ปัญหาใหญ่ของคนกินยายาก อย่างหนึ่งก็คือกลืนยาเม็ดแล้วติดคอ กลืนไม่ลง ขมในปาก ผะอืดผะอม
จากการวิจัยจากกลุ่มตัวอย่างขนาดใหญ่จำนวนไม่ต่ำกว่า เอ้อ... 3 คน (ใหญ่จริงๆ)
สำนักวิจัยอะธีลาสพบว่า สาเหตุที่ทำให้กลืนยายาก เกิดจากประสบการณ์ที่ไม่ดีในตอนเด็ก
ที่ถูกบังคับให้กินยาเม็ด ในขณะที่เด็กยังไม่พร้อมจะกินยาเม็ด
หรือเคยรับประทานยาน้ำขมๆ มาทำให้มีความหลังฝังใจไม่ชอบกินยา
บางคนจะแก้ปัญหาโดยการบดยาเม็ด (หรือแกะยาแค็ปซูล) แล้วผสมกับน้ำหวาน น้ำผลไม้ก่อนรับประทาน ซึ่งจะทำได้กับยาบางอย่าง
แต่ยาเม็ดหลายชนิด "ห้ามบด" "ห้ามแบ่ง" "ห้ามทำให้แตก" มิฉะนั้นจะทำให้การออกฤทธิ์ของยาผิดไปจากที่ออกแบบไว้
หรือยาถูกทำลายในกระเพาะ หรือยาจะกัดกระเพาะ หรืออาจจะทำให้ปวดมวนท้อง คลื่นไส้อาเจียนได้
และยาบางอย่าง บดแล้วรสชาติแย่ กินแล้วทรมานใจกว่ากินเป็นเม็ดซะอีก
แต่ในเมื่อเราหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องกินยา ทางออกที่เป็นไปได้ทางเดียว ก็คือเราต้องมาฝึกวิธีการกลืนยากันใหม่
และการกลืนยา ก็เป็นความรู้ที่ไม่ได้มีสอนกันทั่วไป จะเป็นการสอนกันในวงแคบๆ สำหรับเภสัชกรบางกลุ่ม บางสถาบันเท่านั้น
...ไม่รู้จะปิดเป็นความลับกันทำไมนักหนา
ดังนั้น เพื่อเป็นประโยชน์แก่สาธารณะชน อะธีลาสโปรดั๊กชั่น จึงภูมิใจเสนอ "คู่มือการกินยา ฉบับประชาชน"
(ส่วน "คู่มือการกินยา ฉบับนักการเมือง" ต้องรอให้อดีตรัฐมนตรีคนนั้นออกจากคุกมาเขียนก่อนนะ)
-----------------------------------------------
ความรู้เบื้องต้น
1. ขนาดหลอดอาหารจะมีเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 1 นิ้ว
2. ยาเม็ดทุกชนิด ทุกยี่ห้อ ออกแบบให้มีขนาดเล็กกว่าหลอดอาหารทั้งสิ้น
ดังนั้นไม่ต้องเป็นห่วงว่า กินยาเม็ดแล้วมันจะไปติดคอตาย
แต่ที่หลายๆ คนกลืนไม่ลง หรือกลืนแล้วติด ก็เนื่องจากกลไกของร่างกาย ได้รับผลกระทบจากจิตใจที่กลัวการกินยา
ทำให้ "คอปิด" กล้ามเนื้อรอบหลอดอาหารหดตัว ไม่ให้ยาผ่านเข้าไป
แต่เรื่องนี้มันฝึกกันได้ครับ
อันดับแรกต้องไปหายามาฝึกก่อน เลือกยาที่เม็ดไม่ใหญ่ รสชาติไม่แย่ กินเยอะๆ แล้วไม่อันตราย
ดูแล้วไม่มีอะไรลงตัวไปกว่า "วิตามินซี" เลือกวิตามินซีเม็ดเล็กๆ อร่อยๆ ราคาไม่แพง
