจมาก และก็คงเป็นคนที่มีความสำคัญในสังคมของพวกผู้ใหญ่เค้า แต่ก็ไม่แน่บางทีก็อาจเป็นคนสำคัญกับพวกเด็กเล็กอย่างผมด้วยก็เป็นได้ เพราะผมเคยสังเกตเห็นว่าพ่อกับแม่ผมซึ่งเป็นบุคคลที่ผมรักมากที่สุดในโลก ท่านยังรัก " ในหลวง" ด้วยกันทั้งคู่เลย
ดังนั้น .. ผมก็เลยมั่นใจได้ว่า "ในหลวง" ก็คงต้องเป็นคนดี
อย่างแน่นอนเพราะไม่อย่างนั้น พ่อกับแม่ผมคงไม่รัก "ในหลวง" หรอก
ถึงกระนั้น.. ผมเองก็ยอมรับว่ายังไม่ค่อยรู้จัก "ในหลวง" ดีนักหรอกเพราะเคยได้ยินแต่พวกผู้ใหญ่เค้าคุยๆกัน ซึ่งผมก็ฟังไม่ค่อยเข้าใจนัก
แต่ที่พอจะรู้มาก็คือ "ในหลวง" ก็เป็นมนุษย์อย่างเรานี่ล่ะ
อ้อ !! แถมโตเป็นผู้ใหญ่แล้วด้วย ไม่ใด้ยังเป็นเด็กอย่างผม ว้า ....
อย่างไรก็ตาม ผมก็ยังคงสงสัยอยู่ดีว่า"ในหลวง" เป็นใครกันแน่ และมีความสำคัญเกี่ยวข้องกับเด็กอย่างผมอย่างไรบ้าง แต่จนแล้วจนรอด ผมก็ยังคงไม่ได้คำตอบอยู่ดี
กระทั่ง... ผมเริ่มเติบโตขึ้นเรื่อยๆจนวัยถึงเกณฑ์ที่ต้องไปโรงเรียนแล้ว วันแรกในห้องเรียน
ผมได้เจอกับเพื่อนใหม่ๆมากมาย อีกทั้งยังได้รู้จักกับบุคคลคนนึง คนที่ผมต้องเรียกเธอว่า "คุณครู"
เธอเป็นคุณครูประจำชั้นผม และมีหน้าที่สอนหนังสือให้พวกผมเรียนและคุณครูคนนี้แหละ ที่แนะนำให้ผมได้รู้จักกับ "ในหลวง" มากยิ่งขึ้น
วันนึงในห้องเรียนชั้นประถมศึกษา .. จู่ๆ คุณครูประจำชั้นก็ยกเอากรอบรูปขนาดใหญ่มาวางตั้งไว้หน้าชั้นเรียน
รูปที่ปรากฎในภาพเป็นสุภาพบุรุษ ถึงแม้ว่าอายุน่าจะใกล้เคียงกับพ่อผม แต่ยังแลดูมีสง่าราศี แต่งเครื่องแบบคล้ายทหารแต่สวยกว่ากันเยอะ
และใบหน้าชายในรูปแสดงออกถึงความเป็นคนที่มีเมตตาจนผมสามารถสัมผัสได้
ไหนลองบอกครูทีซิ มีใครรู้บ้างคะ ว่าบุคคลในรูปนี้คือใครเอ่ย ??
เสียงกังวาลใสของคุณครู ร้องถามนักเรียนทั้งห้องเพื่อเรียกความสนใจ
ผมละสายตาจากรูปนั้นชั่วคราวเพื่อหันไปดู ว่ามีใครตอบได้มั่งหรือเปล่า
ไม่มีเสียงขานรับใดๆจากเด็ก .. คุณครูของผมจึงอธิบายต่ออย่างรวดเร็ว
วันนี้ครูจะมาแนะนำให้นักเรียนทุกคนรู้จักคนๆนึงค่ะ ..
