ความคิดเห็นที่ 1 พูดได้ค่ะ ถ้าฝึกพูดมาเรื่อยๆนะ แต่เค้าก็จะไม่ได้ยินที่ตัวเองพูดน่ะค่ะ จากคุณ : quiestu - [ 22 พ.ย. 49 23:09:20 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ถ้าหนวกหลังจากหัดพูดไปแล้ว น่าจะพูดได้นะครับ จากคุณ : ชาเขียว - [ 23 พ.ย. 49 04:39:20 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ถ้าหนวกหูพูดได้ครับ เฮ้ย หนวกหูโว้ย เบาๆหน่อย จากคุณ : sarayutu - [ 23 พ.ย. 49 05:54:59 ]

ความคิดเห็นที่ 4 เออ สงสัยเราเขียนไม่เคลียร์เองหมายถึงหูพิการไม่ได้ยินตั้งแต่กำเนิดน่ะจ้ะ แหม มีมาแซวด้วยนะ เดี๋ยเหอะ จากคุณ : kanu_memphis - [ 23 พ.ย. 49 08:48:38 ]

ความคิดเห็นที่ 5 เคย เจอ แต่ หู หนวก และ ก็ เป็น ใบ้ ด้วย ค่ะ แบบ two in one จากคุณ : JJ - [ 23 พ.ย. 49 10:02:46 A:192.19.197.203 X: TicketID:132425 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ...คนหูหนวกเกือบทั้งหมด..จะเป็นใบ้ครับ...คือพูดไม่ได้...แต่หัดพูดได้ครับ...เคยได้ยินคนหูหนวกแต่กำเนิดพูดครับ...แต่พูดไม่ชัด...เพราะเขาไม่รู้วิธีการออกเสียง...เปล่งเสียงไม่ถูก...คือเลียนแบบเสียงไม่ได้...เพราะเขาไม่ได้ยินอะไรเลย... จากคุณ : หมี่สดล้วน - [ 23 พ.ย. 49 10:06:09 ]

ความคิดเห็นที่ 7 เฮ้ย แต่ที่เราเจอ คนนี้หูบอดสนิทแต่เกิดเลยนะ แต่พูดได้ค่อนข้างชัด เอางี้ฝรั่งฟังคนหูบอดสนิทคนนี้พูดยังฟังออก ไอ้เราต่างด้าวสำเนียงไทยๆ เค้าฟังไม่ออกอ่ะ แสดงว่าคนนี้เก่งหวะ จากคุณ : kanu_memphis - [ 23 พ.ย. 49 11:22:08 ]

ความคิดเห็นที่ 8 จะบอกให้ก็ได้ครับ ผมจะเปิดเผยตรงนี้แหละว่า ผมพิการทางหูตั้งแต่กำเนิดครับ ส่วน การบกพร่องทางได้ยินทางหูเนี้ย ผมจัดว่าอยู่ในหูตึงครับ แต่เวลาทุกคนมองผม มักจะคิดว่าหูหนวกเสมอ จริงๆมันไม่ใช่เลยครับ หูหนวก คือ หูไม่ได้ยิน เป็นใบ้ ใช้ภาษามือเป็นส่วนใหญ่ แต่พูดได้ไหม มันแล้วแต่ละคนมากกว่าครับว่า ฝึกพูดมากน้อยแค่ไหน ย้ำนะครับว่า ส่วนใหญ่พูดไม่ได้เลย ไม่ก็พูดแบบไม่เต็มเสียง ขนาดผมเคยคุยกับหูหนวก ยังไม่ค่อยเข้าใจเหมือนกันเลยครับ ส่วนหูตึง สำหรับผมคิดว่า หูตึงสูญเสียความได้ยินน้อยกว่า หูหนวก แต่พูดได้ครับ ส่วนชัดหรือไม่ชัด