ให้หลีกเลี่ยงวิตามินซีขององค์การเภสัชกรรม ไม่รู้ว่าตอนตั้งตำรับ คนตั้งเค้าได้ลองชิมหรือเปล่า หรือว่ากัดฟันตั้งตำรับ แก้แค้นเด็กข้างบ้าน รสชาติถึงได้ห่วยขนาดนั้น
เตรียมน้ำแก้วโต เอาไว้ เพราะเราจะต้องฝึกกันหลายครั้ง เอาน้ำเปล่า ไม่เย็นจัด ไม่ร้อนจัดนี่แหละดีที่สุด
ล้างมือให้สะอาดก่อนนะครับ ใช้มือสกปรกหยิบของเข้าปาก เดี๋ยวคุณครูตีมือเอา
----------------------------------------------------------------------------------------------------
เมื่อพร้อมแล้ว เริ่มกันเลย
ดื่มน้ำเข้าไปสักอึกสองอึกก่อนครับ จำความรู้สึกเอาไว้ ว่าปาก ลิ้น ลำคอเรารู้สึกอย่างไร
จากนั้นกลืนน้ำลาย และน้ำที่เหลือให้ปากแห้ง
วางเม็ดยาลงกลางลิ้น ขอเน้นตัวหนาๆ ว่า "กลางลิ้น" เพราะเป็นจุดที่เราจะรู้สึกถึงรสชาติได้น้อยที่สุด
และเป็นจุดที่แห้งที่สุด
ยาต้องใช้เวลาในการดูดซึมน้ำจำนวนมากพอ เข้าไปสักระยะหนึ่ง กว่าที่ตัวยาจะเริ่มละลายออกมาให้ได้รู้สึกถึงรสยา ซึ่งกินเวลา หลายสิบวินาที
แปลว่าถ้าวางไว้กลางลิ้น ต่อให้เป็นยาโคตรขม ก็จะไม่ละลาย และไม่รู้สึกถึงรสขม
ถ้าใครรู้สึกขม หรือได้รสยาขึ้นมาตอนนี้ แสดงว่า "จิตหลอน" ให้เอามือเขกหัวระงับอาการเอาไว้
เอ้อ... อย่าเพิ่งหุบปากครับ อ้าค้างไว้อย่างนั้นแหละ
เอามือหยิบแก้วน้ำขึ้นมา (จะบอกทำไม ก็ต้องใช้มือสิ) แล้วดื่มน้ำลงไป เหมือนที่เคยดื่มตามปกติ ไม่ต้องไปสนใจยาบนลิ้น
เพราะเวลาดื่มน้ำ ลิ้นจะดันยาเข้าไปเอง โดยไม่ต้องตั้งใจกลืน และไม่ติดคอ เพราะยาจะถูกห่อหุ้มด้วยน้ำ และลงไปพร้อมกับน้ำทั้งคำ
หลักการในการกลืนยา มีง่ายๆ ข้อเดียว คือ "อย่ากลืนยา"
อาจจะฟังดูลักลั่นย้อนแย้ง แต่ก็เป็นอย่างนั้นจริงๆ
ถ้าเราไม่พยายามกลืนยา แต่ใช้วิธีกลืนน้ำ โดยมีเม็ดยาอยู่บนลิ้น ยามันจะไหลลงคอไปเอง โดยไม่ติดคอ
ถ้าพยายามกลืน ในขณะที่คอปิด เม็ดยาจะไปติดอยู่ในคอ และโคนลิ้นที่ไวต่อรสขม
เข้าปรัชญาเซน และเต๋า ยิ่งพยายาม ยิ่งไม่สำเร็จ ต้องกระทำ โดยไร้การกระทำ ถึงจะสำเร็จ
ฝึกเข้าไปจนกว่าจะเลิกกลืนยาครับ ถ้าใช้วิธีดื่มเม็ดยาได้เมื่อไหร่ จะกินยาเม็ดใหญ่ๆ
หรือทีละหลายๆ เม็ดพร้อมกัน ก็ไม่เป็นปัญหา ไม่ติดคอ และไม่ขมด้วย
ขอบคุณที่อ่านจนจบ หวังว่าจะได้ความรู้นำไปปฏิบัติโดยทั่วกันไม่มากก็น้อย
(นั่นสิ ไม่มาก มันก็ต้องน้อยแหละ จะบอกทำไม)
แก้ไขเมื่อ 23 ก.ย. 49 13:33:19
จากคุณ :
อะธีลาส
- [
23 ก.ย. 49 13:28:32
]