นี่คือพระเจ้าแผ่นดินของเราทุกคน หรือที่เราทุกคนเรียกท่านว่า "ในหลวง"
ท่านทรงเป็น "พระมหากษัตริย์" ของพวกเราอีกทั้งยังทรงดำรงตำแหน่ง" จอมทัพไทย " และเป็น "ประมุขของชาติ" อีกด้วยค่ะ
และแล้วคุณครูก็ให้นักเรียนทั้งห้องท่องพร้อมๆกันเพื่อให้จำขึ้นใจว่า
เราทุกคนต้องจงรักภักดีต่อพระมหากษัตริย์ของเรา
เราทุกคนต้องจงรักภักดีต่อพระมหากษัตริย์ของเรา
เราทุกคนต้องจงรักภักดีต่อพระมหากษัตริย์ของเรา
แปลกจังแฮะ .. ผมดูท่าทาง "คุณครู" ของผมก็รู้สึกจรัก "ในหลวง" อีกคนแล้วด้วย
ในที่สุด... ผมก็ทนเก็บความสงสัยไว้ไม่ไหว จึงยกมือถามคุณครูขึ้นว่า
ครูคับ .. ทำไมใครๆต่างก็รัก "ในหลวง" กันทุกคนเลยล่ะคับ ??
คุณครูประจำชั้นมองมาที่ผมพร้อมด้วยรอยยิ้ม พลางหยิบหนังสือเล่มนึงเดินตรงมายังที่โต๊ะผมนั่ง
แล้วคุณครูก็กางหนังสือเล่มหนานั่นออกบนโต๊ะตรงหน้าผม เผยให้เห็นว่าข้างในเป็นสมุดภาพสี่สี มีรูปคนเต็มเอี๊ยดไปหมด
คุณครูบอกให้ผมฟังว่า ที่เห็นในภาพคนแน่นขนัดไปหมดในรูปน่ะ เค้ามานั่งรอเจอ "ในหลวง" และที่เห็นคนมารอกันเยอะขนาดนี้น่ะ ก็เพราะทุกคนต่างก็รัก "ในหลวง" เหมือนกันทุกคน
โอ้โห !! ครูคับ.. ทำไม "ในหลวง" ถึงได้มีคนรักเยอะแยะขนาดนี้ล่ะคับ
ผมชักอยากเป็น "ในหลวง" มั่งแล้วสิคับ (ผมบอกครูด้วยน้ำเสียงกระตือรือร้น)
คุณครูประจำชั้นอมยิ้มพร้อมกับอธิบายให้ผมฟังว่า ที่ใครๆต่างก็รัก "ในหลวง" น่ะ
เพราะว่า "ในหลวง" ท่านจะคอยช่วยเหลือประชาชนผู้ที่มีความทุกข์ อย่างเช่น คนจนไม่มีกิน คนป่วยอนาถา หรือมีเรื่องเดือดร้อนไม่ว่าอะไรก็ตาม หากพระองค์ทรงช่วยได้ ท่านจะช่วยหาวิธีแก้ไขปัญหาให้ทันที
คุณครูยังบอกผมอีกว่า.. ถ้าหากผมอยากให้มีคนมารักผมมากๆเหมือนอย่าง "ในหลวง" แล้วล่ะก็
ผมต้องเชื่อฟังพ่อแม่และคุณครู รวมทั้งต้องตั้งใจเรียนแล้วนำความรู้ที่มี ไปช่วยเหลือผู้อื่นที่เดือดร้อน อย่างเช่นที่ "ในหลวง" ท่านทรงกระทำอยู่ แล้วต่อไป ผมก็จะมีคนมารักมากๆเหมือนท่านเอง
ผมรับปากครูอย่างรวดเร็ว พร้อมกับขออนุญาตดูสมุดภาพเล่มนั้นอย่างชัดๆ ในใจเริ่มรู้สึกเกิดความสนใจใคร่อยากรู้จัก "ในหลวง" เพิ่มมากขึ้นกว่าเดิมแล้ว
ในที่สุด ... เมื่อคุณครูส่งสมุดรูปที่เต็มไปด้วยภาพถ่าย "ในหลวง" มาให้ดูอย่างใกล้ชิด
ผมจึงได้เห็นซะทีว่า "ในหลวง"ของผม ท่านมีใบหน้าเป็นอย่างไร
ผมยังจำได้ไม่ลืม ว่าครั้งแรกที่ผมได้เห็นรูปถ่าย "ในหลวง" นั้น ผมนั่งพินิจพิจารณาดูรูปของท่านอย่างตั้งอกตั้งใจตามประสาเด็กๆ แต่ความรู้สึกของผมที่มีต่อ "ในหลวง" แว่บแรกที่ผมได้เห็นรูปถ่ายของท่าน
... กล่าวคือ ....