มันก็แล้วแต่ละคนนั่นแหละครับ เพื่อนเก่าผม บางคนพูดโครตชัดมากๆ บางคนก็เสียงเพี้ยนตามที่ คห.6 บอกแหละครับ บางคนสามารถคุยทางโทรศัพท์ได้ บางคนฟังออก แต่สำหรับผมฟังไม่ออกครับ ไม่รู้สิ อ่านปากเป็นสื่อสารแทน แต่ขอบอกไว้อย่างหนึ่งว่า ผมฟังเพลงได้ ร้องเพลงเป็นครับ สำหรับผมเนี้ย ถ้าฟังเพลง ต้องรู้เนื้อเพลง มาก่อนครับ แบบว่าฟังวิทยุ เนี้ย ฟังไม่ได้เลยครับ เพราะไม่คุ้น หากเพลงไหน รู้เนื้อเพลงแล้ว ร้องเพลงนี้เป็นแล้ว ก็สามารถฟัง+ร้อง พร้อมกัน โดยไม่ต้องอ่านเนื้อเพลง เพราะจำได้หมดแล้วครับ อย่างที่ว่าแหละครับ ส่วนใหญ่ผมมักซื้อคาราโกะเกะมากกว่าครับ หากร้องเพลงเป็นแล้ว ก็สามารถฟังได้เลยครับ บางคนเพื่อนผม ก็ฟังรู้เรื่องก็มี แต่ผมไม่สามารถจริงๆ เพราะความพิเศษของแต่ละคนแตกต่างกันไปบ้างครับ แต่รู้อะไรไหมครับว่า ม.ต้น ผมโดนเพื่อนในห้องเรียกผมว่า ไอ้ตึง คุณก็รู้ดีว่า ฟังแล้วรู้สึกยังไง แต่อย่างน้อยๆก็มีเพื่อนที่เข้าใจ ม. ต้น ได้เกรด 3.00 อัพตลอด เยอะกว่าบางคนเสียอีก ทำไมไม่ดูตัวเองบ้างก่อนที่จะมาด่าไอ้ตึง เฮ้ออออ สมัยนี้มันยังไงกันหนอ ม. ปลาย สายวิทย์คณิต ก็ 3.00 อัพตลอด แต่มีเพื่อนดีกว่า ม.ต้น ตั้งเยอะ ส่วนเพื่อนในกลุ่มเนี้ย ช่วงแรกๆเขาฟังไม่รู้เรื่อง รู้เรื่องบ้าง เป็นบางคำ มันต้องใช้เวลา กับ ความคุ้นเคย ความชิน ก็สามารถคุยกะผม รู้เรื่องทุกเรื่องอย่างแน่นอน แต่บางคนอดทนน้อย ก็เลยรำคาญผม โดยหาว่า ทำไมพูดมากจังเนี้ย เฮ้อออ ทำไมไม่ดูตัวเองบ้างว่าแกพูดเยอะกว่าผมตั้งหลายเท่า ผมเข้าใจตรงนี้ครับว่า พูดไม่ชัด พอพูดออกไป ฟังไม่รู้เรื่อง เลยรำคาญ ตัดบทเลยบอกว่า พูดมากจัง อืมๆๆๆ ให้มันได้ยังงี้สิ ม. ปลาย เพื่อนในห้อง ดีมากครับ ประทับใจกว่า ม. ต้นเสียอีก ตอนนี้ ผม อยู่ปี 1 คณะวิศวกรรมศาสตร์ มธ. ครับ แต่รู้ไหมว่า เวลาผมใส่เครื่องช่วยฟังเดินไปมาๆ ก็มีแต่คนมองผม ราวกับยังตัวประหลาด ไปข้างนอก บนรถไฟฟ้า ห้างสรรพสินค้า ก็ไม่แตกต่างกัน เฮ้อ ผมเข้าใจว่าทำได้เพียงว่า อย่าสนใจสายตาคนอื่นเลย ผมเคยพยายามแล้ว แต่มันฝังใจมากๆเลยรู้ไหม ตอนประถม ใส่เครื่องช่วยฟังตลอด ตอนนี้ใส่เฉพาะเรียนในห้องเท่านั้น คุณก็รู้ตัวดีกว่า ประถม เด็กๆมันไม่ค่อยสนใจเรื่องนี้เท่าไรนัก