เรื่องมีอยู่ว่า เมื่อก่อนเมษายน 2548 ไปตรวจคลื่นหัวใจ และ echo ที่ รพ. แห่งหนึ่งขึ้นชื่อด้านศัลยกรรมย่านพระราม 2 คุณหมอใช้เวลาตรวจ echo ประมาณ 10 นาที ได้แต่ราคาไม่เบาเลย 3300 บาทค่ะ สรุป ว่าเราเป็นโรคลิ้นหัวใจรั่ว และลิ้นหัวใจหย่อน...โห..ตกใจมาก เพราะว่ามันเป็นโรคที่น่ากลัวมากสำหรับคนที่ไม่เคยเป็นโรคอะไรเลยอย่างเรา....ร้องไห้ไปเป็นอาทิตย์เพราะกลัวไปสารพัดเลย กลัวโดนผ่าตัด กลัวผ่าแล้วมีแผลเป็นยาน่ากลัว กลัว มีลูกไม่ได้ ที่สำคัญกลัวตาย ลืมบอกไปว่าอาการก่อนที่จะไปตรวจ มีอาการหายใจไม่ค่อย เต็มปอด หายใจไม่ชื่นใจเลย มันอึดอัดมาก ต้องหาว เพื่อทำให้หายใจได้เต็มปอด....และก็หัวใจเต้นค่อนข้างแรงเวลาเช้า ๆ ก็เลยกลัว ไม่สบายใจ ตอนแรกหมอตรวจ คลื่นหัวใจ เอ็กซเรย์ปอด ก็ปกติไม่มีอะไรนอกจากหัวใจเต้นเร็ว ไปหน่อย 90 ครั้ง ต่อ นาที เราจึงตัดสินมใจทำ echo วันรุ่งขี้น หลังจากทราบผลก็อย่างที่บอกเหมือนคนหมดหวังไปเลยเพราะผล echo เป็นอะไรที่แม่นยำมาก(แต่)ต้องหมอเก่งจริง ๆ จึงจะสามารถอ่านผลนั้นได้แม่นยำและถูกต้อง...เรารู้ว่าโรคหัวใจมันอันตราย และที่สำคัญมันมีแค่ ดวงเดียวเท่านั้น เล่นเอาน้ำหนักเราลดไป 3 กิโลภายใน 1 อาทิตย์เลย...หลังจากนั้นเราก็ต้องไปหาหมอตามนัดทุกเดือนเพื่อเอายามากินรักษาอาการใจสั่น ยาที่กิน คือ propanolol พอพฤษภาคม รู้สึกว่าอาการมันเป็นมากขี้นเพราะมีอาการนอนไม่ได้เนื่องจากใจสั่นมาก ต้องนั่งหลับบ่อย ๆหมอจึงเปลี่ยนมาให้เรากิน metropolol เรากินยามาได้ 1 ปี 3 เดือน ในระหว่างเดือนที่ 3 คือกรกฏาคม เราไปหาหมอเพราะมีอการปวดท้องด้วนซ้ายที่เคยมาโพสในนี้ คุณหมอ สถิต และเพื่อน ในนี้บอกว่ารอสัก2-3 วันถ้าไม่หายให้รับไปหาหมอ เราก็ไป สรุป ตรวจเบื้องต้นหมอบอกว่าเป็นโรคกระเพาะ แต่หมอบอกว่าถ้าอยากรู้ให้ละเอียดต้องทำอัลตร้าซาวว์ ซึ่งราคา 2500 ผลการอุลตร้าซาวว์ ก็บอกว่าปกติแล้วยก็เข้ามากดตรงที่เจ็บคือบริเวณซี่โครงซี่สุดท้ายค่อนไปทางซ้ายสรุปว่าเป็นข้อต่อซี่โครงอักเสบ เนื่องจากออกกำลังกาย(กระโดดเชือก)เราก็โล่งใจเพราะเราคิดไปถึงโรคมะเร็งโน่นแน่ะ...ก็แอบดีใจว่าเป็นแค่นี้กินยาก็คงหายเมื่อไปรับยา งง..มาก!!! ได้ losec (ยาลดกรด) ทำไมเป็นอย่างนี้ล่ะ...เราเป็นอย่างนึงแต่ทำไมให้ยาอีกอย่างนึง แล้วเงินที่จ่ายวันนั้น 2 พันกว่า เยอะมากสำหรับมนุษย์เงินเดือนอย่างเรา...ตั้งแต่วันนั้นเราก็ไม่อยากจะไปรักษาที่นี่อีกอ้อ.และอีกอย่างนึงคือไม่ค่อยพูดอะไรเลยไม่ค่อยบอก ตรวจแล้วก็ไม่บอกต้องถามทุกครั้งว่าเป็นไงบ้างดีขึ้นหรือเปล่า ต้องถามตั้งแต่แรกแล้วว่าเป็นโรคนี้ต้องห้ามอะไรบ้างเค้าก็บอกแค่ว่า ชา กาแฟ ชาเขียว..ส่วนเรื่องที่เรามารู้เองจากการหาข้อมูลในเน็ต.ก็คือการต้องกินยา Amoxy 6 เม็ด ก่อนและหลังทำฟันเพื่อป้องกันการติดเชื้อในกระแสเลือดเข้าสู่หัวใจพอเอามาถามเค้าก็ยิ้มๆ และบอกว่า ครับ..(.แค่เนี้ย เหรอ???).จากนั้นก็เลยตัดสินใจไปหาหมอที่ คุณหมอสถิตแนะนำกับเราในpantip ก็ปรากฏว่าคุณหมอคิวยาววววววววววววววมากกกกก...(ยาวมากจริงๆ )ก็เลยไปโรงพยาบาลเอกชนที่อยู่ใกล้ ๆ กัน คือ แถว ๆ พรานนก เป็นอาจารย์จากศิริราชเหมือนกันก็เลยตัดสินใจไปหา....คุณหมอบอกว่าให้เอาผลจากที่เก่ามาด้วยก็ดีเพื่อจะเปรียบเทียบกันเราก็โทรไปขอประวัติเมื่อวันที่ 9 สิงหาเค้าบอกว่าได้วันที่ 21 สิงหาคม ที่จะถึงเนี่ย..โอ้ว...เป็น 10 วันเลยเหรอเนี่ย โอ้วแม่เจ้า...นานมาก ส่วนมากเอกชนขอแล้วได้เลยไม่ใช่เหรอใน 1 วัน แต่ชองเรา โค ตะ ระ นาน เลย อาจารย์หมอบอกว่าไม่เป็นไรหรอกก็ตรวจไป(อย่างละเอียดมาก) อาจารย์ใช้เวลา echo ประมาณ เกือบ 1 ชม. โห..นานและละเอียดยิบเลย...จนผลที่ได้ทำเอาเราสับสนไม่น้อยว่าจะดีใจ..โมโห หริอว่า อะไรดี เพราะคุณหมอบอกด้วยความมั่นใจว่าหัวใจเราปกติดีทุกอย่างไม่ได้เป็นอะไรทั้งนั้นไม่กระโดด ไม่กระตุก เต้นดี สูบฉีดเลือดดี ไหลเวียนเลือดดีลิ้นก็ปกติดีทุกอย่างไม่มีไรบ่งบอกเลยว่าเป็นหรือเคยเป็นโรคนี้...เราถามหมอหลาบครั้งว่าจริงหรือเปล่าคะ จริงเหรอคะ...อยู่อย่างนี้...หมอบอกว่าหมอตรวจละเอียดมากเวลาที่ใช้ในการนั่งดูและฟังในการ echo เกือบ 1 ชม.ไม่มีอะไรผิดพลาดแน่นอนเราก็บอกว่าแล้วผลที่แล้วล่ะ คุณหมอบอกว่างงเหมือนกันว่าทำไมเค้าบอกว่ารั่วเราก็เลยบอกว่าหมอเค้าecho แค่ 10 นาที่เอง(ประมาณ ฟ้อง)อาจารย์หมอบอกว่า...เหรอ... ที่ผมทำคือมาตรฐาน....หมอบอกว่าสบายใจได้ส่วนอาการที่เคยเป็นคือใจสั่น หัวใจเต้นเร็ว มันเป็นกันได้หากว่าเครียด หรือวิตกกังวล หรือว่าร่างกายไม่แข็งแรงขึ้นอยู่กับความแข็งแรงของร่างกายของแต่ละคน หมอจะไม่ให้ยาใด ๆ ทั้งสิ้น และไม่มีการนัดครั้งต่อไปด้วยเพราะเราไม่ได้เป็นอะไร.....โห ดีใจมากไม่ต้องกินยาอีกแล้ววววดีใจซะจนลืมถามหมอว่า อ้าว..แล้วที่กินมา 1 ปี 3 เกือบ 4 เดือน มันจะเป็นอะไรหรือเปล่า เพราะเราเคยไปหาข้อมูลผลข้างเคียงของ metoprololเค้าบอกว่าจะทำให้หลอดลมตีบ..เราก็ไม่รู้เหมือนกันว่ามันตีบหรือยัง รู้แต่ว่าตอนกลางคืนหายใจลำบากนิดหน่อยต้องหายใจทางปากเวลานอน.....แต่ก็ไม่เป็นไร...เย้!!!!!!!!! อยากจะตะโกนให้ลั่นรพ. ดีใจมากกกกกกกกกกกกเลย....วันนั้นเสียเงินทั้งหมด 4300 บาท ค่าเอ็กซเรย์ปอด 400 คลื่นหัวใจ 400 echo 3500...ไม่มีค่าหมอด้วย...ส่วนที่เก่าเสียค่าเอ็กซเรย์ปอด 400 คลื่นหัวใจ 400 echo 3300 ค่าหมอ 200 = 4300 เท่ากันเลย...หลังจากที่ตรวจเสร็จ่ายเงินเรียบร้อยก็คิดว่าเอ๊ะ แล้วที่เรากินยามาตั้งนานเนี่ยล่ะและค่าหาหมอเพื่อเอายา เนี่ย ตลอดเวลา 1 ปี 3 เดือนมันเป็นเงินเท่าไหร่...และผลข้างเคียงของยา และความรู้สึกของเราล่ะ...ความเศร้าความวิตกกังวลความเสียใจของเรา และครอบครัวคนรอบข้างเราล่ะ.......ใครจะรับผิดชอบ..??
**ต้องขอขอบคุณ คุณหมอ สถิต ด้วยนะคะที่ให้คำแนะนำ**
แก้ไขเมื่อ 18 ส.ค. 49 20:50:11
แก้ไขเมื่อ 18 ส.ค. 49 20:38:33
หมอวินิจฉัยผิด...ใครรับผิดชอบ !!!