ผมรู้สึกชื่นชมบุคลิกลักษณะอันงามสง่าของพระองค์อันสมกับที่ท่าน ทรงดำรงตำแหน่งเป็นจอมทัพไทย อีกทั้งยังรู้สึกปลื้มใจยิ่งนัก ที่ชาวไทยรวมทั้งตัวผมด้วยได้มีพระมหากษัตริย์ผู้ทรงมีรูปพระสิริโฉมที่งดงามยิ่งเลยพลอยทำให้ผมเกิดความรู้สึกเคารพรักท่านไปเองทั้งที่ตัวผมก็ไม่เข้าใจนักเหมือนกัน ว่าทำไม ?
และตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา ผมจึงได้รู้จักกับคำศัพท์ใหม่ นั่นคือคำว่า " พระมหากษัตริย์ "
ซึ่งในความรู้สึกของเด็กๆอย่างผมนั้นน่ะ คำๆนี้.. ช่างเป็นคำที่ฟังดูช่างยิ่งใหญ่ น่ายกย่อง แลดูมีเกียรติ น่าชื่นชมและน่าเคารพบูชาเป็นอย่างยิ่ง
ครั้นพอถึงเวลาเข้าแถวเคารพธงชาติ ผมจะถูกฝึกให้ต้องยืนตรงทำความเคารพธงชาติ เมื่อเพลงชาติขึ้นบรรเลงตอนเวลา 8 โมงเช้า
นอกจากนั้น .. คุณครูยังสอนอีกด้วยว่า ธงชาติไทยที่พวกผมยืนทำความเคารพอยู่ทุกเช้านั้น เค้าเรียกว่า "ธงไตรรงค์" ซึ่งประกอบไปด้วยสามสี สีแดงคือชาติ / สีขาวศาสนา / สีน้ำเงินคือสีของพระมหากษัตริย์
นอกจากนั้น.. หลังสวดมนต์ตอนเช้าเสร็จ พวกผมยังต้องเปล่งเสียงร้องเพลงสดุดีมหาราชากับเพลงสรรเสริญพระบารมีแทบจะทุกวัน ..
เมื่อเรียนไปได้สักระยะนึง ผมจึงสังเกตเห็นว่า "ในหลวง"ท่านทรงมีบทบาทอยู่กับสิ่งรอบตัวผมไปหมด
ไม่ว่าจะเป็นแบบเรียนที่ผมต้องท่องอ่านเขียน ก็ล้วนแล้วแต่เต็มไปด้วยเรื่องราวพระจริยาวัตรอันดีงามของพระองค์และสมเด็จพระราชินีอยู่ในแทบทุกตอน แม้กระทั่งสมุดการบ้านรวมทั้งไม้บรรทัดของผม ก็ยังมีพระบรมฉายาลักษณ์ของพระองค์ท่านประทับไว้อยู่
หรือตามบอร์ดกระดานดำต่างๆในแต่ละห้องเรียน ก็จะถูกประดับไปด้วยภาพข่าวที่เกี่ยวกับพระราชกรณียกิจของพระองค์ซึ่งทรงช่วยเหลือเหล่าบรรดาพสกนิกรผู้ยากไรและได้รับความเดือดร้อนตามท้องถิ่นต่างๆทั่วประเทศ ..
แก้ไขเมื่อ 26 ส.ค. 48 09:11:38
แก้ไขเมื่อ 26 ส.ค. 48 09:08:33