ส่วนเวลาผมไปซื้อของ แบบว่าของนี้มีไหม ทำนองเนี้ย บางคนฟังออก ก็โอเค ไอ้ส่วนที่ฟังไม่ออก มักจะหงุดหงิด ไม่ก็มาซุบซิบนินทาลับหลังว่า คนนี้หูหนวก ฟังไม่รู้เรื่องหว่ะ อย่าคิดว่าผมไม่รู้นะครับ คนอย่างผมมีความสามารถพิเศษในความรู้สึกกับการมองสายตา สายตา แสดงหน้า มันฟ้องได้ เดาง่ายมาก เหมือนคนตาบอดที่มีความสามารถพิเศษสัมผัสกับสิ่งของต่างๆ เดาได้ว่าเป็นของอะไรยังงั้นแหละครับผม ผมบอกได้เพียงเท่านี้ หวังว่าทุกคนจะเข้าใจตรงนี้ จากคุณ : เจ้าชายหิมะ (Oh_baby) - [ 23 พ.ย. 49 12:38:17 ]

ความคิดเห็นที่ 9 มาอ่านคุณเจ้าชายหิมะแล้วน่าเห็นใจค่ะ โดยเฉพาะสังคมคนบางกลุ่มในเมืองไทย ที่ชอบดูถูกคนพิการ เรามาอยู่เมกาแล้วรู้สึกเลยว่า สังคมที่นี่อำนวยคนที่อ่อนแอกว่า หรือด้อยโอกาสกว่าเสมอ อย่างเด็กนักเรียนของเราที่เราเล่าให้ฟังนี่ ล่ามเค้าบอกว่าคนนี้บอดสนิทแต่เกิดเลยค่ะ ถ้ามาอยู่เมืองไทยคงไม่ให้เข้ามหาลัย เพราะเค้าต้องมีล่ามแปลเป็นภาษามือติดตัวเค้าไปทุกวิชา ตอนที่เด็กคนนี้เข้ามาเรียนเราก็กลัวว่าจะมีปัญหาแน่ๆเพราะต้องมีงานจับคู่ กลัวคนไม่อยากจับคู่กับเค้า แต่ก็ไม่เป็นอย่างนั้น เค้าก็หาpartnerได้ เราแอบถามคู่รายงานเค้าว่ามีปัญหาอะไรมั๊ย เค้าก็บอกไม่มีเลย ใช้emailคุยกัน แล้วก็ไม่มีใครมอง ไม่มีใครทักท้วง หรือแหย่แซวที่เค้าต้องมีล่าม อ้อมีนักเรียนอยู่คนเดียวที่มาบ่น แต่เด็กคนนั้นดันเป็นโรคสมาธิสั้น เค้าบอกว่าเค้าเรียนไม่รู้เรื่องเลยมัวแต่มองล่าม เวนกรรมดันมาเรียนclassเดียวกัน เขียนมานี่อย่าหาว่าไม่รักชาตินะ แต่แอบน้อยใจบางครั้งที่ชาติไม่รักเรา ไม่ดูแลเราดีเท่าไหร่เลย จากคุณ : kanu_memphis - [ 23 พ.ย. 49 13:36:33 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ชื่นชมคห.8 นะคะ สงสัยเรียนในโรงเรียนเรียนร่วม เก่งจังค่ะ เท่าที่สัมผัสกับเด็กหูหนวกมา มักมีปัญหาเรื่องการเขียนและการอ่าน ภาษาเขียนจะกลับไปกลับมา อ่านแล้วต้องตีความหลายรอบ และทำให้เด็กเหล่านี้ ประสบความสำเร็จด้านการเรียนที่ไปในระดับสูงขึ้นยาก ปริญญาตรีก็ลำบากแล้วเพราะ พวกเขาอ่านหหนังสือแล้วไม่ค่อยเข้าใจ เนื่องจากไม่ได้ยิน การดูตัวหนังสือเหมือนการจำรูปภาพ แต่ถ้าหูตึงจะได้เปรียบเพราะยังมีทักษะทางโสตช่วยจำ ยิ่งถ้าเรียนในโรงเรียนเรียนร่วมยิ่งได้เปรียบ โดยส่วนตัว เห็นด้วยกับการเรียนร่วมเพราะเด็กพัฒนาได้ดีกว่า โรงเรียนเฉพาะความพิการ เด็กที่เรียนในโรงเรียนหูหนวกโดยเฉพาะ มักจะใช้แต่ภาษามือ ทำให้ไม่สนใจที่จะฝึกทักษะ การอ่านปาก ทักษะการออกเสียง แม้โรงเรียนจะมีการฝึกการออกเสียงให้ แต่สิ่งแวดล้อมใช้ภาษามือ เด็กจึงชอบที่จะใช้ภาษามือมากว่าเพราะสื่อสารได้เร็ว จากคุณ : กานดา - [ 26 พ.ย. 49 17:00:53 A:125.25.71.12 X: TicketID:122657 ]

ความคิดเห็นที่ 11 เมืองไทยมีคนหูหนวกที่พูดได้ค่ะ และไม่ต้องใช้ล่ามภาษามือ เพราะเธอใช้ภาษามือไม่เป็น แต่ใช้การอ่านริมฝีปากแทน ชื่อ ดร.ประกาย ค่ะ จำนามสกุลไม่ได้ เธอให้สัมภาษณ์ว่า คุณแม่ไม่ยอมให้ไปรร.สอนคนหูหนวก แล้วค่อยๆฝึกพูดให้เธอ อย่างอดทน ตอนนี้เป็นลูกสาวที่คอยบอกว่า คุณแม่พูดชัดหรือไม่ เธอพูดโต้ตอบได้เหมือนคนปกติ ชนิดที่เรียกว่า คู่สนทนาที่ไม่รู้จักกันมาก่อน จะไม่ทราบเลยว่า เธอเป็นคนหูหนวกค่ะ แต่รับโทรศัพท์ไม่ได้ หรือใครเรียกข้างหลังจะไม่ทราบค่ะ และเป็นเสียงโทนเดียวกันตลอด ไม่มีสูงไม่มีต่ำ ปัจจุบันสามารถพูดภาษาอังกฤษได้ด้วย หลังจากจบ ป.โทค่ะ ดร.ประกาย เป็นตัวอย่างว่า คนใกล้ชิดโดยเฉพาะครอบครัว มีส่วนสำคัญ ที่จะช่วยพัฒนาศักยภาพให้กับคนพิการได้เป็นอย่างดี โดยไม่ต้องพึ่งพารัฐ หรือ บุคคลอื่นๆให้มาช่วยสงเคราะห์ค่ะ สำหรับเมืองไทย ที่มีปัญหาการไม่เท่าเทียมกันระหว่างคนปกติ และคนพิการ ที่สังคมมีให้ เราไม่ควรเรียกร้องจากรัฐเพียงฝ่ายเดียว หมายถึงคนปกติ ที่มัวแต่คอยสงสาร คนพิการ แล้วได้แต่พูดว่า ทำไมรัฐไม่ทำอย่างนั้นอย่างนี้นะคะ เราควรจะอบรม สั่งสอน ลูกหลานของพวกเรา ให้เข้าใจ และเอาใจเขามาใส่ใจเรา ไม่ไปกลั่นแกล้ง ล้อเลียน และมองคนอื่นที่แปลกกว่าตัว ว่าเป็นบุคคลอีกพวกนึง แต่ต้องสอนให้รู้ว่า ถึงเขาจะแตกต่างกับเราในบางเรื่อง แต่ก็มี ศักดิ์ และ สิทธิ ในความเป็นมนุษย์ เท่ากันกับเรา ถ้าคนส่วนใหญ่สามารถเปลี่ยนความคิดตนเอง และ ถ่ายทอดให้กับลูกหลานได้ เมื่อนั้น สังคมไทย จะมีความเท่าเทียมกันระหว่างคนปกติ กับ คนพิการ เองค่ะ จากคุณ : คิด+ - [ วันสาธารณสุขแห่งชาติ 02:55:17 A:58.8.150.208 X: TicketID:002687 ]